ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดูการ์ตูนอย่างแมว ๆ

    ลำดับตอนที่ #66 : Tokyo Red Hood หนูน้อยหมวกแดงโหด นี้สิกุโระของจริง!!

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 32.59K
      9
      24 ก.พ. 54


     

    ตอนนี้ขอโหดอีกตอน ผมเขียนขึ้นเพื่อที่จะให้หลายคนเข้าใจคำว่า กุโระ(Guro) ให้มากขึ้นเพราะดูเหมือนคนส่วนใหญ่มักเข้าใจคำว่ากุโระ ผิดค่อนข้างมาก เวลาไปเว็บไหนเห็นใครใช้คำนี้ไม่ถูกต้องผิดจากความหมายที่ควรจะเอาลิงค์หรือลอกข้อความในบทความนี้ไปแปะให้คนอื่นรู้ให้ทั่วซะเลย

                    วันก่อนผมได้ไปอ่านการ์ตูนเรื่อง  Franken Fran ในเว็บ http://nekopost.net  อ่านเม้นข้างล่าง ผมคัดปากยิกๆ อยากจะเถียงว่าการ์ตูนหนูฟรานไม่ใช้แนวกุโระ จริงอยู่ภาพในการ์ตูนเรื่องนี้อาจมีโหดอยู่บ้าง เช่น เลือดสาด, ไส้ทะลึก ตาถลน แต่ส่วนมากเป็นการผ่าตัดไม่ใช้ฆ่าโหดแต่อย่างใด และบางตอนไม่มีความรุนแรงด้วยซ้ำ อีกทั้งยังขาดสิ่งหนึ่งที่เป็นปัจจัยของกูโรที่จำเป็นต้องมีอีก

                    แล้วสิ่งที่ว่าอะไรนะหรือ? เรามาทำความเข้าใจความหมายที่ครบถ้วนของมันดีกว่า ว่าการ์ตูนที่เป็นแนวกุโระจะต้องมีองค์ประกอบด้วยอะไรบ้าง ซึ่งตัวอย่างการ์ตูนที่ผมนำมาให้ดูตอนนี้ก็คือการ์ตูนกุโระที่แท้จริง........

     

     

    Tokyo Red Hood (manga) หรือ Tokyo Akazukin

    Ero guro, แอ็คชั่น, โลลิคอน, NC + 18

    4 เล่มจบ (ไม่มีทางเข้าไทยแน่นอน เอาหัวเป็นประกัน ถ้าเข้านี้แสดงว่าผมเป็นรัฐมนตรีวัฒนธรรมและสิ่งพิมพ์แหละเพราะผมสนับสนุน ฮ่าๆ )

    ดาว์นโหลดได้ที่ มีครบ 4 เล่ม http://www.mangashare.com/forums/showthread.php?p=19241

    (ปล. กว่าจะหาอ่านหายากมากๆ เนื่องจากเป็นแนวกุโระ การ์ตูนที่ไม่เหมาะสมกับเด็กและเยาวชน)
    http://www.youtube.com/watch?v=YBYIzVtfPyw&feature=related
    ตอนจบของหนูน้อยหมวกแดงครับ ประทับใจ ชวนคิดดีว่าสุดท้ายบทสรุปเป็นอย่างไร
    http://www.mediafire.com/?zjjeiynjzz3

     

    การ์ตูนเรื่องนี้เป็นการ์ตูนแนวกะโระชนิดเบาๆ สุดๆ แต่กระนั้นส่วนประกอบของกุโระยังคงครับถ้วนไม่ว่า โรคจิต เลือดสาดชนิดไม่เปลืองสีแดง เลือดเต็มจอ ไส้ทะลัก หัวกระจุย วิตถาร กินเนื้อคน เซ็กต์ ฯลฯ ที่คนอ่านจะต้องอายุ 18 ขึ้นไป

                    Tokyo Red Hood เป็นการ์ตูนญี่ปุ่นของ เบนเคียว แทมโอกิ (Benkyo Tamaoki) เขียนในปี 2003-2004 ออกมา 4 เล่มจบ ในนิตยสาร Comic Birz(นิตยสารนี้ส่วนใหญ่จะเป็นการ์ตูนแนวโหด) โดยบริษัท Gentosha Comics

    นักเขียนคนนี้ขึ้นชื่อในเรื่องการ์ตูนแนวคิดมุกประหลาดพิลึกไม่เหมือนใครที่นำมาใส่การ์ตูนธรรมดาให้กลายเป็นการ์ตูนไม่ธรรมดา งานของเขาจะเป็นการเล่าเรื่องที่ยอดเยี่ยมและบรรยากาศมืดๆ ที่น่ากลัวสมจริง ซึ่งงานของเขาแสดงให้เห็นถึงทักษะในการสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งผลงานของเขามีเยอะมาก(งานที่เป็นด้านมืดเพียบเลย)  แต่ที่ดังๆ มี The Sex Philes (Eros Comix การ์ตูนโป๊นะจ๊ะ), Blood the Last Vampire2000 (Kadokawa,Viz), Tokyo Akazukin (Gentosha), Necromanesque (Gentosha) โดยเฉพาะเรื่อง The Sex Philes (Eros Comix การ์ตูนโป๊นะจ๊ะ), Blood the Last Vampire2000 นั้นสร้างชื่อให้เขาอย่างมากจนได้ตีพิมพ์เป็นภาษาอังกฤษ

    ส่วนคนไทยตาดำๆ การ์ตูนที่เราพอรู้จักมี Blood: The Last Vampire, 2002 (manga) ที่เราพอหาซับได้ดูๆได้ฟังกัน กับมีการดัดแปลงเป็นภาพยนตร์(เกาหลีห่วยสนิท)ที่พอคุ้นหูอยู่บ้าง ส่วนการ์ตูนที่ได้รับแปลไทยก็ แก๊งสามป่วนก๊วนผิดมนุษย์(Necromanesque) ของสยามฯ ที่กล้าเหลือเชื่อว่าจะได้ลิขสิทธิ์ ที่เป็นเรื่องราวของหนุ่มหน้าเด็กแต่หื่นจัดที่เขาถูกฆ่าแต่แล้วเขากลับพบว่าไม่ตาย และกลายเป็นซอมบี้และเขาก็ได้พบสองสาวที่จิตไม่ปกติ ......


             และอีกหนึ่งที่ว่ากันว่าเป็นผลงานเรื่องเอกของเขาที่สร้างชื่อเสียงอย่างมากในประเทศญี่ปุ่นคือ
    Tokyo Red Hood (manga) หรือ Tokyo Akazukin การ์ตูนที่ผมหยิบมาเขียนในตอนนี้นั่นเอง

    Tokyo Red Hood (manga) หรือ Tokyo Akazukin เป็นเรื่องของเด็กหญิงอายุ 11 ปี คนหนึ่งที่ไม่รู้ว่าชื่อจริงชื่ออะไร เพราะเธอสูญเสียความทรงจำก่อนหน้านี้ทั้งหมด แต่หลายคนเรียกเธอว่า อาคาซึกิน(Akazukin ) หรือ ภาษาไทยแปลว่าหนูน้อยหมวกแดง  ที่เธอไม่รู้ว่าเธอเป็นตัวอะไรกันแน่ เพราะว่าเธอเป็นอมตะฆ่ายังไงก็ไม่ตาย แต่กระนั้นเธอก็โรคจิตมาโซอย่างรุนแรง เธอพยายามตามหาคนที่ชื่อ “หมาป่า” มากินเธอเพื่อจบชีวิตอมตะของเธอสักที ซึ่งเหตุผลนอกเหนือจากนั้นเธอก็ไม่รู้เหมือนกันเพราะมันถูกซ่อนอยู่ภายในจิตใจส่วนลึกของเธอ

    แต่การหาหมาป่ามันไม่ง่ายเลย ดังนั้นเธอก็ต้องหาที่อยู่ก่อน เธอเลยมารับจ๊อบ เป็นนักฆ่าให้กับมาสโค คนขายเนื้อโรคจิตไปพลางๆ ก่อน ทำให้ชีวิตของเธอต้องพบเจอคนหลากหลาย ตั้งแต่พวกหื่น คนขายอวัยวะ ตำรวจ กระทั่งปีศาจ ตอนแรกเธอก็คุยด้วยอย่างสนิทสนมดี... แต่ถ้าเธอรู้ว่าไม่ใช่คุณหมาป่าล่ะก็ เตรียมเป็นศพได้เลย!!

    ระหว่างที่เธอค้นหาหมาป่า ก็มีบุคคลหลายกลุ่มที่ไม่ต้องการให้เธอพบหมาป่า พยายามขัดขวาง ฆ่าหรือทำให้เธอห่างจากหมาป่ามากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นคนของคริสตจักรและสาวกของพระเจ้า โดยเหตุผลคือหากหนูน้อยหมวกแดงถูกหมาป่ากินจะส่งผลกระทบต่อโลกมนุษย์ และเมื่อใครมาขวางเธอเพื่อบรรลุจุดประสงค์ละก็เธอฆ่าเรียบไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม สุดท้ายเธอจะได้เจอหมาป่าหรือไม่ ก็ติดตามหาอ่านเอาเอง(เถอะ)

    การ์ตูนเรื่องนี้ผมขอว่าสนุกมากๆ สำหรับคนที่ชื่นชอบการ์ตูนฆ่าเลือดสาดที่เนื้อหามันๆ ละก็แนะนำเลย เพราะว่ามันมืดมนสุดขีด เต็มไปด้วยกลุ่มคาวเลือดและตัณหา  ผมขอบอกว่าถ้ามันไม่ผิดกฎหมาย NC+18 ล่ะก็ผมจะแปลให้ทุกคนในเว็บ http://nekopost.net อ่านให้จะๆ ตาไปเลยว่าแนวกูโระมันเป็นอย่างไร

    หากจะเปรียบอารมณ์ก็เหมือนการ์ตูนเรื่อง (Hellsing) แหละครับ คือตัวเอกฆ่าไม่ตาย แถมมันยังขยายตัวกลายเป็นสัตว์ประหลาดสยดสยองอีก หากแต่การ์ตูน Tokyo Red Hood มีการเพิ่มเครื่องใน ไส้ และฉากเซ็กต์ลงไปด้วย ผลก็คือมันกลายเป็นกุโรที่มีองค์ประกอบที่ครบถ้วนในบัดดล

    นี้สิกุโระของจริง!!

     

                    อาคาซึกิน(Akazukin ) หรือ ภาษาไทยแปลว่าหนูน้อยหมวกแดง เด็กหญิงผู้ลึกลับผู้ชอบความเจ็บปวด(มาโซ) เธอต้องการถูกกินโดยสิ่งที่เรียกว่า “หมาป่า” แต่เธอไม่รู้ว่าสิ่งที่เรียกว่าหมาป่าคืออะไรกันแน่ อาจเป็นสิ่งของ คน หรือพระเจ้า(??) จนกว่าเธอจะบรรลุจุดประสงค์เธอเลยมาทำงานเป็นนักฆ่าแย่งชิงอวัยวะให้กับมาสโคคนขายเนื้อชาวอิตาลี และถูกตามล่าโดยตำรวจเพราะว่าเธอเป็นฆาตกรต่อเนื่องที่ฆ่าคนหลายศพ(เธอฆ่าเพียงเพื่อแย่งชิงอวัยวะศพ) เธอทำหน้าที่เหล่านี้เพียงต้องการแลกเปลี่ยนสำหรับที่อยู่อาศัยเท่านั้น ส่วนมากเธอมักใช้ปืนพกขนาดใหญ่เป็นอาวุธต่อสู้ ซึ่งพอมีฝีมืออยู่บ้าง แต่เธอมักพลาดท่าบ่อยๆ แต่ว่าสิ่งที่เธอเก่งกลับกลายเป็นความเป็นอมตะชนิดเรียกว่าต่อให้ตัวขาด ไส้ทะลักอย่างไรเธอก็ไม่ตาย นอกจากนี้เธอยังมีพลังอำนาจลึกลับอีกมากที่เธอไม่รู้(เพราะสูญเสียความทรงจำ) เช่นสามารถครอบงำจิตใจมนุษย์ กินมนุษย์ ฯลฯ (หากให้เปรียบเทียบเธอก็เหมือนกับอัลคาร์ดจากเรื่อง Hellsing นั้นแหละ)

                   

    รันก้า(Ruka) แต่เดิมเป็นอินคูบัส(Incubus) ปีศาจหื่นแห่งความฝัน ที่โบยบินท้องฟ้ายามราตรีเพื่อมองหาหญิงสาวพรหมจารีที่เขาอยากมีเพศสัมพันธ์ด้วย แต่โชคไม่ค่อยดีนักเพราะว่าที่ๆ เขาผ่านไปมีแต่เซ็กต์วิปริต วิตถารจนเขาแทบรับไม่ได้(เลสเบี้ยน, ซาดิสต์, เซ็กต์หมู) จนกระทั้งมาพบหนูน้อยหมวกแดงที่นอนอยู่บนเตียงและคิดว่าเป็นสาวพรหมจารีเขาจึงพยายามนอนกับเธอ และได้เข้าความฝันของเธอ แต่ปรากฏว่าฝันของเธอมีแต่ความดำมืดมิด อีกทั้งเธอยังมีพลังอำนาจมากกว่าเขามาก ทำให้เขาเปลี่ยนร่างเป็นแมและโดนบังคับให้เป็นคู่หูออกปฏิบัติงานร่วมกับเธอ(ปล. รันก้าไม่ใช้ชื่อจริง แต่เป็นชื่อที่หนูน้อยหมวกแดงตั้งให้และจนบัดนี้ก็ไม่รู้แน่ว่าชื่อแท้จริงของปีศาจนี้ชื่ออะไร)

    อินคิวบัส เป็นปีศาจแห่งความฝัน ที่คู่กับซัคคิวบัส มีรูปร่างเป็นชายหนุ่มรูปงาม มีพลังในการสะกดจิต และสั่งหญิงสาวผู้โดนสะกดจิตให้มามีอะไรกับตนได้ นอกจากนั้น ยังมีความสามารถในการดูดพลังชีวิตของหญิงด้วยและส่วนใหญ่มันจะฆ่ามากกว่าจะปล่อยให้เหยื่อรอด มันชอบเข้าฝันของคนที่มันชอบ

     

    มาสโค(Marco) พ่อค้าขายเนื้อที่เป็นเจ้าของร้านอาหารที่ตนเองเรียกว่า Stomaco Di Ferro ที่ดูบรรยากาศร้านอย่างกับร้านซาดิสต์ที่รสนิยมแย่ๆ มากกว่า เขามักสั่งหนูน้อยหมวกแดงไปฆ่าคนเพื่อเอาร่างกายและอวัยวะมาให้ตน เพื่อเอาไปขายหรือเอาไปทำอาหารให้ลูกค้ากิน นอกจากนี้เขายังเอาส่วนต่างๆ ของศพตกแต่งร้านค้าเขาด้วย ส่วนนิสัยก็เถื่อนเหมาะกับรูปร่างหน้าตาของเขาอย่างไรอย่างงั้น แต่กระนั้นก็แอบน้อยใจเป็นเหมือนกัน

     

    วีเวียน(Vivian หรือวีวี) นักฆ่าสาวแว่นเป็นหนึ่งในสี่นักฆ่าที่สารวัตรจ้างมาเพื่อสังหารหนูน้อยหมวกแดง แต่ผลการต่อสู้เธอก็ไม่สามารถสังหารเธอได้ เธอเลยตัดสินใจเข้าร่วมเป็นคู่หูกับเธอแทน แล้วมาอาศัยอยู่ร้านขายเนื้อมาสโค  เธอเป็นนักฆ่าที่ดูเปิ่นๆ ซุ่มซ่าม แต่ก็ฝีมือร้ายกาจ เพราะว่าเธอมีสี่แขนสี่มือ แต่ดูเหมือนเธออ่อนประสบการณ์นิดๆ หน่อยๆ

     

    สารวัตร (Inspector Gentile) หรือคนตรวจสอบคนนอก เป็นคนที่ต้องการจับหนูน้อยหมวกแดง  เขาทำงานกับกรมตำรวจและถูกเบื้องบนกดดันเสมอให้จับเธอมาลงโทษให้ได้ เพราะว่าเธอก่อคดีสร้างความเดือดร้อนไปทั่วเมือง จนเขาเครียดผมร่วงและเป็นโรคหัวใจ เขาจึงพยายามทำทุกวิถีทางในการกำจัดเธอแต่สุดท้ายก็ทำไม่สำเร็จ

                   

    กุโระคำนี้หมายถึงอะไร โดยมากคำว่ากุโรเป็นคำอธิบายของศิลปะการเคลื่อนไหวในวรรณกรรมปี ค.ศ.1920 และ 30 ของญี่ปุ่น ที่มุ่งเน้นเรื่องเพศ, ความเสียหาย และเสื่อมโทรม ซึ่งส่วนประกอบของกุโรนั้นอยู่คู่กับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของญี่ปุ่นมาช้านาน ในวัฒนธรรมของชนชั้นกลางในยุค 1920 เพื่อนำเสนอเรื่องความโหดร้ายของสังคมญี่ปุ่นในลักษณะเบี่ยงเบนแปลกประหลาดและไร้สาระ โดยศิลปินญี่ปุ่นที่มีภาพแนวกุโระนั้นมีมากมายหลายคน ที่โด่งดังก็เช่น อุตะกะวะ คุนิโยะชิ(Utagawa Kuniyoshi) ที่บางภาพเขาวาดให้สื่อถึงทาส, กามและข่มขื่น หรือตรึงกับกางเขน ในสงครามโลกที่สองมีการปราบปรามสื่อนี้อย่างมาก แต่ก็โผล่มาอีกในหลังสงครามโลกในสื่อการ์ตูนและเพลง และในระยะต่อมากุโระก็มีอิทธิพลขยายไปยังสื่อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นละคร, ศิลปะ, การ์ตูน, ภาพยนตร์ และเพลง

    พูดง่ายๆ คุณหนีคำนี้ไม่พ้นหรอก......

                    แต่ปัจจุบันมีการใช้คำว่ากุโระไม่ถูกต้องอันเนื่องจากชาวตะวันตกเข้าใจความหมายของกุโระผิด  ซึ่งคิดไปเองว่ากุโระหมายถึง "วิตถาร(grotesque)" ที่มีส่วนประกอบของสยองขวัญ, เลือดสาด, ผิดธรรมชาติ, ผิดศีลธรรม และเซ็กต์ ความจริงแล้วกุโระไม่จำเป็นต้องมีอนาจารหรือเลือดสาดก็ได้ ขอให้ศิลปะนั้นผิดรูปแบบ ผิดรูปร่าง แปลกประหลาดหรือน่ากลัวก็สามารถเป็นกุโระได้แล้ว(งั้นก็รวมถึงสัตว์ประหลาดสิ)

                    ปัจจุบันกุโระกลายเป็นองค์ประกอบของหนังสยองขวัญญี่ปุ่นมากมาย โดยเฉพาะในช่วง 1960-1970 ยกตัวอย่างเช่น Shogun's Joys of Torture (1968) และ Horrors of Malformed Men (1969) และ Yasuzo Masumura's Blind Beast (1969) ตัวอย่างล่าสุดของภาพยนต์แนวกุโระ Strange Circus(2005)

    ส่วนกุโระในการ์ตูน ศิลปินเหล่านี้มักใช้กุโระให้สื่อถึงเรื่องเพศมากกว่าโดยผสานกับรูปแบบวิตถารแปลกประหลาด บางงานก็สวยงามพิศวงแต่เนื้อหาเข้าใจยากเหมือนผลงานของเอช อาร์ กีเกอร์ (HR Giger)ซึ่งเป็นศิลปินชาวสวิตผู้ออกแบบออกแบบสัตว์ประหลาดจากต่างดาว ในภาพยนตร์ไซไฟเรื่อง เอเลียน (1979) ที่ใช้เรื่องของเพศออกแบบเป็นสัตว์ประหลาด

    ต่อมากุโระกลายเป็นส่วนประกอบของการ์ตูนลามกเฮ็นไตหรือการ์ตูนที่มีความรุนแรงเต็มพิกัด ที่มีเนื้อหาเลือดสาด, การทำให้เสียโฉม, ความรุนแรง, ฉีดขาด, อวัยวะภายใน, ปัสสาวะ, สวมทวารหนัก, การร่วมเพศ, อุจจาระ ตัวอย่างของนักเขียนญี่ปุ่นที่เรารู้จักกันดีก็มี Suehiro Maruo, Shintaro Kago, Jun Hayami, Toshio Maeda, Henmaru Machino, Horihone Saizo, และ Waita Uziga. ล้วนแต่เป็นนักเขียนแนวกูโรทั้งสิ้น  (ปล. มันโหดมากๆ และนอกจากนี้มันก็เป็นการ์ตูนโป๊ส่วนมากด้วย คนเข้าต้อง + 18 ปีขึ้นไป และดูให้น้อยๆ นะครับอย่าไปดูอะไรมาก มันไม่น่าพิสมัยหรอก)

    การ์ตูนแนวนี้ช่างน่าขยะแขยงเหลือเกิน ผมไม่พิสมัยการ์ตูนพวกนี้หรอก(จำพวกไส้เครื่องในเลือดสาดพวกนี้) ทีนี้ลองเอาการ์ตูนพวกนี้ไปเปรียบเทียบกับ Franken Fran ดูนะครับ เห็นไหม การ์ตูนฟรานไม่โหดเลย ไม่มีฉากเซ็กต์อะไรด้วย การ์ตูน Franken Fran คือการ์ตูนแนวตลกสยองขวัญอย่างที่ผมให้คำนิยามมาก่อนหน้านี้แล้ว อีกทั้งเป็นการ์ตูนเนื้อหาดี สนุก ได้ข้อคิดด้วย

    ไม่รู้ญี่ปุ่นคิดอะไรถึงวาดการ์ตูนจำพวกนี้นะครับ ขนาดไทยยังไม่วาดเลย คงเป็นเพราะจิตใจส่วนลูกของญี่ปุ่นที่ต้องการระบายออกถึงสภาพสังคมที่กดดันกระมั้ง เอาเถอะเราคนไทยก็อย่าไปหมกมุ่นแบบพวกเขาละกัน เป็นเด็กเป็นเล่นดูการ์ตูนที่สร้างสวรรค์จะดีกว่า ยังมีการ์ตูนอีกมากที่น้ำดีและสนุกให้ได้สรรหากัน

    กลับมาที่การ์ตูน Tokyo Red Hood ต่อ การ์ตูนเรื่องนี้ดำเนินเรื่องได้มืดมนสุดๆ เต็มไปด้วยเลือดและกามตัณหาอย่างที่ผมบอกตอนต้นเรื่อง แต่กระนั้นการ์ตูนเรื่องนี้ก็สนุกมากๆ ในความรู้สึกของผม

     

    เปิดฉากเป็นภาพนิทานอมตะของโลกหนูน้อยหมวกแดงตอนพบหมาป่าที่ปลอมตัวเป็นคุณย่า “โอ้ คุณย่าทำไมหูของคุณย่าใหญ่จัง?” หนูน้อยหมวกแดงถามคุณย่า

    “โอ้ ก็เพื่อให้ย่าได้ยินเสียงไพเราะของหลานชัดแจ๋วไงจ๊ะ หลานรัก” หมาป่าที่ปลอมตัวเป็นคุณย่าตอบ

     

    “แล้วปากคุณย่าก็ดูใหญ่โตกว่าของหนูด้วย”หนูน้อยหมวกแดงสงสัยอีก

    “โอ้ นั้นก็เพราะ ฮ่าๆ ฮ่าๆ” หมาป่าที่ปลอมตัวเป็นคุณย่าหัวเราะ

     

    “เพื่อฉันจะได้กินแกนะสิ......หนูน้อยหมวกแดง” หมาป่าที่ปลอมตัวเป็นคุณย่าเผยตัว กลายเป็นหมาป่าขนาดใหญ่ที่อ้าปากพร้อมจะกินหนูน้อยหมวกแดง

     

    “ฉันรู้ตั้งแต่ต้นแล้ว...ว่านายต้องการกินฉัน” หนูน้อยหมวกแดงถอดเสื้อผ้า เปลือยตัวว่างเปล่าพร้อมที่จะให้หมาป่ากิน เธอทำสีหน้าที่ยิ้มแย้ม

     

    “ทำไมนายต้องกินฉันทางอ้อมด้วย”

     

    “มันเป็นสิ่งที่คุณต้องการมาตลอดไม่ใช้หรือ”

     

    “คุณหมาป่า....”

     

    “จบ”

    ทำไมหนูน้อยหมวกแดงถึงโหด หนูน้อยหมวกแดง เป็นนิทานพื้นบ้านสำหรับเด็ก ที่แพร่หลายไปหลายประเทศ เป็นเรื่องที่เล่าสืบต่อกันมาเป็นเวลานาน ซึ่งเนื้อเรื่องก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา และชื่อนิทานก็เปลี่ยนกันต่างออกไป แต่เวอร์ชั่นที่คนทั้งโลกรู้จักมาจากพี่น้องตระกูลกริมม์. โดยคนพี่ เจค็อบ กริมม์ ฟังมาจาก Jeanette Hassenpflug (ค.ศ. 1791-1860) , ส่วนคนน้อง วิลเฮล์ม กริมม์ ฟังมาจาก Marie Hassenpflug (ค.ศ. 1788-1856) พี่น้องทั้งสอง ได้รวมเนื้อเรื่องจากทั้งสองฉบับนั้น เป็นเรื่องเดียว จนเป็นฉบับปี ค.ศ. 1857 ที่เป็นเนื้อเรื่องที่แพร่หลายในปัจจุบันซึ่งเนื้อเรื่องค่อนข้างจะจินตนาการมากกว่าฉบับอื่น ๆ ที่ผ่านมา โดยหนูน้อยและคุณยายถูกหมาป่าจับกิน และในภายหลังคนตัดไม้ได้มาช่วย โดยการผ่าท้องหมาป่า ช่วยหนูน้อยและคุณยาย ออกมาได้โดยปลอดภัย

    แต่การ์ตูนต้นเรื่องของหนูน้อยหมวกแดงนั้นเป็นเนื้อหาเดิมของนิทานเรื่องนี้ เต็มไปด้วยความรุนแรงและเนื้อหาไม่เหมาะสำหรับเด็ก ซึ่งนิทานยุโรปส่วนมากเนื้อหาเดิมจะเป็นแบบนี้ สาเหตุเพื่อสอนเด็กด้วยตัวอย่างและผลลัพธ์ดูโหดร้ายเพื่อให้เด็กกลัว โดยต้องเน้นโหดๆ เข้าไว้

    เนื้อหาเดิมของนิทานหนูน้อยหมวกแดงมีหลายแบบ แตกต่างกันแล้วแต่ประเทศนั้นๆ แต่เด่นที่สุดคือของฝรั่งเศส ที่รวบรวมในหนังสือนิทานพื้นบ้านโดยชาร์ลส แปร์โรลต์(Charles Perrault) ที่เนื้อหาไม่มีนายพราน ไม่มีคุณย่า มีเพียงหนูน้อยหมวกแดงและหมาป่าเท่านั้น  เนื้อเรื่องของฉบับนี้จะค่อนข้างรุนแรง เพราะมีการร่วมเพศระหว่างคนกับสัตว์ โดยหนูน้อยหมวกแดงจะระบำเปลื้องผ้าให้หมาป่าดู.....ก่อนที่หนูน้อยหมวกแดงถูกหมาป่าจับกิน และตายไปเลย.........โดยคติสอนใจนิทานเรื่องนี้ ก็คืออย่าไว้ใจคนแปลกหน้า และสำหรับหมาป่านั้น ถึงเราจะเลี้ยงดูให้อาหารหมาป่าก็ยังคงเป็นหมาป่า เลี้ยงไม่เชื่อง โดยปกติแล้ว หมาป่าจะต้องเป็นสัตว์ที่มีนิสัยดุร้าย แต่หมาป่าประเภทที่ดูเชื่อง และใจดี นั้นกลับน่ากลัวยิ่งกว่า

      

    ตอนที่ 1 เปิดฉากออกมาเป็นภาพในโรงแรมม่านรูด ในประเทศญี่ปุ่นสไตล์ตะวันตก ฉากซูมหน้าโรงแรม จากนั้นก็ซูมไปห้องม่านรูด

     

    และซูมมายังตัว(นางเอก)หนูน้อยหมวกแดงของการ์ตูนเรื่องนี้เธออยู่บนเตียงนอนในโรงแรมร่างกายเปลือยเปล่า และเบื้องหน้ามีชายหื่นที่อายุห่างกว่าหนูน้อยหมวกแดงมาก เพราะหน้าพี่แกอย่างราวกับโจรติดยาที่มองเรืองร่างหนูน้อยหมวกแดงด้วยตาลุกวาว(โลลิคอนชัดๆ)

    “เธอ....ร่ายกายภายนอกช่างสวยเหลือเกิน ช่างถูกใจป๋ามากๆ”ชายหื่นน้ำลายไหล

     

    “ฮ่าๆ มันไม่มีประโยชน์หรอกหากนายไม่ชิมฉันน่ะ” หนูน้อยหมวกแดงพูดเชิญชวน

    ระหว่างที่ทั้งสองเล้าโลมอย่างเผ็ดร้อนอย่างผิดศีลธรรมกันอยู่หนูน้อยหมวกแดงก็เอ่ยประโยคซ้ำไปซ้ำมาว่า “นายชื่ออะไร?

    ตายชายหื่นนั้นไม่ตอบ แต่เขาก็บอกกลายๆ ว่าเขาฉายาหมาป่า จากนั้นเขาเล้าโลมหนูน้อยหมวกแดงไปเรื่อยๆ อย่างถึงพริกถึงขิง

     

    ฉากตัดไปที่คนกลุ่มหนึ่งที่แต่งกลายเหมือนหน่วยสวาทอาวุธครบมือเข้ามาในโรงแรมม่านรูด ทั้งหมดเตรียมพร้อมที่จับกุมอาชญากรระดับ A ที่ทางการต้องการมากที่สุด ทั้งหมดได้มุ่งตรงห้องที่หนูน้อยหมวกแดงอยู่

     

    ระหว่างที่หนูน้อยหมวกแดงกำลังอีโรติกกับชายหื่นเป็นฉากๆ ไม่ว่าจะเป็นการจูบอย่างดูดดื่ม การเลียตามตัว ดูดโน้นดูดนี้ ฯลฯ จู่ๆ หนูน้อยหมวกแดงก็หยุดลง แล้วพูดว่า

    “นายไม่ใช่หมาป่า” หนูน้อยหมวกแดงชักปืนพกที่ขนาดใหญ่กว่าตัวแทงจ่อที่หัวของชายหื่น “นายมันก็แค่หมูสกปรกใต้สะดือเท่านั้นเอง”

     

    ชายหน้าหื่นตกใจกับสถานการณ์ที่อยู่ตรงหน้า “เฮ้ยๆ นี้ทั้งหมดเป็นโจ๊กอำกันเล่นๆ ใช่เปล่า”.....”ฉัน”....”ฉันจะตายเพราะฉันรักเธอเนี้ยนะ”

     

    ไม่ทันจะพูดจบ จู่ๆ ชายหื่นโดนระเบิดหัวเละต่อหน้าหนูน้อยหมวกแดง

     

    หนูน้อยหมวกแดงตกใจกับภาพที่เห็นข้างหน้า เธอรู้ถึงอันตรายจากข้างนอก

     

    หนูน้อยหมวกแดงหลบศพ แล้วเธอหมอบใต้พื้น ระหว่างนั้นกระสุนปืนจำนวนมากก็ปลิวว่อนเสียงดั่งสนั่นห้อง  

     

    “เคลื่อนที่” หัวหน้าหน่วยสวาทออกคำสั่งกับลูกน้อง เพื่อบุกเข้าห้อง ปรากฏว่าอาชญากรระดับ A โดดหน้าต่างหนีไปแล้ว

     

    หนูน้อยหมวกแดงหนีหน่วยสวาทและตำรวจมาได้ แต่เธอก็โดนชายจรจัดหื่นสามคนกำลังรุมข่มขืนเธออยู่ แต่เธอก็ไม่ตกใจแม้แต่น้อยเมื่อเธอชักปืนและเตรียมฆ่าชายจรจัดหื่นสามคนนั้นโดยไม่กระพริบตา “พวกนายก็ไม่ใช่หมาป่า”

     

    ไม่กี่ชั่วโมง ข่าวลือเรื่องฆาตกรต่อเนื่องก็กระจายไปทั่วเมือง มีผู้สังเวยชีวิตกับฆาตกรรายนี้หลายราย และฆาตกรต่อเนื่องรายนี้ก็ไม่ใช้ใครที่ไหน หนูน้อยหมวกแดงนั้นเอง

     

    ตัดฉากไปที่หนูน้อยหมวกแดงกำลังยืนอยู่บนสะพานเดียวตาย พร้อมรำพึง “นายหมาป่า....”

     

    “นายหมาป่า นายอยู่ที่ไหนกันนะ”

     

    “ฉันอยากให้นายกินฉัน เอาเล็บของนายฉีดร่างของฉัน และเลือดของฉันจะสาดกระจาย พวกเราจะหายใจเข้าออกอย่างช้าๆ ฉันจะมองคุณและพูดว่า  โปรดกินฉัน”

     

    “และคุณก็กินเนื้อสดๆของฉัน จนร่างกายของฉันหมดไป คมเขี้ยวสัตว์ของคุณจะสร้างบาดแผลใหญ่แก่ร่างกายของฉันและขยี้กระดูกของฉัน”

     

    “นี้คือวิสัยทัศน์อันเล็กระจ้อยร่อยตามจินตนาการของฉัน”

     

    “นี้เป็นความรักที่ฉันไขว่คว้า นี้คือเรื่องราวของฉัน อา....ต้องการเหลือเกิน”

     

    “รีบๆ ปรากฏตัวต่อหน้าฉันสักทีสิ! รีบให้ฉันเห็นหน้านายเร็วๆ เข้า!!

     

    ไม่ทันที่หนูน้อยหมวกแดงจะปล่อยอารมณ์โศก(จิต)เสร็จ จู่ๆ ก็มีคนมาทักเธอ เป็นชายสามคนที่อยากจะแอ้มหนูน้อยหมวกแดง(คงเห็นเธอเป็นโสเภณีเด็กกระมั้ง)

     

    หนูน้อยหมวกแดงยิ้ม มันอาจไม่ถึงเวลาที่เธอพบหมาป่า แต่ระหว่างนั้นเธอจำเป็นต้องใช้ร่างกายของเธอเพื่อบรรลุจุดประสงค์ก่อน “เชิญค่ะ ยินดีต้อนรับ” คืนนี้จะมีคนตายสักกี่คนกันน้า........

    นี้แหละครับคือฉากเปิดเรื่อง ตอนที่ 1 ซึ่งให้ผู้อ่านรู้ว่าสภาพเมืองของหนูน้อยหมวกแดงที่จะเป็นเวทีในการตามหาตัวหมาป่านั้นเป็นอย่างไร มันเสื่อมโทรมเหมาะสมกับแนวกูโรแค่ไหน ซึ่งปรากฏอย่างที่เห็นแหละครับ แค่มันมืดมนสุดขีด เต็มไปด้วยแหล่งค้าประเวณี เหล่าขอทาน คนจรจัด ศีลธรรมถเสื่อมโทรมสุดขีด การฆาตกรรมเป็นเรื่องปกติ และการข่มขื่นเป็นของหวานสำหรับที่นี้

    แน่นอนครับการ์ตูนกุโระต้องมีเรื่องเพศและเซ็กต์ผสมอยู่ด้วย หากไม่มี มันก็เป็นเพียงการ์ตูนเลือดสาดธรรมดา หรือสยองขวัญเท่านั้น หากไม่เซ็กต์ก็เอาแต่ตัวเปลือยก็ได้ ไม่ว่ากัน.....

    มีข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับเซ็กต์ของคนญี่ปุ่น ที่ผมไปอ่านจากเน็ตมาไม่รู้ว่าจะเป็นจริงแท้แค่ไหน เขาบอกว่าคนญี่ปุ่นเห็นเซ็กต์เป็นเรื่องปกติ ภาพที่พ่อแม่ทำความสะอาดห้องลูกแล้วมีหนังสือโป๊อยู่ใต้เตียงนอนถือว่าเป็นปกติธรรมดาของวัยรุ่น

    สังเกตว่าการ์ตูนเรื่องนี้ไม่มีรูปหรือสัญลักษณ์ใดที่สื่อถึงอวัยวะเพศเลย อันเนื่องจากการ์ตูนนี้ถูกกฎหมายในประเทศญี่ปุ่น เพราะประมวลกฎหมายอาญาญี่ปุ่นมาตร 25 ระบุเพียงแค่ว่าห้ามพิมพ์ภาพเปลือยผู้ใหญ่ที่เห็นอวัยวะเพศ แต่สามารถทำเบลอที่โมเสค แสงศีลธรรมได้  นอกจากนี้ยังมีกฎหมายบอกว่า กฎหมายนี้ยังบอกด้วยว่าถ้าซ้อนภาพอวัยวะเพศของเด็กชายหรือเด็กหญิงอายุ12ปีลงไปก็พออนุโลมได้......ดังนั้นการ์ตูนพวกชินจังถือว่าไม่ผิดกฎหมายอย่างไร และไม่จำเป็นต้องเซ็นเซอร์ด้วย

               
              ตอนที่ 3 เปิดฉากในมุมมองของปีศาจอินคูบัสตนหนึ่งที่ขึ้นมาบนโลกมนุษย์เพื่อตามหาเหยื่อที่เป็นสาวพรหมจารีเพื่อสมสู่ แต่ดูเหมือนว่าโลกมนุษย์นั้นเปลี่ยนแปลงไปมาก เพราะสาวพรหมจารีที่มันต้องการนั้นแทบไม่มีอยู่เลย

    เริ่มแรกมันถูกเรียกว่าจากพิธีแซมบาธในที่แห่งหนึ่ง แต่มันไม่พอใจกับพิธีกรรมที่อยู่ตรงหน้านั้นก็คือเซ็กต์หมู่ สำหรับมันแล้วถือว่าเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจ

    “ถ้าฉันเอาวิญญาณมนุษย์พวกนี้ไป มันคงไม่ดีสำหรับฉันแน่เลย แหวะ....”

     

    ปีศาจอินคูบัสตัดสินใจออกไปข้างนอกยามราตรี เพื่อหาสาวบริสุทธิและจิตใจสะอาดเพื่อเป็นเครื่องสังเวยของมัน

     แต่ดูเหมือนปีศาจอินคูบัสจะคิดผิดเพราะข้างนอกหนักกว่าข้างในอีก มีทั้งโลลิคอน, ซาดิสต์, เจ้าแม่, เลสเบียน สำหรับมันแล้วถือว่าเป็นเซ็กต์วิปริตที่มันรับไม่ได้

     

    “โลกปัจจุบันนี้มันเป็นอะไรไปแล้วนี้ สาวบริสุทธิ์ไม่มีเลยเหรอว่ะ”ปีศาจอินคูบัสเริ่มหมดกำลังใจ มันบินเนื่อยๆ อย่างสิ้นหวัง และในขณะที่มันสิ้นหวังนั้นเองมันก็พบ....”หนูน้อยหมวกแดง

     

    หนูน้อยหมวกแดงนอนอยู่บนเตียงนอนด้วยท่าทางเหมือนเด็กน้อยไร้เดียงสา ปีศาจอินคูบัสนึกว่าหนูน้อยหมวกแดงเป็นสาวบริสุทธิ์(หารู้ไม่ว่าเธอผ่านมือชายร้อยพัน)มันมองหนูน้อยหมวกแดงอย่างพึ่งพอใจที่มันได้เจอเหยื่อที่ตรงกับสเป็กของมัน

     

    “เธอช่างไม่เหมือนใครจริงๆ  ว้าวววววหนึ่งเดียวเท่านั้นที่ฉันต้องการ”

     

    “ฮ่าๆ ฉันพบเธอออออออออแล้ว”ปีศาจอินคูบัสยิ้มไม่หุบ คืนนี้ไม่ใช้คืนที่มันกลับไปมือเปล่าแน่นอน

     “โห ดูเหมือนเธอฝันดีซะด้วย ดูสีหน้าสิดูสุขใจจัง” ปีศาจอินคูบัสสังเกตสีหน้าหนูน้อยหมวกแดง “อยากดูฝันเธอซะแล้วสิว่าเป็นยังไง

     

    “ฉันขอร่วมสนุกกับเธอหน่อยสิ” ปีศาจอินคูบัสใช้พลังอำนาจ เพื่อมันจะได้เข้าฝันหนูน้อยหมวกแดง

     

    วูบ.................

     

    โลกที่สวยงาม

     

    แสงสว่าง

     

    และหนูน้อยหมวกแดง

     

    “ว้าว ดอกไม้สีขาวจำนวนมาก. แสงแดดจัดจ้าง ช่างเป็นฝันงดงามเสียยิ่งกระไร”

     

    “เอาละพวกเราก็ได้เวลาเริ่มต้น ทำผ้าปูที่นอนเปรอะเปื้อนมลทินได้แล้ว” หนูน้อยหมวกแดงยังหลับโดยไม่รู้สึกตัวอยู่


              “ก่อนอื่นฉันต้องเอาหมวกครอบของเธอออกก่อนล่ะ ได้แล้วโชว์”

     

    “อีกไม่นานฉันจะได้เห็นใบหน้าที่น่ารักของเธอชัดแจ๋วแล้ว” ปีศาจอินคูบัสเริ่มเกาะหมวกครอบ

     

    ทันทีที่เกาะออก บรรยากาศโดยรอบก็เปลี่ยนแปลงโดยพลัน

     

    ความมืดเริ่มกัดกินบริเวณโดยรอบของหนูน้อยหมวกแดง

     

    ปีศาจอินคูบัสตกใจ เพราะมันไม่เคยเจอสถานการณ์แบบนี้มาก่อน

     

    บรรยากาศโดยรอบเปลี่ยนไป ดอกไม้สีขาวหายไปแต่มีฝูงค้างคาวมาแทนที่และต้นไม้ที่สวยงามกลายเป็นต้นไม้แห้งตาย และบรรยากาศมืดมนสุดๆ 

    นี้......นี้มันอะไรกันเนี้ย.......”ยังไม่ทันที่ปีศาจอินคูบัสจะพูดจบเขาก็โดนหนูน้อยหมวกแดงเอาขาเกี่ยว!!

     

    “ฮี่ๆ ฉันจับคุณได้แล้ว” หนูน้อยหมวกแดงลืมตาตื่น และยิ้มด้วยสีหน้าที่พอใจ ภาพเบื้องหน้าที่เห็นกับกลายเป็นสาวน้อยอำมหิตที่แตกต่างจากสาวน้อยที่พบในตอนแรกโดยสิ้นเชิง

     

    “อะไรกัน ที่นี้มันที่ไหนว่ะ”ปีศาจอินคูบัสถามหนูน้อยหมวกแดง

    “ที่นี้เป็น......ความว่างเปล่าในตัวฉันไงล่ะ”จากนั้นหนูน้อยหมวกแดงท้าปีศาจเพื่อสมสู่กับตน ใครกันแน่ที่มีพลังมากกว่ากัน ปีศาจอินคูบัสยอมรับคำท้าของหนูน้อยหมวกแดง และทันใดนั้นเอง

     

    ฝนก็ตกลงมา ความมืดเริ่มครอบคลุม บริเวณโดยรอบ

     

    “เฮ้ยๆ พวกเรากำลังไปไหนกันเนี้ย?

    “ภายในตัวฉันไงล่ะ” หนูน้อยหมวกแดงยิ้ม ร่างของหนูน้อยหมวกแดงเริ่มเละดำมืด และเห็นซีโครง

     

    “อ๊าคๆๆๆ” ความมืดปกคลุมโดยสมบูรณ์ ปีศาจอินคูบัสลอยค้างเหมือนกำลังตกลงไป

     

    มืดสนิท

     และจู่ๆ แสงไฟก็ถูกจุดให้สว่างขึ้น ปรากฏร่างหนูน้อยหมวกแดงเปลือย “ฮี่ๆ เอาล่ะ คราวนี้ไม่มีสิ่งใดมารบกวนเมื่อเราอยู่ที่นี่แล้วล่ะ”

     

    ปีศาจอินคูบัสโกรธจัดเมื่อมันพบว่าตนเองกลายเป็นของเล่นหนูน้อยหมวกแดง มันเริ่มท้าทายหนูน้อยหมวกแดงว่าเธอต้องพ่ายแพ้แก่เขาแน่

     

    “ในเตียงนอนนะไม่มีชัยชนะหรือความพ่ายแพ้หรอก เข้ามาสิ” หนูน้อยหมวกแดงพูดเชิญชวน

     

    จากนั้นเราก็เห็นฉากไม่ดีไม่งามทั้งหลายทั้งปวงระหว่างการสมสู่กับปีศาจ ที่ผมไม่สามารถเอารูปมาให้ดูได้ ผลออกมาคือปีศาจอินคูบัสก็พ่ายแพ้แก่หนูน้อยหมวกแดงที่มีพลังอำนาจมากกว่า

    “เธอเป็นตัวอะไรกันแน่เนี้ย......อ๊าค”

     

    และเมื่อเขาลืมตาตื่นขึ้นมาในโลกแห่งความจริง

     

    ปีศาจอินคูบัสก็พบว่าเขากลายเป็นแมวเสียแล้ว

     

    “นี้....นี้มันอะไรกันเนี้ย ร่างกายฉัน!?

     

    “แหมๆ ฉันน่ะอยู่ตามลำพังน่ะ เหงาจะตาย ฉันก็อยากจะได้เพื่อนตัวเล็กๆ น่ารัก บ้าง”

    “อะไรน่ะ?!!

     

    หนูน้อยกอดแมวอย่างแนบแน่น “น่ารักจังเลย........”

     

    “นายมีชื่อเปล่าล่ะ??”หนูน้อยหมวกแดงถาม “เออ....ปีศาจอย่างนายของไม่มีชื่อหรอกมั้ง.....งั้นฉันจะตั้งชื่อให้ละกัน เอาชื่อที่เท่ๆ...... “

    “เออ.......ฉันมีชื่อแล้ว ฉันชื่อ.........”

     

    “รู้แล้ว นายชื่อ รันก้า เป็นไง เท่เปล่า”

    “ยายบ้า ฟังฉันพูดบ้างเซ่”

     

    “รันก้าจังงงงงง รันก้าจ้างงงงงง”

    “ใครก็ได้ ช่วยฉันด้วยยยย!!

    (ปล. พระเอกทุกเรื่องของคนเขียนคนนี้ส่วนใหญ่เป็นลูกไล่ของนางเอกครับ)

    กุโระ ส่วนใหญ่มักสอดแทรกตลกร้าย(black humor) ซึ่งเป็นประเภทย่อยของตลกเสียดสีลงไปด้วย ซึ่งหัวข้อและการเล่นส่วนใหญ่มักนำสิ่งต้องห้ามของสังคมมาเล่นเพื่อให้เกิดการเสียดสีและเกิดอารมณ์เพื่อกระตุ้นความคิดของผู้ฟังผู้ดู  เช่นฉากข่มขื่นแบบวิปริต, ยาเสพย์ติด, ป่าเถื่อน, บ้า, ฆ่าตัวตาย, อาชญากรรม ฯลฯ

    ตลกร้ายมีหลายแบบ ชนิดตลกแผลงๆ ที่หากจะขำ กับตลกร้ายที่ร้ายสุดๆ จนขำไม่ออก เพราะบางทีเนื้อหาของเรื่องเป็นเรื่องของความรุนแรง และมักมีความตายเข้ามายุ่งเกี่ยว หรือไปกระแทกจุดอ่อนหรือปมด้อย หรือจี้ใจดำของคนอีกบางกลุ่ม

    มุกตลกร้ายนั้นมุกที่เล่นยากที่สุดในบรรดามุกตลกทั้งหลาย โดยเฉพาะวงการภาพยนตร์ ที่ต้องมีหลายองค์ประกอบที่ทำให้มุกตลกนี้สามารถทำออกมาอย่างมีประสิทธิภาพ นักแสดงต้องมีความสามารถ ความเฉียบคมของคนเขียนเรื่อง เขียนบทและผู้กำกับต้องดีด้วย ซึ่งหนังแนวนี้ฮอลลีวู้ดทำไม่ค่อยเก่ง หรือหากทำแล้วแทนที่จะเป็นตลกร้ายคลาสสิกกับกลายเป็นหนังซาดิสต์ไป  ส่วนไทยเราไม่ต้องพูดถึงด้วยปัจจัยหลายๆ อย่างไม่ว่าจะเป็นผู้กำกับ, นักแสดง และกฎหมายเรต ประเทศไทยไม่มีทางแจ้งเกิดหนังแนวนี้แน่นอน

    สิ่งที่อยู่ควบคู่กับกูโระคือเรื่องที่ผิดศิลธรรม ที่บางครั้งก็เอาเรื่องเสื่อมโทรมเรื่องจริงมาทำการ์ตูน อย่างเรื่องของจุนโกะ ฟูรุตะ(junko furuta) ที่ผมเขียนไปแล้ว นอกจากนี้ยังมีเรื่องของความเชื่อ เช่น “การสมสู่กับปีศาจ”  แม้ว่าการ์ตูนเรื่องนี้ค่อนข้างโหดเต็มไปด้วยเซ็กต์และกามราคะ แต่กระนั้นก็แฝงอะไรหลายอย่าง เช่น ด้านมืดของสังคม และเหล่าคนชั่วในเรื่องที่ภายนอกเป็นคนดีมีศิลธรรมแต่จิตใจนั้นเดรัสฉาน เสมือนหนึ่งหมาป่าที่ห่อหุ้มขนแกะไว้ไม่มีผิด

     

    ตอนที่ 4 สารวัตรที่สิ้นหวังในการไล่จับหนูน้อยหมวกแดงโดนไล่ออกจากงาน เพราะล้มเหลวในการไล่จับหนูน้อยหมวกแดง(ก็อีนี่มันเป็นอมตะนี้หว่า ตรูจะจับมันได้ไงว่ะ) เขาเลยเดิมพันครั้งสุดท้ายเอาทรัพย์สินทั้งหมดจ้างนักฆ่าที่โครตเก่ง แต่ไม่รู้จ้างอีท่าไหน ได้หนูแว่นที่ท่าทางกระจอกนี้มาซะงั้น(นักฆ่าคนอื่นคงหายากมั้ง) จากนั้นสารวัตรก็ส่งจดหมายเรียกหนูน้อยหมวกแดงออกมาสู้

     

    “ฉันได้รับจดหมายของคุณ....คุณอยู่ที่ไหน”

    “ฉันเองแหละที่เขียนจดหมายนี้.......”เสียงหนึ่งตอบ 

     

    ยิงทักทายก่อน

     

    และแล้วก็ปรากฏร่างเจ้าของที่มาของกระสุน “ฮี่ๆ ฉันไม่คิดว่าคุณจะมาจริงๆ นะเนี้ย”

     

    “เอาล่ะ....ได้เวลาโชว์ที่แท้จริงแล้ว”

     

    หนูน้อยหมวกแดงทำเป็นใจเย็น “คงจะต้องสู้สิน่ะ...เออ...คุณนักฆ่าชื่อ?"

     

    “เออ.....ใช่ ฉันชื่อ”

     

    มันเผลอแล้ว ยิง(เม่ง)มันเลย

     

    เหอๆๆๆ (ตามแบบสาวแว่นซุ่มซ่าม)

     

    เดอะเมทริสยังอาย

     

    ตกตึกไม่เป็นไรกลับตัวรอดได้เว้ย

     

    ยิง(เม่ง)มันเลย

     

    ปืนยี่ห้อไหนเนี้ยยิงซะคอนกรีตพังเป็นแถบๆ

     

    กินระเบิดแสงเป็นไงยัยแว่น

     

    “............!!

     

    แสบตาเว้ย

     

    เห้ย....มันอยู่บนเรอะ

     

    เห็นลิงแล้วหนู

     

    ……..!!

     

    ฝุ่นตลบ “แหม.....ฉันคงประมาทไปหน่อย” ฮ่า

     

    สาวแว่นสี่มือ(กุโระแอ็คชั่นส่วนใหญ่ตัวละครมักแนวๆ นี้แหละ)

     

    “แหม มิน่าละ เธอถึงยิงเอายิงเอา โดยกระสุนปืนไม่มีหมดสักที ที่แท้เธอมีสี่แขนสี่มือนี้เอง”

     

    “ฮ่าๆ โดนจับซะได้ ถูกต้องฉันมีสี่แขน แถมเป็นตั้งแต่เกิดด้วย”

     

    ปืนไม่เอาแล้วละ

     

    แทง(เม่ง)ดีกว่า

     

    ย๊ากๆ

     

    เอ็งมีปืนตรูมีคอนกรีตเสริมเหล็ก โอ๊ย โดนแทง

     

    โดนคอนกรีตเข้าให้แว่นแตกเลย

             

    แทงอีกรอบ

             

    “ไม่ต้องท้า ฉันมาแล้วเว้ย!!

     

    ตรึงกับผนัง

     

    “ฉันนึกออกแล้ว ฉันได้ยินเรื่องของคุณด้วยนี้ ที่เขาลือกันว่าคุณเป็นสัตว์ประหลาด”

     

    “ที่ไม่ว่าจะฆ่าด้วยวิธีใด คุณก็ไม่ตาย”

     

    “แน่นอน ฉันเป็นอมตะจนกว่าฉันจะถูกนายหมาป่ากิน ไม่มีวิธีใดที่จะฆ่าฉันให้ได้หรอก”

     

    สาวแว่น งง เล็กน้อย(แล้วนายหมาป่าเป็นใครว่ะ) ก่อนจะพูดว่า “งั้นถ้าฉันสับคุณเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย คุณก็ไม่ตายสิน่ะ”

     

    งั้นเรามาเริ่มสนุกดีกว่า

     

    แล้วฆ่าโหด “เชอะ ก็เหมือนเดิมนี้.... ไม่มีอะไรเกิดขึ้น”หนูแว่นบ่นเล็กน้อย

     

    เอาละคราวนี้คือความสนุกที่แท้จริง หนูแว่นหยิกระป๋องใส่น้ำมันกะจะเผาหนูน้อยหมวกแดง

     

    จบ

     

    ซะเมื่อไหร่ละหนูน้อยหมวกแดงเปิดตาโพง

     

    “อะไร!!”หนูแว่นตกใจสุดขีด

    “ฮ่าๆๆๆๆๆ แค่นี้ทำอะไรฉันไม่ได้หรอก ฮ่าๆ สุขใจจริงๆๆ”

     

    “ฮ่าๆๆ”  ท่องล่างของหนูน้อยหมวกแดงลุกขึ้นมาอย่างน่าสยดสยอง

     

    หนูแว่นโดนแตะแทบกระเด็น แล้วโดนต้อนจนมุม

     

    หนูน้อยหมวกแดงหยุดชั่วคราว ในขณะที่สาวแว่นสี่แขนกระอักเลือก “ฉันไม่มีจุดมุ่งหมายอะไรที่จะฆ่าคุณ และฉันคิดว่าพวกเราสามารถเป็นเพื่อนกันได้”

     

    “นี้เป็นครั้งแรก ที่ฉันได้เจอคนที่เหมือนกับฉัน.... ฉันรู้สึกจัง"

     

    การต่อสู้จบลง หนูน้อยหมวกแดงรวมร่างกายกลับให้เป็นเหมือนเดิม และหนูแว่นก็พล่านหลายๆ อย่างจากปาก “คำร้องของผู้ว่าจ้าง ฉันไม่สามารถทำได้ ซึ่งหมายความว่าสัญญายกเลิก แถมตอนนี้ผู้ว่าจ้างฉันคงจะฆ่าตัวตายที่ใดที่หนึ่งแหละ ตั้งแต่เขาเห็นฉันแพ้กับเธอ”

     

    “เมื่อเขาตาย ข้อตกลงระหว่างฉันกับเขาก็ยกเลิก.....”

     

    “ตอนนี้คุณเป็นเจ้าชีวิตฉันแล้ว ได้คนน่ารักอย่างคุณฆ่าก็ไม่เลวเหมือนกัน”

    แต่หนูน้อยหมวกแดงไม่คิดฆ่าสาวแว่นเธอเรียกรันก้า “เฮ้ รังก้าจัง ฉันจะรับหนูแว่นนี้เป็นคู่หูฉันล่ะ”

    “จะบ้าเรอะ!! จะรับนักฆ่านี้ไว้เรอะ เธอคนนี้เคยมีความคิดฆ่าเธอเนี้ยนะ”


             “ถูกต้อง”

    และแล้วสาวแว่นก็คิดได้ (นี้เป็นโอกาสที่เราจะใกล้ชิดกับเธอ ถ้าสบโอกาสนี้เราจะเจี๋ยนเธอทิ้งซะเลย”

     

    “เออ ใช่แล้ว ตอนนี้ฉันกำลังว่างงานพอดีเลย ถ้ามีคนจ่ายเงินให้ฉัน ฉันพร้อมที่จะเป็นกำลังให้คุณนะ”หนูแว่นรับขอเสนอ

                   

    “ฉันความสุขใจเลย จากนี้ไปเราจะเป็นเพื่อนกัน”หนูน้อยหมวกแดงร้องเพลงอย่างสุขใจ

     

    “เรามีผลประโยชน์ร่วมกัน”สาวแว่นร้องบ้าง

    “ถ้าเธอหักหลักฉัน เธอโดนควักหัวใจแน่”หนูน้อยหมวกแดงร้องเพลง

    “ถูกต้อง? ถูกต้อง?

     

    “หา?

    และแล้วทีมของหนูน้อยหมวกแดงก็เกิดขึ้นด้วยประการฉะนี้แล....เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไปนั้น โหลดเว็บไปดูภาพเองเน้อ

    ส่วนประกอบที่สำคัญของกุโระคือความรุนแรงและเลือดสาด ยิ่งเห็นอวัยวะเครื่องในนี้ยิ่งดี ความรุนแรงนั้นอยู่ควบคุมกับมังงะมากว่า800ปีที่หรือตั้งแต่ยุคต้นกำเนิดเลยก็ว่าได้ เริ่มต้นจากเป็นจิตรกรรมตามผนังวัด เน้นเรื่องราวชีวิตหลังความตายและมีภาพสัตว์ต่างๆแต่มักแสดงถึงความโหดร้ายรุนแรงหรือซาดิสต์สุดๆ จนมายุคปัจจุบันที่กลายเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของมังงะไปเสียแล้ว

    ในประเทศไทยถือได้ว่าการ์ตูนแนวนี้ต้องห้ามอย่างมาก เพื่อไม่ให้เด็กดู ความจริงการ์ตูนแนวกูชุโระนั้นจุดประสงค์ไม่ได้ให้เด็กอ่านอยู่แล้วหากกลุ่มลูกค้าการ์ตูนแนวนี้จะเป็นเฉพาะกลุ่มจริงๆ และอายุต้องเกินหลัก 18 ด้วย ซึ่งญี่ปุ่นมีการจัดเรตการ์ตูนชัดเจน ผิดกับไทย ใครคิดว่าการ์ตูนถูกสร้างมาเพื่อให้แต่เด็กดู ถือว่าเป็นความคิดโบราณกาล เพราะเดี่ยวนี้การ์ตูนมีหลายกลุ่มไม่ว่า ผู้หญิง  เด็ก วัยรุ่น หรือคนแก่ ก็มีกลุ่มที่อยากดูแตกต่างกัน ฉะนั้นอย่าไปเหมาว่า พอเห็นเป็นการ์ตูนแล้วเหมาว่าเด็กดูได้หมด ไม่ใช่

    แต่ประเทศไทยนั้นเหมาหมดคือการ์ตูนคือสื่อที่เด็กดูเท่านั้น พอเห็นการ์ตูนแนวแปลกๆ อะไรหน่อยก็ใช้วิธีการแบนและเซ็นเซอร์การ์ตูนเป็นหลัก และส่วนใหญ่มักมีปัญหาตามมาทุกครั้งจากเสียงโอดโอยของบรรดาเด็กๆ ไม่ว่าจะเป็นการเซ็นเซอร์ชิสุกะอาบน้ำในเรื่องโดเรมอน, การตัดฉากชินจังโชว์ครึ่งก้น, หรือแบนการ์ตูนที่มีเนื้อหาชายรักชาย, การแบนการ์ตูนกันซึ เป็นต้น โดยการ์ตูนช่อง 9 ที่ฉายตอนเช้าจะโดนหนักสุด ซึ่งพวกผู้ใหญ่มักจี้การ์ตูนที่ฉายต้องเหมาะกับเด็ก ชนิดที่เรียกว่าต้องเอาการ์ตูนให้เหมือนดีย์นีย์(จนเป็นสาเหตุที่ทำให้การ์ตูนช่อง 9 เดี๋ยวนี้ส่วนมากเป็นการ์ตูนเหมาะสำหรับเด็กตัวน้อยๆ จริงๆ) อย่างการ์ตูนซีรีส์ออกทะเลและดองเค็มอย่าง "ฮันเตอร์ เอ็กซ์ ฮันเตอร์" ที่เคยโลดแล่นอยู่ในช่อง 9 การ์ตูน ก็เคยถูกจับตามาครั้งหนึ่งแล้ว

                    

                    สรุป ดูเหมือนว่าส่วนประกอบกุโระของการ์ตูนญี่ปุ่นจะต้องประกอบด้วย เลือด, เซ็กต์, วิปริต, เครื่องใน, ตัวละครพิกลพิการ, เรื่องที่ผิดศิลธรรม และการฆ่าที่พิสดารและดูแล้วเป็นศิลปะ นี่คือสิ่งที่ผมสรุปจากการ์ตูนเรื่องนี้

                    ในวีกีมีเดียบอกว่าการ์ตูนเรื่อง Tokyo Red Hood  เป็นแนวกุโระ ซึ่งเล่ม 1-2 ถือได้ว่าเป็นแนวที่ว่าจริงๆ หากแต่เล่ม 3 กุโระเริ่มหายไป แต่กระนั้นการ์ตูนเรื่องนี้ก็ไม่ได้ลดความสนุกแต่อย่างใด เพราะว่าเนื้อเรื่องที่เข้มข้น เสื่อมโทรม การต่อสู้ ที่เราเห็นบ่อยๆ ในการ์ตูนแอ็คชั่น ผสมกับแนวคิดแปลกประหลาดเข้าไป จนเป็นสูตรตามแนวคิดของคนเขียนคนนี้ขึ้นมา

                    สิ่งที่น่าแปลกก็คือการ์ตูนที่หลายคนคิดว่าเป็นกุโระแต่ปรากฏว่าเอาเข้าจริงในเว็บวีกีมีเดียกับบอกว่าไม่ใช้ อย่างเรื่องโรงเรียนนรกพันธุ์โหดในเว็บไม่ได้ถือว่าเป็นกุโระ หากแต่เรื่องเป็นเรื่อง Tokyo Red Hood  และ Mnemosyne ในวีกีมีเดียบอกว่าเป็นกุโระที่แท้จริง

                    ดังนั้นมาตรฐานการจัดการ์ตูนว่าเป็นกุโระยังคงคลุมเครือเล็กน้อย

                    ในเว็บที่ผมเอาให้นั้น Tokyo Red Hood  มี 4 เล่ม แต่ดูเหมือนมันไม่จบแต่เพียงเท่านี้ ทำให้ผมไม่สามารถบอกได้ว่าตอนจบของเรื่องนี้เป็นอย่างไร และดำเนินเรื่องไปในทางทิศทางใด

                    ภาพการ์ตูนที่ผมเอามาให้ดู เป็นเพียงตัวอย่างบางส่วน ที่ผมคัดมาเท่านั้น ส่วนเต็มๆ นั้นขอบอกว่าค่อนข้างลามกและโหดพอสมควร แต่ก็ถือว่าเป็นระดับ อ่อนๆ ที่คนอายุมากกว่า 18 พอรับได้ หากใครอยากดูตัวการ์ตูนเต็มๆ สามารถไปดาว์นโหลดดูได้ตามสูบที่เว็บที่ผมเอาได้เลยครับ

                    ดูเหมือนว่าการ์ตูนแนวกุโระจะแพร่หลายทางอินเตอร์เน็ต คุณสามารถหาการ์ตูนเหล่านี้ได้เพียงพิมพ์คำว่า Guro ในหน้าจอค้นหากูเกิ้ลแล้วกดค้นหา เพียงเท่านี้คุณก็ได้พบการ์ตูนหรือภาพโหดเลือดสาด วิปริตที่สื่อเรื่องเพศมากมาย ให้ได้เสพกัน หากจะถามว่าเราควรกำจัดการ์ตูนพวกนี้ออกไปไหม คำตอบก็ไม่สามารถบอกได้ว่าควรหรือไม่ควร บางที่คนญี่ปุ่นผู้เขียนการ์ตูนแนวนี้อาจมีเหตุผลที่ซับซ้อน เช่นเพื่อตอบสนองให้กับคนชอบเรื่องพวกนี้โดยเฉพาะ หรือสื่อความนึกคิดที่ตนอยากถ่ายทอดให้สังคมได้รับรู้ผ่านงานศิลปะ

    ดังนั้นเราซึ่งเป็นผู้ดู ควรดูการ์ตูนเหล่านี้ให้ถูกที่ ถูกเวลา ถูกกาลเทศะ ผมเชื่อว่าคนที่อ่านบทความนี้ หลายคนมีรสนิยมชอบการ์ตูนประเภทนี้ด้วย แต่ทางที่ดีเราไม่ควรแสดงออกให้เห็นว่าเราชอบ เอารูปโหดเลือดสาดวิปริตไปโพสบอร์ดสาธารณะ(อ้าว....คนเขียนก็เคยนี้หว่า) แล้วมาบอกว่ามันสิทธิของกรูโดยไม่เห็นหัวกฎหมายหรือยัดเยียดรสนิยมให้คนอื่นนั้นไม่ได้นะครับ ทางที่ดีควรทำแบบผม ผมตั้งกระทู้เกี่ยวกับ Guro 2 กระทู้แล้ว ผมเขียนเรื่องราวและคติสอนใจเอาไว้ด้วย และเขียนเตือนไว้ว่า 18! ไม่ควรเข้า หรือในตอนนี้ผมได้ตัดภาพไม่ดีไม่งามออกไป เพียงเท่านี้เราก็สามารถเผยแพร่ Guro ได้อย่างสบายใจ ได้ทั้งความรู้และได้ความสยองในเวลาเดียวกัน

    + +
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×