ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    THE MYSTERIES OF PANDEARDIAMOND ความลับของประตูที่ปิดตาย

    ลำดับตอนที่ #6 : บทที่ 5 : หอพัก

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 113
      0
      25 ม.ค. 53

    5
    หอพัก

    แสงสว่างภายนอกดูสว่างเจิดจรัสแล้วก็อบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก ทั้งที่ในหอประชุมก็มีหน้าต่างเยอะมากรวมทั้งคบเพลิง แต่ก็ยังดูมืดมิดกว่า

    ลูเคเซียก้าวเดินออกจากหอประชุมแทบไม่รอเหล่านักเรียนคนอื่นๆที่ยังตะลึงจนก้าวขาไม่ค่อยออก เธอหยุดครู่หนึ่งที่หน้าหอประชุม

    จูเลียรีบเดินตามมา ข้างหน้าเปิดเทพีองค์เดิม เพียงแต่เพดานด้านบนเป็นกระจกใส ทำให้แสงสว่างส่องทอดมาเป็นลำ กระทบกับคริสตัลแยกแสงวิบวับสีรุ้งกระจ่างตาลงบนฝาผนังเก่าแก่ดูนุ่มนวล

                บ่อน้ำพุใสไหลเอื่อยๆ วนรอบฐานที่เต็มไปด้วยดอกไม้นานาพรรณแข่งกันแต่งแต้มสีสันสดใส ชูดอกงามบานสะพรั่ง ส่งกลิ่นหอมตลบอบอวลไปทั่วโถงทางเดิน

                รุ่นพี่ลูเคเซียย่อตัวลงทำความเคารพ ก่อนเอ่ยอธิบาย  เราเรียกท่านว่าเทพีลอร่า ท่านคอยคุ้มครองแถบนี้มาแต่ครั้งที่โรงเรียนยังไม่เริ่มสร้างนักเรียนหลายคนถอนสายบัวตามหญิงสาว

                จูเลียมองโถงทางเดินด้วยแววตาชื่นชม พื้นอิฐเก่าถูกปูทับด้วยพรมกำมะหยี่ตลอดทาง  ขณะที่ข้างผนังมีรูปภาพและธงประดับเต็มไปหมด ส่วนหน้าต่างก็เป็นกระจกหลากสีสวยงาม ทำให้เพิ่มความสว่างเข้าไปอีกจนแทบไม่ต้องอาศัยจานเพลิงตามรายทางเลย แต่นั่นแหละคงใช้เพิ่มความอบอุ่นมากกว่าอยู่แล้ว

                ลูเคเซียก้าวนำลงบันไดโผล่ไปที่โถงอีกส่วนหนึ่งของปราสาท เธอเดินนำไปถึงธงรูปมังกรที่แขวนอยู่ที่กำแพง เธอสะบัดมันเปิดออก และสิ่งที่ซ่อนอยู่...

                รูปภาพ...

                เธอมองอย่างผิดหวังกับรูปวาดของทะเลสาบสีครามขนาดเพียงสองฝ่ามือ ริมขวามีซากปรักหักพังตั้งอยู่ ส่วนฉากด้านหลังก็เป็นน้ำตก ภาพบรรยากาศยามค่ำคืน...

                ดูท่าหลายคนก็สงสัยพอกัน เพราะไม่เข้าใจว่าเธอพามาดูภาพวาดทำไม

                หญิงสาวยิ้ม ก่อนคว้าแขนเด็กผู้หญิงคนใกล้ๆมา เอาฝ่ามือสัมผัสกับรูปภาพ

                พูดซิว่า ชัลเฟลีฟ โปรดเปิดทาง’”

                ชัลเฟลีฟ โปรดเปิดทาง

                . . . . .

                นิ่งสนิท

                ลูเคเซียเริ่มสีหน้าลดระดับความอดทนลงช้าๆ เจ้าตัวคงกำลังข่มใจนับถึงสิบว่าเด็กพวกนี้ยังไม่ได้เรียนเวทมนต์มา ออกเสียงผิด ...

                แต่ก่อนที่อะไรมันจะแย่ลง จูเลียก็เดินฝ่ากลุ่มนักเรียนไปพร้อมกับยกมือข้างที่สวมแหวนแตะเบาๆไปที่กระดานผ้าของรูปภาพ

                ชัลเฟลีฟ โปรดเปิดทาง เธอเอ่ยมาอย่างคล่องปาก ก่อนเริ่มรู้สึกถึงสายตาหลายๆ คู่ที่จับจ้องมา

                ให้ตายเถอะ ไม่ควรเสนอหน้ามาเลย พับผ่าสิ

                กริ๊ก

                จูเลียหันกลับไปดูผลงานตัวเอง รูปภาพที่ว่ามันขยายขนาดจนใหญ่พอให้คนเดินเข้าไปได้สบาย แล้วกรอบข้างหนึ่งก็แง้มออกมาจากผนัง

                ดีมาก ตามเข้ามาเลยลูเคเซียมองเธอแวบหนึ่ง ก่อนดึงรูปเปิดอ้าออก

                ข้างในค่อนข้างมืด แล้วก็หนาว แต่สว่างพอให้เดินเห็นทางได้โดยไม่สะดุดล้ม หญิงสาวเดินขึ้นบันไดเวียนนำไปข้างบน ระหว่างทางมีหน้าต่างๆเป็นระยะๆคอยมอบแสงสว่าง

                มันอยู่ในแผนที่ของพวกน้องด้วย ที่นี่น่ะเหมือนหอของรุ่นน้อง อยากจะเอาห้องตัวเองไว้ที่ไหนก็ได้ในนี้หรือจะสร้างห้องในห้องรวมก็ได้เพราะปลอดภัยกว่า

                ลูเคเซียเดินไปจนสุดบันไดเวียน ห้องรกๆ ห้องหนึ่งรอพวกเธออยู่ตรงนั้น

                อย่าบอกนะ ว่านี่เป็นหอ

                จูเลียมองอย่างสยดสยอง ขณะที่รุ่นพี่เดินไปชิดผนังอิฐเก่าๆโทรมๆที่เต็มไปด้วยขี้ฝุ่นและหยากไย่

                เธอประคองฝ่ามือไว้ชั่วครู่ แสงสีขาวสว่างวาบมาพร้อมกับน้ำใสๆในอุ้งมือเธอ

                น้องจะใช้อะไรก็ได้ที่สะท้อนเงาพูดจบก็สาดน้ำไปที่กำแพง มันเกาะติดเป็นแผ่นแน่นเหมือนกระจก เอามือไปแตะน้ำ

                เด็กหญิงคนใกล้ที่สุดถูกรุ่นพี่คนสวยดึงไปอีกตามเคย เธอยกมือมาสัมผัสแผ่นน้ำอย่างแผ่วเบาราวกับไม่แน่ใจ ก่อให้เกิดคลื่นน้ำเป็นวงสั่นเป็นระลอก

                แล้วร่างเธอก็เปล่งประกายระยับเหมือนสายน้ำยามต้องแสงอาทิตย์ ก่อนค่อยๆเดินหายเข้าไปในประตูพร้อมกับแววตาตื่นเต้น

                สุดยอด ...

                แต่ก่อนที่เด็กสาวจะขยับขาเดินเข้าไปลองของ ใครบางคนก็เดินชิงเดินดุ่มๆตัดหน้าไปก่อนด้วยท่าทีไร้อารมณ์สุดขีด

                ลูน่า เปรโรทต์ !

                จูเลียเลิกคิ้วเล็กน้อย ก่อนตัดสินใจเดินตามไปที่ประตู

                ร่างลูน่าเปล่งแสงเช่นคนก่อน เธอก้าวฉับๆเข้าประตูไปอย่างรวดเร็ว

                จูเลียกระพริบตาปรับตัวกับแสงสว่างในห้องมืดครู่หนึ่ง ก่อนสัมผัสผิวน้ำ

                มันเกิดขึ้นเร็วมาก

                ร้อน ...

                ความร้อนไหลทะลักเข้ามาในร่างเหมือนพลังมหาศาลเข้ามาอัดแน่น แน่นจน

    อึดอัดแทบหายใจไม่ออก สายตาพร่ามัวจนเกือบไม่เห็นประตูข้างหน้า

                แล้วความรู้สึกบางอย่างก็เอ่อล้นมาจนสัมผัสได้อย่างชัดเจน

                หวาดกลัว ... เธอสูดหายใจ

                กลัวงั้นเหรอ ? ทำไมเธอต้องกลัวด้วยล่ะ ?

                มีอะไรน่ากลัว

                เสี้ยววินาทีก่อนตัวเองเปลี่ยนใจ ขาสองข้างก็ก้าวข้ามธรณีประตูไปอย่างรวดเร็ว แทบจะวิ่งผ่านโดยไม่ทันได้สังเกตอะไร แต่ต่อให้ช้าเธอก็คงไม่เห็นมันอยู่ดีเพราะภาพมันพร่ามัวเป็นสีดำไปหมด

                ความร้อนค่อยๆจางหายไป กลับมาสู่ความรู้สึกปกติอีกครั้ง

                นัยน์ตาสีฟ้าขยับกระพริบ

                ห้องรวมมีสภาพค่อนข้างโล่งๆ มีหน้าต่างรอบด้านให้เปิดออกไปได้ พรมสีน้ำเงินผืนใหญ่ปูเกือบเต็มพื้นที่ห้อง ยกเว้นไว้เพียงเตาผิงขนาดใหญ่ที่ส่งเสียง เปรี๊ยะ เปรี๊ยะ

    มอบความอบอุ่นอยู่ แกรนด์เปียโนสีดำวางอยู่มุมสุดของห้อง โคมไฟเช็นเดอเรียเหนือศีรษะสะท้อนแสงจากตะเกียง มาช่วยเพิ่มแสงสว่างภายใน โซฟาตัวยาว 5-6 ตัว จัดวางตามมุมต่างๆ ส่วนมุมที่ลึกที่สุดมีตู้ล็อกเกอร์หลายแถววางอยู่ นอกนั้นแล้ว ห้องก็ว่างเปล่า

                นักเรียนคนสุดท้ายเข้ามาก่อนประกาศ พี่ลูเคเซียบอกว่าให้ทุกคนออกมาก่อน พี่เขาลืมบอกไปอีกเรื่องหล่อนตะโกนเสียงดังฟังชัดด้วยความมาดมั่น เธอมีผมสีคาราเมลนัยน์ตาสีทองกระจ่าง

                พูดจบเธอก็เดินส่ายอาดๆไปที่ประตูก่อนคนแรก

     

                ลูเคเซียยืนพิงกำแพงรออยู่ สีหน้านิ่งเรียบไม่บอกถึงอาการใดๆ

                พี่เข้าหอไม่ได้หญิงสาวอธิบาย ที่เรียกมาจะบอกเรื่องห้องพัก ...

                ไม่เห็นมีห้องเลยค่ะ

                จูเลียหันไปมองผู้กล้า ที่บังอาจมาขัดจังหวะก่อนชะงักค้าง

                เด็กสาวผมตรงแต่ชี้โด่เด่ไม่เป็นระเบียบที่ดูคุ้นเคย

                แคลร์ มาควอตซ์ จากคอรัน ?

                เจ้าแม่หางเปียที่โรงเรียนเก่านี่น่า

                จูเลียแอบลอบขำเมื่อเห็นว่าบัดนี้หล่อนไร้หางเปียสุดที่รักไปแล้ว

                ฝีมืออย่างยัยนี่สอบติดด้วยเรอะ เธอหยุดกึกเมื่อคิดถึงตรงนี้ ไม่สิ ไอ้นี่มันเทพเกินมนุษมนาเขาอยู่ถ้าไม่ติดสิแปลก

                เด็กสาวพยักหน้าหงึกหงักคนเดียวกับข้อสรุปของเธอ

                พี่กำลังจะบอกอยู่นี่ไงเธอขยับตัวเดินมาหาน้องๆ ห้องรวมเป็นของทุกคนแล้วก็ทุกคนมีสิทธิ์เลือกห้องพักไว้ตรงไหนก็ได้ ล็อกเกอร์ข้างในก็เอาไว้ใส่ของที่ใช้บ่อยอย่างพวกหนังสือเรียน ส่วนห้องพัก ... พวกพี่จับฉลากมาให้แล้ว

                พี่คนงามตวัดนิ้วมือกลางอากาศ ทันใดนั้นตัวอักษรก็ปรากฏขึ้นทีละตัวอย่างช้าๆ

                แพมมิลา อลิซ ไอริส ห้อง 1

                มิเดียรา แคลร์ เฟอโรยา ห้อง 2

                สเตลล่า โอลิเวีย ญิลยา ห้อง 3

                เกรซ จูเลีย ลูน่า ห้อง 4

     

                จูเลียอ้าปากค้าง ขณะมองชื่อหลังเธออย่างกังวลใจ

                สาวน้อยที่เปล่งรัศมีอาฆาตนั้น ขืนอยู่ห้องเดียวกัน 3 ปีข้างหน้านั้นก็นรกแหงมๆ

                พอเลือกจะเอาห้องตรงไหนให้เอาหัวแหวนของสมาชิกในห้องมาสัมผัสบริเวณนั้น แล้วก็คิดวิธีการผ่านห้องไปพร้อมๆกันหญิงสาวหันหลังกลับ อย่ามัวชักช้าล่ะ

               

                ใครคืออลิซกับไอริส

                ห้อง 3 ห้อง 3 ทางนี้

                ไหนๆ

                จูเลียมองสภาพความวุ่นวายอย่างเซ็งอารมณ์

                หลังจากกลับเข้าหอก็มีแต่เสียงเจี๊ยวจ๊าวของเหล่านักเรียนที่ตะโกนคุยกัน

                บางที ... มันก็แย่กว่าที่คิด

                นัยน์ตาสีฟ้ามองร่างบางผมสีเงินบลอนด์ยืนหลบมุมอยู่ห่างจากความชุลมุนข้างกำแพงอยู่คนเดียว

                ถ้างั้นก็เหลือแค่คนเดียวที่ไม่รู้ ...

                เกรซ ...

                จูเลียถอนหายใจ เธอไม่มีทางตะโกนเรียกเด็ดขาด เด็กสาวนึกภาพเพื่อนๆที่แหกปากกันวุ่นวาย

                ว่าแต่ ... เขาจะเอายังไงเรื่องห้องกันนะ

                ทุกคนเงียบก่อน จูเลียตะโกนออกมา ก่อนยั้งริมฝีปากไว้ทัน ตะโกนแข่งกันไปก็ไม่รู้เรื่องหรอก

                นักเรียนหญิงหยุดพูดกันไปชั่วขณะ ก่อนคลื่นเสียงระลอกใหม่จะถล่มด้วย

    เดซิเบลที่เพิ่มสูงขึ้น

                เห็นด้วยค่ะ ดิฉันว่าน่าจะแนะนำตัวทีละคนก็ได้นะค่ะ จะได้รู้จักกันหมดเสียงหวานไพเราะดุจเสียงดนตรีที่บรรเลงอย่างอ่อนหวานสะกดใจคนฟังให้หันมามอง แม้แต่ลูน่าผู้เบื่อโลกยังต้องเบือนไปสบ

                นางฟ้า ...

                คำบรรยายเดียวที่พอจะสรรหามาได้

                เด็กสาวรูปร่างสูง ผมสีฟ้าอ่อนเหยียดตรงทิ้งตัวเงางามคลอเคลียไหล่มนบาง ดวงหน้าหวานละมุนแต่แฝงไปด้วยอะไรบางอย่างที่ดูคาดไม่ถึงจากนัยน์ตาสีชมพูคู่งาม ริมฝีปากรูปกระจับสีแดงราวกับกลีบกุหลาบแย้มยิ้ม เธอยืนยืดตรงสง่าแต่ไม่มีมาดนางพญาผู้ไว้ตัว ทำให้เพื่อนๆเริ่มละความสนใจเรื่องหอ แล้วไปรุมแอกันที่สาวงาม

                ดิฉันชื่ออลิซ เอลลอฟค่ะ ยินดีที่ได้รู้จัก

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×