คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : การแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์
การแบ่งยุคสมัยทางประวัติศาสตร์
การศึกษาเรื่องราวความเป็นมาในอดีตของดินแดนประเทศไทย มีเกณฑ์ในการแบ่งยุคสมัยในช่วงระยะ ดังนี้
ยุคก่อนประวัติศาสตร์
ยุคก่อนประวัติศาสตร์ หมายถึง ยุคที่มนุษย์ยังไม่มีการประดิษฐ์ตัวอักษรเพื่อบันทึกเรื่องราวต่างๆ ของชุมชน การเรียนรู้เรื่องราวในยุคนี้ได้จากหลักฐานทางโบราณคดี ยุคก่อนประวัติศาสตร์เริ่มตั้งแต่มนุษย์ถือกำเนิดและดำรงชีวิตอยู่ตามธรรมชาติ ภายหลังจึงสามารถปรับสภาพชีวิตความเป็นอยู่ ให้ดีขึ้น โดยทรัพยากรธรรมชาติมาใช้ประโยชน์ เช่น ประดิษฐ์เครื่องมือ เครื่องใช้ที่มีคุณภาพ รู้จักการเพาะปลูก คิดค้นเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มผลผลิต เกิดลัทธิความเชื่อและขนบธรรมเนียมที่เป็นระบบ มีการสร้างสรรค์งานศิลปกรรมต่างๆ มีการจัดระเบียบให้สังคมและการปกครอง มีการติดต่อกับชุมชนต่างถิ่นต่างแดน อันนำมาซึ่งการแลกเปลี่ยนและค้าขายร่วมถึงการรับและส่งทอดอิทธิพลทาง วัฒนธรรมต่างๆ ระหว่างชุมชน ด้วยการสร้างสมความเจริญเหล่านี้ได้ถ่ายทอดภูมิปัญญาสู่คนรุ่นหลัง
ยุคก่อนประวัติศาสตร์ในดินแดนประเทศไทยมีการแบ่งช่วงของพัฒนาการแบบสากลเป็น 2 ลักษณะ คือ
1. การแบ่งตามประเภทของวัสดุที่ใช้ทำเครื่องมือเครื่องใช้และเทคนิควิธีการ แบ่งย่อยได้ดังนี้
1.1 ยุคหิน มนุษย์รู้จักประดิษฐ์เครื่องมือเครื่องใช้และอาวุธจากหิน แต่คงมีที่ทำด้วยไม้ กระดูก และเขาสัตว์อยู่ด้วย ในยุคนี้มีการแบ่งออกเป็นสมัยย่อยๆ ตามคุณลักษณะของเครื่องมือเครื่องใช้และความสามารถของมนุษย์ คือ
ยุคหินเก่า ประมาณ 500,000 -10,000 ปีมาแล้ว มนุษย์ในยุคหินเก่าดำรงชีวิตตามธรรมชาติ รู้จักการนำหินมาทำเป็นเครื่องมือเครื่องใช้โดยการกะเทาะอย่างหยาบๆ ไห้เกิดความคมเท่านั้น เริ่มรู้จักการใช้และประดิษฐ์ไฟ อาศัยตามถ้ำหรือเพิงผา
ยุคหินกลาง ประมาณ 10,000 6,000 ปีมาแล้ว มนุษย์ในยุคหินกลางรู้จักการทำเครื่องปั้นดินเผา การทอผ้า เริ่มมีพิธีกรรมเกี่ยวกับความตาย ส่วนเครี่องมือเครื่องใช้ต่างๆ ที่ทำจากหิน ในยุคหินกลางจะเป็นเครื่องมือหินที่กะเทาะอย่างละเอียดมากขึ้น ขนาดเครื่องมือเล็กลง และเริ่มมีรูปแบบที่แน่นอนมากขึ้น
ยุคหินใหม่ ประมาณ 6,000 4,000 ปีมาแล้ว เครื่องมือเครื่องใช้ในยุคหินใหม่ จะมีการประดิษฐ์ตกแต่งเรียบร้อยโดยการขัดจนเรียบเป็นมัน รู้จักการเพาะปลูกและการเลี้ยงสัตว์ ทำให้มีที่อยู่เป็นหลักแหล่งสร้างที่อยู่อาศัย มีการผลิตเพื่อแลกเปลี่ยนและการค้า
1.2 ยุคโลหะ มนุษย์ยุคนี้รู้จักนำโลหะมาหลอมและประดิษฐ์เป็นเครื่องมือเครื่องใช้ ที่มีคุณภาพมากขึ้น มีพัฒนาการทางสังคม เศรษฐกิจ และการปกครอง กล่าวคือ ชุมชนมนุษย์ยุคโลหะมีการจัดตั้งเป็นสังคมเมืองอย่างเป็นระบบ มีลัทธิศาสนา รู้จักการเดินเรือ รวมถึงมีความรู้เกี่ยวกับดาราศาสตร์ สำหรับยุคโลหะนี้ สามารถแยกย่อยออกเป็น 2 ระยะ คือ
ยุคสำริด ประมาณ 2,500 4,000 ปีมาแล้ว มนุษย์ที่อาศัยในดินแดนประเทศไทยได้นำแร่ทองแดงและดีบุกมาหล่อเป็นสำริด สำหรับทำเครื่องมือเครื่องใช้รวมถึงทำเป็นเครื่องประดับด้วย
ยุคเหล็ก ประมาณ 1,500 2,500 ปีมาแล้ว มนุษย์อาศัยในดินแดนประเทศไทยนำแร่เหล็กที่มีความทนทานกว่าสำริดมาประดิษฐ์เป็นเครื่องมือเครื่องใช้ ในขณะเดียวกันก็ยังคงมีการใช้สำริดในการทำเป็นเครื่องมือเครื่องใช้และเครื่องประดับอื่นๆอีกด้วย
2. การแบ่งตามวิถีการดำรงชีวิต การแบ่งยุคสมัยประเภทนี้ แบ่งตามลักษณะการปรับสภาพการดำรงชีวิตของผู้คนในสังคม โดยแบ่งเป็นสมัยดังนี้
2.1 สมัยชุมชนล่าสัตว์ ประมาณ 4,500 ปีขึ้นไป มนุษย์มีความเป็นอยู่ตามธรรมชาติไม่มีการตั้งหลักแหล่งหรือที่พักอาศัยถาวร ยังคงเร่ร่อนและดำรงชีพด้วยการล่าสัตว์เป็นอาหาร
2.2 สมัยหมู่บ้านเกษตรกรรม เริ่มประมาณ 4,500 ปีมาแล้ว มนุษย์รู้จักการเพาะปลูก มีการตั้งหลักแหล่งอยู่รวมกันเป็นชุมชนขนาดเล็ก สามารถผลิตเครื่องมือเครื่องใช้ที่จำเป็นภายในชุมชนของตน เช่น การทำภาชนะดินเผา การทอผ้า ฯลฯ และมีการประกอบพิธีกรรมเกี่ยวกับความตาย
2.3 สมัยสังคมเมือง ประมาณ 2,500 ปีมาแล้ว มนุษย์ตั้งถิ่นฐานเป็นชุมชนในบริเวณพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์ เกิดการพัฒนาการด้านต่างๆ จนกลายเป็นบ้านเมือง มีการติดต่อค้าขายกับชุมชนอื่น
แหล่งอารยธรรมสมัยก่อนประวัติศาสตร์ในประเทศไทย
1. บ้านเก่า อยู่ในยุดหินใหม่ ตั้งอยู่ในเขตอำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ได้ขุดค้นพบเครื่องมือหินขัดเรือ” ขวานฟ้า ” เครื่องประดับที่ทำด้วยหิน เช่น กำไล ลูกปัด และเครื่องปั้นดินเผาสีดำสามขา เป็นต้น
2. ถ้ำพระ อยู่ในยุคหินกลาง ตั้งอยู่ในบริเวณอำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจบุรี มนุษย์รู้จักการทำขวานหินประณีตขึ้นมีการกะเทาะทั้งสิงข้างให้เรียบ
3. ถ้ำผี อยู่ในยุคหินกลางเช่นเดียวกัน แต่ตั้งอยู่ในเขตอำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้มีการขุดค้นพบเศษเครื่องปั้นดินเผา กระดูกสัตว์ ตลอดทั้งซากพืช เมล็ดพืชหลายชนิดที่แสดงให้เห็นว่าได้มีการนำพืชมาปลูก
4. บ้านเชียง อยู่ในยุคโลหะ ตั้งอยู่ที่ตำบลบ้านเชียง อำเภอหนองหาน จังหวัดอุดรธานี มีการขุดค้นพบเครื่องปั้นดินเผา ลายเขียนสีที่สวยงามมาก และยังขุดค้นพบเครื่องมือเครื่องใช้ที่ทำด้วยสำริด เช่น กำไลหิน แหวน และลูกปัด เป็นต้น
บ้านเชียง เป็นแหล่งโบราณคดีสมัยก่อนประวัติศาสตร์ในยุคสำริดต่อเนื่องจนถึงยุคเหล็ก ตั้งอยู่ในเขตตำบลบ้านเชียง อำเภอหนองหาน จังหวัดอุดรธานี เป็นแหล่งอารยธรรมโบราณคดีที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก อายุยุคสำริดและยุคเหล็กที่บ้านเชียงจัดว่าเก่าแก่แห่งหนึ่งของโลก จนในที่สุดองค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือยูเนสโก ( UNESCO )ประกาศยกย่องให้แหล่งโบราณคดีบ้านเชียงเป็น มรดกโลกทางวัฒนธรรม เมื่อ พ.ศ. 2535
ความคิดเห็น