ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    THE MYSTERIES OF PANDEARDIAMOND ความลับของประตูที่ปิดตาย

    ลำดับตอนที่ #7 : บทที่ 6 : เพื่อนห้องโครงการ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 130
      1
      24 ม.ค. 53

    6
    เพื่อนห้องโครงการ

                เธออยู่ห้องเดียวกับฉัน!” เสียงกรีดร้องแหลมปี๊ด หอแทบแตกดังมาจากเด็กหญิงคนข้างๆจูเลีย ผมสีส้ม ดวงตาสีทอง ...

                คนเดียวกับที่เข้ามาประกาศลั่นห้อง แล้วเชิดหน้าสะบัดออกไป

                ฉันชื่อแพมมิล่า คาร์โพร์ มาจากเบิร์นเธอพูดเสียงสูงจนจูเลียต้องยกมือมาอุดหูไว้ พลางสังเกตว่าหลายคนก็มีท่าทีไม่ต่างกัน แต่ดูท่าเจ้าตัวไม่ทันได้สังเกต

                เบิร์น ... นครแห่งความแห้งแล้งที่อุดมสมบูรณ์เสียงเปรยเบาๆจากอีกฟากเรียกแววตาสงสัยให้หันไปมอง

                เธอมีผมสีบลอนด์แซมด้วยปอยชมพูๆ นัยน์ตาสีเงินพราวระยับบ่งบอกถึงความมั่นใจและกล้าแสดงออก เพียงมองเข้าไปก็รู้ได้ทันทีว่าสามารถมอบความไว้วางใจที่คนคนนี้ได้อย่างสนิทใจ

                เอ๊ะ! ขอโทษที ... ฉันชื่อไอริส ซีเวทต์ มาจากเอเรเธอแย้มยิ้ม

                ทุ่งหญ้าน้ำแข็งนั่นน่ะเหรอ ... หึๆๆเสียงหัวเราะสยองขวัญดังมาจากมุมที่มืดที่สุดของห้องรวม เธอค่อยๆก้าวเดินออกมาช้าๆ ปล่อยให้แสงสว่างอาบไปทั่วกาย

                เด็กสาวผมตรงสีดำตัดไล่ลงมาเป็นขั้นบันได นัยน์ตาสีม่วงเข้มกวาดมองชวนให้เพื่อนร่วมห้องพากันสะดุ้งโหยงกระโดหลบไปทันที

                มิเดียรา เภวย์ จากเฮเดสเธอพูดเสียงเบา แต่มันกลับดังก้องไปทั้งห้องรวม

                เฮเดสเหรอ ? ไม่เห็นเคยได้ยินชื่อเลยแพมมิล่าถามเสียงสูงหลายออกเตป พลางทำตาเหลือกอย่างงงๆ พร้อมกับแบมือออกมาทั้งสองข้างมาข้างลำตัว

                นั่นสิ ... ที่ไหนเหรอ

                หึๆ อย่างพวกเธอไม่รู้จักหรอกเธอพูดอย่างเป็นปริศนา ก่อนจะถอยกลับเข้ามุมเดิม

                จูเลียมองมิเดียราสลับกับลูน่า สองคนนี่ดูจะสยองขวัญพอกันเลยแฮะ

                จูเลียเดินหลบไปนั่งทิ้งตัวนั่งบนโซฟาสีครีมเงียบๆ พลางคิดถึงวิธีดีๆในการซ่อนห้องพัก

                หวัดดีเสียงหนึ่งร้องทักเธอ นัยน์ตาสีเทาเข้มมองมาที่เข็มกลัดที่อกเสื้อเด็กสาวชั่วแวบหนึ่ง

                จูเลียสินะ ฉันชื่อเกรซ บีทา จากเจเวนิสเธอนั่งลงช้าๆข้างจูเลีย เส้นผมสีแดงเพลิงเงาวาวภายใต้แสงจากเปลวไฟ เธอมีผิวสัน้ำผึ้งเนียนเรียบรับกับดวงหน้ารูปไข่

                เพื่อนร่วมห้องสินะ

                เธอคิดพร้อมกับเบือนหน้าหลบนัยน์ตาที่มองมาอย่างอยากรู้อยากเห็น

                เฮ้อ ... ดูท่า 3 ปีข้างหน้าคงไม่แคล้วคลาดจากนรกบ้านเก่า

                ดีใจที่หาเธอเจอจุเลียตอบ พยายามทำเสียงให้ร่าเริงกว่าที่รู้สึก ฉันก็มาจากเจเวนิส

                เกรซยิ้มอย่างดีใจ

                เหรอ ว่าแต่คนไหนลูน่าล่ะเธอเริ่มยุกยิกขยับตัวไปมาสอดส่ายหาบุคคลอันตราย

                นี่ๆจะเอายังไงเรื่องห้องพักคนสยองรีบเปลี่ยนเรื่องคุยที่ดูจะได้ผลชะงักเมื่อเกรซหันหน้ากลับมาที่เธอเหมือนเดิม

                อ๋อ ... ฉันยังไม่ได้คิดเลยเธอขยับตัวเขินๆ แต่โรงเรียนนี้สุดยอดเลยเนอะ ... ไม่คิดเลยว่าเวทมนตร์มีอยู่จริงเกรซหัวเราะเสียงแห้ง

                จูเลียยิ้มรับ พร้อมกับพยักหน้าเบาๆ

                แน่สิ ... ใครคิดก็บ้าพอดูแหละ

     

                โครม!

                เสียงประตูกระแทกปิดอย่างรุนแรงจนหอแทบสั่นสะเทือนไปทั้งหลัง สายตาหลายสิบคู่ตวัดขวับมามองเด็กหนุ่มผมม่วงต้นเสียง ซึ่งบัดนี้กำลังตีสีหน้าเฉยเมยต่อสิ่งแวดล้อมและแทบไม่สะทกสะท้านแม้แต่น้อย

                มองอะไรบิลเอ่ยถามเสียงเรียบ พลางก้าวเดินเข้ามาในห้องรวมและทิ้งตัวลงบนโซฟาอย่างเซ็งๆ

                เหล่าไพร่ฟ้าหน้าสลอนก็รีบกลับไปคุยเรื่องห้องพักต่ออย่างไม่คิดหาเรื่อง

                เฮ้ย! ฉันอยู่ห้องเดียวกับนายรึเปล่า?” เด็กหนุ่มผมสีทรายตะเบ็งเสียงพร้อมกับผลักไหล่เด็กผู้ชายอีกคนที่ตัวเล็กกว่า

                ไม่มั้งครับ หน้าอย่างคุณคงไม่บังอาจเสนอหน้ามาอยู่ห้องผมหรอก

                คำพูดสุภาพแต่แสนจะหยาบคายเรียกให้นัยน์ตาสีเงินเหลือบทองของบิลหันไปมองคนที่พูดด้วยความสนใจ

                เด็กหนุ่มร่างเล็ก ผิวขาวซีดเหมือนกระดาษ เช่นเดียวกับสีผมที่เกือบจะดูเหมือนเปล่งแสงสีขาวออกมา สิ่งที่ดูน่ากลัวที่สุดบนใบหน้าหล่อเหลานั้นคงจะเป็นนัยน์ตาสีแดงสดราวกับเลือด

                ทันทีที่นัยน์ตาคู่นั้นหันมามอง เด็กหนุ่มผมสีทรายผู้หาเรื่องก็ถึงกับผงะด้วยดวงตาปีศาจ พร้อมกับถอยหลังหนีไปอย่างไม่คิดจะกล่าวลา

                บิลขยับยิ้มอย่างถูกใจกับท่าทีของคนตัวเล็ก นิ้วมือยาวดันแว่นตาขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะลุกขึ้นยืนสง่าแล้วก้าวขายาวๆตรงไปหาเด็กหนุ่มหัวขาว

                มีอะไรครับนัยน์ตาสีแดงตวัดขึ้นสบมองเขา พร้อมเริ่มคำถามอย่างสุภาพ

                ฉันชื่อบิล ไลท์ จากเนเวอร์มอร์เหนือ คิดว่านายคงจะเป็นเพื่อนร่วมห้อง

    ของฉัน ... เขาแนะนำตัวเสียงขรึมพลางมองป้ายชื่อคนตรงหน้า

                หมอนี่น่าสนใจชะมัด

                นับเป็นไม่กี่ครั้งในชีวิตที่เขายอมแพ้ให้กับความอดทนและทลายกำแพงศักดิ์ศรีมาเริ่มบทสนทนา

                ครับ ... ผมชื่อไกอา ซีเซตท์

                นายมาจากไหนบิลถามต่อ สีผมสีตาประหลาดแบบนี้เขาไม่เคยเห็นมาก่อนเลย

                ไม่ครับ คุณไม่รู้จักหรอก

                ฉันรู้จักทุกที่บนแผ่นดินเทเลนต์เด็กหนุ่มตอบอย่างไว้ตัว

                เรื่องอะไรนายจะมาทำรู้ดี

                ไกอาส่ายหัว คุณไม่รู้จักจริงๆครับเขาโค้งศีรษะลง หากคำพูดผมทำให้คุณไม่พอใจก็โปรดอภัย

                บิลเลิกคิ้วงงๆ ขณะมองแผ่นหลังของไกอาที่เดินจากไป

                มันแปลกจริงๆ เขาถอนหายใจ ถ้าจะสนิทกับมันได้ คงต้องตายแล้วเกิดใหม่

                นัยน์ตาสีเงินเหลือบทองก้มลงมองเศษกระดาษในมือที่เพิร์ตเพิ่งส่งให้พวกเขาก่อนเข้าห้องรวม

               

     

    นิโคลัส แอล เทอร์โร

                ฮิวจ์ พอล เอลเฟริซ์

                ไกอา บิล อาราธอร์น

                โตเรท เบอร์นาร์ด มาร์ติน

     

                บิลเม้มริมฝีปาก ก่อนกวาดมองรอบห้องรวม พยายามหาจุดที่ดีที่สุดในการซ่อนห้องพัก

                ถ้าหลังรูปภาพก็ธรรมดาชะมัด

                แล้วเด็กหนุ่มก็สังเกตเห็นอะไรบางอย่างที่ทำให้เขาต้องแย้มยิ้มถูกใจ ก่อนก้าวขายาวๆไปดูที่ข้างหน้าต่าง พลางสำรวจมันด้วยความสนใจ

                ถ้าเอาไอ้นี่เป็นประตูห้องจะเป็นยังไงนะ ...

                พลันความคิดก็สะดุดกึก เมื่อรู้สึกถึงนิ้วมือที่มาสะกิดยิกๆที่หัวไหล่

                นัยน์ตาสีเงินเหลือบทองหันกลับมามองอย่างหงุดหงิดใจที่ถูกขัดจังหวะ

                รอยยิ้มอย่างเป็นมิตรถูกส่งมาให้โดยไม่เกรงกลัวรัศมีความข่มขู่ของคนตรงหน้า เด็กหนุ่มผมสีทองบลอนด์อ่อนๆซอยสั้นประบ่า นัยน์ตาสีน้ำเงินพราวระยับบ่งบอกถึงนิสัยเจ้าตัวว่ากำลังหัวเราะเยาะกับท่าทีมากเกินพอดีของบิล

                ฉันว่านายน่ะ ต้องถามคนอื่นตอนเลือกห้องด้วยนะเขาฉีกยิ้มกว้าง อย่างที่บิลคิดว่าน่าเตะชะมัด

                ไม่ใช่เรื่องของนายพูดแล้วก็เกือบกัดลิ้นตัวเอง ความโกรธจะเอาชนะคนตรงหน้า ทำให้ลืมดูป้ายชื่อเด็กหนุ่มเจ้าปัญหา อาราธอร์น

                ซวยล่ะ ... นี่ก็เรื่องของมันนี่หว่า

                แต่ก่อนที่เขาจะคิดคำแก้ตัวได้ทัน เสียงหัวเราะลั่นหอก็ดังมาจากเพื่อนร่วมห้องจนเรียกให้สายตาของนักเรียนคนอื่นๆซึ่งกำลังจับกลุ่มคุยกันที่หน้าล็อกเกอร์หันมามอง

                ดูท่าหน้ามันจะถูกฉาบด้วยปูนซีเมนต์ ถึงได้ยังหัวเราะต่อไปอย่างไม่รู้สึกรู้สา

                ขำบ้าอะไรคนความอดทนต่ำต้องข่มใจนับหนึ่งถึงสิบ

                เอ่อเขายกมือเช็ดน้ำตา ก่อนกลืนเสียงหัวเราะลงคอ แม้รอยยิ้มยียวนยังคงประดับดวงหน้าคมคาย

                ไม่ใช่เรื่องของฉัน?” อาราธอร์นตั้งใจถามเสียงสูง ให้คนฟังที่กำลังเดือดปุดๆยิ่งต้องกำหมัดแน่น

                หึๆๆเด็กหนุ่มขยับเท้าเข้ามาใกล้ก่อนยกมือตบไหล่เขาป้าปๆด้วยความสนิทสนม นายไม่ต้องคิดมากหรอกนะ เพราะว่าใครๆย่อมผิดพลาดกันได้

                นัยน์ตาสีเงินหดวูบกับประโยคที่เกลียดสุดๆแล้วหมัดหนักๆก็เหวี่ยงโครมตรงเข้าใบหน้าคนสั่งสอน

                ฮ่าๆๆเสียงหัวเราะสะท้านโลกาจากเด็กหนุ่มผมสีบลอนด์ทองอ่อน เรียกให้คนที่กำลังไม่สบอารมณ์อยู่อย่างบิลตีหน้าไม่ถูก โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่ามกลางเพื่อนใหม่หลายคนที่เมื่อครู่เพิ่งมาห้ามการตะลุมบอนด้วยท่าทีไม่เต็มใจที่บิลพอจะเดาออกว่าพวกนี้มันเสียดายกันอย่างสุดซึ้ง แต่เพื่อรักษาภาพลักษณ์ที่ดีของวันแรกจึงต้องวางตัวเป็นนักบุญขวางทางปีศาจ

                ภาพลักษณ์ ...

                สิ่งที่แตกกระเจิงเป็นเสี่ยงๆตั้งแต่วันแรกที่พบหน้า

                หลังจากเขาปล่อยหมัดแรกไปเต็มที่ เจ้าคนความรู้สึกไวก็กระโดหลบวูบพร้อมกับส่งยิ้มโผล่มาให้ แต่สิ่งที่แย่ที่สุดก็คือ จะเหวี่ยงไปกี่หมัดหมอนี่ก็หลบพ้นหมดราวกับรู้ทาง

                เจ็บใจชะมัด เขากัดฟันพยายามสงบสติอารมณ์ให้เย็นลงโดยไม่ใส่ใจกับเสียงของอาราธอร์นที่คุยอยู่กับเพื่อนใหม่ด้วยท่าทีภาคภูมิ

                นายหลบพ้นหมดเลย เก่งชะมัดคนหนึ่งเอ่ยชม

                นั่นสิ ถ้าโดนเข้าไป ฉันว่านายได้ไปเฝ้าพระพรหมที่สวรรค์ชั้นเจ็ดแน่ๆเสียงหัวเราะอย่างสนุกสนานดังสลับไปมา ก่อนเจ้าตัวเอ่ยขัด

                มันก็ขึ้นอยู่กับหลายอย่างอาราธอร์นวางมาดอาจารย์ ขณะที่เพื่อนใหม่เริ่มชายตามองอย่างสนใจกับเคล็ดลับที่คนตรงหน้าจะเอ่ย หนึ่ง ... คือการจู่โจมของคู่ต่อสู้ สอง ... คือการคาดเดา

                คาดเดา?”

                ใช่ ... แต่วิธีนี้มันใช้ได้ผลเฉพาะคนมีความสารถอย่างฉันเท่านั้นประโยคต่อท้ายเรียกเสียงโหจากเพื่อนๆในหอ

                บิลถอนใจเฮือก

                บางทีการที่มันหลบเก่งอาจเป็นเพราะ มันต้องหลบหมัดอยู่บ่อยๆ

                หมัด ... ที่สัตว์เลี้ยงน่ารักในปากหมอนั่นไปสรรหา

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×