คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : บทที่ 5 : หอพัก
หอพัก
แสงสว่างภายนอกดูสว่างเจิดจรัสแล้วก็อบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก ทั้งที่ในหอประชุมก็มีหน้าต่างเยอะมากรวมทั้งคบเพลิง แต่ก็ยังดูมืดมิดกว่า
ลูเคเซียก้าวเดินออกจากหอประชุมแทบไม่รอเหล่านักเรียนคนอื่นๆที่ยังตะลึงจนก้าวขาไม่ค่อยออก เธอหยุดครู่หนึ่งที่หน้าหอประชุม
จูเลียรีบเดินตามมา ข้างหน้าเปิดเทพีองค์เดิม เพียงแต่เพดานด้านบนเป็นกระจกใส ทำให้แสงสว่างส่องทอดมาเป็นลำ กระทบกับคริสตัลแยกแสงวิบวับสีรุ้งกระจ่างตาลงบนฝาผนังเก่าแก่ดูนุ่มนวล
บ่อน้ำพุใสไหลเอื่อยๆ วนรอบฐานที่เต็มไปด้วยดอกไม้นานาพรรณแข่งกันแต่งแต้มสีสันสดใส ชูดอกงามบานสะพรั่ง ส่งกลิ่นหอมตลบอบอวลไปทั่วโถงทางเดิน
รุ่นพี่ลูเคเซียย่อตัวลงทำความเคารพ ก่อนเอ่ยอธิบาย “เราเรียกท่านว่าเทพีลอร่า ท่านคอยคุ้มครองแถบนี้มาแต่ครั้งที่โรงเรียนยังไม่เริ่มสร้าง” นักเรียนหลายคนถอนสายบัวตามหญิงสาว
จูเลียมองโถงทางเดินด้วยแววตาชื่นชม พื้นอิฐเก่าถูกปูทับด้วยพรมกำมะหยี่ตลอดทาง ขณะที่ข้างผนังมีรูปภาพและธงประดับเต็มไปหมด ส่วนหน้าต่างก็เป็นกระจกหลากสีสวยงาม ทำให้เพิ่มความสว่างเข้าไปอีกจนแทบไม่ต้องอาศัยจานเพลิงตามรายทางเลย แต่นั่นแหละคงใช้เพิ่มความอบอุ่นมากกว่าอยู่แล้ว
ลูเคเซียก้าวนำลงบันไดโผล่ไปที่โถงอีกส่วนหนึ่งของปราสาท เธอเดินนำไปถึงธงรูปมังกรที่แขวนอยู่ที่กำแพง เธอสะบัดมันเปิดออก และสิ่งที่ซ่อนอยู่...
รูปภาพ...
เธอมองอย่างผิดหวังกับรูปวาดของทะเลสาบสีครามขนาดเพียงสองฝ่ามือ ริมขวามีซากปรักหักพังตั้งอยู่ ส่วนฉากด้านหลังก็เป็นน้ำตก ภาพบรรยากาศยามค่ำคืน...
ดูท่าหลายคนก็สงสัยพอกัน เพราะไม่เข้าใจว่าเธอพามาดูภาพวาดทำไม
หญิงสาวยิ้ม ก่อนคว้าแขนเด็กผู้หญิงคนใกล้ๆมา เอาฝ่ามือสัมผัสกับรูปภาพ
“พูดซิว่า ‘ชัลเฟลีฟ โปรดเปิดทาง’”
“ชัลเฟลีฟ โปรดเปิดทาง”
. . . . .
นิ่งสนิท
ลูเคเซียเริ่มสีหน้าลดระดับความอดทนลงช้าๆ เจ้าตัวคงกำลังข่มใจนับถึงสิบว่าเด็กพวกนี้ยังไม่ได้เรียนเวทมนต์มา “ออกเสียงผิด ...”
แต่ก่อนที่อะไรมันจะแย่ลง จูเลียก็เดินฝ่ากลุ่มนักเรียนไปพร้อมกับยกมือข้างที่สวมแหวนแตะเบาๆไปที่กระดานผ้าของรูปภาพ
“ชัลเฟลีฟ โปรดเปิดทาง ” เธอเอ่ยมาอย่างคล่องปาก ก่อนเริ่มรู้สึกถึงสายตาหลายๆ คู่ที่จับจ้องมา
ให้ตายเถอะ ไม่ควรเสนอหน้ามาเลย พับผ่าสิ
กริ๊ก
จูเลียหันกลับไปดูผลงานตัวเอง รูปภาพที่ว่ามันขยายขนาดจนใหญ่พอให้คนเดินเข้าไปได้สบาย แล้วกรอบข้างหนึ่งก็แง้มออกมาจากผนัง
“ดีมาก ตามเข้ามาเลย” ลูเคเซียมองเธอแวบหนึ่ง ก่อนดึงรูปเปิดอ้าออก
ข้างในค่อนข้างมืด แล้วก็หนาว แต่สว่างพอให้เดินเห็นทางได้โดยไม่สะดุดล้ม หญิงสาวเดินขึ้นบันไดเวียนนำไปข้างบน ระหว่างทางมีหน้าต่างๆเป็นระยะๆคอยมอบแสงสว่าง
“มันอยู่ในแผนที่ของพวกน้องด้วย ที่นี่น่ะเหมือนหอของรุ่นน้อง อยากจะเอาห้องตัวเองไว้ที่ไหนก็ได้ในนี้หรือจะสร้างห้องในห้องรวมก็ได้เพราะปลอดภัยกว่า”
ลูเคเซียเดินไปจนสุดบันไดเวียน ห้องรกๆ ห้องหนึ่งรอพวกเธออยู่ตรงนั้น
อย่าบอกนะ ว่านี่เป็นหอ
จูเลียมองอย่างสยดสยอง ขณะที่รุ่นพี่เดินไปชิดผนังอิฐเก่าๆโทรมๆที่เต็มไปด้วยขี้ฝุ่นและหยากไย่
เธอประคองฝ่ามือไว้ชั่วครู่ แสงสีขาวสว่างวาบมาพร้อมกับน้ำใสๆในอุ้งมือเธอ
“น้องจะใช้อะไรก็ได้ที่สะท้อนเงา” พูดจบก็สาดน้ำไปที่กำแพง มันเกาะติดเป็นแผ่นแน่นเหมือนกระจก “เอามือไปแตะน้ำ”
เด็กหญิงคนใกล้ที่สุดถูกรุ่นพี่คนสวยดึงไปอีกตามเคย เธอยกมือมาสัมผัสแผ่นน้ำอย่างแผ่วเบาราวกับไม่แน่ใจ ก่อให้เกิดคลื่นน้ำเป็นวงสั่นเป็นระลอก
แล้วร่างเธอก็เปล่งประกายระยับเหมือนสายน้ำยามต้องแสงอาทิตย์ ก่อนค่อยๆเดินหายเข้าไปในประตูพร้อมกับแววตาตื่นเต้น
สุดยอด ...
แต่ก่อนที่เด็กสาวจะขยับขาเดินเข้าไปลองของ ใครบางคนก็เดินชิงเดินดุ่มๆตัดหน้าไปก่อนด้วยท่าทีไร้อารมณ์สุดขีด
ลูน่า เปรโรทต์ !
จูเลียเลิกคิ้วเล็กน้อย ก่อนตัดสินใจเดินตามไปที่ประตู
ร่างลูน่าเปล่งแสงเช่นคนก่อน เธอก้าวฉับๆเข้าประตูไปอย่างรวดเร็ว
จูเลียกระพริบตาปรับตัวกับแสงสว่างในห้องมืดครู่หนึ่ง ก่อนสัมผัสผิวน้ำ
มันเกิดขึ้นเร็วมาก
ร้อน ...
ความร้อนไหลทะลักเข้ามาในร่างเหมือนพลังมหาศาลเข้ามาอัดแน่น แน่นจน
อึดอัดแทบหายใจไม่ออก สายตาพร่ามัวจนเกือบไม่เห็นประตูข้างหน้า
แล้วความรู้สึกบางอย่างก็เอ่อล้นมาจนสัมผัสได้อย่างชัดเจน
หวาดกลัว ... เธอสูดหายใจ
กลัวงั้นเหรอ ? ทำไมเธอต้องกลัวด้วยล่ะ ?
มีอะไรน่ากลัว
เสี้ยววินาทีก่อนตัวเองเปลี่ยนใจ ขาสองข้างก็ก้าวข้ามธรณีประตูไปอย่างรวดเร็ว แทบจะวิ่งผ่านโดยไม่ทันได้สังเกตอะไร แต่ต่อให้ช้าเธอก็คงไม่เห็นมันอยู่ดีเพราะภาพมันพร่ามัวเป็นสีดำไปหมด
ความร้อนค่อยๆจางหายไป กลับมาสู่ความรู้สึกปกติอีกครั้ง
นัยน์ตาสีฟ้าขยับกระพริบ
ห้องรวมมีสภาพค่อนข้างโล่งๆ มีหน้าต่างรอบด้านให้เปิดออกไปได้ พรมสีน้ำเงินผืนใหญ่ปูเกือบเต็มพื้นที่ห้อง ยกเว้นไว้เพียงเตาผิงขนาดใหญ่ที่ส่งเสียง เปรี๊ยะ เปรี๊ยะ
มอบความอบอุ่นอยู่ แกรนด์เปียโนสีดำวางอยู่มุมสุดของห้อง โคมไฟเช็นเดอเรียเหนือศีรษะสะท้อนแสงจากตะเกียง มาช่วยเพิ่มแสงสว่างภายใน โซฟาตัวยาว 5-6 ตัว จัดวางตามมุมต่างๆ ส่วนมุมที่ลึกที่สุดมีตู้ล็อกเกอร์หลายแถววางอยู่ นอกนั้นแล้ว ห้องก็ว่างเปล่า
นักเรียนคนสุดท้ายเข้ามาก่อนประกาศ “พี่ลูเคเซียบอกว่าให้ทุกคนออกมาก่อน พี่เขาลืมบอกไปอีกเรื่อง” หล่อนตะโกนเสียงดังฟังชัดด้วยความมาดมั่น เธอมีผมสีคาราเมลนัยน์ตาสีทองกระจ่าง
พูดจบเธอก็เดินส่ายอาดๆไปที่ประตูก่อนคนแรก
ลูเคเซียยืนพิงกำแพงรออยู่ สีหน้านิ่งเรียบไม่บอกถึงอาการใดๆ
“พี่เข้าหอไม่ได้” หญิงสาวอธิบาย “ที่เรียกมาจะบอกเรื่องห้องพัก ...”
“ไม่เห็นมีห้องเลยค่ะ”
จูเลียหันไปมองผู้กล้า ที่บังอาจมาขัดจังหวะก่อนชะงักค้าง
เด็กสาวผมตรงแต่ชี้โด่เด่ไม่เป็นระเบียบที่ดูคุ้นเคย
แคลร์ มาควอตซ์ จากคอรัน ?
เจ้าแม่หางเปียที่โรงเรียนเก่านี่น่า
จูเลียแอบลอบขำเมื่อเห็นว่าบัดนี้หล่อนไร้หางเปียสุดที่รักไปแล้ว
ฝีมืออย่างยัยนี่สอบติดด้วยเรอะ เธอหยุดกึกเมื่อคิดถึงตรงนี้ ไม่สิ ไอ้นี่มันเทพเกินมนุษมนาเขาอยู่ถ้าไม่ติดสิแปลก
เด็กสาวพยักหน้าหงึกหงักคนเดียวกับข้อสรุปของเธอ
“พี่กำลังจะบอกอยู่นี่ไง” เธอขยับตัวเดินมาหาน้องๆ “ห้องรวมเป็นของทุกคนแล้วก็ทุกคนมีสิทธิ์เลือกห้องพักไว้ตรงไหนก็ได้ ล็อกเกอร์ข้างในก็เอาไว้ใส่ของที่ใช้บ่อยอย่างพวกหนังสือเรียน ส่วนห้องพัก ... พวกพี่จับฉลากมาให้แล้ว”
พี่คนงามตวัดนิ้วมือกลางอากาศ ทันใดนั้นตัวอักษรก็ปรากฏขึ้นทีละตัวอย่างช้าๆ
แพมมิลา อลิซ ไอริส ห้อง 1
มิเดียรา แคลร์ เฟอโรยา ห้อง 2
สเตลล่า โอลิเวีย ญิลยา ห้อง 3
เกรซ จูเลีย ลูน่า ห้อง 4
จูเลียอ้าปากค้าง ขณะมองชื่อหลังเธออย่างกังวลใจ
สาวน้อยที่เปล่งรัศมีอาฆาตนั้น ขืนอยู่ห้องเดียวกัน 3 ปีข้างหน้านั้นก็นรกแหงมๆ
“พอเลือกจะเอาห้องตรงไหนให้เอาหัวแหวนของสมาชิกในห้องมาสัมผัสบริเวณนั้น แล้วก็คิดวิธีการผ่านห้องไปพร้อมๆกัน” หญิงสาวหันหลังกลับ “อย่ามัวชักช้าล่ะ”
“ใครคืออลิซกับไอริส”
“ห้อง 3 ห้อง 3 ทางนี้”
“ไหนๆ”
จูเลียมองสภาพความวุ่นวายอย่างเซ็งอารมณ์
หลังจากกลับเข้าหอก็มีแต่เสียงเจี๊ยวจ๊าวของเหล่านักเรียนที่ตะโกนคุยกัน
บางที ... มันก็แย่กว่าที่คิด
นัยน์ตาสีฟ้ามองร่างบางผมสีเงินบลอนด์ยืนหลบมุมอยู่ห่างจากความชุลมุนข้างกำแพงอยู่คนเดียว
ถ้างั้นก็เหลือแค่คนเดียวที่ไม่รู้ ...
เกรซ ...
จูเลียถอนหายใจ เธอไม่มีทางตะโกนเรียกเด็ดขาด เด็กสาวนึกภาพเพื่อนๆที่แหกปากกันวุ่นวาย
ว่าแต่ ... เขาจะเอายังไงเรื่องห้องกันนะ
“ทุกคนเงียบก่อน” จูเลียตะโกนออกมา ก่อนยั้งริมฝีปากไว้ทัน “ตะโกนแข่งกันไปก็ไม่รู้เรื่องหรอก”
นักเรียนหญิงหยุดพูดกันไปชั่วขณะ ก่อนคลื่นเสียงระลอกใหม่จะถล่มด้วย
เดซิเบลที่เพิ่มสูงขึ้น
“เห็นด้วยค่ะ ดิฉันว่าน่าจะแนะนำตัวทีละคนก็ได้นะค่ะ จะได้รู้จักกันหมด” เสียงหวานไพเราะดุจเสียงดนตรีที่บรรเลงอย่างอ่อนหวานสะกดใจคนฟังให้หันมามอง แม้แต่ลูน่าผู้เบื่อโลกยังต้องเบือนไปสบ
นางฟ้า ...
คำบรรยายเดียวที่พอจะสรรหามาได้
เด็กสาวรูปร่างสูง ผมสีฟ้าอ่อนเหยียดตรงทิ้งตัวเงางามคลอเคลียไหล่มนบาง ดวงหน้าหวานละมุนแต่แฝงไปด้วยอะไรบางอย่างที่ดูคาดไม่ถึงจากนัยน์ตาสีชมพูคู่งาม ริมฝีปากรูปกระจับสีแดงราวกับกลีบกุหลาบแย้มยิ้ม เธอยืนยืดตรงสง่าแต่ไม่มีมาดนางพญาผู้ไว้ตัว ทำให้เพื่อนๆเริ่มละความสนใจเรื่องหอ แล้วไปรุมแอกันที่สาวงาม
“ดิฉันชื่ออลิซ เอลลอฟค่ะ ยินดีที่ได้รู้จัก”
ความคิดเห็น