ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดูการ์ตูนอย่างแมว ๆ

    ลำดับตอนที่ #194 : Pumpkin Scissors สงครามยังไม่จบ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 5.1K
      3
      9 มิ.ย. 56


    Pumpkin Scissors เป็นการ์ตูนแนวทหารและสงครามที่เต็มไปด้วยข้อคิดอันหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นความรักระหว่างหน้าที่การงาน, เจ้านายและลูกน้อง, หญิงและชาย, คนมากประสบการณ์และคนอ่อนด้อยประสบการณ์, ความรักของครอบครัว และการประชาสัมพันธ์และการบรรเทาสงคราม ที่หลายคนคิดว่าเป็นงานที่ง่าย กระจอก หากแต่ความจริงแล้วมันไม่ง่ายเลย เพราะพวกเขาที่ทำงานดังกล่าวต้องลงมือปฏิบัติจริง ต้องลงไปในพื้นที่กันดาล และคนในพื้นที่ไม่ต้อนรับพวกเขา และเป็นคนของรัฐบาลที่พวกเขาเกลียดชัง ทำให้ต้องเผชิญอันตรายรอบด้านไม่ว่านอกและใน

     

     
    Pumpkin Scissors

    ทหาร สงคราม

     

    Pumpkin Scissors (ฟักทอง กรรไกร) เป็นมังงะที่แต่งและวาดโดย  Ryoutarou Iwanaga ต่อเนื่องมาในนิตยสาร GREAT ในปี 2002 จนถึงปัจจุบันยังไม่จบ (นานน่ะนั้น) และถูกย้ายไปต่อในนิยสารโชเนนรายเดือน 2006 และถูกสร้างเป็นอนิเมะเมื่อปี 2006 มี 24 ตอนจบ ส่วนในไทยมังงะลิขสิทธิ์โดยวิบูลย์กิจ ภายใต้ชื่อเก๋ๆ ลิเกนิดๆ ว่า “หน่วยพิทักษ์ธรณิน”

                    เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นหลังสิ้นสุดสงครามแห่งราชอาณาจักรกับสาธารณรัฐฟรอสท์มาได้ 3 ปี หลังจากสงบสุขภายใต้ “สนธิสัญญาน้ำแข็งบาง” แต่เหตุการณ์ในประเทศราชอาณาจักรยังคงวุ่นวายปั่นป่วน เพราะบาดแผลของสงครามนั้นบาดลึกถึงข้างใน จนยากจะรักษาให้ขายขาดไม่กี่ปี ทุกพื้นที่เต็มไปด้วยความอดอยาก โรคระบาด และกองโจรซุกซุมอยู่ทั่วทุกแห่งหน ปัญหาทั้งหมดเหล่านี้ถูกเรียกรวมกันว่า “ภัยพิบัติหลังสงคราม”

                    ผู้ปกครองระดับสูงของจักรวรรดิที่เป็นห่วงเป็นใยในเรื่องนี้ได้จัดตั้งหน่วยที่ 3 ขึ้น (โดยมีตราเป็นพักทองกับกรรไกร หรือเรียกว่าหน่วยฟักทองกรรไกร) ในกองข่าวกองทัพบกเพื่อทำหน้าที่ฟื้นฟูความเสียหายของสงคราม แต่ความจริงแล้วเป็นเพียงวิธีหางบประมาณของกองทัพ คือ “ข้ออ้าง” เพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนไม่พอใจ แต่หน่วย 3 ยังคงพยายามทำหน้าที่ฉีกเปลือกนอกของความหลอกลวงและเสื่อมทรามสังคมอย่างจริงจัง

    ส่วนใหญ่แล้วงานของหน่วยที่ 3 จะไม่ค่อยเสี่ยง เป็นงานง่ายๆ จนชาวบ้านหรือแม้แต่คนในกองทัพเองก็มองหน่วยนี้ว่าเป็นส่วนเกินของกองทัพ ที่ผลาญงบประมาณของแผ่นดิน อย่างไรก็ตาม ภายใต้การนำของ “ร้อยตรีอลิซ” หัวหน้าหมวดผู้รักศักดิ์ศรีและมุ่งมั่นทำหน้าที่ฟื้นฟูความเสียหายหลังสงคราม แม้ว่าเธอจะเป็นถึงเชื้อพระวงค์ลำดับที่ 13 ก็ตาม แต่เธอยังคงทำตัวติดดินและมุ่งมั่นทำหน้าที่ของตนอย่างขยันขันแข็งทุกวัน ทำให้หน่วยนี้พอมีอนาคตขึ้นมาบ้าง

                    จนกระทั่งวันหนึ่ง ในขณะที่เหล่าสมาชิกภาคสนามของหน่วยที่ 3 ไปหาข่าวกลุ่มโจรที่ยึดเขื่อนในหมู่บ้านแห่งหนึ่งนั้น ที่นั่นร้อยตรีอลิซได้เจอชายร่างยักษ์คนหนึ่งชื่อ “โอแลนด์” ที่ร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผล

    ชายร่างยักษ์คนดังกล่าวอดีตเคยเป็นทหารที่มีประสบการณ์โชกโชน ในกองร้อย 901 ATT (Anti Tank Trooper) ที่เป็นที่หวาดกลัวต่อฝ่ายศัตรูและทหารด้วยกัน ภายนอกเหมือนเป็นคนใจดี อารมณ์อ่อนไหว และหัวอ่อน หากแต่เมื่อเกิดอันตรายขึ้น เขาจะจุดไฟตะเกียงสีน้ำเงินทำให้เขาอยู่โหมดด้านมืด กลายเป็น “ทหารไม่แยแสในชีวิต” เหมือนซอมบี้ที่ไร้หัวใจ ที่ไม่สนต่อความกลัวและความตาย จนกว่าจะเด็ดชีพชีวิตศัตรูให้ได้ จนกลายเป็นหวาดกลัวต่อศัตรูและทหารพวกเดียวกัน และด้วยซะตาที่ต้องกันระหว่างร้อยตรีอลิซที่มีต่อกับชายร่างยักษ์ ทำให้ชายร่างยักษ์ได้เข้าร่วมกับหน่วย 3 ในฐานะ “สิบโท” (ในอนิเมะพากษย์ไทย เรียก “จ่า”) และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงบทบาทหน่วยที่ 3 ที่ต้องสั่นคลอนในเวลาต่อมา

     
                 Pumpkin Scissors เป็นการ์ตูนแนวแอ็คชั่นที่ฉากหลังเป็นยุคหลังสงคราม ที่เนื้อหาสอดแทรกการเมืองและชนชั้นวรรณะสังคม ไม่ว่าชนชั้นต่ำ (โสเภณี คนธรรมดา ทหาร ไปจนถึงเชื้อราชวงค์) อย่างแยบยล การดำเนินเรื่องจัดได้ว่าสามารถสร้างเป็นภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ได้สบาย

    แม้เนื้อหาของเรื่องจะออกมาแบบสงครามที่แต่งขึ้น แต่กระนั้นอารมณ์ของการ์ตูนจะคล้ายกับสงครามในยุโรปตะวันตก คล้ายกับสงครามโลกที่เกิดขึ้นในศตวรรษที่ 20 (สงครามโลกครั้งที่ 1? แต่ศึกนี้เหมือนเยอรมันกับรัสเซีย และประเทศพระเอกเป็นเยอรมัน!??)

                  พูดตามตรงคือผมดูการ์ตูนเรื่องนี้เพราะชอบสิบโทครับ (เวอร์ชั่นเปิดตะเกียง หลอนและเท่สาด) ทั้งที่ความจริงแล้วผมไม่ค่อยชอบการ์ตูนญี่ปุ่นแนวสงครามสมมุติเท่าไหร่  (ส่วนมากชอบแนวสงครามโลกครั้งที่ 2 ไม่ก็สงครามเวียดนามมากกว่า) แม้การ์ตูนในเรื่องจะมีตัวละครหลายตัวที่โดดเด่น ที่มาแบบอวยเป็นคู่ๆ เช่น จ่าสิบเอกมาติสกับเจ้าหญิงเซปเทียน โซลิซ(พี่สาวของอลิซ)กับพันเอกบลันบัลด์, รองหัวหน้าหมู่หน่วยที่ 1 และฟรานซิสก้า  ฯลฯ  แต่ผมก็ยังชอบสิบโทและอลิซอยู่ดี (แต่เล่ม 10 นี้ผมชอบอุลซูร่า ไม่รู้เธอจะสมหวังหรือเปล่า?)

                    สิบโทรันเดล โนแลนด์ (ที่ขำคือการ์ตูนพากย์ไทยว่าจ่าโนแลนด์ ลดยศเฉยเลย ในขณะที่บางที่ก็อ่านแรนเดล) ทหารร่างยักษ์ (น่าจะสูงเจ็ดฟุต) ที่ปลดออกจากกองทัพที่เข้าร่วมหน่วยพัมพ์คินซิสเซอร์ส อดีตเคยเป็นทหารของหน่วยลับหน่วย 901 ใช้ทหารเดินเท้าที่ฝึกฝนมาเพื่อต่อสู้กับรถถังโดยเฉพาะ โดยหน่วยนี้เป็นที่รู้จักในชื่อ "Gespenster Jäger" (ภาษาเยอรมันเรียกว่า “ผีนักล่า”) โดยเมื่อเปิดตะเกียงโคมไฟสีฟ้า (601-ATT) จะอยู่ในโหมดผี ที่เป็นทหารที่ไม่สนใจความเจ็บปวดและความกลัว และจะตรงเข้าไปหาจุดอ่อนของรถถัง และใช้ปืนขนาดใหญ่และกรรไกรยักษ์ตัดโลหะเป็นอาวุธ และด้วยการต่อสู้แบบบ้าเลือดนี้เองทำห้าสิบโทต้องเข้าโรงพยาบาลย่อยครั้ง และมีปัญญาเรื่องการหาโถปัสสาวะในการสอดใส่ประจำ ปัจจุบันสิบโทไม่มีบ้านที่อยู่อาศัย เวลานอนต้องนอนที่ใต้สะพานจนเป็นที่สนิทสนมกับขอทานในบริเวณนั้น

                    ทำไมผมชอบสิบโทโอแลนด์ ถ้าพูดถึงพระเอกแนวสงครามนี้คุณจะคิดถึงพระเอกหล่อ มาดเท่ ฉลาด ยอดนักวางแผน เก่งเทพ ใช่เปล่าครับ แต่สิบโทของผมนี้ตรงกันข้ามเลยครับ เพราะพี่แกดูออกบื้อๆ เหมือนไม่ค่อยสู้คน ใหญ่แต่ตัวเหมือนทำอะไรไม่ค่อยเป็น แต่ปรากฏว่าหากอยู่ในสถานการณ์ล่อแหล่มหรืออันตรายพี่แกนี้เป็นที่พึ่งได้เลย ยิ่งในช่วงเปิดตะเกียงนี้เท่สาด ทั้งหลอน ทั้งโหด ศัตรูที่ว่าแน่ เกรียม มาเจอสิบโทนี้มีอันต้องหวาดกลัวสุดขีดก่อนที่จะถูกฆ่าตายอนาถ เรียกได้ว่าสะใจพระเอกเดชพระคุณผมมาก

    โดยเฉพาะฉากเปิดตัวสิบโทนี้ผมนึกว่าจะเป็นพระเอกแนวสงครามทั่วไปซะอีกแบบมีสกิลหลบหลีกว่องไว สู้เท่สาด พระเอกไม่บาดเจ็บสักนิด แต่ปรากฏว่าสิ่งที่ผมคิดกับผิดหมด เมื่อพระเอกอยู่โหมดต่อสู้นี้ ผมแทบตกตะลึง เมื่อมนุษย์ตัวเป็นๆ ต่อสู้กับรถถัง แถมสู้แบบวิ่งเข้าไปหา ไม่ใช้แบบว่องไวราวกับจอมยุทธ์หรือนินจาแม้แต่น้อย หากแต่สู้แบบบ้าระห่ำ คือเดินเข้าไปหารถถังแบบตรงๆ เลย มันเป็นการต่อสู้แบบฆ่าตัวตายชัดๆ ถ้าเป็นชีวิตจริงนี้สิบโทมีกี่ชีวิตก็ไม่เหลือ หากแต่การ์ตูนได้เพิ่มองค์ประกอบต่างๆ ให้สิบโทสามารถเอาชนะรถถังได้ เนื่องจากสมัยนั้นรถถังหุ้มเกราะที่ใช้สงครามไม่ได้เป็นรถหุ้มไอเทคจับเป้าแบบอัตโนมัติ ทำให้เวลาจะยิงศัตรูต้องเล็งเป้าเอาเอง และจะยิงตอนที่ศัตรูชะงักหรือหวาดกลัว หากแต่เมื่อเจอสิบโทโหมดผี ที่เดินตุ่ยๆ เข้ามา พวกพลรถถังก็ทำอะไรไม่ถูก และเมื่อยิ่งใหล้เข้ามาเมื่อไหร่ ก็ยิ่งทำให้หวาดกลัวยิ่งขึ้น และเมื่อถึงระยะประชิด สิบโทจะใช้ปืนยิงศัตรูอย่างโหดเหี้ยม ไม่มีความปราณีใดๆ ทั้งสิ้่น (เมพสุดๆ)

                    แต่ผมก็ทำใจระดับหนึ่งว่าสิบโทของผมจะมีชีวิตรอดปลอดภัยหรือเปล่า ร่างกายสิบโทนี้นับวันผุพังมากขึ้น ( พอๆ กับลุงกั๊ซเลยแหละ) แถมด้วยฤทธิ์ตะเกียงไฟ (ที่ตอนนี้ก็เริ่มรู้สาเหตุแล้วว่าเกิดจากหนอนจักจั่นที่ถูกฝังที่สมองกับเอวซ้ายที่จะเกิดปฏิกริยาเมื่อสิบโทเปิดแสงตะเกียงก็จะบ้าคลั่ง) อยากฆ่าคนมากขึ้น ไม่รู้ประเด็นจะเอามาเล่นอะไรอีกในเล่มต่อไป และปกติแล้วหากพระเอกที่ฆ่าคนเป็นจำนวนมากส่วนมากมักจบไม่สวย.....

     

     

                    ร้อยตรีอลิซ มาร์วิน  ตัวละครหลักหญิง (นางเอก) ของเรื่อง มีอำนาจเป็นอำดับสองในพิมพ์คินซิสเซอร์ส เป็นทหารรุ่นใหม่ที่ไม่มีประสบการณ์ในสนามรบ เนื่องจากสงครามเลิกในช่วงจบการศึกษาเสียก่อน (แถมประกาศหยุดการรบกลางพิธีจบการศึกษาด้วยซ้ำ) เป็นร้อยตรีทหารที่อารมณ์ร้อนและบ้าบิ่น และเห็นขยันในการทำหน้าที่และเห็นอะไรที่อยุติธรรมไม่ได้ต้องโดดเข้าไปยุ่ง ครอบครัวของอลิซเป็นเชื้อพระวงศ์และเหล่าพี่สาวต่างมีคนรักหมด มีแต่อลิซเท่านั้นที่ยังไม่มีความรักหรือใช้ชีวิตแบบผู้หญิงธรรมดา จนกระทั่งการพบสิบโทโอแลนด์ อลิซก็เริ่มสนใจเรื่องความรักขึ้นบ้าง หากแต่ไม่ใช่เชิงชายหญิง

     อาวุธของอลิซเป็นดาบสั้นและเชี่ยวชาญในการต่อสู้ด้วยดาบมาก นอกจากนี้เธอมักจะมีลางสังหรณ์หากหนาวสั่นที่คอจะมีเรื่องเกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นเรื่องดีหรือเรื่องร้ายก็ตาม (แต่ส่วนมากเป็นเรื่องร้าย) ถ้าพูดถึงแนวทหาร นี้สงคราม แฟนตาซี นี้ถือว่าเป็นคาแร็คเตอร์นางเอกที่ปรากฏพบเห็นโดยทั่วไป นางเอกรักความยุติธรรม บ้าบิ่น อ่อนประสบการณ์ ก่อนที่จะพบพระเอกที่มีอดีตที่เลวร้าย เก่งมากประสบการณ์ที่ต่อมาได้กลายเป็นคู่หูร่วมต่อสู้กัน

     

                    อย่างไรก็ตาม ถ้าไม่นับการอวยคู่  โครงเรื่องเนื้อเรื่องหลักๆ เท่าที่ผมดู ส่วนมากไม่ได้ฉีกแนวมากนัก แม้ธีมหลักจะเป็นแนวสงคราม แต่กระนั้นก็ยังคงมีพล็อตแฟนตาซีผู้กล้า ประมาณว่าพวกพระเอกต้องไปยังเมืองหรือสถานที่ต่างๆ ซึ่งเมืองถูกปกครองโดยผู้มีอิทธิพล ที่เลวร้าย รังแกคนอ่อนแอ ชาวเมืองต่างหวาดกลัว หากแต่เมื่อเหล่าพระเอกมาถึง ได้ต่อสู้กับผู้มีอิทธิพลเหล่านั้น พร้อมกับปลุกขวัญกำลังใจชาวเมืองให้ลุกขึ้นมาต่อสู้ ก่อนที่ปัญหาต่างๆ จะคลี่คลายและคืนสู่ความสงบในที่สุด  

                   

                    ใครที่อ่านการ์ตูนเรื่องนี้ครั้งแรกต้องทำใจนิดหนึ่งครับ ตรงที่เป็นการ์ตูนแนวสงคราม (สมมุติ) อาจมีบางจุดที่ งง  ไม่เข้าใจบ้าง (อย่างพวกหน่วย หรือยศ) และการดำเนินเรื่องบางตอนอาจมียืดบ้าง (โดยเฉพาะการสอดแทรกคู่ของแต่ละคน นอกจากพระเอกกับนางเอก) ส่วนเนื้อเรื่องหลักๆ ต้องมีการปูเนื้อเรื่องให้คนดู ว่าตัวละครเรื่องนั้นมีปูหลังอย่างไร เกิดอะไรขึ้นถึงเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว สิ่งสำคัญก็คือการแสดงให้เห็นความเลวร้ายของเหล่าคนชั่วที่รังแกชาวบ้าน ก่อนที่จะถึงฉากหลายคนรอที่สุดในการ์ตูนเรื่องนี้ ก็คือ ยามที่พระเอกจุดตะเกียงไฟสีเงิน ยามนั้นปีศาจจะมาเยือน ความมันก็บังเกิด  

    นอกเหนือจากนั้นข้อด้อยอย่างหนึ่งของการ์ตูน ลายเส้นนั้นไม่ได้สวยงามแต่อย่างใด โดยเฉพาะลายเส้นในช่วงแรก แม้ว่าช่วงหลังๆ ลายเส้นจะสวยงามมากขึ้น หากแต่เมื่อเทียบกับมาตรฐานการ์ตูนสงครามเรื่องอื่นๆ ก็ถือว่าเป็นข้อด้อยอยู่ดี อย่างไรก็ตามลายเส้นค่อนข้างสะอาดตา และตัวละครหญิงหลายคนน่ารักดี  บวกกับการดำเนินเรื่อง (จุดเด่นคือฉากต่อสู้ของสิบโท) ก็มีเหล่าแฟนๆ หลายคนติดตามกันบ้างไม่มากก็ไม่น้อย

    อย่างที่บอกเอาไว้ว่าการ์ตูนเรื่อง Pumpkin Scissors การ์ตูนที่มีฉากหลังเป็นประเทศยุโรปในสามปีหลังจากสงครามระหว่างสองประเทศ ซึ่งตอนนี้การ์ตูนยังไม่เฉลยถึงสาเหตุที่สองประเทศทำสงครามเพราะเหตุใดแต่อย่างไร แต่สิ่งที่รู้คือผลของสงครามดังกล่าวทำให้เมืองหลายเมืองถูกทำลายพินาศสิ้นและพลเมืองบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมากทั้งสองฝ่าย แม้ว่าสงครามจะสงบ แต่เหล่าประชาชนไม่รู้สึกยินดีแต่อย่างใด เพราะทุกที่ยังเต็มไปด้วยปัญหาและความเดือดร้อนจากความอดอยากและยากจน อีกทั้งยังซ้ำเติมด้วยผู้มีอิทธิพล (เจ้าเมือง หรือพวกทหาร) เข้ามาปกครองเมือง รังแกชาวบ้าน ซ้ำเติมเข้าไปอีก แม้เวลาจะผ่านไปสามปีแล้วก็ตาม

    หลังจากนั้นการ์ตูนก็เปิดฉากด้วยแนวคิดของกองทัพที่ต้องการบรรเทาผลของหลังสงคราม ด้วยการส่งหน่วยที่ 3 (หรือรู้จักดีคือหน่วยฟักทองกรรไกร) ที่คนในกรมมีเพียงหยิบมือ ไปช่วยเหลือชาวบ้านในแต่ละเมือง (หรือทำภารกิจบรรเทาทุกข์ชาวบ้าน) ที่ต้องลงไปสถานที่เกิดภัยจริงๆ ซึ่งสมาชิกหน่วยที่ 3 ตะหนักดีเลยว่าที่นั้นคือ “นรก” ของผลพวงของสงครามที่ยากที่จะคืนสภาพเป็นปกติได้

    นอกเหนือจากต้องฟื้นฟูสภาพพื้นที่แล้ว หน่วยที่ 3 ยังต้องเผชิญกับพวกคนชั่วที่ปกครองหรือรังแกประชาชนในเมืองนั้นๆ ที่อาศัยโอกาสความเสื่อมโทรมของสงครามและความละเลยของรัฐบาลทำเรื่องทุจริต การใช้ความรุนแรง การข่มขู่ ปล้นของมีค่า แก่ชาวบ้านที่อ่อนแอไม่มีทางสู้ แม้ว่าในการ์ตูนเรื่องทั้งหมดจะจบลงแบบง่ายๆ โดยการให้พวกพระเอกมาปราบ แต่ในโลกแห่งความจริงนั้นไม่ง่ายแน่นอน  

    อ่านการ์ตูนส่วนนี้แล้ว ผมรู้สึกเข้าใจความยากลำบากของหน่วยอาสาสมัครผู้ประสบภัยจริง ๆ เลยครับ ยกตัวอย่าง เช่นสงครามอีรัก ตบหัวแล้วลูบหลัง คงยากที่จะทำให้ชาวบ้านไว้ใจทหารอเมริกันได้ หรือจะเอาเรื่องใกล้ตัวก็ได้ อย่าง  เรื่องทหารไปช่วยน้ำท่วม หรือทหารที่ไปประจำการทางใต้ เป็นงานลำบากมากขนาดไหน ต้องทำงานในสถานที่จริงๆ ต้องคลุกดินคุกทราย ต้องทำตัวกลมกลืนกับชาวบ้าน บางที่ทหารต้องจำเป็นต้องกลายเป็นกระโถนให้ชาวบ้านระบาย ที่ด่าๆ เหยียดหยามว่าไร้ประโยชน์ สูญเสียเงินภาษี บลาๆๆ ต้องทำงานฟื้นฟูมากกว่าชาวบ้าน เพื่อให้ชาวบ้านและคนมาเห็นยอมรับ ถือว่าเป็นงานลำบากจริงๆ ซ้ำร้ายบางพื้นที่ก็มีโจร หรือพวกมือไม่พายเอาเท้าราน้ำมาป่วนอีก แม้ว่าไม่ร้ายแรงหรือน่ากลัวเท่าตัวร้ายในการ์ตูนก็ตาม แต่อดไม่ได้ที่อยากให้สิบโทเปิดตะเกียงสีน้ำเงินฆ่าพวกนี้จริง ๆ

    อย่างไรก็ตาม การ์ตูนยังซ้ำเติมความยากลำบากมากขึ้น เมื่อมีการเปิดเผย (ที่จริงมันรู้กันทั่ว) ว่า Pumpkin Scissors เป็นหน่วยงานที่มีแต่ความสวยหรูบังหน้า ความจริงเป็นหน่วยงานที่ตั้งขึ้น ให้รัฐบาลถลุงเงินภาษีประชาชนให้มากขึ้น จนหน่วยงานนี้เป็นที่รังเกลียดของกองทัพทหาร ชนิดไม่อยากนับญาติหน่วยงานนี้เข้าพวกตน ซึ่งตรงจุดนี้เศร้าใจครับ ต่อให้คนหน่วย 3 ทำดีมากขนาดไหน เต็มความสามารถ คุ้มค่าเหนื่อย ขยันขันแข็งเพียงใด แต่ก็ใม่ช่วยให้ลบสายตาดูถูกของคนรอบข้างได้เลย เรียกได้ว่าหน่วยที่ 3 ต้องรับมือศึกภายในและศึกภายนอก

                    
                 
    ตัวละครในเรื่อง Pumpkin Scissors  จะว่าไปตัวละครก็มาจากแม่แบบพื้นฐานอนิเมชั่นสงครามซะส่วนใหญ่ ไม่ว่านายทหารเจ้าชู้, นายแว่นผู้มีมารยาทดี, ตัวผู้ชายแบบสูตรสำเร็จแบบแฟนตาซี เป็นต้น อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ผมติดตามการ์ตูนเรื่องนี้คือสิบโทคนเดียว

    แม้ว่าสิบโทจะเป็นพระเอกนอกกระแส แตกต่างจากพระเอกในแนวต่อสู้สงครามทั้งปวง ไร้สีสันที่สุดในยามปกติ ทั้งตัวตัว บึก ถึก (รับบทเจ็บตัวหนักที่สุดในเรื่อง) บื้อๆ หงอๆ ไม่สู้คน คาแร็คเตอร์พระเอกแบบนี้เรียกเสียงกริ๊ดสาวๆ ได้ยาก แต่ขอโทษครับ ยามที่สิบโทจุดตะเกียงไฟสีน้ำเงิน สิบโทจะเท่ทันที!!

                    ตอนที่สิบโทของผมเท่สุดๆ น่าจะอยู่เล่ม 7-9 (แต่โครตเด่นที่สุดคือ 9)  หลังจากที่บทของสิบโทโดนตัวละครอื่นขโมยซีนมาพักใหญ่ เพราะรูปร่าง หน้าตาไม่เหมาะกับเป็นพระเอก คนเขียนเลยจัดบทสิบโทซะเด่นในเล่มที่ 9 แม้ว่าในช่วง 7-8 นั้นจะดำเนินเรื่องยืดๆ หน่อย เพราะต้องอารัมภบทสิ่งที่เกิดขึ้นในเมืองที่สิบโทและร้อยตรีอลิซต้องไป แม้ว่าจะเป็นเมืองที่ปกครองด้วยคนชั่วก็จริง หากแต่มีปมหลายชั้นหลายซ้อน แสดงให้เห็นว่าเกกิดอะไรขึ้นที่ทำให้เหล่าคนชั่ว (แก๊งเกรียนบ้านนอกตะเข็บชายแดน) เถลิงอำนาจเป็นใหญ่ในบ้านนอกโดยไม่กลัวทางการเอาโทษ ปกครองเมืองได้เลวร้าย จนคนอ่านเหม็นขี้หน้าจนถึงใจ  เรียกได้ว่าผู้ร้ายในตอนนี้เป็นผู้ร้ายที่เหม็นขี้หน้าที่สุดในการ์ตูนเรื่องนี้แล้วก็ว่าได้ (ใครที่ไม่ได้อ่านการ์ตูนเรื่องนี้แล้วสงสัยว่าพวกนั้นมันเกรียนขนาดไหน ก็คร่าวๆ ว่าฉุดผู้หญิงต่อหน้าต่อตาชาวบ้าน นึกจะฆ่าก็อยากจะฆ่า วันดีคืนดีเอาชาวบ้านเป็นเป้าซ้อมปืน หรือฆ่าเพื่อความสนุกสนาน ซึ่งสงสงสารชาวบ้านในเมืองมาก) หากแต่เมื่อแก๊งเกรียนที่มาเจอสิบโทโหมดปีศาจของจริง ผีโหดฆ่าเกรียนเลือดสาดแบบเรียงตัว เรียกได้ว่าสะใจพระเดชพระคุณเป็นอย่างยิ่ง ด้วยอาวุธใหม่ตะไกรไชเนื้อคน ที่ใครมาเห็นสิบโทฆ่าศัตรูด้วยวิธีนี้ต่างเข่าอ่อนทั้งสิ้น หวาดกลัวสุดขีด แม้ร้องขอชีวิตจากสิบโทก็ยังถูกฆ่า โดยคนอ่านไม่สงสารพวกเกรียนบ้านนอกตะเข็บชายแดนเลยแม้แต่น้อย

                    อย่างไรก็ตาม ทุกตอนของการ์ตูนเรื่องนี้ยังสอดแทรกข้อคิดของสงครามเข้าไปให้คนอ่านได้คิดตาม ในเล่มนี้ก็เช่นกัน ที่ตั้งคำถามให้ผู้ชมว่าระหว่างทหารที่ฆ่าศัตรูจำนวนมากตามหน้าที่จะต้องวิธีอะไรก็ตาม กับเกรียนบ้านนอกที่มาเป็นฝูงที่ทำร้ายและฆ่าคนเพื่อความสนุก ความสะใจ และเก่งแต่ในบ้าน ใครกันแน่ที่เป็นปีศาจกัน เรียกได้ว่าประเด็นดังกล่าวโดดเด่นที่สุดกว่าเรื่องความรักของสิบตรีหน่วยที่ 2 ก็ว่าได้

                     เออ......รู้สึกผมลืมข้อคิดสงครามอย่างหนึ่ง ไม่ว่าภาพยนตร์หรือการ์ตูนเรื่องใดๆ ที่เป็นแนวสงคราม ทุกเรื่อง มักนำเสนอสงครามเป็นเรื่องมีแต่เรื่องสูญเสีย  ไม่มีใครอยากได้สงคราม แม้สงครามจะผ่านพ้นไปก็ยังคงหลงเหลือความพินาศอยู่ทั่วทุกหนทุกแห่ง ยากที่จะฟื้นฟูเร็ววัน ไม่ว่าจะเป็นการบรูณะวัตถุหรือจิตใจของประชาชน เมื่อดั่งประโยคที่ว่า "การทำลายนั้นมันง่าย หากแต่การสร้างยากยิ่งกว่ามาก"

     

                    นอกเหนือจากฉากแอ็คชั่นและข้อคิดของสงครามแล้ว การ์ตูนยังสอดแทรกความรับของตวัวละครแต่ละคู่เข้าไป หากแต่สิ่งที่ผมชอบกับเป็นคู่ของสิบโทและสิบตรีอลิซมากกว่า เนื่องจากสองคนนี้ไม่ได้มีความรักเหมือนคู่อื่นๆ ที่ดูจะสมหวังและเป็นความรักของชายหญิง ซึ่งคู่สิบโทกับอลิซเป็นคู่ที่ราวกับดอกฟ้ากับหมาวัด ต่างชนชั้น ชาติกำเนิดแตกต่างกัน ขนาดตัวก็แตกต่างกัน นิสัยก็แตกต่างกัน

    สิบโทนั้นเป็นคนที่เกิดในชนชั้นระดับล่างของสังคมอย่างแท้จริง (เป็นลูกโสเภณี?) แม้ว่าจิตใจจะดีงามหากแต่ชีวิตที่ผ่านมาล้วนแต่เลวร้าย ต้องเป็นเหยื่อของการทดลองมนุษย์ ต้องถูกส่งไปฆ่าศัตรูมากมาย จนวนเวียนกับการคิดหาวิธีไถ่บาปให้ตนเอง ชีวิตเหมือนเหมือนไร้ค่า จนมาได้พบกับสิบตรีอลิซ ซึ่งทำใช้ของสิบโทเหมือนมีคุ้นค่าอีกครั้ง ซึ่งแต่ละตอนของการ์ตูน เมื่อสิบโทเสร็จศึกปราบผู้ร้ายเมื่อไหร่ ก็มักมีอลิซเข้ามาให้กำลังใจ หรืออยู่ด้วยกันเสมอ ในขณะเดียวกันอลิซก็ต้องการสิบโทเช่นกัน ทั้งสองต่างให้กำลังใจละกัน ปกป้องกันและกัน ทั้งสองมีสิ่งที่ตนได้ขาดหายไป สิบโทแม้จะบื้อๆ โง่ๆ  แต่ความจริงแล้วเป็นคนเจนโลก ซึ่งสามารถไว้ใจ ปกป้องระวังหลังได้ อีกทั้งหากเห็นใครกลุ้มใจ สิบโทก็สามารถพูดเดตือนสติให้แก่คนหลายคนได้คิด โดยเฉพาะอลิซที่เป็นเชื้อพระวงค์ ซึ่งเป็นคนเถรตรง และถูกเลี้ยงดูโดยลืมความเป็นผู้หญิง  แม้จะรักความยุติธรรมแต่บางครั้ง แต่กระนั้นก็มีบางครั้งที่สิบตรีอลิซตั้งคำถามเรื่องความสับสนต่อบทบาทหน้าที่และความไม่เข้าใจถึงความรู้สึกของประชาชน เมื่อสิบโทมองออกก็จะพูดให้กำลังใจในแบบฉบับของคนอ่อนโยนที่เจนโลก หรือบางครั้งก็เป็นคำสอนแบบชาวบ้านสามัญชนที่ลูกขุนนางอย่างอลิซไม่สนใจหรือไม่สังเกตมาก่อน เรียกได้ว่าทุกรสทุกอารมณ์จริงๆ

     

                    อย่างไรก็ตาม แม้ว่ามังงะเรื่อง Pumpkin Scissors จะประทับใจระดับหนึง หากแต่ในอนิเมะ (ที่ซึ่งมี 24 ตอนจบ) แล้ว ถือว่าสอบตกอย่างไม่น่าให้อภัย เนื่องจากมีจุดที่ตำหนิมากมาย (ไม่นับพากย์ไทยที่แสนจะห่วยแตก กับพากย์อังกฤษที่สำเนียงเยอรมันที่ไม่เข้ากับหน้าตาตัวละคร) ไม่ว่าจะเป็นการดำเนินเรื่องที่มีการเพิ่มเนื้อหาที่ไม่มีในมังงะ ที่ส่วนใหญ่ไม่สำคัญเกี่ยวกับเนื้อเรื่องหลักของมังงะเท่าไหร่นัก วนเวียนกับภารกิจซ้ำๆ และฉากแอ็คชั่นก็จบอย่างรวดเร็ว แถมแต่ละตอนนี้ทำบทสิบโทผมจืดจางสุดๆ ทั้งๆ ที่จุดเด่นของการ์ตูนเรื่องนี้คือฉากสิบโทโหมดผีตะเกียงหลอน แต่อนิเมะกลับไม่เน้นความน่ากลัวของสิบโทมากนัก (ลดความเลือดสาดลง)  สาเหตุที่เพิ่มก็คือในอนิเมะนั้นหยุดอยู่ที่ช่วงความวุ่นวายที่ชาวบ้านบุกรุกบ้านของขุนนาง ส่วนองค์กรลับที่เป็นภัยคุกคามที่อยู่เบื้องหลังตอนนี้ยังไม่มีบทบาทมากนัก (ในมังงะก็ยังไม่มีบทบาท ซ้ำตอนนี้การ์ตูนยังออกรายเดือนอีกทำให้นานเข้าไปใหญ่) สิ่งเหล่านี้ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมหลายคนไม่ชอบอนิเมะมากนัก และไม่รู้ว่า Pumpkin Scissors จะมีภาค 2 หรือเปล่า

                    Pumpkin Scissors อาจเป็นการ์ตูนแนวสงครามที่กระแสค่อนข้างเงียบ นานๆ จะออกครั้งตอน แต่ หักลบกับแนวคิดของเรื่อง สเน่ห์ของตัวละคร การดำเนินเรื่องจากปัญหามาถึงจุดคลี่คลาย ก็เป็นการ์ตูนแอ็คชั่นดีๆ ที่น่าสนใจเหมือนกัน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×