ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดูการ์ตูนอย่างแมว ๆ

    ลำดับตอนที่ #264 : ที่สุดของ Manga แห่งปี 2013 by Cammy

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 6.98K
      2
      1 มี.ค. 57

    มาต่อเนื่องจากคราวที่แล้ว ที่คราวแล้วเป็นเรื่องของอนิเมะ มาคราวนี้เป็นเรื่องของมังงะและไลท์โนเวลกันบ้าง ซึ่งขอบอกว่าอาจไม่ได้เน้นที่สุดสักเท่าไหร่นัก เพราะจะเน้นว่าปีที่ผ่านมาผมเจอเหตุการณ์สะเทือนใจไหนบ้างเท่านั้น

    ก่อนอื่นผมก็อยากพูดประโยคที่ผมลืมไปว่าไม่ได้พูดมานาน  คือ ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาในบทความนี้ครับ ทั้งขาประจำ ขามาเรื่อยๆ หรือนานๆ ครั้ง เนมเบอร์ นอนเบอร์ หรือแม้แต่เกรียน ที่เข้ามา อ่านบ้าง ไม่อ่านบ้าง ก็ตาม

    บทความนี้ผมเขียนเพื่อตั้งใจพูดถึงประเด็นต่างๆ ในการ์ตูนเรื่องนั้น และการนำข้อคิดการ์ตูนมาใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน และช่วงหลังๆ ก็เริ่มเน้นเรื่องของฮาเร็ม แนวที่หลายคนดูถูก แต่มันกลับมีคุณค่าต่อจิตใจของผม พยายามพูดถึงเรื่องดีๆ ของแนวฮาเร็ม ว่ามันแตกต่างจากเจ้าชู้อย่างไร ซึ่งบางครั้งก็จะมีทฤษฏีแปลกๆ ที่คุณไม่เคยเห็นมาก่อน

    หลังจากเขียนมาได้ 5 ปี ปรากฏว่ามาผลตอบรับดี มียอดคนเข้ามากว่าที่คิดมาก แม้ว่าบทความนี้จะไม่ใช่บทความแนะนำการ์ตูนที่ดี (เพราะมีเรื่องของมืดมาร่วมด้วย) หรือคนเขียนข้อมูลหรือสำนวนเขียนผิดๆ ถูกๆ ก็ตาม ซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้นก็พยายามจะปรับปรุงให้เขียนดีขึ้น

    และที่น่าดีใจคือบอร์ดดังๆ ที่เกี่ยวข้องกับการ์ตูน ไม่ว่าจะเป็นตรุกีหรือแม้แต่พันทิปก็มีคนเอ่ยชื่อของผมมาด้วย ซึ่งพูดในแง่ดี มากกว่าร้าย ว่าเป็นบุคคลที่เชี่ยวเรื่อง ฮาเร็มชอบ ฮาเร็มเป็นชีวิตจิตใจ ทั้งๆ ที่ผมไม่ได้เข้าในบอร์ดเว็บดังกล่าวสักเท่าไหร่ ก็น่าดีใจที่คนในบอร์ดแห่งนี้เข้ามาดูบทความผมด้วย (ส่วนบอร์ดการ์ตูนในเว็บเด็กดี ผมไม่รู้น่ะ เพราะไม่ได้เป็นที่ประจำ)

    อีกเรื่อง หลายคนคงเห็นสักพักแล้ว คือเนมเบอร์ หนอน (ตอนแรกมันเป็นนอนเบอร์ เกรียนๆ อยู่) บุคคลปริศนาที่เข้ามาในบทความประจำตั้งแต่ช่วงต้นปี ตอนแรกๆ เม้นยาวเป็นหางว่าว จนเม้นคนอื่นตก เม้นแต่ละเรื่องของหนอนไม่เกี่ยวข้องกับบทความสักนิด (แม้แต่เรื่องการ์ตูนก็ไม่ค่อยมี) แต่ผมก็ไม่เคยโกรธ (แม้จะโกรธก็หายเร็ว) ซ้ำยังไม่พอชอบไปเกรียนบอร์ดอื่นๆ แถมครั้งหนึ่งเรื่องของหนอนยังดังไปบอร์ดต่างประเทศอีกต่างหาก จนนำปัญหามาให้ (ก็ไม่นึกว่ามันทำจริงๆ นี้หว่า)  จนบัดนี้หนอนก็ยังคงอยู่ ซึ่งจะอยู่ถึงเมื่อไหร่นั้นก็ต้องดูต่อไป ส่วนผมนั้นก็ไม่ได้ว่าอะไร ส่วนหลายคนที่เข้ามาบทความก็อดทนหรือทำเป็นไม่สนใจก็ได้น่ะครับ

                    เอาล่ะเข้าเรื่อง.....ปีนี้มีอนิเมะและไลท์โนเวลให้พูดถึงเยอะ แม้ว่าการ์ตูนมังงะ (เอาแนวเฉพาะฮาเร็ม) จะออกมาค่อนข้างน้อยก็ตาม บางเรื่องออกมาแค่สอง-สามตอน ทำให้ไม่สามารถเลือกเป็นที่สุดแห่งปีได้ เพราะต้องติดตามต่อไปว่ามันจะดีหรือไม่ดี โดยรายชื่ออนิเมะมีดังต่อไปนี้ (เอาที่แปลกๆ และน่าสนใจ)

     

     

    รายชื่ออนิเมะแนวฮาเร็มใหม่ของปี 2013 ที่น่าสนใจ และแนะนำ ซึ่งมีแปลไทยแล้ว (แม้บางเรื่องจะแปลไม่ทันแปลอังกฤษ และบางเรื่องมีลิขสิทธิ์ไทยแล้วก็เถอะ)

     

                    การ์ตูนใหม่ที่แนะนำแห่งปี 2013  น่าเสียดายปี 2013 นี้ไม่มีการ์ตูนมังงะแนวฮาเร็มชนิดร้องเยส!! หรือน่าตกใจเหมือนปี 2012 (ซึ่งปีก่อนมีฮาเร็มน่าสนใจเยอะ) ราวกับว่าแนวฮาเร็มกำลังจะสูญพันธุ์อย่างงั้น ส่วนใหญ่แล้วเป็นแนวฮาเร็มจากไลท์โนเวล แถมเกือบทั้งหมดเป็นแนวโรงเรียนแฟนตาซี ซึ่งต้นเรื่องจะคล้ายๆ กัน คือพระเอกพึ่งย้ายโรงเรียนมา ไปเจอนางเอกที่เป็นสาวเก่ง (นักเรียนดีเด่น พลังต่อสู้สูงกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้า พร้อมเหตุการณ์ที่ทำให้นางเอกอับอายต่อหน้าพระเอก) ส่งผลทำให้นางเอกไม่ถูกกับพระเอกตั้งแต่แรกเห็น ต่อมานางเอกก็ท้าพระเอกสู้ ซึ่งมันกลายเป็นมุกเปิดเรื่องโรงเรียนแฟนตาซีไปแล้ว  ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง Gakusen Toshi Asterisk,  Kenshin no Keishousha และ Magika no Kenshi to Shoukan Maou

                    อย่างไรก็ตาม ปี 2013 ก็ยังมีฮาเร็มน่าสนใจ ซึ่งผมคัดกรองแล้ว มี 10 เรื่อง ซึ่งแต่ล่ะเรื่องผมการันตีว่ามันสนุกดี และมีแปลไทยแล้วตามเว็บต่างๆ สามารถหาดูได้

    เรื่องแรกที่น่าแนะนำ คือเรื่อง Dungeon ni Deai o Motomeru no wa Machigatte Iru Darou ka   หรือชื่อไทย การพบกันในดันเจี้ยนที่น่าโหยหานี่มันต้องผิดพลาดแหง  มังงะจากไลท์โนเวล ซึ่งมีการประกาศจะทำเป็นอนิเมะเรียบร้อย โดยเป็นเรื่องของโลกแฟนตาซีที่การล่ามอนสเตอร์ในดันเจี้ยนเป็นเรื่องปกติ พระเอก เบลที่ตกหลุมรักนักรบสาวที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งเข้า แต่ฝีมือของตนกากจนเบลคิดว่าคนอย่างเธอไม่สนใจ เขาจึงอยากเปลี่ยนแปลงตนเอง และแล้วเขาก็ได้กลายเป็น เทพทรู

    Kyou no Cerberus หรือ เคสเบรอสวันนี้เป็นเรื่องของ จิอากิ หนุ่มที่ไม่อารมณ์ความรู้สึกใดๆ บนใบหน้า เพราะว่าตอนเด็กเขาเคยโดนเคสเบรอสสามหัวกินเขาจนอารมณ์ความรู้สึกหายไป ทำให้เขาต้องอยู่ด้วยความรู้สึกนี้มาโดยตลอด จนกระทั่งวันหนึ่งเขาก็ได้พบเคสเบรอสวันนั้นอีกครั้ง พียงแต่เคสเบอรอสที่เขาเห็นดันเป็นสาวน้อยโมเอะผู้มีบุคลิค 3 แบบในคนเดียว!! แม้เรื่องนี้พึ่งจะออกมา 3 ตอน (รวมตอน 0) แต่ซาบซ่าฮาเร็มครบถ้วน

    Shinigami-sama to 4-nin no Kanojo  หรือชื่อไทย ท่านยมทูตกับแฟนสาวทั้ง 4  แนวฮาเร็มกับโจทย์ที่พระเอกพลาดถึงตาย เป็นเรื่องราวของพระเอก คาโอรุที่ไม่ได้เป็นคนพิเศษ ไม่เก่งเรื่องกีฬา ไม่เป็นที่นิยม ไม่เป็นที่สนใจของคนรอบข้าง แถมยังเป็นพวกโอตากุ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาถูกยมทูตทวินเทลจะเอาชีวิตเพียงเพราะเขา  เป็นคนไม่เพียบพร้อม อย่างไรก็ตามเขายังไม่ได้รอดพ้นความตายเพราะเขาตั้งใจว่าจะเปลี่ยนแปลงตนเองเป็นคนใหม่ ซึ่งยมทูตให้โอกาสถึงวันพรุ่งนี้เพื่อให้เขาพิสูจน์ว่าเขาจะเป็นคนเพียบพร้อมอย่างไร โดยพระเอกมีความคิดว่าเขาจะต้องมีแฟนเพื่อเป็นคนเพียบพร้อม แต่ปัญหาคือคงไม่มีหญิงคนไหนเอากับเขาแน่เพราะเขาเป็นโอตากุ ดังนั้นเพื่องานนี้เขาเลยเขียนจดหมายบอกรักสาวไอดอลโรงเรียน 4 คนพร้อมกันในเวลาเดียวเพื่อหวังว่าจะมีใครสักคนตอบรับเป็นแฟน  แต่กลายเป็นว่าสาวทั้ง 4 ตอบรับเป็นแฟนกับเขาพร้อมกัน เป็นเหตุทำให้พระเอกจำต้องสลับรางคบ 4 คนในเวลาเดียวกัน และหากพลาดขึ้นมาเรือสวยแน่นอน

    อีกเรื่องไม่ใช่แนวฮาเร็มจ๋า (น่าจะเป็นแนวทำลายฮาเร็มด้วยซ้ำ) แต่ฮ่าและน่ารักดี คือเรื่อง Boku ni Koisuru Mechanical  เป็นเรื่องของของพระเอก ชินโจ ไมตะนักศึกษามหาลัยปี 2 ที่ไม่บ๊อป สาวไม่แล แต่จู่ๆ ก็มีสาวสวยหลายคนให้ความสนใจ หากแต่เหล่าสาวๆ ที่ว่าไม่ใช่คนธรรมดา แต่เป็นสาวหุ่นยนต์ที่เป็นศัตรูต่อโลกที่ย้อนอดีตจากอนาคตเพื่อมาฆ่าและขโมยน้ำเชื้อของเขา อย่างไรก็ตามเขายังมีสาวน้อยจากอนาคตและหุ่นยนต์เหล็กโมเอะปกป้องเขาอยู่

     ส่วนอีกเรื่องผมชอบเป็นพิเศษ  คือเรื่อง Girls Go Around แม้ในเรื่องไม่ใช่แนวฮาเร็มจ๋า แต่มันก็น่าสนใจอยู่ดี โดยเป็นเรื่องของพระเอก เคียวคนธรรมดาที่ต้องเผชิญกับเหตุการณ์เหนือธรรมชาติ การวนลูป ของสี่สาวที่เหตุการณ์ย้อนกลับไปใช้เหตุก่อนหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่าไม่รู้จักจบสิ้น โดยการแก้ปัญหาการวนลูปนั้นเขาจะต้องให้พวกเธอทำสิ่งที่ค้างคาใจ (หรือต้องการแก้ไข) ของวันที่วนลูปให้สำเร็จ เนื้อหาเหมือนกับแนวหนุ่นสาวธรรมดาทั่วไป หากแต่หลังบทที่ 4 ไป คุณจะได้เห็นนรกของการวนลูปและบ่บอกว่า นี่คือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมดเท่านั้น (คนเขียนมังงะเป็นคนเดียวกับคนวาดมังงะ Hanasaku Iroha)

                   ส่วนมังงะที่ไม่ใช่แนวฮาเร็มที่ผมสนใจ ปีนี้มี 2 เรื่อง  เรื่องแรกคือ Iron Knight การ์ตูนใหม่ของจัมป์ที่ผมค่อนข้างชอบทีเดียว แม้เนื้อหาพล็อตจะเหมือนการ์ตูนสูตรสำเร็จสมัยก่อนก็เถอะ แต่ต้องพิสูจน์ตัวต่อไปว่ามันจะออกอาการจัมป์ตัดจบหรือเปล่าเท่านั้น ส่วนอีกเรื่องก็  Mahou Shoujo Site จากผู้เขียนสาวน้อยเวทมนต์หฤโหด ส่วนแนวเอาตัวรอดก็ไม่มีเรื่องใหม่ที่หวือหวามากนัก

                   และเช่นเคยสายมืด ที่แนะนำคือเรื่องล่าสุดของ Tachibana Omina นักเขียนคนนี้ หลานคนอาจคุ้นลายเส้น แม้ว่าผลงานจะออกมาน้อย แต่กระนั้นเนื้อหาไม่น้อยตาม เพราะเกือบทุกเรื่องมีแปลไทย และทุกเรื่องต้องแนวฮาเร็ม ไม่มีแบบเดียวหรือวินเด็ดขาด (ซึ่งหลายคนคงรู้อยู่แล้ว) ผลงานล่าสุดก็ยังคงฮาเร็มเหมือนเดิม โดยเป็นเรื่องราวของหนุ่มคนหนึ่งที่เขากลายเป็นของเล่นกามกับพวกสาวๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาได้ย้ายไปโรเงรียนแห่งใหม่ โดยทิ้งฮาเร็มเก่าไว้เบื้องหลัง ซึ่งเขาคิดว่าจะหนีพ้นแล้ว แต่กลายเป็นว่าที่โรงเรียนใหม่นี้เขาก็หนีฮาเร็มไม่พ้น

     

     

    โค้งมรณะแห่งปี สำหรับปีนี้มีการ์ตูนหลายเรื่องที่อวย หลายเรื่องก็ดำเนินเรื่องสนุก ในขณะที่บางเรื่องดำเนินเรื่องอยู่โค้งสุดท้ายแล้ว (พูดง่ายๆ ใกล้ถึงฉากจบอันเป็นบทพิสูจน์แล้วล่ะว่าคนเขียนจะให้จบอย่างไรให้มันประทับใจ เพราะมันจะส่งผลค่อความคาดหวัง และส่งผลต่อการเขียนผลงานใหม่คราวหน้าด้วย) นอกจากนี้ก็ยังมีหลายเรื่องที่ผมละเลยจากปีที่แล้วและพึ่งมาเจอปีนี้ และทำออกมาได้น่าสนใจเหมือนกัน

     

     

     Umi no Misaki ฉันเลือกเธอทั้งสามคน!!

     

    ฉากตะลึงแห่งปี 4P ในฮาเร็มเทพมังกร เริ่มจากฮาเร็มเทพมังกร Umino Misaki หนึ่งในการ์ตูนที่ยอมรับว่าคนเขียนมันเก่งที่ทำให้ผมเดี๋ยวชอบ เดี๋ยวเกลียดเป็นช่วงๆ อย่างปีแล้วทำซะผมเกลียดผมเซ็งกับฉากหนึ่งในนางเอกโดนพระเอกจัดการ เป็นอันว่าพระเอกเรื่องนี้ไม่อดทนเหมือนพระเอกฮาเร็มทั่วไป และผลตามมาคือฉากดราม่านิดๆ หน่อย จนผมเกือบเลิกอ่านไปแล้ว หากแต่การ์ตูนกลับทำให้ผมต้องตกตะลึงคือฉาก 4P ในตอน 112-114  ฉากอยู่ในแนวฮาเร็มถือว่าเป็นช่วงหัวเลี้ยงหัวต่อ โค้งสุดท้ายก็ว่าได้ เพราะเป็นฉากที่พระเอกต้องตัดสินใจว่าจะเลือกใคร โดยเวลานั้นนากิกำลังเข้าพิธีเลือกสามสาวตัวเอกของเรื่องอยู่นั้น เขาและสามสาวก็ได้ดื่มยาหนึ่ง ไม่รู้เป็นยาอะไร รู้แต่ว่ายานี้ทำให้นากิและสามสาวมีอารมณ์ และนั้นเองทำให้เกิดฉาก 4P ขึ้นมา ผลสุดท้ายนากิเลือกพวกเธอเป็นปีกของฉันในที่สุด  

     

     

    Gokukoku no Brynhildr (รีวิวเร็วๆ นี้)

     

    ฉากช็อกแห่งปี การตายของตัวละครที่หลายคนอวยใน Sora no Otoshimono และ Gokukoku no Brynhildr  มีหลายเรื่องที่อยู่ในช่วงโค้งสุดท้าย ไม่ว่าจะเป็น ยามาดะคุงกับแม่มดทั้ง 7 (ผมไม่อยากนับญาติเป็นฮาเร็มพับผ่า เอาเป็นว่าเรื่องนี้ผมไม่อวยละกัน)  แต่ในปีนี้ก็มีหลายเรื่องชวนช็อกมาก แต่ถ้าเอาเด่นๆ ก็มี เรื่อง Sora no Otoshimono ซึ่งอยู่โค้งสุดท้ายกับการตายของตัวละครแต่ละคร แต่กระนั้นก็ถือว่าเป็นสไตล์ของคนเขียนคนนี้อยู่แล้วและหวังว่าตอนท้ายทุกคนต้องคืนชีพและต้องฮาเร็มสถานเดียวเท่านั้น ไม่งั้นผมจะเคืองมาก (เพราะเรื่องนี้ผมติดตามหลายปีแล้ว หากจบแบบ Bad End หรือหวานอมขมกลืนละก็ผมไม่ยอมด้วย)  ส่วนอีกเรื่องโครตปวดตับกว่า Gokukoku no Brynhildr คนวาดผู้แมวโหด เรื่องนี้ไม่ต้องอธิบายมากความ ฮาเร็มปวดตับมาก เพราะคนเขียนจัดการฆ่าตัวละครแบบเรียงตัว แม้จะเป็นตัวละครที่หลายคนอวย หลายคนชอบก็ตาม อย่างตอนล่าสุดทำเอาผมทรุด กับการตายของตัวละครที่ผมชอบ ผมอวยมานาน (ไม่ขอบอกว่าเป็นใคร ไปดูเอง) ก็หวังว่าจะมีการคืนชีพนิดๆ และก็เป็นอีกเรื่องที่ใกล้จะจบแล้ว ก็หวังว่าคนเขียนจะจบดีๆ อย่าเอาแบบหูแมวโหด (มังงะ) ให้จบแบบ งง (แถมตัวละครแยกทางปล่อยให้พระเอกเศร้าหลายปีอีก ทั้งๆ ที่พระเอกไม่มีความผิดสักนิด ) และข่าวดีคือทั้ง  Sora no Otoshimono และGokukoku no Brynhildr ได้ประกาศเป็นอนิเมะแล้ว (Sora no Otoshimono เป็นหนังโรง ส่วน Gokukoku no Brynhildr ฉาย เมษายน 2014)



    Mahou Shoujo of the End ติ่งผมทองนางเอกตัวจริง!!


                  ชิบหายวายวอดแห่งปี Mahou Shoujo of the End หากการ์ตูนข้างต้นตัวละครอวยตายปวดตับแล้ว กลับกันการ์ตูนสาวน้อยเวทมนต์นรกแตก Mahou Shoujo of the End ตัวละครในเรื่องตายได้โหด มัน ฮ่า แตกดีแท้ๆ ทั้งๆ ที่ตัวละครหลักตาย และตายอย่างโหดร้ายเหมือนกัน ก็ต้องชื่นชมลีลาของคนเขียนที่ว่าเรื่องได้อย่าง เพราะเนื้อเรื่องไม่ได้เน้นดราม่า แต่เน้นความสิ้นหวัง หายนะ การเอาตัวรอด ที่แทบไม่มีทางหนีพ้น ไม่มีที่ให้หนี แม้จะมีแสงสว่าง มีความหวัง ตัวละครได้พักผ่อนหายใจ เหมือนจะรอด แต่ก็ทำให้ดับวูบในชั่วพริบตา

    ในปี 2012 ผมยังไม่ได้พูดเรื่องนี้สักเท่าไหร่ เพราะว่าเนื้อหายังไม่ไปถึงไหน (เนื้อหาอยู่ที่ตอน 3-4 อยู่) และตอนแรกผมวิจารณ์การ์ตูนเรื่องนี้ว่าเป็นแนวหนีตัวรอดเน้นโหดอย่างเดียว หากพอมาถึงปี 2013 ผมก็พบว่าการ์ตูนเรื่องนอกเหนือจากกระหน่ำความโหดแล้ว ยังสอดแทรกเนื้อหาที่มีการพลิกล็อคให้ได้ตกใจอีก ใครจะเชื่อล่ะว่าเพื่อนสมัยเด็กที่โดนกลั่นแกล้งและดูขี้แยตอนแรกตัวจริงเธอคือลาสต์บอสแถมเป็นยันเดเระอีกต่างหาก และยังไม่พอว่ายัยติ่งกิ๊บที่โผล่มาอย่างกับพวกรกโลกกลายเป็นนางเอกซะได้

    ผมยังจำได้ดีเลย ฉากยัยติ่งกิ๊บส่งยิ้มในขณะที่ซอมบี้จะมาฉีกร่าง นึกว่าเธอไม่รอด แต่กลายเป็นว่ารอดซะงั้น

    นอกเหนือจากความพลิกล็อกแล้ว การฆ่าโหดของสาวน้อยเวทมนต์ยังเรียกความสะใจให้แก่คนอ่านอย่างเมามัน วิธีฆ่าแสนพิสดาร โหด ไม่สามารถหนีได้ ดูแล้วสิ้นหวังดีแท้ และนอกจากนี้ยังมีการตายตัวละคร แม้จะเป็นตัวละครหลักก็ตาม โดยเฉพาะฉากสังหารหมู่ในโรงพยาบาล และการตายของทวินเทลนั้นถือว่าเป็นฉากฆ่ามันที่สุดในเรื่องเลยทีเดียว

     

     

    ท่าอุ้มเจ้าหญิงปักธง สกิลเทพริโตะ

     

    ปักธงแห่งปี  To Love Ru Darkness 28 ปีนี้ฮาเร็มที่ติดตามมีฉากรูทซาบซ่าเยอะ แต่หากยกตอนที่น่าจดจำ ผมคงยกให้กับ To Love Ru Darkness เหมือนกับปีก่อน ที่ผมยกให้ฉากริโตะกอดนานะที่อ่านแล้วซูซ่าได้ใจ  เพียงแต่คราวนี้เป็นรูทที่ไม่ใช่ตัวละครหลัก แต่เป็นรูทตัวละครที่ปรากฏออกมานับฉากได้อย่าง เคียวโกะ

    เคียวโกะ คิริซากิ หรือมาจิกเคิลเคียวโกะ ไอดอลสาวมัธยมปลายที่โด่งดัง ความจริงแล้วตัวตนคือลูกครึ่งมนุษย์ต่างดาว ตอนแรกที่ปรากฏเป็นสาวน้อยมหัศจรรย์ทางทีวีแบบแว่บๆ หากแต่ตอนหลังเคียวโกะได้รู้จักริโตะผ่านทางรุน ซึ่งรุนเป็นเพื่อนกับเคียวโกะอีกที  หากแต่การพบครั้งแรกนั้นริโตะไม่ได้ปักเคียวโกะแต่อย่างใด แค่ทำให้เคียวโกะก็เริ่มสนใจในตัวริโตะเท่านั้น

    จนกระทั่ง To Love Ru Darkness ตอนที่ 28 เคียวโกะได้ปรากฏตัวขึ้นที่โรงเรียนของริโตะ โดยจุดประสงค์เพื่อหาข้อมูลริโตะไปให้รุนซึ่งเป็นเพื่อนของเธอให้รู้จักริโตะมากขึ้น หากแต่กลายเป็นว่าแทนที่จะหาข้อมูล กลับกลายเป็นว่าเธอถูกริโตะปักธงเสียเอง เทพของจริงริโตะ (หากใครไม่เข้าใจว่าแค่ริโตะอุ้มเคียวโกะ ทำไมกลายเป็นปักธงเคียวโกะได้ ผมก็ขอชี้แจงว่าเคียวโกะนั้นเป็นไอดอล เธอเห็นอะไรมาเยอะ โดยเฉพาะพวกชายหื่นๆ ที่จ้องจะลวนลามเธอเป็นประจำ ตัวอย่างเช่น ผ.อ. หื่นที่ชอบตามมาตอแยประจำ ซึ่งเธอมักตอบโต้ดวยการใช้ไฟเผาทุกคน และเมื่อเคียวโกะมาโรงเรียนริโตะก็แทบไม่ต่างอะไรเลย คนภายนอกหวังอยากจับแต๊ะอั๋งท่าเดียว จะมีแต่ริโตะนี้แหละที่แตกต่างจากชายเหล่านี้ ที่ไม่ได้คิดที่จะลวนลามเธอแม้แต่น้อย ซ้ำยังปกป้องเธอ ทั้งๆ ที่พึ่งรู้จักกัน สำหรับเคียวโกะแล้วเธอไม่เคยเห็นผู้ชายแบบนี้มาก่อน ประกอบกับริโตะเป็นชายที่เห็นเธอเปลือยคนเดียวในโลก สิ่งเหล่านี้ทำให้เคียวโกะเริ่มชอบริโตะในที่สุด)

                    หลายคนอาจจดจำตอนนี้จากฉากก๊อกน้ำคิดลึก หากแต่จริงๆ แล้วหากดูดีๆ ตอนนี้แสดงถึงความเก่งของคนเขียนได้เป็นอย่างดี ที่สร้างรูทตัวละครที่ออกมาได้ไม่กี่ครั้งให้ได้อวยได้ขนาดนี้ และทำให้ปักธงได้อย่างไม่มีขัดเขิน นอกจากนี้ฉากเซอร์วิสทำได้เด็ดดวงดีแท้ จนไม่เชื่อเลยว่าตัวละครที่ออกมาไม่กี่ฉาก จะโดดเด่งจนสามารถทำให้หลายคนจดจำได้ขนาดนี้ นี่คือความเก่งของคนเขียน แม้ฮาเร็มตัวละครจะเยอะ แต่แจกแจงบทให้ออกมาได้อย่างมีคุณภาพ แม้ว่าจะออกมาเพียงตอนเดียวก็ตาม



    ผมว่าภาคสองไม่มันเท่าภาคแรกน่ะ

     

    ดำเนินเรื่องน่าผิดหวัง Kamisama no Iutoori Ni ไม่มันเท่าภาคแรก อย่างไรก็ตาม ก็มีการ์ตูนหลายเรื่องที่ดำเนินเรื่องค่อนข้างผิดหวัง และผมก็เลิกติดตามไปหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นแนวฮาเร็มหรือไม่ฮาเร็ม เอาที่น่าจดจำแห่งปี ผมยกให้ Kamisama no Iutoori 2 หรือ Kamisama no Iutoori Ni ไม่มันเท่าภาคแรก ทั้งๆ ที่ภาคแรกนั้นผมอวยซะดิบดี เขียนในบทความยืดยาว ว่าเป็นการ์ตูนแนวเอาตัวรอดที่เน้นบุ๋นและความเสี่ยงในการท้าทายความตาย มุกตลกร้ายที่บ้าบอ การตายที่สะใจ ทำให้ผมโดนและติดอันดับการ์ตูนสุดยอดในใจด้วยซ้ำ แต่อนิจจาภาคแรกจบแบบคว่ำโต๊ะ พอๆ กับปาหมอนเลยทีเดียว

    ต่อมาไม่นานการ์ตูนก็บอกว่ามีภาคสองต่อ ผมก็ดีใจว่ามันจะบ้าเหมือนภาคแรกหรือไม่ คราวนี้ภาคสอง (แต่ช่วงเวลานั้นเป็นช่วงเดียวกับภาคแรก เพียงแต่เป็นมุมมองของตัวเอกอีกคนเท่านั้น) แต่พอดูหลายตอนก็เริ่มถอดหายใจ คือค่อนข้างผิดหวัง ไม่สนุกเท่าภาคแรก อาจเป็นเพราะภาคแรกไม่ได้หวังอะไรมาก แถมไม่ได้ตั้งตัว เลยทำออกมาทั้งโหด มัน ฮ่า แต่ภาค 2 (โครงการ 2) ก็หวังอะไรที่มันโหด มัน ฮ่า ได้ใจ แต่พอมาภาคสอง มันตั้งตัวได้ กลับกลายเป็นว่าไม่สนุกเหมือนตอนแรก อีกทั้งเนื้อหามันยาวขึ้น และตัวละครเยอะขึ้น ไม่ค่อยมีลูกบ้าอะไรมากนัก เลยทำให้ผมเผิดหวังนิดหน่อย (เรื่องนี้ทั้งสองภาคได้ลิขสิทธิ์โดยวิบูลย์กิจ และผมก็ซื้อเก็บทั้งสองภาค)

      

    จบแล้วแต่อารมณ์ไม่จบ สำหรับปีนี้ก็มีการ์ตูนและไลท์โนเวลหลายเรื่องที่จบบริบูรณ์ บางเรื่องก็จบแอปปี้แอนดิ้ง บางเรื่องจบงง บางเรื่องจบแบบเจ็บปวดระทม และบางเรื่องจบแบบทำให้ผมหน้าแตกระทมทุกข์สุดๆ จนผมถึงกลับบ่นปัญหาชีวิตต่อหน้าแม่บ้าน ว่าทำไมโลกนี้ทอดทิ้งเราด้วย (ปานนั้นเชียว)

    จบสไตล์จัมป์ ขอเริ่มจบจากการ์ตูนการ์ตูนหลายเรื่องของจัมป์  ไล่ตั้งแต่ Medaka Box การ์ตูนที่ใช้ระยะเวลายาวนาน 4 ปี พึ่งจบลงเมื่อ 27 เมษายน 2013 ที่ผ่านมา แม้เรื่องนี้ผมไม่ได้ดูก็จริง แต่สิ่งที่ผมจำแม่นคือเป็นการ์ตูนที่หนังเหนียวสุดๆ เพราะอันดับของการ์ตูนอยู่ท้ายๆ สารบัญ (อันหมายถึงยอดนิยม) ของจัมป์มาโดยตลอด แต่เพราะยอดขายรวมเล่มดี ไม่น่าเกลียด ทำให้เรื่องนี้อยู่ยงกระพันเรื่อยมา แต่งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกลาในเมื่อเนื้อหามันต่ออะไรไม่เป็นแล้ว ก็ควรจบ แต่อนิจาจบได้สุดช็อกคาดไม่ถึงเหมือนกัน (แต่ยังดีกว่าปาหมอนละกัน)  ส่วนเรื่องอื่นๆ นอกเหนือจากนั้นส่วนใหญ่จะเป็นตัดจบ ที่มีทั้งคนเสียดาย และไม่น่าจดจดปะปนกันไป

    โดยส่วนตัวแล้วเพราะปีก่อนผมเจ็บซ้ำจัมป์กับการ์ตูนแนวรักๆ จบแบบเซ็งเจ็ด ทำให้ปีนี้ผมไม่ได้รับผลกระทบกับการ์ตูนตัดจบแต่อย่างใด (ความจริงบางเรื่องไม่ทันได้อวยอะไรเลย โดนตัดจบแล้ว เลยรู้สึกเฉยๆ)

    อย่างไรก็ตาม การตัดจบของการ์ตูนเหล่านั้น (รวมไปถึงการ์ตูนที่อยู่ท้ายๆ อันดับของจัมป์) ก็ได้ข้อคิดอย่างหนึ่งคือ จัมป์ปัจจุบันแนวการ์ตูนแบบสมัยก่อน (บู๊ มิตรภาพ หรือรักๆ ธรรมดา) มันไม่ได้รับความนิยมอีกแล้ว มันจะต้องเสริมความแปลกใหม่ ที่มีอะไรนอกเหนือจากบู๊มิตรภาพธรรมดา อย่างเช่นเรื่อง Assassin Classroom และ Shokugeki no Souma ที่ติดอันดับต้นๆ ก็ไม่ใช้บู๊จ๋าอย่างที่เคยเป็นมา แสดงให้เห็นว่าคนอ่านจัมป์เองก็ต้องการความแปลกใหม่ และไม่เน้นบู๊เสมอไป

     


    Kisei Kanojo Sana ฮาเร็มต้องจบแบบนี้สิ (นิยายเล่ม 2 จะมีหรือเปล่าหว่า?)

     

    จบแบบฮาเร็มแห่งปี Kisei Kanojo Sana ถ้าจะเอาตอนจบฮาเร็มแบบแท้ๆ ก็คงจะเป็นเรื่องพยาธิจังKiseiKanojo Sana (ไลท์โนเวลไม่รู้ว่าเป็นเล่มเดียวจบหรือเปล่า เพราะนิยายออกในปี 2011และตามข้อมูลยังไม่รู้เล่มต่อแต่อย่างใด) เป็นเรื่องของคาราโตะหนุ่มน้อยผู้อยากมีชีวิตอย่างสันโดษแต่รอบตัวกลับมีแต่พวกประหลาดๆโดยเฉพาะน้องสาวข้างบ้าน (ควบตำแหน่งด้วยเพื่อนสมัยเด็ก)สุดหื่นที่คอยจ้องแต่จะงาบพระเอกจนกระทั่งวันหนึ่งด้วยอุบัติเหตุเขาได้กินเนื้อหาดิบที่มีไข่พยาธิเข้า และจู่ๆก็มีสาวน้อยปรสิตโผล่ออมาจากท้องเขานั้นก็คือ สาวน้อยพยาธิจังที่ปกป้องคาราโตะผู้เป็นร่างต้นอย่างออกนอกหน้า แน่นอนว่าไม่ได้อ่านไลท์โนเวลแต่ผมเชื่อว่าน่าจะเป็นมังงะที่ถ่ายทอดอารมณ์จากไลท์โนเวลได้ดีเลยทีเดียวเพราะได้อารมณ์ของฮาเร็มครบถ้วน ดำเนินเรื่องแบบฮาเร็ม และจบอย่างฮาเร็มถือว่าเป็นเรื่องที่ทำให้ผมอิ่มฮาเร็มสำหรับปีนี้

     

    Omamori Himari ตอนจบ

     

     ฮาเร็มดังจบแห่งปี Omamori Himari "ฮิมาริเจ้าเสน่ห์" ก็จบในปี 2013 (จบ 9 กันยายน 2013)  เรื่องราวของปีศาจแมวที่มาปกป้องนายน้อยซึ่งเป็นทายาทตระกูลปราบปีศาจ ถามว่าจบประทับใจไหม  คำตอบคือจบเหมือนอนิเมะ (คือสุดท้ายก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง พระเอกก็ไปโรงเรียนเหมือนที่ผ่านมา) ก็ถือว่าจบแบบฮาเร็มทั่วๆ ไปแต่ก็อยากบ่นฉบับมังงะที่ดันไปลากยาวไปเรื่อย ช่วงหลังๆ แถมไม่มีประเด็นอะไรให้น่าติดตามอีกแล้ว เอาเถอะถือว่าจบอย่างที่คุ้มค่าที่ดู สรุปคือการ์ตูนเรื่องนี้ผมชอบตอนปักธงปีศาจน้ำ ถือว่าเป็นรูทดีที่สุดในบรรดาตัวละครในเรื่อง  และสรุปคือตัวละครหญิงหลักๆ พระเอกจูบหมด แต่อนิจจาเพื่อนสมัยเด็กไม่ได้จูบพระเอกเลยสักฉากครับ (แปลกแต่จริง)

                   

     

                    ตอนจบFujimura-kunMeitsu

                   

    ฮาเร็มจบแปลกแห่งปี Fujimura-kunMeitsu เป็นนี้ผมค่อนข้างเซอร์ไฟต์กับตอนจบการ์ตูนมังงะเรื่องหนึ่งที่ตอนแรกผมเมินด้วยซ้ำนั้นคือเรื่องFujimura-kunMeitsu  หรือชื่อไทยคือ ฟูจิมุระกับพลพรรคคนเพี้ยน” (ลิขสิทธิ์สยาม) ซึ่งพึ่งจบในปี 2013 ที่ผ่านมา เป็นเรื่องราวของฟูจิมุระนักเรียนที่เหมือนนักเลงที่คนอื่นไม่กล้าเข้าใกล้หากแต่จู่ๆ เขากลับเนื้อหอมเมื่อมีสาวสามคนที่ชอบเขา อยากเป็นแฟนเขาและแต่ละคนค่อนข้างรั่วและสุดกู่มาก

    ฟูจิมุระเป็นการ์ตูนแนวฮาเร็มที่ค่อนข้างแปลกเพราะเนื้อหาไม่ได้เล่นเกี่ยวกับความรักแบบฮาเร็ม แต่เป็นการเล่นมุกตลกยิงมุกใส่กัน (เพราะเป็นตัวรับมุก ส่วนนอกเหนือจากนั้นเป็นตัวปล่อยมุกทั้งสิ้น)ส่วนฝ่ายพระเอกนั้นก็ไม่ได้มีบทเลิฟสไตล์ฮาเร็มใส่สาวๆและไม่ต้องใช้แรงอะไรมากมายในการปักธงมากนักเพราะสาวส่วนใหญ่ชอบพระเอกตั้งแต่แรกเห็นอยู่แล้วทำให้ในแง่ฮาเร็มถือว่าไม่สามารถอ้างอิงอะไรได้

    อย่างไรก็ตามท่ามกลางการเดินเรื่องที่ผมยังมองไม่ออกว่าแน่ใจเหรอว่านี่คือแนวฮาเร็มเพราะจนแล้วจนเล่าพระเอกก็ไม่เลือกใคร และไม่ชอบใครเป็นพิเศษ(สกิลและนิสัยพระเอกฮาเร็มก็จริงแต่ปัญหาคือมันขาดอะไรบางอย่างที่เป็นแนวฮาเร็มควรมี)เดินไปเดินมาก็มาถึงตอนสุดท้ายของการ์ตูน นั้นคือตอนสุดท้ายพระเอก(ตอนนี้อยู่วัยทำงานแล้ว) ได้พบว่าสามทั้งสาม (สวย) ยอมรับกันได้ว่ารักชายเดียวกันและยินดีจะแต่งงานอยู่ด้วยกัน พระเอกช็อกสุดขีดว่ากฎหมายญี่ปุ่นมันทำไม่ได้ก่อนที่จะมารู้ทีหลังว่าตอนนี้ญี่ปุ่นถูกยึดโดยสาวแว่น (เพื่อนของพระเอก)โดยให้แก้กฎหมายให้พระเอกมีแฟนหลายคนได้กลายเป็นว่าพระเอกสามารถมีแฟนสามคนได้นั้นเอง(ไม่ถามสุขภาพพระเอกสักคำว่าพระเอกเอาหรือเปล่า)และที่ช็อกสองเด้งอีกการ์ตูนท้ายตอนเมื่อสาวแว่นคนนั้นก็มาอยู่ในกรุฮาเร็มของพระเอกด้วย!! (ตามความคิดของผมแล้วผมคิดว่าสาวแว่นคนนี้ความจริงแล้วแอบชอบพระเอก แต่ไม่กล้าแสดงออกและไม่กล้าจะไปแย่งพวกสามสาวเธอเลยใช้วิธีการขึ้นเป็นใหญ่แล้วแก้กฎหมายให้พระเอกมีเมียหลายคนได้เพื่อให้เธอสามารถอยู่ในกลุ่มรักพระเอกได้นั้นเอง)

        

    จบดราม่าแต่จบดีแห่งปี Kimi no Knife ส่วนอีกเรื่องก็นอกกระแสเหมือนกัน และเป็นแนวดราม่าที่แสนจะน่าปวดใจอย่างเรื่องKimino Knifeพึ่งจบเมื่อวันที่24เมษายน2013เรื่องนี้หลายคนอาจไม่ค่อยรู้จักแต่บอกว่าคนเขียนเป็นคนเดียวที่เขียนเรื่อง นักโทษประหาร 042 (Shikeishuu042) หลายคนคงพอรู้จักบ้าง และรู้สไตล์ของคนเขียนคนนี้ดีที่เก่งเรื่องบีบอารมณ์ และการตั้งคำถามมนุษยธรรมซึ่งเรื่องนี้ก็มาแนวเดียวกันโดยเป็นเรื่องของ ชิกิอาจารย์ชั้นมัธยมที่วันหึ่งมีหญิงคนหนึ่งจ้างให้เขาฆ่าคน หนึ่งคนจะได้เงิน 5 ล้านเยนซึ่งพอดีชิกิกำลังต้องการเงินเพื่อดูแลพี่สาวที่ป่วยเป็นมะเร็งเขาเลยตกลงที่จะรับงานร่วมกับชายคนหนึ่งที่เขาไม่รู้จักมาก่อนและนั้นเองทำให้เขาได้รู้จักกับสาวน้อย อิทสึกิลูกสาวเหยื่อรายแรกที่พวกเขาฆ่าและสาวน้อยคนนี้ก็มีพลังจิตมองจิตใจคนอื่นได้....การ์ตูนเรื่องนี้ดำเนินเรื่องตามสไตล์คนเขียนโยนคำถามการตีความเป็นมนุษย์ไปเรื่อยๆแม้ตัวละครในเรื่องอาจไม่ได้ออกแบบโดดเด่นอะไร หากแต่เมื่อการ์ตูนดำเนินไปเรื่อยๆตัวละครก็จะไม่ใช่หุ่นอีกต่อไป ด้วยเนื้อหาซับซ้อน จิตวิทยา น่าติดตามทำให้เนื้อหาดำเนินเรื่องไปถึงตอนท้ายกับจุดจบตัวละครแต่ละครในเรื่องแม้ว่าตอนจบจะดราม่า แต่มันก็สวยงามท้ายสุดแล้วคนเราทำกรรมอะไรเอาไว้ก็ได้รับผลกรรมนั้น(อ่านเรื่องนี้แล้วอิ่มความเป็นหมีรักเด็ก)

    (ต้องขออภัยที่ผมไม่สามารถสปอยตอนจบมังงะบางเรื่องได้)

    คราวนี้มาถึงเรื่องจบผิดหวัง สำหรับปี 2013 มีไลท์โนเวลและมังงะที่จบได้แสนระทมใจผมเหลือเกิน หลายคนอาจไม่รู้สึกเท่าไหร่ เพราะมันจบดี แต่มันจบไม่ถูกใจผมเท่านั้นเอง

    จบได้ผิดหวัง  Seishun Pop! (ผมเชื่อเลยด็อกกี้ ผู้ซึ่งมักมีความคิดเห็นขัดแย้งกับผมเสมอย่อมเห็นด้วยกับความคิดผมด้วย) ในขณะที่ฮาเร็มเทพมังกรทำให้ผมกลับมาศรัทธาอีกครั้ง แต่เรื่องนี้กลับตรงกันข้าม ทั้งๆ ที่เนื้อหาสองเรื่องที่ว่าคล้ายกัน คือเปิดฉากมาเป็นเรื่องรักใสๆ แต่ตอนหลังกลับกลายเป็นด้านมืดดราม่า  ฮาเร็มเทพมังกรยังดิ้นมาผงาดได้ แต่ Pop ไม่ได้โชคดีขนาดนั้น พระเอกเอากับสาวแว่นเพื่อนร่วมห้อง แต่อนิจาคำสาปสาวแว่นผมสั้นนมโตช้ำรักทำให้เนื้อหาดราม่าและจบโดยที่ไม่ได้กับพระเอกเลย แถม ทำให้น้องแว่นเป็นบ้า ตอนจบก็แยกคนละทิศละทาง พระเอกได้กับพี่สาวจบค้ำคอร์ไป ไม่น่าเชื่อเลยว่านี้คือคนเขียนสายมืด (คนเขียนสายมืดคนนี้ไม่เคยวาดแนวมืดฮาเร็มครับ) ตอนจบผมไม่รู้แหละว่าหลายคนคิดอะไร แต่สำหรับผมแล้วไม่คุ้มค่าในการรอคอยเลย สำหรับการ์ตูนที่เขียนมา 2009 และขอบอกว่าตั้งแต่ฉากพระเอกเอากับสาวแว่นผมแทบไม่ได้ติดตามเลย (อ่านแต่สปอย) ยิ่งไปดูสปอยตอนจบ ยิ่งไม่คุ้มค่าเลยแม้แต่น้อย มันประทับใจก็จริง แต่ความรู้สึกผมไม่คุ้มค่าที่จะดูครับ

     

      

    โดจิน รักจำลองน้องสาวสุดเลิฟ หนึ่งในโดจินที่ผมชอบเลยน่ะ ...เอ่อ

     

                    ดราม่าที่น่าจดจำแห่งปี ถ้าจะถามว่าปีนี้ไลท์โนเวลเรื่องไหนจบได้โด่งดังที่สุดคงจะเห็นไม่เกินไปกว่า Oreimo  (Ore no Imouto ga Konnani Kawaii Wake ga Nai ) หรือ น้องสาวของผมไม่น่ารักขนาดนั้นหรอก (ถ้าเป็นเซ็นซูจะใช้ชื่อ น้องสาวฉันไม่น่ารักเลย”)

                    ก่อนอื่นผมก็ออกตัวก่อนว่าผมไม่ได้ติดตามนิยายเรื่องนี้ อนิเมะก็ดู 1-3 ตอน ไม่ได้ดูอะไรมากมาย แต่ก็ยอมรับว่า Oreimo ถือว่าเป็นนิยายไลท์โนเวลที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงทั่วโลก และกลายเป็นตำนานไปแล้ว (จากภาพประกอบน้องสาวทำท่าเชิดหยิ่ง และพี่ชายทำหน้าเจี๋ยนๆ อยู่ด้านหลัง) โดยเนื้อหาเกี่ยวกับคุณพี่ชายเคียวสุเกะที่สานสัมพันธ์กับน้องสาวคิริโนะโดยมีเกม +18 เป็นตัวเชื่อม

                    นิยายเรื่องนี้ถือว่าเป็นนิยายดังในประเทศญี่ปุ่น อีกทั้งมีแฟนอวยกันเยอะ หลายคนอวยคิริโนะ, บางคนอวยแมวดำ, บางคนอวยอายาเสะ เห็นได้จากการก่อเกิดโดจินมากมาย (และแนวข่มขืนแก้แค้นตัวละครบางตัว ซึ่งไม่ต้องบอกกรู้ว่าเป็นใคร) และบ้านเราก็อวยตัวละครโหดเรื่องหนึ่ง  (อีกเรื่องก็มี IS, ชมรมไร้เพื่อน ที่อวยกันดุเดือดมาก)

                    แน่นอนว่าหลายคนอยากรู้มากว่านิยายเรื่องนี้จะจบลงอย่างไร สุดท้ายแล้วเคียวสุเกะจะเลือกใครเป็นคนรัก เพราะชีวิตของเคียวสุเกะมีรูทปักธงสาวๆ หลายคนชนิดหลายคนอิจฉา (ยกเว้นผมซึ่งผมก็ไม่ได้ลุ้นอะไรเลย )

                    จนกระทั่ง ปี 2013 นิยายเรื่องนี้ก็มาถึงบทสรุปของเนื้อเรื่อง นั้นคือการวางจำหน่ายเล่ม 12 (นิยายเล่มสุดท้ายวางแผงเมื่อ 7 มิถุนายน 2013)  โดยก่อนหน้านั้นกระแสนิยายเรื่องนี้รุนแรงมากจากการด่าทอแว่นเพื่อนสมัยเด็ก ขนาดผมไม่ได้อ่านนิยายก็ทนไม่ได้ที่จะเมินกระแสนั้น (เพราะผมเป็นพวกอวยเพื่อนสมัยเด็ก) ทำให้ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดว่าจะจบลงในรูปแบบใด

                    อย่างไรก็ตาม ไม่ทันที่นิยายวางจำหน่ายก็มีกระแสดราม่า (หรือเปล่า?) ออกมานั้นคือข่าวลือสปอยตอนจบของนิยาย ว่าสุดท้ายและเคียวสุเกะจะจบรูทคิริโนะ (ค้ำคอร์) ซึ่งเป็นตอนจบที่หลายคนรับไม่ได้เป็นอย่างมาก เพราะที่ผ่านมาความสัมพันธ์ระหว่างเคียวสุเกะกับคิริโนะเป็นแบบพี่น้องมาโดยตลอด ไม่ใช่คู่รักแบบชายหญิง  (บอกแล้วว่าตอนจบฮาเร็มดีที่สุด)             

                    ความรับไม่ได้นี้นอกเหนือจากอารมณ์ความร้อนแรงและความโกรธแล้ว (ประมาณว่าแล้วแมวดำของกรูมิ่งเอาไว้ที่ไหน) ยิ่งต่อมามีการโพสภาพจากญี่ปุ่น เป็นภาพสภาพนิยายถูกเครื่องทำลายเอกสารตัดเป็นชิ้นๆ เหมือนแสดงเห็นว่าคนอ่านรับไม่ได้กับตอนจบดังกล่าว ยิ่งทำให้หลายคนเชื่อเข้าไปใหญ่ว่าตอนจบเตียวสุเกะกับคิริโนะค้ำคอร์กันจริง (ทั้งๆ ที่ภาพที่ว่าโพสก่อนนิยายออกมาด้วยซ้ำ)

                    ส่วนไทยเราก็ไม่น้อยหน้า ไม่ห่างกันกี่วันก็มีใครคนหนึ่ง ไปโพสภาพเผานิยายน้องสาวเล่ม 1 (เพียงเล่มเดียว) ในเว็บอนิเมะดังของไทยเข้า ไม่รู้คนที่ทำอาศัยกระแสหรือเกลียดตอนจบจริงๆ หรือเปล่า แต่นั้นก็ได้สร้างความแค้นให้กับหลายคน บอกว่าการเผาหนังสือนั้นไม่ผิด ทำลายข้าวของ ไม่รู้คุณค่าหนังสือ ด่าว่าคนที่เผานั้นมันเกรียน (มันเกรียนจริงแหละ), เด็กอวดรวย (มันไม่ใช่เด็กอ่ะดิ), ฯลฯ และต่อมาภาพเผาที่ว่าก็มีคนโพสไปยังเว็บฝรั่ง และฝรั่งก็ด่าคนที่เผาตามระเบียบว่า เจ้าไม่รู้คุณค่าหนังสือ!!จนโด่งดังไปทั่วโลก

                    แม้ว่ากระแสความเกลียดชังตอนจบน้องสาวจะออกมาเลวร้ายก็ตาม แต่นั้นก็ไม่ได้ส่งผลกระทบกับยอดขายนิยายแต่อย่างไร เพราะยอดขายนิยายเล่มสุดท้ายพุ่งกระฉูดติดอันดับต้นๆ ด้วยซ้ำ และเมื่ออ่านเนื้อหาตอนจบจริงๆ ก็พบว่ามันแตกต่างจากสปอยพอสมควร (อาจมากด้วยซ้ำ) เพราะตอนจบจริงๆ ก็คือ ค้างคาคือพี่ชายรักน้องสาวจริง แต่ต่อมาทั้งสองก็เลิกกัน และความสัมพันธ์กันแบบพี่น้องเหมือนเดิม.......อย่างไรก็ตาม ตอนจบนี้หลายคนก็รับไม่ได้อยู่ดี เพราะบางส่วนอยากเห็นตอนจบที่พระเอกได้กับคนใดคนหนึ่งมากกว่า ผลคือความเห็นของหลายคนบอกว่านี่คือฉากจบ Bad Ending (บอกแล้วว่าให้ฮาเร็มไม่เชื่อ) ส่วนอนิเมะก็จบแบบไม่ดีอย่างคาดหวังไว้

                    ไม่ว่าตอนจบน้องสาวดีหรือไม่ดี สิ่งที่ตามมาคือ มีหลายคนขายหนังสือมือสองน้องสาวเยอะขึ้น มีโดจินเยอะขึ้น คนแต่งนิยายเองก็ออกนิยายซีรีย์ใหม่แถมยังเป็นแนวพี่ชาย-น้องสาวคล้ายกันเด๊ะ (แต่จะประสบความสำเร็จหรือไม่นั้นก็ติดตามต่อไป) และที่สำคัญผมเสียโง่ไปเต็มๆ เหมือนกับกับสปอยตอนจบแบบนี้

     

     

    หน้าปกยัยกรรไกรใจร้ายกับนายหมาดวงซวยของเซ็นซู

     

    นอกเรื่อง น่ากลัวแห่งปี “อย่าให้เซ็นซูลิขสิทธิ์ไลท์โนเวลที่ฉันอวยเลย” ปีนี้ถือว่าเป็นไลท์โนเวลเริ่มเข้ามาบทบาทในแผงหนังสือประเทศไทยโดยแท้  เห็นได้จากลิขสิทธิ์ไลท์โนเวลที่สำนักพิมพ์ไทยประกาศเยอะขึ้น และส่วนใหญ่เป็นเรื่องดัง (ส่วนตัวผมชอบฮาเร็มที่ไม่ดังมากกว่า)  ยอดขายก็ดีขึ้น (ในไทย) และหลายคนก็เริ่มรู้จักคำว่าไลท์โนเวลมากขึ้น (จากที่ผ่านมาไม่รู้อะไรเลย) จนหลายคนว่าไลท์โนเวลเริ่มแบ่งยอดขายของนิยายเยาวชนแต่งได้พอสมควรเลย

    ในประเทศไทยนั้นมีสำนักพิมพ์ที่เป็นตัวแทนจำหน่ายนิยายไลท์โนเวลหลักๆ อยู่สามสำนักพิมพ์ที่เป็นที่รู้จัก และมีจุดเด่นแตกต่างกันออกไปแล้วแต่นโยบายการจำหน่ายไลท์โนเวล สำนักพิมพ์แรกคือเอ-พลัสที่เน้นลิขสิทธิ์ไลท์โนเวลเรื่องไม่ค่อยดัง, รักพิมพ์ที่เน้นไลท์โนเวลฮาเร็มหรือเซอร์วิส (อันเป็นสำนักพิมพ์ที่ผมอวยที่สุด) และเซ็นซูที่เน้นลิขสิทธิ์ไลท์โนเวลที่ดังและมีอนิเมะมาแล้ว

    แน่นอนว่าหลายคนพยายามที่จะเปรียบเทียบว่าไลท์โนเวลสำนักพิมพ์ไหนแปลดีที่สุด หลายคนบอกว่าสำนักพิมพ์เอ-พลัสดีที่สุด แต่ส่วนตัวผมแล้วผมชอบการแปลของรักพิมพ์มากกว่าที่มีลูกเล่นตัวอักษร และเป็นสำนักพิมพ์ที่บุกเบิกไลท์โนเวลแรกๆ ของไทยด้วย (หลังจากเจบุ๊คล่มสลาย) และเน้นแนวฮาเร็มด้วย (แม้หลายเรื่องจบวินก็เถอะ) ผมเลยอวยเป็นพิเศษ

    หลายคนมักพูดว่าการแปลนิยายของเซ็นซูถือว่าแย่ที่สุดในเวลานี้ เพราะปีนี้เราได้เห็นคำบ่นเกี่ยวกับการแปลสำนักพิมพ์นี้อยู่ไม่ขาดสาย

    เซ็นซูนั้นเป็นสำนักพิมพ์ที่พึ่งมีชื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่ไม่นานก็เป็นสำนักพิมพ์ที่หลายคน(ที่ชอบอ่านไลท์โนเวล) รู้จัก โดยเฉพาะ Sword Art Online กลายเป็นนิยายที่สร้างชื่อให้สำนักพิมพ์นี้ จากงานหนังสือที่มีคนต่อแถว และยอดขายที่ถล่มทลาย และไม่นานก็มีไลท์โนเวลดังๆ ที่สำนักพิมพ์ที่ประกาศออกมาเพียบ เรียกได้ว่ามากกว่าเอ-พลัสและรักพิมพ์ก็ว่าได้ นอกจากนี้ไลท์โนเวลก็ออกมาวางขายต่อเนื่อง

    อย่างไรก็ตาม ในจำนวนนิยายมากมายที่เซ็นซูประกาศลิขสิทธิ์ ก็มีหลายเรื่องที่คนอ่านออกมาบ่นว่าแปลแล้วอ่านไม่รู้เรื่อง ใช้ประโยคได้ไม่สละสลวย ใช้ภาษาต่างดาว  คำผิดเบอะ โดยเริ่มมาจากมีคนบ่นว่า วานาดีสกับราชันกระสุนมนตรา สำนวนอ่านไม่รู้เรื่อง หลังจากนั้นก็มีเรื่อง ยัยกรรไกรใจร้ายกับนายหมาดวงซวย, หนุ่มสามัญกับสาวหลุดโลก ที่คนต่างออกมาบ่นว่าอ่านไม่รู้เรื่องตามมา (ทั้งหมดต้นฉบับมีสำนวนอ่านยากเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ซึ่งแสดงให้เห็นว่าไลท์โนเวลไม่จำเป็นต้องมีสำนวนที่อ่านง่ายเสมอไป)

    และแน่นอนประเด็นที่เป็นที่ถกเถียงกันอย่างกว้างขวาง บางคนบอกว่าอาจไม่เกี่ยวกับการแปล แต่น่าจะเป็นเพราะเนื้อหาของนิยายไลท์โนเวลที่ต้นฉบับจริงๆ อ่านยาก เข้าใจยากอยู่แล้ว แต่ประเด็นดังกล่าวถูกโต้ตอบกับการเอาต้นฉบับ ก็พบว่าแปลไม่รู้เรื่องจริงๆ การเรียบเรียงประโยคของสำนักพิมพ์มีปัญหาจริงๆ หลังจากนั้นเป็นต้นมาสำนักพิมพ์เซ็นซูก็ไม่ใส่ชื่อคนแปล และหลายคนมักให้พรว่าอย่าให้ไลท์โนเวลดังๆ ถูกลิขสิทธิ์โดยเซนซูเลย ส่วนตัวผมไม่พบเจอการแปลที่ว่าของเซ็นซู  เพราะไลท์โนเวลเซ็นซูไม่เคยมีแนวฮาเร็มสักเท่าไหร่ แต่ถ้าถามสำนวนการแปล สำนักพิมพ์นี้แปลไม่ค่อยถูกใจผมมากนัก เพราะการเรียบเรียงการใช้สำนวนยังไม่ลงตัว

     

    เจ็บใจแห่งปี ฟินน่ะไม่มีในโลกหรอก มันมีแต่รับได้หรือรับไม่ได้เท่านั้นคำกล่าวนี้เป็นคำพูดหลังจากอ่านสปอยไลท์โนเวล ชมรมไม่กลับบ้าน (Kono bushitu ha kitakushinai bu ga senkyo shimashita) หรือ รวมพลคน(? )ไม่กลับบ้าน

                    เรื่องของเรื่องคือตอนแรกผมอวยนิยายไลท์โนเวลเรื่องนี้มาก ถึงขั้นบอกว่าเป็นการ์ตูนโครตฮาเร็ม เรื่องของพระเอกที่มีนิสัยซิสคอมอย่างหนักได้ก่อตั้งชมรม “ไม่กลับบ้าน” ขึ้นเพื่อให้เขาและสมาชิกที่มีแต่ผู้หญิงได้ใช้ชีวิตอยู่ในโรงเรียนด้วยกันอย่างน่าอิจฉา น้องหมาน่ารัก  ผมงี้มั่นใจถึงขั้นเขียนว่าเรื่องนี้ดำเนินเรื่องอย่างฮาเร็ม น่าจะจบอย่างฮาเร็มแน่นอนชัวร์ป๊าป

                    แต่กลายเป็นว่าหลังจากอ่านสปอย แล้วสปอยว่ามันจบ “วิน” วินยังไม่พอยังอีกหลายปีต่อมาทุกคนแยกย้ายกัน  (รายละเอียดหาอ่านเอาน่ะครับ) ผมช็อกทั้งยืน โอเคมันจบฟิน มันเป็นตอนจบประทับใจ แต่ “ฟินมันไม่มีในโลก มันอยู่ที่รับได้หรือไม่ได้เท่านั้น ผมค่อนข้างเป็นคนคลั่งฮาเร็มในฝัน ผู้ชอบจบฮาเร็มเท่านั้น การจบวินเป็นสิ่งที่ไม่มีวันที่ผมจะอ่านหรือดูเด็ดขาด  ดังนั้นปกตินี้ถ้าผมรู้ว่าเรื่องไหนยไม่มีทางจบฮาเร็ม คงจบวิน ผมก็จะไม่ดูเลย

    แน่นอนว่าเราไม่สามารถรู้ตอนจบเรื่องนั้นๆ ได้ ดังนั้นจำเป็นต้องคาดเดาเนื้อหาว่าจะจบยังไง การดำเนินเรื่องจะนำพาไปตอนจบฮาเร็มหรือไม่ ที่ผ่านมาผมมั่นใจมาตลอดในการเดาตอนจบแนวฮาเร็ม ไม่เคยพลาด ไม่ว่าจะเป็นมังงะหรือไลท์โนเวล แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ผมคาดเดาพลาด ที่เจ็บใจคือผมซื้อไลท์โนเวลมาแล้ว นี้สิ (แต่ก็ขอขอบคุณสปอยเหมือนกันที่ทำให้ผมไม่ซื้อต่อ)  จำได้เลยว่าตอนรู้ตอนจบสปอยนี้ผมเซ็งถึงขั้นบ่นต่อหน้าแม่บ้าน ทั้งๆ ที่แม่บ้านไม่ได้รู้เรื่องอะไรกับเขาด้วยสักนิด

     

     

                    สรุปคือก็จบลงเพียงเท่านี้กับการอ่านมังงะที่ผ่านมาของผมประจำปี 2013 รสนิยมใคร รสนิยมมัน ผมชอบแนวฮาเร็ม จบแบบฮาเร็ม ผลก็คือเป็นแบบนี้ หากไม่ถูกจิตใครก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะเป็นการ์ตูนแนวใด ไม่ว่าจะเป็นมืดและสว่าง พยายามอ่านเพื่อหาข้อคิด คติประจำใจ  อ่านเพื่อเป็นแรงบันดาลใจเพื่อนำไปปรับใจในชีวิตประจำวันน่ะครับ

                    สำหรับปีหน้าผมก็ยังคงลุ้นการ์ตูนฮาเร็มหลายเรื่องว่าจะจบดีหรือไม่ดี โดยเฉพาะเรื่อง Sora no Otoshimono ว่าจะจบลงอย่างไร (อีกไม่กี่วันก็จะจบแล้ว) ซึ่งตอนนี้ผมยังไม่พูดอะไรมากมายเกี่ยวกับเรื่องนี้ รอบทสรุปของเรื่องก่อนว่าเรื่องนี้จะจบฮาเร็มอย่างน่าพอใจสมกับที่ลุ้นกันมาตลอดอย่างนาวนานหรือไม่

    นอกจากนี้ ปีหน้าผมยังคงมีเรื่องให้เขียนอีกเยอะ ไม่ว่าจะเป็นอนิเมะ มังงะเก่าหรือใหม่ ซึ่งจะเน้นพวกไม่ดังเป็นหลัก (ส่วนมากแนวฮาเร็ม และแนวสยองขวัฐเอาตัวรอด) ซึ่งตอนนี้มันอยู่ในหัวผมแล้ว ปีหน้าผมยังเขียนบทความนี้อยู่ครับ ไม่ได้หนีไปไหน

     

    สุดท้ายนี้ขอให้ทุกคนมีความสุข ยกเว้นเดวิด มอยด์ครับ


     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×