คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Sugarplum...บทที่ 1 : พรหมลิขิตที่มาพร้อมกับความวุ่นวาย [100%]
บทที่ 1 : พรหมลิขิตที่มาพร้อมกับความวุ่นวาย
“เป็นอะไรมากรึเปล่าเธอนะ”
ร่างสูงถามพร้อมพยุงตัวเซจินขึ้นมา ก่อนที่เธอจะปัดเศษฝุ่นที่ติดอยู่ตามเสื้อผ้าของเธอออก แล้วจึงเงยหน้าขึ้นไปมองใบหน้าของคนที่ช่วยชีวิตเธอเอาไว้
หล่อจัง...นะ นี่ฉันคิดอะไรอยู่นะ ต้องขอบคุณสิ ขอบคุณน่ะ!
“อะ เอ่อ...ฉันไม่เป็นอะไรมากหรอก ขอบคุณนายมากนะ” เซจินพูดขึ้นพร้อมรอยยิ้มที่มอบให้ร่างสูง แต่เขากลับไม่มองมาที่เซจินเลยแม้แต่นิดเดียว เขาเอาแต่มองไปรอบๆ ทำให้เธอรู้สึกสงสัยและขัดใจอยู่ไม่ใช่น้อย
“นี่นายคนเขาคุยด้วยอยู่นะ มีมารยาทหน่อยสิ”
เซจินพูดพร้อมทำหน้าตาคิ้วขมวดใส่ร่างสูงที่ยืนอยู่ตรงหน้า แต่นั้นก็ไม่ได้ทำให้เจ้าตัวหันมามองเธอเลยสักนิด มิหน่ำซ้ำยังถอนหายใจเฮือกใหญ่ใส่เธออีกด้วย
อะไรกันผู้ชายคนนี้!?
ร่างสูงที่เห็นว่าอากาศตอนเย็นเริ่มหนาวขึ้นเรื่อยๆ จึงถอดเสื้อคลุมของตัวเองออก เซจินที่ยืนไม่รู้เรื่องอยู่จึงทำตาโตใส่เขาที่กำลังถอดเสื้อคลุมออกก่อนจะโวยวายขึ้นเสียงดัง
“นะ นาย! จะทำอะไรน่ะ! อนาคตฉันยังอีกไกล อย่าทำอะไรไม่ดีไม่ร้ายฉันเลยนะ! ขอร้อง ฮือๆ...”
เซจินพูดอ้อนวอนร่างสูงที่ยืนอยู่ตรงหน้า ก่อนที่เขาจะโยนเสื้อคลุมมาให้เธอที่เนื้อตัวเปียกชุ่มอยู่ ทำให้เสื้อนักเรียนตัวบางแนบให้เห็นเนื้อหนังที่ขาวเนียนของเธออย่างชัดเจน ถึงเธอจะใส่เสื้อคลุมนักเรียนอยู่มันก็แทบไม่ได้ช่วยอะไรเลย เพราะเสื้อคลุมของนักเรียนหญิงจะเป็นเสื้อแขนยาว ครึ่งตัวเท่านั้น แตกต่างกับเสื้อคลุมนักเรียนชายที่เป็นแขนยาวเต็มตัว
“เลิกโวยวายเหมือนฉันจะปล้ำเธอซะทีแล้วใส่นี่ซะถ้าไม่อยากโดนคนโรคจิตจับไปปล้ำจริงๆ”
เมื่อร่างสูงพูดจบ เซจินก็ก้มลงสำรวจเนื้อตัวของตัวเองทันที ก่อนจะรีบคลุมเสื้อปกปิดด้านหน้าไว้ เพราะเธอก็พึ่งสังเกตเห็นว่าเสื้อนักเรียนตัวบางแทบจะรวมเป็นเนื้อเดียวกับตัวเธอ
นี่สินะเหตุผลที่เขาไม่มองมาที่ฉัน...
“ขะ ขอบคุณนะ แล้วบ้านนายอยู่ไหนล่ะ เดี๋ยวฉันไปส่งเป็นการตอบแทน”
“เธอใช้อะไรคิดที่ว่าจะไปส่งฉัน? ถ้าให้เธอเดินกลับคนเดียวไม่พวกโรคจิตก็กลุ่มผู้หญิงพวกนั้นนั่นแหละที่จะตามไปทำร้ายเธอตอนขากลับน่ะ! หน้าตาก็ดีไม่น่าฉลาดน้อยเลยนะเธอ”
“…”
“นำทางไปสิ เดี๋ยวฉันไปส่ง”
“อะ อืม”
เซจินที่ยืนงงได้สักพักก็เรียกสติคืนมาก่อนจะเดินหันหลังตรงกลับไปที่บ้าน โดยมีร่างสูงคอยเดินตามอยู่ไม่ห่าง
มีใครบอกมั้ยนะว่านายจะดูดีมากกว่านี้นะถ้าเอาสุนัขออกจากปากของนายน่ะ!
เซจินเดินนำทางมาเรื่อยๆ จนมาถึงหน้าบ้านของเธอ เธอหยุดเดินก่อนจะหันหลังกลับมามองร่างสูง แล้วยื่นเสื้อคลุมคืนให้กับเขาที่ยืนอยู่ตรงหน้า ก่อนที่เซฮุนจะหยิบเสื้อคลุมนั้นไป
“ถึงบ้านฉันละล่ะ ขอบคุณมากนะ”
“อือ...”
“ฉันชื่อ โอ เซจิน อยู่เกรดสิบสอง นายล่ะชื่ออะไร”
“เซฮุน...โอ เซฮุน เกรดสิบ...”
“เอ๊! รุ่นน้องฉันตั้งสองปีเลยหรอเนี่ย งั้นต่อไปนายต่อเรียกฉันว่าเซจินนูนา*(พี่สาว)นะ เซฮุนน่า”
“ใครอยากเรียกยัยบื้ออย่างเธอว่านูนากัน ไปล่ะ...”
เมื่อพูดจบเซฮุนก็เดินผ่านตัวเธอไป ทิ้งให้คนอย่างโอ เซจินยืนถอนหายใจเฮือกใหญ่อยู่คนเดียวที่หน้าบ้านของตัวเอง ก่อนที่เธอจะหันหลังกลับไปมองเซฮุนที่กำลังเดินกลับบ้านไป แต่เธอก็ต้องตาเบิกกว้างทันที เพราะสิ่งที่เธอเห็นคือ...
-ต่อ-
“บะ บ้านนายอยู่นี่งั้นหรอ!?” เซจินตะโกนเสียงดังเมื่อเห็นว่าเซฮุนเดินไปเปิดประตูบ้านที่อยู่ข้างๆ กัน ทำให้ร่างสูงรู้สึกรำคาญหน่อยๆ กับการกระทำของรุ่นพี่ที่ไม่รู้จักโต
“แล้วเธอจะตะโกนทำไม กลัวคนทั้งซอยไม่รู้หรอว่าบ้านฉันอยู่นี่น่ะ”
“ขะ...ขอโทษ ก็มันตกใจนี่…”
“เป็นรุ่นพี่ที่น่ารำคาญจริงๆ”
เมื่อพูดจบร่างสูงก็เดินเข้าบ้านไปโดยไม่สนใจเสียงต่อว่าที่ตามมาข้างหลังของเซจินเลยแม้แต่น้อย เซจินที่เห็นว่าพูดไปก็เท่านั้นจึงเดินเข้าบ้านของตัวเองไปอย่างเซ็งๆ
เช้าวันถัดมาเซจินเอาแต่ยืนทำลับๆ ล่อๆ อยู่หน้าบ้านตัวเองก่อนจะมองไปที่บ้านของเซฮุนที่อยู่ติดกัน บ้านของเขาเป็นบ้านสองชั้นสีครีมขนาดใหญ่แต่ไม่มากนักก็เหมือนบ้านของเธอ แต่มันแตกต่างกันตรงที่สนามหน้าบ้านของเซจินถูกจัดแต่งมากกว่า และดูไม่โล่งเหมือนสนามหน้าบ้านของโอ เซฮุน
ไปเรียนแล้วรึยังนะ...เอ๊ะ! แล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉันล่ะ?
เซจินที่คิดได้อย่างนั้นจึงเลิกสนใจสิ่งที่อยู่ตรงหน้า ก่อนจะเดินไปโรงเรียนของเธอตามปกติ วันนี้บรรยากาศเป็นใจ เหมาะแก่การเดินไปโรงเรียนแบบสบายๆ เพราะลมอ่อนๆ ที่พัดผ่านมา แต่ทุกอย่างจะดูดีมากกว่านี้ถ้าตัวเธอที่เดินมาถึงโรงเรียนแล้วจะไม่มีเรื่องวุ่นวาย...
“โอ-เซ-จิน!!”
เมื่อเซจินก้าวขาเข้าประตูโรงเรียนมาได้ก้าวหนึ่ง ลู่หานเพื่อนสนิทของเธอก็รีบวิ่งหน้าตั้งมาทันที ก่อนจะดึงข้อมือของร่างบางไปโดยที่เธอไม่ทันตั้งตัว
“นายจะพาฉันไปไหน เสี่ยว ลู่หาน!”
“ก็อี้ฟานน่ะสิ! อี้ฟานกำลังมีเรื่อง!”
“มีเรื่อง!? กับใคร?”
“กับพวกคนที่ตบหน้าเธอเมื่อวานไง!”
“ห๊า!!!? รีบพาฉันไปที่นั่นเร็วๆ เลยลู่หาน แล้วเขารู้มันได้ยังไงนะ โอ๊ย! ฉันล่ะปวดหัว!”
“ไว้จะอธิบายให้ฟังทีหลังนะ แต่ตอนนี้เธอต้องไปห้ามมัน ก่อนมันจะต่อยหน้าผู้หญิง!”
“รู้แล้วว้อย! รีบพาฉันไปสิย่ะ!”
ให้ตายเถอะอี้ฟาน อย่าพึ่งต่อยหน้ายัยพวกนั้นนะ!
-ต่อ-
“พวกเธอทำอะไรเซจินบ้าง! ตอบมาสิ! ตอบมา!” เสียงโวยวายของอี้ฟานดังขึ้นท่ามกลางเกาหลีมุงทั้งหลายถายในห้องของนักเรียนเกรดสิบเอ็ดที่อยู่ใกล้ๆ กับห้องเรียนของพวกเรา ทำให้เซจินกับลู่หานต้องรีบแทรกตัวเข้าไปเพื่อห้ามปรามเพื่อนสนิทของพวกเขาโดยเร็ว ก่อนจะเจอกับมินซอกที่ยืนอยู่ข้างในก่อนแล้ว
“ซะ เซจิน มาสักทีนะ ฉันห้ามเขาไม่ไหว แต่ถ้าเป็นเธอละก็...”
“พี่ค่ะ! ยัยนั้นมันมีดีตรงไหน ทำไมพี่ถึงได้ปกป้องมันนักหนาอะ!” เสียงปรอทแตกของยัยมือหนักดังขึ้นแทรกมินซอกที่กำลังพูดอยู่ ทำให้คนที่อยู่แถวหน้าๆ หันไปสนใจยัยมือหนักแทนพวกเราที่พึ่งเข้ามาได้ไม่นาน
“เธอกล้าถามอีกหรอว่าเซจินมีดีตรงไหน...”
เสียงรอบข้างเงียบไปทันทีเมื่ออี้ฟานกำลังจะพูดต่อ ซึ่งก็รวมทั้งตัวเพื่อนสนิทของเขาอย่างเซจิน กับลู่หานด้วยที่ยืนเงียบไปดื้อๆ “ก็ตรงที่เขาไม่ขี้อิจฉาเหมือนพวกเธอยังไงล่ะ เขาใจดี และชอบยิ้มให้คนอื่นๆ เสมอ เขามักจะเสียสละเพื่อส่วนรวม เป็นที่รักของเพื่อนๆ ทุกคน และแน่นอนว่าเป็นที่รักของฉันด้วย!”
ฟุ่บ! ยังไม่ทันที่อี้ฟานจะพูดอะไรต่อ เซจินก็วิ่งเข้าไปโอบกอดตัวของร่างสูงไว้ เป็นการเรียกสติและระงับความโกรธของร่างสูงได้เป็นอย่างดี
“พูดมากไปแล้วล่ะหน่า...เจ้าบ้าเอ๊ย...”
เสียงรอบข้างเงียบลงไปโดยไม่ได้นับหมาย พร้อมกับผู้คนที่เหมือนถูกแช่แข็งจากการกระทำของร่างบาง แต่ความเงียบที่เข้าปกคลุมได้ไม่ถึงสิบวินาทีก็ต้องหายไป เมื่อเสียงปรอทแตกของยัยมือหนักดังขึ้นเพราะทนเห็นภาพที่อยู่ตรงหน้าไม่ไหว
“กรี๊ด! นี่หล่อน ฮึ่ย!...หล่อนมัน...” คำด่าเหมือนถูกกลืนลงคอทุกครั้งที่จะพูดออกมาเพราะสายตาของคนรอบข้างที่คอยกดดันหญิงสาวที่เป็นต้นเหตุของเรื่อง เสียงซุบซิบนินทาเจ้าตัวเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ เพราะการกระทำที่แสนจะน่ารำคาญที่ไม่จบสิ้นสักที
“กรี๊ด!” สุดท้ายหล่อนก็ต้องเดินฝ่าฝูงชนเดินออกไปจากห้องพร้อมเพื่อนสาวอีกสองคนที่คอยหนุนหลังเธอมาตลอด ทุกอย่างเหมือนจะจบลงด้วยดีถ้าเกิดใครคนหนึ่งไม่เข้ามาที่ห้องนี้ซะก่อน...
“ถึงจะเคลียร์ปัญหาจบแล้ว...แต่ช่วยไปเล่าเรื่องทั้งหมดที่ห้องปกครองหน่อยสิพวกเธอ!” อาจารย์ห้องปกครองที่จู่ๆ ก็เดินเข้ามาในวงล้อมที่เด็กนักเรียนทุกคนต่างแวกทางพูดขึ้น ทำให้เซจินต้องรีบผละออกจากอี้ฟานโดยเร็ว ก่อนที่อาจารย์จะยิ้มเฉือนๆ ให้ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์
จะจบดีอยู่แล้วเชียวอาจารย์อ่า... T^T
-ต่อ-
ครืด...ปัง เสียงประตูที่ถูกปิดลงด้วยฝีมือของอี้ฟานที่เดินตามเพื่อนๆ ออกมาเป็นคนสุดท้ายหลังจากที่พวกเขาอธิบายเรื่องทั้งหมดให้อาจารย์ห้องปกครองฟังว่าเกิดอะไรขึ้น ซึ่งดูเหมือนอาจารย์ก็เข้าใจดีว่าวัยรุ่นมักใจร้อน และมักทำก่อนคิดเสมอ เลยแค่ตักเตือนก่อนเฉยๆ แล้วจึงไล่ให้ออกมา
“ฉันยังไม่ได้ถามพวกนายเลยว่าพวกนายรู้ได้ยังไงเกี่ยวกับเรื่องที่ฉันโดนทำร้าย” เซจินที่ยังคงคาใจไม่หายหันไปถามเพื่อนชายทั้งสามคน ก่อนที่พวกเขาจะมองหน้ากันไปมาเป็นเชิงบอกว่า ‘นายนั้นละพูด’ ทำให้ร่างบางที่รอฟังคำตอบอยู่รำคาญขึ้นมา
“นี่!-…”
“ก็พวกฉันผ่านไปได้ยินพอดีน่ะสิ” อี้ฟานตัดบทร่างบางที่กำลังโวยวายโดยการพูดแทรก ทำให้เจ้าตัวยอมยืนกอดอกฟังอยู่นิ่งๆ
“จริงๆ ฉันก็ไม่ได้จะต่อยอะไรยัยพวกนั้นหรอกนะ แต่ว่ายัยพวกนั้นเล่นต่อว่าเธอซะไม่มีชิ้นดี ฉันเลยทนไม่ไหว เกือบลงไม้ลงมือไปบ้าง...”
“ออ...อืม...” เซจินที่ได้ฟังอย่างนั้นจึงพยักหน้าตอบร่างสูงที่ก้มหน้าสำนึกผิดอยู่
“เข้าเรียนกันเถอะ นี่ก็เลยเวลามาเกือบครึ่งชั่วโมงล่ะ” มินซอกคนที่ดูเป็นผู้ใหญ่มากที่สุดในกลุ่มพูดขึ้นก่อนจะเดินนำคนอื่นไป ทำให้คนอื่นๆ ต่างพยักหน้ารับ แล้วจึงค่อยๆ เดินตามไปด้วยเช่นกัน
“ฉันขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ ผ่านเรื่องวุ่นวายมาแล้วเกิดอยากเข้าห้องน้ำขึ้นมาน่ะ”
“อืม งั้นเจอกันที่ห้องเรียนนะ”
ลู่หานพูดขึ้นเมื่อเห็นว่าเพื่อนสาวจะไม่เดินกลับห้องไปพร้อมกับพวกเขา ก่อนที่เธอจะยิ้มบางๆ ให้พร้อมกับพยักหน้ารับ แต่ยังไม่ทันที่ร่างบางจะเดินไปไหนไกล จู่ๆ อี้ฟานก็ตะโกนขึ้นเรียกตัวเธอให้หันหลังกลับไปมองอีกครั้ง
“ถ้าเลยห้านาทีละก็ ฉันจะถือว่ามีเรื่องอันตรายเกิดขึ้นกับตัวเธอ แล้วจะออกมาตามหาเธอนะเข้าใจมั้ย!?”
“เข้าใจแล้วล่ะน่า!”
เมื่อได้รับคำตอบที่ต้องการอี้ฟานก็วิ่งตามมินซอกกับลู่หานไป เซจินที่เห็นว่าเพื่อนของเธอจะไม่หันหลังกลับมาพูดอะไรแล้วจึงเดินไปห้องน้ำเพียงคนเดียว ร่างบางกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปห้องน้ำที่อยู่ชั้นล่างสุด ไม่ใช่ว่าเธอปวดจัด แต่เพราะเธอกลัวว่ามันจะเกินห้านาทีแล้วมันจะเป็นภาระให้อี้ฟานที่ต้องออกมาตามหาเธอเพราะความเป็นห่วง
ตุบ! เพราะความรีบทำให้เกิดปัญหา ร่างบางชนเข้ากับใครบงคนที่สูงกว่าเธอจนล้มลงไปกองกับพื้น เธอเอาแต่จับหัวของตัวเองด้วยความเจ็บปวด เพราะหัวของเธอกระแทกเข้ากับแผงอกกว้างเต็มๆ
“นี่นาย!-…อะ โอ เซฮุน...”
“ก็ใช่น่ะสิยัยบื้อ”
เซจินที่ตอนแรกกำลังจะต่อว่าฝ่ายตรงข้ามต้องเงียบปากทันทีเมื่อเห็นว่าคนๆ นั้นคือโอ เซฮุน รุ่นน้องปากแสนจะดีที่อยู่ข้างบ้านของเธอ เธอค่อยๆ ลุกขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ ก่อนจะมองไปที่ร่างสูง พร้อมมือของเธอที่ยังคงจับหัวไว้แน่นเพราะความเจ็บปวด
“นายไม่เข้าเรียนรึไง? หรือว่าเด็กเกรดสิบคาบเรียนมันสบายเกินไป ฉันจะได้ไปบอกอาจารย์ให้เพิ่มคาบเรียนพวกนายซะ”
“พูดอย่างกับเป็นประธานนักเรียนเลยนะเธอ”
“ไม่ต้องเป็นฉันก็ทำได้หรอกย่ะ!”
“เอามือออกสิ่…”
“หือ?”
“บอกให้เอามือออกกอนไงยัยบื้อ”
ร่างบางเอามือออกอย่างว่าง่าย ก่อนที่เซฮุนจะปัดผมม้าของเธอออกช้าๆ เพื่อดูว่าเธอมีแผลหรือรอยช้ำอะไรรึเปล่า และเพราะร่างที่สูงกว่าทำให้หน้าของเซจินอยู่ระดับอกของเซฮุนพอดี เธอจึงค่อยๆ เงยหน้าขึ้นช้าๆ เพื่อจะได้เห็นสีหน้าของฝ่ายตรงข้ามได้ชัดมากขึ้น ก่อนจะพบว่า
อะไรน่ะ...เขายิ้มงั้นหรอ?
เธอมองใบหน้าที่ดูมีความสุขนั้นอยู่สักพักก่อนที่เขาจะผละออก แล้วยีหัวของเธอเบาๆ
“ก็ไม่มีแผลนิ งั้นฉันไปละ”
“เอ๊ะ...ดะ เดี๋ยวก่อน โอ เซฮุน!” เซจินที่เห็นว่าเซฮุนกำลังจะเดินขึ้นบันไดไปที่ห้องเรียนของเขาจึงตะโกนเรียกเขาไว้ ทำให้ร่างสูงต้องหันหลังกลับมามองเธออีกครั้งด้วยสีหน้าสงสัย
“มะ ไม่มีอะไร ไปเรียนเถอะ” เซฮุนที่ได้ยินอย่างนั้นจึงถอนหายใจออกมา แล้วเดินขึ้นบันไดไป ทิ้งให้ร่างบางมองแผ่นหลังนั้นไปเรื่อยๆ จนเขาลับสายตาไป
ทำไมฉันถึงไม่กล้าถามเขานะว่ารอยยิ้มนั้นมันหมายถึงอะไร...
จบไปได้ด้วยดี(รึเปล่า?) กับบทที่ 1 ... เดี๋ยวดึกๆ ไรท์จะมาอัพของแถมให้ลีดเดอร์ยิ้มเล่นๆ กันนะค่ะ
ตอนนี้ก็ยิ้มกับเนื้อเรื่องไปก่อนละกันน๊า ฮ่าๆๆๆ >........<
แล้วก็ขอบคุณลีดทุกคนด้วยนะค่ะที่เข้ามาอ่านและติดตามกัน ขอบคุณมากๆ นะค่ะ จุ๊บๆ //โดนลีดตบเพราะกลัวโดนจุ๊บ = ='
**จงอย่าใส่ใจกับเสื้อผ้าและผมของโอ เซฮุน =......= และนี่ก็คือ ของแถมม~
ความคิดเห็น