คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : - -
ตอนที่ 2 สัตยาซบหน้าอยู่กับแผ่นอกกว้างอันเคยคุ้น แม้ไม่ได้นึกเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไปแต่ก็รู้สึกโหวงในอกไม่น้อย "เพราะพงหญ้าคนเดียว...ถ้าคิดถึงจนร้องไห้นะ ออกจากโรงพยาบาลมาจะไม่คุยด้วยอีกสามวัน" "บ้านหรือรังฝุ่นวะเนี่ย" สัตยาวาดนิ้วไปตามเครื่องเรือนสีน้ำตาลเข้มแล้วบ่นขึ้นมา "นายไม่มีไม้ปัดขนไก่เหรอฝุ่นมันถึงได้หนาเป็นแผ่นโฟมแบบนี้ น้ำอุ่นถูกเปิดลงอ่างมีงูใหญ่เลื้อยว่ายวนอยู่ในน้ำตื้น ๆ ด้านใน ขณะที่ภิมุขโยนเม็ดอาบน้ำลงอ่างพร้อมถอดเสื้อผ้าอย่างไม่รีบร้อน เสร็จแล้วจึงค่อย ๆ ก้าวลงอ่างที่มีฟองฟูฟ่องจนมองไม่เห็นงูใหญ่ที่เอาลงไปก่อน ชายหนุ่มจึงต้องระวังมากขึ้น... น้ำอุ่นถูกเปิดลงอ่างมีงูใหญ่เลื้อยว่ายวนอยู่ในน้ำตื้น ๆ ด้านใน ขณะที่ภิมุขโยนเม็ดอาบน้ำลงอ่างพร้อมถอดเสื้อผ้าอย่างไม่รีบร้อน เสร็จแล้วจึงค่อย ๆ ก้าวลงอ่างที่มีฟองฟูฟ่องจนมองไม่เห็นงูใหญ่ที่เอาลงไปก่อน ชายหนุ่มจึงต้องระวังมากขึ้น... น้ำอุ่นถูกเปิดลงอ่างมีงูใหญ่เลื้อยว่ายวนอยู่ในน้ำตื้น ๆ ด้านใน ขณะที่ภิมุขโยนเม็ดอาบน้ำลงอ่างพร้อมถอดเสื้อผ้าอย่างไม่รีบร้อน เสร็จแล้วจึงค่อย ๆ ก้าวลงอ่างที่มีฟองฟูฟ่องจนมองไม่เห็นงูใหญ่ที่เอาลงไปก่อน ชายหนุ่มจึงต้องระวังมากขึ้น... "บ้านหรือรังฝุ่นวะเนี่ย" สัตยาวาดนิ้วไปตามเครื่องเรือนสีน้ำตาลเข้มแล้วบ่นขึ้นมา "นายไม่มีไม้ปัดขนไก่เหรอฝุ่นมันถึงได้หนาเป็นแผ่นโฟมแบบนี้ น้ำอุ่นถูกเปิดลงอ่างมีงูใหญ่เลื้อยว่ายวนอยู่ในน้ำตื้น ๆ ด้านใน ขณะที่ภิมุขโยนเม็ดอาบน้ำลงอ่างพร้อมถอดเสื้อผ้าอย่างไม่รีบร้อน เสร็จแล้วจึงค่อย ๆ ก้าวลงอ่างที่มีฟองฟูฟ่องจนมองไม่เห็นงูใหญ่ที่เอาลงไปก่อน ชายหนุ่มจึงต้องระวังมากขึ้น... น้ำอุ่นถูกเปิดลงอ่างมีงูใหญ่เลื้อยว่ายวนอยู่ในน้ำตื้น ๆ ด้านใน ขณะที่ภิมุขโยนเม็ดอาบน้ำลงอ่างพร้อมถอดเสื้อผ้าอย่างไม่รีบร้อน เสร็จแล้วจึงค่อย ๆ ก้าวลงอ่างที่มีฟองฟูฟ่องจนมองไม่เห็นงูใหญ่ที่เอาลงไปก่อน ชายหนุ่มจึงต้องระวังมากขึ้น... น้ำอุ่นถูกเปิดลงอ่างมีงูใหญ่เลื้อยว่ายวนอยู่ในน้ำตื้น ๆ ด้านใน ขณะที่ภิมุขโยนเม็ดอาบน้ำลงอ่างพร้อมถอดเสื้อผ้าอย่างไม่รีบร้อน เสร็จแล้วจึงค่อย ๆ ก้าวลงอ่างที่มีฟองฟูฟ่องจนมองไม่เห็นงูใหญ่ที่เอาลงไปก่อน ชายหนุ่มจึงต้องระวังมากขึ้น... "บ้านหรือรังฝุ่นวะเนี่ย" สัตยาวาดนิ้วไปตามเครื่องเรือนสีน้ำตาลเข้มแล้วบ่นขึ้นมา "นายไม่มีไม้ปัดขนไก่เหรอฝุ่นมันถึงได้หนาเป็นแผ่นโฟมแบบนี้ น้ำอุ่นถูกเปิดลงอ่างมีงูใหญ่เลื้อยว่ายวนอยู่ในน้ำตื้น ๆ ด้านใน ขณะที่ภิมุขโยนเม็ดอาบน้ำลงอ่างพร้อมถอดเสื้อผ้าอย่างไม่รีบร้อน เสร็จแล้วจึงค่อย ๆ ก้าวลงอ่างที่มีฟองฟูฟ่องจนมองไม่เห็นงูใหญ่ที่เอาลงไปก่อน ชายหนุ่มจึงต้องระวังมากขึ้น... น้ำอุ่นถูกเปิดลงอ่างมีงูใหญ่เลื้อยว่ายวนอยู่ในน้ำตื้น ๆ ด้านใน ขณะที่ภิมุขโยนเม็ดอาบน้ำลงอ่างพร้อมถอดเสื้อผ้าอย่างไม่รีบร้อน เสร็จแล้วจึงค่อย ๆ ก้าวลงอ่างที่มีฟองฟูฟ่องจนมองไม่เห็นงูใหญ่ที่เอาลงไปก่อน ชายหนุ่มจึงต้องระวังมากขึ้น... น้ำอุ่นถูกเปิดลงอ่างมีงูใหญ่เลื้อยว่ายวนอยู่ในน้ำตื้น ๆ ด้านใน ขณะที่ภิมุขโยนเม็ดอาบน้ำลงอ่างพร้อมถอดเสื้อผ้าอย่างไม่รีบร้อน เสร็จแล้วจึงค่อย ๆ ก้าวลงอ่างที่มีฟองฟูฟ่องจนมองไม่เห็นงูใหญ่ที่เอาลงไปก่อน ชายหนุ่มจึงต้องระวังมากขึ้น...
"โอ๊ย! ถอยไปนะ...อย่าเข้ามาใกล้"
เสียงตะโกนและเสียงอึกทึกครึกโครมดังลั่นไปทั่วห้อง จนประตูถูกเปิดออกพร้อมกับการมาของภิมุข ที่จ้องมองพี่ชายคนรองและลูกน้องด้วยความระอา เมื่อไม่คิดว่าแม้แต่ในห้องทำงานที่บริษัทฯ ศัตรูเก่าคนรักใหม่ก็ยังราวีกันไม่เลิกรา...
"พี่พง อย่าเล่นรักที่ทำงานดิ พนักงานคนอื่นเขาตกใจนะพี่..." ภิมุขเอ่ยเตือนแล้วนั่งลงที่เก้าอี้ตรงกันข้ามกับพี่ชาย
"เฮ้ย! มุกพูดแบบนี้หมายความว่าไงวะ เล่นอะไรนะ...เดี๋ยวเหอะ ปากไอมอมหมาข้างบ้านจริง ๆ" สัตยาเอ่ยต่อว่าน้องชายด้วยแก้มแดงเรื่อ เมื่อไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะโผล่เข้ามาแบบไม่ให้ตั้งตัว เมื่อตัวเขายังคงนั่งอยู่บนตักของพงหญ้าบนเก้าอี้ทำงานตัวเองนั่นแหละ
"แล้วพี่หยกไม่รักเหรอนั่น ผมคิดไปเองอีกแล้ว...เซ็งว่ะ" พูดจบคนเข้ามาขัดจังหวะก็เดินออกจากห้องไปอย่างรู้ตัว เปิดโอกาสให้สัตยาหันกลับไปแหวใส่เจ้าของตักได้อีก
"จะไปไหนก็รีบไปเลยได้มั้ย วัน ๆ ทำอะไรบ้างเนี่ยนอกจากลวนลามเจ้านาย อู้งาน หลีหญิง นินทาประธาน เล่นไพ่กับยาม เอ็งมีอะไรดีบ้างวะไอ้พงหญ้า ก่อเรื่องได้ไม่เลิก สักวันเถอะจะปล่อยให้นอนคุกจนเข็ด" สัตยาเอ่ยประจานคุณงามความดีของลูกน้องคนสนิทที่กลายมาเป็นคนรักแล้วยังคิดจะยกระดับตัวเองมาเป็นสามีเขา หากพงหญ้ากลับยิ้มรับราวกับภาคภูมิใจ
"อ้าว...สร้างชื่อไง ให้เหมาะสมกับตำแหน่งคนข้างกายท่านผู้จัดการฝ่ายฯ ถ้าอยากให้หยุดทำเรื่องเหลวไหลก็ถอดหัวใจมาคุมผมซะสิครับเจ้านาย..." หนุ่มหล่อหน้าตาคมเข้ม ตัวโตอย่างกับตึกแต่ก็เป็นที่หมายตาของสาว ๆ หลายฝ่ายในบริษัทฯ ส่งสายตาหวานหยาดเยิ้มจนน้ำเชื่อมยังอายให้ผู้จัดการฝ่ายส่งออก
สัตยาเริ่มหงุดหงิดเปิดลิ้นชักหยิบมีดพกแทงเข้าที่หัวใหญ่พงหญ้าแบบไม่ให้อีกฝ่ายรู้ตัว คนบาดเจ็บร้องโอดโอยน่าสงสาร แต่เจ้านายหันไปกดโทรศัพท์ "วิตราโทรเรียกรถพยาบาล บอกน้องผมให้ด้วยว่าพงหญ้าบาดเจ็บ...เล็กน้อย"
"ถ้าเอาดีไม่ได้ล่ะก็ อย่ามาหาว่าใจร้ายนะพงหญ้า ไม่ต้องห่วงจะฝากคุณหมอเอาไว้ให้นอนโรงพยาบาลซักสองอาทิตย์ อย่าหวังว่าจะได้ออกมาก่อนหน้านั้น แล้วถ้ายังไม่เข็ดคราวหน้าจะเอาให้หนักกว่านี้ ชนิดที่ว่าไม่ต้องเห็นหน้าฉันเป็นปีเลยดีมั้ยน้า..." ตอนหลังสัตยาทำท่าครุ่นคิดจริงจังจนคนฟังแทบจะร้องไห้น้ำตาเป็นสายเลือด
"ไม่ทำแล้ว...ผมไม่ทำแล้วก็ได้ แต่อยู่โรง'บาลแค่วันเดียวได้มั้ยครับหยก นะครับ...นะ" ดูเหมือนแผลที่เลือดโชกจะไม่ได้รับความสนใจจากเจ้าตัว มีแต่สัตยาที่หยิบผ้าเช็ดหน้าออกจากกระเป๋ามาพันไว้ให้
"ไม่ได้...เดี๋ยวไม่เข็ดจริง ไม่เจอซักสองอาทิตย์เนี่ยกำลังดี อยากรู้นักว่าที่บอกว่ารักนักรักหนาจะรักกันจริงแค่ไหน นายทำตัวเองไม่ใช่หรือไง แถมฉันต้องพลอยรับกรรมไปด้วย ดูสิว่าต้องนอนคนเดียวไม่มีคนคอยเฝ้า คงคิดถึงนายแย่เลย..." พงหญ้ามองค้อนคนพูดทันใด ที่ยังอุตส่าห์พูดกรอกหูให้เขาต้องคอยคิดถึงอีกฝ่ายทุกลมหายใจ แต่สุดท้ายก็ต้องหันมาโทษตัวเองจริง ๆ
ริมฝีปากอิ่มนุ่มจูบประทับลงบนริมฝีปากอีกฝ่ายแรง ๆ แล้วเงยหน้ามาสบดวงตาคมด้วยรอยยิ้มหวานบาดใจ สัตยานั้นจัดว่าหน้าตาสวยได้เลยทีเดียว "ทำตัวดี ๆ นะครับ...แล้วอีกสองอาทิตย์เจอกัน"
"โธ่!...หยกก็ ผมผิดไปแล้ว ไม่ทำอีกแล้ว ต่อไปจะตั้งใจทำงานไม่ก่อเรื่องนะครับ...อยู่บ้านคนเดียวดี ๆ นะ อย่าให้รู้ว่าแอบพาคนอื่นเข้าบ้าน ไม่อย่างนั้นออกมาแล้วจะโดดลงมาจากดาดฟ้า ให้หยกมองเห็นจากห้องทำงานให้ดู" พงหญ้าง้อตามนิสัยความประหลาดของตัวเอง
"อย่า เอา ความตาย มา ล้อเล่น นะ" ทุกคำถูกเน้นด้วยน้ำเสียงนุ่มเรียบ
สัตยาเงยหน้าขึ้นพร้อมรอยยิ้มเยาะเย้ย สองแขนโอบกอดรอบคอคนตัวใหญ่แล้วยกตัวขึ้น กัดไปบนริมฝีปากหนาจนอีกคนร้องเสียงดังลั่นห้อง...กระทั่งประตูถูกเปิดอีกครั้งนั่นล่ะ
"พี่หยก...เฮ้ย! ปล่อย..." ภิมุขวิ่งไปดึงพี่ชายที่กำลังแสดงความรักในแบบของตัวเองอยู่ออกมาจากคนบาดเจ็บ ซึ่งกว่าจะแยกออกมาได้พงหญ้าก็เลือดอาบไปเรียบร้อย
ภิมุขมองพี่ชายที่มีเลือดจากพงหญ้าติดอยู่บนริมฝีปากราวกับผีดูดเลือดด้วยความสยอง เขาพอรู้ว่าเวลาพี่ชายโกรธจะต้องหาที่ลงไม้ลงมือเสมอ ชนิดที่ไม่น่าเชื่อเลยว่าอีกฝ่ายจะเกลียดความเจ็บปวดยิ่งกว่าอะไรในโลก อาจจะเพราะเกลียดกลัวที่จะต้องเจอกับตัวเอง แต่กับคนอื่นคงตรงกันข้ามกระมัง
"ผมบอกแล้วว่าอย่าอดทนกับพี่พงให้มากนัก ถ้าโกรธก็ใส่ ๆ ไปบ้างวันละนิดวันละหน่อยสิ ทุบไปสักวันละครั้ง ก็ไม่เป็นแบบนี้หรอก...มันดวงซวยของใครกันแน่วะ นิสัยก็บ้าพอกันเลย" คนพูดไม่ทันสังเกตว่าอีกสองคนในห้องหันมาตนเองเป็นตาเดียวกับคำว่า 'นิสัยก็บ้าพอกัน'
"ถ้าพูดถึงความบ้าสงสัยจะสู้นายไม่ได้ว่ะมุก..." สัตยาสะบัดแขนจากน้องชาย แล้วเดินไปนั่งตักคนรักอีกครั้ง ก่อนจะเริ่มต้นเลียบาดแผลให้อีกฝ่ายด้วยท่าทีหวานซึ้งกินใจจนน้องชายอดเอือมระอาไม่ได้
"ข่าวว่าจะให้นอนโรงพยาบาล กี่วันล่ะ..." ภิมุขถามขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงไซเรนแว่ว ๆ
สัตยาเงยหน้าขึ้นจ้องมองคนรักแล้วก้มลงไล้เลียเลือดต่ออย่างครุ่นคิด หากอ้อมกอดที่รัดแน่นขึ้นนั้นทำให้เขาต้องหันไปเอ่ยตอบน้องชายเป็นการตัดสินใจขั้นเด็ดขาด "สองวัน..."
จากสองอาทิตย์ลดฮวบลงเหลือเพียงสองวันทำให้พงหญ้ายิ้มได้ทั้งน้ำตา ด้วยนิสัยกล้าตายบวกกับขี้แยอย่างไม่น่าเข้ากัน ทำให้เขาเป็นที่รักของสัตยาได้อย่างไม่ยากเย็น หากความรักของคนทั้งคู่ก็เปรียบเสมือนเดินอยู่บนเส้นด้ายที่ไม่รู้จะพลาดตกลงมาเมื่อไร แต่ที่สำคัญฝ่ายที่ตกลงมาให้เจ็บตัวได้มีแค่พงหญ้าเท่านั้น เพราะสัตยาเกลียดความเจ็บปวดยิ่งกว่าสิ่งใดในโลก
"มาแล้ว..." ภิมุขหลีกทางให้บุรุษพยาบาลเข้ามาในห้อง ขณะที่สัตยาลุกขึ้นยืนดูบุรุษพยาบาลประคองพงหญ้าออกไป
พงหญ้าหันมามองคนรักที่ยืนนิ่งจนลับตา ภิมุขมองภาพราวกับทั้งคู่กำลังจะพรากจากกันไปไกลแสนไกลแล้วได้แต่ส่ายหน้าด้วยความหน่าย ยิ่งท่าทางของพี่ชายที่หมดอาลัยตายอยากทรุดนั่งลงบนเก้าอี้ แล้วค่อย ๆ หลับตาลงนั่นอีก...ทำไมมันช่างน้ำเน่าได้ปานนี้
"พอเหอะว่ะพี่ คิดถึงแล้วจะทำทำไมวะเอ้ย...ครับ มาฟังผมดีกว่า เพิ่งนึกขึ้นมาได้...เมื่อวานผมเจองูจงอางตัวใหญ่ยาวประมาณเกือบสามเมตรที่บ้าน น่ารักมาก ๆ ผมล่ะติดใจจริง ๆ แต่ไม่รู้วันนี้จะยังอยู่มั้ย ผมให้นอนบนตะกร้าในห้องนอน" ภิมุขเล่าเรื่องลื่นไหล แต่คนฟังที่หลับตาเคลิ้ม ๆ ต้องเบิ่งตากว้างอย่างตกใจ
"จะบ้าเหรอวะมุก...งูจงอางอยู่ในบ้าน แล้วนายยังระรื่นขนาดนี้เนี่ยนะ ไอ้น้องบ้าเอ๊ย...เรียกใครไปจัดการดีมั้ย" สัตยาดีดตัวลุกขึ้นกระฉับกระเฉงขึ้นมาทันใด
"เดี๋ยวก็เป็นแบบสิบปีที่แล้วหรอก พี่จะเสี่ยงเหรอ...แต่ผมว่าไม่ดุหรอก เพราะวันนี้ผมยังจับตัวคุณจงอางได้เลย" ภิมุขเล่าด้วยความภาคภูมิใจ "แล้วก็รีบวิ่งออกจากบ้านเพราะกลัวนี่แหละ ฮ่าฮ่าฮ่า"
"ไอ้บ้า..." สัตยาได้ยินเสียงหัวเราะของน้องชายก็ด่าเข้าให้ "จนกว่างูนั่นจะออกจากบ้านนาย ฉันถึงจะเข้าไปดูแลความเรียบร้อยให้..."
"ไม่เอา...วันนี้ผมจะกินสปาเก๊ตตี้ผัดซอสสัตยา ที่บ้านของผม...เพราะอย่างนั้นพี่ต้องไปค้างกับผม จะกลัวอะไรแค่งูตัวเดียว เลี้ยงจนตายมาตั้งกี่ตัวแล้ว...นาน ๆ ทีพี่พงจะไม่อยู่ นอนกับน้องชายที่น่ารักอย่างผมดีกว่าน่า..." ภิมุขเข้าไปถูไถศีรษะกับแขนพี่ชายจนอีกฝ่ายฝืนใจพยักหน้า เพราะกับน้องชายคนเล็กคนนี้สัตยาไม่เคยขัดใจสักครั้ง
สัตยาเริ่มบ่นอุบอิบไปทั่วบ้าน โดยมีภิมุขคอยลอบหัวเราะตามหลังกับความรักสะอาดในระดับที่สองของพี่ชาย ด้วยคิดว่าอีกฝ่ายยังไม่ถึงระดับหนึ่งอย่างคุณย่าน้อมที่แสนจะรักความสะอาดกว่าสิ่งใดในโลก จะยกเว้นก็แต่หลานชายสามคนที่สองคนรักสกปรกเหลือเกิน
"แล้วนี่มันอะไรเนี่ย นายอย่าวางอะไรทิ้งไว้เรี่ยราดได้มั้ยมุก เดี๋ยวก็สะดุดหรอก" สัตยาบ่นเสียงดัง คว้าเอาของที่วางขวางหน้าไว้ขึ้นมาโดยไม่ทันมอง...
ก่อนจะตัวแข็งทื่อเมื่อเห็นว่าหัวงูจงอางถูกกำไว้ในมือ ลำตัวยาวหนักสะบัดไปมาคล้ายหายใจไม่ออก จนชายหนุ่มต้องลดความหวาดกลัว ค่อย ๆ วางงูใหญ่ไว้บนพื้นบ้านแล้วเอื้อมมือลูบลำตัวให้เบา ๆ แทนคำขอโทษ ก่อนจะแข็งทื่อไปอีกรอบเมื่อดวงตาสีแดงเพลิงทอดมองมาอย่างตัดพ้อและดูเหมือนจะแง่งอน
"งูอะไรวะเจ้าชู้ฉิบ..." สัตยาเอ่ยต่อว่างูที่ไม่รู้เลื้อยพาดมานอนนิ่งสงบบนตักเขาตั้งแต่เมื่อไร "แต่ดูไปแล้วเท่ห์สุด ๆ เลยนะเนี่ย"
งูใหญ่ยกตัวขึ้นแผ่แม่เบี้ยเหมือนนึกว่าตัวเองเป็นนายแบบที่อยู่บนทางเดินของแมว ก่อนจะทิ้งตัวลงพาดขาสัตยาอีกรอบกับคำพูดของภิมุขที่แว่วมาจากครัว...
"พี่ใช้ตามองรึเปล่านั่น หรือพี่สายตาสั้นลงวะครับถึงได้มองเจ้านั่นว่าเท่ห์ ผมว่าน่ารักต่างหาก" ภิมุขเอ่ยพร้อมเสียงหัวเราะสนั่นลั่นครัว
"นายทำพี่งูหมดความมั่นใจว่ะมุก หงอไปเลยอะ..." สัตยายกลำตัวยาวเหยียดบางส่วนและลากบางส่วนไปด้วยความยากลำบาก ก่อนที่เขาจะทิ้งตัวลงกับโซฟานุ่มพร้อม ๆ กับงูใหญ่ในอ้อมกอด
"ไหนว่ากลัวไง แล้วไหงไปนั่งกอดกันซะแน่นปานนั้น เกิดพี่พงมาเห็นสงสัยจะหึงจนไฟไหม้บ้าน รายนั้นยิ่งหวงพี่ยังกับงูจงอางหวงไข่" ภิมุขเอ่ยแซวพี่ชาย แต่จริง ๆ อดหวั่นใจไม่ได้เพราะรู้ฤทธิ์หึงของคนที่พูดถึงในระดับลึกซึ้ง...
"คงจะสนุกน่าดูอะ เพราะพงหญ้ากลัวงูจงอางขึ้นสมอง อยากรู้จริง ๆ ว่าจะทำยังไง" พี่ชายตัวดีกลับเห็นว่าน่าสนุกไปเสียนี่
"ไปทำสปาเก๊ตตี้สิ ผมเตรียมเครื่องไว้ให้แล้ว...ส่วนจงอางผมจะเล่นด้วยแทนไปก่อน หึหึหึ" เสียงหัวเราะมีเลศนัยทำให้งูใหญ่ต้องผงกหัวขึ้นมอง แล้วเลื้อยหายวับเข้าไปในห้องนอนอย่างรวดเร็วปานสายลม
"หนีไปแล้วว่ะ...นายเล่าประวัติทำงูที่เลี้ยงตายให้พี่งูฟังเหรอวะ แล้วนายเผลอบอกไปหรือเปล่าว่าพวกเราเลี้ยงพี่หลามตายไปกี่ตัว ไม่ได้บอกใช่มั้ยว่ามากกว่าสิบตัว" สัตยาหันไปถามกระซิบกระซาบกับน้องชาย
"ไม่ได้บอกหรอกน่า พอดีจงอางทำท่ากลัวซะก่อนผมเลยยั้งปากไว้ทัน" นั่นล่ะวีรกรรมพี่น้องคู่หลุดโลกที่ทำเอางูใหญ่หูดีต้องสั่นสะท้านอย่างคาดไม่ถึงกับหน้าสวย ๆ หล่อ ๆ ที่เห็น
"เดี๋ยวผมไปอาบน้ำก่อนดีกว่า..." ภิมุขตะโกนบอกพี่ชาย หลังจากเดินอย่างเงียบกริบมาจนถึงห้องนอน ก่อนงูใหญ่จะรู้ตัวว่าหมดทางหนีก็ตอนที่อีกฝ่ายคว้าคอลากเข้าห้องน้ำไปด้วยกันนั่นแหละ
++++++++++++++++++++++++++
ภิมุขนั่งเหยียดขาชนผิวหนังนุ่มบางส่วน ทำให้เขารู้ว่าจงอางคงกำลังหลีกหนีเงื้อมมือเขาอยู่เป็นแน่ ชายหนุ่มจึงละเว้นอีกฝ่ายไว้ก่อน หันมาสนุกสนานกับการฟอกตัวแทน จนลืมว่าในอ่างนั้นไม่ได้มีตนอยู่เพียงคนเดียว...
จากความเพลิดเพลินของสายน้ำและฟองสบู่ ทำให้คนที่ต้องเหนื่อยมาจากการทำงานทั้งวันอย่างภิมุขเผลอนอนหลับไป ขณะที่กำลังเคลิบเคลิ้มอยู่นั่นเอง ในสติกึ่งหลับกึ่งตื่นภิมุขก็ฝันลางเลือน...
สัมผัสลื่นเลื้อยเอื่อยขึ้นมาตามเรียวขา หน้าท้อง จนถึงแผ่นอก กระทั่งหัวงูจงอางนอนนิ่งซบอยู่กับแผ่นอกเนียนขาว ภิมุขหัวเราะด้วยความจักจี้หากก็ยกมือลูบไล้ลำตัวยาวลื่นที่สัมผัสได้ถึงผิวหนังนุ่มของจงอางตัวใหญ่...
พลันในพริบตานั้นชายหนุ่มก็ชะงักด้วยความตกใจ เมื่อเห็นว่าที่ทาบทับตนเองอยู่นั้นเป็นผู้ชายคนหนึ่ง เรือนกายกำยำแข็งแกร่งผิวขาวเหลืองเนียนละเอียดจากสัมผัสที่ต้องกายกัน ใบหน้าคมหล่อเหลาราวกับมาเฟียฮ่องกงในหนังที่เคยดู
ดวงตาสีแดงเพลิงจ้องมองมาที่เขาด้วยแววตาที่ภิมุขไม่เข้าใจ...
ริมฝีปากอิ่มสีสดเหมือนพี่ชายอ้าออกจะเอ่ยถาม หากก็ต้องเงียบสนิทเมื่อถูกอีกฝ่ายประกบริมฝีปากลงมาบดคลึง ลิ้นร้อนเฉกเช่นมนุษย์เลื่อนเข้าเกาะเกี่ยวหยอกล้อกับลิ้นของภิมุขอย่างร้อนแรง แล้วขยับซอนไซ้ไปทั่วคล้ายกับกำลังหาบางอย่างที่อยู่ภายใน
ภิมุขเริ่มไร้สติยกแขนขึ้นกอดรัดแผ่นหลังแกร่งแล้วรั้งอีกฝ่ายเข้าหาตัว ยอมแลกลิ้นรับความอบอุ่นหวานซ่านจากคนตรงหน้าแต่โดยดี...
มือใหญ่เลื่อนเคล้นคลึงไปทั่วเรือนกายเนียนนุ่ม น้ำฟองสบู่จางหายไปในพริบตา ผิวขาวนวลแดงเรื่อเผยให้เห็นในเวลาเพียงไม่นาน ดวงตาสีแดงเพลิงจับจ้องร่างโปร่งด้วยสายตาใคร่รู้ ภิมุขไม่ผอมบางและสะสวยเท่าสัตยา ชายหนุ่มมีดวงตา จมูก ริมฝีปากและสีผิวเหมือนพี่ชาย หากดูเช่นไรก็หล่อเหลามากกว่าจะสวยนัก
แล้วดวงตาแดงสดก็ฉายแววสงสัยอีกครั้ง เมื่อใบหน้าแดงเรื่อที่หอบสะท้านจ้องมองเขาอยู่ดูงดงามกว่าที่เคยเห็น จนชายหนุ่มคิดว่าหากทำให้ภิมุขตัวแดงได้มากกว่านี้ อีกฝ่ายจะยิ่งงดงามมากขึ้นกระมัง...
ใบหน้าคมลดลงซุกอยู่กับซอกคอขาว ขบเม้มทิ้งรอยแดงเอาไว้ ก่อนจะเลื่อนไล้ลงประทับจูบบนแผ่นอกเนียนจนทั่ว นิ่งฟังเสียงครางเครือหอบสะท้านที่คิดว่าน่าฟังที่สุดอยู่พัก แล้วเลื่อนตวัดลิ้นไปบนยอดอกสีจาง เสียงแว่วหวานที่ได้ยินซาบซ่านอยู่ในความรู้สึก
ก่อนที่ทุกสิ่งจะเข้าสู่ความจริง...
ภิมุขสะดุ้งตื่นด้วยความตกใจ เขามองไปทั่วฟองสบู่ที่ฟูฟ่องก็พบว่างูใหญ่นอนนิ่งสนิทอยู่บนอกเขานั่นเอง ชายหนุ่มปล่อยน้ำออกแล้วล้างตัวให้ตนเองและจงอางที่หลับสนิท ก่อนจะทั้งยกทั้งลากลำตัวยาวเหยียดมาเช็ดตัวที่มุมห้อง พยายามจะหมุนเก็บลำตัวยาว ๆ นั่นให้เรียบร้อยหากก็ทำไม่ได้ จึงต้องจำใจพาดลำตัวยาวไว้บนเตียงตัวเอง...แล้วดึงผ้าห่มคลุมให้ตามสามัญสำนึก
ร่างโปร่งยืนเช็ดตัวอยู่หน้ากระจก แล้วต้องอ้าปากค้างกับร่องรอยแดงเป็นจ้ำที่ปรากฏอยู่ตรงซอกคอขาวและทั่วแผ่นอก นึกถึงความฝันแล้วใบหน้าก็แดงซ่าน ดวงตาคู่สวยเหมือนพี่ชายมองตวัดไปที่งูใหญ่ที่นอนทอดลำตัวยาวอย่างไม่เข้าใจนัก...
+++++++++++++++++++++++++++++++
จบตอน 2
ภิมุขนั่งเหยียดขาชนผิวหนังนุ่มบางส่วน ทำให้เขารู้ว่าจงอางคงกำลังหลีกหนีเงื้อมมือเขาอยู่เป็นแน่ ชายหนุ่มจึงละเว้นอีกฝ่ายไว้ก่อน หันมาสนุกสนานกับการฟอกตัวแทน จนลืมว่าในอ่างนั้นไม่ได้มีตนอยู่เพียงคนเดียว...
จากความเพลิดเพลินของสายน้ำและฟองสบู่ ทำให้คนที่ต้องเหนื่อยมาจากการทำงานทั้งวันอย่างภิมุขเผลอนอนหลับไป ขณะที่กำลังเคลิบเคลิ้มอยู่นั่นเอง ในสติกึ่งหลับกึ่งตื่นภิมุขก็ฝันลางเลือน...
สัมผัสลื่นเลื้อยเอื่อยขึ้นมาตามเรียวขา หน้าท้อง จนถึงแผ่นอก กระทั่งหัวงูจงอางนอนนิ่งซบอยู่กับแผ่นอกเนียนขาว ภิมุขหัวเราะด้วยความจักจี้หากก็ยกมือลูบไล้ลำตัวยาวลื่นที่สัมผัสได้ถึงผิวหนังนุ่มของจงอางตัวใหญ่...
พลันในพริบตานั้นชายหนุ่มก็ชะงักด้วยความตกใจ เมื่อเห็นว่าที่ทาบทับตนเองอยู่นั้นเป็นผู้ชายคนหนึ่ง เรือนกายกำยำแข็งแกร่งผิวขาวเหลืองเนียนละเอียดจากสัมผัสที่ต้องกายกัน ใบหน้าคมหล่อเหลาราวกับมาเฟียฮ่องกงในหนังที่เคยดู
ดวงตาสีแดงเพลิงจ้องมองมาที่เขาด้วยแววตาที่ภิมุขไม่เข้าใจ...
ริมฝีปากอิ่มสีสดเหมือนพี่ชายอ้าออกจะเอ่ยถาม หากก็ต้องเงียบสนิทเมื่อถูกอีกฝ่ายประกบริมฝีปากลงมาบดคลึง ลิ้นร้อนเฉกเช่นมนุษย์เลื่อนเข้าเกาะเกี่ยวหยอกล้อกับลิ้นของภิมุขอย่างร้อนแรง แล้วขยับซอนไซ้ไปทั่วคล้ายกับกำลังหาบางอย่างที่อยู่ภายใน
ภิมุขเริ่มไร้สติยกแขนขึ้นกอดรัดแผ่นหลังแกร่งแล้วรั้งอีกฝ่ายเข้าหาตัว ยอมแลกลิ้นรับความอบอุ่นหวานซ่านจากคนตรงหน้าแต่โดยดี...
มือใหญ่เลื่อนเคล้นคลึงไปทั่วเรือนกายเนียนนุ่ม น้ำฟองสบู่จางหายไปในพริบตา ผิวขาวนวลแดงเรื่อเผยให้เห็นในเวลาเพียงไม่นาน ดวงตาสีแดงเพลิงจับจ้องร่างโปร่งด้วยสายตาใคร่รู้ ภิมุขไม่ผอมบางและสะสวยเท่าสัตยา ชายหนุ่มมีดวงตา จมูก ริมฝีปากและสีผิวเหมือนพี่ชาย หากดูเช่นไรก็หล่อเหลามากกว่าจะสวยนัก
แล้วดวงตาแดงสดก็ฉายแววสงสัยอีกครั้ง เมื่อใบหน้าแดงเรื่อที่หอบสะท้านจ้องมองเขาอยู่ดูงดงามกว่าที่เคยเห็น จนชายหนุ่มคิดว่าหากทำให้ภิมุขตัวแดงได้มากกว่านี้ อีกฝ่ายจะยิ่งงดงามมากขึ้นกระมัง...
ใบหน้าคมลดลงซุกอยู่กับซอกคอขาว ขบเม้มทิ้งรอยแดงเอาไว้ ก่อนจะเลื่อนไล้ลงประทับจูบบนแผ่นอกเนียนจนทั่ว นิ่งฟังเสียงครางเครือหอบสะท้านที่คิดว่าน่าฟังที่สุดอยู่พัก แล้วเลื่อนตวัดลิ้นไปบนยอดอกสีจาง เสียงแว่วหวานที่ได้ยินซาบซ่านอยู่ในความรู้สึก
ก่อนที่ทุกสิ่งจะเข้าสู่ความจริง...
ภิมุขสะดุ้งตื่นด้วยความตกใจ เขามองไปทั่วฟองสบู่ที่ฟูฟ่องก็พบว่างูใหญ่นอนนิ่งสนิทอยู่บนอกเขานั่นเอง ชายหนุ่มปล่อยน้ำออกแล้วล้างตัวให้ตนเองและจงอางที่หลับสนิท ก่อนจะทั้งยกทั้งลากลำตัวยาวเหยียดมาเช็ดตัวที่มุมห้อง พยายามจะหมุนเก็บลำตัวยาว ๆ นั่นให้เรียบร้อยหากก็ทำไม่ได้ จึงต้องจำใจพาดลำตัวยาวไว้บนเตียงตัวเอง...แล้วดึงผ้าห่มคลุมให้ตามสามัญสำนึก
ร่างโปร่งยืนเช็ดตัวอยู่หน้ากระจก แล้วต้องอ้าปากค้างกับร่องรอยแดงเป็นจ้ำที่ปรากฏอยู่ตรงซอกคอขาวและทั่วแผ่นอก นึกถึงความฝันแล้วใบหน้าก็แดงซ่าน ดวงตาคู่สวยเหมือนพี่ชายมองตวัดไปที่งูใหญ่ที่นอนทอดลำตัวยาวอย่างไม่เข้าใจนัก...
+++++++++++++++++++++++++++++++
จบตอน 2
ภิมุขนั่งเหยียดขาชนผิวหนังนุ่มบางส่วน ทำให้เขารู้ว่าจงอางคงกำลังหลีกหนีเงื้อมมือเขาอยู่เป็นแน่ ชายหนุ่มจึงละเว้นอีกฝ่ายไว้ก่อน หันมาสนุกสนานกับการฟอกตัวแทน จนลืมว่าในอ่างนั้นไม่ได้มีตนอยู่เพียงคนเดียว...
จากความเพลิดเพลินของสายน้ำและฟองสบู่ ทำให้คนที่ต้องเหนื่อยมาจากการทำงานทั้งวันอย่างภิมุขเผลอนอนหลับไป ขณะที่กำลังเคลิบเคลิ้มอยู่นั่นเอง ในสติกึ่งหลับกึ่งตื่นภิมุขก็ฝันลางเลือน...
สัมผัสลื่นเลื้อยเอื่อยขึ้นมาตามเรียวขา หน้าท้อง จนถึงแผ่นอก กระทั่งหัวงูจงอางนอนนิ่งซบอยู่กับแผ่นอกเนียนขาว ภิมุขหัวเราะด้วยความจักจี้หากก็ยกมือลูบไล้ลำตัวยาวลื่นที่สัมผัสได้ถึงผิวหนังนุ่มของจงอางตัวใหญ่...
พลันในพริบตานั้นชายหนุ่มก็ชะงักด้วยความตกใจ เมื่อเห็นว่าที่ทาบทับตนเองอยู่นั้นเป็นผู้ชายคนหนึ่ง เรือนกายกำยำแข็งแกร่งผิวขาวเหลืองเนียนละเอียดจากสัมผัสที่ต้องกายกัน ใบหน้าคมหล่อเหลาราวกับมาเฟียฮ่องกงในหนังที่เคยดู
ดวงตาสีแดงเพลิงจ้องมองมาที่เขาด้วยแววตาที่ภิมุขไม่เข้าใจ...
ริมฝีปากอิ่มสีสดเหมือนพี่ชายอ้าออกจะเอ่ยถาม หากก็ต้องเงียบสนิทเมื่อถูกอีกฝ่ายประกบริมฝีปากลงมาบดคลึง ลิ้นร้อนเฉกเช่นมนุษย์เลื่อนเข้าเกาะเกี่ยวหยอกล้อกับลิ้นของภิมุขอย่างร้อนแรง แล้วขยับซอนไซ้ไปทั่วคล้ายกับกำลังหาบางอย่างที่อยู่ภายใน
ภิมุขเริ่มไร้สติยกแขนขึ้นกอดรัดแผ่นหลังแกร่งแล้วรั้งอีกฝ่ายเข้าหาตัว ยอมแลกลิ้นรับความอบอุ่นหวานซ่านจากคนตรงหน้าแต่โดยดี...
มือใหญ่เลื่อนเคล้นคลึงไปทั่วเรือนกายเนียนนุ่ม น้ำฟองสบู่จางหายไปในพริบตา ผิวขาวนวลแดงเรื่อเผยให้เห็นในเวลาเพียงไม่นาน ดวงตาสีแดงเพลิงจับจ้องร่างโปร่งด้วยสายตาใคร่รู้ ภิมุขไม่ผอมบางและสะสวยเท่าสัตยา ชายหนุ่มมีดวงตา จมูก ริมฝีปากและสีผิวเหมือนพี่ชาย หากดูเช่นไรก็หล่อเหลามากกว่าจะสวยนัก
แล้วดวงตาแดงสดก็ฉายแววสงสัยอีกครั้ง เมื่อใบหน้าแดงเรื่อที่หอบสะท้านจ้องมองเขาอยู่ดูงดงามกว่าที่เคยเห็น จนชายหนุ่มคิดว่าหากทำให้ภิมุขตัวแดงได้มากกว่านี้ อีกฝ่ายจะยิ่งงดงามมากขึ้นกระมัง...
ใบหน้าคมลดลงซุกอยู่กับซอกคอขาว ขบเม้มทิ้งรอยแดงเอาไว้ ก่อนจะเลื่อนไล้ลงประทับจูบบนแผ่นอกเนียนจนทั่ว นิ่งฟังเสียงครางเครือหอบสะท้านที่คิดว่าน่าฟังที่สุดอยู่พัก แล้วเลื่อนตวัดลิ้นไปบนยอดอกสีจาง เสียงแว่วหวานที่ได้ยินซาบซ่านอยู่ในความรู้สึก
ก่อนที่ทุกสิ่งจะเข้าสู่ความจริง...
ภิมุขสะดุ้งตื่นด้วยความตกใจ เขามองไปทั่วฟองสบู่ที่ฟูฟ่องก็พบว่างูใหญ่นอนนิ่งสนิทอยู่บนอกเขานั่นเอง ชายหนุ่มปล่อยน้ำออกแล้วล้างตัวให้ตนเองและจงอางที่หลับสนิท ก่อนจะทั้งยกทั้งลากลำตัวยาวเหยียดมาเช็ดตัวที่มุมห้อง พยายามจะหมุนเก็บลำตัวยาว ๆ นั่นให้เรียบร้อยหากก็ทำไม่ได้ จึงต้องจำใจพาดลำตัวยาวไว้บนเตียงตัวเอง...แล้วดึงผ้าห่มคลุมให้ตามสามัญสำนึก
ร่างโปร่งยืนเช็ดตัวอยู่หน้ากระจก แล้วต้องอ้าปากค้างกับร่องรอยแดงเป็นจ้ำที่ปรากฏอยู่ตรงซอกคอขาวและทั่วแผ่นอก นึกถึงความฝันแล้วใบหน้าก็แดงซ่าน ดวงตาคู่สวยเหมือนพี่ชายมองตวัดไปที่งูใหญ่ที่นอนทอดลำตัวยาวอย่างไม่เข้าใจนัก...
+++++++++++++++++++++++++++++++
จบตอน 2
สัตยาเริ่มบ่นอุบอิบไปทั่วบ้าน โดยมีภิมุขคอยลอบหัวเราะตามหลังกับความรักสะอาดในระดับที่สองของพี่ชาย ด้วยคิดว่าอีกฝ่ายยังไม่ถึงระดับหนึ่งอย่างคุณย่าน้อมที่แสนจะรักความสะอาดกว่าสิ่งใดในโลก จะยกเว้นก็แต่หลานชายสามคนที่สองคนรักสกปรกเหลือเกิน
"แล้วนี่มันอะไรเนี่ย นายอย่าวางอะไรทิ้งไว้เรี่ยราดได้มั้ยมุก เดี๋ยวก็สะดุดหรอก" สัตยาบ่นเสียงดัง คว้าเอาของที่วางขวางหน้าไว้ขึ้นมาโดยไม่ทันมอง...
ก่อนจะตัวแข็งทื่อเมื่อเห็นว่าหัวงูจงอางถูกกำไว้ในมือ ลำตัวยาวหนักสะบัดไปมาคล้ายหายใจไม่ออก จนชายหนุ่มต้องลดความหวาดกลัว ค่อย ๆ วางงูใหญ่ไว้บนพื้นบ้านแล้วเอื้อมมือลูบลำตัวให้เบา ๆ แทนคำขอโทษ ก่อนจะแข็งทื่อไปอีกรอบเมื่อดวงตาสีแดงเพลิงทอดมองมาอย่างตัดพ้อและดูเหมือนจะแง่งอน
"งูอะไรวะเจ้าชู้ฉิบ..." สัตยาเอ่ยต่อว่างูที่ไม่รู้เลื้อยพาดมานอนนิ่งสงบบนตักเขาตั้งแต่เมื่อไร "แต่ดูไปแล้วเท่ห์สุด ๆ เลยนะเนี่ย"
งูใหญ่ยกตัวขึ้นแผ่แม่เบี้ยเหมือนนึกว่าตัวเองเป็นนายแบบที่อยู่บนทางเดินของแมว ก่อนจะทิ้งตัวลงพาดขาสัตยาอีกรอบกับคำพูดของภิมุขที่แว่วมาจากครัว...
"พี่ใช้ตามองรึเปล่านั่น หรือพี่สายตาสั้นลงวะครับถึงได้มองเจ้านั่นว่าเท่ห์ ผมว่าน่ารักต่างหาก" ภิมุขเอ่ยพร้อมเสียงหัวเราะสนั่นลั่นครัว
"นายทำพี่งูหมดความมั่นใจว่ะมุก หงอไปเลยอะ..." สัตยายกลำตัวยาวเหยียดบางส่วนและลากบางส่วนไปด้วยความยากลำบาก ก่อนที่เขาจะทิ้งตัวลงกับโซฟานุ่มพร้อม ๆ กับงูใหญ่ในอ้อมกอด
"ไหนว่ากลัวไง แล้วไหงไปนั่งกอดกันซะแน่นปานนั้น เกิดพี่พงมาเห็นสงสัยจะหึงจนไฟไหม้บ้าน รายนั้นยิ่งหวงพี่ยังกับงูจงอางหวงไข่" ภิมุขเอ่ยแซวพี่ชาย แต่จริง ๆ อดหวั่นใจไม่ได้เพราะรู้ฤทธิ์หึงของคนที่พูดถึงในระดับลึกซึ้ง...
"คงจะสนุกน่าดูอะ เพราะพงหญ้ากลัวงูจงอางขึ้นสมอง อยากรู้จริง ๆ ว่าจะทำยังไง" พี่ชายตัวดีกลับเห็นว่าน่าสนุกไปเสียนี่
"ไปทำสปาเก๊ตตี้สิ ผมเตรียมเครื่องไว้ให้แล้ว...ส่วนจงอางผมจะเล่นด้วยแทนไปก่อน หึหึหึ" เสียงหัวเราะมีเลศนัยทำให้งูใหญ่ต้องผงกหัวขึ้นมอง แล้วเลื้อยหายวับเข้าไปในห้องนอนอย่างรวดเร็วปานสายลม
"หนีไปแล้วว่ะ...นายเล่าประวัติทำงูที่เลี้ยงตายให้พี่งูฟังเหรอวะ แล้วนายเผลอบอกไปหรือเปล่าว่าพวกเราเลี้ยงพี่หลามตายไปกี่ตัว ไม่ได้บอกใช่มั้ยว่ามากกว่าสิบตัว" สัตยาหันไปถามกระซิบกระซาบกับน้องชาย
"ไม่ได้บอกหรอกน่า พอดีจงอางทำท่ากลัวซะก่อนผมเลยยั้งปากไว้ทัน" นั่นล่ะวีรกรรมพี่น้องคู่หลุดโลกที่ทำเอางูใหญ่หูดีต้องสั่นสะท้านอย่างคาดไม่ถึงกับหน้าสวย ๆ หล่อ ๆ ที่เห็น
"เดี๋ยวผมไปอาบน้ำก่อนดีกว่า..." ภิมุขตะโกนบอกพี่ชาย หลังจากเดินอย่างเงียบกริบมาจนถึงห้องนอน ก่อนงูใหญ่จะรู้ตัวว่าหมดทางหนีก็ตอนที่อีกฝ่ายคว้าคอลากเข้าห้องน้ำไปด้วยกันนั่นแหละ
++++++++++++++++++++++++++
ภิมุขนั่งเหยียดขาชนผิวหนังนุ่มบางส่วน ทำให้เขารู้ว่าจงอางคงกำลังหลีกหนีเงื้อมมือเขาอยู่เป็นแน่ ชายหนุ่มจึงละเว้นอีกฝ่ายไว้ก่อน หันมาสนุกสนานกับการฟอกตัวแทน จนลืมว่าในอ่างนั้นไม่ได้มีตนอยู่เพียงคนเดียว...
จากความเพลิดเพลินของสายน้ำและฟองสบู่ ทำให้คนที่ต้องเหนื่อยมาจากการทำงานทั้งวันอย่างภิมุขเผลอนอนหลับไป ขณะที่กำลังเคลิบเคลิ้มอยู่นั่นเอง ในสติกึ่งหลับกึ่งตื่นภิมุขก็ฝันลางเลือน...
สัมผัสลื่นเลื้อยเอื่อยขึ้นมาตามเรียวขา หน้าท้อง จนถึงแผ่นอก กระทั่งหัวงูจงอางนอนนิ่งซบอยู่กับแผ่นอกเนียนขาว ภิมุขหัวเราะด้วยความจักจี้หากก็ยกมือลูบไล้ลำตัวยาวลื่นที่สัมผัสได้ถึงผิวหนังนุ่มของจงอางตัวใหญ่...
พลันในพริบตานั้นชายหนุ่มก็ชะงักด้วยความตกใจ เมื่อเห็นว่าที่ทาบทับตนเองอยู่นั้นเป็นผู้ชายคนหนึ่ง เรือนกายกำยำแข็งแกร่งผิวขาวเหลืองเนียนละเอียดจากสัมผัสที่ต้องกายกัน ใบหน้าคมหล่อเหลาราวกับมาเฟียฮ่องกงในหนังที่เคยดู
ดวงตาสีแดงเพลิงจ้องมองมาที่เขาด้วยแววตาที่ภิมุขไม่เข้าใจ...
ริมฝีปากอิ่มสีสดเหมือนพี่ชายอ้าออกจะเอ่ยถาม หากก็ต้องเงียบสนิทเมื่อถูกอีกฝ่ายประกบริมฝีปากลงมาบดคลึง ลิ้นร้อนเฉกเช่นมนุษย์เลื่อนเข้าเกาะเกี่ยวหยอกล้อกับลิ้นของภิมุขอย่างร้อนแรง แล้วขยับซอนไซ้ไปทั่วคล้ายกับกำลังหาบางอย่างที่อยู่ภายใน
ภิมุขเริ่มไร้สติยกแขนขึ้นกอดรัดแผ่นหลังแกร่งแล้วรั้งอีกฝ่ายเข้าหาตัว ยอมแลกลิ้นรับความอบอุ่นหวานซ่านจากคนตรงหน้าแต่โดยดี...
มือใหญ่เลื่อนเคล้นคลึงไปทั่วเรือนกายเนียนนุ่ม น้ำฟองสบู่จางหายไปในพริบตา ผิวขาวนวลแดงเรื่อเผยให้เห็นในเวลาเพียงไม่นาน ดวงตาสีแดงเพลิงจับจ้องร่างโปร่งด้วยสายตาใคร่รู้ ภิมุขไม่ผอมบางและสะสวยเท่าสัตยา ชายหนุ่มมีดวงตา จมูก ริมฝีปากและสีผิวเหมือนพี่ชาย หากดูเช่นไรก็หล่อเหลามากกว่าจะสวยนัก
แล้วดวงตาแดงสดก็ฉายแววสงสัยอีกครั้ง เมื่อใบหน้าแดงเรื่อที่หอบสะท้านจ้องมองเขาอยู่ดูงดงามกว่าที่เคยเห็น จนชายหนุ่มคิดว่าหากทำให้ภิมุขตัวแดงได้มากกว่านี้ อีกฝ่ายจะยิ่งงดงามมากขึ้นกระมัง...
ใบหน้าคมลดลงซุกอยู่กับซอกคอขาว ขบเม้มทิ้งรอยแดงเอาไว้ ก่อนจะเลื่อนไล้ลงประทับจูบบนแผ่นอกเนียนจนทั่ว นิ่งฟังเสียงครางเครือหอบสะท้านที่คิดว่าน่าฟังที่สุดอยู่พัก แล้วเลื่อนตวัดลิ้นไปบนยอดอกสีจาง เสียงแว่วหวานที่ได้ยินซาบซ่านอยู่ในความรู้สึก
ก่อนที่ทุกสิ่งจะเข้าสู่ความจริง...
ภิมุขสะดุ้งตื่นด้วยความตกใจ เขามองไปทั่วฟองสบู่ที่ฟูฟ่องก็พบว่างูใหญ่นอนนิ่งสนิทอยู่บนอกเขานั่นเอง ชายหนุ่มปล่อยน้ำออกแล้วล้างตัวให้ตนเองและจงอางที่หลับสนิท ก่อนจะทั้งยกทั้งลากลำตัวยาวเหยียดมาเช็ดตัวที่มุมห้อง พยายามจะหมุนเก็บลำตัวยาว ๆ นั่นให้เรียบร้อยหากก็ทำไม่ได้ จึงต้องจำใจพาดลำตัวยาวไว้บนเตียงตัวเอง...แล้วดึงผ้าห่มคลุมให้ตามสามัญสำนึก
ร่างโปร่งยืนเช็ดตัวอยู่หน้ากระจก แล้วต้องอ้าปากค้างกับร่องรอยแดงเป็นจ้ำที่ปรากฏอยู่ตรงซอกคอขาวและทั่วแผ่นอก นึกถึงความฝันแล้วใบหน้าก็แดงซ่าน ดวงตาคู่สวยเหมือนพี่ชายมองตวัดไปที่งูใหญ่ที่นอนทอดลำตัวยาวอย่างไม่เข้าใจนัก...
+++++++++++++++++++++++++++++++
จบตอน 2
ภิมุขนั่งเหยียดขาชนผิวหนังนุ่มบางส่วน ทำให้เขารู้ว่าจงอางคงกำลังหลีกหนีเงื้อมมือเขาอยู่เป็นแน่ ชายหนุ่มจึงละเว้นอีกฝ่ายไว้ก่อน หันมาสนุกสนานกับการฟอกตัวแทน จนลืมว่าในอ่างนั้นไม่ได้มีตนอยู่เพียงคนเดียว...
จากความเพลิดเพลินของสายน้ำและฟองสบู่ ทำให้คนที่ต้องเหนื่อยมาจากการทำงานทั้งวันอย่างภิมุขเผลอนอนหลับไป ขณะที่กำลังเคลิบเคลิ้มอยู่นั่นเอง ในสติกึ่งหลับกึ่งตื่นภิมุขก็ฝันลางเลือน...
สัมผัสลื่นเลื้อยเอื่อยขึ้นมาตามเรียวขา หน้าท้อง จนถึงแผ่นอก กระทั่งหัวงูจงอางนอนนิ่งซบอยู่กับแผ่นอกเนียนขาว ภิมุขหัวเราะด้วยความจักจี้หากก็ยกมือลูบไล้ลำตัวยาวลื่นที่สัมผัสได้ถึงผิวหนังนุ่มของจงอางตัวใหญ่...
พลันในพริบตานั้นชายหนุ่มก็ชะงักด้วยความตกใจ เมื่อเห็นว่าที่ทาบทับตนเองอยู่นั้นเป็นผู้ชายคนหนึ่ง เรือนกายกำยำแข็งแกร่งผิวขาวเหลืองเนียนละเอียดจากสัมผัสที่ต้องกายกัน ใบหน้าคมหล่อเหลาราวกับมาเฟียฮ่องกงในหนังที่เคยดู
ดวงตาสีแดงเพลิงจ้องมองมาที่เขาด้วยแววตาที่ภิมุขไม่เข้าใจ...
ริมฝีปากอิ่มสีสดเหมือนพี่ชายอ้าออกจะเอ่ยถาม หากก็ต้องเงียบสนิทเมื่อถูกอีกฝ่ายประกบริมฝีปากลงมาบดคลึง ลิ้นร้อนเฉกเช่นมนุษย์เลื่อนเข้าเกาะเกี่ยวหยอกล้อกับลิ้นของภิมุขอย่างร้อนแรง แล้วขยับซอนไซ้ไปทั่วคล้ายกับกำลังหาบางอย่างที่อยู่ภายใน
ภิมุขเริ่มไร้สติยกแขนขึ้นกอดรัดแผ่นหลังแกร่งแล้วรั้งอีกฝ่ายเข้าหาตัว ยอมแลกลิ้นรับความอบอุ่นหวานซ่านจากคนตรงหน้าแต่โดยดี...
มือใหญ่เลื่อนเคล้นคลึงไปทั่วเรือนกายเนียนนุ่ม น้ำฟองสบู่จางหายไปในพริบตา ผิวขาวนวลแดงเรื่อเผยให้เห็นในเวลาเพียงไม่นาน ดวงตาสีแดงเพลิงจับจ้องร่างโปร่งด้วยสายตาใคร่รู้ ภิมุขไม่ผอมบางและสะสวยเท่าสัตยา ชายหนุ่มมีดวงตา จมูก ริมฝีปากและสีผิวเหมือนพี่ชาย หากดูเช่นไรก็หล่อเหลามากกว่าจะสวยนัก
แล้วดวงตาแดงสดก็ฉายแววสงสัยอีกครั้ง เมื่อใบหน้าแดงเรื่อที่หอบสะท้านจ้องมองเขาอยู่ดูงดงามกว่าที่เคยเห็น จนชายหนุ่มคิดว่าหากทำให้ภิมุขตัวแดงได้มากกว่านี้ อีกฝ่ายจะยิ่งงดงามมากขึ้นกระมัง...
ใบหน้าคมลดลงซุกอยู่กับซอกคอขาว ขบเม้มทิ้งรอยแดงเอาไว้ ก่อนจะเลื่อนไล้ลงประทับจูบบนแผ่นอกเนียนจนทั่ว นิ่งฟังเสียงครางเครือหอบสะท้านที่คิดว่าน่าฟังที่สุดอยู่พัก แล้วเลื่อนตวัดลิ้นไปบนยอดอกสีจาง เสียงแว่วหวานที่ได้ยินซาบซ่านอยู่ในความรู้สึก
ก่อนที่ทุกสิ่งจะเข้าสู่ความจริง...
ภิมุขสะดุ้งตื่นด้วยความตกใจ เขามองไปทั่วฟองสบู่ที่ฟูฟ่องก็พบว่างูใหญ่นอนนิ่งสนิทอยู่บนอกเขานั่นเอง ชายหนุ่มปล่อยน้ำออกแล้วล้างตัวให้ตนเองและจงอางที่หลับสนิท ก่อนจะทั้งยกทั้งลากลำตัวยาวเหยียดมาเช็ดตัวที่มุมห้อง พยายามจะหมุนเก็บลำตัวยาว ๆ นั่นให้เรียบร้อยหากก็ทำไม่ได้ จึงต้องจำใจพาดลำตัวยาวไว้บนเตียงตัวเอง...แล้วดึงผ้าห่มคลุมให้ตามสามัญสำนึก
ร่างโปร่งยืนเช็ดตัวอยู่หน้ากระจก แล้วต้องอ้าปากค้างกับร่องรอยแดงเป็นจ้ำที่ปรากฏอยู่ตรงซอกคอขาวและทั่วแผ่นอก นึกถึงความฝันแล้วใบหน้าก็แดงซ่าน ดวงตาคู่สวยเหมือนพี่ชายมองตวัดไปที่งูใหญ่ที่นอนทอดลำตัวยาวอย่างไม่เข้าใจนัก...
+++++++++++++++++++++++++++++++
จบตอน 2
ภิมุขนั่งเหยียดขาชนผิวหนังนุ่มบางส่วน ทำให้เขารู้ว่าจงอางคงกำลังหลีกหนีเงื้อมมือเขาอยู่เป็นแน่ ชายหนุ่มจึงละเว้นอีกฝ่ายไว้ก่อน หันมาสนุกสนานกับการฟอกตัวแทน จนลืมว่าในอ่างนั้นไม่ได้มีตนอยู่เพียงคนเดียว...
จากความเพลิดเพลินของสายน้ำและฟองสบู่ ทำให้คนที่ต้องเหนื่อยมาจากการทำงานทั้งวันอย่างภิมุขเผลอนอนหลับไป ขณะที่กำลังเคลิบเคลิ้มอยู่นั่นเอง ในสติกึ่งหลับกึ่งตื่นภิมุขก็ฝันลางเลือน...
สัมผัสลื่นเลื้อยเอื่อยขึ้นมาตามเรียวขา หน้าท้อง จนถึงแผ่นอก กระทั่งหัวงูจงอางนอนนิ่งซบอยู่กับแผ่นอกเนียนขาว ภิมุขหัวเราะด้วยความจักจี้หากก็ยกมือลูบไล้ลำตัวยาวลื่นที่สัมผัสได้ถึงผิวหนังนุ่มของจงอางตัวใหญ่...
พลันในพริบตานั้นชายหนุ่มก็ชะงักด้วยความตกใจ เมื่อเห็นว่าที่ทาบทับตนเองอยู่นั้นเป็นผู้ชายคนหนึ่ง เรือนกายกำยำแข็งแกร่งผิวขาวเหลืองเนียนละเอียดจากสัมผัสที่ต้องกายกัน ใบหน้าคมหล่อเหลาราวกับมาเฟียฮ่องกงในหนังที่เคยดู
ดวงตาสีแดงเพลิงจ้องมองมาที่เขาด้วยแววตาที่ภิมุขไม่เข้าใจ...
ริมฝีปากอิ่มสีสดเหมือนพี่ชายอ้าออกจะเอ่ยถาม หากก็ต้องเงียบสนิทเมื่อถูกอีกฝ่ายประกบริมฝีปากลงมาบดคลึง ลิ้นร้อนเฉกเช่นมนุษย์เลื่อนเข้าเกาะเกี่ยวหยอกล้อกับลิ้นของภิมุขอย่างร้อนแรง แล้วขยับซอนไซ้ไปทั่วคล้ายกับกำลังหาบางอย่างที่อยู่ภายใน
ภิมุขเริ่มไร้สติยกแขนขึ้นกอดรัดแผ่นหลังแกร่งแล้วรั้งอีกฝ่ายเข้าหาตัว ยอมแลกลิ้นรับความอบอุ่นหวานซ่านจากคนตรงหน้าแต่โดยดี...
มือใหญ่เลื่อนเคล้นคลึงไปทั่วเรือนกายเนียนนุ่ม น้ำฟองสบู่จางหายไปในพริบตา ผิวขาวนวลแดงเรื่อเผยให้เห็นในเวลาเพียงไม่นาน ดวงตาสีแดงเพลิงจับจ้องร่างโปร่งด้วยสายตาใคร่รู้ ภิมุขไม่ผอมบางและสะสวยเท่าสัตยา ชายหนุ่มมีดวงตา จมูก ริมฝีปากและสีผิวเหมือนพี่ชาย หากดูเช่นไรก็หล่อเหลามากกว่าจะสวยนัก
แล้วดวงตาแดงสดก็ฉายแววสงสัยอีกครั้ง เมื่อใบหน้าแดงเรื่อที่หอบสะท้านจ้องมองเขาอยู่ดูงดงามกว่าที่เคยเห็น จนชายหนุ่มคิดว่าหากทำให้ภิมุขตัวแดงได้มากกว่านี้ อีกฝ่ายจะยิ่งงดงามมากขึ้นกระมัง...
ใบหน้าคมลดลงซุกอยู่กับซอกคอขาว ขบเม้มทิ้งรอยแดงเอาไว้ ก่อนจะเลื่อนไล้ลงประทับจูบบนแผ่นอกเนียนจนทั่ว นิ่งฟังเสียงครางเครือหอบสะท้านที่คิดว่าน่าฟังที่สุดอยู่พัก แล้วเลื่อนตวัดลิ้นไปบนยอดอกสีจาง เสียงแว่วหวานที่ได้ยินซาบซ่านอยู่ในความรู้สึก
ก่อนที่ทุกสิ่งจะเข้าสู่ความจริง...
ภิมุขสะดุ้งตื่นด้วยความตกใจ เขามองไปทั่วฟองสบู่ที่ฟูฟ่องก็พบว่างูใหญ่นอนนิ่งสนิทอยู่บนอกเขานั่นเอง ชายหนุ่มปล่อยน้ำออกแล้วล้างตัวให้ตนเองและจงอางที่หลับสนิท ก่อนจะทั้งยกทั้งลากลำตัวยาวเหยียดมาเช็ดตัวที่มุมห้อง พยายามจะหมุนเก็บลำตัวยาว ๆ นั่นให้เรียบร้อยหากก็ทำไม่ได้ จึงต้องจำใจพาดลำตัวยาวไว้บนเตียงตัวเอง...แล้วดึงผ้าห่มคลุมให้ตามสามัญสำนึก
ร่างโปร่งยืนเช็ดตัวอยู่หน้ากระจก แล้วต้องอ้าปากค้างกับร่องรอยแดงเป็นจ้ำที่ปรากฏอยู่ตรงซอกคอขาวและทั่วแผ่นอก นึกถึงความฝันแล้วใบหน้าก็แดงซ่าน ดวงตาคู่สวยเหมือนพี่ชายมองตวัดไปที่งูใหญ่ที่นอนทอดลำตัวยาวอย่างไม่เข้าใจนัก...
+++++++++++++++++++++++++++++++
จบตอน 2
สัตยาเริ่มบ่นอุบอิบไปทั่วบ้าน โดยมีภิมุขคอยลอบหัวเราะตามหลังกับความรักสะอาดในระดับที่สองของพี่ชาย ด้วยคิดว่าอีกฝ่ายยังไม่ถึงระดับหนึ่งอย่างคุณย่าน้อมที่แสนจะรักความสะอาดกว่าสิ่งใดในโลก จะยกเว้นก็แต่หลานชายสามคนที่สองคนรักสกปรกเหลือเกิน
"แล้วนี่มันอะไรเนี่ย นายอย่าวางอะไรทิ้งไว้เรี่ยราดได้มั้ยมุก เดี๋ยวก็สะดุดหรอก" สัตยาบ่นเสียงดัง คว้าเอาของที่วางขวางหน้าไว้ขึ้นมาโดยไม่ทันมอง...
ก่อนจะตัวแข็งทื่อเมื่อเห็นว่าหัวงูจงอางถูกกำไว้ในมือ ลำตัวยาวหนักสะบัดไปมาคล้ายหายใจไม่ออก จนชายหนุ่มต้องลดความหวาดกลัว ค่อย ๆ วางงูใหญ่ไว้บนพื้นบ้านแล้วเอื้อมมือลูบลำตัวให้เบา ๆ แทนคำขอโทษ ก่อนจะแข็งทื่อไปอีกรอบเมื่อดวงตาสีแดงเพลิงทอดมองมาอย่างตัดพ้อและดูเหมือนจะแง่งอน
"งูอะไรวะเจ้าชู้ฉิบ..." สัตยาเอ่ยต่อว่างูที่ไม่รู้เลื้อยพาดมานอนนิ่งสงบบนตักเขาตั้งแต่เมื่อไร "แต่ดูไปแล้วเท่ห์สุด ๆ เลยนะเนี่ย"
งูใหญ่ยกตัวขึ้นแผ่แม่เบี้ยเหมือนนึกว่าตัวเองเป็นนายแบบที่อยู่บนทางเดินของแมว ก่อนจะทิ้งตัวลงพาดขาสัตยาอีกรอบกับคำพูดของภิมุขที่แว่วมาจากครัว...
"พี่ใช้ตามองรึเปล่านั่น หรือพี่สายตาสั้นลงวะครับถึงได้มองเจ้านั่นว่าเท่ห์ ผมว่าน่ารักต่างหาก" ภิมุขเอ่ยพร้อมเสียงหัวเราะสนั่นลั่นครัว
"นายทำพี่งูหมดความมั่นใจว่ะมุก หงอไปเลยอะ..." สัตยายกลำตัวยาวเหยียดบางส่วนและลากบางส่วนไปด้วยความยากลำบาก ก่อนที่เขาจะทิ้งตัวลงกับโซฟานุ่มพร้อม ๆ กับงูใหญ่ในอ้อมกอด
"ไหนว่ากลัวไง แล้วไหงไปนั่งกอดกันซะแน่นปานนั้น เกิดพี่พงมาเห็นสงสัยจะหึงจนไฟไหม้บ้าน รายนั้นยิ่งหวงพี่ยังกับงูจงอางหวงไข่" ภิมุขเอ่ยแซวพี่ชาย แต่จริง ๆ อดหวั่นใจไม่ได้เพราะรู้ฤทธิ์หึงของคนที่พูดถึงในระดับลึกซึ้ง...
"คงจะสนุกน่าดูอะ เพราะพงหญ้ากลัวงูจงอางขึ้นสมอง อยากรู้จริง ๆ ว่าจะทำยังไง" พี่ชายตัวดีกลับเห็นว่าน่าสนุกไปเสียนี่
"ไปทำสปาเก๊ตตี้สิ ผมเตรียมเครื่องไว้ให้แล้ว...ส่วนจงอางผมจะเล่นด้วยแทนไปก่อน หึหึหึ" เสียงหัวเราะมีเลศนัยทำให้งูใหญ่ต้องผงกหัวขึ้นมอง แล้วเลื้อยหายวับเข้าไปในห้องนอนอย่างรวดเร็วปานสายลม
"หนีไปแล้วว่ะ...นายเล่าประวัติทำงูที่เลี้ยงตายให้พี่งูฟังเหรอวะ แล้วนายเผลอบอกไปหรือเปล่าว่าพวกเราเลี้ยงพี่หลามตายไปกี่ตัว ไม่ได้บอกใช่มั้ยว่ามากกว่าสิบตัว" สัตยาหันไปถามกระซิบกระซาบกับน้องชาย
"ไม่ได้บอกหรอกน่า พอดีจงอางทำท่ากลัวซะก่อนผมเลยยั้งปากไว้ทัน" นั่นล่ะวีรกรรมพี่น้องคู่หลุดโลกที่ทำเอางูใหญ่หูดีต้องสั่นสะท้านอย่างคาดไม่ถึงกับหน้าสวย ๆ หล่อ ๆ ที่เห็น
"เดี๋ยวผมไปอาบน้ำก่อนดีกว่า..." ภิมุขตะโกนบอกพี่ชาย หลังจากเดินอย่างเงียบกริบมาจนถึงห้องนอน ก่อนงูใหญ่จะรู้ตัวว่าหมดทางหนีก็ตอนที่อีกฝ่ายคว้าคอลากเข้าห้องน้ำไปด้วยกันนั่นแหละ
++++++++++++++++++++++++++
ภิมุขนั่งเหยียดขาชนผิวหนังนุ่มบางส่วน ทำให้เขารู้ว่าจงอางคงกำลังหลีกหนีเงื้อมมือเขาอยู่เป็นแน่ ชายหนุ่มจึงละเว้นอีกฝ่ายไว้ก่อน หันมาสนุกสนานกับการฟอกตัวแทน จนลืมว่าในอ่างนั้นไม่ได้มีตนอยู่เพียงคนเดียว...
จากความเพลิดเพลินของสายน้ำและฟองสบู่ ทำให้คนที่ต้องเหนื่อยมาจากการทำงานทั้งวันอย่างภิมุขเผลอนอนหลับไป ขณะที่กำลังเคลิบเคลิ้มอยู่นั่นเอง ในสติกึ่งหลับกึ่งตื่นภิมุขก็ฝันลางเลือน...
สัมผัสลื่นเลื้อยเอื่อยขึ้นมาตามเรียวขา หน้าท้อง จนถึงแผ่นอก กระทั่งหัวงูจงอางนอนนิ่งซบอยู่กับแผ่นอกเนียนขาว ภิมุขหัวเราะด้วยความจักจี้หากก็ยกมือลูบไล้ลำตัวยาวลื่นที่สัมผัสได้ถึงผิวหนังนุ่มของจงอางตัวใหญ่...
พลันในพริบตานั้นชายหนุ่มก็ชะงักด้วยความตกใจ เมื่อเห็นว่าที่ทาบทับตนเองอยู่นั้นเป็นผู้ชายคนหนึ่ง เรือนกายกำยำแข็งแกร่งผิวขาวเหลืองเนียนละเอียดจากสัมผัสที่ต้องกายกัน ใบหน้าคมหล่อเหลาราวกับมาเฟียฮ่องกงในหนังที่เคยดู
ดวงตาสีแดงเพลิงจ้องมองมาที่เขาด้วยแววตาที่ภิมุขไม่เข้าใจ...
ริมฝีปากอิ่มสีสดเหมือนพี่ชายอ้าออกจะเอ่ยถาม หากก็ต้องเงียบสนิทเมื่อถูกอีกฝ่ายประกบริมฝีปากลงมาบดคลึง ลิ้นร้อนเฉกเช่นมนุษย์เลื่อนเข้าเกาะเกี่ยวหยอกล้อกับลิ้นของภิมุขอย่างร้อนแรง แล้วขยับซอนไซ้ไปทั่วคล้ายกับกำลังหาบางอย่างที่อยู่ภายใน
ภิมุขเริ่มไร้สติยกแขนขึ้นกอดรัดแผ่นหลังแกร่งแล้วรั้งอีกฝ่ายเข้าหาตัว ยอมแลกลิ้นรับความอบอุ่นหวานซ่านจากคนตรงหน้าแต่โดยดี...
มือใหญ่เลื่อนเคล้นคลึงไปทั่วเรือนกายเนียนนุ่ม น้ำฟองสบู่จางหายไปในพริบตา ผิวขาวนวลแดงเรื่อเผยให้เห็นในเวลาเพียงไม่นาน ดวงตาสีแดงเพลิงจับจ้องร่างโปร่งด้วยสายตาใคร่รู้ ภิมุขไม่ผอมบางและสะสวยเท่าสัตยา ชายหนุ่มมีดวงตา จมูก ริมฝีปากและสีผิวเหมือนพี่ชาย หากดูเช่นไรก็หล่อเหลามากกว่าจะสวยนัก
แล้วดวงตาแดงสดก็ฉายแววสงสัยอีกครั้ง เมื่อใบหน้าแดงเรื่อที่หอบสะท้านจ้องมองเขาอยู่ดูงดงามกว่าที่เคยเห็น จนชายหนุ่มคิดว่าหากทำให้ภิมุขตัวแดงได้มากกว่านี้ อีกฝ่ายจะยิ่งงดงามมากขึ้นกระมัง...
ใบหน้าคมลดลงซุกอยู่กับซอกคอขาว ขบเม้มทิ้งรอยแดงเอาไว้ ก่อนจะเลื่อนไล้ลงประทับจูบบนแผ่นอกเนียนจนทั่ว นิ่งฟังเสียงครางเครือหอบสะท้านที่คิดว่าน่าฟังที่สุดอยู่พัก แล้วเลื่อนตวัดลิ้นไปบนยอดอกสีจาง เสียงแว่วหวานที่ได้ยินซาบซ่านอยู่ในความรู้สึก
ก่อนที่ทุกสิ่งจะเข้าสู่ความจริง...
ภิมุขสะดุ้งตื่นด้วยความตกใจ เขามองไปทั่วฟองสบู่ที่ฟูฟ่องก็พบว่างูใหญ่นอนนิ่งสนิทอยู่บนอกเขานั่นเอง ชายหนุ่มปล่อยน้ำออกแล้วล้างตัวให้ตนเองและจงอางที่หลับสนิท ก่อนจะทั้งยกทั้งลากลำตัวยาวเหยียดมาเช็ดตัวที่มุมห้อง พยายามจะหมุนเก็บลำตัวยาว ๆ นั่นให้เรียบร้อยหากก็ทำไม่ได้ จึงต้องจำใจพาดลำตัวยาวไว้บนเตียงตัวเอง...แล้วดึงผ้าห่มคลุมให้ตามสามัญสำนึก
ร่างโปร่งยืนเช็ดตัวอยู่หน้ากระจก แล้วต้องอ้าปากค้างกับร่องรอยแดงเป็นจ้ำที่ปรากฏอยู่ตรงซอกคอขาวและทั่วแผ่นอก นึกถึงความฝันแล้วใบหน้าก็แดงซ่าน ดวงตาคู่สวยเหมือนพี่ชายมองตวัดไปที่งูใหญ่ที่นอนทอดลำตัวยาวอย่างไม่เข้าใจนัก...
+++++++++++++++++++++++++++++++
จบตอน 2
ภิมุขนั่งเหยียดขาชนผิวหนังนุ่มบางส่วน ทำให้เขารู้ว่าจงอางคงกำลังหลีกหนีเงื้อมมือเขาอยู่เป็นแน่ ชายหนุ่มจึงละเว้นอีกฝ่ายไว้ก่อน หันมาสนุกสนานกับการฟอกตัวแทน จนลืมว่าในอ่างนั้นไม่ได้มีตนอยู่เพียงคนเดียว...
จากความเพลิดเพลินของสายน้ำและฟองสบู่ ทำให้คนที่ต้องเหนื่อยมาจากการทำงานทั้งวันอย่างภิมุขเผลอนอนหลับไป ขณะที่กำลังเคลิบเคลิ้มอยู่นั่นเอง ในสติกึ่งหลับกึ่งตื่นภิมุขก็ฝันลางเลือน...
สัมผัสลื่นเลื้อยเอื่อยขึ้นมาตามเรียวขา หน้าท้อง จนถึงแผ่นอก กระทั่งหัวงูจงอางนอนนิ่งซบอยู่กับแผ่นอกเนียนขาว ภิมุขหัวเราะด้วยความจักจี้หากก็ยกมือลูบไล้ลำตัวยาวลื่นที่สัมผัสได้ถึงผิวหนังนุ่มของจงอางตัวใหญ่...
พลันในพริบตานั้นชายหนุ่มก็ชะงักด้วยความตกใจ เมื่อเห็นว่าที่ทาบทับตนเองอยู่นั้นเป็นผู้ชายคนหนึ่ง เรือนกายกำยำแข็งแกร่งผิวขาวเหลืองเนียนละเอียดจากสัมผัสที่ต้องกายกัน ใบหน้าคมหล่อเหลาราวกับมาเฟียฮ่องกงในหนังที่เคยดู
ดวงตาสีแดงเพลิงจ้องมองมาที่เขาด้วยแววตาที่ภิมุขไม่เข้าใจ...
ริมฝีปากอิ่มสีสดเหมือนพี่ชายอ้าออกจะเอ่ยถาม หากก็ต้องเงียบสนิทเมื่อถูกอีกฝ่ายประกบริมฝีปากลงมาบดคลึง ลิ้นร้อนเฉกเช่นมนุษย์เลื่อนเข้าเกาะเกี่ยวหยอกล้อกับลิ้นของภิมุขอย่างร้อนแรง แล้วขยับซอนไซ้ไปทั่วคล้ายกับกำลังหาบางอย่างที่อยู่ภายใน
ภิมุขเริ่มไร้สติยกแขนขึ้นกอดรัดแผ่นหลังแกร่งแล้วรั้งอีกฝ่ายเข้าหาตัว ยอมแลกลิ้นรับความอบอุ่นหวานซ่านจากคนตรงหน้าแต่โดยดี...
มือใหญ่เลื่อนเคล้นคลึงไปทั่วเรือนกายเนียนนุ่ม น้ำฟองสบู่จางหายไปในพริบตา ผิวขาวนวลแดงเรื่อเผยให้เห็นในเวลาเพียงไม่นาน ดวงตาสีแดงเพลิงจับจ้องร่างโปร่งด้วยสายตาใคร่รู้ ภิมุขไม่ผอมบางและสะสวยเท่าสัตยา ชายหนุ่มมีดวงตา จมูก ริมฝีปากและสีผิวเหมือนพี่ชาย หากดูเช่นไรก็หล่อเหลามากกว่าจะสวยนัก
แล้วดวงตาแดงสดก็ฉายแววสงสัยอีกครั้ง เมื่อใบหน้าแดงเรื่อที่หอบสะท้านจ้องมองเขาอยู่ดูงดงามกว่าที่เคยเห็น จนชายหนุ่มคิดว่าหากทำให้ภิมุขตัวแดงได้มากกว่านี้ อีกฝ่ายจะยิ่งงดงามมากขึ้นกระมัง...
ใบหน้าคมลดลงซุกอยู่กับซอกคอขาว ขบเม้มทิ้งรอยแดงเอาไว้ ก่อนจะเลื่อนไล้ลงประทับจูบบนแผ่นอกเนียนจนทั่ว นิ่งฟังเสียงครางเครือหอบสะท้านที่คิดว่าน่าฟังที่สุดอยู่พัก แล้วเลื่อนตวัดลิ้นไปบนยอดอกสีจาง เสียงแว่วหวานที่ได้ยินซาบซ่านอยู่ในความรู้สึก
ก่อนที่ทุกสิ่งจะเข้าสู่ความจริง...
ภิมุขสะดุ้งตื่นด้วยความตกใจ เขามองไปทั่วฟองสบู่ที่ฟูฟ่องก็พบว่างูใหญ่นอนนิ่งสนิทอยู่บนอกเขานั่นเอง ชายหนุ่มปล่อยน้ำออกแล้วล้างตัวให้ตนเองและจงอางที่หลับสนิท ก่อนจะทั้งยกทั้งลากลำตัวยาวเหยียดมาเช็ดตัวที่มุมห้อง พยายามจะหมุนเก็บลำตัวยาว ๆ นั่นให้เรียบร้อยหากก็ทำไม่ได้ จึงต้องจำใจพาดลำตัวยาวไว้บนเตียงตัวเอง...แล้วดึงผ้าห่มคลุมให้ตามสามัญสำนึก
ร่างโปร่งยืนเช็ดตัวอยู่หน้ากระจก แล้วต้องอ้าปากค้างกับร่องรอยแดงเป็นจ้ำที่ปรากฏอยู่ตรงซอกคอขาวและทั่วแผ่นอก นึกถึงความฝันแล้วใบหน้าก็แดงซ่าน ดวงตาคู่สวยเหมือนพี่ชายมองตวัดไปที่งูใหญ่ที่นอนทอดลำตัวยาวอย่างไม่เข้าใจนัก...
+++++++++++++++++++++++++++++++
จบตอน 2
ภิมุขนั่งเหยียดขาชนผิวหนังนุ่มบางส่วน ทำให้เขารู้ว่าจงอางคงกำลังหลีกหนีเงื้อมมือเขาอยู่เป็นแน่ ชายหนุ่มจึงละเว้นอีกฝ่ายไว้ก่อน หันมาสนุกสนานกับการฟอกตัวแทน จนลืมว่าในอ่างนั้นไม่ได้มีตนอยู่เพียงคนเดียว...
จากความเพลิดเพลินของสายน้ำและฟองสบู่ ทำให้คนที่ต้องเหนื่อยมาจากการทำงานทั้งวันอย่างภิมุขเผลอนอนหลับไป ขณะที่กำลังเคลิบเคลิ้มอยู่นั่นเอง ในสติกึ่งหลับกึ่งตื่นภิมุขก็ฝันลางเลือน...
สัมผัสลื่นเลื้อยเอื่อยขึ้นมาตามเรียวขา หน้าท้อง จนถึงแผ่นอก กระทั่งหัวงูจงอางนอนนิ่งซบอยู่กับแผ่นอกเนียนขาว ภิมุขหัวเราะด้วยความจักจี้หากก็ยกมือลูบไล้ลำตัวยาวลื่นที่สัมผัสได้ถึงผิวหนังนุ่มของจงอางตัวใหญ่...
พลันในพริบตานั้นชายหนุ่มก็ชะงักด้วยความตกใจ เมื่อเห็นว่าที่ทาบทับตนเองอยู่นั้นเป็นผู้ชายคนหนึ่ง เรือนกายกำยำแข็งแกร่งผิวขาวเหลืองเนียนละเอียดจากสัมผัสที่ต้องกายกัน ใบหน้าคมหล่อเหลาราวกับมาเฟียฮ่องกงในหนังที่เคยดู
ดวงตาสีแดงเพลิงจ้องมองมาที่เขาด้วยแววตาที่ภิมุขไม่เข้าใจ...
ริมฝีปากอิ่มสีสดเหมือนพี่ชายอ้าออกจะเอ่ยถาม หากก็ต้องเงียบสนิทเมื่อถูกอีกฝ่ายประกบริมฝีปากลงมาบดคลึง ลิ้นร้อนเฉกเช่นมนุษย์เลื่อนเข้าเกาะเกี่ยวหยอกล้อกับลิ้นของภิมุขอย่างร้อนแรง แล้วขยับซอนไซ้ไปทั่วคล้ายกับกำลังหาบางอย่างที่อยู่ภายใน
ภิมุขเริ่มไร้สติยกแขนขึ้นกอดรัดแผ่นหลังแกร่งแล้วรั้งอีกฝ่ายเข้าหาตัว ยอมแลกลิ้นรับความอบอุ่นหวานซ่านจากคนตรงหน้าแต่โดยดี...
มือใหญ่เลื่อนเคล้นคลึงไปทั่วเรือนกายเนียนนุ่ม น้ำฟองสบู่จางหายไปในพริบตา ผิวขาวนวลแดงเรื่อเผยให้เห็นในเวลาเพียงไม่นาน ดวงตาสีแดงเพลิงจับจ้องร่างโปร่งด้วยสายตาใคร่รู้ ภิมุขไม่ผอมบางและสะสวยเท่าสัตยา ชายหนุ่มมีดวงตา จมูก ริมฝีปากและสีผิวเหมือนพี่ชาย หากดูเช่นไรก็หล่อเหลามากกว่าจะสวยนัก
แล้วดวงตาแดงสดก็ฉายแววสงสัยอีกครั้ง เมื่อใบหน้าแดงเรื่อที่หอบสะท้านจ้องมองเขาอยู่ดูงดงามกว่าที่เคยเห็น จนชายหนุ่มคิดว่าหากทำให้ภิมุขตัวแดงได้มากกว่านี้ อีกฝ่ายจะยิ่งงดงามมากขึ้นกระมัง...
ใบหน้าคมลดลงซุกอยู่กับซอกคอขาว ขบเม้มทิ้งรอยแดงเอาไว้ ก่อนจะเลื่อนไล้ลงประทับจูบบนแผ่นอกเนียนจนทั่ว นิ่งฟังเสียงครางเครือหอบสะท้านที่คิดว่าน่าฟังที่สุดอยู่พัก แล้วเลื่อนตวัดลิ้นไปบนยอดอกสีจาง เสียงแว่วหวานที่ได้ยินซาบซ่านอยู่ในความรู้สึก
ก่อนที่ทุกสิ่งจะเข้าสู่ความจริง...
ภิมุขสะดุ้งตื่นด้วยความตกใจ เขามองไปทั่วฟองสบู่ที่ฟูฟ่องก็พบว่างูใหญ่นอนนิ่งสนิทอยู่บนอกเขานั่นเอง ชายหนุ่มปล่อยน้ำออกแล้วล้างตัวให้ตนเองและจงอางที่หลับสนิท ก่อนจะทั้งยกทั้งลากลำตัวยาวเหยียดมาเช็ดตัวที่มุมห้อง พยายามจะหมุนเก็บลำตัวยาว ๆ นั่นให้เรียบร้อยหากก็ทำไม่ได้ จึงต้องจำใจพาดลำตัวยาวไว้บนเตียงตัวเอง...แล้วดึงผ้าห่มคลุมให้ตามสามัญสำนึก
ร่างโปร่งยืนเช็ดตัวอยู่หน้ากระจก แล้วต้องอ้าปากค้างกับร่องรอยแดงเป็นจ้ำที่ปรากฏอยู่ตรงซอกคอขาวและทั่วแผ่นอก นึกถึงความฝันแล้วใบหน้าก็แดงซ่าน ดวงตาคู่สวยเหมือนพี่ชายมองตวัดไปที่งูใหญ่ที่นอนทอดลำตัวยาวอย่างไม่เข้าใจนัก...
+++++++++++++++++++++++++++++++
จบตอน 2
สัตยาซบหน้าอยู่กับแผ่นอกกว้างอันเคยคุ้น แม้ไม่ได้นึกเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไปแต่ก็รู้สึกโหวงในอกไม่น้อย "เพราะพงหญ้าคนเดียว...ถ้าคิดถึงจนร้องไห้นะ ออกจากโรงพยาบาลมาจะไม่คุยด้วยอีกสามวัน" "บ้านหรือรังฝุ่นวะเนี่ย" สัตยาวาดนิ้วไปตามเครื่องเรือนสีน้ำตาลเข้มแล้วบ่นขึ้นมา "นายไม่มีไม้ปัดขนไก่เหรอฝุ่นมันถึงได้หนาเป็นแผ่นโฟมแบบนี้ น้ำอุ่นถูกเปิดลงอ่างมีงูใหญ่เลื้อยว่ายวนอยู่ในน้ำตื้น ๆ ด้านใน ขณะที่ภิมุขโยนเม็ดอาบน้ำลงอ่างพร้อมถอดเสื้อผ้าอย่างไม่รีบร้อน เสร็จแล้วจึงค่อย ๆ ก้าวลงอ่างที่มีฟองฟูฟ่องจนมองไม่เห็นงูใหญ่ที่เอาลงไปก่อน ชายหนุ่มจึงต้องระวังมากขึ้น... น้ำอุ่นถูกเปิดลงอ่างมีงูใหญ่เลื้อยว่ายวนอยู่ในน้ำตื้น ๆ ด้านใน ขณะที่ภิมุขโยนเม็ดอาบน้ำลงอ่างพร้อมถอดเสื้อผ้าอย่างไม่รีบร้อน เสร็จแล้วจึงค่อย ๆ ก้าวลงอ่างที่มีฟองฟูฟ่องจนมองไม่เห็นงูใหญ่ที่เอาลงไปก่อน ชายหนุ่มจึงต้องระวังมากขึ้น... น้ำอุ่นถูกเปิดลงอ่างมีงูใหญ่เลื้อยว่ายวนอยู่ในน้ำตื้น ๆ ด้านใน ขณะที่ภิมุขโยนเม็ดอาบน้ำลงอ่างพร้อมถอดเสื้อผ้าอย่างไม่รีบร้อน เสร็จแล้วจึงค่อย ๆ ก้าวลงอ่างที่มีฟองฟูฟ่องจนมองไม่เห็นงูใหญ่ที่เอาลงไปก่อน ชายหนุ่มจึงต้องระวังมากขึ้น...
"โธ่!...หยกก็ ผมผิดไปแล้ว ไม่ทำอีกแล้ว ต่อไปจะตั้งใจทำงานไม่ก่อเรื่องนะครับ...อยู่บ้านคนเดียวดี ๆ นะ อย่าให้รู้ว่าแอบพาคนอื่นเข้าบ้าน ไม่อย่างนั้นออกมาแล้วจะโดดลงมาจากดาดฟ้า ให้หยกมองเห็นจากห้องทำงานให้ดู" พงหญ้าง้อตามนิสัยความประหลาดของตัวเอง
"อย่า เอา ความตาย มา ล้อเล่น นะ" ทุกคำถูกเน้นด้วยน้ำเสียงนุ่มเรียบ
สัตยาเงยหน้าขึ้นพร้อมรอยยิ้มเยาะเย้ย สองแขนโอบกอดรอบคอคนตัวใหญ่แล้วยกตัวขึ้น กัดไปบนริมฝีปากหนาจนอีกคนร้องเสียงดังลั่นห้อง...กระทั่งประตูถูกเปิดอีกครั้งนั่นล่ะ
"พี่หยก...เฮ้ย! ปล่อย..." ภิมุขวิ่งไปดึงพี่ชายที่กำลังแสดงความรักในแบบของตัวเองอยู่ออกมาจากคนบาดเจ็บ ซึ่งกว่าจะแยกออกมาได้พงหญ้าก็เลือดอาบไปเรียบร้อย
ภิมุขมองพี่ชายที่มีเลือดจากพงหญ้าติดอยู่บนริมฝีปากราวกับผีดูดเลือดด้วยความสยอง เขาพอรู้ว่าเวลาพี่ชายโกรธจะต้องหาที่ลงไม้ลงมือเสมอ ชนิดที่ไม่น่าเชื่อเลยว่าอีกฝ่ายจะเกลียดความเจ็บปวดยิ่งกว่าอะไรในโลก อาจจะเพราะเกลียดกลัวที่จะต้องเจอกับตัวเอง แต่กับคนอื่นคงตรงกันข้ามกระมัง
"ผมบอกแล้วว่าอย่าอดทนกับพี่พงให้มากนัก ถ้าโกรธก็ใส่ ๆ ไปบ้างวันละนิดวันละหน่อยสิ ทุบไปสักวันละครั้ง ก็ไม่เป็นแบบนี้หรอก...มันดวงซวยของใครกันแน่วะ นิสัยก็บ้าพอกันเลย" คนพูดไม่ทันสังเกตว่าอีกสองคนในห้องหันมาตนเองเป็นตาเดียวกับคำว่า 'นิสัยก็บ้าพอกัน'
"ถ้าพูดถึงความบ้าสงสัยจะสู้นายไม่ได้ว่ะมุก..." สัตยาสะบัดแขนจากน้องชาย แล้วเดินไปนั่งตักคนรักอีกครั้ง ก่อนจะเริ่มต้นเลียบาดแผลให้อีกฝ่ายด้วยท่าทีหวานซึ้งกินใจจนน้องชายอดเอือมระอาไม่ได้
"ข่าวว่าจะให้นอนโรงพยาบาล กี่วันล่ะ..." ภิมุขถามขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงไซเรนแว่ว ๆ
สัตยาเงยหน้าขึ้นจ้องมองคนรักแล้วก้มลงไล้เลียเลือดต่ออย่างครุ่นคิด หากอ้อมกอดที่รัดแน่นขึ้นนั้นทำให้เขาต้องหันไปเอ่ยตอบน้องชายเป็นการตัดสินใจขั้นเด็ดขาด "สองวัน..."
จากสองอาทิตย์ลดฮวบลงเหลือเพียงสองวันทำให้พงหญ้ายิ้มได้ทั้งน้ำตา ด้วยนิสัยกล้าตายบวกกับขี้แยอย่างไม่น่าเข้ากัน ทำให้เขาเป็นที่รักของสัตยาได้อย่างไม่ยากเย็น หากความรักของคนทั้งคู่ก็เปรียบเสมือนเดินอยู่บนเส้นด้ายที่ไม่รู้จะพลาดตกลงมาเมื่อไร แต่ที่สำคัญฝ่ายที่ตกลงมาให้เจ็บตัวได้มีแค่พงหญ้าเท่านั้น เพราะสัตยาเกลียดความเจ็บปวดยิ่งกว่าสิ่งใดในโลก
"มาแล้ว..." ภิมุขหลีกทางให้บุรุษพยาบาลเข้ามาในห้อง ขณะที่สัตยาลุกขึ้นยืนดูบุรุษพยาบาลประคองพงหญ้าออกไป
พงหญ้าหันมามองคนรักที่ยืนนิ่งจนลับตา ภิมุขมองภาพราวกับทั้งคู่กำลังจะพรากจากกันไปไกลแสนไกลแล้วได้แต่ส่ายหน้าด้วยความหน่าย ยิ่งท่าทางของพี่ชายที่หมดอาลัยตายอยากทรุดนั่งลงบนเก้าอี้ แล้วค่อย ๆ หลับตาลงนั่นอีก...ทำไมมันช่างน้ำเน่าได้ปานนี้
"พอเหอะว่ะพี่ คิดถึงแล้วจะทำทำไมวะเอ้ย...ครับ มาฟังผมดีกว่า เพิ่งนึกขึ้นมาได้...เมื่อวานผมเจองูจงอางตัวใหญ่ยาวประมาณเกือบสามเมตรที่บ้าน น่ารักมาก ๆ ผมล่ะติดใจจริง ๆ แต่ไม่รู้วันนี้จะยังอยู่มั้ย ผมให้นอนบนตะกร้าในห้องนอน" ภิมุขเล่าเรื่องลื่นไหล แต่คนฟังที่หลับตาเคลิ้ม ๆ ต้องเบิ่งตากว้างอย่างตกใจ
"จะบ้าเหรอวะมุก...งูจงอางอยู่ในบ้าน แล้วนายยังระรื่นขนาดนี้เนี่ยนะ ไอ้น้องบ้าเอ๊ย...เรียกใครไปจัดการดีมั้ย" สัตยาดีดตัวลุกขึ้นกระฉับกระเฉงขึ้นมาทันใด
"เดี๋ยวก็เป็นแบบสิบปีที่แล้วหรอก พี่จะเสี่ยงเหรอ...แต่ผมว่าไม่ดุหรอก เพราะวันนี้ผมยังจับตัวคุณจงอางได้เลย" ภิมุขเล่าด้วยความภาคภูมิใจ "แล้วก็รีบวิ่งออกจากบ้านเพราะกลัวนี่แหละ ฮ่าฮ่าฮ่า"
"ไอ้บ้า..." สัตยาได้ยินเสียงหัวเราะของน้องชายก็ด่าเข้าให้ "จนกว่างูนั่นจะออกจากบ้านนาย ฉันถึงจะเข้าไปดูแลความเรียบร้อยให้..."
"ไม่เอา...วันนี้ผมจะกินสปาเก๊ตตี้ผัดซอสสัตยา ที่บ้านของผม...เพราะอย่างนั้นพี่ต้องไปค้างกับผม จะกลัวอะไรแค่งูตัวเดียว เลี้ยงจนตายมาตั้งกี่ตัวแล้ว...นาน ๆ ทีพี่พงจะไม่อยู่ นอนกับน้องชายที่น่ารักอย่างผมดีกว่าน่า..." ภิมุขเข้าไปถูไถศีรษะกับแขนพี่ชายจนอีกฝ่ายฝืนใจพยักหน้า เพราะกับน้องชายคนเล็กคนนี้สัตยาไม่เคยขัดใจสักครั้ง
สัตยาเริ่มบ่นอุบอิบไปทั่วบ้าน โดยมีภิมุขคอยลอบหัวเราะตามหลังกับความรักสะอาดในระดับที่สองของพี่ชาย ด้วยคิดว่าอีกฝ่ายยังไม่ถึงระดับหนึ่งอย่างคุณย่าน้อมที่แสนจะรักความสะอาดกว่าสิ่งใดในโลก จะยกเว้นก็แต่หลานชายสามคนที่สองคนรักสกปรกเหลือเกิน
"แล้วนี่มันอะไรเนี่ย นายอย่าวางอะไรทิ้งไว้เรี่ยราดได้มั้ยมุก เดี๋ยวก็สะดุดหรอก" สัตยาบ่นเสียงดัง คว้าเอาของที่วางขวางหน้าไว้ขึ้นมาโดยไม่ทันมอง...
ก่อนจะตัวแข็งทื่อเมื่อเห็นว่าหัวงูจงอางถูกกำไว้ในมือ ลำตัวยาวหนักสะบัดไปมาคล้ายหายใจไม่ออก จนชายหนุ่มต้องลดความหวาดกลัว ค่อย ๆ วางงูใหญ่ไว้บนพื้นบ้านแล้วเอื้อมมือลูบลำตัวให้เบา ๆ แทนคำขอโทษ ก่อนจะแข็งทื่อไปอีกรอบเมื่อดวงตาสีแดงเพลิงทอดมองมาอย่างตัดพ้อและดูเหมือนจะแง่งอน
"งูอะไรวะเจ้าชู้ฉิบ..." สัตยาเอ่ยต่อว่างูที่ไม่รู้เลื้อยพาดมานอนนิ่งสงบบนตักเขาตั้งแต่เมื่อไร "แต่ดูไปแล้วเท่ห์สุด ๆ เลยนะเนี่ย"
งูใหญ่ยกตัวขึ้นแผ่แม่เบี้ยเหมือนนึกว่าตัวเองเป็นนายแบบที่อยู่บนทางเดินของแมว ก่อนจะทิ้งตัวลงพาดขาสัตยาอีกรอบกับคำพูดของภิมุขที่แว่วมาจากครัว...
"พี่ใช้ตามองรึเปล่านั่น หรือพี่สายตาสั้นลงวะครับถึงได้มองเจ้านั่นว่าเท่ห์ ผมว่าน่ารักต่างหาก" ภิมุขเอ่ยพร้อมเสียงหัวเราะสนั่นลั่นครัว
"นายทำพี่งูหมดความมั่นใจว่ะมุก หงอไปเลยอะ..." สัตยายกลำตัวยาวเหยียดบางส่วนและลากบางส่วนไปด้วยความยากลำบาก ก่อนที่เขาจะทิ้งตัวลงกับโซฟานุ่มพร้อม ๆ กับงูใหญ่ในอ้อมกอด
"ไหนว่ากลัวไง แล้วไหงไปนั่งกอดกันซะแน่นปานนั้น เกิดพี่พงมาเห็นสงสัยจะหึงจนไฟไหม้บ้าน รายนั้นยิ่งหวงพี่ยังกับงูจงอางหวงไข่" ภิมุขเอ่ยแซวพี่ชาย แต่จริง ๆ อดหวั่นใจไม่ได้เพราะรู้ฤทธิ์หึงของคนที่พูดถึงในระดับลึกซึ้ง...
"คงจะสนุกน่าดูอะ เพราะพงหญ้ากลัวงูจงอางขึ้นสมอง อยากรู้จริง ๆ ว่าจะทำยังไง" พี่ชายตัวดีกลับเห็นว่าน่าสนุกไปเสียนี่
"ไปทำสปาเก๊ตตี้สิ ผมเตรียมเครื่องไว้ให้แล้ว...ส่วนจงอางผมจะเล่นด้วยแทนไปก่อน หึหึหึ" เสียงหัวเราะมีเลศนัยทำให้งูใหญ่ต้องผงกหัวขึ้นมอง แล้วเลื้อยหายวับเข้าไปในห้องนอนอย่างรวดเร็วปานสายลม
"หนีไปแล้วว่ะ...นายเล่าประวัติทำงูที่เลี้ยงตายให้พี่งูฟังเหรอวะ แล้วนายเผลอบอกไปหรือเปล่าว่าพวกเราเลี้ยงพี่หลามตายไปกี่ตัว ไม่ได้บอกใช่มั้ยว่ามากกว่าสิบตัว" สัตยาหันไปถามกระซิบกระซาบกับน้องชาย
"ไม่ได้บอกหรอกน่า พอดีจงอางทำท่ากลัวซะก่อนผมเลยยั้งปากไว้ทัน" นั่นล่ะวีรกรรมพี่น้องคู่หลุดโลกที่ทำเอางูใหญ่หูดีต้องสั่นสะท้านอย่างคาดไม่ถึงกับหน้าสวย ๆ หล่อ ๆ ที่เห็น
"เดี๋ยวผมไปอาบน้ำก่อนดีกว่า..." ภิมุขตะโกนบอกพี่ชาย หลังจากเดินอย่างเงียบกริบมาจนถึงห้องนอน ก่อนงูใหญ่จะรู้ตัวว่าหมดทางหนีก็ตอนที่อีกฝ่ายคว้าคอลากเข้าห้องน้ำไปด้วยกันนั่นแหละ
++++++++++++++++++++++++++
ภิมุขนั่งเหยียดขาชนผิวหนังนุ่มบางส่วน ทำให้เขารู้ว่าจงอางคงกำลังหลีกหนีเงื้อมมือเขาอยู่เป็นแน่ ชายหนุ่มจึงละเว้นอีกฝ่ายไว้ก่อน หันมาสนุกสนานกับการฟอกตัวแทน จนลืมว่าในอ่างนั้นไม่ได้มีตนอยู่เพียงคนเดียว...
จากความเพลิดเพลินของสายน้ำและฟองสบู่ ทำให้คนที่ต้องเหนื่อยมาจากการทำงานทั้งวันอย่างภิมุขเผลอนอนหลับไป ขณะที่กำลังเคลิบเคลิ้มอยู่นั่นเอง ในสติกึ่งหลับกึ่งตื่นภิมุขก็ฝันลางเลือน...
สัมผัสลื่นเลื้อยเอื่อยขึ้นมาตามเรียวขา หน้าท้อง จนถึงแผ่นอก กระทั่งหัวงูจงอางนอนนิ่งซบอยู่กับแผ่นอกเนียนขาว ภิมุขหัวเราะด้วยความจักจี้หากก็ยกมือลูบไล้ลำตัวยาวลื่นที่สัมผัสได้ถึงผิวหนังนุ่มของจงอางตัวใหญ่...
พลันในพริบตานั้นชายหนุ่มก็ชะงักด้วยความตกใจ เมื่อเห็นว่าที่ทาบทับตนเองอยู่นั้นเป็นผู้ชายคนหนึ่ง เรือนกายกำยำแข็งแกร่งผิวขาวเหลืองเนียนละเอียดจากสัมผัสที่ต้องกายกัน ใบหน้าคมหล่อเหลาราวกับมาเฟียฮ่องกงในหนังที่เคยดู
ดวงตาสีแดงเพลิงจ้องมองมาที่เขาด้วยแววตาที่ภิมุขไม่เข้าใจ...
ริมฝีปากอิ่มสีสดเหมือนพี่ชายอ้าออกจะเอ่ยถาม หากก็ต้องเงียบสนิทเมื่อถูกอีกฝ่ายประกบริมฝีปากลงมาบดคลึง ลิ้นร้อนเฉกเช่นมนุษย์เลื่อนเข้าเกาะเกี่ยวหยอกล้อกับลิ้นของภิมุขอย่างร้อนแรง แล้วขยับซอนไซ้ไปทั่วคล้ายกับกำลังหาบางอย่างที่อยู่ภายใน
ภิมุขเริ่มไร้สติยกแขนขึ้นกอดรัดแผ่นหลังแกร่งแล้วรั้งอีกฝ่ายเข้าหาตัว ยอมแลกลิ้นรับความอบอุ่นหวานซ่านจากคนตรงหน้าแต่โดยดี...
มือใหญ่เลื่อนเคล้นคลึงไปทั่วเรือนกายเนียนนุ่ม น้ำฟองสบู่จางหายไปในพริบตา ผิวขาวนวลแดงเรื่อเผยให้เห็นในเวลาเพียงไม่นาน ดวงตาสีแดงเพลิงจับจ้องร่างโปร่งด้วยสายตาใคร่รู้ ภิมุขไม่ผอมบางและสะสวยเท่าสัตยา ชายหนุ่มมีดวงตา จมูก ริมฝีปากและสีผิวเหมือนพี่ชาย หากดูเช่นไรก็หล่อเหลามากกว่าจะสวยนัก
แล้วดวงตาแดงสดก็ฉายแววสงสัยอีกครั้ง เมื่อใบหน้าแดงเรื่อที่หอบสะท้านจ้องมองเขาอยู่ดูงดงามกว่าที่เคยเห็น จนชายหนุ่มคิดว่าหากทำให้ภิมุขตัวแดงได้มากกว่านี้ อีกฝ่ายจะยิ่งงดงามมากขึ้นกระมัง...
ใบหน้าคมลดลงซุกอยู่กับซอกคอขาว ขบเม้มทิ้งรอยแดงเอาไว้ ก่อนจะเลื่อนไล้ลงประทับจูบบนแผ่นอกเนียนจนทั่ว นิ่งฟังเสียงครางเครือหอบสะท้านที่คิดว่าน่าฟังที่สุดอยู่พัก แล้วเลื่อนตวัดลิ้นไปบนยอดอกสีจาง เสียงแว่วหวานที่ได้ยินซาบซ่านอยู่ในความรู้สึก
ก่อนที่ทุกสิ่งจะเข้าสู่ความจริง...
ภิมุขสะดุ้งตื่นด้วยความตกใจ เขามองไปทั่วฟองสบู่ที่ฟูฟ่องก็พบว่างูใหญ่นอนนิ่งสนิทอยู่บนอกเขานั่นเอง ชายหนุ่มปล่อยน้ำออกแล้วล้างตัวให้ตนเองและจงอางที่หลับสนิท ก่อนจะทั้งยกทั้งลากลำตัวยาวเหยียดมาเช็ดตัวที่มุมห้อง พยายามจะหมุนเก็บลำตัวยาว ๆ นั่นให้เรียบร้อยหากก็ทำไม่ได้ จึงต้องจำใจพาดลำตัวยาวไว้บนเตียงตัวเอง...แล้วดึงผ้าห่มคลุมให้ตามสามัญสำนึก
ร่างโปร่งยืนเช็ดตัวอยู่หน้ากระจก แล้วต้องอ้าปากค้างกับร่องรอยแดงเป็นจ้ำที่ปรากฏอยู่ตรงซอกคอขาวและทั่วแผ่นอก นึกถึงความฝันแล้วใบหน้าก็แดงซ่าน ดวงตาคู่สวยเหมือนพี่ชายมองตวัดไปที่งูใหญ่ที่นอนทอดลำตัวยาวอย่างไม่เข้าใจนัก...
+++++++++++++++++++++++++++++++
จบตอน 2
ภิมุขนั่งเหยียดขาชนผิวหนังนุ่มบางส่วน ทำให้เขารู้ว่าจงอางคงกำลังหลีกหนีเงื้อมมือเขาอยู่เป็นแน่ ชายหนุ่มจึงละเว้นอีกฝ่ายไว้ก่อน หันมาสนุกสนานกับการฟอกตัวแทน จนลืมว่าในอ่างนั้นไม่ได้มีตนอยู่เพียงคนเดียว...
จากความเพลิดเพลินของสายน้ำและฟองสบู่ ทำให้คนที่ต้องเหนื่อยมาจากการทำงานทั้งวันอย่างภิมุขเผลอนอนหลับไป ขณะที่กำลังเคลิบเคลิ้มอยู่นั่นเอง ในสติกึ่งหลับกึ่งตื่นภิมุขก็ฝันลางเลือน...
สัมผัสลื่นเลื้อยเอื่อยขึ้นมาตามเรียวขา หน้าท้อง จนถึงแผ่นอก กระทั่งหัวงูจงอางนอนนิ่งซบอยู่กับแผ่นอกเนียนขาว ภิมุขหัวเราะด้วยความจักจี้หากก็ยกมือลูบไล้ลำตัวยาวลื่นที่สัมผัสได้ถึงผิวหนังนุ่มของจงอางตัวใหญ่...
พลันในพริบตานั้นชายหนุ่มก็ชะงักด้วยความตกใจ เมื่อเห็นว่าที่ทาบทับตนเองอยู่นั้นเป็นผู้ชายคนหนึ่ง เรือนกายกำยำแข็งแกร่งผิวขาวเหลืองเนียนละเอียดจากสัมผัสที่ต้องกายกัน ใบหน้าคมหล่อเหลาราวกับมาเฟียฮ่องกงในหนังที่เคยดู
ดวงตาสีแดงเพลิงจ้องมองมาที่เขาด้วยแววตาที่ภิมุขไม่เข้าใจ...
ริมฝีปากอิ่มสีสดเหมือนพี่ชายอ้าออกจะเอ่ยถาม หากก็ต้องเงียบสนิทเมื่อถูกอีกฝ่ายประกบริมฝีปากลงมาบดคลึง ลิ้นร้อนเฉกเช่นมนุษย์เลื่อนเข้าเกาะเกี่ยวหยอกล้อกับลิ้นของภิมุขอย่างร้อนแรง แล้วขยับซอนไซ้ไปทั่วคล้ายกับกำลังหาบางอย่างที่อยู่ภายใน
ภิมุขเริ่มไร้สติยกแขนขึ้นกอดรัดแผ่นหลังแกร่งแล้วรั้งอีกฝ่ายเข้าหาตัว ยอมแลกลิ้นรับความอบอุ่นหวานซ่านจากคนตรงหน้าแต่โดยดี...
มือใหญ่เลื่อนเคล้นคลึงไปทั่วเรือนกายเนียนนุ่ม น้ำฟองสบู่จางหายไปในพริบตา ผิวขาวนวลแดงเรื่อเผยให้เห็นในเวลาเพียงไม่นาน ดวงตาสีแดงเพลิงจับจ้องร่างโปร่งด้วยสายตาใคร่รู้ ภิมุขไม่ผอมบางและสะสวยเท่าสัตยา ชายหนุ่มมีดวงตา จมูก ริมฝีปากและสีผิวเหมือนพี่ชาย หากดูเช่นไรก็หล่อเหลามากกว่าจะสวยนัก
แล้วดวงตาแดงสดก็ฉายแววสงสัยอีกครั้ง เมื่อใบหน้าแดงเรื่อที่หอบสะท้านจ้องมองเขาอยู่ดูงดงามกว่าที่เคยเห็น จนชายหนุ่มคิดว่าหากทำให้ภิมุขตัวแดงได้มากกว่านี้ อีกฝ่ายจะยิ่งงดงามมากขึ้นกระมัง...
ใบหน้าคมลดลงซุกอยู่กับซอกคอขาว ขบเม้มทิ้งรอยแดงเอาไว้ ก่อนจะเลื่อนไล้ลงประทับจูบบนแผ่นอกเนียนจนทั่ว นิ่งฟังเสียงครางเครือหอบสะท้านที่คิดว่าน่าฟังที่สุดอยู่พัก แล้วเลื่อนตวัดลิ้นไปบนยอดอกสีจาง เสียงแว่วหวานที่ได้ยินซาบซ่านอยู่ในความรู้สึก
ก่อนที่ทุกสิ่งจะเข้าสู่ความจริง...
ภิมุขสะดุ้งตื่นด้วยความตกใจ เขามองไปทั่วฟองสบู่ที่ฟูฟ่องก็พบว่างูใหญ่นอนนิ่งสนิทอยู่บนอกเขานั่นเอง ชายหนุ่มปล่อยน้ำออกแล้วล้างตัวให้ตนเองและจงอางที่หลับสนิท ก่อนจะทั้งยกทั้งลากลำตัวยาวเหยียดมาเช็ดตัวที่มุมห้อง พยายามจะหมุนเก็บลำตัวยาว ๆ นั่นให้เรียบร้อยหากก็ทำไม่ได้ จึงต้องจำใจพาดลำตัวยาวไว้บนเตียงตัวเอง...แล้วดึงผ้าห่มคลุมให้ตามสามัญสำนึก
ร่างโปร่งยืนเช็ดตัวอยู่หน้ากระจก แล้วต้องอ้าปากค้างกับร่องรอยแดงเป็นจ้ำที่ปรากฏอยู่ตรงซอกคอขาวและทั่วแผ่นอก นึกถึงความฝันแล้วใบหน้าก็แดงซ่าน ดวงตาคู่สวยเหมือนพี่ชายมองตวัดไปที่งูใหญ่ที่นอนทอดลำตัวยาวอย่างไม่เข้าใจนัก...
+++++++++++++++++++++++++++++++
จบตอน 2
ภิมุขนั่งเหยียดขาชนผิวหนังนุ่มบางส่วน ทำให้เขารู้ว่าจงอางคงกำลังหลีกหนีเงื้อมมือเขาอยู่เป็นแน่ ชายหนุ่มจึงละเว้นอีกฝ่ายไว้ก่อน หันมาสนุกสนานกับการฟอกตัวแทน จนลืมว่าในอ่างนั้นไม่ได้มีตนอยู่เพียงคนเดียว...
จากความเพลิดเพลินของสายน้ำและฟองสบู่ ทำให้คนที่ต้องเหนื่อยมาจากการทำงานทั้งวันอย่างภิมุขเผลอนอนหลับไป ขณะที่กำลังเคลิบเคลิ้มอยู่นั่นเอง ในสติกึ่งหลับกึ่งตื่นภิมุขก็ฝันลางเลือน...
สัมผัสลื่นเลื้อยเอื่อยขึ้นมาตามเรียวขา หน้าท้อง จนถึงแผ่นอก กระทั่งหัวงูจงอางนอนนิ่งซบอยู่กับแผ่นอกเนียนขาว ภิมุขหัวเราะด้วยความจักจี้หากก็ยกมือลูบไล้ลำตัวยาวลื่นที่สัมผัสได้ถึงผิวหนังนุ่มของจงอางตัวใหญ่...
พลันในพริบตานั้นชายหนุ่มก็ชะงักด้วยความตกใจ เมื่อเห็นว่าที่ทาบทับตนเองอยู่นั้นเป็นผู้ชายคนหนึ่ง เรือนกายกำยำแข็งแกร่งผิวขาวเหลืองเนียนละเอียดจากสัมผัสที่ต้องกายกัน ใบหน้าคมหล่อเหลาราวกับมาเฟียฮ่องกงในหนังที่เคยดู
ดวงตาสีแดงเพลิงจ้องมองมาที่เขาด้วยแววตาที่ภิมุขไม่เข้าใจ...
ริมฝีปากอิ่มสีสดเหมือนพี่ชายอ้าออกจะเอ่ยถาม หากก็ต้องเงียบสนิทเมื่อถูกอีกฝ่ายประกบริมฝีปากลงมาบดคลึง ลิ้นร้อนเฉกเช่นมนุษย์เลื่อนเข้าเกาะเกี่ยวหยอกล้อกับลิ้นของภิมุขอย่างร้อนแรง แล้วขยับซอนไซ้ไปทั่วคล้ายกับกำลังหาบางอย่างที่อยู่ภายใน
ภิมุขเริ่มไร้สติยกแขนขึ้นกอดรัดแผ่นหลังแกร่งแล้วรั้งอีกฝ่ายเข้าหาตัว ยอมแลกลิ้นรับความอบอุ่นหวานซ่านจากคนตรงหน้าแต่โดยดี...
มือใหญ่เลื่อนเคล้นคลึงไปทั่วเรือนกายเนียนนุ่ม น้ำฟองสบู่จางหายไปในพริบตา ผิวขาวนวลแดงเรื่อเผยให้เห็นในเวลาเพียงไม่นาน ดวงตาสีแดงเพลิงจับจ้องร่างโปร่งด้วยสายตาใคร่รู้ ภิมุขไม่ผอมบางและสะสวยเท่าสัตยา ชายหนุ่มมีดวงตา จมูก ริมฝีปากและสีผิวเหมือนพี่ชาย หากดูเช่นไรก็หล่อเหลามากกว่าจะสวยนัก
แล้วดวงตาแดงสดก็ฉายแววสงสัยอีกครั้ง เมื่อใบหน้าแดงเรื่อที่หอบสะท้านจ้องมองเขาอยู่ดูงดงามกว่าที่เคยเห็น จนชายหนุ่มคิดว่าหากทำให้ภิมุขตัวแดงได้มากกว่านี้ อีกฝ่ายจะยิ่งงดงามมากขึ้นกระมัง...
ใบหน้าคมลดลงซุกอยู่กับซอกคอขาว ขบเม้มทิ้งรอยแดงเอาไว้ ก่อนจะเลื่อนไล้ลงประทับจูบบนแผ่นอกเนียนจนทั่ว นิ่งฟังเสียงครางเครือหอบสะท้านที่คิดว่าน่าฟังที่สุดอยู่พัก แล้วเลื่อนตวัดลิ้นไปบนยอดอกสีจาง เสียงแว่วหวานที่ได้ยินซาบซ่านอยู่ในความรู้สึก
ก่อนที่ทุกสิ่งจะเข้าสู่ความจริง...
ภิมุขสะดุ้งตื่นด้วยความตกใจ เขามองไปทั่วฟองสบู่ที่ฟูฟ่องก็พบว่างูใหญ่นอนนิ่งสนิทอยู่บนอกเขานั่นเอง ชายหนุ่มปล่อยน้ำออกแล้วล้างตัวให้ตนเองและจงอางที่หลับสนิท ก่อนจะทั้งยกทั้งลากลำตัวยาวเหยียดมาเช็ดตัวที่มุมห้อง พยายามจะหมุนเก็บลำตัวยาว ๆ นั่นให้เรียบร้อยหากก็ทำไม่ได้ จึงต้องจำใจพาดลำตัวยาวไว้บนเตียงตัวเอง...แล้วดึงผ้าห่มคลุมให้ตามสามัญสำนึก
ร่างโปร่งยืนเช็ดตัวอยู่หน้ากระจก แล้วต้องอ้าปากค้างกับร่องรอยแดงเป็นจ้ำที่ปรากฏอยู่ตรงซอกคอขาวและทั่วแผ่นอก นึกถึงความฝันแล้วใบหน้าก็แดงซ่าน ดวงตาคู่สวยเหมือนพี่ชายมองตวัดไปที่งูใหญ่ที่นอนทอดลำตัวยาวอย่างไม่เข้าใจนัก...
+++++++++++++++++++++++++++++++
จบตอน 2
"บ้านหรือรังฝุ่นวะเนี่ย" สัตยาวาดนิ้วไปตามเครื่องเรือนสีน้ำตาลเข้มแล้วบ่นขึ้นมา "นายไม่มีไม้ปัดขนไก่เหรอฝุ่นมันถึงได้หนาเป็นแผ่นโฟมแบบนี้ น้ำอุ่นถูกเปิดลงอ่างมีงูใหญ่เลื้อยว่ายวนอยู่ในน้ำตื้น ๆ ด้านใน ขณะที่ภิมุขโยนเม็ดอาบน้ำลงอ่างพร้อมถอดเสื้อผ้าอย่างไม่รีบร้อน เสร็จแล้วจึงค่อย ๆ ก้าวลงอ่างที่มีฟองฟูฟ่องจนมองไม่เห็นงูใหญ่ที่เอาลงไปก่อน ชายหนุ่มจึงต้องระวังมากขึ้น...
สัตยาเริ่มบ่นอุบอิบไปทั่วบ้าน โดยมีภิมุขคอยลอบหัวเราะตามหลังกับความรักสะอาดในระดับที่สองของพี่ชาย ด้วยคิดว่าอีกฝ่ายยังไม่ถึงระดับหนึ่งอย่างคุณย่าน้อมที่แสนจะรักความสะอาดกว่าสิ่งใดในโลก จะยกเว้นก็แต่หลานชายสามคนที่สองคนรักสกปรกเหลือเกิน
"แล้วนี่มันอะไรเนี่ย นายอย่าวางอะไรทิ้งไว้เรี่ยราดได้มั้ยมุก เดี๋ยวก็สะดุดหรอก" สัตยาบ่นเสียงดัง คว้าเอาของที่วางขวางหน้าไว้ขึ้นมาโดยไม่ทันมอง...
ก่อนจะตัวแข็งทื่อเมื่อเห็นว่าหัวงูจงอางถูกกำไว้ในมือ ลำตัวยาวหนักสะบัดไปมาคล้ายหายใจไม่ออก จนชายหนุ่มต้องลดความหวาดกลัว ค่อย ๆ วางงูใหญ่ไว้บนพื้นบ้านแล้วเอื้อมมือลูบลำตัวให้เบา ๆ แทนคำขอโทษ ก่อนจะแข็งทื่อไปอีกรอบเมื่อดวงตาสีแดงเพลิงทอดมองมาอย่างตัดพ้อและดูเหมือนจะแง่งอน
"งูอะไรวะเจ้าชู้ฉิบ..." สัตยาเอ่ยต่อว่างูที่ไม่รู้เลื้อยพาดมานอนนิ่งสงบบนตักเขาตั้งแต่เมื่อไร "แต่ดูไปแล้วเท่ห์สุด ๆ เลยนะเนี่ย"
งูใหญ่ยกตัวขึ้นแผ่แม่เบี้ยเหมือนนึกว่าตัวเองเป็นนายแบบที่อยู่บนทางเดินของแมว ก่อนจะทิ้งตัวลงพาดขาสัตยาอีกรอบกับคำพูดของภิมุขที่แว่วมาจากครัว...
"พี่ใช้ตามองรึเปล่านั่น หรือพี่สายตาสั้นลงวะครับถึงได้มองเจ้านั่นว่าเท่ห์ ผมว่าน่ารักต่างหาก" ภิมุขเอ่ยพร้อมเสียงหัวเราะสนั่นลั่นครัว
"นายทำพี่งูหมดความมั่นใจว่ะมุก หงอไปเลยอะ..." สัตยายกลำตัวยาวเหยียดบางส่วนและลากบางส่วนไปด้วยความยากลำบาก ก่อนที่เขาจะทิ้งตัวลงกับโซฟานุ่มพร้อม ๆ กับงูใหญ่ในอ้อมกอด
"ไหนว่ากลัวไง แล้วไหงไปนั่งกอดกันซะแน่นปานนั้น เกิดพี่พงมาเห็นสงสัยจะหึงจนไฟไหม้บ้าน รายนั้นยิ่งหวงพี่ยังกับงูจงอางหวงไข่" ภิมุขเอ่ยแซวพี่ชาย แต่จริง ๆ อดหวั่นใจไม่ได้เพราะรู้ฤทธิ์หึงของคนที่พูดถึงในระดับลึกซึ้ง...
"คงจะสนุกน่าดูอะ เพราะพงหญ้ากลัวงูจงอางขึ้นสมอง อยากรู้จริง ๆ ว่าจะทำยังไง" พี่ชายตัวดีกลับเห็นว่าน่าสนุกไปเสียนี่
"ไปทำสปาเก๊ตตี้สิ ผมเตรียมเครื่องไว้ให้แล้ว...ส่วนจงอางผมจะเล่นด้วยแทนไปก่อน หึหึหึ" เสียงหัวเราะมีเลศนัยทำให้งูใหญ่ต้องผงกหัวขึ้นมอง แล้วเลื้อยหายวับเข้าไปในห้องนอนอย่างรวดเร็วปานสายลม
"หนีไปแล้วว่ะ...นายเล่าประวัติทำงูที่เลี้ยงตายให้พี่งูฟังเหรอวะ แล้วนายเผลอบอกไปหรือเปล่าว่าพวกเราเลี้ยงพี่หลามตายไปกี่ตัว ไม่ได้บอกใช่มั้ยว่ามากกว่าสิบตัว" สัตยาหันไปถามกระซิบกระซาบกับน้องชาย
"ไม่ได้บอกหรอกน่า พอดีจงอางทำท่ากลัวซะก่อนผมเลยยั้งปากไว้ทัน" นั่นล่ะวีรกรรมพี่น้องคู่หลุดโลกที่ทำเอางูใหญ่หูดีต้องสั่นสะท้านอย่างคาดไม่ถึงกับหน้าสวย ๆ หล่อ ๆ ที่เห็น
"เดี๋ยวผมไปอาบน้ำก่อนดีกว่า..." ภิมุขตะโกนบอกพี่ชาย หลังจากเดินอย่างเงียบกริบมาจนถึงห้องนอน ก่อนงูใหญ่จะรู้ตัวว่าหมดทางหนีก็ตอนที่อีกฝ่ายคว้าคอลากเข้าห้องน้ำไปด้วยกันนั่นแหละ
++++++++++++++++++++++++++
ภิมุขนั่งเหยียดขาชนผิวหนังนุ่มบางส่วน ทำให้เขารู้ว่าจงอางคงกำลังหลีกหนีเงื้อมมือเขาอยู่เป็นแน่ ชายหนุ่มจึงละเว้นอีกฝ่ายไว้ก่อน หันมาสนุกสนานกับการฟอกตัวแทน จนลืมว่าในอ่างนั้นไม่ได้มีตนอยู่เพียงคนเดียว...
จากความเพลิดเพลินของสายน้ำและฟองสบู่ ทำให้คนที่ต้องเหนื่อยมาจากการทำงานทั้งวันอย่างภิมุขเผลอนอนหลับไป ขณะที่กำลังเคลิบเคลิ้มอยู่นั่นเอง ในสติกึ่งหลับกึ่งตื่นภิมุขก็ฝันลางเลือน...
สัมผัสลื่นเลื้อยเอื่อยขึ้นมาตามเรียวขา หน้าท้อง จนถึงแผ่นอก กระทั่งหัวงูจงอางนอนนิ่งซบอยู่กับแผ่นอกเนียนขาว ภิมุขหัวเราะด้วยความจักจี้หากก็ยกมือลูบไล้ลำตัวยาวลื่นที่สัมผัสได้ถึงผิวหนังนุ่มของจงอางตัวใหญ่...
พลันในพริบตานั้นชายหนุ่มก็ชะงักด้วยความตกใจ เมื่อเห็นว่าที่ทาบทับตนเองอยู่นั้นเป็นผู้ชายคนหนึ่ง เรือนกายกำยำแข็งแกร่งผิวขาวเหลืองเนียนละเอียดจากสัมผัสที่ต้องกายกัน ใบหน้าคมหล่อเหลาราวกับมาเฟียฮ่องกงในหนังที่เคยดู
ดวงตาสีแดงเพลิงจ้องมองมาที่เขาด้วยแววตาที่ภิมุขไม่เข้าใจ...
ริมฝีปากอิ่มสีสดเหมือนพี่ชายอ้าออกจะเอ่ยถาม หากก็ต้องเงียบสนิทเมื่อถูกอีกฝ่ายประกบริมฝีปากลงมาบดคลึง ลิ้นร้อนเฉกเช่นมนุษย์เลื่อนเข้าเกาะเกี่ยวหยอกล้อกับลิ้นของภิมุขอย่างร้อนแรง แล้วขยับซอนไซ้ไปทั่วคล้ายกับกำลังหาบางอย่างที่อยู่ภายใน
ภิมุขเริ่มไร้สติยกแขนขึ้นกอดรัดแผ่นหลังแกร่งแล้วรั้งอีกฝ่ายเข้าหาตัว ยอมแลกลิ้นรับความอบอุ่นหวานซ่านจากคนตรงหน้าแต่โดยดี...
มือใหญ่เลื่อนเคล้นคลึงไปทั่วเรือนกายเนียนนุ่ม น้ำฟองสบู่จางหายไปในพริบตา ผิวขาวนวลแดงเรื่อเผยให้เห็นในเวลาเพียงไม่นาน ดวงตาสีแดงเพลิงจับจ้องร่างโปร่งด้วยสายตาใคร่รู้ ภิมุขไม่ผอมบางและสะสวยเท่าสัตยา ชายหนุ่มมีดวงตา จมูก ริมฝีปากและสีผิวเหมือนพี่ชาย หากดูเช่นไรก็หล่อเหลามากกว่าจะสวยนัก
แล้วดวงตาแดงสดก็ฉายแววสงสัยอีกครั้ง เมื่อใบหน้าแดงเรื่อที่หอบสะท้านจ้องมองเขาอยู่ดูงดงามกว่าที่เคยเห็น จนชายหนุ่มคิดว่าหากทำให้ภิมุขตัวแดงได้มากกว่านี้ อีกฝ่ายจะยิ่งงดงามมากขึ้นกระมัง...
ใบหน้าคมลดลงซุกอยู่กับซอกคอขาว ขบเม้มทิ้งรอยแดงเอาไว้ ก่อนจะเลื่อนไล้ลงประทับจูบบนแผ่นอกเนียนจนทั่ว นิ่งฟังเสียงครางเครือหอบสะท้านที่คิดว่าน่าฟังที่สุดอยู่พัก แล้วเลื่อนตวัดลิ้นไปบนยอดอกสีจาง เสียงแว่วหวานที่ได้ยินซาบซ่านอยู่ในความรู้สึก
ก่อนที่ทุกสิ่งจะเข้าสู่ความจริง...
ภิมุขสะดุ้งตื่นด้วยความตกใจ เขามองไปทั่วฟองสบู่ที่ฟูฟ่องก็พบว่างูใหญ่นอนนิ่งสนิทอยู่บนอกเขานั่นเอง ชายหนุ่มปล่อยน้ำออกแล้วล้างตัวให้ตนเองและจงอางที่หลับสนิท ก่อนจะทั้งยกทั้งลากลำตัวยาวเหยียดมาเช็ดตัวที่มุมห้อง พยายามจะหมุนเก็บลำตัวยาว ๆ นั่นให้เรียบร้อยหากก็ทำไม่ได้ จึงต้องจำใจพาดลำตัวยาวไว้บนเตียงตัวเอง...แล้วดึงผ้าห่มคลุมให้ตามสามัญสำนึก
ร่างโปร่งยืนเช็ดตัวอยู่หน้ากระจก แล้วต้องอ้าปากค้างกับร่องรอยแดงเป็นจ้ำที่ปรากฏอยู่ตรงซอกคอขาวและทั่วแผ่นอก นึกถึงความฝันแล้วใบหน้าก็แดงซ่าน ดวงตาคู่สวยเหมือนพี่ชายมองตวัดไปที่งูใหญ่ที่นอนทอดลำตัวยาวอย่างไม่เข้าใจนัก...
+++++++++++++++++++++++++++++++
จบตอน 2
น้ำอุ่นถูกเปิดลงอ่างมีงูใหญ่เลื้อยว่ายวนอยู่ในน้ำตื้น ๆ ด้านใน ขณะที่ภิมุขโยนเม็ดอาบน้ำลงอ่างพร้อมถอดเสื้อผ้าอย่างไม่รีบร้อน เสร็จแล้วจึงค่อย ๆ ก้าวลงอ่างที่มีฟองฟูฟ่องจนมองไม่เห็นงูใหญ่ที่เอาลงไปก่อน ชายหนุ่มจึงต้องระวังมากขึ้น...
ภิมุขนั่งเหยียดขาชนผิวหนังนุ่มบางส่วน ทำให้เขารู้ว่าจงอางคงกำลังหลีกหนีเงื้อมมือเขาอยู่เป็นแน่ ชายหนุ่มจึงละเว้นอีกฝ่ายไว้ก่อน หันมาสนุกสนานกับการฟอกตัวแทน จนลืมว่าในอ่างนั้นไม่ได้มีตนอยู่เพียงคนเดียว...
จากความเพลิดเพลินของสายน้ำและฟองสบู่ ทำให้คนที่ต้องเหนื่อยมาจากการทำงานทั้งวันอย่างภิมุขเผลอนอนหลับไป ขณะที่กำลังเคลิบเคลิ้มอยู่นั่นเอง ในสติกึ่งหลับกึ่งตื่นภิมุขก็ฝันลางเลือน...
สัมผัสลื่นเลื้อยเอื่อยขึ้นมาตามเรียวขา หน้าท้อง จนถึงแผ่นอก กระทั่งหัวงูจงอางนอนนิ่งซบอยู่กับแผ่นอกเนียนขาว ภิมุขหัวเราะด้วยความจักจี้หากก็ยกมือลูบไล้ลำตัวยาวลื่นที่สัมผัสได้ถึงผิวหนังนุ่มของจงอางตัวใหญ่...
พลันในพริบตานั้นชายหนุ่มก็ชะงักด้วยความตกใจ เมื่อเห็นว่าที่ทาบทับตนเองอยู่นั้นเป็นผู้ชายคนหนึ่ง เรือนกายกำยำแข็งแกร่งผิวขาวเหลืองเนียนละเอียดจากสัมผัสที่ต้องกายกัน ใบหน้าคมหล่อเหลาราวกับมาเฟียฮ่องกงในหนังที่เคยดู
ดวงตาสีแดงเพลิงจ้องมองมาที่เขาด้วยแววตาที่ภิมุขไม่เข้าใจ...
ริมฝีปากอิ่มสีสดเหมือนพี่ชายอ้าออกจะเอ่ยถาม หากก็ต้องเงียบสนิทเมื่อถูกอีกฝ่ายประกบริมฝีปากลงมาบดคลึง ลิ้นร้อนเฉกเช่นมนุษย์เลื่อนเข้าเกาะเกี่ยวหยอกล้อกับลิ้นของภิมุขอย่างร้อนแรง แล้วขยับซอนไซ้ไปทั่วคล้ายกับกำลังหาบางอย่างที่อยู่ภายใน
ภิมุขเริ่มไร้สติยกแขนขึ้นกอดรัดแผ่นหลังแกร่งแล้วรั้งอีกฝ่ายเข้าหาตัว ยอมแลกลิ้นรับความอบอุ่นหวานซ่านจากคนตรงหน้าแต่โดยดี...
มือใหญ่เลื่อนเคล้นคลึงไปทั่วเรือนกายเนียนนุ่ม น้ำฟองสบู่จางหายไปในพริบตา ผิวขาวนวลแดงเรื่อเผยให้เห็นในเวลาเพียงไม่นาน ดวงตาสีแดงเพลิงจับจ้องร่างโปร่งด้วยสายตาใคร่รู้ ภิมุขไม่ผอมบางและสะสวยเท่าสัตยา ชายหนุ่มมีดวงตา จมูก ริมฝีปากและสีผิวเหมือนพี่ชาย หากดูเช่นไรก็หล่อเหลามากกว่าจะสวยนัก
แล้วดวงตาแดงสดก็ฉายแววสงสัยอีกครั้ง เมื่อใบหน้าแดงเรื่อที่หอบสะท้านจ้องมองเขาอยู่ดูงดงามกว่าที่เคยเห็น จนชายหนุ่มคิดว่าหากทำให้ภิมุขตัวแดงได้มากกว่านี้ อีกฝ่ายจะยิ่งงดงามมากขึ้นกระมัง...
ใบหน้าคมลดลงซุกอยู่กับซอกคอขาว ขบเม้มทิ้งรอยแดงเอาไว้ ก่อนจะเลื่อนไล้ลงประทับจูบบนแผ่นอกเนียนจนทั่ว นิ่งฟังเสียงครางเครือหอบสะท้านที่คิดว่าน่าฟังที่สุดอยู่พัก แล้วเลื่อนตวัดลิ้นไปบนยอดอกสีจาง เสียงแว่วหวานที่ได้ยินซาบซ่านอยู่ในความรู้สึก
ก่อนที่ทุกสิ่งจะเข้าสู่ความจริง...
ภิมุขสะดุ้งตื่นด้วยความตกใจ เขามองไปทั่วฟองสบู่ที่ฟูฟ่องก็พบว่างูใหญ่นอนนิ่งสนิทอยู่บนอกเขานั่นเอง ชายหนุ่มปล่อยน้ำออกแล้วล้างตัวให้ตนเองและจงอางที่หลับสนิท ก่อนจะทั้งยกทั้งลากลำตัวยาวเหยียดมาเช็ดตัวที่มุมห้อง พยายามจะหมุนเก็บลำตัวยาว ๆ นั่นให้เรียบร้อยหากก็ทำไม่ได้ จึงต้องจำใจพาดลำตัวยาวไว้บนเตียงตัวเอง...แล้วดึงผ้าห่มคลุมให้ตามสามัญสำนึก
ร่างโปร่งยืนเช็ดตัวอยู่หน้ากระจก แล้วต้องอ้าปากค้างกับร่องรอยแดงเป็นจ้ำที่ปรากฏอยู่ตรงซอกคอขาวและทั่วแผ่นอก นึกถึงความฝันแล้วใบหน้าก็แดงซ่าน ดวงตาคู่สวยเหมือนพี่ชายมองตวัดไปที่งูใหญ่ที่นอนทอดลำตัวยาวอย่างไม่เข้าใจนัก...
+++++++++++++++++++++++++++++++
จบตอน 2
น้ำอุ่นถูกเปิดลงอ่างมีงูใหญ่เลื้อยว่ายวนอยู่ในน้ำตื้น ๆ ด้านใน ขณะที่ภิมุขโยนเม็ดอาบน้ำลงอ่างพร้อมถอดเสื้อผ้าอย่างไม่รีบร้อน เสร็จแล้วจึงค่อย ๆ ก้าวลงอ่างที่มีฟองฟูฟ่องจนมองไม่เห็นงูใหญ่ที่เอาลงไปก่อน ชายหนุ่มจึงต้องระวังมากขึ้น...
ภิมุขนั่งเหยียดขาชนผิวหนังนุ่มบางส่วน ทำให้เขารู้ว่าจงอางคงกำลังหลีกหนีเงื้อมมือเขาอยู่เป็นแน่ ชายหนุ่มจึงละเว้นอีกฝ่ายไว้ก่อน หันมาสนุกสนานกับการฟอกตัวแทน จนลืมว่าในอ่างนั้นไม่ได้มีตนอยู่เพียงคนเดียว...
จากความเพลิดเพลินของสายน้ำและฟองสบู่ ทำให้คนที่ต้องเหนื่อยมาจากการทำงานทั้งวันอย่างภิมุขเผลอนอนหลับไป ขณะที่กำลังเคลิบเคลิ้มอยู่นั่นเอง ในสติกึ่งหลับกึ่งตื่นภิมุขก็ฝันลางเลือน...
สัมผัสลื่นเลื้อยเอื่อยขึ้นมาตามเรียวขา หน้าท้อง จนถึงแผ่นอก กระทั่งหัวงูจงอางนอนนิ่งซบอยู่กับแผ่นอกเนียนขาว ภิมุขหัวเราะด้วยความจักจี้หากก็ยกมือลูบไล้ลำตัวยาวลื่นที่สัมผัสได้ถึงผิวหนังนุ่มของจงอางตัวใหญ่...
พลันในพริบตานั้นชายหนุ่มก็ชะงักด้วยความตกใจ เมื่อเห็นว่าที่ทาบทับตนเองอยู่นั้นเป็นผู้ชายคนหนึ่ง เรือนกายกำยำแข็งแกร่งผิวขาวเหลืองเนียนละเอียดจากสัมผัสที่ต้องกายกัน ใบหน้าคมหล่อเหลาราวกับมาเฟียฮ่องกงในหนังที่เคยดู
ดวงตาสีแดงเพลิงจ้องมองมาที่เขาด้วยแววตาที่ภิมุขไม่เข้าใจ...
ริมฝีปากอิ่มสีสดเหมือนพี่ชายอ้าออกจะเอ่ยถาม หากก็ต้องเงียบสนิทเมื่อถูกอีกฝ่ายประกบริมฝีปากลงมาบดคลึง ลิ้นร้อนเฉกเช่นมนุษย์เลื่อนเข้าเกาะเกี่ยวหยอกล้อกับลิ้นของภิมุขอย่างร้อนแรง แล้วขยับซอนไซ้ไปทั่วคล้ายกับกำลังหาบางอย่างที่อยู่ภายใน
ภิมุขเริ่มไร้สติยกแขนขึ้นกอดรัดแผ่นหลังแกร่งแล้วรั้งอีกฝ่ายเข้าหาตัว ยอมแลกลิ้นรับความอบอุ่นหวานซ่านจากคนตรงหน้าแต่โดยดี...
มือใหญ่เลื่อนเคล้นคลึงไปทั่วเรือนกายเนียนนุ่ม น้ำฟองสบู่จางหายไปในพริบตา ผิวขาวนวลแดงเรื่อเผยให้เห็นในเวลาเพียงไม่นาน ดวงตาสีแดงเพลิงจับจ้องร่างโปร่งด้วยสายตาใคร่รู้ ภิมุขไม่ผอมบางและสะสวยเท่าสัตยา ชายหนุ่มมีดวงตา จมูก ริมฝีปากและสีผิวเหมือนพี่ชาย หากดูเช่นไรก็หล่อเหลามากกว่าจะสวยนัก
แล้วดวงตาแดงสดก็ฉายแววสงสัยอีกครั้ง เมื่อใบหน้าแดงเรื่อที่หอบสะท้านจ้องมองเขาอยู่ดูงดงามกว่าที่เคยเห็น จนชายหนุ่มคิดว่าหากทำให้ภิมุขตัวแดงได้มากกว่านี้ อีกฝ่ายจะยิ่งงดงามมากขึ้นกระมัง...
ใบหน้าคมลดลงซุกอยู่กับซอกคอขาว ขบเม้มทิ้งรอยแดงเอาไว้ ก่อนจะเลื่อนไล้ลงประทับจูบบนแผ่นอกเนียนจนทั่ว นิ่งฟังเสียงครางเครือหอบสะท้านที่คิดว่าน่าฟังที่สุดอยู่พัก แล้วเลื่อนตวัดลิ้นไปบนยอดอกสีจาง เสียงแว่วหวานที่ได้ยินซาบซ่านอยู่ในความรู้สึก
ก่อนที่ทุกสิ่งจะเข้าสู่ความจริง...
ภิมุขสะดุ้งตื่นด้วยความตกใจ เขามองไปทั่วฟองสบู่ที่ฟูฟ่องก็พบว่างูใหญ่นอนนิ่งสนิทอยู่บนอกเขานั่นเอง ชายหนุ่มปล่อยน้ำออกแล้วล้างตัวให้ตนเองและจงอางที่หลับสนิท ก่อนจะทั้งยกทั้งลากลำตัวยาวเหยียดมาเช็ดตัวที่มุมห้อง พยายามจะหมุนเก็บลำตัวยาว ๆ นั่นให้เรียบร้อยหากก็ทำไม่ได้ จึงต้องจำใจพาดลำตัวยาวไว้บนเตียงตัวเอง...แล้วดึงผ้าห่มคลุมให้ตามสามัญสำนึก
ร่างโปร่งยืนเช็ดตัวอยู่หน้ากระจก แล้วต้องอ้าปากค้างกับร่องรอยแดงเป็นจ้ำที่ปรากฏอยู่ตรงซอกคอขาวและทั่วแผ่นอก นึกถึงความฝันแล้วใบหน้าก็แดงซ่าน ดวงตาคู่สวยเหมือนพี่ชายมองตวัดไปที่งูใหญ่ที่นอนทอดลำตัวยาวอย่างไม่เข้าใจนัก...
+++++++++++++++++++++++++++++++
จบตอน 2
"บ้านหรือรังฝุ่นวะเนี่ย" สัตยาวาดนิ้วไปตามเครื่องเรือนสีน้ำตาลเข้มแล้วบ่นขึ้นมา "นายไม่มีไม้ปัดขนไก่เหรอฝุ่นมันถึงได้หนาเป็นแผ่นโฟมแบบนี้ น้ำอุ่นถูกเปิดลงอ่างมีงูใหญ่เลื้อยว่ายวนอยู่ในน้ำตื้น ๆ ด้านใน ขณะที่ภิมุขโยนเม็ดอาบน้ำลงอ่างพร้อมถอดเสื้อผ้าอย่างไม่รีบร้อน เสร็จแล้วจึงค่อย ๆ ก้าวลงอ่างที่มีฟองฟูฟ่องจนมองไม่เห็นงูใหญ่ที่เอาลงไปก่อน ชายหนุ่มจึงต้องระวังมากขึ้น...
สัตยาเริ่มบ่นอุบอิบไปทั่วบ้าน โดยมีภิมุขคอยลอบหัวเราะตามหลังกับความรักสะอาดในระดับที่สองของพี่ชาย ด้วยคิดว่าอีกฝ่ายยังไม่ถึงระดับหนึ่งอย่างคุณย่าน้อมที่แสนจะรักความสะอาดกว่าสิ่งใดในโลก จะยกเว้นก็แต่หลานชายสามคนที่สองคนรักสกปรกเหลือเกิน
"แล้วนี่มันอะไรเนี่ย นายอย่าวางอะไรทิ้งไว้เรี่ยราดได้มั้ยมุก เดี๋ยวก็สะดุดหรอก" สัตยาบ่นเสียงดัง คว้าเอาของที่วางขวางหน้าไว้ขึ้นมาโดยไม่ทันมอง...
ก่อนจะตัวแข็งทื่อเมื่อเห็นว่าหัวงูจงอางถูกกำไว้ในมือ ลำตัวยาวหนักสะบัดไปมาคล้ายหายใจไม่ออก จนชายหนุ่มต้องลดความหวาดกลัว ค่อย ๆ วางงูใหญ่ไว้บนพื้นบ้านแล้วเอื้อมมือลูบลำตัวให้เบา ๆ แทนคำขอโทษ ก่อนจะแข็งทื่อไปอีกรอบเมื่อดวงตาสีแดงเพลิงทอดมองมาอย่างตัดพ้อและดูเหมือนจะแง่งอน
"งูอะไรวะเจ้าชู้ฉิบ..." สัตยาเอ่ยต่อว่างูที่ไม่รู้เลื้อยพาดมานอนนิ่งสงบบนตักเขาตั้งแต่เมื่อไร "แต่ดูไปแล้วเท่ห์สุด ๆ เลยนะเนี่ย"
งูใหญ่ยกตัวขึ้นแผ่แม่เบี้ยเหมือนนึกว่าตัวเองเป็นนายแบบที่อยู่บนทางเดินของแมว ก่อนจะทิ้งตัวลงพาดขาสัตยาอีกรอบกับคำพูดของภิมุขที่แว่วมาจากครัว...
"พี่ใช้ตามองรึเปล่านั่น หรือพี่สายตาสั้นลงวะครับถึงได้มองเจ้านั่นว่าเท่ห์ ผมว่าน่ารักต่างหาก" ภิมุขเอ่ยพร้อมเสียงหัวเราะสนั่นลั่นครัว
"นายทำพี่งูหมดความมั่นใจว่ะมุก หงอไปเลยอะ..." สัตยายกลำตัวยาวเหยียดบางส่วนและลากบางส่วนไปด้วยความยากลำบาก ก่อนที่เขาจะทิ้งตัวลงกับโซฟานุ่มพร้อม ๆ กับงูใหญ่ในอ้อมกอด
"ไหนว่ากลัวไง แล้วไหงไปนั่งกอดกันซะแน่นปานนั้น เกิดพี่พงมาเห็นสงสัยจะหึงจนไฟไหม้บ้าน รายนั้นยิ่งหวงพี่ยังกับงูจงอางหวงไข่" ภิมุขเอ่ยแซวพี่ชาย แต่จริง ๆ อดหวั่นใจไม่ได้เพราะรู้ฤทธิ์หึงของคนที่พูดถึงในระดับลึกซึ้ง...
"คงจะสนุกน่าดูอะ เพราะพงหญ้ากลัวงูจงอางขึ้นสมอง อยากรู้จริง ๆ ว่าจะทำยังไง" พี่ชายตัวดีกลับเห็นว่าน่าสนุกไปเสียนี่
"ไปทำสปาเก๊ตตี้สิ ผมเตรียมเครื่องไว้ให้แล้ว...ส่วนจงอางผมจะเล่นด้วยแทนไปก่อน หึหึหึ" เสียงหัวเราะมีเลศนัยทำให้งูใหญ่ต้องผงกหัวขึ้นมอง แล้วเลื้อยหายวับเข้าไปในห้องนอนอย่างรวดเร็วปานสายลม
"หนีไปแล้วว่ะ...นายเล่าประวัติทำงูที่เลี้ยงตายให้พี่งูฟังเหรอวะ แล้วนายเผลอบอกไปหรือเปล่าว่าพวกเราเลี้ยงพี่หลามตายไปกี่ตัว ไม่ได้บอกใช่มั้ยว่ามากกว่าสิบตัว" สัตยาหันไปถามกระซิบกระซาบกับน้องชาย
"ไม่ได้บอกหรอกน่า พอดีจงอางทำท่ากลัวซะก่อนผมเลยยั้งปากไว้ทัน" นั่นล่ะวีรกรรมพี่น้องคู่หลุดโลกที่ทำเอางูใหญ่หูดีต้องสั่นสะท้านอย่างคาดไม่ถึงกับหน้าสวย ๆ หล่อ ๆ ที่เห็น
"เดี๋ยวผมไปอาบน้ำก่อนดีกว่า..." ภิมุขตะโกนบอกพี่ชาย หลังจากเดินอย่างเงียบกริบมาจนถึงห้องนอน ก่อนงูใหญ่จะรู้ตัวว่าหมดทางหนีก็ตอนที่อีกฝ่ายคว้าคอลากเข้าห้องน้ำไปด้วยกันนั่นแหละ
++++++++++++++++++++++++++
ภิมุขนั่งเหยียดขาชนผิวหนังนุ่มบางส่วน ทำให้เขารู้ว่าจงอางคงกำลังหลีกหนีเงื้อมมือเขาอยู่เป็นแน่ ชายหนุ่มจึงละเว้นอีกฝ่ายไว้ก่อน หันมาสนุกสนานกับการฟอกตัวแทน จนลืมว่าในอ่างนั้นไม่ได้มีตนอยู่เพียงคนเดียว...
จากความเพลิดเพลินของสายน้ำและฟองสบู่ ทำให้คนที่ต้องเหนื่อยมาจากการทำงานทั้งวันอย่างภิมุขเผลอนอนหลับไป ขณะที่กำลังเคลิบเคลิ้มอยู่นั่นเอง ในสติกึ่งหลับกึ่งตื่นภิมุขก็ฝันลางเลือน...
สัมผัสลื่นเลื้อยเอื่อยขึ้นมาตามเรียวขา หน้าท้อง จนถึงแผ่นอก กระทั่งหัวงูจงอางนอนนิ่งซบอยู่กับแผ่นอกเนียนขาว ภิมุขหัวเราะด้วยความจักจี้หากก็ยกมือลูบไล้ลำตัวยาวลื่นที่สัมผัสได้ถึงผิวหนังนุ่มของจงอางตัวใหญ่...
พลันในพริบตานั้นชายหนุ่มก็ชะงักด้วยความตกใจ เมื่อเห็นว่าที่ทาบทับตนเองอยู่นั้นเป็นผู้ชายคนหนึ่ง เรือนกายกำยำแข็งแกร่งผิวขาวเหลืองเนียนละเอียดจากสัมผัสที่ต้องกายกัน ใบหน้าคมหล่อเหลาราวกับมาเฟียฮ่องกงในหนังที่เคยดู
ดวงตาสีแดงเพลิงจ้องมองมาที่เขาด้วยแววตาที่ภิมุขไม่เข้าใจ...
ริมฝีปากอิ่มสีสดเหมือนพี่ชายอ้าออกจะเอ่ยถาม หากก็ต้องเงียบสนิทเมื่อถูกอีกฝ่ายประกบริมฝีปากลงมาบดคลึง ลิ้นร้อนเฉกเช่นมนุษย์เลื่อนเข้าเกาะเกี่ยวหยอกล้อกับลิ้นของภิมุขอย่างร้อนแรง แล้วขยับซอนไซ้ไปทั่วคล้ายกับกำลังหาบางอย่างที่อยู่ภายใน
ภิมุขเริ่มไร้สติยกแขนขึ้นกอดรัดแผ่นหลังแกร่งแล้วรั้งอีกฝ่ายเข้าหาตัว ยอมแลกลิ้นรับความอบอุ่นหวานซ่านจากคนตรงหน้าแต่โดยดี...
มือใหญ่เลื่อนเคล้นคลึงไปทั่วเรือนกายเนียนนุ่ม น้ำฟองสบู่จางหายไปในพริบตา ผิวขาวนวลแดงเรื่อเผยให้เห็นในเวลาเพียงไม่นาน ดวงตาสีแดงเพลิงจับจ้องร่างโปร่งด้วยสายตาใคร่รู้ ภิมุขไม่ผอมบางและสะสวยเท่าสัตยา ชายหนุ่มมีดวงตา จมูก ริมฝีปากและสีผิวเหมือนพี่ชาย หากดูเช่นไรก็หล่อเหลามากกว่าจะสวยนัก
แล้วดวงตาแดงสดก็ฉายแววสงสัยอีกครั้ง เมื่อใบหน้าแดงเรื่อที่หอบสะท้านจ้องมองเขาอยู่ดูงดงามกว่าที่เคยเห็น จนชายหนุ่มคิดว่าหากทำให้ภิมุขตัวแดงได้มากกว่านี้ อีกฝ่ายจะยิ่งงดงามมากขึ้นกระมัง...
ใบหน้าคมลดลงซุกอยู่กับซอกคอขาว ขบเม้มทิ้งรอยแดงเอาไว้ ก่อนจะเลื่อนไล้ลงประทับจูบบนแผ่นอกเนียนจนทั่ว นิ่งฟังเสียงครางเครือหอบสะท้านที่คิดว่าน่าฟังที่สุดอยู่พัก แล้วเลื่อนตวัดลิ้นไปบนยอดอกสีจาง เสียงแว่วหวานที่ได้ยินซาบซ่านอยู่ในความรู้สึก
ก่อนที่ทุกสิ่งจะเข้าสู่ความจริง...
ภิมุขสะดุ้งตื่นด้วยความตกใจ เขามองไปทั่วฟองสบู่ที่ฟูฟ่องก็พบว่างูใหญ่นอนนิ่งสนิทอยู่บนอกเขานั่นเอง ชายหนุ่มปล่อยน้ำออกแล้วล้างตัวให้ตนเองและจงอางที่หลับสนิท ก่อนจะทั้งยกทั้งลากลำตัวยาวเหยียดมาเช็ดตัวที่มุมห้อง พยายามจะหมุนเก็บลำตัวยาว ๆ นั่นให้เรียบร้อยหากก็ทำไม่ได้ จึงต้องจำใจพาดลำตัวยาวไว้บนเตียงตัวเอง...แล้วดึงผ้าห่มคลุมให้ตามสามัญสำนึก
ร่างโปร่งยืนเช็ดตัวอยู่หน้ากระจก แล้วต้องอ้าปากค้างกับร่องรอยแดงเป็นจ้ำที่ปรากฏอยู่ตรงซอกคอขาวและทั่วแผ่นอก นึกถึงความฝันแล้วใบหน้าก็แดงซ่าน ดวงตาคู่สวยเหมือนพี่ชายมองตวัดไปที่งูใหญ่ที่นอนทอดลำตัวยาวอย่างไม่เข้าใจนัก...
+++++++++++++++++++++++++++++++
จบตอน 2
น้ำอุ่นถูกเปิดลงอ่างมีงูใหญ่เลื้อยว่ายวนอยู่ในน้ำตื้น ๆ ด้านใน ขณะที่ภิมุขโยนเม็ดอาบน้ำลงอ่างพร้อมถอดเสื้อผ้าอย่างไม่รีบร้อน เสร็จแล้วจึงค่อย ๆ ก้าวลงอ่างที่มีฟองฟูฟ่องจนมองไม่เห็นงูใหญ่ที่เอาลงไปก่อน ชายหนุ่มจึงต้องระวังมากขึ้น...
ภิมุขนั่งเหยียดขาชนผิวหนังนุ่มบางส่วน ทำให้เขารู้ว่าจงอางคงกำลังหลีกหนีเงื้อมมือเขาอยู่เป็นแน่ ชายหนุ่มจึงละเว้นอีกฝ่ายไว้ก่อน หันมาสนุกสนานกับการฟอกตัวแทน จนลืมว่าในอ่างนั้นไม่ได้มีตนอยู่เพียงคนเดียว...
จากความเพลิดเพลินของสายน้ำและฟองสบู่ ทำให้คนที่ต้องเหนื่อยมาจากการทำงานทั้งวันอย่างภิมุขเผลอนอนหลับไป ขณะที่กำลังเคลิบเคลิ้มอยู่นั่นเอง ในสติกึ่งหลับกึ่งตื่นภิมุขก็ฝันลางเลือน...
สัมผัสลื่นเลื้อยเอื่อยขึ้นมาตามเรียวขา หน้าท้อง จนถึงแผ่นอก กระทั่งหัวงูจงอางนอนนิ่งซบอยู่กับแผ่นอกเนียนขาว ภิมุขหัวเราะด้วยความจักจี้หากก็ยกมือลูบไล้ลำตัวยาวลื่นที่สัมผัสได้ถึงผิวหนังนุ่มของจงอางตัวใหญ่...
พลันในพริบตานั้นชายหนุ่มก็ชะงักด้วยความตกใจ เมื่อเห็นว่าที่ทาบทับตนเองอยู่นั้นเป็นผู้ชายคนหนึ่ง เรือนกายกำยำแข็งแกร่งผิวขาวเหลืองเนียนละเอียดจากสัมผัสที่ต้องกายกัน ใบหน้าคมหล่อเหลาราวกับมาเฟียฮ่องกงในหนังที่เคยดู
ดวงตาสีแดงเพลิงจ้องมองมาที่เขาด้วยแววตาที่ภิมุขไม่เข้าใจ...
ริมฝีปากอิ่มสีสดเหมือนพี่ชายอ้าออกจะเอ่ยถาม หากก็ต้องเงียบสนิทเมื่อถูกอีกฝ่ายประกบริมฝีปากลงมาบดคลึง ลิ้นร้อนเฉกเช่นมนุษย์เลื่อนเข้าเกาะเกี่ยวหยอกล้อกับลิ้นของภิมุขอย่างร้อนแรง แล้วขยับซอนไซ้ไปทั่วคล้ายกับกำลังหาบางอย่างที่อยู่ภายใน
ภิมุขเริ่มไร้สติยกแขนขึ้นกอดรัดแผ่นหลังแกร่งแล้วรั้งอีกฝ่ายเข้าหาตัว ยอมแลกลิ้นรับความอบอุ่นหวานซ่านจากคนตรงหน้าแต่โดยดี...
มือใหญ่เลื่อนเคล้นคลึงไปทั่วเรือนกายเนียนนุ่ม น้ำฟองสบู่จางหายไปในพริบตา ผิวขาวนวลแดงเรื่อเผยให้เห็นในเวลาเพียงไม่นาน ดวงตาสีแดงเพลิงจับจ้องร่างโปร่งด้วยสายตาใคร่รู้ ภิมุขไม่ผอมบางและสะสวยเท่าสัตยา ชายหนุ่มมีดวงตา จมูก ริมฝีปากและสีผิวเหมือนพี่ชาย หากดูเช่นไรก็หล่อเหลามากกว่าจะสวยนัก
แล้วดวงตาแดงสดก็ฉายแววสงสัยอีกครั้ง เมื่อใบหน้าแดงเรื่อที่หอบสะท้านจ้องมองเขาอยู่ดูงดงามกว่าที่เคยเห็น จนชายหนุ่มคิดว่าหากทำให้ภิมุขตัวแดงได้มากกว่านี้ อีกฝ่ายจะยิ่งงดงามมากขึ้นกระมัง...
ใบหน้าคมลดลงซุกอยู่กับซอกคอขาว ขบเม้มทิ้งรอยแดงเอาไว้ ก่อนจะเลื่อนไล้ลงประทับจูบบนแผ่นอกเนียนจนทั่ว นิ่งฟังเสียงครางเครือหอบสะท้านที่คิดว่าน่าฟังที่สุดอยู่พัก แล้วเลื่อนตวัดลิ้นไปบนยอดอกสีจาง เสียงแว่วหวานที่ได้ยินซาบซ่านอยู่ในความรู้สึก
ก่อนที่ทุกสิ่งจะเข้าสู่ความจริง...
ภิมุขสะดุ้งตื่นด้วยความตกใจ เขามองไปทั่วฟองสบู่ที่ฟูฟ่องก็พบว่างูใหญ่นอนนิ่งสนิทอยู่บนอกเขานั่นเอง ชายหนุ่มปล่อยน้ำออกแล้วล้างตัวให้ตนเองและจงอางที่หลับสนิท ก่อนจะทั้งยกทั้งลากลำตัวยาวเหยียดมาเช็ดตัวที่มุมห้อง พยายามจะหมุนเก็บลำตัวยาว ๆ นั่นให้เรียบร้อยหากก็ทำไม่ได้ จึงต้องจำใจพาดลำตัวยาวไว้บนเตียงตัวเอง...แล้วดึงผ้าห่มคลุมให้ตามสามัญสำนึก
ร่างโปร่งยืนเช็ดตัวอยู่หน้ากระจก แล้วต้องอ้าปากค้างกับร่องรอยแดงเป็นจ้ำที่ปรากฏอยู่ตรงซอกคอขาวและทั่วแผ่นอก นึกถึงความฝันแล้วใบหน้าก็แดงซ่าน ดวงตาคู่สวยเหมือนพี่ชายมองตวัดไปที่งูใหญ่ที่นอนทอดลำตัวยาวอย่างไม่เข้าใจนัก...
+++++++++++++++++++++++++++++++
จบตอน 2
น้ำอุ่นถูกเปิดลงอ่างมีงูใหญ่เลื้อยว่ายวนอยู่ในน้ำตื้น ๆ ด้านใน ขณะที่ภิมุขโยนเม็ดอาบน้ำลงอ่างพร้อมถอดเสื้อผ้าอย่างไม่รีบร้อน เสร็จแล้วจึงค่อย ๆ ก้าวลงอ่างที่มีฟองฟูฟ่องจนมองไม่เห็นงูใหญ่ที่เอาลงไปก่อน ชายหนุ่มจึงต้องระวังมากขึ้น...
ภิมุขนั่งเหยียดขาชนผิวหนังนุ่มบางส่วน ทำให้เขารู้ว่าจงอางคงกำลังหลีกหนีเงื้อมมือเขาอยู่เป็นแน่ ชายหนุ่มจึงละเว้นอีกฝ่ายไว้ก่อน หันมาสนุกสนานกับการฟอกตัวแทน จนลืมว่าในอ่างนั้นไม่ได้มีตนอยู่เพียงคนเดียว...
จากความเพลิดเพลินของสายน้ำและฟองสบู่ ทำให้คนที่ต้องเหนื่อยมาจากการทำงานทั้งวันอย่างภิมุขเผลอนอนหลับไป ขณะที่กำลังเคลิบเคลิ้มอยู่นั่นเอง ในสติกึ่งหลับกึ่งตื่นภิมุขก็ฝันลางเลือน...
สัมผัสลื่นเลื้อยเอื่อยขึ้นมาตามเรียวขา หน้าท้อง จนถึงแผ่นอก กระทั่งหัวงูจงอางนอนนิ่งซบอยู่กับแผ่นอกเนียนขาว ภิมุขหัวเราะด้วยความจักจี้หากก็ยกมือลูบไล้ลำตัวยาวลื่นที่สัมผัสได้ถึงผิวหนังนุ่มของจงอางตัวใหญ่...
พลันในพริบตานั้นชายหนุ่มก็ชะงักด้วยความตกใจ เมื่อเห็นว่าที่ทาบทับตนเองอยู่นั้นเป็นผู้ชายคนหนึ่ง เรือนกายกำยำแข็งแกร่งผิวขาวเหลืองเนียนละเอียดจากสัมผัสที่ต้องกายกัน ใบหน้าคมหล่อเหลาราวกับมาเฟียฮ่องกงในหนังที่เคยดู
ดวงตาสีแดงเพลิงจ้องมองมาที่เขาด้วยแววตาที่ภิมุขไม่เข้าใจ...
ริมฝีปากอิ่มสีสดเหมือนพี่ชายอ้าออกจะเอ่ยถาม หากก็ต้องเงียบสนิทเมื่อถูกอีกฝ่ายประกบริมฝีปากลงมาบดคลึง ลิ้นร้อนเฉกเช่นมนุษย์เลื่อนเข้าเกาะเกี่ยวหยอกล้อกับลิ้นของภิมุขอย่างร้อนแรง แล้วขยับซอนไซ้ไปทั่วคล้ายกับกำลังหาบางอย่างที่อยู่ภายใน
ภิมุขเริ่มไร้สติยกแขนขึ้นกอดรัดแผ่นหลังแกร่งแล้วรั้งอีกฝ่ายเข้าหาตัว ยอมแลกลิ้นรับความอบอุ่นหวานซ่านจากคนตรงหน้าแต่โดยดี...
มือใหญ่เลื่อนเคล้นคลึงไปทั่วเรือนกายเนียนนุ่ม น้ำฟองสบู่จางหายไปในพริบตา ผิวขาวนวลแดงเรื่อเผยให้เห็นในเวลาเพียงไม่นาน ดวงตาสีแดงเพลิงจับจ้องร่างโปร่งด้วยสายตาใคร่รู้ ภิมุขไม่ผอมบางและสะสวยเท่าสัตยา ชายหนุ่มมีดวงตา จมูก ริมฝีปากและสีผิวเหมือนพี่ชาย หากดูเช่นไรก็หล่อเหลามากกว่าจะสวยนัก
แล้วดวงตาแดงสดก็ฉายแววสงสัยอีกครั้ง เมื่อใบหน้าแดงเรื่อที่หอบสะท้านจ้องมองเขาอยู่ดูงดงามกว่าที่เคยเห็น จนชายหนุ่มคิดว่าหากทำให้ภิมุขตัวแดงได้มากกว่านี้ อีกฝ่ายจะยิ่งงดงามมากขึ้นกระมัง...
ใบหน้าคมลดลงซุกอยู่กับซอกคอขาว ขบเม้มทิ้งรอยแดงเอาไว้ ก่อนจะเลื่อนไล้ลงประทับจูบบนแผ่นอกเนียนจนทั่ว นิ่งฟังเสียงครางเครือหอบสะท้านที่คิดว่าน่าฟังที่สุดอยู่พัก แล้วเลื่อนตวัดลิ้นไปบนยอดอกสีจาง เสียงแว่วหวานที่ได้ยินซาบซ่านอยู่ในความรู้สึก
ก่อนที่ทุกสิ่งจะเข้าสู่ความจริง...
ภิมุขสะดุ้งตื่นด้วยความตกใจ เขามองไปทั่วฟองสบู่ที่ฟูฟ่องก็พบว่างูใหญ่นอนนิ่งสนิทอยู่บนอกเขานั่นเอง ชายหนุ่มปล่อยน้ำออกแล้วล้างตัวให้ตนเองและจงอางที่หลับสนิท ก่อนจะทั้งยกทั้งลากลำตัวยาวเหยียดมาเช็ดตัวที่มุมห้อง พยายามจะหมุนเก็บลำตัวยาว ๆ นั่นให้เรียบร้อยหากก็ทำไม่ได้ จึงต้องจำใจพาดลำตัวยาวไว้บนเตียงตัวเอง...แล้วดึงผ้าห่มคลุมให้ตามสามัญสำนึก
ร่างโปร่งยืนเช็ดตัวอยู่หน้ากระจก แล้วต้องอ้าปากค้างกับร่องรอยแดงเป็นจ้ำที่ปรากฏอยู่ตรงซอกคอขาวและทั่วแผ่นอก นึกถึงความฝันแล้วใบหน้าก็แดงซ่าน ดวงตาคู่สวยเหมือนพี่ชายมองตวัดไปที่งูใหญ่ที่นอนทอดลำตัวยาวอย่างไม่เข้าใจนัก...
+++++++++++++++++++++++++++++++
จบตอน 2
สัตยาซบหน้าอยู่กับแผ่นอกกว้างอันเคยคุ้น แม้ไม่ได้นึกเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไปแต่ก็รู้สึกโหวงในอกไม่น้อย "เพราะพงหญ้าคนเดียว...ถ้าคิดถึงจนร้องไห้นะ ออกจากโรงพยาบาลมาจะไม่คุยด้วยอีกสามวัน" "บ้านหรือรังฝุ่นวะเนี่ย" สัตยาวาดนิ้วไปตามเครื่องเรือนสีน้ำตาลเข้มแล้วบ่นขึ้นมา "นายไม่มีไม้ปัดขนไก่เหรอฝุ่นมันถึงได้หนาเป็นแผ่นโฟมแบบนี้ น้ำอุ่นถูกเปิดลงอ่างมีงูใหญ่เลื้อยว่ายวนอยู่ในน้ำตื้น ๆ ด้านใน ขณะที่ภิมุขโยนเม็ดอาบน้ำลงอ่างพร้อมถอดเสื้อผ้าอย่างไม่รีบร้อน เสร็จแล้วจึงค่อย ๆ ก้าวลงอ่างที่มีฟองฟูฟ่องจนมองไม่เห็นงูใหญ่ที่เอาลงไปก่อน ชายหนุ่มจึงต้องระวังมากขึ้น... น้ำอุ่นถูกเปิดลงอ่างมีงูใหญ่เลื้อยว่ายวนอยู่ในน้ำตื้น ๆ ด้านใน ขณะที่ภิมุขโยนเม็ดอาบน้ำลงอ่างพร้อมถอดเสื้อผ้าอย่างไม่รีบร้อน เสร็จแล้วจึงค่อย ๆ ก้าวลงอ่างที่มีฟองฟูฟ่องจนมองไม่เห็นงูใหญ่ที่เอาลงไปก่อน ชายหนุ่มจึงต้องระวังมากขึ้น... น้ำอุ่นถูกเปิดลงอ่างมีงูใหญ่เลื้อยว่ายวนอยู่ในน้ำตื้น ๆ ด้านใน ขณะที่ภิมุขโยนเม็ดอาบน้ำลงอ่างพร้อมถอดเสื้อผ้าอย่างไม่รีบร้อน เสร็จแล้วจึงค่อย ๆ ก้าวลงอ่างที่มีฟองฟูฟ่องจนมองไม่เห็นงูใหญ่ที่เอาลงไปก่อน ชายหนุ่มจึงต้องระวังมากขึ้น...
"โธ่!...หยกก็ ผมผิดไปแล้ว ไม่ทำอีกแล้ว ต่อไปจะตั้งใจทำงานไม่ก่อเรื่องนะครับ...อยู่บ้านคนเดียวดี ๆ นะ อย่าให้รู้ว่าแอบพาคนอื่นเข้าบ้าน ไม่อย่างนั้นออกมาแล้วจะโดดลงมาจากดาดฟ้า ให้หยกมองเห็นจากห้องทำงานให้ดู" พงหญ้าง้อตามนิสัยความประหลาดของตัวเอง
"อย่า เอา ความตาย มา ล้อเล่น นะ" ทุกคำถูกเน้นด้วยน้ำเสียงนุ่มเรียบ
สัตยาเงยหน้าขึ้นพร้อมรอยยิ้มเยาะเย้ย สองแขนโอบกอดรอบคอคนตัวใหญ่แล้วยกตัวขึ้น กัดไปบนริมฝีปากหนาจนอีกคนร้องเสียงดังลั่นห้อง...กระทั่งประตูถูกเปิดอีกครั้งนั่นล่ะ
"พี่หยก...เฮ้ย! ปล่อย..." ภิมุขวิ่งไปดึงพี่ชายที่กำลังแสดงความรักในแบบของตัวเองอยู่ออกมาจากคนบาดเจ็บ ซึ่งกว่าจะแยกออกมาได้พงหญ้าก็เลือดอาบไปเรียบร้อย
ภิมุขมองพี่ชายที่มีเลือดจากพงหญ้าติดอยู่บนริมฝีปากราวกับผีดูดเลือดด้วยความสยอง เขาพอรู้ว่าเวลาพี่ชายโกรธจะต้องหาที่ลงไม้ลงมือเสมอ ชนิดที่ไม่น่าเชื่อเลยว่าอีกฝ่ายจะเกลียดความเจ็บปวดยิ่งกว่าอะไรในโลก อาจจะเพราะเกลียดกลัวที่จะต้องเจอกับตัวเอง แต่กับคนอื่นคงตรงกันข้ามกระมัง
"ผมบอกแล้วว่าอย่าอดทนกับพี่พงให้มากนัก ถ้าโกรธก็ใส่ ๆ ไปบ้างวันละนิดวันละหน่อยสิ ทุบไปสักวันละครั้ง ก็ไม่เป็นแบบนี้หรอก...มันดวงซวยของใครกันแน่วะ นิสัยก็บ้าพอกันเลย" คนพูดไม่ทันสังเกตว่าอีกสองคนในห้องหันมาตนเองเป็นตาเดียวกับคำว่า 'นิสัยก็บ้าพอกัน'
"ถ้าพูดถึงความบ้าสงสัยจะสู้นายไม่ได้ว่ะมุก..." สัตยาสะบัดแขนจากน้องชาย แล้วเดินไปนั่งตักคนรักอีกครั้ง ก่อนจะเริ่มต้นเลียบาดแผลให้อีกฝ่ายด้วยท่าทีหวานซึ้งกินใจจนน้องชายอดเอือมระอาไม่ได้
"ข่าวว่าจะให้นอนโรงพยาบาล กี่วันล่ะ..." ภิมุขถามขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงไซเรนแว่ว ๆ
สัตยาเงยหน้าขึ้นจ้องมองคนรักแล้วก้มลงไล้เลียเลือดต่ออย่างครุ่นคิด หากอ้อมกอดที่รัดแน่นขึ้นนั้นทำให้เขาต้องหันไปเอ่ยตอบน้องชายเป็นการตัดสินใจขั้นเด็ดขาด "สองวัน..."
จากสองอาทิตย์ลดฮวบลงเหลือเพียงสองวันทำให้พงหญ้ายิ้มได้ทั้งน้ำตา ด้วยนิสัยกล้าตายบวกกับขี้แยอย่างไม่น่าเข้ากัน ทำให้เขาเป็นที่รักของสัตยาได้อย่างไม่ยากเย็น หากความรักของคนทั้งคู่ก็เปรียบเสมือนเดินอยู่บนเส้นด้ายที่ไม่รู้จะพลาดตกลงมาเมื่อไร แต่ที่สำคัญฝ่ายที่ตกลงมาให้เจ็บตัวได้มีแค่พงหญ้าเท่านั้น เพราะสัตยาเกลียดความเจ็บปวดยิ่งกว่าสิ่งใดในโลก
"มาแล้ว..." ภิมุขหลีกทางให้บุรุษพยาบาลเข้ามาในห้อง ขณะที่สัตยาลุกขึ้นยืนดูบุรุษพยาบาลประคองพงหญ้าออกไป
พงหญ้าหันมามองคนรักที่ยืนนิ่งจนลับตา ภิมุขมองภาพราวกับทั้งคู่กำลังจะพรากจากกันไปไกลแสนไกลแล้วได้แต่ส่ายหน้าด้วยความหน่าย ยิ่งท่าทางของพี่ชายที่หมดอาลัยตายอยากทรุดนั่งลงบนเก้าอี้ แล้วค่อย ๆ หลับตาลงนั่นอีก...ทำไมมันช่างน้ำเน่าได้ปานนี้
"พอเหอะว่ะพี่ คิดถึงแล้วจะทำทำไมวะเอ้ย...ครับ มาฟังผมดีกว่า เพิ่งนึกขึ้นมาได้...เมื่อวานผมเจองูจงอางตัวใหญ่ยาวประมาณเกือบสามเมตรที่บ้าน น่ารักมาก ๆ ผมล่ะติดใจจริง ๆ แต่ไม่รู้วันนี้จะยังอยู่มั้ย ผมให้นอนบนตะกร้าในห้องนอน" ภิมุขเล่าเรื่องลื่นไหล แต่คนฟังที่หลับตาเคลิ้ม ๆ ต้องเบิ่งตากว้างอย่างตกใจ
"จะบ้าเหรอวะมุก...งูจงอางอยู่ในบ้าน แล้วนายยังระรื่นขนาดนี้เนี่ยนะ ไอ้น้องบ้าเอ๊ย...เรียกใครไปจัดการดีมั้ย" สัตยาดีดตัวลุกขึ้นกระฉับกระเฉงขึ้นมาทันใด
"เดี๋ยวก็เป็นแบบสิบปีที่แล้วหรอก พี่จะเสี่ยงเหรอ...แต่ผมว่าไม่ดุหรอก เพราะวันนี้ผมยังจับตัวคุณจงอางได้เลย" ภิมุขเล่าด้วยความภาคภูมิใจ "แล้วก็รีบวิ่งออกจากบ้านเพราะกลัวนี่แหละ ฮ่าฮ่าฮ่า"
"ไอ้บ้า..." สัตยาได้ยินเสียงหัวเราะของน้องชายก็ด่าเข้าให้ "จนกว่างูนั่นจะออกจากบ้านนาย ฉันถึงจะเข้าไปดูแลความเรียบร้อยให้..."
"ไม่เอา...วันนี้ผมจะกินสปาเก๊ตตี้ผัดซอสสัตยา ที่บ้านของผม...เพราะอย่างนั้นพี่ต้องไปค้างกับผม จะกลัวอะไรแค่งูตัวเดียว เลี้ยงจนตายมาตั้งกี่ตัวแล้ว...นาน ๆ ทีพี่พงจะไม่อยู่ นอนกับน้องชายที่น่ารักอย่างผมดีกว่าน่า..." ภิมุขเข้าไปถูไถศีรษะกับแขนพี่ชายจนอีกฝ่ายฝืนใจพยักหน้า เพราะกับน้องชายคนเล็กคนนี้สัตยาไม่เคยขัดใจสักครั้ง
สัตยาเริ่มบ่นอุบอิบไปทั่วบ้าน โดยมีภิมุขคอยลอบหัวเราะตามหลังกับความรักสะอาดในระดับที่สองของพี่ชาย ด้วยคิดว่าอีกฝ่ายยังไม่ถึงระดับหนึ่งอย่างคุณย่าน้อมที่แสนจะรักความสะอาดกว่าสิ่งใดในโลก จะยกเว้นก็แต่หลานชายสามคนที่สองคนรักสกปรกเหลือเกิน
"แล้วนี่มันอะไรเนี่ย นายอย่าวางอะไรทิ้งไว้เรี่ยราดได้มั้ยมุก เดี๋ยวก็สะดุดหรอก" สัตยาบ่นเสียงดัง คว้าเอาของที่วางขวางหน้าไว้ขึ้นมาโดยไม่ทันมอง...
ก่อนจะตัวแข็งทื่อเมื่อเห็นว่าหัวงูจงอางถูกกำไว้ในมือ ลำตัวยาวหนักสะบัดไปมาคล้ายหายใจไม่ออก จนชายหนุ่มต้องลดความหวาดกลัว ค่อย ๆ วางงูใหญ่ไว้บนพื้นบ้านแล้วเอื้อมมือลูบลำตัวให้เบา ๆ แทนคำขอโทษ ก่อนจะแข็งทื่อไปอีกรอบเมื่อดวงตาสีแดงเพลิงทอดมองมาอย่างตัดพ้อและดูเหมือนจะแง่งอน
"งูอะไรวะเจ้าชู้ฉิบ..." สัตยาเอ่ยต่อว่างูที่ไม่รู้เลื้อยพาดมานอนนิ่งสงบบนตักเขาตั้งแต่เมื่อไร "แต่ดูไปแล้วเท่ห์สุด ๆ เลยนะเนี่ย"
งูใหญ่ยกตัวขึ้นแผ่แม่เบี้ยเหมือนนึกว่าตัวเองเป็นนายแบบที่อยู่บนทางเดินของแมว ก่อนจะทิ้งตัวลงพาดขาสัตยาอีกรอบกับคำพูดของภิมุขที่แว่วมาจากครัว...
"พี่ใช้ตามองรึเปล่านั่น หรือพี่สายตาสั้นลงวะครับถึงได้มองเจ้านั่นว่าเท่ห์ ผมว่าน่ารักต่างหาก" ภิมุขเอ่ยพร้อมเสียงหัวเราะสนั่นลั่นครัว
"นายทำพี่งูหมดความมั่นใจว่ะมุก หงอไปเลยอะ..." สัตยายกลำตัวยาวเหยียดบางส่วนและลากบางส่วนไปด้วยความยากลำบาก ก่อนที่เขาจะทิ้งตัวลงกับโซฟานุ่มพร้อม ๆ กับงูใหญ่ในอ้อมกอด
"ไหนว่ากลัวไง แล้วไหงไปนั่งกอดกันซะแน่นปานนั้น เกิดพี่พงมาเห็นสงสัยจะหึงจนไฟไหม้บ้าน รายนั้นยิ่งหวงพี่ยังกับงูจงอางหวงไข่" ภิมุขเอ่ยแซวพี่ชาย แต่จริง ๆ อดหวั่นใจไม่ได้เพราะรู้ฤทธิ์หึงของคนที่พูดถึงในระดับลึกซึ้ง...
"คงจะสนุกน่าดูอะ เพราะพงหญ้ากลัวงูจงอางขึ้นสมอง อยากรู้จริง ๆ ว่าจะทำยังไง" พี่ชายตัวดีกลับเห็นว่าน่าสนุกไปเสียนี่
"ไปทำสปาเก๊ตตี้สิ ผมเตรียมเครื่องไว้ให้แล้ว...ส่วนจงอางผมจะเล่นด้วยแทนไปก่อน หึหึหึ" เสียงหัวเราะมีเลศนัยทำให้งูใหญ่ต้องผงกหัวขึ้นมอง แล้วเลื้อยหายวับเข้าไปในห้องนอนอย่างรวดเร็วปานสายลม
"หนีไปแล้วว่ะ...นายเล่าประวัติทำงูที่เลี้ยงตายให้พี่งูฟังเหรอวะ แล้วนายเผลอบอกไปหรือเปล่าว่าพวกเราเลี้ยงพี่หลามตายไปกี่ตัว ไม่ได้บอกใช่มั้ยว่ามากกว่าสิบตัว" สัตยาหันไปถามกระซิบกระซาบกับน้องชาย
"ไม่ได้บอกหรอกน่า พอดีจงอางทำท่ากลัวซะก่อนผมเลยยั้งปากไว้ทัน" นั่นล่ะวีรกรรมพี่น้องคู่หลุดโลกที่ทำเอางูใหญ่หูดีต้องสั่นสะท้านอย่างคาดไม่ถึงกับหน้าสวย ๆ หล่อ ๆ ที่เห็น
"เดี๋ยวผมไปอาบน้ำก่อนดีกว่า..." ภิมุขตะโกนบอกพี่ชาย หลังจากเดินอย่างเงียบกริบมาจนถึงห้องนอน ก่อนงูใหญ่จะรู้ตัวว่าหมดทางหนีก็ตอนที่อีกฝ่ายคว้าคอลากเข้าห้องน้ำไปด้วยกันนั่นแหละ
++++++++++++++++++++++++++
ภิมุขนั่งเหยียดขาชนผิวหนังนุ่มบางส่วน ทำให้เขารู้ว่าจงอางคงกำลังหลีกหนีเงื้อมมือเขาอยู่เป็นแน่ ชายหนุ่มจึงละเว้นอีกฝ่ายไว้ก่อน หันมาสนุกสนานกับการฟอกตัวแทน จนลืมว่าในอ่างนั้นไม่ได้มีตนอยู่เพียงคนเดียว...
จากความเพลิดเพลินของสายน้ำและฟองสบู่ ทำให้คนที่ต้องเหนื่อยมาจากการทำงานทั้งวันอย่างภิมุขเผลอนอนหลับไป ขณะที่กำลังเคลิบเคลิ้มอยู่นั่นเอง ในสติกึ่งหลับกึ่งตื่นภิมุขก็ฝันลางเลือน...
สัมผัสลื่นเลื้อยเอื่อยขึ้นมาตามเรียวขา หน้าท้อง จนถึงแผ่นอก กระทั่งหัวงูจงอางนอนนิ่งซบอยู่กับแผ่นอกเนียนขาว ภิมุขหัวเราะด้วยความจักจี้หากก็ยกมือลูบไล้ลำตัวยาวลื่นที่สัมผัสได้ถึงผิวหนังนุ่มของจงอางตัวใหญ่...
พลันในพริบตานั้นชายหนุ่มก็ชะงักด้วยความตกใจ เมื่อเห็นว่าที่ทาบทับตนเองอยู่นั้นเป็นผู้ชายคนหนึ่ง เรือนกายกำยำแข็งแกร่งผิวขาวเหลืองเนียนละเอียดจากสัมผัสที่ต้องกายกัน ใบหน้าคมหล่อเหลาราวกับมาเฟียฮ่องกงในหนังที่เคยดู
ดวงตาสีแดงเพลิงจ้องมองมาที่เขาด้วยแววตาที่ภิมุขไม่เข้าใจ...
ริมฝีปากอิ่มสีสดเหมือนพี่ชายอ้าออกจะเอ่ยถาม หากก็ต้องเงียบสนิทเมื่อถูกอีกฝ่ายประกบริมฝีปากลงมาบดคลึง ลิ้นร้อนเฉกเช่นมนุษย์เลื่อนเข้าเกาะเกี่ยวหยอกล้อกับลิ้นของภิมุขอย่างร้อนแรง แล้วขยับซอนไซ้ไปทั่วคล้ายกับกำลังหาบางอย่างที่อยู่ภายใน
ภิมุขเริ่มไร้สติยกแขนขึ้นกอดรัดแผ่นหลังแกร่งแล้วรั้งอีกฝ่ายเข้าหาตัว ยอมแลกลิ้นรับความอบอุ่นหวานซ่านจากคนตรงหน้าแต่โดยดี...
มือใหญ่เลื่อนเคล้นคลึงไปทั่วเรือนกายเนียนนุ่ม น้ำฟองสบู่จางหายไปในพริบตา ผิวขาวนวลแดงเรื่อเผยให้เห็นในเวลาเพียงไม่นาน ดวงตาสีแดงเพลิงจับจ้องร่างโปร่งด้วยสายตาใคร่รู้ ภิมุขไม่ผอมบางและสะสวยเท่าสัตยา ชายหนุ่มมีดวงตา จมูก ริมฝีปากและสีผิวเหมือนพี่ชาย หากดูเช่นไรก็หล่อเหลามากกว่าจะสวยนัก
แล้วดวงตาแดงสดก็ฉายแววสงสัยอีกครั้ง เมื่อใบหน้าแดงเรื่อที่หอบสะท้านจ้องมองเขาอยู่ดูงดงามกว่าที่เคยเห็น จนชายหนุ่มคิดว่าหากทำให้ภิมุขตัวแดงได้มากกว่านี้ อีกฝ่ายจะยิ่งงดงามมากขึ้นกระมัง...
ใบหน้าคมลดลงซุกอยู่กับซอกคอขาว ขบเม้มทิ้งรอยแดงเอาไว้ ก่อนจะเลื่อนไล้ลงประทับจูบบนแผ่นอกเนียนจนทั่ว นิ่งฟังเสียงครางเครือหอบสะท้านที่คิดว่าน่าฟังที่สุดอยู่พัก แล้วเลื่อนตวัดลิ้นไปบนยอดอกสีจาง เสียงแว่วหวานที่ได้ยินซาบซ่านอยู่ในความรู้สึก
ก่อนที่ทุกสิ่งจะเข้าสู่ความจริง...
ภิมุขสะดุ้งตื่นด้วยความตกใจ เขามองไปทั่วฟองสบู่ที่ฟูฟ่องก็พบว่างูใหญ่นอนนิ่งสนิทอยู่บนอกเขานั่นเอง ชายหนุ่มปล่อยน้ำออกแล้วล้างตัวให้ตนเองและจงอางที่หลับสนิท ก่อนจะทั้งยกทั้งลากลำตัวยาวเหยียดมาเช็ดตัวที่มุมห้อง พยายามจะหมุนเก็บลำตัวยาว ๆ นั่นให้เรียบร้อยหากก็ทำไม่ได้ จึงต้องจำใจพาดลำตัวยาวไว้บนเตียงตัวเอง...แล้วดึงผ้าห่มคลุมให้ตามสามัญสำนึก
ร่างโปร่งยืนเช็ดตัวอยู่หน้ากระจก แล้วต้องอ้าปากค้างกับร่องรอยแดงเป็นจ้ำที่ปรากฏอยู่ตรงซอกคอขาวและทั่วแผ่นอก นึกถึงความฝันแล้วใบหน้าก็แดงซ่าน ดวงตาคู่สวยเหมือนพี่ชายมองตวัดไปที่งูใหญ่ที่นอนทอดลำตัวยาวอย่างไม่เข้าใจนัก...
+++++++++++++++++++++++++++++++
จบตอน 2
ภิมุขนั่งเหยียดขาชนผิวหนังนุ่มบางส่วน ทำให้เขารู้ว่าจงอางคงกำลังหลีกหนีเงื้อมมือเขาอยู่เป็นแน่ ชายหนุ่มจึงละเว้นอีกฝ่ายไว้ก่อน หันมาสนุกสนานกับการฟอกตัวแทน จนลืมว่าในอ่างนั้นไม่ได้มีตนอยู่เพียงคนเดียว...
จากความเพลิดเพลินของสายน้ำและฟองสบู่ ทำให้คนที่ต้องเหนื่อยมาจากการทำงานทั้งวันอย่างภิมุขเผลอนอนหลับไป ขณะที่กำลังเคลิบเคลิ้มอยู่นั่นเอง ในสติกึ่งหลับกึ่งตื่นภิมุขก็ฝันลางเลือน...
สัมผัสลื่นเลื้อยเอื่อยขึ้นมาตามเรียวขา หน้าท้อง จนถึงแผ่นอก กระทั่งหัวงูจงอางนอนนิ่งซบอยู่กับแผ่นอกเนียนขาว ภิมุขหัวเราะด้วยความจักจี้หากก็ยกมือลูบไล้ลำตัวยาวลื่นที่สัมผัสได้ถึงผิวหนังนุ่มของจงอางตัวใหญ่...
พลันในพริบตานั้นชายหนุ่มก็ชะงักด้วยความตกใจ เมื่อเห็นว่าที่ทาบทับตนเองอยู่นั้นเป็นผู้ชายคนหนึ่ง เรือนกายกำยำแข็งแกร่งผิวขาวเหลืองเนียนละเอียดจากสัมผัสที่ต้องกายกัน ใบหน้าคมหล่อเหลาราวกับมาเฟียฮ่องกงในหนังที่เคยดู
ดวงตาสีแดงเพลิงจ้องมองมาที่เขาด้วยแววตาที่ภิมุขไม่เข้าใจ...
ริมฝีปากอิ่มสีสดเหมือนพี่ชายอ้าออกจะเอ่ยถาม หากก็ต้องเงียบสนิทเมื่อถูกอีกฝ่ายประกบริมฝีปากลงมาบดคลึง ลิ้นร้อนเฉกเช่นมนุษย์เลื่อนเข้าเกาะเกี่ยวหยอกล้อกับลิ้นของภิมุขอย่างร้อนแรง แล้วขยับซอนไซ้ไปทั่วคล้ายกับกำลังหาบางอย่างที่อยู่ภายใน
ภิมุขเริ่มไร้สติยกแขนขึ้นกอดรัดแผ่นหลังแกร่งแล้วรั้งอีกฝ่ายเข้าหาตัว ยอมแลกลิ้นรับความอบอุ่นหวานซ่านจากคนตรงหน้าแต่โดยดี...
มือใหญ่เลื่อนเคล้นคลึงไปทั่วเรือนกายเนียนนุ่ม น้ำฟองสบู่จางหายไปในพริบตา ผิวขาวนวลแดงเรื่อเผยให้เห็นในเวลาเพียงไม่นาน ดวงตาสีแดงเพลิงจับจ้องร่างโปร่งด้วยสายตาใคร่รู้ ภิมุขไม่ผอมบางและสะสวยเท่าสัตยา ชายหนุ่มมีดวงตา จมูก ริมฝีปากและสีผิวเหมือนพี่ชาย หากดูเช่นไรก็หล่อเหลามากกว่าจะสวยนัก
แล้วดวงตาแดงสดก็ฉายแววสงสัยอีกครั้ง เมื่อใบหน้าแดงเรื่อที่หอบสะท้านจ้องมองเขาอยู่ดูงดงามกว่าที่เคยเห็น จนชายหนุ่มคิดว่าหากทำให้ภิมุขตัวแดงได้มากกว่านี้ อีกฝ่ายจะยิ่งงดงามมากขึ้นกระมัง...
ใบหน้าคมลดลงซุกอยู่กับซอกคอขาว ขบเม้มทิ้งรอยแดงเอาไว้ ก่อนจะเลื่อนไล้ลงประทับจูบบนแผ่นอกเนียนจนทั่ว นิ่งฟังเสียงครางเครือหอบสะท้านที่คิดว่าน่าฟังที่สุดอยู่พัก แล้วเลื่อนตวัดลิ้นไปบนยอดอกสีจาง เสียงแว่วหวานที่ได้ยินซาบซ่านอยู่ในความรู้สึก
ก่อนที่ทุกสิ่งจะเข้าสู่ความจริง...
ภิมุขสะดุ้งตื่นด้วยความตกใจ เขามองไปทั่วฟองสบู่ที่ฟูฟ่องก็พบว่างูใหญ่นอนนิ่งสนิทอยู่บนอกเขานั่นเอง ชายหนุ่มปล่อยน้ำออกแล้วล้างตัวให้ตนเองและจงอางที่หลับสนิท ก่อนจะทั้งยกทั้งลากลำตัวยาวเหยียดมาเช็ดตัวที่มุมห้อง พยายามจะหมุนเก็บลำตัวยาว ๆ นั่นให้เรียบร้อยหากก็ทำไม่ได้ จึงต้องจำใจพาดลำตัวยาวไว้บนเตียงตัวเอง...แล้วดึงผ้าห่มคลุมให้ตามสามัญสำนึก
ร่างโปร่งยืนเช็ดตัวอยู่หน้ากระจก แล้วต้องอ้าปากค้างกับร่องรอยแดงเป็นจ้ำที่ปรากฏอยู่ตรงซอกคอขาวและทั่วแผ่นอก นึกถึงความฝันแล้วใบหน้าก็แดงซ่าน ดวงตาคู่สวยเหมือนพี่ชายมองตวัดไปที่งูใหญ่ที่นอนทอดลำตัวยาวอย่างไม่เข้าใจนัก...
+++++++++++++++++++++++++++++++
จบตอน 2
ภิมุขนั่งเหยียดขาชนผิวหนังนุ่มบางส่วน ทำให้เขารู้ว่าจงอางคงกำลังหลีกหนีเงื้อมมือเขาอยู่เป็นแน่ ชายหนุ่มจึงละเว้นอีกฝ่ายไว้ก่อน หันมาสนุกสนานกับการฟอกตัวแทน จนลืมว่าในอ่างนั้นไม่ได้มีตนอยู่เพียงคนเดียว...
จากความเพลิดเพลินของสายน้ำและฟองสบู่ ทำให้คนที่ต้องเหนื่อยมาจากการทำงานทั้งวันอย่างภิมุขเผลอนอนหลับไป ขณะที่กำลังเคลิบเคลิ้มอยู่นั่นเอง ในสติกึ่งหลับกึ่งตื่นภิมุขก็ฝันลางเลือน...
สัมผัสลื่นเลื้อยเอื่อยขึ้นมาตามเรียวขา หน้าท้อง จนถึงแผ่นอก กระทั่งหัวงูจงอางนอนนิ่งซบอยู่กับแผ่นอกเนียนขาว ภิมุขหัวเราะด้วยความจักจี้หากก็ยกมือลูบไล้ลำตัวยาวลื่นที่สัมผัสได้ถึงผิวหนังนุ่มของจงอางตัวใหญ่...
พลันในพริบตานั้นชายหนุ่มก็ชะงักด้วยความตกใจ เมื่อเห็นว่าที่ทาบทับตนเองอยู่นั้นเป็นผู้ชายคนหนึ่ง เรือนกายกำยำแข็งแกร่งผิวขาวเหลืองเนียนละเอียดจากสัมผัสที่ต้องกายกัน ใบหน้าคมหล่อเหลาราวกับมาเฟียฮ่องกงในหนังที่เคยดู
ดวงตาสีแดงเพลิงจ้องมองมาที่เขาด้วยแววตาที่ภิมุขไม่เข้าใจ...
ริมฝีปากอิ่มสีสดเหมือนพี่ชายอ้าออกจะเอ่ยถาม หากก็ต้องเงียบสนิทเมื่อถูกอีกฝ่ายประกบริมฝีปากลงมาบดคลึง ลิ้นร้อนเฉกเช่นมนุษย์เลื่อนเข้าเกาะเกี่ยวหยอกล้อกับลิ้นของภิมุขอย่างร้อนแรง แล้วขยับซอนไซ้ไปทั่วคล้ายกับกำลังหาบางอย่างที่อยู่ภายใน
ภิมุขเริ่มไร้สติยกแขนขึ้นกอดรัดแผ่นหลังแกร่งแล้วรั้งอีกฝ่ายเข้าหาตัว ยอมแลกลิ้นรับความอบอุ่นหวานซ่านจากคนตรงหน้าแต่โดยดี...
มือใหญ่เลื่อนเคล้นคลึงไปทั่วเรือนกายเนียนนุ่ม น้ำฟองสบู่จางหายไปในพริบตา ผิวขาวนวลแดงเรื่อเผยให้เห็นในเวลาเพียงไม่นาน ดวงตาสีแดงเพลิงจับจ้องร่างโปร่งด้วยสายตาใคร่รู้ ภิมุขไม่ผอมบางและสะสวยเท่าสัตยา ชายหนุ่มมีดวงตา จมูก ริมฝีปากและสีผิวเหมือนพี่ชาย หากดูเช่นไรก็หล่อเหลามากกว่าจะสวยนัก
แล้วดวงตาแดงสดก็ฉายแววสงสัยอีกครั้ง เมื่อใบหน้าแดงเรื่อที่หอบสะท้านจ้องมองเขาอยู่ดูงดงามกว่าที่เคยเห็น จนชายหนุ่มคิดว่าหากทำให้ภิมุขตัวแดงได้มากกว่านี้ อีกฝ่ายจะยิ่งงดงามมากขึ้นกระมัง...
ใบหน้าคมลดลงซุกอยู่กับซอกคอขาว ขบเม้มทิ้งรอยแดงเอาไว้ ก่อนจะเลื่อนไล้ลงประทับจูบบนแผ่นอกเนียนจนทั่ว นิ่งฟังเสียงครางเครือหอบสะท้านที่คิดว่าน่าฟังที่สุดอยู่พัก แล้วเลื่อนตวัดลิ้นไปบนยอดอกสีจาง เสียงแว่วหวานที่ได้ยินซาบซ่านอยู่ในความรู้สึก
ก่อนที่ทุกสิ่งจะเข้าสู่ความจริง...
ภิมุขสะดุ้งตื่นด้วยความตกใจ เขามองไปทั่วฟองสบู่ที่ฟูฟ่องก็พบว่างูใหญ่นอนนิ่งสนิทอยู่บนอกเขานั่นเอง ชายหนุ่มปล่อยน้ำออกแล้วล้างตัวให้ตนเองและจงอางที่หลับสนิท ก่อนจะทั้งยกทั้งลากลำตัวยาวเหยียดมาเช็ดตัวที่มุมห้อง พยายามจะหมุนเก็บลำตัวยาว ๆ นั่นให้เรียบร้อยหากก็ทำไม่ได้ จึงต้องจำใจพาดลำตัวยาวไว้บนเตียงตัวเอง...แล้วดึงผ้าห่มคลุมให้ตามสามัญสำนึก
ร่างโปร่งยืนเช็ดตัวอยู่หน้ากระจก แล้วต้องอ้าปากค้างกับร่องรอยแดงเป็นจ้ำที่ปรากฏอยู่ตรงซอกคอขาวและทั่วแผ่นอก นึกถึงความฝันแล้วใบหน้าก็แดงซ่าน ดวงตาคู่สวยเหมือนพี่ชายมองตวัดไปที่งูใหญ่ที่นอนทอดลำตัวยาวอย่างไม่เข้าใจนัก...
+++++++++++++++++++++++++++++++
จบตอน 2
"บ้านหรือรังฝุ่นวะเนี่ย" สัตยาวาดนิ้วไปตามเครื่องเรือนสีน้ำตาลเข้มแล้วบ่นขึ้นมา "นายไม่มีไม้ปัดขนไก่เหรอฝุ่นมันถึงได้หนาเป็นแผ่นโฟมแบบนี้ น้ำอุ่นถูกเปิดลงอ่างมีงูใหญ่เลื้อยว่ายวนอยู่ในน้ำตื้น ๆ ด้านใน ขณะที่ภิมุขโยนเม็ดอาบน้ำลงอ่างพร้อมถอดเสื้อผ้าอย่างไม่รีบร้อน เสร็จแล้วจึงค่อย ๆ ก้าวลงอ่างที่มีฟองฟูฟ่องจนมองไม่เห็นงูใหญ่ที่เอาลงไปก่อน ชายหนุ่มจึงต้องระวังมากขึ้น...
สัตยาเริ่มบ่นอุบอิบไปทั่วบ้าน โดยมีภิมุขคอยลอบหัวเราะตามหลังกับความรักสะอาดในระดับที่สองของพี่ชาย ด้วยคิดว่าอีกฝ่ายยังไม่ถึงระดับหนึ่งอย่างคุณย่าน้อมที่แสนจะรักความสะอาดกว่าสิ่งใดในโลก จะยกเว้นก็แต่หลานชายสามคนที่สองคนรักสกปรกเหลือเกิน
"แล้วนี่มันอะไรเนี่ย นายอย่าวางอะไรทิ้งไว้เรี่ยราดได้มั้ยมุก เดี๋ยวก็สะดุดหรอก" สัตยาบ่นเสียงดัง คว้าเอาของที่วางขวางหน้าไว้ขึ้นมาโดยไม่ทันมอง...
ก่อนจะตัวแข็งทื่อเมื่อเห็นว่าหัวงูจงอางถูกกำไว้ในมือ ลำตัวยาวหนักสะบัดไปมาคล้ายหายใจไม่ออก จนชายหนุ่มต้องลดความหวาดกลัว ค่อย ๆ วางงูใหญ่ไว้บนพื้นบ้านแล้วเอื้อมมือลูบลำตัวให้เบา ๆ แทนคำขอโทษ ก่อนจะแข็งทื่อไปอีกรอบเมื่อดวงตาสีแดงเพลิงทอดมองมาอย่างตัดพ้อและดูเหมือนจะแง่งอน
"งูอะไรวะเจ้าชู้ฉิบ..." สัตยาเอ่ยต่อว่างูที่ไม่รู้เลื้อยพาดมานอนนิ่งสงบบนตักเขาตั้งแต่เมื่อไร "แต่ดูไปแล้วเท่ห์สุด ๆ เลยนะเนี่ย"
งูใหญ่ยกตัวขึ้นแผ่แม่เบี้ยเหมือนนึกว่าตัวเองเป็นนายแบบที่อยู่บนทางเดินของแมว ก่อนจะทิ้งตัวลงพาดขาสัตยาอีกรอบกับคำพูดของภิมุขที่แว่วมาจากครัว...
"พี่ใช้ตามองรึเปล่านั่น หรือพี่สายตาสั้นลงวะครับถึงได้มองเจ้านั่นว่าเท่ห์ ผมว่าน่ารักต่างหาก" ภิมุขเอ่ยพร้อมเสียงหัวเราะสนั่นลั่นครัว
"นายทำพี่งูหมดความมั่นใจว่ะมุก หงอไปเลยอะ..." สัตยายกลำตัวยาวเหยียดบางส่วนและลากบางส่วนไปด้วยความยากลำบาก ก่อนที่เขาจะทิ้งตัวลงกับโซฟานุ่มพร้อม ๆ กับงูใหญ่ในอ้อมกอด
"ไหนว่ากลัวไง แล้วไหงไปนั่งกอดกันซะแน่นปานนั้น เกิดพี่พงมาเห็นสงสัยจะหึงจนไฟไหม้บ้าน รายนั้นยิ่งหวงพี่ยังกับงูจงอางหวงไข่" ภิมุขเอ่ยแซวพี่ชาย แต่จริง ๆ อดหวั่นใจไม่ได้เพราะรู้ฤทธิ์หึงของคนที่พูดถึงในระดับลึกซึ้ง...
"คงจะสนุกน่าดูอะ เพราะพงหญ้ากลัวงูจงอางขึ้นสมอง อยากรู้จริง ๆ ว่าจะทำยังไง" พี่ชายตัวดีกลับเห็นว่าน่าสนุกไปเสียนี่
"ไปทำสปาเก๊ตตี้สิ ผมเตรียมเครื่องไว้ให้แล้ว...ส่วนจงอางผมจะเล่นด้วยแทนไปก่อน หึหึหึ" เสียงหัวเราะมีเลศนัยทำให้งูใหญ่ต้องผงกหัวขึ้นมอง แล้วเลื้อยหายวับเข้าไปในห้องนอนอย่างรวดเร็วปานสายลม
"หนีไปแล้วว่ะ...นายเล่าประวัติทำงูที่เลี้ยงตายให้พี่งูฟังเหรอวะ แล้วนายเผลอบอกไปหรือเปล่าว่าพวกเราเลี้ยงพี่หลามตายไปกี่ตัว ไม่ได้บอกใช่มั้ยว่ามากกว่าสิบตัว" สัตยาหันไปถามกระซิบกระซาบกับน้องชาย
"ไม่ได้บอกหรอกน่า พอดีจงอางทำท่ากลัวซะก่อนผมเลยยั้งปากไว้ทัน" นั่นล่ะวีรกรรมพี่น้องคู่หลุดโลกที่ทำเอางูใหญ่หูดีต้องสั่นสะท้านอย่างคาดไม่ถึงกับหน้าสวย ๆ หล่อ ๆ ที่เห็น
"เดี๋ยวผมไปอาบน้ำก่อนดีกว่า..." ภิมุขตะโกนบอกพี่ชาย หลังจากเดินอย่างเงียบกริบมาจนถึงห้องนอน ก่อนงูใหญ่จะรู้ตัวว่าหมดทางหนีก็ตอนที่อีกฝ่ายคว้าคอลากเข้าห้องน้ำไปด้วยกันนั่นแหละ
++++++++++++++++++++++++++
ภิมุขนั่งเหยียดขาชนผิวหนังนุ่มบางส่วน ทำให้เขารู้ว่าจงอางคงกำลังหลีกหนีเงื้อมมือเขาอยู่เป็นแน่ ชายหนุ่มจึงละเว้นอีกฝ่ายไว้ก่อน หันมาสนุกสนานกับการฟอกตัวแทน จนลืมว่าในอ่างนั้นไม่ได้มีตนอยู่เพียงคนเดียว...
จากความเพลิดเพลินของสายน้ำและฟองสบู่ ทำให้คนที่ต้องเหนื่อยมาจากการทำงานทั้งวันอย่างภิมุขเผลอนอนหลับไป ขณะที่กำลังเคลิบเคลิ้มอยู่นั่นเอง ในสติกึ่งหลับกึ่งตื่นภิมุขก็ฝันลางเลือน...
สัมผัสลื่นเลื้อยเอื่อยขึ้นมาตามเรียวขา หน้าท้อง จนถึงแผ่นอก กระทั่งหัวงูจงอางนอนนิ่งซบอยู่กับแผ่นอกเนียนขาว ภิมุขหัวเราะด้วยความจักจี้หากก็ยกมือลูบไล้ลำตัวยาวลื่นที่สัมผัสได้ถึงผิวหนังนุ่มของจงอางตัวใหญ่...
พลันในพริบตานั้นชายหนุ่มก็ชะงักด้วยความตกใจ เมื่อเห็นว่าที่ทาบทับตนเองอยู่นั้นเป็นผู้ชายคนหนึ่ง เรือนกายกำยำแข็งแกร่งผิวขาวเหลืองเนียนละเอียดจากสัมผัสที่ต้องกายกัน ใบหน้าคมหล่อเหลาราวกับมาเฟียฮ่องกงในหนังที่เคยดู
ดวงตาสีแดงเพลิงจ้องมองมาที่เขาด้วยแววตาที่ภิมุขไม่เข้าใจ...
ริมฝีปากอิ่มสีสดเหมือนพี่ชายอ้าออกจะเอ่ยถาม หากก็ต้องเงียบสนิทเมื่อถูกอีกฝ่ายประกบริมฝีปากลงมาบดคลึง ลิ้นร้อนเฉกเช่นมนุษย์เลื่อนเข้าเกาะเกี่ยวหยอกล้อกับลิ้นของภิมุขอย่างร้อนแรง แล้วขยับซอนไซ้ไปทั่วคล้ายกับกำลังหาบางอย่างที่อยู่ภายใน
ภิมุขเริ่มไร้สติยกแขนขึ้นกอดรัดแผ่นหลังแกร่งแล้วรั้งอีกฝ่ายเข้าหาตัว ยอมแลกลิ้นรับความอบอุ่นหวานซ่านจากคนตรงหน้าแต่โดยดี...
มือใหญ่เลื่อนเคล้นคลึงไปทั่วเรือนกายเนียนนุ่ม น้ำฟองสบู่จางหายไปในพริบตา ผิวขาวนวลแดงเรื่อเผยให้เห็นในเวลาเพียงไม่นาน ดวงตาสีแดงเพลิงจับจ้องร่างโปร่งด้วยสายตาใคร่รู้ ภิมุขไม่ผอมบางและสะสวยเท่าสัตยา ชายหนุ่มมีดวงตา จมูก ริมฝีปากและสีผิวเหมือนพี่ชาย หากดูเช่นไรก็หล่อเหลามากกว่าจะสวยนัก
แล้วดวงตาแดงสดก็ฉายแววสงสัยอีกครั้ง เมื่อใบหน้าแดงเรื่อที่หอบสะท้านจ้องมองเขาอยู่ดูงดงามกว่าที่เคยเห็น จนชายหนุ่มคิดว่าหากทำให้ภิมุขตัวแดงได้มากกว่านี้ อีกฝ่ายจะยิ่งงดงามมากขึ้นกระมัง...
ใบหน้าคมลดลงซุกอยู่กับซอกคอขาว ขบเม้มทิ้งรอยแดงเอาไว้ ก่อนจะเลื่อนไล้ลงประทับจูบบนแผ่นอกเนียนจนทั่ว นิ่งฟังเสียงครางเครือหอบสะท้านที่คิดว่าน่าฟังที่สุดอยู่พัก แล้วเลื่อนตวัดลิ้นไปบนยอดอกสีจาง เสียงแว่วหวานที่ได้ยินซาบซ่านอยู่ในความรู้สึก
ก่อนที่ทุกสิ่งจะเข้าสู่ความจริง...
ภิมุขสะดุ้งตื่นด้วยความตกใจ เขามองไปทั่วฟองสบู่ที่ฟูฟ่องก็พบว่างูใหญ่นอนนิ่งสนิทอยู่บนอกเขานั่นเอง ชายหนุ่มปล่อยน้ำออกแล้วล้างตัวให้ตนเองและจงอางที่หลับสนิท ก่อนจะทั้งยกทั้งลากลำตัวยาวเหยียดมาเช็ดตัวที่มุมห้อง พยายามจะหมุนเก็บลำตัวยาว ๆ นั่นให้เรียบร้อยหากก็ทำไม่ได้ จึงต้องจำใจพาดลำตัวยาวไว้บนเตียงตัวเอง...แล้วดึงผ้าห่มคลุมให้ตามสามัญสำนึก
ร่างโปร่งยืนเช็ดตัวอยู่หน้ากระจก แล้วต้องอ้าปากค้างกับร่องรอยแดงเป็นจ้ำที่ปรากฏอยู่ตรงซอกคอขาวและทั่วแผ่นอก นึกถึงความฝันแล้วใบหน้าก็แดงซ่าน ดวงตาคู่สวยเหมือนพี่ชายมองตวัดไปที่งูใหญ่ที่นอนทอดลำตัวยาวอย่างไม่เข้าใจนัก...
+++++++++++++++++++++++++++++++
จบตอน 2
น้ำอุ่นถูกเปิดลงอ่างมีงูใหญ่เลื้อยว่ายวนอยู่ในน้ำตื้น ๆ ด้านใน ขณะที่ภิมุขโยนเม็ดอาบน้ำลงอ่างพร้อมถอดเสื้อผ้าอย่างไม่รีบร้อน เสร็จแล้วจึงค่อย ๆ ก้าวลงอ่างที่มีฟองฟูฟ่องจนมองไม่เห็นงูใหญ่ที่เอาลงไปก่อน ชายหนุ่มจึงต้องระวังมากขึ้น...
ภิมุขนั่งเหยียดขาชนผิวหนังนุ่มบางส่วน ทำให้เขารู้ว่าจงอางคงกำลังหลีกหนีเงื้อมมือเขาอยู่เป็นแน่ ชายหนุ่มจึงละเว้นอีกฝ่ายไว้ก่อน หันมาสนุกสนานกับการฟอกตัวแทน จนลืมว่าในอ่างนั้นไม่ได้มีตนอยู่เพียงคนเดียว...
จากความเพลิดเพลินของสายน้ำและฟองสบู่ ทำให้คนที่ต้องเหนื่อยมาจากการทำงานทั้งวันอย่างภิมุขเผลอนอนหลับไป ขณะที่กำลังเคลิบเคลิ้มอยู่นั่นเอง ในสติกึ่งหลับกึ่งตื่นภิมุขก็ฝันลางเลือน...
สัมผัสลื่นเลื้อยเอื่อยขึ้นมาตามเรียวขา หน้าท้อง จนถึงแผ่นอก กระทั่งหัวงูจงอางนอนนิ่งซบอยู่กับแผ่นอกเนียนขาว ภิมุขหัวเราะด้วยความจักจี้หากก็ยกมือลูบไล้ลำตัวยาวลื่นที่สัมผัสได้ถึงผิวหนังนุ่มของจงอางตัวใหญ่...
พลันในพริบตานั้นชายหนุ่มก็ชะงักด้วยความตกใจ เมื่อเห็นว่าที่ทาบทับตนเองอยู่นั้นเป็นผู้ชายคนหนึ่ง เรือนกายกำยำแข็งแกร่งผิวขาวเหลืองเนียนละเอียดจากสัมผัสที่ต้องกายกัน ใบหน้าคมหล่อเหลาราวกับมาเฟียฮ่องกงในหนังที่เคยดู
ดวงตาสีแดงเพลิงจ้องมองมาที่เขาด้วยแววตาที่ภิมุขไม่เข้าใจ...
ริมฝีปากอิ่มสีสดเหมือนพี่ชายอ้าออกจะเอ่ยถาม หากก็ต้องเงียบสนิทเมื่อถูกอีกฝ่ายประกบริมฝีปากลงมาบดคลึง ลิ้นร้อนเฉกเช่นมนุษย์เลื่อนเข้าเกาะเกี่ยวหยอกล้อกับลิ้นของภิมุขอย่างร้อนแรง แล้วขยับซอนไซ้ไปทั่วคล้ายกับกำลังหาบางอย่างที่อยู่ภายใน
ภิมุขเริ่มไร้สติยกแขนขึ้นกอดรัดแผ่นหลังแกร่งแล้วรั้งอีกฝ่ายเข้าหาตัว ยอมแลกลิ้นรับความอบอุ่นหวานซ่านจากคนตรงหน้าแต่โดยดี...
มือใหญ่เลื่อนเคล้นคลึงไปทั่วเรือนกายเนียนนุ่ม น้ำฟองสบู่จางหายไปในพริบตา ผิวขาวนวลแดงเรื่อเผยให้เห็นในเวลาเพียงไม่นาน ดวงตาสีแดงเพลิงจับจ้องร่างโปร่งด้วยสายตาใคร่รู้ ภิมุขไม่ผอมบางและสะสวยเท่าสัตยา ชายหนุ่มมีดวงตา จมูก ริมฝีปากและสีผิวเหมือนพี่ชาย หากดูเช่นไรก็หล่อเหลามากกว่าจะสวยนัก
แล้วดวงตาแดงสดก็ฉายแววสงสัยอีกครั้ง เมื่อใบหน้าแดงเรื่อที่หอบสะท้านจ้องมองเขาอยู่ดูงดงามกว่าที่เคยเห็น จนชายหนุ่มคิดว่าหากทำให้ภิมุขตัวแดงได้มากกว่านี้ อีกฝ่ายจะยิ่งงดงามมากขึ้นกระมัง...
ใบหน้าคมลดลงซุกอยู่กับซอกคอขาว ขบเม้มทิ้งรอยแดงเอาไว้ ก่อนจะเลื่อนไล้ลงประทับจูบบนแผ่นอกเนียนจนทั่ว นิ่งฟังเสียงครางเครือหอบสะท้านที่คิดว่าน่าฟังที่สุดอยู่พัก แล้วเลื่อนตวัดลิ้นไปบนยอดอกสีจาง เสียงแว่วหวานที่ได้ยินซาบซ่านอยู่ในความรู้สึก
ก่อนที่ทุกสิ่งจะเข้าสู่ความจริง...
ภิมุขสะดุ้งตื่นด้วยความตกใจ เขามองไปทั่วฟองสบู่ที่ฟูฟ่องก็พบว่างูใหญ่นอนนิ่งสนิทอยู่บนอกเขานั่นเอง ชายหนุ่มปล่อยน้ำออกแล้วล้างตัวให้ตนเองและจงอางที่หลับสนิท ก่อนจะทั้งยกทั้งลากลำตัวยาวเหยียดมาเช็ดตัวที่มุมห้อง พยายามจะหมุนเก็บลำตัวยาว ๆ นั่นให้เรียบร้อยหากก็ทำไม่ได้ จึงต้องจำใจพาดลำตัวยาวไว้บนเตียงตัวเอง...แล้วดึงผ้าห่มคลุมให้ตามสามัญสำนึก
ร่างโปร่งยืนเช็ดตัวอยู่หน้ากระจก แล้วต้องอ้าปากค้างกับร่องรอยแดงเป็นจ้ำที่ปรากฏอยู่ตรงซอกคอขาวและทั่วแผ่นอก นึกถึงความฝันแล้วใบหน้าก็แดงซ่าน ดวงตาคู่สวยเหมือนพี่ชายมองตวัดไปที่งูใหญ่ที่นอนทอดลำตัวยาวอย่างไม่เข้าใจนัก...
+++++++++++++++++++++++++++++++
จบตอน 2
น้ำอุ่นถูกเปิดลงอ่างมีงูใหญ่เลื้อยว่ายวนอยู่ในน้ำตื้น ๆ ด้านใน ขณะที่ภิมุขโยนเม็ดอาบน้ำลงอ่างพร้อมถอดเสื้อผ้าอย่างไม่รีบร้อน เสร็จแล้วจึงค่อย ๆ ก้าวลงอ่างที่มีฟองฟูฟ่องจนมองไม่เห็นงูใหญ่ที่เอาลงไปก่อน ชายหนุ่มจึงต้องระวังมากขึ้น...
ภิมุขนั่งเหยียดขาชนผิวหนังนุ่มบางส่วน ทำให้เขารู้ว่าจงอางคงกำลังหลีกหนีเงื้อมมือเขาอยู่เป็นแน่ ชายหนุ่มจึงละเว้นอีกฝ่ายไว้ก่อน หันมาสนุกสนานกับการฟอกตัวแทน จนลืมว่าในอ่างนั้นไม่ได้มีตนอยู่เพียงคนเดียว...
จากความเพลิดเพลินของสายน้ำและฟองสบู่ ทำให้คนที่ต้องเหนื่อยมาจากการทำงานทั้งวันอย่างภิมุขเผลอนอนหลับไป ขณะที่กำลังเคลิบเคลิ้มอยู่นั่นเอง ในสติกึ่งหลับกึ่งตื่นภิมุขก็ฝันลางเลือน...
สัมผัสลื่นเลื้อยเอื่อยขึ้นมาตามเรียวขา หน้าท้อง จนถึงแผ่นอก กระทั่งหัวงูจงอางนอนนิ่งซบอยู่กับแผ่นอกเนียนขาว ภิมุขหัวเราะด้วยความจักจี้หากก็ยกมือลูบไล้ลำตัวยาวลื่นที่สัมผัสได้ถึงผิวหนังนุ่มของจงอางตัวใหญ่...
พลันในพริบตานั้นชายหนุ่มก็ชะงักด้วยความตกใจ เมื่อเห็นว่าที่ทาบทับตนเองอยู่นั้นเป็นผู้ชายคนหนึ่ง เรือนกายกำยำแข็งแกร่งผิวขาวเหลืองเนียนละเอียดจากสัมผัสที่ต้องกายกัน ใบหน้าคมหล่อเหลาราวกับมาเฟียฮ่องกงในหนังที่เคยดู
ดวงตาสีแดงเพลิงจ้องมองมาที่เขาด้วยแววตาที่ภิมุขไม่เข้าใจ...
ริมฝีปากอิ่มสีสดเหมือนพี่ชายอ้าออกจะเอ่ยถาม หากก็ต้องเงียบสนิทเมื่อถูกอีกฝ่ายประกบริมฝีปากลงมาบดคลึง ลิ้นร้อนเฉกเช่นมนุษย์เลื่อนเข้าเกาะเกี่ยวหยอกล้อกับลิ้นของภิมุขอย่างร้อนแรง แล้วขยับซอนไซ้ไปทั่วคล้ายกับกำลังหาบางอย่างที่อยู่ภายใน
ภิมุขเริ่มไร้สติยกแขนขึ้นกอดรัดแผ่นหลังแกร่งแล้วรั้งอีกฝ่ายเข้าหาตัว ยอมแลกลิ้นรับความอบอุ่นหวานซ่านจากคนตรงหน้าแต่โดยดี...
มือใหญ่เลื่อนเคล้นคลึงไปทั่วเรือนกายเนียนนุ่ม น้ำฟองสบู่จางหายไปในพริบตา ผิวขาวนวลแดงเรื่อเผยให้เห็นในเวลาเพียงไม่นาน ดวงตาสีแดงเพลิงจับจ้องร่างโปร่งด้วยสายตาใคร่รู้ ภิมุขไม่ผอมบางและสะสวยเท่าสัตยา ชายหนุ่มมีดวงตา จมูก ริมฝีปากและสีผิวเหมือนพี่ชาย หากดูเช่นไรก็หล่อเหลามากกว่าจะสวยนัก
แล้วดวงตาแดงสดก็ฉายแววสงสัยอีกครั้ง เมื่อใบหน้าแดงเรื่อที่หอบสะท้านจ้องมองเขาอยู่ดูงดงามกว่าที่เคยเห็น จนชายหนุ่มคิดว่าหากทำให้ภิมุขตัวแดงได้มากกว่านี้ อีกฝ่ายจะยิ่งงดงามมากขึ้นกระมัง...
ใบหน้าคมลดลงซุกอยู่กับซอกคอขาว ขบเม้มทิ้งรอยแดงเอาไว้ ก่อนจะเลื่อนไล้ลงประทับจูบบนแผ่นอกเนียนจนทั่ว นิ่งฟังเสียงครางเครือหอบสะท้านที่คิดว่าน่าฟังที่สุดอยู่พัก แล้วเลื่อนตวัดลิ้นไปบนยอดอกสีจาง เสียงแว่วหวานที่ได้ยินซาบซ่านอยู่ในความรู้สึก
ก่อนที่ทุกสิ่งจะเข้าสู่ความจริง...
ภิมุขสะดุ้งตื่นด้วยความตกใจ เขามองไปทั่วฟองสบู่ที่ฟูฟ่องก็พบว่างูใหญ่นอนนิ่งสนิทอยู่บนอกเขานั่นเอง ชายหนุ่มปล่อยน้ำออกแล้วล้างตัวให้ตนเองและจงอางที่หลับสนิท ก่อนจะทั้งยกทั้งลากลำตัวยาวเหยียดมาเช็ดตัวที่มุมห้อง พยายามจะหมุนเก็บลำตัวยาว ๆ นั่นให้เรียบร้อยหากก็ทำไม่ได้ จึงต้องจำใจพาดลำตัวยาวไว้บนเตียงตัวเอง...แล้วดึงผ้าห่มคลุมให้ตามสามัญสำนึก
ร่างโปร่งยืนเช็ดตัวอยู่หน้ากระจก แล้วต้องอ้าปากค้างกับร่องรอยแดงเป็นจ้ำที่ปรากฏอยู่ตรงซอกคอขาวและทั่วแผ่นอก นึกถึงความฝันแล้วใบหน้าก็แดงซ่าน ดวงตาคู่สวยเหมือนพี่ชายมองตวัดไปที่งูใหญ่ที่นอนทอดลำตัวยาวอย่างไม่เข้าใจนัก...
+++++++++++++++++++++++++++++++
จบตอน 2
"บ้านหรือรังฝุ่นวะเนี่ย" สัตยาวาดนิ้วไปตามเครื่องเรือนสีน้ำตาลเข้มแล้วบ่นขึ้นมา "นายไม่มีไม้ปัดขนไก่เหรอฝุ่นมันถึงได้หนาเป็นแผ่นโฟมแบบนี้ น้ำอุ่นถูกเปิดลงอ่างมีงูใหญ่เลื้อยว่ายวนอยู่ในน้ำตื้น ๆ ด้านใน ขณะที่ภิมุขโยนเม็ดอาบน้ำลงอ่างพร้อมถอดเสื้อผ้าอย่างไม่รีบร้อน เสร็จแล้วจึงค่อย ๆ ก้าวลงอ่างที่มีฟองฟูฟ่องจนมองไม่เห็นงูใหญ่ที่เอาลงไปก่อน ชายหนุ่มจึงต้องระวังมากขึ้น...
สัตยาเริ่มบ่นอุบอิบไปทั่วบ้าน โดยมีภิมุขคอยลอบหัวเราะตามหลังกับความรักสะอาดในระดับที่สองของพี่ชาย ด้วยคิดว่าอีกฝ่ายยังไม่ถึงระดับหนึ่งอย่างคุณย่าน้อมที่แสนจะรักความสะอาดกว่าสิ่งใดในโลก จะยกเว้นก็แต่หลานชายสามคนที่สองคนรักสกปรกเหลือเกิน
"แล้วนี่มันอะไรเนี่ย นายอย่าวางอะไรทิ้งไว้เรี่ยราดได้มั้ยมุก เดี๋ยวก็สะดุดหรอก" สัตยาบ่นเสียงดัง คว้าเอาของที่วางขวางหน้าไว้ขึ้นมาโดยไม่ทันมอง...
ก่อนจะตัวแข็งทื่อเมื่อเห็นว่าหัวงูจงอางถูกกำไว้ในมือ ลำตัวยาวหนักสะบัดไปมาคล้ายหายใจไม่ออก จนชายหนุ่มต้องลดความหวาดกลัว ค่อย ๆ วางงูใหญ่ไว้บนพื้นบ้านแล้วเอื้อมมือลูบลำตัวให้เบา ๆ แทนคำขอโทษ ก่อนจะแข็งทื่อไปอีกรอบเมื่อดวงตาสีแดงเพลิงทอดมองมาอย่างตัดพ้อและดูเหมือนจะแง่งอน
"งูอะไรวะเจ้าชู้ฉิบ..." สัตยาเอ่ยต่อว่างูที่ไม่รู้เลื้อยพาดมานอนนิ่งสงบบนตักเขาตั้งแต่เมื่อไร "แต่ดูไปแล้วเท่ห์สุด ๆ เลยนะเนี่ย"
งูใหญ่ยกตัวขึ้นแผ่แม่เบี้ยเหมือนนึกว่าตัวเองเป็นนายแบบที่อยู่บนทางเดินของแมว ก่อนจะทิ้งตัวลงพาดขาสัตยาอีกรอบกับคำพูดของภิมุขที่แว่วมาจากครัว...
"พี่ใช้ตามองรึเปล่านั่น หรือพี่สายตาสั้นลงวะครับถึงได้มองเจ้านั่นว่าเท่ห์ ผมว่าน่ารักต่างหาก" ภิมุขเอ่ยพร้อมเสียงหัวเราะสนั่นลั่นครัว
"นายทำพี่งูหมดความมั่นใจว่ะมุก หงอไปเลยอะ..." สัตยายกลำตัวยาวเหยียดบางส่วนและลากบางส่วนไปด้วยความยากลำบาก ก่อนที่เขาจะทิ้งตัวลงกับโซฟานุ่มพร้อม ๆ กับงูใหญ่ในอ้อมกอด
"ไหนว่ากลัวไง แล้วไหงไปนั่งกอดกันซะแน่นปานนั้น เกิดพี่พงมาเห็นสงสัยจะหึงจนไฟไหม้บ้าน รายนั้นยิ่งหวงพี่ยังกับงูจงอางหวงไข่" ภิมุขเอ่ยแซวพี่ชาย แต่จริง ๆ อดหวั่นใจไม่ได้เพราะรู้ฤทธิ์หึงของคนที่พูดถึงในระดับลึกซึ้ง...
"คงจะสนุกน่าดูอะ เพราะพงหญ้ากลัวงูจงอางขึ้นสมอง อยากรู้จริง ๆ ว่าจะทำยังไง" พี่ชายตัวดีกลับเห็นว่าน่าสนุกไปเสียนี่
"ไปทำสปาเก๊ตตี้สิ ผมเตรียมเครื่องไว้ให้แล้ว...ส่วนจงอางผมจะเล่นด้วยแทนไปก่อน หึหึหึ" เสียงหัวเราะมีเลศนัยทำให้งูใหญ่ต้องผงกหัวขึ้นมอง แล้วเลื้อยหายวับเข้าไปในห้องนอนอย่างรวดเร็วปานสายลม
"หนีไปแล้วว่ะ...นายเล่าประวัติทำงูที่เลี้ยงตายให้พี่งูฟังเหรอวะ แล้วนายเผลอบอกไปหรือเปล่าว่าพวกเราเลี้ยงพี่หลามตายไปกี่ตัว ไม่ได้บอกใช่มั้ยว่ามากกว่าสิบตัว" สัตยาหันไปถามกระซิบกระซาบกับน้องชาย
"ไม่ได้บอกหรอกน่า พอดีจงอางทำท่ากลัวซะก่อนผมเลยยั้งปากไว้ทัน" นั่นล่ะวีรกรรมพี่น้องคู่หลุดโลกที่ทำเอางูใหญ่หูดีต้องสั่นสะท้านอย่างคาดไม่ถึงกับหน้าสวย ๆ หล่อ ๆ ที่เห็น
"เดี๋ยวผมไปอาบน้ำก่อนดีกว่า..." ภิมุขตะโกนบอกพี่ชาย หลังจากเดินอย่างเงียบกริบมาจนถึงห้องนอน ก่อนงูใหญ่จะรู้ตัวว่าหมดทางหนีก็ตอนที่อีกฝ่ายคว้าคอลากเข้าห้องน้ำไปด้วยกันนั่นแหละ
++++++++++++++++++++++++++
ภิมุขนั่งเหยียดขาชนผิวหนังนุ่มบางส่วน ทำให้เขารู้ว่าจงอางคงกำลังหลีกหนีเงื้อมมือเขาอยู่เป็นแน่ ชายหนุ่มจึงละเว้นอีกฝ่ายไว้ก่อน หันมาสนุกสนานกับการฟอกตัวแทน จนลืมว่าในอ่างนั้นไม่ได้มีตนอยู่เพียงคนเดียว...
จากความเพลิดเพลินของสายน้ำและฟองสบู่ ทำให้คนที่ต้องเหนื่อยมาจากการทำงานทั้งวันอย่างภิมุขเผลอนอนหลับไป ขณะที่กำลังเคลิบเคลิ้มอยู่นั่นเอง ในสติกึ่งหลับกึ่งตื่นภิมุขก็ฝันลางเลือน...
สัมผัสลื่นเลื้อยเอื่อยขึ้นมาตามเรียวขา หน้าท้อง จนถึงแผ่นอก กระทั่งหัวงูจงอางนอนนิ่งซบอยู่กับแผ่นอกเนียนขาว ภิมุขหัวเราะด้วยความจักจี้หากก็ยกมือลูบไล้ลำตัวยาวลื่นที่สัมผัสได้ถึงผิวหนังนุ่มของจงอางตัวใหญ่...
พลันในพริบตานั้นชายหนุ่มก็ชะงักด้วยความตกใจ เมื่อเห็นว่าที่ทาบทับตนเองอยู่นั้นเป็นผู้ชายคนหนึ่ง เรือนกายกำยำแข็งแกร่งผิวขาวเหลืองเนียนละเอียดจากสัมผัสที่ต้องกายกัน ใบหน้าคมหล่อเหลาราวกับมาเฟียฮ่องกงในหนังที่เคยดู
ดวงตาสีแดงเพลิงจ้องมองมาที่เขาด้วยแววตาที่ภิมุขไม่เข้าใจ...
ริมฝีปากอิ่มสีสดเหมือนพี่ชายอ้าออกจะเอ่ยถาม หากก็ต้องเงียบสนิทเมื่อถูกอีกฝ่ายประกบริมฝีปากลงมาบดคลึง ลิ้นร้อนเฉกเช่นมนุษย์เลื่อนเข้าเกาะเกี่ยวหยอกล้อกับลิ้นของภิมุขอย่างร้อนแรง แล้วขยับซอนไซ้ไปทั่วคล้ายกับกำลังหาบางอย่างที่อยู่ภายใน
ภิมุขเริ่มไร้สติยกแขนขึ้นกอดรัดแผ่นหลังแกร่งแล้วรั้งอีกฝ่ายเข้าหาตัว ยอมแลกลิ้นรับความอบอุ่นหวานซ่านจากคนตรงหน้าแต่โดยดี...
มือใหญ่เลื่อนเคล้นคลึงไปทั่วเรือนกายเนียนนุ่ม น้ำฟองสบู่จางหายไปในพริบตา ผิวขาวนวลแดงเรื่อเผยให้เห็นในเวลาเพียงไม่นาน ดวงตาสีแดงเพลิงจับจ้องร่างโปร่งด้วยสายตาใคร่รู้ ภิมุขไม่ผอมบางและสะสวยเท่าสัตยา ชายหนุ่มมีดวงตา จมูก ริมฝีปากและสีผิวเหมือนพี่ชาย หากดูเช่นไรก็หล่อเหลามากกว่าจะสวยนัก
แล้วดวงตาแดงสดก็ฉายแววสงสัยอีกครั้ง เมื่อใบหน้าแดงเรื่อที่หอบสะท้านจ้องมองเขาอยู่ดูงดงามกว่าที่เคยเห็น จนชายหนุ่มคิดว่าหากทำให้ภิมุขตัวแดงได้มากกว่านี้ อีกฝ่ายจะยิ่งงดงามมากขึ้นกระมัง...
ใบหน้าคมลดลงซุกอยู่กับซอกคอขาว ขบเม้มทิ้งรอยแดงเอาไว้ ก่อนจะเลื่อนไล้ลงประทับจูบบนแผ่นอกเนียนจนทั่ว นิ่งฟังเสียงครางเครือหอบสะท้านที่คิดว่าน่าฟังที่สุดอยู่พัก แล้วเลื่อนตวัดลิ้นไปบนยอดอกสีจาง เสียงแว่วหวานที่ได้ยินซาบซ่านอยู่ในความรู้สึก
ก่อนที่ทุกสิ่งจะเข้าสู่ความจริง...
ภิมุขสะดุ้งตื่นด้วยความตกใจ เขามองไปทั่วฟองสบู่ที่ฟูฟ่องก็พบว่างูใหญ่นอนนิ่งสนิทอยู่บนอกเขานั่นเอง ชายหนุ่มปล่อยน้ำออกแล้วล้างตัวให้ตนเองและจงอางที่หลับสนิท ก่อนจะทั้งยกทั้งลากลำตัวยาวเหยียดมาเช็ดตัวที่มุมห้อง พยายามจะหมุนเก็บลำตัวยาว ๆ นั่นให้เรียบร้อยหากก็ทำไม่ได้ จึงต้องจำใจพาดลำตัวยาวไว้บนเตียงตัวเอง...แล้วดึงผ้าห่มคลุมให้ตามสามัญสำนึก
ร่างโปร่งยืนเช็ดตัวอยู่หน้ากระจก แล้วต้องอ้าปากค้างกับร่องรอยแดงเป็นจ้ำที่ปรากฏอยู่ตรงซอกคอขาวและทั่วแผ่นอก นึกถึงความฝันแล้วใบหน้าก็แดงซ่าน ดวงตาคู่สวยเหมือนพี่ชายมองตวัดไปที่งูใหญ่ที่นอนทอดลำตัวยาวอย่างไม่เข้าใจนัก...
+++++++++++++++++++++++++++++++
จบตอน 2
น้ำอุ่นถูกเปิดลงอ่างมีงูใหญ่เลื้อยว่ายวนอยู่ในน้ำตื้น ๆ ด้านใน ขณะที่ภิมุขโยนเม็ดอาบน้ำลงอ่างพร้อมถอดเสื้อผ้าอย่างไม่รีบร้อน เสร็จแล้วจึงค่อย ๆ ก้าวลงอ่างที่มีฟองฟูฟ่องจนมองไม่เห็นงูใหญ่ที่เอาลงไปก่อน ชายหนุ่มจึงต้องระวังมากขึ้น...
ภิมุขนั่งเหยียดขาชนผิวหนังนุ่มบางส่วน ทำให้เขารู้ว่าจงอางคงกำลังหลีกหนีเงื้อมมือเขาอยู่เป็นแน่ ชายหนุ่มจึงละเว้นอีกฝ่ายไว้ก่อน หันมาสนุกสนานกับการฟอกตัวแทน จนลืมว่าในอ่างนั้นไม่ได้มีตนอยู่เพียงคนเดียว...
จากความเพลิดเพลินของสายน้ำและฟองสบู่ ทำให้คนที่ต้องเหนื่อยมาจากการทำงานทั้งวันอย่างภิมุขเผลอนอนหลับไป ขณะที่กำลังเคลิบเคลิ้มอยู่นั่นเอง ในสติกึ่งหลับกึ่งตื่นภิมุขก็ฝันลางเลือน...
สัมผัสลื่นเลื้อยเอื่อยขึ้นมาตามเรียวขา หน้าท้อง จนถึงแผ่นอก กระทั่งหัวงูจงอางนอนนิ่งซบอยู่กับแผ่นอกเนียนขาว ภิมุขหัวเราะด้วยความจักจี้หากก็ยกมือลูบไล้ลำตัวยาวลื่นที่สัมผัสได้ถึงผิวหนังนุ่มของจงอางตัวใหญ่...
พลันในพริบตานั้นชายหนุ่มก็ชะงักด้วยความตกใจ เมื่อเห็นว่าที่ทาบทับตนเองอยู่นั้นเป็นผู้ชายคนหนึ่ง เรือนกายกำยำแข็งแกร่งผิวขาวเหลืองเนียนละเอียดจากสัมผัสที่ต้องกายกัน ใบหน้าคมหล่อเหลาราวกับมาเฟียฮ่องกงในหนังที่เคยดู
ดวงตาสีแดงเพลิงจ้องมองมาที่เขาด้วยแววตาที่ภิมุขไม่เข้าใจ...
ริมฝีปากอิ่มสีสดเหมือนพี่ชายอ้าออกจะเอ่ยถาม หากก็ต้องเงียบสนิทเมื่อถูกอีกฝ่ายประกบริมฝีปากลงมาบดคลึง ลิ้นร้อนเฉกเช่นมนุษย์เลื่อนเข้าเกาะเกี่ยวหยอกล้อกับลิ้นของภิมุขอย่างร้อนแรง แล้วขยับซอนไซ้ไปทั่วคล้ายกับกำลังหาบางอย่างที่อยู่ภายใน
ภิมุขเริ่มไร้สติยกแขนขึ้นกอดรัดแผ่นหลังแกร่งแล้วรั้งอีกฝ่ายเข้าหาตัว ยอมแลกลิ้นรับความอบอุ่นหวานซ่านจากคนตรงหน้าแต่โดยดี...
มือใหญ่เลื่อนเคล้นคลึงไปทั่วเรือนกายเนียนนุ่ม น้ำฟองสบู่จางหายไปในพริบตา ผิวขาวนวลแดงเรื่อเผยให้เห็นในเวลาเพียงไม่นาน ดวงตาสีแดงเพลิงจับจ้องร่างโปร่งด้วยสายตาใคร่รู้ ภิมุขไม่ผอมบางและสะสวยเท่าสัตยา ชายหนุ่มมีดวงตา จมูก ริมฝีปากและสีผิวเหมือนพี่ชาย หากดูเช่นไรก็หล่อเหลามากกว่าจะสวยนัก
แล้วดวงตาแดงสดก็ฉายแววสงสัยอีกครั้ง เมื่อใบหน้าแดงเรื่อที่หอบสะท้านจ้องมองเขาอยู่ดูงดงามกว่าที่เคยเห็น จนชายหนุ่มคิดว่าหากทำให้ภิมุขตัวแดงได้มากกว่านี้ อีกฝ่ายจะยิ่งงดงามมากขึ้นกระมัง...
ใบหน้าคมลดลงซุกอยู่กับซอกคอขาว ขบเม้มทิ้งรอยแดงเอาไว้ ก่อนจะเลื่อนไล้ลงประทับจูบบนแผ่นอกเนียนจนทั่ว นิ่งฟังเสียงครางเครือหอบสะท้านที่คิดว่าน่าฟังที่สุดอยู่พัก แล้วเลื่อนตวัดลิ้นไปบนยอดอกสีจาง เสียงแว่วหวานที่ได้ยินซาบซ่านอยู่ในความรู้สึก
ก่อนที่ทุกสิ่งจะเข้าสู่ความจริง...
ภิมุขสะดุ้งตื่นด้วยความตกใจ เขามองไปทั่วฟองสบู่ที่ฟูฟ่องก็พบว่างูใหญ่นอนนิ่งสนิทอยู่บนอกเขานั่นเอง ชายหนุ่มปล่อยน้ำออกแล้วล้างตัวให้ตนเองและจงอางที่หลับสนิท ก่อนจะทั้งยกทั้งลากลำตัวยาวเหยียดมาเช็ดตัวที่มุมห้อง พยายามจะหมุนเก็บลำตัวยาว ๆ นั่นให้เรียบร้อยหากก็ทำไม่ได้ จึงต้องจำใจพาดลำตัวยาวไว้บนเตียงตัวเอง...แล้วดึงผ้าห่มคลุมให้ตามสามัญสำนึก
ร่างโปร่งยืนเช็ดตัวอยู่หน้ากระจก แล้วต้องอ้าปากค้างกับร่องรอยแดงเป็นจ้ำที่ปรากฏอยู่ตรงซอกคอขาวและทั่วแผ่นอก นึกถึงความฝันแล้วใบหน้าก็แดงซ่าน ดวงตาคู่สวยเหมือนพี่ชายมองตวัดไปที่งูใหญ่ที่นอนทอดลำตัวยาวอย่างไม่เข้าใจนัก...
+++++++++++++++++++++++++++++++
จบตอน 2
น้ำอุ่นถูกเปิดลงอ่างมีงูใหญ่เลื้อยว่ายวนอยู่ในน้ำตื้น ๆ ด้านใน ขณะที่ภิมุขโยนเม็ดอาบน้ำลงอ่างพร้อมถอดเสื้อผ้าอย่างไม่รีบร้อน เสร็จแล้วจึงค่อย ๆ ก้าวลงอ่างที่มีฟองฟูฟ่องจนมองไม่เห็นงูใหญ่ที่เอาลงไปก่อน ชายหนุ่มจึงต้องระวังมากขึ้น...
ภิมุขนั่งเหยียดขาชนผิวหนังนุ่มบางส่วน ทำให้เขารู้ว่าจงอางคงกำลังหลีกหนีเงื้อมมือเขาอยู่เป็นแน่ ชายหนุ่มจึงละเว้นอีกฝ่ายไว้ก่อน หันมาสนุกสนานกับการฟอกตัวแทน จนลืมว่าในอ่างนั้นไม่ได้มีตนอยู่เพียงคนเดียว...
จากความเพลิดเพลินของสายน้ำและฟองสบู่ ทำให้คนที่ต้องเหนื่อยมาจากการทำงานทั้งวันอย่างภิมุขเผลอนอนหลับไป ขณะที่กำลังเคลิบเคลิ้มอยู่นั่นเอง ในสติกึ่งหลับกึ่งตื่นภิมุขก็ฝันลางเลือน...
สัมผัสลื่นเลื้อยเอื่อยขึ้นมาตามเรียวขา หน้าท้อง จนถึงแผ่นอก กระทั่งหัวงูจงอางนอนนิ่งซบอยู่กับแผ่นอกเนียนขาว ภิมุขหัวเราะด้วยความจักจี้หากก็ยกมือลูบไล้ลำตัวยาวลื่นที่สัมผัสได้ถึงผิวหนังนุ่มของจงอางตัวใหญ่...
พลันในพริบตานั้นชายหนุ่มก็ชะงักด้วยความตกใจ เมื่อเห็นว่าที่ทาบทับตนเองอยู่นั้นเป็นผู้ชายคนหนึ่ง เรือนกายกำยำแข็งแกร่งผิวขาวเหลืองเนียนละเอียดจากสัมผัสที่ต้องกายกัน ใบหน้าคมหล่อเหลาราวกับมาเฟียฮ่องกงในหนังที่เคยดู
ดวงตาสีแดงเพลิงจ้องมองมาที่เขาด้วยแววตาที่ภิมุขไม่เข้าใจ...
ริมฝีปากอิ่มสีสดเหมือนพี่ชายอ้าออกจะเอ่ยถาม หากก็ต้องเงียบสนิทเมื่อถูกอีกฝ่ายประกบริมฝีปากลงมาบดคลึง ลิ้นร้อนเฉกเช่นมนุษย์เลื่อนเข้าเกาะเกี่ยวหยอกล้อกับลิ้นของภิมุขอย่างร้อนแรง แล้วขยับซอนไซ้ไปทั่วคล้ายกับกำลังหาบางอย่างที่อยู่ภายใน
ภิมุขเริ่มไร้สติยกแขนขึ้นกอดรัดแผ่นหลังแกร่งแล้วรั้งอีกฝ่ายเข้าหาตัว ยอมแลกลิ้นรับความอบอุ่นหวานซ่านจากคนตรงหน้าแต่โดยดี...
มือใหญ่เลื่อนเคล้นคลึงไปทั่วเรือนกายเนียนนุ่ม น้ำฟองสบู่จางหายไปในพริบตา ผิวขาวนวลแดงเรื่อเผยให้เห็นในเวลาเพียงไม่นาน ดวงตาสีแดงเพลิงจับจ้องร่างโปร่งด้วยสายตาใคร่รู้ ภิมุขไม่ผอมบางและสะสวยเท่าสัตยา ชายหนุ่มมีดวงตา จมูก ริมฝีปากและสีผิวเหมือนพี่ชาย หากดูเช่นไรก็หล่อเหลามากกว่าจะสวยนัก
แล้วดวงตาแดงสดก็ฉายแววสงสัยอีกครั้ง เมื่อใบหน้าแดงเรื่อที่หอบสะท้านจ้องมองเขาอยู่ดูงดงามกว่าที่เคยเห็น จนชายหนุ่มคิดว่าหากทำให้ภิมุขตัวแดงได้มากกว่านี้ อีกฝ่ายจะยิ่งงดงามมากขึ้นกระมัง...
ใบหน้าคมลดลงซุกอยู่กับซอกคอขาว ขบเม้มทิ้งรอยแดงเอาไว้ ก่อนจะเลื่อนไล้ลงประทับจูบบนแผ่นอกเนียนจนทั่ว นิ่งฟังเสียงครางเครือหอบสะท้านที่คิดว่าน่าฟังที่สุดอยู่พัก แล้วเลื่อนตวัดลิ้นไปบนยอดอกสีจาง เสียงแว่วหวานที่ได้ยินซาบซ่านอยู่ในความรู้สึก
ก่อนที่ทุกสิ่งจะเข้าสู่ความจริง...
ภิมุขสะดุ้งตื่นด้วยความตกใจ เขามองไปทั่วฟองสบู่ที่ฟูฟ่องก็พบว่างูใหญ่นอนนิ่งสนิทอยู่บนอกเขานั่นเอง ชายหนุ่มปล่อยน้ำออกแล้วล้างตัวให้ตนเองและจงอางที่หลับสนิท ก่อนจะทั้งยกทั้งลากลำตัวยาวเหยียดมาเช็ดตัวที่มุมห้อง พยายามจะหมุนเก็บลำตัวยาว ๆ นั่นให้เรียบร้อยหากก็ทำไม่ได้ จึงต้องจำใจพาดลำตัวยาวไว้บนเตียงตัวเอง...แล้วดึงผ้าห่มคลุมให้ตามสามัญสำนึก
ร่างโปร่งยืนเช็ดตัวอยู่หน้ากระจก แล้วต้องอ้าปากค้างกับร่องรอยแดงเป็นจ้ำที่ปรากฏอยู่ตรงซอกคอขาวและทั่วแผ่นอก นึกถึงความฝันแล้วใบหน้าก็แดงซ่าน ดวงตาคู่สวยเหมือนพี่ชายมองตวัดไปที่งูใหญ่ที่นอนทอดลำตัวยาวอย่างไม่เข้าใจนัก...
+++++++++++++++++++++++++++++++
จบตอน 2
สำหรับคนรับข่าวสาร ขออภัยนะคะที่ไม่ได้ส่งเมลล์บอก เพราะว่าเน็ตยังไม่เสถียรน่ะค่ะ เราอยากจะรอให้เข้าที่ก่อน ส่วนคนที่อาจจะส่งเมลล์ขอรับข่าวสาร ช่วงวันที่ 13 เม.ย. - 20 พ.ค. หรืออาจจะเป็นเมลล์ติชม เมลล์ถูกทาง hotmail ลบหมดแล้วค่ะ เพราะเราไม่เข้านาน เน็ตเจ๊งนั่นเอง
ดังนั้นอาจจะส่งเมลล์มาคุยหรือขอรับข่าวสารใหม่นะคะ
ขอบคุณค่ะ
[เงาใต้น้ำ]
ความคิดเห็น