[SF]CUPID_ป๊ะป๋าฮะ....หนูอยากไปเกิดTT/YUNJAE/YAOI
"ดื่มฉลอง!! เพราะมุนบินขวัญใจพวกเจ้าได้ไปเกิดแน่!!!" มี๊แจ มุนบินอยากไปเกิด >
ผู้เข้าชมรวม
12,908
ผู้เข้าชมเดือนนี้
16
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
[SF]CUPID_ ป๊ะป๋าฮะ....หนูอยากไปเกิดTT/YUNJAE/YAOI
คุณเชื่อเรื่องพรหมลิขิตไหม...
บางทีเรื่องที่คนบนฟ้ากำหนดมาเราก็ไม่อาจรับรู้ได้...
หากไม่ได้มาเจอกับตัว...
ชอง ยุนโฮ...เขาก็เป็นแค่ผู้ชายคนหนึ่งที่ชีวิตสมัยเรียนหมดไปกับการผลาญเงินพ่อแม่เพื่อนำไปแจกจ่ายให้สาวๆ แต่พอเริ่มเข้ามาทำงานในตำแหน่งท่านประธานบริษัทยักษ์ใหญ่ถึงได้เข้าใจว่าเหนื่อยขนาดไหน ความรับผิดชอบมีมากขึ้น หน้าที่การงานก็รัดตัวเสียจนไม่มีเวลาไปเที่ยวเล่นเหมือนอย่างเคยจนต้องสลัดสาวๆทิ้งไป แล้วก็พบกับความสงบสุขในชีวิตเสียที แต่กว่าจะมาถึงวันนี้ได้ ก็ถูกเลขาไล่ปล้ำเสียตั้งหลายครั้งหลายครา จนเขาคิดว่า..ชาตินี้จะไม่มีทางแต่งงานเอาภาระใส่ตัวเด็ดขาด แล้วก็เหมือนสวรรค์มาโปรดเมื่อผู้เป็นพ่อส่งเลขาหนุ่มไฟแรงมาช่วยแบ่งเบาภาระอันหนักอึ้ง....
ในสายตาของชอง ยุนโฮ นั้นคิมแจจุงก็ผูกพันในฐานะเลขาคนหนึ่งหรือบางทีก็อาจเป็นไม้กันหมา? และไม่คิดอะไรเกินมากไปกว่านั้น ไม่ต่างอะไรกับแจจุงสักเท่าไร เพราะในสายตาของคนสวย...ท่านประธานก็ยังเป็นท่านประธาน ไม่เคยคิดเกินเลยแม้แต่นิดเดียว!! และด้วยความเฉยเมยของทั้งคู่นี่แหละ สวรรค์ชั้นฟ้าจึงแทบลุกเป็นไฟ!! แล้วมุนบินจะทำอย่างไรเมื่อบัญญัติสวรรค์ข้อที่ 2010 กำหนดเอาไว้ว่า...
“เทพาที่เกิดจากผู้ให้กำเนิดทั้งหลายถูกลิขิตไว้ในชะตาของพ่อแม่ที่แท้จริง เจ้าจะเกิดบนสวรรค์ก็ต่อเมื่อเมื่อพ่อแม่ของเจ้าได้พบกัน หลังจากนั้น 6 ปี หากเจ้ายังไม่ได้ไปจุติบนโลกมนุษย์ เจ้าต้องไปเกิดในฐานะของลูกสุนัข มาตรการนี้ถูกลิขิตขึ้นใน*เทพศักราชที่ 5โดยมหาเทพซีอุส ห้ามผู้ใดขัดคำสั่งหรือฝ่าฝืนกฎใดๆทั้งสิ้น ลงชื่อ มหาเทพซีอุส...”
*อ่านว่า เท-พะ-สัก-กะ-หลาด
“มุนบินๆ มุนบินอ่านบัญญัติสวรรค์ข้อที่ 2010 รึยัง”เสียงของเมสันคู่กัดตลอดกาลของมุนบินดังขึ้นข้างๆตัวเป็นเชิงเยาะเย้ย ทั้งที่เมสันเกิดหลังมุนบินตั้ง 4 ปีแท้ๆเชียวแต่ก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงมาวุ่นวายกับเขานัก มุนบินล่ะเซ็ง เฮ้อ! อีกไม่กี่เดือนเขาก็จะอายุ 6 ขวบแล้ว ถ้าไม่ได้ไปเกิดล่ะก็...ไม่นะ! มุนบินไม่ได้อยากเกิดเป็นลูกหมาซะหน่อยTT
“ก็รู้แล้ว...ทำไมเหรอ”ถึงแม้เทพรุ่นพี่จะตอบไปนิ่งๆเช่นนั้นแต่ในใจกลับร้อนรุ่มแทบระเบิดเพราะตั้งแต่เจ้าเทพพูดมากนี่เกิดมา ท่านเทพซีวอนดูเหมือนจะเอ็นดูเสียมากมาย ทั้งที่เขาน่ารักกว่าตั้งเยอะแต่ก็ช่างเถอะเพราะยังไงเขาก็ต้องไปเกิดให้ได้...มุนบินคิดด้วยความมุ่งมั่น
“ก็นะ เมสันรู้ว่ามาว่าป๊ากับม๊าของเมสันแต่งงานกันแล้ว อืม...สงสัยเมสันจะได้ไปเกิดก่อนมุนบินแล้วแหละ ฮิฮิ”เมสันพูดถากถางเยาะเย้ยมุนบินที่กำลังวางแผนชั่วร้ายบางอย่างในใจอย่างไม่รู้อะไร.... บางทีเขาอาจจะได้ไปเกิดก่อนเมสันก็ได้ แต่งงานกันแล้วไงไอ้เทพน้อย หึหึหึ>>>นี่มันเสียงหัวเราะหมีชัดๆ-*-
********************
เชื่อว่าหลายๆคนอาจจะไม่เคยเห็นเทพหนีลงมาจากสวรรค์สินะแต่ก็จะได้เห็นตอนนี้แหละ ท่ามกลางท้องฟ้าอันมืดมิด ทุกคนกำลังทำอะไรอยู่เอ่ย?...แน่นอนสิ่งที่ทุกคนทำก็คือการนอนพักผ่อนและนั่นก็รวมไปถึงเทพแทบจะทุกองค์เลยด้วย^^ เพราะฉะนั้นมุนบินจึงถือโอกาสนี้ดอดลงมาบนโลกมนุษย์เพื่อมาทำให้ป๊ายุนกับมี๊แจของเขารักกัน...ไม่แต่งก็ได้ฮะไม่มีใครว่าอะไรหรอกถ้าป๊ายุนกะมี๊แจท้องก่อนแต่ง^^ สมองน้อยๆของว่าที่ลูกหมีกำลังประมวลความคิดถึงผลได้ผลเสียที่จะเกิดขึ้น...ถ้ามุนบินเข้าทางป๊ายุนป๊ายุนต้องหาว่ามุนบินเหลวไหลแน่ๆเลย เข้าทางมี๊แจดีกว่า..ป๊ายุนอ่ะไม่ได้เรื่อง!!! เทพน้อยตัวอวบนิดๆคิดอย่างน่ารักน่าเอ็นดู ว่าแล้วไม่รอช้า...มุนบินกางปีกเล็กๆออกมาแล้วบินไปหามี๊แจของตนอย่างอารมณ์ดี....
บ้านหลังขนาดปานกลางตบแต่งด้วยฝีมือของเจ้าบ้านปรากฏอยู่ตรงหน้า เทพน้อยมองทะลุเข้าไปในห้องนอนที่ไม่ใหญ่มากนัก ร่างบอบบางใส่เพียงเสื้อกล้ามสีขาวตัวหลวมกับกางเกงขาสั้นกำลังจะเตรียมตัวนอน มือเรียวสางผมเล็กน้อยก่อนจะเดินไปปิดไฟแล้วห่มผ้าห่มบังความหนาวที่เสียดแทงผิวกาย เวลาผ่านไปไม่นานนัก....เปลือกตาบางก็พาสมองอันหนักอึ้งเข้าสู่ห้วงนิทรา....โดยมิได้เฉลียวใจเลยแม้แต่น้อย ว่าบางอย่างในชีวิต อาจจะต้องเปลี่ยนไป!!!
มุนบินบินวนไปรอบๆบ้านเพื่อหาทางเข้า อันที่จริงบินทะลุเข้าในข้างในเลยก็ได้เพราะมุนบินก็ยังเป็นเทพที่พอจะมีอิทธิฤทธิ์อยู่บ้างเพียงแต่หากทำเช่นนั้นเขาจะไม่มีทางรู้เลยว่ามี๊แจลืมล็อคกลอนประตูบ้านตัวเองซึ่งถือเป็นการไม่ระวังเนื้อระวังตัวอย่างยิ่ง ปากได้รูปที่ถอดแบบมาจากป๊ายุนยกยิ้มอย่างดีใจ(ที่แจจุงไม่ได้ล็อคประตู)แล้วบินทะลุกำแพงเข้าไปสำรวจภายในบ้าน(อ้าว??)
ห้องนอนมี 2 ห้องนอนและมีห้องน้ำอยู่ในตัวทั้ง 2 ห้อง แต่อีกห้องรู้สึกจะเป็นของผู้หญิงสักคนที่มุนบินก็คิดว่าหน้าตาคุ้นๆอยู่ ชั้นล่างมีห้องครัว ห้องรับแขกและห้องน้ำอีก 1 ห้อง รอบๆบ้านปลูกต้นไม้นานาพรรณแลดูร่มรื่น อันที่จริงมุนบินก็อยากอยู่ที่นี่นะ...แต่ต้องดูบ้านป๊ายุนก่อน>< เทพน้อยบินทะลุประตูห้องนอนของแจจุงเข้าไป เวลาล่วงเลยมาถึงเที่ยงคืนแล้ว หูแว่วเสียงนาฬิกาสวรรค์ที่ดังกังวาลไปทั่วฟ้า มุนบินหาวน้อยๆก่อนจะเดินลงบนพื้นห้องเย็นเฉียบ(แต่มุนบินไม่รู้สึก)แล้วค่อยๆปีนขึ้นเตียงเข้าซุกตัวเข้าในผ้าห่มเดียวกันกับแจจุง ตาคมคล้ายพ่อหมีปิดลงพร้อมกับห้วงสติที่ดับวูบกับอ้อมกอดอบอุ่นของแม่ที่ไม่เคยได้รับ
*******************
เสียงนกขับขานเป็นทำนองไพเราะสำหรับคนรักธรรมชาติ หกโมงเช้า...เวลาปกติที่ร่างบางมักจะตื่นขึ้นมาออกกำลังกายในหมู่บ้านที่ค่อนข้างเงียบสงบ แขนเรียวยกขึ้นบิดขี้เกียจเล็กน้อย แม้สัมผัสเมื่อคืนที่คิดเอาไว้ว่าตนเองได้กอดหมอนข้างนุ่มนิ่มจะไม่เหมือนเก่าเขาก็ไม่คิดจะไปค้นหาคำตอบอะไรกับมันมากมาย ตาโตปรือลงเล็กน้อยอย่างคนที่ยังไม่ตื่นดีนัก แต่สิ่งที่อยู่ตรงหน้านี่สิ ทำให้ร่างบางหวีดร้องดังด้วยความตกใจ!!!
“อ้ากกกกกกกก!!!//ว้ากกกกกกก!!!”เสียงแหกปากสองเสียงดังขึ้นแทบจะพร้อมกัน เสียงแรกเป็นเสียงหวานๆของผู้ที่กำลังจะได้เป็น “มี๊” ในอนาคต ส่วนเสียงที่ตามมาติดๆดังขึ้นเพราะความตกใจเสียงของมี๊แจ นั่นก็คือเสียงของมุนบินนั่นเอง ...
“เข้ามาในห้องฉันได้ยังไง..อ..ออกไปนะ ไอ้เด็ก...เด็ก...เด็ก...อ้ากกก!! เด็กผีTT”ร่างบางที่ยังปะติดปะต่อเรื่องราวอะไรไม่ได้นั้นยิ่งสติหลุดมากขึ้นไปอีกเมื่อร่างอวบที่เพิ่งนั่งยิ้มแฉ่งอยู่ปลายเตียงเมื่อครู่ลอยมาหาตนเองและมานั่งบนตักหน้าตาเฉย….
“มี๊แจฮะ...นี่มุนบินเอง...ฟังมุนบินก่อนสิ”มุนบินอมลมเข้าแก้มใสๆอย่างน่ารัก มือเล็กเอื้อมคว้ามือของร่างบางที่กำลังปิดตาอยู่ให้เปิดออกเพื่อให้มองตนเองได้ชัดๆ....ผมไม่ใช่ผีสักหน่อย...ผมเป็นลูกของมี๊แจกับป๊ายุนต่างหาก><
“กะ...ก็ลุกไปก่อนสิTT”ใบหน้าสวยจะร้องแหล่ไม่ร้องแหล่กอปรกับเสียงหวานที่สั่นเหลือเกินทำให้เด็กน้อยถอนหายใจเฮือกแล้วค่อยๆคลานไปนั่งข้างๆแทน
“ผมชื่อมุนบิน...เป็นลูกของป๊ายุนกับมี๊แจ....”และเรื่องราวมากมายถูกเล่าถ่ายทอดออกมาจากปากเล็กๆ...มหัศจรรย์จนไม่น่าเชื่อ แต่อิทธิฤทธิ์ของเด็กน้อยที่ได้เห็นเมื่อครู่ทำให้ร่างบางมวดคิ้วแน่นอย่างวิตก...มุนบินเป็นลูกของเขากับยุนโฮ เกิดมาได้ 5 ปีกว่าๆแล้ว และถ้าเขากับยุนโฮไม่....กันซะที(ละไว้ในฐานที่เข้าใจ) มุนบินจะไม่ได้ไปเกิดนั้นก็แสดงว่า......
“เฮ้ยยย ไม่เอานะ!!! จะให้ฉันไปยั่วท่านประธานเนี่ยยะ!!”คำพูดทำจาของร่างบางทำให้มุนบินส่ายหน้าอย่างหน่ายๆ...ไม่เข้าใจเลย ทำไมมี๊แจถึงไม่เรียกแทนตัวเองว่ามี๊แจนะ...(ทั้งที่ประเด็นที่แจจุงพูดไม่ได้อยู่ตรงนั้นสักนิด-*-)
“เรียกมี๊สิฮะมี๊แจ มี๊แจไง มี๊แจก็เรียกตัวเองว่ามี๊แจแล้วเรียกหนูว่ามุนบิน นะฮะ นะฮะ น่านะ”แขนอวบเกาะก่ายร่างบางไม่ให้กระโดดหนีไปไหน นัยต์ตาสีน้ำตาลเข้มส่องประกายวิ้งๆ บวกกับคำพูดช่างออดอ้อนออเซาะ ทำให้นิสัยอุเคะของร่างบางเริ่มเผยออก...ก็รู้ๆกันอยู่ว่าอุเคะน่ะ...แพ้เด็ก!
“เออ...ก็ได้ๆ มี๊แจก็มี๊แจ”ด้วยความที่พูดเหมือนรับคำส่งๆนั่นเองทำให้เทพน้อยทำหน้ายู่อย่างขัดใจ
“ไม่เอาอ่ะ เรียกเดี๋ยวนี้เลยด้วยมี๊แจต้องพูดเพราะๆกับมุนบินนะฮะ”ร่างบางทำหน้าเหยๆเพราะรู้สึกเหมือนถูกเด็กสั่งสอน ลมหายใจเฮือกใหญ่พรูออกมาทางปากก่อนที่ร่างบางจะพูดประโยคที่ทำให้มุนบินยิ้มแก้มปริ
“แล้วมุนบินจะให้มี๊แจทำยังไงล่ะฮะ”เด็กน้อยทำท่าครุ่นคิดสักครู่แล้วยิ้มออกมาอีกครั้งแต่คำตอบที่ได้รับทำให้ร่างบางหัวใจแทบวาย
“ก็ไม่เห็นยากเลย...มี๊แจก็ทำให้ป๊ายุนรักสิฮะ เดี๋ยวมุนบินช่วย^0^”คำพูดง่ายๆจากปากของเด็กน้อยที่ใสซื่อเป็นยิ่งกว่ายาพิษที่ราดรดในใจของคนที่คิดว่าตัวเองเป็นผู้ชาย ถึงจะเคยถูกทักบ่อยๆว่าหน้าหวาน ถึงจะเคยถูกเพื่อนตราหน้าว่าเป็นเคะ แต่ถึงยังไงผมก็ยังอยากจะแต่งงานกับผู้หญิงนะครับTT
********************
ล้อรถคันเก่งบดเบียดกับถนนอย่างแรง ร่างบางออกจากบ้านหลังชั่วโมงเร่งด่วนไปมากโข...จนท่านประธานโทรตามเลยล่ะTT ในอนาคตไม่ต้องคิดอะไรมากสำหรับวันนี้ อาจจะโดนเล็กน้อยคือหักเงินเดือนหรือย่างมากก็แค่พักงานถ้าเขาเตรียมเอกสาร รายงานการประชุมไม่ทัน ครั้งแล้วครั้งเล่าที่มุนบินทำให้เขาตกใจแทบลมจับ ก็ตอนแรกยังนั่งอยู่เบาะข้างคนขับอยู่เลยแต่เผลอแป๊บเดียวหันไป...เจ้ากามเทพตัวน้อยที่มั่นใจสุดๆว่าเขากับท่านประทานเป็นเนื้อคู่กันก็หายไปเสียแล้ว ถึงจะรู้ว่าไม่ใช่ผีแล้วแต่ก็ยังอดคิดไม่ได้ว่าเด็กนั่นน่ากลัว...ก็ทำตัวอย่างกับผีนี่นาTT
แจจุงขับรถหักเลี้ยวเข้าซองวีไอพีข้างๆรถของยุนโฮอย่างคล่องแคล่ว...ข้อดีของเลขาอาจจะเป็นข้อนี้ ได้รับอะไรหลายๆอย่างเป็นพิเศษ ขาเรียวรีบก้าวออกมาจากตัวรถ หอบแฟ้มพะรุงพะรังก่อนจะยกขาเรียวๆขึ้นถีบประตูรถให้ปิดลง มือเรียวที่ไม่ค่อยจะว่างนักพยายามหาปุ่มกดล็อครถจากรีโมทจนสำเร็จแล้วรีบวิ่งเข้าบริษัทในทันที พนักงานหลายคนต่างรู้จักกับแจจุงดี..ก็แน่ล่ะ สิ เลขานุการดีเด่นที่ทำงานกับท่านประธานได้นานที่สุด...ก็ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไร หรอกนะว่าทนกับรังสีบางอย่างที่ท่านประธานแผ่ออกมาได้ยังไงกัน....แต่ก็อด ปฏิเสธไม่ได้จริงๆว่าในเวลาที่ทั้งคู่ยืนอยู่เคียงข้างกัน มักจะโดดเด่นและดูเหมาะสมกันเป็นที่สุด!!
ติ๊ดดดด!
เสียงอินเตอร์คอมจากหน้าห้องเป็นสัญญานว่าเลขาคนเก่งของเขาได้มาถึงที่ทำงาน เรียบร้อยแล้ว นิ้วเรียวกดรับสัญญานเพื่อที่จะมอบหมายงานให้ร่างบางทำอย่างเช่นทุกวัน แต่วันนี้กลับเปลี่ยนไป…
“เข้ามาหาฉันด้วย”เสียงเข้มเอ่ยผ่านสายมาทำให้แจจุงใจหายวาบ...ซวยแล้วไหมล่ะ!
“ครับท่านประธาน”ถึงแม้จะไม่อยากเข้าไปในห้องมากขนาดไหนแต่ก็ต้องตอบรับอย่างเสียไม่ได้
ประตูบานใหญ่ถูกเปิดออก ร่างบางที่พยายามทำตัวลีบๆเล็กๆค่อยๆเดินก้มหน้าก้มตาเข้ามาในห้องแบบระแวงสุดๆ
“เอกสารการประชุมเสร็จรึยัง”ยุนโฮเอ่ยถามไปทันทีที่แจจุงเดินมาหยุดหน้าโต๊ะ ไหล่บางกระตุกน้อยๆพลางหลับตาปี๋...ทั้งที่ยังเปิดดูเอกสารอยู่แท้ๆ...รู้ได้ยัง ไงกันนะว่าเขาเดินมาถึงแล้ว?
“ย..ยังครับ”เสียงหวานตอบตะกุกตะกักด้วยความกลัวที่เพิ่มขึ้น...เพราะคุณยุนโฮเป็นคนที่ตรงต่อเวลาเอามากๆน่ะสิถึงได้กลัวขนาดนี้
“ก็รีบไปทำสิ”ร่างสูงเงยหน้าขึ้นมา สายตาที่เคยทอดมองร่างบางเพียงแค่เลขาคนหนึ่งเริ่มเปลี่ยนไปเพียงแต่ร่างบาง ไม่อาจสังเกตได้...หรือเพราะยังไม่ทันได้สังเกต...
“เอ๋...” ร่างบางทำตาโตด้วยความสงสัย ทำไมวันนี้ท่านประธานดูผิดปกติ ดวงตาเฉียบคมทำเอาต้องหลบวูบ หลังบางค้อมลงน้อยๆรับคำแล้วค่อยๆเดินหลบออกจากห้องประธานบริษัทไป ใจดวงน้อยแอบสั่นไหวเล็กๆ ก่อนหน้านี้ก็หลงเชื่อเรื่องราวที่มุนบินบอกไปกว่าครึ่ง เพียง แค่เผลอมองก็ฏิเสธไม่ได้เลยว่าเหมือน...มุนบินเหมือนคุณยุนโฮมากจริงๆ ...หรือคำพูดราวโกหกที่เด็กน้อยสร้างขึ้น จะเป็นเรื่องจริงทั้งหมด....
********************
ภายในห้องประชุมกว้างบรรยากาศเคร่งเครียดยังไม่กดดันเท่ากับสายตาของท่านประธานบริษัทที่สมควรจะมองจอมอนิเตอร์มากกว่าเลขาที่กำลังนั่งจดรายละเอียดงกๆอย่างเขา พอเงยหน้าขึ้นมาก็สบตา พอก้มหน้าก็อึดอัด ตัวหนังสือที่เคยสวยงามบัดนี้ถูกขีดเขียนลงในกระดาษอย่างเบี้ยวๆเกๆ เขียนงานหนึ่งประโยค เขียนด่าก็อีกประโยคหนึ่ง นี่ถ้าหากใครมาพบกระดาษแผ่นนี้เข้าล่ะก็เขาคงถูดไล่ออกไม่ช้าก็เร็วด้วยข้อหาด่าผู้ที่มีอิทธิพลที่สุดในบริษัทชองกรุ๊ปเป็นแน่ ระหว่างที่กำลังตกในวังวนความคิดเพียงครู่เสียงปรบมือก็ดังก้องห้องประชุมใหญ่ ตามด้วยเสียงคุ้นเคยที่กล่าวปิดการประชุม...ตายห่า! แล้วเขาจะเอาอะไรไปส่งท่านประธานล่ะเนี่ย! ทันทีที่ตั้งสติได้ร่างบางก็รีบตะล่อมๆออกจากห้องประชุมหวังจะหลุดจากบ่วงแห่งกรรมแต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว ข้อมือบางถูกคว้าดึงเข้าประชิดอกแกร่งจนแนบกันแทบทั้งลำตัว แจจุงอุทานขึ้นมาน้อยๆเพราะความตกใจ มืออีกข้างที่ว่างคว้าไหล่หนาเอาไว้เมื่อหวิดจะล้ม แฟ้มเอกสารร่วงลงพื้นจนเกิดเสียงดัง!!!
“เป็นอะไรรึเปล่า?”เสียงเข้มถามๆนิ่งๆแต่ก็ยังฟังดูอ่อนโยน ลำตัวนุ่มนิ่มถูกปล่อยให้เป็นอิสระ แจจุงแสร้งทำก้มลงไปเก็บแฟ้มทั้งที่ในใจแทบระเบิด
“ฉันแค่จะบอกว่า...สรุปการประชุมให้ฉันภายในวันนี้ล่ะ จะรอ...”...ก็แน่สิ ท่านประธานไม่ได้ฟังที่ประชุมพูดเลยนี่>< ความคิดภายในแอบท้วงขึ้นดังๆในสมองแต่ก็ไม่สามารถพูดออกไปได้
“ครับ”และแน่นอนแจจุงจะมีสิทธิ์ไปปฏิเสธอะไรได้นอกจากตอบรับเท่านั้น นาฬิกาเรือนสวยถูกยกขึ้นดูเวลา...16.00 น.
“เฮ้ย!!..สี่โมงแล้วนี่! ตายๆๆๆ จะทำงานทันไหมเนี่ย!”แฟ้มบนพื้นที่ถูกบรรจงเก็บในตอนแรกถูกโกยลวกๆเข้าอ้อมแขนเล็กๆ ขาเรียวรีบโกยเกียร์หมาโยนแฟ้มใส่ตะกร้าข้างๆโต๊ะทำงานแล้วค่อยๆรวบรวมสมองระดมความคิดเพื่อทำงานเร่งด่วนที่ท่านประธานเพิ่งจะสั่งมาสดๆร้อนๆให้เสร็จภายในเวลาที่เร็วที่สุด...โดยไม่มีมุนบินคอยมากวนหลังจากที่หายไปตั้งแต่เช้า
....แล้วมุนบินหายไปไหน
********************
ในชั้นสูงสุดของบริษัทชองกรุ๊ป คุณอาจสงสัยว่าทำไมยังมีคนไม่กลับบ้านทั้งที่ในความเป็นจริงนั้นก็เลยเวลาเลิกงานมาได้จวนสองสามชั่วโมงแล้ว ร่างบางที่นั่งทำงานอย่างเคร่งเครียดก็ยังคงทำงานต่อไป และท่านประธานที่ดูเลขาคนสวยนั่งทำงานงกๆผ่านกล้องวงจรปิด...ก็ยังคงดูต่อไป แจจุงปิดแฟ้มงานทั้งหมดลงแล้วตรวจระเบียบความเรียบร้อยของเอกสารการประชุมอย่างถี่ถ้วนอีกครั้ง เมื่อเห็นว่างานเรียบร้อยดี นิ้วสวยก็เลื่อนไปกดอินเตอร์คอมข้างๆตัวเพื่อพูดคุยกับคนที่ตนทำงานได้มาร่วม 5 ปีกว่าๆแล้ว ทันทีที่ได้ยินเสียงตอบรับจากร่างสูง แจจุงก็หยิบแฟ้มเอกสารและเดินเข้าไปหาท่านประธานแทบจะทันที ยุนโฮลุกลี้ลุกลนรีบหยิบรีโมทมาปิดกล้องวงจรปิดแล้วแสร้งทำเป็นนั่งเปิดเอกสารดูงานอย่างตั้งใจ มือหนาวางเอกสารในมือลงเมื่อได้ยินคำบอกกลายๆว่าพร้อมที่จะส่งงานแล้ว...
“เอกสารการประชุมเสร็จแล้วครับท่านประธาน”แจจุงกล่าวพร้อมยื่นแฟ้มไปวางไว้บนโต๊ะทำงานทำงานตัวใหญ่ ยุนโฮคว้าแฟ้มมาแล้วเปิดผ่านลวกๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาสนทนากับร่างบาง
“มายืนข้างๆฉันสิ แล้วอธิบายให้ฉันฟังด้วย”การพูดแบบนั้นของท่านประธานนั่นหมายถึงการให้เขาไปยืนข้างๆแล้วอธิบายรายละเอียดการประชุมให้ฟังอย่างถี่ถ้วน แต่ถึงอย่างนั้นนึกไปถึงเวลาที่ผ่านมา...อันที่จริงเขาไม่จำเป็นต้องพูดอะไรมากท่านประธานก็เข้าใจ แต่ถ้าหากถึงกับบอกให้เขาอธิบายล่ะก็ เขาก็ต้องกล่าวถึงเนื้อหาทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็ก เรื่องน้อยหรือไม่ว่าใดๆก็ตามทีที่มันมีสาระ...ซึ่งคงต้องกินเวลานานมากพอควร แต่นั่นแหละ!! เขาจะไปขัดอะไรได้...ว่าแต่ หิวชะมัด...
“เออ..ครับ ดัชนีหุ้นของบริษัท..............”แจจุงเริ่มพูดไปเรื่อยๆลำตัวเล็กโน้มต่ำลงมาเพื่อที่จะอธิบายได้ถนัด มืออีกข้างหนึ่งยกขึ้นวางเท้าพนักพิงนุ่มอย่างเผลอตัว ทั้งที่เข้าใจแทบทุกอย่างแต่ร่างสูงก็ทำเหมือนไม่เข้าใจนู่นนี่จนต้องพูดซ้ำซาก
“อะไรนะ! นายพูดเสียงเบาจนฉันฟังไม่รู้เรื่องเลยแจจุง!”น้ำเสียงติดหงุดหงิดของคนที่เหมือนจะกลั่นแกล้งดังขึ้นแทรกประโยคยาวๆที่กำลังกล่าวถึงวงกำไรจากการค้าขาย ร่างบางก็เริ่มอารมณ์เสียเช่นกัน...ข้าวกลางวันก็ยังไม่ได้กิน ง่วงก็ง่วง หิวก็หิว โอ้ยย!! เมื่อไรจะจบสักทีนะ....
“ครับ ต่อเลยนะครับ...คิมบอมเสนอให้.....”แจจุงโน้มตัวลงต่ำมาอีกเพื่อให้ร่างสูงได้ฟังชัดๆจนแก้มแทบจะติดกัน แต่คนทั้งสองก็ยังไม่ทันรู้ตัว เพราะอีกคนพยายามที่จะพูด ส่วนอีกคนก็ไม่ใส่ใจที่จะฟังเพราะกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง ร่างบางที่เริ่มสังเกตถึงความความผิดปกติได้ มองคนตรงหน้าด้วยความไม่พอใจ.....ก็จะให้เขาอธิบายทำไมล่ะ?ในเมื่อไม่ฟังกันแบบนี้!!
“คุณยุนโฮ!!!”ร่างสูงสะดุ้งกับน้ำเสียงดังๆแสดงถึงความไม่พอใจที่ดังก้องไปทั้งห้อง หน้าคมหันไปหาเจ้าของเสียงด้วยความตกใจ ทั้งคู่เบิกตากว้างเมื่อสัมผัสได้ถึงสัมผัสนิ่มๆที่ผ่านริมฝีปากไปชั่วครู่ ก่อนจะเป็นตัวเลขาร่างบางที่ผละออกมาก่อน...ยุนโฮยกมือขึ้นลูบท้ายทอยอย่างเก้อเขิน พอกับแจจุงที่รู้สึกเหมือนมือไม้จะเกะกะไปเสียหมด...
“จ...จบแล้วครับ”แม้จะพยายามบังคับน้ำเสียงให้เป็นปกติสักเท่าไรแต่ใบหน้าที่ขึ้นสีแดงจางๆก็บ่งบอกได้ดีว่ารู้สึกอย่างไรกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น…ทั้งที่ยังไม่จบดีแท้ๆแต่นั่นมันเกือบจะจูบกันอยู่แล้วนะ!!
“กี่โมงแล้วล่ะ?”ทั้งที่คำพูดมีมากมายแต่รู้สึกตอนนี้สมองจะไม่ทำงานไปชั่วครู่...ไม่รู้จะพูดอะไรดี บรรยากาศดูอึดอัดไปเสียหมด มาดท่านประธานจอมโหดที่มักจะถามตอบด้วยน้ำเสียงนิ่งๆกลับมาอีกครั้งเพื่อกลบเกลื่อนอาการเขินอายซึ่งไม่ใช่นิสัยของชายหนุ่มเอาเสียเลย...
“2 ทุ่ม 20 นาทีแล้วครับ..”
“งั้น...กลับบ้านไปเถอะ งานเสร็จแล้วนี่”ได้รับคำตอบแล้วก็ตัดบทไปเสียดื้อๆร่างสูงทำเป็นเก็บข้าวเก็บของเตรียมจะกลับบ้าน แจจุงก้มหน้าน้อยๆแล้วเดินออกไป หลังจากที่ร่างบางออกไปแล้วภาพที่ใครไม่เคยเห็นคือภาพที่ท่านประธานนั่งนิ่งอยู่บนเก้าอี้ตัวโต ปลายนิ้วลูบริมฝีปากแผ่วเบาเหมือนต้องการย้ำสัมผัสซ้ำๆ
...กี่ปีแล้วนะ ที่ห่างหายไปกับเรื่องของหัวใจ
...บางที มันอาจจะถึงเวลาแล้วก็ได้ ที่เขาควรจะหาอะไรมาเปลี่ยนแปลงชีวิตเสียที
ว่าแต่สัมผัสเมื่อกี๊.....นิ่มชะมัด
********************
เสียงเครื่องยนต์ดังกระหึ่มขึ้นก่อนจะดับลงอย่างรวดเร็ว คิม แจจุง เดินลงมาจากรถอย่างหัวเสียเมื่อความพยายามที่จะสตาร์ทรถไม่เป็นผลสำเร็จ...ทั้งๆที่เมื่อเช้ายังดีอยู่แท้ๆเชียว...จะมาเสียอะไรตอนนี้ว่ะ!!
มือขาวเปิดกระโปรงหน้ารถออกเพื่อสำรวจความเสียหายแล้วก็ยกมือขึ้นมาปิดจมูกแทบไม่ทันเมื่อควันจำนวนมากพุ่งออกมาจนคลุ้งไปทั่วบริเวณ มือข้างที่ว่างยกขึ้นปัดป่ายอากาศสีเทาหวังจะให้มันบรรเทาลงไปบ้าง...แต่ก็ดูเหมือนจะไม่ช่วยอะไรเลย เมื่อปริมาณควันดูจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ…
“อะ แคก แคก แค่ก แฮ่ก”นอกจากจะทำอะไรไม่ได้แล้ว รถเจ้าปัญหายังทำให้ร่างบางสำลักควันค่อกแค่กอีกด้วย ฝ่ายร่างสูงที่เดินลงมาทีหลังเลิกคิ้วขึ้นน้อยๆเมื่อสิ่งที่ตนเห็น คือ เลขาคนสวยของเขาที่ดูท่าเหมือนจะมีปัญหาอะไรสักอย่าง?
“มีอะไรให้ช่วยรึเปล่าแจจุง”หากตามปกติก็คงคิดว่าถามไถ่ตามประสาเจ้านายกับลูกน้อง...แต่ในความรู้สึกของคนถาม คือความเป็นห่วงที่มีมากกว่านั้น ...ความรู้สึกที่คนถูกถามไม่อาจรับรู้ และไม่เคยรับรู้เลยด้วยซ้ำ...บางทีความรู้สึกนั้นอาจจะก่อตัวขึ้นเนิ่นนานแต่เพิ่งจะฉายชัดเมื่อมีผู้ชี้นำเป็นใครบางคน...
“แคก แคก ไม่มีครับท่านประธาน..ผ..ผมขอตัว แคก แค่ก”อาการปฏิเสธโต้งๆทั้งๆที่ยังเห็นอยู่ว่าต้องการความช่วยเหลือทำให้ร่างสูงต้องส่ายหน่ายๆ ยุนโฮเดินเข้าไปดูเครื่องยนต์ที่ยังคงมีควันลอยอยู่น้อยๆแล้วก็ต้องส่ายหน้าหนีเพราะตนเองก็ซ่อมรถไม่เป็น หากแต่เมื่อหันมาอีกทีก็พบร่างบางกำลังมุดหัวเข้าไปในตัวรถหอบข้าวหอบของเตรียมจะกลับบ้านเสียแล้ว
“เดี๋ยว!แจจุง แล้วนายจะกลับยังไงล่ะ”ร่างสูงคว้าข้อมือแจจุงที่กำลังจะปิดประตูรถเอาไว้แล้วถามด้วยความเป็นห่วง...รถเมล์เหรอ หรือแท็กซี่ ถ้าอย่างนั้นก็ต้องโดนฉุดนะสิ! ให้เขาไปส่งเองยังจะน่าไว้ใจกว่า.....มั้งนะ!!
“อ๋อ เดี๋ยวผมนั่งรถเมล์กลับเอาน่ะครับ”ด้วยความที่ผ่านโลกมานานถึงแม้จะไม่มากแต่มันก็เป็นไปไม่ได้อยู่แล้วหากร่างบางจะกลับบ้านไม่ถูก...แต่คนถามนี่สิ รู้สึกจะเป็นกังวลมากเหลือเกินทั้งที่ธุระของตนก็ไม่ใช่ รปภ.รุ่นพ่อเมื่อเห็นผู้มีพระคุณที่เคยช่วยชีวิตตนเองไว้จากภาระหนี้สินยังไม่กลับบ้านจึงรีบวิ่งมาหาแล้วเอ่ยเตือนด้วยความเป็นห่วง...
“ท่านครับเมื่อครู่นี้คุณจุนซูเกือบโดนพวกเมายาบ้าฉุดไปข่มขืนแหนะครับดีที่คุณยูชอนมาช่วยไว้ทัน ผมว่าท่านกับคุณแจจุงรีบกลับบ้านดีกว่าครับผมเกรงว่าจะได้รับอันตราย”ทันทีที่ฟังจบแจจุงก็ทำท่าจะพูดอะไรบางอย่างขึ้นมาแต่ลุงยามก็ขัดเอาไว้เสียก่อน
“คุณแจจุงก็ระวังหน่อยนะครับ...ลุงเป็นห่วง”ลุงยามพูดจบก็ยิ้มแฉ่งให้แล้ววิ่งไปปฏิบัติหน้าที่ต่อ ยุนโฮยกยิ้มขึ้นเล็กน้อยแล้วดึงมือร่างบางมาเบาๆ
“กลับกับฉันเนี่ยแหละ...เดี๋ยวไปส่ง”ว่าแล้วก็ลากแจจุงมาแล้วยัดเข้าไปในรถคันงามอย่างง่ายดาย แฟ้มงานถูกโยนไปไว้หลังรถ แจจุงที่กำลังช็อคค้างกับข่าวเพื่อนรักโดนดักฉุดดูเหมือนจะล่องลอยไปไกลจนไม่ได้ยินเสียงเรียกของร่างสูง...
“แจจุง! แจจุง!! แจ....”ไม่ใช่แค่เฉียดๆเหมือนครั้งแรก แต่เป็นสัมผัสที่ประกบกันเต็มๆ ในจังหวะที่คนถูกเรียกกำลังเหม่อลอยเพราะความเป็นห่วงเพื่อนจนตั้งสติไม่ได้ ร่างสูงก็พยายามที่จะเรียกเพื่อถามทางไปยังบ้านของร่างบาง ใบหน้าคมเลื่อนชิดใบหูมาขึ้นเพราะแจจุงไม่ได้ยินสักที ระดับเดซิเบลที่มากขึ้นทำให้ร่างบางที่เพิ่งรู้ตัวหันขวับมาอย่างไม่ตั้งตัวจนริมฝีปากประกบติดกัน และก็เป็นอีกครั้งที่ร่างปากเบือนหน้าหนีไปเสียเอง...เผลอใจอีกแล้ว>///<
“เอ่อ.../เอ่อ....”สองเสียงพูดขึ้นมาพร้อมกัน ยุนโฮหักพวงมาลัยไปตามทางเลี้ยวก่อนที่แอสแอลเคสองร้อยคันแพงจะทะยานออกสู่ถนนใหญ่
“บ้านนายไปทางไหนล่ะ”เป็นร่างสูงที่พูดออกมาก่อนแต่หนทางไปบ้านร่างบางทำให้ร่างสูงอดที่จะตกใจไม่ได้...เขาเพิ่งรู้ว่าบ้านของแจจุงกับบ้านของเขาอยู่ภายในหมู่บ้านเดียวกัน แต่ถ้าถามถึงระยะทางล่ะก็ บ้านเขาไกลกว่ามากเลยทีเดียวนั้นเป็นเพราะบ้านของเขาเป็นบ้านหลังท้ายสุดของโครงการหมู่บ้านจัดสรรค...เพราะอันที่จริงหมู่บ้านนี้ก็เป็นอีกหนึ่งธุรกิจในเครือของบริษัทชองกรุ๊ปนั่นเอง
ข่าวด่วนนะครับ ตอนนี้พายุใต้ฝุ่นกำลังพัดเข้าสู่กรุงโซล ซึ่งจะทำให้เกิดฝนตกหนัก รถที่ขับแล่นตามท้องถนนและผู้คนที่กำลังสัญจรอยู่ในขณะนี้กรุณากลับที่พักอาศัยของท่านโดยเร็วนะครับ ขอย้ำนะครับ กรุณากลับที่พัดอาศัยของท่านโดยเร็ว!!! คลื่นนนนนน
เสียงคลื่นวิทยุดังแทรกเข้ามาในรถคันหรูก่อนจะหายไปโดยเร็ว ยุนโฮและแจจุงจ้องเครื่องเสียงหน้ารถอย่างสงสัย...ไม่มีใครเป็นคนเปิดแต่ทำไมถึงมีเสียงแทรกเข้ามาได้ เพียงแค่คิดก็อดไม่ได้ที่จะขนลุดเกรียว ยุนโฮขับรถต่อไปเรื่อยๆอย่างไม่รีบร้อนเท่าที่ควร แจจุงเหลือบมองไปยังกระจกหลังแล้วก็ต้องหวีดร้องอย่างตกใจเมื่อพายุลูกใหญ่หมุนวนเตรียมจะพุ่งเข้าชนรถอยู่แล้ว!!!
“คุณยุนโฮ!! พายุ!!!/เฮ้ย!!!”ร่างสูงที่ขับรถด้วยความเร็วปกติในตอนแรกถึงกับเหยีบมิดคันเร่งในทันที...ไม่คิดสงสัยเลยว่าทำไมพายุที่เหมือนจะพุ่งเข้าชนนั้นถึงไม่ชนเสียทีพอเกือบจะถึงก็เหมือนจะหยุดอยู่กับที่ รู้เพียงแต่ว่า...ต้องหนีไอ้พายุลูกนี้ให้เร็วที่สุด!!!
“อ้ากกก!! เลี้ยวซอยข้างหน้า บ้านหลังที่สอง!!!”คนสองคนผ่านเหตุการณ์ระทึกใจอย่างน่าหวาดเสียว พายุลูกนั้นเลี้ยวเข้ามาทางหมู่บ้านตามรถของท่านประธานชองมาได้อย่างแม่นยำ ยุนโฮขับรถเข้าไปจอดที่โรงจอดรถตามคำบอกของร่างบางแล้วพายุลูกนั้นก็พัดผ่านไป ฝนห่าใหญ่ตกลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา...แทบไม่ต้องคิดเลยว่าไม่มีทางกลับบ้านได้แน่ แจจุงเชิญเขาเข้าไปในบ้านแล้วช่วยถอดสูทที่เปียกเล็กน้อยออกให้ ตาคมกวาดมองไปรอบๆบ้านที่ดูสะอาดสะอ้านผิดวิสัยบ้านของหนุ่มโสด...ปฏิเสธไม่ได้หากใครจะบอกว่าห้องของเขาที่มีแม่บ้านมาทำความสะอาดทุกวันยังรกกว่า-*- เครื่องดื่มร้อนๆถูกยกขึ้นมาเสิร์ฟโดยเจ้าของบ้านที่นั่งลงฝั่งตรงข้าม ร่างสูงยกชาร้อนๆขึ้นมาจิบเล็กน้อยก่อนจะวางลง...
“ฉันกลับบ้านก่อนแล้วกันนะ”ยุนโฮลุกขึ้นแล้วเดินไปหยิบสูทที่เพิ่งถูดถอดออกไปหยกๆขึ้นมาถือไว้เตรียมจะเดินออก แต่เสียงของร่างบางที่เรียกเอาไว้ฉุดรั้งให้เขาหยุดเดินแล้วค่อยๆหมุนตัวกลับมาหาร่างบางอย่างสโลวโมชั่น
“ท่านประธานครับคืนนี้ค้างที่บ้านผมเถอะครับ!!”
********************
ทางด้านมุนบินที่หายตัวไป....
เทพน้อยคิดไปคิดมาก็นึกแผนการดีๆอะไรได้เหมือนมีหลอดไฟสว่างปิ๊งขึ้นมาในหัว ตาคมเหลือบมองมี๊แจที่กำลังขับรถอยู่เล็กน้อยก่อนจะหายตัวไปอย่างรวดเร็ว ปีกเล็กๆบินผับๆขึ้นไปบนสวรรค์อีกครั้งเพื่อนที่จะไปหาท่านเทพชางมิน เทพแห่งสายลม และท่านเทพจุนกิ เทพแห่งสายฝน...แหมๆอยากไปเกิดก็คงต้องลงทุนหน่อยล่ะ ไม่ต้องพูดอะไรมากมายท่านเทพทั้งสองก็ยินดีที่จะช่วยอย่างง่ายดาย ส่วนเรื่องเสียงที่แทรกขึ้นมาก็ไม่ยาก เพียงแต่ว่ามุนบินทำไม่ได้ จึงต้องไปขอร้องให้ท่านเทพผู้ให้กำเนิดซีวอนช่วย ซึ่งแน่นอนว่าเด็กน้อยต้องโดนด่าเช็ดเพราะทำให้สวรรค์แทบปั่นป่วนเพราะเจ้าตัวหายไป
ตอนนี้เรื่องยังไปไม่ถึงมหาเทพซีอุส แต่ข้าจะช่วยเจ้าก็แล้วกัน อย่าลืมล่ะหากท่านมหาเทพรู้เมื่อไร...ถึงเป็นข้าก็ช่วยเจ้าไม่ได้
นั่นเป็นคำกล่าวของท่านเทพซีวอนก่อนที่มุนบินจะลงมายังโลกมนุษย์อีกครั้ง...ไม่ใช่เพราะมุนบินเห็นแก่ตัว...แต่เพราะมุนบินก็สมควรที่จะทำตามหน้าที่ไม่ใช่หรืออย่างไรกัน...มุนบินมีหน้าที่ต้องไปเกิดเป็นมนุษย์...แล้วมุนบินจะทำให้ตัวเองไปเกิดไม่ได้หรือไง...มุนบินไม่ได้ไปทำให้ใครเดือดร้อนซะหน่อย เทพน้อยคิดอย่างน้อยใจในชะตาเทพของตนเอง ทำไมล่ะ? หรือเพราะมุนบินจะไม่ได้ไปเกิดตั้งแต่แรก...แล้วจะทำให้มุนบินมีความหวังว่าจะได้ไปเกิดบ้างทำไมกัน น้ำตาสีเงินไหลออกมาเล็กน้อยเพียงเล็กน้อยก่อนจะตกลงไปบนพื้นดินกลายเป็นแร่เงินที่คนต้องการนักหนา ฝนที่ตกลงมาอย่างบ้าคลั่งทำเอาตัวเล็กๆเปียกปอนไปหมด เด็กน้อยเดินลากขาเข้าไปในบ้านของมี๊แจอย่างเหนื่อยอ่อนกับการบินว่อนมาทั้งวัน...
“มุนบิน! ทำไมตัวเปียกอย่างนั้นล่ะ!!”ไม่รู้เพราะสัญชาตญานของความเป็นแม่ที่มีอยู่ในตัวหรือเพราะอะไร? ทันทีที่เห็น(ว่าที่)ลูกชายสภาพยังกะลูกหมีตกน้ำแบบนั้นก็อดไม่ได้ที่จะเอ็ดน้อยๆ แต่ก็ยังรีบวิ่งขึ้นไปชั้นสองเพียงเพื่อที่จะไปหยิบผ้าขนหนูมาซับน้ำที่เปียกปอนไปทั้งตัวให้มุนบิน ฝ่ายเด็กน้อยที่อารมณ์อ่อนไหวเกินปกตินั้นเมื่อได้รับความอบอุ่นจากคนที่ตนเองเรียกว่า “มี๊แจ” ก็เริ่มออกอาการสะอึกอะอื้นแล้วก็ร้องไห้ขี้มูกโป่งอีกครั้ง ร้องไห้ด้วยความรู้สึกที่ต่างออกไป....เพราะไม่จำเป็นต้องเช็ดน้ำตาด้วยตัวเอง ไม่จำเป็นต้องกลั้นน้ำตาเพื่อหยุด...เพียงแค่มี๊แจกอดและปลอบเขาแค่นี้ มุนบินก็มีความสุขแล้ว....มันก็แค่ความสุขเล็กๆคนเด็กคนหนึ่งไม่ใช่รึไง...ก็แค่เด็กที่อยากจะไปเกิดเหมือนคนอื่นบ้างเท่านั้นเอง.....
นานเท่าไรไม่รู้ที่ มี๊แจและมุนบิน กอดกันอยู่ตรงนั้น ในที่สุดเสียงสะอื้นก็ค่อยๆเบาลงและหายไปพร้อมกับแรงกอดรัดที่เอวบาง แจจุงช้อนตัวมุนบินขึ้นอย่างอ่อนโยนแล้วพาไปนอนที่โซฟา อดแปลกใจไม่ได้เมื่อเสื้อผ้าที่เคยเปียกโชกกลับแห้งอย่างปกติเหมือนคนไม่เคยตากฝน...อ๋อ ก็มุนบินเป็นเทพนี่นา... แจจุงคิดพลางยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ด้วยความเอ็นดูแต่จู่ๆร่างบางก็นึกครึ้มอะไรขึ้นมาก็ไม่รู้ ปากสวยก้มลงไปจุ๊บหน้าผากของเด็กน้อยเบาๆแล้วก้มลงกระซิบข้างๆหูบอกให้ฝันดี...เหมือนเป็นมนต์วิเศษที่ขับกล่อมให้เด็กน้อยหลับอย่างมีความสุข...ไปอีกหนึ่งคืน...
********************
อาหารง่ายๆถูกทำด้วยความประณีตตามประสาคนชอบทำอาหาร ด้วยความที่อยู่คนเดียวมาเป็นเวลานานจึงทำให้ร่างบางเลือกที่จะฝึกทำอาหารด้วยตนเองมากกว่าที่จะออกไปตระเวนหาซื้อของกินนอกบ้านให้เปลืองเงินเล่น กับข้าวสองสามอย่างที่ถึงแม้จะไม่มากนักแต่ถ้าหากได้ลองชิมดูแล้วก็ต้องยกนิ้วให้แล้วบอกว่าฝีมือดีกว่าเซฟระดับโรงแรมห้าดาวบางคนถูกเสิร์ฟวางบนโต๊ะอาหาร ข้าวสวยร้อนๆส่งตรงจากประเทศไทยสองจานถูกวางไว้ในด้านตรงข้ามกัน ก่อนที่แก้วน้ำเปล่าสองแก้วจะวางลงมาปิดท้าย
ยุนโฮที่เพิ่งจะอาบน้ำเสร็จมาดๆเดินลงมายังชั้นล่างที่ร่างบางกำลังทำอาหารอยู่ในครัว กลิ่นเครื่องแกงของโปรดที่ไม่ค่อยได้กินบ่อยมากนักลอยเข้ามากระทบจมูก ขายาวๆรีบก้าวเข้าไปในครัวโดยเร็วเพราะกระเพาะน้อยๆของเขาเริ่มส่งเสียงโครกครากเสียจนน่าเกลียดเสียแล้ว...ภาพคนตัวบางๆกำลังจัดโต๊ะอาหารทำให้ท่านประธานบริษัทอมยิ้ม....ผู้ชายอะไรมองข้างหลังยังกะผู้หญิงแหนะ พอร่างบางหันมาเท่านั้นแหละหน้าเข้มๆก็ถูกยกขึ้นมาใช้อีกครั้งแต่แจจุงก็ยังยิ้มหวานตอบกลับไปแล้วชวนให้ท่านประธานมากินข้าว
“อ้าว! คุณยุนโฮ อาหารเสร็จแล้วครับมาทานข้าวเถอะเดี๋ยวโรคกระเพาะกำเริบนะครับ”เพราะทำงานด้วยกันมานานนี่แหละทำให้ร่างบางรู้ว่าร่างสูงมีโรคประจำตัวคือโรคกระเพาะอาหารและทุกครั้งที่เป็นก็ค่อนข้างทรมาน อาหารการกินจึงอีกเรื่องที่ร่างบางค่อยดูแลมาตลอด...แต่ยุนโฮก็ยังไม่เคยทานอาหารฝีมือแจจุงสักที
“ทำไมล่ะครับ...ไม่อร่อยเหรอ?”แจจุงหน้าเสียทันทีเมื่อเห็นว่ายุนโฮถือช้อนค้างเอาไว้นานเกินควร แต่ร่างสูงกลับส่ายหน้ากลับมาแล้วยิ้มให้เพียเล็กน้อย
“เปล่าหรอก...ก็พอใช้ได้ แค่ไม่คิดว่านายจะทำกับข้าวเป็นด้วย”ไม่จริง! อร่อยมาเลยต่างหาก ไม่ใช่ว่ากลัวเสียฟอร์มที่พูดไปแบบนั้น...ก็เขาไม่รู้จะพูดอย่างไรดีเพื่อให้มันดูดี ก็เลยพูดแบบนั้นออกไป....ทำไมถึงปากแข็งนักนะ!
ร่างบางเริ่มยิ้มออกเมื่อเห็นท่านประธานกินเอาๆไม่หยุดๆ หนำซ้ำยังขอเติมอีกจานด้วยซ้ำ...ท่าทางจะหิวมากจริงๆ ขนาดเขานั่งมองยังแทบจะอิ่มแทนเลย สรุปแล้วอาหารที่ทำในวันนี้ก็ไม่เสียเปล่าเพราะมันไม่เหลือเลยต่างหาก แจจุงบอกให้ยุนโฮไปพักผ่อนได้ตามสบาย แต่ยังไงซะนี่ก็ไม่ใช่บ้านของร่างสูงเอง เขาจึงนั่งอยู่บนเตียงนอนเพื่อรอร่างบางล้างจานเสร็จ แจจุงเดินข้าวมาในห้องนอนอย่างลืมตัวแต่พอเห็นยุนโฮนั่งอยู่ก็ตกใจและเตรียมจะหมุนตัวกลับ
“เดี๋ยวสิ จะไปไหน”ทั้งที่ใช้น้ำเสียปกติในการพูดแล้วแต่สำหรับแจจุงมันก็ยังดูเด็ดขาดอยู่ดี กายบางค่อยหมุนตัวกลับมาช้าๆพร้อมทำหน้าเหรอหราอย่างงงๆ...ก็จะเรียกเขาไว้ทำไม??
“ครับ..ก็ไปนอนไงครับ”
“แล้วนายจะไปนอนที่ไหนล่ะ?”ร่างบางเงียบไปชั่วครู่อย่างใช้ความคิด แต่คิดยังไงก็คิดไม่ออก
“นอนด้วยกันนี่แหละ...กลัวอะไรล่ะ”ยุนโอพูดแบบชิวๆเหมือนไม่คิดอะไรทั้งที่ในใจเต้นตึกตัก...แต่จะให้แจจุงไปนอนที่ไหนล่ะถ้าไม่ใช่ห้องนอนจริงไหม?
“คุณยุนโฮนอนบนเตียงไปเถอะครับ เดี๋ยวผมไปนอนที่โซฟา”ไม่พูดเปล่า ร่างบางเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าแล้วหอบผ้าห่มกับหมอนออกมาทำให้ร่างสูงต้องจับของพวกนั้นยัดกลับไปที่เดิม แจจุงหันหน้าหลับมาเหมือนจะเอาเรื่องแต่ก็ต้องรีบทำสีหน้าให้เป็นปกติเมื่อคนตรงหน้าไม่ใช่เพื่อนเล่น...นั่นเจ้านายเลยนะTT
สรุปจนแล้วจนรอดแจจุงก็ต้องนอนเตียงเดียวกับยุนโฮอยู่ดี อันที่จริงผุ้ชายด้วยกันก็ไม่เห็นจำเป็นต้องเอาหมอนข้างกั้นข้างแถมต่างฝ่ายต่างยังนอนติดกับขอบเตียงคนล่ะจนแทบจะตกเตียงหรอกนะ...แต่ก็คงไม่ใช่สองคนนี้หรอก ตามเสต็ปฟิคธรรมดาทั่วไปแล้ว พอนอนไปเรื่อยๆอากาศจะเย็นลงทั้งคู่จะหนาวขึ้น เซเมะเขยิบเข้ามาอุเคะเขยิบเข้ามา แล้วนอนกอดกันหมอนข้างหายไปไหนก็รู้ ตื่นเช้ามาก็จะพบว่าตนเองอยู่ในอ้อมกอดอบอุนของกันและกัน กรี๊ดดด โรแมนติก ใช่และฟิคเรื่องนี้จะเป็นเช่นนั้นถ้าไม่นับหนูน้อยมุนบินที่ยิ้มแก้มปริอยู่ปลายเตียง คทาอันเล็กปรากฏขึ้นมาบนมืออวบๆที่กำลังทำท่าเหมือนใช้ไม้วิเศษแงะอะไรสักอย่างทั้งที่ข้างหน้าก็เป็นเพียงอากาศว่างเปล่า...แต่เรื่องของเรื่องคือมุนบินไม่ได้แงะอากาศนี่สิ! แล้วมุนบินแงะอะไรกันล่ะ???
********************
กระดุมชุดนอนหลุดออกทีละเม็ด...ทีละเม็ด มือที่จับคทาเล็กๆอยู่ค่อยๆวาดอากาศแหวกสาบเสื้อของคนถูกกอดออกเผยหัวไหล่ขาวๆเรื่อยไปถึงเนินอก มือเล็กๆลากผ้าห่มหนาที่คลุมร่างของคนทั้งสองไว้ให้ลงไปกองอยู่บนพื้น แขนแกร่งกระชับร่างบางในอ้อมกอดแน่นขึ้นไปอีกเพราะความหนาว ส่วนแจจุงนั้นก็ซุกตัวลงกับอกกว้างๆแขนเรียวพาดลงกอดเอวหนาหาความอบอุ่น มุนบินหัวเราะคิกคักอย่างมีความสุขกับแผนการของตนเองที่ค่อยๆดำเนินไป อันที่จริงถ้าจะทำให้เขาไปเกิดเลยเขาก็ทำได้สบายๆอยู่แล้วเพียงแค่ยิงศรเสน่หาเพียงแค่ครั้งเดียวฤทธิ์ยาที่ท่านฮีชอลเคยปรุงแต่งแล้วป้ายเอาไว้ตรงปลายศรก็จะออกฤทธิ์ทันที แต่ถ้าทำแบบนั้นเขาก็ไม่ได้เกิดจากความรักที่แท้จริงน่ะสิ เขาไม่ได้ต้องการแบบนั้นซะหน่อย ร่างสูงเริ่มขยับตัวยุกยิก มุนบินลอยไปส่องอยู่นอกหน้าต่างห้องนอนเพื่อดูผลที่ตนเองทำเอาไว้ มือหนาลูบขึ้นมาตามลำแขนขาวแล้วค่อยๆแหวกเสื้อตัวบางออกทั้งที่ตายังหลับอยู่ ใบหน้าคมยิ้มเคลิ้มๆอย่างคนฝันดี ฝ่ายร่างบางนั้นเริ่มขยับหนีเมื่อรู้สึกถึงอะไรสักอย่างที่มาลูบๆแผ่นอกของตนเอง ตากลมโตค่อยลืมขึ้นพร้อมๆกับอีกฝ่ายที่เหมือนจะตื่นจากความฝันทั้งสองกระพริบตาช้าๆเพราะยังไม่คุ้นชินกับแสงแดดที่ลอดเข้ามาทางหน้าต่าง..
“อ๊า!!!!”เป็นร่างบางที่ได้สติก่อนแล้วกระโดดลงจากเตียงอันตรายอย่างรวดเร็ว มือขาวรวบกระชับเสื้อตัวบางให้เข้าที่เข้าทางมากขึ้น
“เฮ้ย!..คือ..ม..มัน..ว่า...ฉันแค่....”ยุนโฮเพิ่งจะตื่นได้เต็มๆตาก็ตอนที่ร่างบางกระโดดลงจากเตียงไปแล้วเหมือนจะพยายามอธิบายทั้งแค่แค่พูดยังพูดไม่ออก สมองอันชาญฉลาดที่ตอนนี้กลายเป็นสมองหมีๆธรรมดากำลังเรียบเรียงเหตุการณ์อย่างยากลำบาก...เขาจำได้ว่าเขากำลังฝัน......แล้ว....
“ผมไปอาบน้ำก่อนนะครับ”ยังพูดไม่ทันจบประโยคดีคนที่ถูกทำมิดีมิร้ายก็ตัดบทแล้ววิ่งเข้าห้องน้ำไปเสียแล้วทิ้งคนที่ผิดเต็มๆให้นั่งขยี้หัวอยู่บนเตียงอย่างหัวเสีย
ปังงง!!
ทันทีที่ประตูห้องน้ำปิดลง ร่างบางก็ถึงกับเข่าอ่อนทรุดตัวลงกับพื้นห้องน้ำโดยทันที มือขาวที่รวบเสื้อผ้าเอาไว้คลายอ่อน ใบหน้าแดงเถือกขึ้นอีกเมื่อเผลอลูบไปตามผิวเนื้อที่ถูกลูบไล้เมื่อครู่....เกือบไปแล้ว...เกือบไป.... ขาเรียวหยัดกายขึ้นอีกแล้วเดินไปเปิดฝักบัวชำระร่างกาย สายน้ำไหลผ่านเปลือกตาที่ปิดลงเมื่อไรภาพและสัมผัสเมื่อครู่ก็มักผุดขึ้นมาให้เห็น หรือแม้กระทั่งใบหน้าหล่อเหลาที่มักเห็นในระยะประชิดปากเฉียดปากก็ยังลอยขึ้นมาเหมือนกลั่นแกล้ง...ยิ่งลืมยิ่งจดจำ ยิ่งสลัดทิ้งยิ่งนึกคิด ยิ่งถูกายแรงๆหมายจะให้สัมผัสเลือนหายก็ยิ่งรู้สึก ฝักบัวถูกปิดลงเมื่อร่างบางอาบน้ำเสร็จ ผ้าเช็ดตัวสีขาวถูกยกขึ้นมาซับผมนุ่ม ใบหน้าของตนเองฉายชัดในกระจกอีกฝั่ง แจจุงยกมือขึ้นกุมแก้มทั้งสองข้างเมื่อเห็นว่าตนเองหน้าแดงเกินไปแล้ว ภาพเก่าถูกฉายขึ้นอีกในสมองทั้งที่ยังไม่ลืมมันไป โครงหน้าสวยสะบัดไปมาเรียกสติสูดลมหายใจลึกๆหยิบเสื้อคลุมขึ้นมาสวมแล้วเปิดประตูห้องน้ำเพื่อออกไปแต่งตัว
ปังงง!! เสียงปิดประตูห้องน้ำดังขึ้นอีก เพราะร่างสูงที่ยืนอยู่หน้าประตู แจจุงค่อยๆเปิดประตูห้องน้ำมาอีกครั้ง และครั้งนี้ยุนโฮก็ไม่ยอมให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย ตัวหนาๆแทรกเข้าผ่านประตูก่อนที่มันจะปิดลง นิ้วยาวกดล็อกทั้งที่ไม่จำเป็นเลยสักนิด แต่สิ่งที่จำเป็นคือการยึดข้อมือของร่างบางเอาไว้เหมือนกับที่ร่างสูงกำลังทำอยู่ในตอนนี้ต่างหาก แจจุงก้มหน้าหลบเมื่อสบตากับยุนโฮเต็มๆ
“เงยหน้าขึ้น”เสียงแข็งๆยากที่ใครจะขัดขืนทำให้ร่างบางกลัวจนไม่กล้าทำอะไร ร่างสูงถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วนึกไปถึงสมัยที่ตัวเองยังไม่ทิ้งลายเสือ....
สาวๆน่ะเหรอ ก็ต้องอ่อนโยนสิ ถึงจะล่อให้ติดกับง่าย
นั่นคือคำพูดที่เขาเคยพูดไว้...แต่แจจุงเป็นพูดชายไม่ใช่เหรอ? เอาว่ะ! ลองดูก็ไม่เสียหาย
“เงยหน้าขึ้นมาคุยกันก่อน...แจจุง”เสียงแข็งเมื่อครู่ถูกผ่อนปรนให้อ่อนลง มือหน้าค่อยๆเชยคางมนให้เงยขึ้นมาสบตา
“ป...ปล่อยผม”แจจุงสะบัดตัวหนีอีกครั้ง อีกครั้งแล้วที่แจจุงเป็นฝ่ายหนี...แล้วจะมีสักครั้งไหมที่จะคุยกันรู้เรื่อง!! ความโกรธพุ่งวูบเมื่อเลขาที่เคยเป็นคนเก่งกลับกลายเป็นคนไร้เหตุผลมีอะไรก็เอาแต่จะเดินหันหลังให้อย่างเดียว มือหนาคว้าเอวบางของคนที่กำลังจะเอื้อมมือไปเปิดประตูเอาไว้ แขนแกร่งรัดแน่นจนแจจุงต้องนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ...
“โอ้ยยยย!!! ผมเจ็บ!!”น้ำตาเม็ดเล็กคลอเบ้า ยุนโฮตะคอกใส่แจจุงเสียงดังอย่างไม่เคยเป็น
“หยุดดิ้นได้แล้ว!! อย่าทำให้ฉันโมโหนะคิม-แจ-จุง!!!”ชื่อเต็มๆมักจะถูกเรียกขึ้นในยามที่ไม่ปกติ แต่ในครั้งนี้มันต่างจากครั้งก่อนความรู้สึกมันไม่เหมือนกัน...แล้วสิ่งที่เขากลัวคืออะไร คนที่เหมือนอสูรร้าย หรือหัวใจของตนเองที่อยากจะบินหนีความจริง....
********************
และแล้วเรื่องราวของทั้งคู่ก็จบกันง่ายๆด้วยการปรับความเข้าใจและเลิกแล้วต่อกัน ยุนโฮขอให้แจจุงทำตัวตามปกติ ทั้งที่เรื่องมันควรจะจบแล้วแท้ๆแต่ในใจของทั้งคู่ก็ยังคงเคลือบแคลงด้วยอะไรบางอย่างอยู่ดี ยุนโออาบน้ำด้วยอารมณ์ที่ไม่ปกติและแจจุงก็ทำอาหารด้วยอารมณ์ที่ไม่ปกติ ร่างบางกวาดสายตาไปรอบๆตัว นึกสงสัยอยู่เหมือนกันว่าเทพน้อยหายไปไหน? มือเรียวปิดแก๊สลงทันทีที่สายตาเบนออกไปนอกหน้าต่าง...มุนบินไปนั่งทำอะไรตรงนั้นนะ แจจุงคิดด้วยความสงสัยก่อนจะรีบวิ่งไปไขข้อข้องใจของตนเอง...หวังว่าเรื่องนั้นคงไม่ใช่ฝีมือมุนบินหรอกนะ!!
ร่างสูงก้าวลงไปในอ่างอาบน้ำที่มีน้ำอยู่เกือบเต็ม มือหนาวักน้ำขึ้นลูบหน้าเล็กน้อยก่อนจะดำดิ่งลงไปในอ่างทั้งตัว....เขาทำอะไรลงไป คำถามที่วนเวียนอยู่ในสมองไปมาไม่จบสิ้น...จำได้เพียงแค่ฝัน แค่ฝันว่ากำลังกอดอะไรบางอย่างที่นุ่มนิ่ม ความรู้สึกคืออยากกอด อยากลูบไล้....ไม่คิดว่าจะให้ผลเสียถึงขนาดนี้....ป่านนี้แจจุงคงเกลียดเขาไปแล้วมั้งไปทำกับเค้าไปขนาดนั้นนี่! คนที่ผุดขึ้นมาจากน้ำแล้วถอนหายไปเฮือกใหญ่ด้วยอารมณ์ที่บ่งบอกไม่ถูก...เสียใจ รู้สึกดี หรือรู้สึกผิด....
“ฮือ..อือ...ฮึก..ฮืออออออ”เสียงเด็กร้องไห้ระงมทำให้แจจุงต้องขมวดคิ้วแน่น มือขาวจับไหล่เล็กๆของมุนบินให้หันมาประจันหน้ากับตนเอง....ความรู้สึกที่อยากจะเค้นเอาความจริงดับวูบลงเมื่อเห็นน้ำตาที่นองหน้า....มุนบิน...ร้องไห้ทำไมอีก.......
“มี๊แจ...ฮือออ..มี๊แจไม่อยากให้มุนบินไปเกิดเหรอฮะ”แขนเล็กตวัดเข้าโอบเอวร่างบาง ซุกหน้าลงกับหน้าท้องแบนราบเพื่อลบรอยน้ำตาที่ยังคงไหลออกมาเรื่อยๆ
“ท....ทำไมคิดอย่างนั้นล่ะ”ไม่ใช่ว่าร่างบางไม่อยากให้มุนบินไปเกิด...เพียงแต่....จะให้เขาทำยังไงได้....ในเมื่อเขาไม่ได้รักยุนโฮ...เขาไม่อยากแต่งงานแล้วมีลูกกับคนที่เขาไม่ได้รัก เพราะกลัว....กลัวเด็กที่เกิดมาจะขาดความอบอุ่น....
“มี๊แจรังเกียจป๊ะป๋า”เด็กน้อยเอ่ยขึ้นอย่างตัดพ้อ...เห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง...ตีความทุกอย่างได้ด้วยตนเอง...แต่เป็นความคิดเด็กๆ...ที่ยังไม่รู้จักกระทั่ง...ความรัก
ร่างบางถึงกับสะอึกเมื่อได้ยินน้ำเสียงกล่าวโทษเช่นนั้น...จริงหรือที่รังเกียจ? มือขาวลูบหัวเด็กน้อยเบาๆด้วยใจที่เลื่อนลอย ไม่ใช่รังเกียจ....ไม่ได้รังเกียจสัมผัสนั้นสักนิด ปากอิ่มเม้มเข้าหากันอย่างเคร่งเครียด...จะทำยังไง...จะทำยังไงไม่ให้เรื่องมันแย่ไปกว่านี้ แค่นี้ก็จะเข้าหน้ากับคุณยุนโฮไม่ติด...แล้วถ้ามากกว่านี้ล่ะ??
********************
“อ้าว คุณยุนโฮ...ลงมาพอดีเลย...ทานข้าวเช้านะครับ”ร่างบางยิ้มจนตาหยีให้คนที่เพิ่งเดินเข้ามาใหม่ๆ..
ในที่สุด...เขาก็ยอมจนได้สิน่า...
การทำให้คนคนหนึ่งรักไม่ใช่ง่ายๆ...แล้วยิ่งเขาก็ไม่ได้รักด้วยแล้ว ก็เท่ากับต้องนับศูนย์ทั้งคู่สินะ
“นายทำอาหารกินเองตลอดเลยเหรอ”ร่างสูงตั้งคำถามเรียบๆเพราะรู้สึกว่าอาหารที่ร่างบางทำอร่อยเหลือเกินเมื่อกี้เขาลองโทรไปปรึกษาผู้รู้มา...ขั้นแรกคือต้องพูดดีๆกับเขาสินะ...
ขั้นแรกของความรัก...ทำปากให้ตรงกับใจ
“ครับ...ผมอยู่คนเดียวมาตลอดเลยต้องพึ่งตัวเองน่ะ...ไม่อร่อยหรือครับ?”เมื่อคืนคุณยุนโฮบอกว่าใช้ได้(ถึงจะกินหมดเกลี้ยงก็เถอะ)...หรือว่าตอนนี้มันจะไม่อร่อยแล้วนะ???
“เปล่าหรอก...อร่อยดี...ฉันชอบมันนะ”พูดจบร่างสูงก็ก้มหน้าก้มตากินท่าเดียว...ซ่อนหน้าแดงๆเอาไว้ไม่ให้ใครเห็น บรรยากาศรอบตัวผ่อนคลายมากกว่าที่คิดเอาไว้
ยุนโฮ...พยายามที่จะจีบแจจุง...เพราะคิดว่าใช่
แจจุง...พยายามทำให้ยุนโฮรัก...โดยไม่เคยรู้ว่าตนเองก็มีใจ
มุนบิน...อยากเป็นเด็กที่เกิดขึ้นจากความรักของพ่อและแม่...ทั้งที่ยังไม่รู้อนาคต
ต่างคนก็ต่างมีความคิดเป็นของตัวเอง...
ความคิดที่ไปในทางเดียวกัน...
แต่กลับจะสวนทางกันจนยากที่จะบรรจบ
แล้วเมื่อไร...เส้นตรงของแต่ละคน...จะเข้ามาขนานกันเสียที...
ไม่มีใครรู้ได้หรอกนะ...เพราะมันเป็นเรื่องของอนาคต…
และการกระทำ....
********************
ผ่านมาหลายวันแล้วรถของแจจุงก็ยังคงซ่อมไม่เสร็จ ยุนโฮรับหน้าเป็นสารถีสุดหล่อเทียวรับเทียวส่งร่างบางอย่างเต็มใจ ส่วนแจจุงก็ทำอาหารเช้าให้ยุนโฮทาน และตอนเย็นร่างสูงก็ทานอาหารกับร่างบางก่อนแล้วค่อยกลับบ้าน เหตุการณ์เป็นแบบนี้มาหลายวันจนแม่บ้านคฤหาสน์ชองชักจะน้อยใจ แต่ก็ดีใจที่เห็นยุนโฮมีความสุขและยิ้มง่ายขึ้น ถึงจะไม่รู้ว่าคนที่ทำให้คุณยุนโฮดูดีขึ้นมาผิดหูผิดตาเป็นใครก็เถอะ! แต่ถึงไงก็คงจะต้องขอบคุณคุณคนนั้นมากจริงๆ ก็อย่างที่หลายๆคนทราบเมื่อก่อนยุนโฮเป็นเพลย์บอยเจ้าคารมตัวพ่อ...แต่รู้สึกว่าปัจจุบันนิสัยเดิมจะมักถูกหยิบขึ้นมาใช้กับร่างบางบ่อยๆ
นิสัยแบบไหนน่ะเหรอ??...จะยกตัวอย่างให้ดูแล้วกัน^^
....ลวนลามแบบเนียนๆ
....ชอบทำให้สาวๆ(อุเคะ)เขินอายจนหน้าแดง
....หาโอกาสใกล้ชิด
....พูดจาดีๆ น่ารักๆ
...ทำตัวอ่อนโยน(ซึ่งอันที่จริงยุนโฮก็มีอยู่แล้ว)
...ทำปากให้ตรงกับใจ(อุตส่าห์หน้าด้านโทรไปถามพ่อมาTT)
เฮ้อ!! ป๊ายุนทำถึงขนาดนี้แล้วทำไมมี๊แจถึงไม่รู้ว่าป๊ายุนชอบสักทีน๊า...มุนบินยังดูออกเลย...
ส่วนแจจุงน่ะเหรอ ตอนเรียนก็ใช่ย่อยที่ไหนกัน ถึงแม้ปัจจุบันแจจุงจะเรียบร้อยดังผ้าเคยยับพับเอาไว้ แต่ย้อนไปตอนนั้นแจจุงก็เคยเที่ยวผับและรู้จักหว่านเสน่ห์นะ แน่นอน!! กลเม็ดเก่าๆที่เจ้าตัวก็แทบจะลืมเลือนถูกงัดเอามาใช้อีกครั้ง...แต่รู้ว่าตัวเองก็ถูกต้อนให้จนมุมทุกทีเลยTT
ยังไงน่ะเหรอ!!
...เบสิคๆก็ปลดกระดุมเสื้อออกสักสองสามเม็ด...ขาวใช่ไหมล๊า...><
...ยิ้มหวานๆให้บ่อยๆ(มุนบินแนะนำมา)
....หาโอกาสทำอะไรด้วยกัน(อันนี้มุนบินก็แนะนำให้ทานอาหารร่วมกันไง...)
....ทำตัวน่ารักๆให้สมเคะเข้าไว้(มุนบินก็แนะนำมาเหมือนกัน)
แล้วก็อีกตั้งเยอะแยะแหนะ! พอบอกมี๊แจว่าป๊ายุนปิ๊งก็ไม่เชื่อ! มี๊แจอ่ะดื้อที่สุดเลย!!
********************
เช้าวันนี้ก็คงเหมือนเช้าปกติทั่วไปที่ท่านประธานสุดหล่อจะมีคุณเลขานั่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถไปทำงาน...แตกต่างกันที่ว่าวันนี้คงเป็นวันสุดท้ายที่แจจุงจะอาศัยรถคันหรูของร่างสูงมาทำงานที่บริษัท...
“คุณยุนโฮครับ...รถของผมซ่อมเสร็จแล้วนะครับ”คำบอกกลายๆว่าไม่ต้องมารับมาส่งอีกแล้วทำเอาอีกคนใจหวิวแปลกๆซึ่งคนพูดเองก็รู้สึกไม่ต่างกันมากนัก
...ไม่มีคนนั่งข้างๆเวลาขับรถ
....ไม่มีคนมารับมาส่งที่บ้าน
...ไม่มีคนคอยทำอาหารให้ทาน
...ต้องนั่งทำอาหารเพื่อจะกินคนเดียว
ส่วนที่ถูกเติมเต็มมาตลอด 2 อาทิตย์โดยไม่รู้ตัวกำลังจะขาดหายไป...แบบไม่ทันได้ตั้งตัว...
“แล้ว...จะไปรับรถเมื่อไรล่ะ...เดี๋ยวฉันไปส่ง”ร่าสูงเอ่ยขึ้นหลังจากที่เงียบกันมานานจะรู้สึกอึกอัดกันทั้งคู่....ก็แค่กับไปใช้ชีวิตเหมือนเดิม...แต่ทำไมถึงไม่อยากให้เป็นแบบนั้นนะ....
“เย็นนี้ก็คงไปรับเลยนะครับ...ผมไม่อยากรบกวนท่านประธานมากจนเกินไป”คำพูดถ่อมตัวถูกปั้นแต่งสรรค์สร้างขึ้นมาจนคนที่ฟังก็รู้สึกไปด้วย....ทั้งๆที่ก็ยังอยากให้เป็นแบบนี้อยู่แท้ๆ...แต่ทำไม...ถึงพูดออกไปแบบนั้น...
“อืม”ครางรับในลำคอเบาๆเป็นเชิงรับรู้ รถทั้งคันตกอยู่ในความเงียบอีกครั้งเมื่อต่างคนก็ต่างจมอยู่กับความคิดของตัวเอง
...ความคิดของคนสองคน
...ต่างคนต่างหัวใจ
...แต่ไม่ต่างความคิด
********************
เฮ้อ!! หลายวันแล้วสินะ...ที่เขาต้องขับรถกลับบ้านเอง...บรรยากาศแบบนี้มันเหงาชะมัด!
กี่ปีแล้วนะที่กลับบ้านคนเดียว กินข้าวคนเดียว...
แต่ไม่กี่วันที่มีอีกคนเข้ามาทำไมถึงรู้สึกว่ามันไม่ใช่...ทั้งที่ทุกอย่างยังเหมือนเดิม
บ้านก็หลังเดิม....
รถก็คันเดิม...
คงก็มีเพียงความรู้สึก...ที่เปลี่ยนไป
ก๊อก...แก๊ก
เสียงเหมือนคนเปิดประตูบ้านทำเอาคนที่ตกอยู่ในห้วงความคิดมานานสะดุ้งเฮือก!! มือเรียวจับทัพพีในมือแน่นอย่างเตรียมพร้อม...
โจร!!! มันต้องเป็นโจรแน่ๆ งัดเข้าบ้านมาดึกดื่นป่านนี้!!!
แกร๊ง! ร่างบางวางทัพพีในมือเบาๆก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบสากตำครกมาแทน ขาเรียวค่อยๆก้าวออกจากห้องครัวช้าๆ.....
กล้าจริงๆ ทั้งทีไฟในบ้านยังเปิดสว่างจ้าแท้ๆ...มือขาวกระชับสากในมือให้แน่นขึ้นเมื่อเห็นแผ่นหลังของเจ้าโจรโง่ที่แอบลักลอบเข้ามาตายถึงในบ้าน ถึงแม่มันจะดูคุ้นเคยอย่างน่าประหลาด...แต่ร่างบางกลับคิดว่านั่นคือกลลวงตาเสียนี่!!!!
“ตายซะเถอะย้ากกกก!!!!!”
พลัวะ!! ตุบ!! พลัวะ!! พลัวะ!! พลัวะ!!
พอได้โอกาสแล้วก็ใส่ไม่ยั้ง สากตำครกทั้งทุบทั้งตีจนเจ้าหัวขโมยร้องโอ้ยๆด้วยความเจ็บ คนตัวบางๆแต่แรงเยอะกระหน่ำตีไม่หยุดจนโจรร้ายสลบไป...นั้นแหละ! ร่างบางถึงกับได้ฤกษ์เปิดตามาดูหน้าโจรร้ายจะๆได้สักที
“ค...คุณยุนโฮ!!!!!”เสียงหวีดร้องดังลั่นเมื่อคนที่เจ็บจนสลบไม่ใช่โจรร้ายอย่างที่เข้าใจ
...ทำยังไงดี แอบลากศพไปทิ้งแถวหน้าบริษัทอำพรางคดี หรือว่าจะเข้ามอบตัว.....
น้ำลายอึกใหญ่ถูกกลืนลงคอเมื่อนึกถึงผลร้ายที่กำลังจะตามมาในเร็วๆนี้....ถูกไล่ออกจากงานแน่TT
แจจุงเอามือไปอังบริเวณจมูกเพื่อสำรวจว่ายังหายใจอยู่รึเปล่าเมื่อพบว่าลมหายใจยังคงสม่ำเสมอก็โล่งใจ...แต่เอ๊ะ!!
เพื่อความชัวร์ร่างบางจึงโน้มตัวต่ำให้หูอยู่ระดับเดียวกับหัวใจของร่างสูง
ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก
เสียงหัวใจเต้นดังเป็นจังหวะปกตินั้นทำให้คุณเลขาที่เพิ่งทำร้ายท่านประธานไปหยกๆยิ้มร่าแต่ก็ต้องหน้าซีดลงอีกครั้ง...เพราะเลือดที่ไหลออกจากขมับ!!!!
พระเจ้า!!!...ท่านประธานหัวแตก!!!!!!!!
********************
เช้านี้ร่างบางตื่นขึ้นมาด้วยอาการมึนงง เพราะมัวแต่ทำแผลและดูแลท่านประธานจึงทำให้ร่างบางนอนดึกกว่าปกติ ฝ่ายมุนบินที่ดันบินเข้ามาเจอกับเหตุการณ์เลือดสาดพอดีก็ถึงกับส่ายหัว แต่ถึงกระนั้นเด็กน้อยก็ยังอุตส่าห์ช่วยร่ายมนต์เพื่อให้แผลหายไวไว...ไม่อย่างนั้นวันนี้คุณยุนโอก็คงไม่มานั่งทานข้าวอยู่ตรงหน้าเขาแบบนี้หรอก...ต้องขอบคุณมุนบินเลยนะเนี่ย^^
ร่างสูงคีบผักเข้าปากแล้วเหลือบตาขึ้นมองร่างบางอย่างเกรงๆในขณะที่ร่างบางแสร้งทำตัวปกติสุดๆเพื่อกลบเกลื่อนความผิด พอร่างบางเงยหน้าขึ้นมาสบตา ยุนโฮก็หลบตาแล้วทำเป็นก้มหน้ากินข้าว....แจจุงก็เครียดสิครับ...งานเข้าแล้วไงล่ะ!!!
“เมื่อคืน/เรื่องเมื่อคืน....”พอนึกจะพูดก็ดันพูดออกมาพร้อมกันแต่ก็เป็นยุนโอที่ผายมือออกเชิงว่าให้ร่างบางเป็นฝ่ายพูดก่อน
“เมื่อคืนมาหาผม...มีเรื่องอะไรรึเปล่าครับ”คำถามค้างคาใจถูดถามออกไปแล้ว ในขณะที่ร่างบางทำหน้าตาสงสัยสุดๆ แต่กลับเป็นร่างสูงที่ก้มหน้าลงหนักกว่าเดิม...
“ก็...คิดถึงก็เลยมาหา...แล้วพอโทรหานายก็ไม่รับ...กดกริ่งนายก็ไม่มาเปิด..พอลองจับกลอนดูเลยรู้ว่าไม่ได้ล็อคบ้าน ก็เลยเดินเข้าไปเลย...ขอโทษนะ....ที่ทำให้ตกใจ”ทั้งๆที่ยุนโฮก็พูดตามความจริงแล้วร่างบางก็ไม่ได้ผิดแม้แต่น้อย...แต่ทำไมคนฟังถึงรู้สึกผิด??
“ผมต่างหากที่ต้องขอโทษท่านประธาน ผ..ผมนึกว่าเป็นโจรก็เลย.....”หลายครั้งแล้วที่บทสนทนาของทั้งคู่เงียบลงเพราะเรื่องเล็กน้อย...ครั้งนี้ก็เช่นกัน ทั้งสองนั่งเงียบกินข้าวและไม่ได้พูดอะไรออกมาอีกเลย
“เค้าว่ากินปลาแล้วจะฉลาด”คำพูดเหมือนพูดอยู่กับเด็กของร่างสูงถูกเอ่ยขึ้นมาก่อนที่เนื้อปลาจะถูกคีบไปไว้ในจานข้าวของอีกฝ่าย
แจจุงยิ้มกว้างแล้วตักแกงกินจิของโปรดของร่างสูงไปใส่ไว้ในจานของร่างสูงบ้าง....
“ขอโทษ/ขอโทษ”
“.....................”
“คิกคิก/ฮ่าฮ่าฮ่า”
เสียงหัวเราะดังขึ้น ต่างคนต่างผลัดกันตักอาหารให้กันจนพูนจาน....บรรยากาศแห่งความสุขกลับเข้ามาอีกครั้ง
ถ้าหากไม่มีใครเริ่มก่อน...และต่างคนต่างไม่กล้าที่จะคุย....
คนสองคน...ก็คงคุยกันไม่มีทางรู้เรื่อง....
********************
สวัสดีฮะผมชื่อมุนบินฮะ ใครๆก็บอกว่าผมน่ะน่ารัก....แต่ทำไมผมถึงไม่ได้ไปเกิดสักทีล่ะฮะ ผมไม่เข้าใจเลย คงจะสงสัยกันใช่ไหมล๊า ว่าตอนที่มี๊แจทำงานผมหายไปไหน? ทำไมถึงไม่เห็นหน้าเห็นตา ก็แหม...ผมไม่อยากทำให้มี๊แจรำคาญนี่นา ก็บอกแล้วว่าผมน่ะ...น่ารัก ฮิฮิ^^ แต่วันนี้ผมลอยตามมี๊แจมาทำงานด้วยล่ะฮะ ก็ท่านเทพซีวอนน่ะซี่...ส่งกระแสจิตมาว่าเรื่องที่ผมหนีลงมาจากสรรค์ใกล้จะรู้ถึงหูท่านมหาเทพซีอุสแล้ว....ผมต้องรีบทำตัวเองให้ไปเกิดเร็วที่สุด แต่มี๊แจต้องไม่รู้ตัวด้วยนะฮะ...อย่าบอกใครล่ะ ว่าผมน่ะเป็นคนทำรถมี๊แจพัง แล้วก็ทำให้เกิดพายุด้วย คิกคิก ผมชอบมากๆเลยนะฮะตอนที่ป๊ายุนกับมี๊แจนอนกอดกันอยู่ มันดูน่ารักมากๆเลย ทุกคนก็คิดแบบนั้นใช่ไหมล่ะครับ แต่ผมก็แอบเคืองป๊ายุนกับมี๊แจนิดๆนะฮะ เพราะป๊ายุนอ่ะชอบทำหน้าเหมือนหมีดุๆ มี๊แจก็เลยกลัว ผมก็คิดว่ามันน่ากลัวนะฮะ ส่วนมี๊แจก็ชอบหนีป๊ายุนเลยคุยกันไม่รู้เรื่องสักที...แต่เหตุผลของมี๊แจทำให้ผมอยากจะร้องไห้เลยล่ะฮะ ก็มี๊แจบอกผมว่า....แหมมุนบิน..ก็มี๊แจเขินนี่นา>///< ลองมี๊แจพูดแบบนี้จะให้ผมพูดต่อยังไงล่ะฮะ อืม...เอาล่ะอยากรู้กันแล้วใช่ไหมล่ะฮะว่าผมจะทำอะไรบ้าง^^ งั้น...มาดูกันดีกว่าฮะ เดี๋ยวมุนบินจะย้อนให้ดู^^
ห้องของประธานบริษัทชองกรุ๊ปนั้นอยู่บนชั้นสูงสุดของบริษัท หากไม่ได้ต้องการที่จะติดต่อธุระโดยตรงก็จะไม่มีสิทธิที่จะขึ้นมาได้ และในตอนนี้ทั้งชั้นก็มีเพียง แจจุง เลขาคนสวยขวัญใจของคนแทบจะทั้งบริษัทนั่งทำงานงกๆอยู่เพียงคนเดียว ประตูห้องของท่านประธานยังคงปิดสนิทเพราะคนที่อยู่ข้างในไม่ต้องการให้ใครรบกวน
“แจจุง...ชงกาแฟมาให้ผมหน่อย”เสียงอินเตอร์คอมข้างตัวดังขึ้นในเชิงคำสั่ง ร่างบางเลิกคิ้วขึ้นอย่างแปลกใจแต่ก็ตอบรับคำสั่งนั้นไป
“ครับ...รอสักครู่นะครับ”ปกติคุณยุนโฮไม่ทานกาแฟนี่นา สงสัยวันนี้จะง่วงเอามากๆ...
ร่างสูงยกมือขึ้นกุมขมับแล้วสะบัดหน้าไปมาเพื่อขับไล่ความง่วง...แต่ก็ดูเหมือนจะไม่ช่วยอะไรเลย มุนบินยืนยิ้มอยู่ที่มุมๆหนึ่งในห้องนั้นอย่างกระหยิ่มยิ้มย่อง คทาเล็กถูกยกขึ้นมาร่ายเวทเมนต์อีกครั้งเพื่อทำให้ร่างสูงง่วงหนักกว่าเดิม...ง่วงแต่ไม่สามารถหลับได้....ทั้งที่เพิ่งจะสั่งให้แจจุงชงกาแฟเมื่อครู่แต่คนรอก็รู้สึกว่ามันนานเหลือเกิน...ยุนโฮเดินไปหาร่างบางถึงในห้องห้องครัวขนาดย่อม...ทำให้ร่างบางที่กำลังหมุนตัวกลับมาเพื่อยกกาแฟขึ้นไปเสริฟ์ชนร่างสูงเข้าอย่างจัง กาแฟร้อนๆหกใส่ทั้งคู่แต่ร่างสูงกลับโดยน้ำร้อนๆราดใส่แทบทั้งแก้ว
“โอ้ย!!!!..”
“คุณยุนโฮ!!!”ด้วยความตกใจจึงรีบหยิบกระดาษทิชชู่มาเช็ดกาแฟออกแต่ก็ดูเหมือนจะไม่ช่วยอะไรนัก ร่างบางเริ่มหน้าเสียเมื่อเห็นผิวกายของร่างสูงแดงเถือกเพราะโดนน้ำร้อนลวกแต่ก็ยังคงเช็ดต่อไป
มุนบินถึงกับต้องเอามือปิดตาแบบกางถี่ๆ-*-เพราะสงสารป๊ะป๋าในอานาคต...มุนบินขอโทษนะฮะป๊ายุนแต่ถ้าป๊ายุนอยากได้ลูกชายน่ารักๆแบบมุนบินก็ต้องลงทุนหน่อยนะฮะTT....
ร่างสูงค่อยๆเอื้อมมือไปทางเคาเตอร์ด้านหลังของร่างบางทำให้ทั้งคู่ตกอยู่ในท่าสยิวกิ้วถ้ามองจากด้านหลังก็จะติดเรทอย่างมากมาย...ร่างสูงอดที่จะหัวเราะออกมาเบาๆไม่ได้เพราะคนที่ระแวงเกินเหตุทำท่าทางซะน่ารัก ทิชชู่เนื้อบางกดซับเบาๆที่ต้นคอขาวๆ มือเรียวลูบไล้เบาๆเมื่อคราบกาแฟหมดไปจากผิวเนียนๆ...
“นายร้อนรึเปล่า...แจจุง”เพราะอึ้งกับการกระทำที่ดูแสนจะอบอุ่นทำให้มือที่กำลังสำรวจดูผิวเนื้อของร่างสูงหยุดลง
“ติดกระดุมหน่อยนะ....เห็นหมดแล้ว”ยังไม่จบเท่านั้นร่างสูงติดกระดุมเสื้อที่หลุดลงไปถึงสามเม็ดแบบแทบจะเห็นไปถึงไหนต่อไหนแค่เพียงก้มให้ร่างบาง....ทั้งที่ตั้งใจจะปลดกระดุมออกเพราะยั่วคนตรงหน้าแท้ๆ
ร่างบางสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เมื่อตาสวยเหลือบไปเห็นมุนบินที่ยืนลุ้นอยู่ภายในห้องด้วย มือขาวคว้าข้อมือหนาเอาไว้ก่อนจะดันยุนโฮเข้าประชิดกับเคาเตอร์แทน ปากอิ่มเผยอขึ้นอย่างยั่วยวน ดวงตาหวานเชื่อมขึ้นมาทันตาเห็น กระดุมที่หลุดไปก็ยังไม่ได้ติดแต่กลับมีอีกเม็ดที่หลุดออกด้วยฝีมือของมุนบินเพียงแค่ไหลบางขยับเล็กน้อยเสื้อตัวบางก็ขยับเลื่อนออกซะคนมองแทบใจหายใจคว่ำ
“เป็นอะไรไปหืม...แจจุง”คนปากไม่ตรงกับใจถามเหมือนคนอินโนเช้น ทั้งที่น้ำเสียงและมือหนาที่โอบเอวบางๆเอาไว้ก็บ่งบอกได้ถึงไหนต่อไหน....แจจุงหน้าแดงเถือกแต่ก็ยังพยายามที่จะแสดงบทต่อไป ลำตัวโน้มลงไปเปิดก็อกน้ำทั้งที่ดวงตาเสน่หาก็ยังคงมองดวงหน้าของร่างสูงอยู่ไม่ละไปไหน มือแกร่งเริ่มซุกซนลูบไล้ไปตามเอวเล็กสะโพกบางก่อนจะสอดมือขึ้นสัมผัสลูบไล้ทั่วแผ่นหลัง
“อื้อ...”ร่างบางครางในลำคอเบาๆอย่างพยายามสกัดกั้นไม่ให้เสียงหวานๆของตัวเองไปปลุกอารมณ์ดิบของคนตรงหน้าให้มันมากจนเกินไปมือเปียกน้ำยกขึ้นลูบแผ่นอกของร่างหนาที่โดนน้ำร้อนลวกเบาๆ แล้วเปลี่ยนตำแหน่งลูบขึ้นไปตามแนวลำคอ มือขาวสัมผัสแก้มกร้านเล็กน้อยแต่ก็ต้องสะดุ้งเฮือกขึ้นมาเพราะเหตุการณ์ชักจะเลยเถิดเข้าแล้วจริงๆ จมูกโด่งเข้าซุกไซร้กับลำคอขาวดูดดุนประทับรอยคิสมาร์คเอาไว้ แล้วยิ่งมือหนาที่ตอนนี้เลื้อยไปมายิ่งกว่าปลาหมึกทำให้ร่างบางดันตัวออกมาอย่างแรง
“เออ...เอ่อ...ห..หายร้อนแล้วล่ะครับ!!...ผม..ผมขอตัว!!”น้ำเสียงนั้นไม่ได้แสดงถึงความโกรธเคืองแต่อย่างใด ตรงกันข้าม...มันกับดูหน้ารักหน้าเอ็นดูเสียจนคนที่สมควรจะโกรธจริงๆโกรธไม่ลง
…ถ้าฉันจะโกรธนาย....ก็คงจะเป็นเรื่องที่นายทำให้ฉันร้อนมากกว่าเดิมนี่แหละ...ฝากไว้ก่อนเถอะคนสวย..หึหึหึ!!!
ร่างบางวิ่งออกมาจากห้องนั้นแทบไม่ทันมือขาวรีบติดกระดุมเสื้ออย่างรวดเร็วทั้งยังติดผิดๆถูกๆอีกต่างหาก เขารู้สึกว่าตัวเองหน้าแดงเอามากๆยิ่งพอคิดถึงเรื่องเมื่อกี้หน้าก็ยิ่งร้อนจนแทบจะระเบิด>///<
...ทำไปแล้ว...เขายั่วคุณยุนโฮไปแล้ว...ต่อไปนี้จะคุยกับคุณยุนโฮยังไงล่ะเนี่ย!!...
********************
กลางดึกคืนหนึ่งในฤดูร้อน ขณะที่ร่างบางของคนที่เราก็รู้ว่าใครกำลังเกือบๆจะฝันหวาน เสียงโทรศัพท์ข้างตัวก็ดังขึ้น!
“ฮัลโหล...”แจจุงกดรับแล้วเอาโทรศัพท์มาแนบกับหูทั้งที่ตายังปิดอยู่ แต่พอรู้ว่าใครโทรมาเท่านั้นแหละ...น้ำเสียงงัวเงียในตอนแรกก็หายเป็นปลิดทิ้ง!
“ยังไม่หลับหรอกครับ”เสียงหวานๆตอบปลายสายพลางยิ้มน้อยยิ้มใหญ่...ทำเอามุนบินที่ไม่ค่อยจะเข้าใจอาการของคนมีความรักแต่ยังไม่รู้ตัวเองถึงกับงง....หรือว่ามี๊แจจะคุยกับกิ๊ก!! ไม่นะ!!
“ผมขับรถไปเองก็ได้ครับคุณยุนโฮ”ผ้าห่มผืนหนาถูกปิดไปมาจนยับยู่ยี่เพราะความเขิน มุนบินที่คิดฟุ้งซ่านไปไกลพอได้ยินชื่อของป๊ายุนก็ล้มตัวนอนและกลิ้งไปกลิ้งมาบนเตียงแบบมีความสุขสุดๆ คุยไปคุยมาแจจุงก็ลุกไปยืนคุยตรงระบียงทิ้งมุนบินให้มองตามตาปริบๆ แต่เทพน้อยก็ล้มตัวนอนอย่างเคยชิน....ก็ช่วงนี้ป๊ายุนโทรหามี๊แจบ่อยๆนี่นา><
“ผมมีแฟนที่ไหนกัน>///<”ใบของต้นไม้ริมระเบียงถูกดึงทึ้งไปทีละใบ...ๆ บางใบก็น่าสงสารเหลืออดเพราะนอกจากจะถูกดึงจากต้นแล้วยังโดนมือบางๆขยำจนเละอีกต่างหาก
“ครับ....ราตรีสวัสดิ์ครับ” ร่างบางรอจนแน่ใจว่าปลายสายกดวางไปแล้วแน่ๆจึงเอ่ยคำพูดที่ร่างสูงไม่มีทางได้ยินออกมาสื่อผ่านสายโทรศัพท์ที่ยังคงแนบหู…
“ฝันดีเช่นกันครับ....ยุนโฮ”
คงจะสงสัยล่ะสิว่าเกิดอะไรขึ้นกับยุนแจของเรา.....???
หลังจากที่แจจุงกระทำการเกือบเอ็นซีกับพ่อหมีของเราไปเรียบร้อยแล้ว....
ร่างบางแทบอยากจะโขกหน้าสวยๆลงกับขอบโต๊ะแรงๆให้ภาพสยิวเมื่อครู่ออกไปจากสมองสักที มือบางกุมแก้มทั้งซ้ายขวากลบอาการ “เขินจนหน้าแดง” ส่วนมุนบินนั้นไม่รู้หนีออกมาจากห้องครัวตอนไหน รู้อีกทีก็ตอนที่เขาวิ่งมาแล้วเจอเจ้าตัวนั่งหน้าแดงแปร้ดอยู่บนโต๊ะ...ไม่รู้ว่าทำไมมุนบินต้องหน้าแดงด้วย ก็ยิ่งมีเพื่อนเขินตามไปแบบนี้...เขาก็ยิ่งเขินน่ะสิ!!!
ขณะที่สองแม่ลูกกำลังนั่งเขินอยู่กันสองคน จู่ๆลูกชายตัวน้อยก็อ้าปากเหวออย่างตกใจก่อนจะรีบหายตัวไปอย่างรวดเร็ว ร่างบางขมวดคิ้วขึ้นน้อยๆก่อนจะหมุนเก้าอี้ไปตามทิศทางที่มุนบินมองเมื่อครู่อย่างงงๆ
“ค...คุณยุนโฮ...”เป็นร่างสูงนั่นเองที่ยืนอยู่ด้านหลัง แขนยาวยกขึ้นคล่อมตัวร่างบางเอาไว้พลางยกยิ้มขึ้นอย่างเจ้าเล่ห์ แจจุงหลับตาปี๋เมื่อใบหน้าหล่อเหลากว่าหมีทั่วไปก้มลงมาจนใบหน้าแทบจะชิดกัน แต่ผิดคาด!!! ร่างสูงก้มลงผ่านริมฝีปากน่าจูบไปกระซิบคำบางคำด้วยน้ำเสียงที่ชวนให้ใจเต้นรัวข้างๆหูร่างบางที่แทบจะตกอยู่ในอ้อมกอด
“แจจุง....”
“.............”
“ฉัน-จะ-รุก-จีบ/เฮ้ย! ยุนโฮ! พักร้อนปีนี้เอาไงวะ?”
บทรุกที่กำลังไปได้ดีดันถูกขัดจังหวะก่อนที่ร่างสูงจะพูดจบ...ยูชอน รองประธานบริษัทเพื่อนรักที่เข้ามาขัดจังหวะได้พอดิบพอดีก็โผล่ออกมาจากประตูลิฟต์พร้อมส่งเสียงทักทายแบบมีความสุขสุดๆมาแต่ไกล....แกมีความสุขแต่ฉันทุกข์นะว้อยย!!!!
“เอ่อ รู้แล้วๆ เข้ามาในห้องก่อนมา”ยุนโฮจำต้องผละออกจากร่างบางอย่างจำใจสุดๆ แต่ก็แอบเอาจมูกแตะแก้มเนียนเบาๆเป็นเชิงว่าฝากไว้ก่อน....ฝากไว้ก่อนเถอะไอ้มิก!!!!
หลังจากที่ทิ้งระเบิดลูกเกือบๆจะใหญ่เอาไว้ ยุนโฮก็เดินเข้าห้องไปกับเพื่อนซี้ที่(ทำเหมือนจะ)ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ เหลือเพียงร่างบางที่นั่งนิ่งค้างอยู่กับที่กับมุนบินที่เพิ่งโผล่มา มือเล็กไกวไปมาตรงหน้าหวานๆของมี๊แจเบาๆเมื่อเห็นว่าร่างบางนิ่งผิดปกติเอามากๆ
...แก้ม....เขาถูกหอมแก้มเหรอ???? แค่คิดใบหน้าที่ยังไม่หายแดงก็กลับมาแดงอีกครั้งมือขาวดันมือของมุนบินออกเบาๆ สติที่ยังกลับมาไม่เต็มที่นักเป็นต้องเตลิดอีกครั้ง...นี่เขาฝันไปรึเปล่าเนี่ย!!!!
********************
“ฮิบฮิ้ววว!! ไหนว่าสิ้นลายแล้วไงวะไอ้หมี”เสียงไก่โหยหวนขึ้นมาทันทีที่ประตูบานยักษ์ปิดลง ปากกาด้ามเล็กลอยละลิ่วไปเจาะหัวเถิกๆของเพื่อนหน้าไก่ทันทีที่ร่างสูงทรุดตัวลงกับเก้าอี้ตัวโต
“เฮ้ย!!!! แค่นี้ต้องรุนแรงด้วย...ระวังนะเว้ยย ปล่อยไว้นานๆระวังเลขาโดนคาบไปแดกก” แล้วใครละวะที่มันโผล่มาตอนเขากำลังจะคาบไปแดกซะเองเนี่ย!!!-*-
“มีไร! ว่ามา!”4พยางค์สั้นๆเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์เป็นที่สุด บ่งบอกถึงสภาวะที่ยิ่งกว่าหงุดหงิดของหมีบางตัวได้ดี ยูชอนนั่งลงบนเก้าอี้หน้าโต๊ะท่านประธานแบบชิวๆแฟ้มเอกสารงานพักร้อนประจำปีของบริษัทถูกโยนไปให้ร่างสูงตรวจดูความเรียบร้อย
“นี่นะเว้ยย ปีนี้ไปทะเลโรแมนติกสุดๆ แกก็จัดการเผด็จศึกคุณแจจุงซะ ปาร์ครับรองไม่มีพลาด!!!”สิ้นเสียงคอมเฟิมร์คนรู้เรื่องราวแทบทั้งหมดร่างสูงก็โยนแฟ้มเล่มเดิมไปให้คนที่เสนอแผนการบ้าบอนั่นทันที...แต่เอ๊ะ! คิดไปคิดมามันก็น่าสนใจอยู่????
“จะบ้าเรอะ! เรื่องอย่างนี้มันต้องค่อยเป็นค่อยไปเว้ยย ใครจะเหมือนแกกับน้องพร้าว แม่ง! ไปช่วยเค้าจากการข่มขืนแต่ดันปล้ำเค้าซะเอง!!!”เรื่องราวที่เป็นความจริงสุดๆถูกแฉออกมาสู่สายตารีดเดอร์ด้วยฝีมือของหนุ่มร่างหมีอย่างไม่อาจหยุดยั้งได้ทัน ยูชอนได้แต่ทำปากพะงาบๆก่อนที่จะปล่อยให้เพื่อนไปรักเดินตามทางเวรทางกรรมมของตัวเอง แต่ถึงกระนั้นแล้วร่างสูงก็อดที่จะเอ่ยถามเพื่อนรักถึงความเป็นจริงไม่ได้...ก็เพื่อนเขามันเพลย์บอยเก่านี่????
“ถ้าแกไม่รุกแล้วแกจะให้แจจุงรุกรึไงวะ?“ กายหนาเอนเข้าพิงพนักในขณะที่มือยังควงปากกาเล่นไปมา ปากหยักกระตุกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ทำเอาคำถามเสียวสันหลังวาบ....เอาแล้วไงรอยยิ้มเมื่อ 8 ปีก่อน ยิ้มแบบนี้แจจุงไม่รอดชัวร์ๆ ไก่รับประกันเลยเอ้า!!
“อันที่จริงมีคนหนุนหลังฉันอยู่....”
“.........................”
“เป็นลูกในอนาคตของฉันกับแจจุง!!!!”
********************
ก็รู้ๆกันอยู่ว่าพักหลังๆมานี่ร่างสูงมักจะไปฝากท้องฝากไส้กับร่างบางเป็นประจำ วันนี้ก็เช่นกัน ยุนโฮมองร่างบางที่กำลังทำอาหารอยู่ในครัวด้วยสายตาหวานเชื่อมโดยที่ร่างบางไม่รู้ตัว...ความรู้สึกช้า ขี้อาย คิดมาก ชอบหนี ก็เพราะอย่างนี้ไง? แจจุงถึงได้โสดๆซิงๆมาจนอายุ 27 ปี ถามว่าแก่ไหม...โคตรแก่เลยสิครับ-*-
“แจจุง นายไม่คิดจะมีแฟนกับเค้ามั้งเหรอ?” ประธานชองจอมเจ้าเล่ห์ตะล่อมๆถามเพื่อสร้างความแนบเนียน(ในการถึงเนื้อถึงตัว)
“ก็....คิดครับ”กำลังคิดอยู่ด้วยว่าจะทำยังไงถึงให้คุณมาเป็นป๊ะป๋าของมุนบินดี><
“แล้วทำไมไม่มีซะละ....”ร่างสูงพูดแล้วเดินไปกอดเอวบางที่กำลังคนน้ำซุปอยู่หน้าตาเฉยทำตัวตัวบางสะดุ้งเฮือก...
“คนใกล้ตัวก็มีเยอะแยะไป.”...นั่นรวมถึงฉันด้วยนะแจจุง
ร่างบางค่อยๆแงะมือหนาออกจากเอวช้าๆและร่างสูงก็ยอมปล่อยแต่โดยดี แต่กระนั้นเลยโอกาสทำให้เด็กน้อยเกิดมาถึงใยร่างบางจะไม่คว้าเอาไว้ แม้จะอายนาดไหนก็เถอะ...เอาว่ะ!!! สู้เพื่อลูก!!
“อืม แล้วคนใกล้ตัวที่ว่าเนี่ย.........รวมคุณยุนโฮด้วยรึเปล่าครับ”สายตายั่วยวนช้อนขึ้นสบตาคนตัวสูงกว่า มือบางไล้ไปตามแนวคางที่หนวดเคราเริ่มขึ้นมาบ้างเพราะขาดการดูแล แขนอีกข้างยกขึ้นโอบคอร่างสูงเอาไว้หลวมๆ
“จะเป็นผมคนเดียวได้รึเปล่าน้า.....หืม”ก่อนจะจมูกโด่งเป็นสันจะเข้าประทับที่แก้มเนียนร่างบางก็เบี่ยงตัวออกมาก่อนอย่างคนขี้แกล้ง มือเรียวปิดแก๊สพอดีกับเวลาที่น้ำซุปเดือด ทำเอาร่างสูงถึงกับอารมณ์ค้าง แต่ใบหน้าแสนเจ้าเล่ห์ก็แปรพักต์กลับมาอีกครั้ง เมื่อเห็นแก้มขาวแดงปลั่ง
ฟอดดดดด จมูกโด่งๆสูดเอาความหอมไปเต็มๆ
“อ๊ะ คุณยุนโฮ”ตาโตเบิกกว้างเพราะความขวยเขินมากกว่าตกใจ มือเรียวฟาดเพี๊ยะลงกับไหล่หนาเป็นการทำโทษ
...ถ้าเป็นเมื่อก่อนไม่กล้าตีนะเนี่ย!!!
“นายกล้าตีฉันเหรอ!!!!”เสียงหล่อเข้มแกล้งทำเสียงโหดเหี้ยมเด็ดขาดใส่ ทำเอาร่างบางหน้าซีดเป็นไก่ต้ม เห็นดังนั้นร่างสูงจึงกระทำการลวนลามด้วยการกอดเอวบางอีกครั้งแล้วจัดหอมซ้ายหอมขวาเสียชุดใหญ่
....ยังไม่ทันได้เป็นแฟนกันเลยนะนั่น-*- แล้วคบกันแล้วล่ะ?.....จิ้นกันไปไกลแล้วล่ะสิ><
********************
ในคืนเดือนมืด....คืนที่ท้องฟ้าไม่มีแสงจันทร์ หากแต่แสงไฟสว่างจ้าในกรุงโซลก็กลบกลืนความมืดมิดนั่นไว้จนแทบไม่เห็นดวงดาว ร่างสองร่างยืนเท้าแขนอยู่ตรงระเบียงบ้านภายใต้ความเงียบสงัดภายในหมู่บ้านจัดสรร
“นายว่าคนบนฟ้ามีจริงรึเปล่า?”เสียงทุ้มเอ่ยถามคนข้างกายที่ยืนเงียบมานาน แจจุงทอดสายตามองไปยังท้องฟ้าเวิ้งว้างก่อนจะยิ้มน้อยๆยามนึกถึง มุนบิน เทพน้อยตัวแสบที่อยู่ๆก็เข้ามาวุ่นวายในชีวิต...แถมยังบอกว่าเป็นลูกของเขากับคนข้างๆอีกต่างหาก><
“มีสิครับ...บางทีจู่ๆเค้าก็อาจจะมาหาเราโดยที่เรายังไม่ทันตั้งตัวก็ได้”น้ำเสียงและสายตาที่อ่อนโยนของร่างบางยามมองไปยังสนามหญ้าโล่งๆทำให้ร่างสูงอดที่จะแปลกใจไม่ได้...สิ่งที่แจจุงเห็น คือมุนบินที่กำลังวิ่งเล่นอย่างมีความสุข แต่สิ่งที่ยุนโฮเห็น...มีเพียงความว่างเปล่าเท่านั้น...
“นายว่าเราเจอกันเพราะอะไร”ประโยคสื่อสารถูกส่งขึ้นอีกครั้ง หลังบรรยากาศถูกปกคลุมด้วยความเงียบ สายลมเย็นสบายพัดผ่านไปทั้งที่อยู่ในช่วงฤดูร้อน...ช่วยให้บรรยากาศน่าอึกอัดผ่อนคลายลงได้มากโข
“แล้วคุณยุนโฮคิดว่าเราเจอกันเพราะอะไรล่ะครับ”แจจุงหันมายิ้มหวานให้ร่างสูงแล้วจับมือหนาๆมาแกว่งเล่นไปมาเหมือนเด็ก...ยุนโฮก็ไม่ได้ตอบคำถามกลับเช่นกัน ปากหยักยิ้มกว้างแล้วดึงมือบางๆมาจุ๊บหลายๆทีเสมือนเป็นคำตอบ
...คำตอบที่บอกว่า....ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน.....
“อ๊ะ!! คุณยุนโฮ”แจจุงอุทานอย่างตกใจเมื่อจู่ๆยุนโฮก็ดึงเอวบางๆเข้าไปกอดง่ายๆเสียอย่างนั้นแจจุงดิ้นขลุกขลักไปมาเบาๆ ก่อนจะนิ่งสงบเอนพิงอกกว้าง....
“จีบได้ไหม?”ระยะห่างที่ใกล้ชิดไม่ได้ทำให้ร่างบางตกใจเท่ากับประโยคที่ร่างสูงเอ่ยออกมา...ถึงขนาดนี้แล้วเพิ่งจะมาขอจีบเร๊อะ!! ไม่รู้รึไงว่าคนเขาอนุญาตไปตั้งนานแล้วน่ะ>< ร่างบางคิดอย่างเขินๆก่อนจะพยักหน้าอย่างเอียงอาย ตาหวานเหลือบมองนาฬิกาเรือนสวยที่หอใจกลางหมู่บ้าน แล้วกดจมูกลงกับแกล้มกร้านเบาๆ ลำตัวบางผละออกอย่างรวดเร็วแล้วรีบวิ่งหนีไปด้วยความอาย....ทิ้งให้ร่างสูงยืนทำความเข้าใจกับสัมผัสเมื่อครู่ด้วยตัวเอง
ติ๊ดๆ ติ๊ดๆ เสียงข้อความดังขึ้นเรียกสติของร่างสูงที่ยังคงยืนอยู่ตรงระเบียง คิ้วหนาเลิกขึ้นน้อยๆก่อนจะกดเปิดข้อความที่ถูกส่งมายามวิกาลเช่นนี้...
กลับบ้านได้แล้วครับคุณยุนโฮ...ฝันดีนะครับ...^^
นี่ไงล่ะ...ความหมายของคำว่าหอมแก้ม...ของคิม แจจุง....ถ้อยคำสั้นๆไม่ต้องพรรณนามากคำบรรยาย หากแต่คนอ่านกลับมีความสุข..เมื่อนึกถึงความหมายของมัน
และนี่แหละ! คือสาเหตุที่ทำให้มี๊แจเขินม้วนป๊ายุนได้ปานฉะนั้น เพราะป๊ายุนประกาศจีบมี๊แจต่อหน้าสื่อมวลชน?แล้วนั่นเอง><
********************
กลับมา ณ ปัจจุบัน วันไปเที่ยวทะเลพักร้อน><
พนักงานบริษัทในทริปนี้มีผู้มาเข้าร่วมทัวร์ 50 คน และ1 ใน 10 ส่วนนั้นก็คงจะเป็นสาวๆทั้งหลายที่ยังไม่หมดหวังที่จะงาบท่านประธาน(และพร้อมจะงาบได้ทุกเมื่อด้วย) ยุนโฮเลือกที่จะนั่งรถทัวร์มาพร้อมๆกับพนักงานทั้งหลายแทนที่จะขับรถมาเองโดยให้เหตุผลว่าอยากจะร่วมสนุกกับพนักงานทุกคน...แต่เรื่องของเรื่องคือท่านประธาน+เลขาดันหลับซบกันตั้งแต่รถยังแล่นมาไม่ถึงครึ่งทางน่ะสิ-*-...ปล่อยเค้าไปถอะ...ก็เมื่อคืนเค้าคุยกันดึกนี่นา><
แชะๆๆๆๆๆๆ! เสียงกดชัตเตอร์ดังขึ้นรัวๆแบบไม่กลัวว่าคนหลับจะตื่น ยูชอนมองภาพที่แอบสวีทเล็กๆผ่านเลนส์กล้องด้วยสายตาที่ปิติยินดีเป็นที่สุด!!!....ในที่สุดเพื่อนตรูก็ได้พบศรีภรรยาในอนาคตกับเขาสักทีTT ปาร์คเฝ้ารอวันที่จะเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวมานานแสนนาน อีกไม่นานสินะ..หึหึหึ!
“อืม......ไอ้ปาร์คไม่ต้องมาถ่ายเลย เดี๋ยวแจจุงตื่น”ทันทีที่ตาคมลืมขึ้น น้ำเสียงงัวเงียๆก็ถูกใช้ไล่เพื่อนปาร์คที่กำลังถ่ายรูปอย่างเมามันไปไกลๆทันที ยูชอนทำหน้างอนแล้วเดินสะบัดตูดหายไปอย่างเปิดโอกาสให้สุดๆ ร่างสูงยิ้มให้ร่างบางที่ยังหลับไม่รู้เรื่องอย่างเอ็นดู ตาคมมองซ้ายมองขาวด้วยท่าทางที่ลับๆล่อๆเมื่อเห็นว่าไม่มีใครมาสนใจตนเองและร่างบาง ปากหยักก็ก้มลงไปจุ๊บปากนิ่มๆเสมือนเป็นการขโมยรางวัลที่แสนจะหอมหวาน
“อ๊ะ คุณยุนโฮ” มือขาวผลักร่างสูงออกเบาๆแล้วค่อยๆเลื่อนตัวมาพิงพนักอย่างเก้อเขิน....คุณยุนโฮฉวยโอกาสที่สุดเลย>< เขาแค่นอนหลับตาซบไหล่เองนะไม่ได้หลับ ถึงกับต้องจุ๊บกันเลยเหรอ>//<
“ฉวยโอกาสนี่ครับ...แบบนี้ต้องเอาคืนรู้รึเปล่า?”แทนที่ร่างบางจะโกรธอย่างที่ควรเป็น ปากนิ่มๆที่ได้สัมผัสเมื่อครู่กลับประกบเข้าหาปากหยักเบาๆ ตาโตหลับพริ้ม ลิ้นร้อนดุนดันอยากที่จะแทรกเข้าไปสำรวจภายในหนักหนาแต่ก็เป็นร่างบางที่ผละออกมาซะก่อน มือบางปิดปากของร่างสูงที่ไล่ต้อนเข้ามาเอาไว้ให้หยุดอยู่แค่นั้น….เขาไม่ได้อยากจะเล่นเลิฟซีนกลางรถซะหน่อย แบบนี้มันไม่งาม><
“นี่มันบนรถนะครับ....คนอยู่เยอะแยะ”ประโยคที่ร่างบางเอ่ยออกมาเล่นเอาหมีค้าง ยุนโฮหันหน้าเข้าหาหน้าต่างแล้วทำหน้างออย่างน่ารัก แจจุงหัวเราะคิกคักอย่างมีความสุขแล้วหอมแก้มร่างสูงเป็นการง้อ นิ้วก้อยเกี่ยวกระดิกยิกๆที่มือหนาแต่ร่างสูงกลับเบี่ยงหลบซะนี่ ฝ่ายร่างบางก็ไม่ยอมแพ้ ดึงมือร่างสูงมาเพื่อที่จะแงะนิ้วที่กำแน่นออกให้นิ้วก้อยได้เกี่ยวกัน ยุนโฮกลั้นยิ้มกับความน่ารักของร่างบางเต็มความสามารถ และในที่สุด...แจจุงก็เอานิ้วเกี่ยวของตัวเองไปเกี่ยวกับนิ้วก้อยของร่างสูงได้สำเร็จ
“ดีกันน้า ดีกันน้ายุนโฮ นะ นะ นะ น้า”รถเข้าจอดให้พนักงานได้ยืดเส้นยืดสายที่ปั้มน้ำมันพอดี ยูชอนในความสามารถพิเศษในการเกณฑ์คนออกไปจนหมดคันรถตามคำสั่งสัญญาณมือของร่างสูง?
“ดีกันน...นื้มมม อื้มมมม”ยุนโฮหันกลับมาแล้วประกบปากกับร่างบางแนบแน่น มือหนาดึงม่านริมหน้าต่างมาปิดกันไม่ให้คนเห็น แจจุงเบิกตากว้างอย่างตกใจกับการรุกรานกะทันหัน มือหนาลูบไล้ต้นคอสวยๆเบาคลายความกังวล ตาโตหลับพริ้มลงยอมเปิดปากในลิ้นร้อนรุกรานได้สำเร็จ มือบางยกขึ้นบีบไหล่หนาเมื่อความรู้สึกๆแปลกๆเริ่มเข้าครอบงำ ยุนโฮประสานมือหนาเข้ากับมือข้างหนึ่งของร่างบาง นิ้วก้อยเกี่ยวเข้ากับนิ้วก้อยอย่างที่ร่างบางต้องการจะให้เป็นตั้งแต่แรก ปากนิ่มถูกดูดดุนเป็นครั้งสุดท้ายเสมือนสั่งลาก่อนร่างสูงจะค่อยถอนริมฝีปากออกมาอย่างอ้อยอิ่ง
“ค..คุณ...บ้า!!!”เหมือนเสียงจะหายไปในลำคอ สมองที่เคยคิดอะไรได้มากมายกลับว่างเปล่า แจจุงพลักยุนโฮออกอย่างแรง แล้ววิ่งลงรถทัวร์ไปเพราะความเขินสุดๆ...
ร่างสูงยิ้มๆน้อยๆแล้วลูบปากของตนเองไปมา กายหนาพิงพนักรอร่างบางเดินกลับขึ้ยรถอย่างสบายอารมณ์แทนที่จะตามลงไป
“ไม่ตามไปเหรอฮะ..ป๊ายุน”เด็กตัวน้อยปรากฏตัวขึ้นหลังจากที่ต้องลอยล่องหนอยู่บนรถเป็นเวลานาน ยุนโฮหันไปยิ้มให้เด็กน้อยแล้วลูบหัวเบาๆ ร่างเล็กทำหน้าเหนื่อยหน่ายก่อนจะหายตัวไปอย่างรวดเร็ว...รู้ว่ามี๊แจไม่ได้โกรธก็จะไม่ยอมง้อเลยใช่ไหมเนี่ย!!!!
*******************
พุ่มไม้ข้างๆห้องน้ำเป็นที่หลบภัยชั้นเยี่ยม...แต่คนปกติเขาไม่ใช้พื้นที่หลังห้องน้ำนี่คุยกับลูกตัวเองหรอกนะ-*-
“มะ...มุนบิน มี๊แจจะทำยังไงดีTT มี๊แจใจง่ายTT”ร่างบางที่วิ่งลงจากรถมาเมื่อครู่เอ่ยอย่างคร่ำครวญกับลูกชายที่นั่งเอาไม้จิ้มพื้นเล่นอยู่ตรงหน้า-*- ตาแดงๆน้ำตาจะไหลแหล่ไม่ไหลแหล่ทำเอาลูกชายอ่อนใจยวบอีกแล้ว-*-
“มี๊แจไม่ได้ใจง่ายซะหน่อย...มี๊แจแค่สมยอมเฉยๆ”เด็กน้อยพยายามคิดคำพูดที่ดูเหมือนจะถนอมน้ำใจร่างบางที่สุดมาใช้ และดูเหมือนจะได้ผล? เมื่อร่างบางกลับมายิ้มอีกครั้ง-*-
“ใช่ๆ มี๊แจไม่ได้ใจง่ายเนอะมุนบิน”ร่างบางพยักพเยิกกับตนเองอยู่คนเดียว เริ่มรู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาบ้างเมื่อนางไม้ประจำต้นไม้ใกล้ๆมาบีบนวดให้โดยที่ร่างบางไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ!!!
“ฮะมี๊แจ อืม...รถจะออกแล้วนะฮะ “เด็กน้อยยิ้มแฉ่งโบกมือเป็นเชิงให้พี่นางไม้คนสวยที่เจ้าตัวเพิ่งจะไปม่อมาหมาดๆกลับต้นไม้ไปได้แล้ว แจจุงลุกขึ้นบิดขี้เกียจไปมาแล้วจูงมือของมุนบินออกจากพุ่มไม้ด้วยท่าทีที่ร่าเริง...ยุนโฮที่มองร่างบางจากทางหน้าต่างรถขมวดคิ้วอย่างสงสัย....ทำไมแจจุงถึงเดินออกมาจากตรงนั้นล่ะ?
ความสงสัยถูกเก็บเข้าลิ้นชักไปทันทีที่ร่างบางเดินขึ้นรถมาแล้วฉีกยิ้มหวานให้เหมือนปกติ จะผิดกันก็ตรงใบหน้าแดงๆที่ยังไงก็น่ารักไม่เสื่อมคลาย ยุนโฮยิ้มให้ร่างบางจนตาหยีเป็นภาพที่หายากสำหรับคนที่ร่างสูงไม่คิดที่จะเกี่ยวพัน ตอนแรกๆก็ดูเหมือนว่าร่างบางจะรับมือกับไม้ตายนี้ไม่ค่อยได้เท่าไร..และปัจจุบันก็ยังรับมือไม่ได้เหมือนเดิม(อ้าว??) ...จะให้ทำไงได้ล่ะ? ก็น่ารักซะขนาดนี้นี่นา ตาหยีๆ หน้าหมีๆ ตอนยิ้มเนี่ย!! ยังกะพ่อลูกยุนโฮมุนบินถอดแบบมาจากกันเลย>< เหมือนกันมากๆ
แจจุงทำหน้าตางอนๆที่ร่างสูงลวนลามตนไปเมื่อครู่ทั้งที่ไม่ได้โกรธเคืองอะไรแม้แต่นิดเดียว ยุนโฮหัวเราะร่ากับท่าทางน่ารักแล้วทำท่าเหมือนจะจับร่างบางมาประกบจูบอีกรอบ....เท่านั้นแหละ ทำเอาคนแกล้งงอนหายงอนเป็นปลิดทิ้ง
บรรยากาศที่กรุ่นไปด้วยไอความสุขลอยฟุ้งไปทั่วคันรถ ทั้งความสุขจากพนักงานที่ได้มาพักผ่อนกับเพื่อนๆและครอบครัว ความสุขจากคู่ยูซู แต่เหนือสิ่งอื่นใด คือความรักที่ค่อยๆเกิดขึ้นของคู่ยุนแจ ไม่ใช่ความรักที่เพิ่งจะก่อตัวขึ้น แต่เป็นความรักที่สร้างรากฐานที่มั่นคงมาตลอดเกือบ 6 ปีต่างหาก เวลามักจะสอนให้รู้จักคำว่าสายเสมอ อาจจะเป็นโชคดีของทั้งคู่ก็เป็นได้....ที่กามเทพตัวน้อยโผล่มา...ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป....โชคดีที่รากฐานของความรักจะเป็นตัวช่วยในการเสริมความเข้าใจในกันและกันของทั้งสองคน
*******************
รถทัวร์คันใหญ่ค่อยๆจอดลงเมื่อถึงรีสอร์ทหรูซึ่งเป็นที่พักของทุกๆคนในการพักผ่อนครั้งนี้ ยุนโฮก้มลงมองร่างบางที่นอนซบอกแถมยังกอดเขาเอาไว้เสมือนเป็นหมอนข้างด้วยความเอ็นดู กายหนาขยับเล็กน้อยก่อนจะก้มลงกระซิบปลุกร่างบางเบาๆ…
“แจจุง...แจจุง....ตื่นได้แล้ว...”ร่างบางขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อเสียงนุ่มทุ้มมารบกวนโซนประสาทขณะกำลังนอนสบาย กลุ่มผมสีดำสนิทถูไถอกหนาๆแล้วเบี่ยงหูหลบเสียงที่กวนใจด้วยความรำคาญ
“ไม่ตื่น...จะจูบนะ” ”เฮือก!!!”ทันทีที่ร่างสูงพูดจบแจจุงก็สะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจ ตาหวานๆเงยขึ้นมองร่างสูงอย่างหวาดระแวง ยุนโฮหัวเราะน้อยๆในลำคอก่อนจะจุ๊บปากเลขาคนสวยอย่างรวดเร็ว...จุ๊บ><
“คุณยุนโฮ!!”หน้างอๆแบบที่มองยังไงก็น่ารักถูกดึงกลับมาใช้อีกครั้ง แขนเรียวผลักร่างสูงให้ออกห่างจากตัวทำเอายุนโฮที่เพิ่งฉวยโอกาสไปหมาดๆหาโอกาสให้ตัวเองฉวยอีกครั้ง..
“โอ๋....คนดี....งอนเหรอครับ^^”แขนแกร่งที่เข้ามาโอบเอวบางแล้วดึงให้มานั่งตักของตนเองทำเอาแจจุงหน้าแดงด้วยความเขินอาย มือขาวแกล้งตีลงไปบนท่อนแขนหลายๆทีจนร่างสูงรู้สึกแสบๆคันๆ...นี่แหนะๆๆๆๆ
“โอ้ย! โอ้ย!!!ๆๆ เจ็บแล้วคร้าบ เจ็บแล้ว”เสียงหมีร้องที่น่าหมั่นไส้สุดๆดังขึ้นแต่กลับทำให้ร่างบางหยุดตีแล้วเมตตาปราณีขึ้นมาได้อย่างเหลือเชื่อ!!!!
“เจ็บเหรอ?”ร่างบางเอ่ยถามร่างสูงด้วยสีหน้าที่สำนึกผิดทำเอาหมีใจอ่อนยวบ ปากอิ่มกดจูบลงไปบนท่อนแขนแล้วเป่าเบาๆ...ฟู่!
“หายเจ็บแล้วครับ”ยุนโฮยิ้มให้ร่างบางอย่างอ่อนโยน ปากหยักจูบที่หลังต้นคอเบาๆแล้วกระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้น แจจุงหลับตาพริ้มยอมให้สัมผัสด้วยความเต็มใจ มือหนาค่อยๆสอดเข้าไปใต้เสื้อตัวบางแล้วลูบไล้หน้าท้องเนียนเบาๆ.......
“ใครว่ะ!!!!”ยุนโฮรับโทรศัพท์อย่างหัวเสียแล้วก็ยิ่งหัวเสียขึ้นไปอีกเมื่อรู้ว่าคนที่มาขัดจังหวะคือเพื่อนตัวดี(อีกแล้ว)
“ลงมาจากรถได้แล้วว้อยยย!!! รถเค้าจะกลับบริษัทไปรับลูกทัวร์ต่อแล้ว ถ้าจะจึ๋ยๆกันก็ไปจึ๋ยบนห้อง!!!!”จบคำพูกยูชอนก็กดตัดสายทิ้งทันที(กลัวโดนหมีด่าTT) แขนแกร่งปล่อยเอวบางให้เป็นอิสระแต่ก็อดไม่ได้ที่จะหอมแก้มเนียนเบาๆ
“ป่ะ..ลงกันเถอะ^^เดี๋ยวไปต่อข้างบน”ยุนโฮพูดทีเล่นทีจริงทำเอาร่างบางเขินจนแทบจะมุดหัวลงทราย? เมื่อลงมาจากรถแจจุงก็หันไปหายุนโฮแล้วแลบลิ้นปริ้นตาใส่อย่างไม่กลัวหมีตะปบทันที...
“แบร่...ใครจะไปนอนกับคุณยุนโฮกัน”แจจุงหัวเราะอย่างสะใจที่แก้เผ็ดหมีหื่นได้ ร่างสูงหัวเราะหึหึในลำคอแล้วเดินไปจับมือร่างบางเอาไว้
“จุนซูน่ะ....เค้านอนกับยูชอน”คนหื่นกระตุกยิ้มมุมปากด้วยหน้าตาที่ไม่น่าไว้วางใจสุดๆ
”นายก็เลยต้องนอนกับฉันไง..../หวา!!! ปล่อยนะครับ!! คุณยุนโฮ!!!”แขนแกร่งช้อนตัวบางๆขึ้นยังกะอุ้มเจ้าหญิง แจจุงที่คิดว่าตัวเองตัวหนัก?เป็นทุนเดิมเลยไม่กล้าดิ้นมากนักเพราะกลัวร่างสูงจะหนัก? แขนเรียวโอบคอร่างสูงเอาไว้เพราะกลัวตก....แทนที่จะดิ้นให้หลุดไปจากวงแขนแกร่ง...แต่กลับซุกใบหน้าเข้ากับอกหนาด้วยความอาย?...เลยกลายเป็นภาพน่ารักๆที่เจ้าชายหน้าหมีอุ้มเจ้าหญิงแสนสวยเข้าลิฟท์ส่วนตัวไป...ทิ้งให้สาวๆและหนุ่มๆในละแวกนั้นมองตามกันตาละห้อย....
******************
ฮ่าฮ่า แน่นอนว่าการมาพักร้อนแต่ละครั้งมันต้องไม่ธรรมดา!!! หอประชุมโล่งที่มักจะมีคนใหญ่คนโตมาจัดงานนู่นงานนี่ไม่ขาดสาย บัดนี้ มันถูกยึดพื้นที่โดยพนักงานบริษัทชองกรุ๊ปเพียง 50 ชีวิตเท่านั้น อ้อ ไม่รวมเลขาแจจุง ท่านประธานยุนโฮ รองประธานยูชอน และเลขาจุนซูนะ^^ เวลาบ่ายๆเกือบๆเย็นของวันแรกที่มาถึงคือการมารวมตัวกันทำกิจกรรมแจกโบนัส เล่นเกมต่างๆ และมิคกี้ยูชอนผู้เป็นพ่องาน(ที่ให้ท่านประธานออกค่าใช้จ่าย-*-)ก็บังคับให้ทุกคนเข้าร่วมทุกกิจกรรมเสียด้วย เพราะท่านประธานขู่ว่าจะตัดเงินเดือน(ทั้งๆที่ยุนโฮยังไม่พูดอะไรด้วยซ้ำ-*-) แต่อย่างไรก็ตามทีสองในเหยื่อของยูชอนที่ไม่รอดก็คือยุนโฮและแจจุงนี่แหละ เพราะคนเดียวที่รอดชีวิตก็คือจุนซูเท่านั้น!!!(ภรรยาปาร์คก็ดีอย่างเงี้ยแหละ-*-)
“ขอเชิญท่านประธานจับคู่เลขาแล้วออกมาเล่นเกมกับพนักงานด้วยนะคร้าบบ”เสียงไก่แหกปากใส่ไมค์ไม่แคร์สายตาผู้ใดทั้งสิ้นทำเอาหมีไม่อยากจะยืนอยู่ตรงนั้น นี่คงจะเป็นอีกหนึ่งข้อดีของการเป็นเพื่อนท่านประธาน บังคับ ขู่เข็ญได้ตามใจชอบ หุหุหุ ปาร์คไม่กลัวเพราะวันนี้ท่านประธานมียัต์ชั้นเยี่ยมติดมาด้วย เอิ้กๆ
“เกมที่เราจะมาเล่นพอหอมปากหอมคอก่อนจะแจกโบนัสตอนนี้นะครับ คือเกม แทน แทน แท้นน”กระดาษหนังสือพิมพ์ถูกคลี่ออกจนกลายเป็นแผ่นใหญ่ตามที่เราเห็นกันอยู่แล้ว สายตามากเล่ห์มองตรงไปยังเพื่อนของตัวเองที่ทำหน้างงแบบนิ่งๆ?
“ยืนบนแผ่นกระดาษ!!!!...จุนซูครับ ไปแจกกระดาษหนังสือพิมพ์ให้ทุกๆคู่หน่อยนะครับ”เสียงชวนลุ้นฟังดูเข้มข้นแหกปากพูดออกมา ก่อนที่จะไปพูดเสียงหวานตาหวานกับที่รักที่นั่งข้างตัว......คนละขั้นเลยนะปาร์ค-*-
“กติกานะครับทางเราก็ให้จับคู่กันแล้วยืนบนแผ่นกระดาษหนังสือพิมพ์นะครับ แต่!!! เราจะพับกระดาษหนังสือพิมพ์ไปเรื่อยๆจนเหลือสองคู่สุดท้าย ใครยืนบนกระดาษได้นานที่สุด ชนะไปเลย!!!!!!!”ถ้าเป็นตอนเด็กคงจะดี๊ด๊าที่ได้เล่นเกมนี้อยู่หรอกแต่นี่ก็โตๆกันแล้วทั้งนั้น เสียงหัวเราะด้วยความสุขของพนักงานที่เกิดขึ้นระหว่างเล่นเกมทำให้ร่างสูงรู้สึกดี เขานึกว่าตัวเองจะตกรอบไปตั้งแต่รอบแรกซะอีก ดันเข้ามาถึงรอบที่มันเหลือ 2 คู่สุดท้ายได้ไงเนี่ย-*- แผ่นกระดาษถูกพับจนสามารถยืนได้แค่ฝ่าเท้าเดียวเท่านั้น!!! ร่างสูงที่เริ่มอยากจะชนะขึ้นมาบ้างเริ่มคิดหนัก...ทำไงดีหว่า????
ปรี๊ดดดดดดดด!!!
“อ๊า!!! คุณยุนโฮ”ร่างบางถูกยกขึ้นอุ้มทันทีที่เสียงนกหวีดดังขึ้น พื้นที่วงกลมตรงกลางถูกเว้นไว้ให้สำหรับการแข่งขันของสองคู่สุดท้าย คู่ท่านประธานเลขา และ พนักงานกับพนักงาน ขาข้างหนึ่งยืนบนกระดาษด้วยความมั่นคงส่วนอีกข้างหนึ่งถูกยกขึ้นเพื่อสร้างสมดุลให้กับร่างกาย แขนเรียวโอบรอบคอหนาเอาไว้แน่น...กลัวตกก็กลัว แต่ว่า...อยากชนะเหมือนกันนะเนี่ย><
แจจุงโอบคอร่างสูงแน่นขึ้นเรื่อยๆเมื่อร่างหนาเริ่มโคลงเคลงเหมือนจะล้มแหล่ไม่ล้มแหล่ มือเรียวยกขึ้นปาดเหงื่อที่ผุดขึ้นมาด้วยใบหน้าในร่างสูงได้ชื่นใจ มือเรียวแอบไล้หลังต้นคอแบบชวนสยิวอย่างสื่อความหมายสุดๆ.....จบงานนี้มีรางวัลนะครับ^^
“10 9 8 7 6 5 4 3 2 1 เฮ้!!!!!!!!!!”ทันทีที่ได้รับชัยชนะ ร่างสูงก็ค่อยๆวางร่างบางลงอย่างนุ่มนวล ต่างจากคู่ๆข้างๆที่แทบจะโยนผู้ที่ถูกอุ้มลงกับพื้น มือหนายื่นไปช่วยคนที่ทรุดเข่าอ่อนอยู่กับพื้นเพื่อช่วยพยุงให้ลุกขึ้น...
“เป็นอะไรรึเปล่า”คำถามเรียบๆถูกส่งไปหาพนักงานผู้ได้รางวัลรองชนะเลิศอันดับหนึ่ง ผมหนาๆแสดงถึงอายุที่ยังไม่มากส่ายยุกยิกก้มหนาก้มตาอย่างหวาดกลัว ท่างทางที่ท่านประธานแสดงความเป็นห่วงแบบผิดๆนั่นทำเอาเลขาขัดใจตีไหล่ร่างสูงดังเพี๊ยะ!!
“โอ้ย!! แจจุงตีทำไมอ่ะ”หมีดุเมื่อกี้กระเง้ากระงอนอย่างน่ารัก มือขาวขับหน้าหน้าคมให้หันไปทางพนักงานคนนั้น แล้วจับริมฝีปากให้ฉีกยิ้มกว้าง...การกระทำที่แม้แต่ไก่ปาร์คยังไม่กล้าทำทำเอาเจ้าหมีพะงาบๆ แต่ก็ส่งยิ้มให้พนักงานคนนั้นด้วยความเต็มใจ แจจุงไปจับเนื้อจับตัวพนักงานคนนั้นแสดงความเป็นห่วง.....แต่ร่างสูงกลับหน้าบูดด้วยความหึงหวง-*-
“อะ..เออ...ไม่เป็นไรจริงๆครับคุณแจจุง”ร่างหนาๆขยับกายหลบหลีกร่างบางอย่างหวาดๆเมื่อสายตาของยุนโฮแผ่รังสีอันตรายออกมาจนใครๆก็รู้สึกได้....ยกเว้นแจจุง-*-
“เห็นไหม คุณยุนโฮ....เป็นห่วงจริงๆนะเค้าทำกันแบบนี้^^”ร่างบางยืนยิ้มแฉ่งให้ร่างสูงอย่างไม่รู้เรื่องอะไร มือบางดันหลังร่างสูงเบาๆให้ไปแสดงความเป็นห่วงกับพนักงานคนนั้น มือหนาจับไปตามเนื้อตัวคนตัวสูงพอๆกันด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม(อำมหิต) ทำเอาพนักงานคนนั้นยิ่งหลบตา แจจุงมองภาพนั้นอย่างปลื้มใจสุดๆเมื่อเห็นท่านประธานเข้ากับพนักงานได้? พลันมือหนาก็ดึงร่างบางให้ไปตามทิศทางที่ตัวเองต้องการ ยูชอนยิ้มกว้างอย่างรู้ตื้นลึกหนาบางสุดๆ.........สงสัยต้องเลื่อนแจกโบนัสไปพรุ่งนี้แล้วมั้ง ^^
******************
“คุณยุนโฮ...พาผมมาที่นี่ทำไมครับ”ร่างบางถามด้วยความตกใจเมื่ออยู่ๆก็โดนลากเข้ามาห้องน้ำชายเสียเฉยๆ ร่างบางถูกดันเข้าไปในห้องสุดท้ายก่อนจะถูกกดลงกับพนังห้องน้ำด้วยแรงที่ไม่เบานัก
“อ๊ะ”ร่างบางอุทานเมื่อเห็นใบหน้าร่างสูงเข้ามาใกล้ มือหนาลูบไล้ต้นคอขาวด้วยความหลงใหล
“ขอรางวัลหน่อยสิ....อุตส่าห์ชนะนะ”ยุนโฮถามอย่างอ้อนๆ ร่างบางที่หน้าแดงซ่านเผยอปากออกเล็กน้อย เปลือกตาร่างบางหลับพริ้มเมื่อปากหยักเข้ามาทาบทับกับกลีบปากอวบอิ่ม ลิ้นร้อนสอดแทรกเข้าหาความหอมหวาน มือขาวจับไหล่หนาไว้เป็นหลักยึดพยุงกาย เอวบางถูกโอบมาใกล้จนลำตัวแทบชิดแทบจะกลืนกินไปทุกส่วน
“อื้มมมม แฮ่ก อื้อ”ร่างบางเริ่มประท้วงดันร่างสูงออกเมื่อใกล้ขาดอากาศหายใจ ปากหยักผละออกเพียงครู่ก่อนจะประกบเข้าไปใหม่อย่างรวดเร็ว มือบางดันร่างสูงออกพัลวันเมื่อตนเองชักจะไม่ไหว.....จูบยังกับจะฆ่ากันตาย...
“พอแล้วครับ”แจจุงดันยุนโฮที่จะเข้ามาจูบตนอีกครั้งออก ร่างบางยังคงโอบคอหนาเอาไว้ในระหว่างที่พยายามโกยอากาศเข้าปอดให้เต็มที่ ร่างบางเขย่งตัวขึ้นไปจูบเบาๆที่ปากหยัก....นานแสนนานกว่าจะผละตัวออกมา ตากลมโตค่อยๆเปิดขึ้นมามองใบหน้าหล่อเหลาแล้วเปลือกตาก็ต้องหลับพริ้มอีกครั้งเมื่อปากหยักก้มลงมา.........จูบ.....หน้าผากเนียน
“ไปกันเถอะ....พวกนั้นคงรอแย่”
******************
พักร้อน 1 สัปดาห์ .... ผ่านไปแล้ว 1 วัน เหลืออีก 6 วันสินะที่ต้องอยู่ที่นี่ .... จะว่าไป ตั้งแต่มาถึงก็ยังไม่เห็นมุนบินเลยนี่นา?
“อ๊ะ!” ขนนกอ่อนนุ่มสีขาว ปลิวลงมากระทบแก้มเนียน น่าแปลกที่มันหล่นร่วงลงมาตรงปลายเท้า แทนที่จะปลิวต่อเพราะกำลังลมในชายหาดยามเช้าแบบนี้ค่อนข้างที่จะแรง ทันทีที่มือเรียวเอื้อมไปสัมผัส ขนนกสีขาวก็เปลี่ยนรูปเป็นกระดาษที่ถูกม้วนและผูกด้วยเส้นด้ายเล็กๆ....
มี๊แจฮะมุนบินคงต้องไปแล้ว....
เรื่องที่มุนบินหนีลงมาจากสรรค์รู้ถึงหูของท่านมหาเทพซีอุส
มุนบินคงมาเกิดเป็นลูกของมี๊แจไม่ได้แล้วล่ะฮะ
เหลืออีกแค่ 7 วันเอง...ก็จะครบ 6 ปี
มุนบินคงต้องไปเกิดเป็นลูกหมาแทนแล้วล่ะ...
มุนบินดีใจนะฮะ...ที่มี๊แจทำเพื่อมุนบิน
ขอให้มี๊แจมีความสุขกับลูกคนใหม่...ที่จะมาเกิดเป็นลูกของมี๊แจแทนมุนบินนะฮะ
มี๊แจ....มุนบินรักมี๊แจนะฮะ
มุนบิน
ทันทีที่อ่านข้อความในจดหมายจบ กระดาษสีขาวก็ค่อยกลายกลับเป็นขนนกอีกครั้ง ร่างบางพยายามที่จะคว้ามันเอาไว้ แต่ขนนกกลับปลิวไปไกลจนร่างบางคว้าไม่ถึง.....เขาจะทำยังไงดี...อีก 7 วันเหรอ....ยังมีเวลาสินะ
******************
บนสวรรค์
“ท่านซีวอน แย่แล้ว!!!!”เทพสื่อสารวิ่งกระหืดกระหอบมายังแดนแห่งการถือกำเนิด ด้วยสภาพที่ดูไม่จืดนัก
“มีอะไร?”
“ท่านเทพซีอุสรู้เรื่องเทพมุนบินที่หนีลงไปจากสวรรค์แล้ว!!”
“ว่าไงนะ!!!”ซีวอนลุกพรวดขึ้นจากบัลลังค์ด้วยความตกใจ มือหนากำหมัดแน่นพยายามที่จะส่งกระแสจิตไปหาเทพน้อยแต่ก็ไม่ได้ผล....เพราะเทพที่ใกล้จะหมดอายุขัย....ไม่สามารถที่จะรับพลังจิตได้ ไม่มีเวทมนต์....แล้วมุนบินจะกลับขึ้นมาบนสวรรค์ยังไง.....
“ขอบใจท่านมาก”เทพหนุ่มพูดเพียงเท่านั้นก่อนจะเดินออกจากห้องกว้างไปอย่างรวดเร็ว ร่างหนาถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วมองลงไปยังโลกมนุษย์....พลังจิตก็ส่งไปไม่ได้ แล้วเขาจะรู้ไหมล่ะเนี่ยว่ามุนบินอยู่ที่ไหน??
เทพสุดหล่อปลอมตัวเป็นพนักงานในบริษัทที่เห็นมุนบินเดินเข้าออกบ่อยๆ แล้วก็ได้รับคำตอบว่าขณะนี้เป็นช่วงเวลาพักร้อน คิ้วหนาขมวดแน่นขึ้นเมื่อมองขึ้นไปบนฟ้า ลางสังหรณ์บอกว่าเทพซีอุสคงจะมาบุกแดนแห่งการให้กำเนิดในเร็วๆนี้ ถ้าไม่รีบตามมุนบินกลับไปบนสวรรค์ล่ะก็ เจ้าตัวคงต้องได้รับการทำโทษสาหัสแน่ และอาจจะเป็นโชคดีของมุนบินเองที่เทพสุดหล่อคนนี้ไม่ได้มีเพียงความหล่อเท่านั้น ตาคมสังเกตเห็นขนนกที่ลอยผ่านสายตาไป...ขนจากปีกสีขาวบริสุทธิ์ของเทพ ที่มนุษย์ไม่สามารถมองเห็นได้เพียงแค่ใช้มือปัดผ่าน ซีวอนก็ต้องยกยิ้มกว้างเพราะมันเป็นขนของมุนบินอย่างที่คิดเอาไว้ ขนของเทพที่กำลังจะหมดอายุขัยจะหลุดออกมาทีละเส้นจนไม่มีปีกให้บิน และนี่แหละคือสาเหตุที่มุนบินจะไม่สามารถกลับไปยังสวรรค์ได้ สัมผัสอ่อนนุ่มที่ยังคงติดอยู่ที่ปลายนิ้วเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่จะช่วยให้เขารู้ว่าเจ้าของขนจากปีกนี่อยู่ไหน ตาคมหลับลงและเพ่งประสาทสัมผัสทั้งหมดไปที่ปลายนิ้ว เสียงคลื่นกระทบชายฝั่ง ภาพที่ผู้คนเดินขวักไขว่ กลิ่นอายของน้ำทะเล และร่างของมุนบินที่นอนอ่อนระโหยโรยแรงอยู่บนเตียง!!!
“ไป!!!”สิ้นเสียงนุ่มทุ้ม ร่างทั้งร่างของชายหนุ่มก็หายไปจากหน้าบริษัท เพียงชั่วพริบตาเดียวร่างหนาก็ปรากฎตัวขึ้นในห้องนอนที่มุนบินนอนอยู่...ห้องในโรงแรมเครือชองกรุ๊ป ห้องที่ยุนโฮและแจจุงใช้พักผ่อน ร่างเล็กๆของเด็กน้อยที่ดูซูบซีดไปมากทำให้ร่างสูงถึงกับต้องรี่เข้าไปหา ซีวอนแตะแก้มของมุนบินเบาๆ
“ท่านซีวอน....”เสียงแห้งผากดังขึ้นทันทีที่ลืมตาตื่นขึ้นมา เทพน้อยฝืนลุกขึ้นยืนทำความเคารพแต่ก็ต้องล้มลงไปบนเตียงอีกครั้ง ซีวอนมองเทพตัวเล็กที่เขาเอ็นดูมาแต่ไหนแต่ไรด้วยความสงสารจับใจ มือหนาค่อยๆประคองเด็กตัวน้อยขึ้นมาในอ้อมกอด...
“ไม่ต้องพูดอะไรหรอกมุนบิน....ข้าจะพาเจ้ากลับสวรรค์”มุนบินขืนตัวออกจากอ้อมกอดอบอุ่นทันทีที่รู้ว่าหมดเวลาของตนเองแล้ว มุนบินแค่ต้องการเวลา อยากได้เวลาแม้เพียงสักนิดก็ยังดี....เขายังไม่ได้บอกลามี๊แจเลย....
น้ำตาเม็ดเล็กเอ่อคลอจะหยดแหล่ไม่หยดแหล่ ซีวอนถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วดึงขนที่ปีกของตนเองออกมา
“จะเขียนอะไรให้แม่ของเจ้าล่ะ?”ตัวหนังสือสวยงามบรรจงเขียนด้วยลายมือของเทพน้อย ซีวอนนั่งอยู่ข้างๆก็รับรู้ได้ถึงความใส่ใจในการเขียนตัวอักษรแต่ละตัวลงไปในขนสีขาวที่ได้แปรเปลี่ยนเป็นกระดาษ มุนบินค่อยๆม้วนกระดาษช้าๆ ผมสีดำสนิทเปลี่ยนรูปกลายเป็นด้ายเส้นเล็กๆทันทีที่ผูกติดกับม้วนกระดาษ....
เด็กน้อยปล่อยให้กระดาษที่เปลี่ยนกลับมาเป็นขนนกสีขาวลู่ลมไปทางหน้าต่างกว้าง.....มุนบินขอโทษนะฮะมี๊แจ....
เทพน้อยเหลือเวลาอีกเพียง 7 วันเท่านั้น ที่จะมีชีวิตอยู่รอด มุนบินพยักหน้าให้ร่างสูงเบาๆเป็นสัญญาณว่าเขาพร้อมที่จะกลับขึ้นสวรรค์แล้ว ซีวอนกระชับมือเล็กให้แน่นขึ้น เทพทั้งสองหลับตาลงก่อนจะหายตัวไป.....โดยไม่อาจรับรู้ได้เลยว่า....เหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ในสายตาของมหาเทพที่จ้องมองทุกสิ่งบนโลกอยู่บนสวรรค์
******************
เหลือเวลาอีก 7 วันเท่านั้น ทางที่ดี.....ทำให้สำเร็จไปตั้งแต่อยู่ที่นี่เลยดีกว่า.....
คืนที่ 1
ยุนโฮกระตุกยิ้มเมื่อเห็นร่างบางที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องน้ำ เสื้อตัวใหญ่จนไม่ต้องพึ่งกางเกงเผยขาขาวเนียนน่าสัมผัสจับต้อง กระดุมเสื้อสองเม็ดบนที่ไม่ได้ติดเพราะความสบาย(หรือจงใจ?) ของเจ้าตัวเผยช่วงลำคอขาวไปถึงไหปลาร้าได้รูป มือบาสางผมเปียกน้ำน้อยๆ หยดน้ำใสๆหยดแหมะลงไปตรงเนินอกขาวพอดิบพอดี มือหนากระตุกน้อยๆอยากที่เอื้อมมือไปเช็ดน้ำที่ค่อยๆซึมเข้าสู่เนื้อผ้าบางๆนั่นจริงๆ.....ให้ตายสิ 0. ,0
“คุณยุนโฮครับ...คุณยุนโฮ”เสียงหวานๆเรียกสติที่เตลิดไปกับอารมณ์หื่นๆของตัวเองให้กลับมา มือบางค่อยๆปลดกระดุมเสื้อตัวแพงออกทีละเม็ด ทีละเม็ดอย่างยั่วเย้า
“จะทำอะไรครับ...หืม”ลำตัวบางถูกรวบเข้ามาในอ้อมกอดหนา จมูกโด่งซุกไซร้ไปตามซอกคอหอมกรุ่น แจจุงดันร่างสูงออกเบาๆ
“ไปอาบน้ำได้แล้วนะครับ....ผมผสมน้ำเอาไว้แล้ว”ร่างสูงรับผ้าเช็ดตัวและเสื้อคลุมที่ร่างบางส่งมาให้ด้วยท่าทางเอ๋อๆงงๆจนร่างบางอดไม่ได้ที่จะหัวเราะคิกคักกับท่านประธานมาดหลุด ขาแกร่งเดินไปยังห้องน้ำตามคำสั่งเหมือนกับต้องมนต์
“คุณยุนโฮ......”แจจุงเรียกชื่อร่างสูงเป็นการเรียกสติที่คงจะน็อคไปกับอาการ “ค้างๆคาๆ”
“ห๊ะ!!!”หมีตัวใหญ่สะดุ้งสุดตัว แจจุงยิ้มหวานให้ก่อนจะเดินไปใกล้ๆ
“เดี๋ยวผมไปนอนรอบนเตียงนะครับ......จุ๊บ”หลังจบคำพูดชวนช็อค ร่างบางก็เขย่งปลายเท้าขึ้นแล้วจุ๊บปากหยักเบาๆ ลำตัวบางหันหลังเดินกลับเข้าไปในห้องนอน โดยมีแบ็คกราวเป็นหมีที่ยังคงยืนอึ้ง.....เดี๋ยวนี้แจจุงกล้าขึ้นเยอะเลยแฮะ ยุนโฮกระตุกยิ้มขึ้นเรียกสัญชาตญานคาสโนว่าเก่าให้กลับเข้ามาในตัว....สงสัย....คงต้องเล่นกับเขาหน่อย!!! มือหนายกขึ้นแตะปากเบาๆ ก่อนจะเดินเข้าไปอาบน้ำอย่างอารมณ์ดี
ร่างสูงเดินผิวปากเข้ามาในห้องนอนอย่างอารมณ์ดี ตอนแรกก็นึกว่าจะลืมเอาชุดนอนเข้ามาเปลี่ยน แต่ร่างบางกลับเตรียมไว้ให้แล้วซะนี่! แหมๆ...มันก็เลยอดที่จะปลื้มใจกับ(ว่าที่)ภรรยาไม่ได้ ทำหน้าที่ได้ไม่ขาดตกบกพร่องจริง สายตาอ่อนโยนถูกทอดมองไปที่คนที่มองหลับตาพริ้มอยู่บนเตียง ยุนโฮค่อยๆคลานขึ้นไปยังพื้นที่ว่างข้างร่างเบาๆกลัวร่างบางจะตื่น มือหนาเกลี่ยผมสีดำสนิทที่เคลียแก้มใสแล้วเอามันไปทัดหูบาง ใบหน้าหวานที่จ้องมองเท่าไรก็ไม่มีวันเบื่อ นิ้วชี้ลากไล้ไปตามหว่างคิ้วผ่านจมูกรั้นก่อนจะไปหยุดที่ริมฝีปากอิ่มที่เขาเคยได้ลิ้มลองความหอมหวานเพียงไม่กี่ครั้ง มือหนาประคองข้างแก้มก่อนปากหยักจะกดจูบลงไปแผ่วเบา เพียงแค่ได้รับสัมผัส กลีบปากแดงระเรื่อก็อ้าออกเปิดรับร่างสูงอย่างเต็มใจแขนเรียวที่ตกอยู่ข้างตัวเลื่อนขึ้นมาโอบลำคอหนาอย่างรู้งาน ลิ้นร้อนคอยพัวพันลิ้นนุ่มอยู่ไม่ห่าง มือบางบีบไหล่หนาแรงๆเมื่อขาดอากาศหายใจ ร่างสูงค่อยๆผละออกมาอย่างอ้อยอิ่ง ตาคมเปิดขึ้นดูใบหน้าของคนที่สมควรจะหลับอยู่....แต่ร่างบางกลับลืมตาอยู่ซะนี่!!!!!
“อ้าว....ตื่นแล้วเหรอ กะว่าจะลักหลับซะหน่อย”ยุนโฮพูดกับร่างบางอย่างขี้เล่น แจจุงไม่ได้ตอบอะไรแต่กลับหยัดกายขึ้นไปจูบร่างสูงเบาๆ
“กอดผม....ได้ไหมครับ”กอดของร่างบางคงจะหมายถึงการนอนกอดกันธรรมดาๆ แต่คนฟังนี่สิรู้สึกจะจิ้นไปไกลเสียแล้ว รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่สัมผัสถึงแรงกอดรัดบริเวณช่วงท้องแกร่ง ใบหน้าหวานซุกลงกับอกกว้างแล้วเข้าสู่ห้วงนิทราอีกครั้ง มือหนาเอื้อมไปปิดไฟที่หัวเตียง อดจะหัวเราะในใจไม่ได้กับความคิดของตัวเอง คิดได้ไงเนี่ยว่าเค้าจะให้เราจึ๋ยๆ -*- แขนแกร่งโอบรัดลำตัวบางเข้าหาตัว ผ้าห่มผืนหนาถูกถีบไปไว้ที่ปลายเตียง....เพราะว่าเป็นหน้าร้อน ความเย็นของแอร์จึงช่วยให้เย็นสบาย อ้อมกอดที่มอบให้กันและกันจึงช่วยให้อบอุ่น ผ้าห่มจึงไม่จำเป็นสำหรับคนทั้งคู่.....ที่มอบความอบอุ่นให้กันและกันตลอดทั้งคืน...
******************
วันที่ 2
อากาศช่วงสายที่ร้อนระอุทำให้ร่างสูงที่นั่งดูพนักงานหลายคนเล่นน้ำอยู่ริมหาดต้องคว้าขวดเป็บซี่ข้างกายมาเปิดแล้วซดไปหลายอึกใหญ่ ตาคมภายใต้แว่นกันแดดสีน้ำเงินกวาดสายตาไปรอบๆมองหาเลขาคนสวยที่เมื่อครู่ยังเห็นแวบๆว่ากำลังเล่นก่อปราสาททรายกับเด็กๆในละแวกนั้นอยู่....แล้วตอนนี้คนสวยของเขาหายไปไหนเนี่ย???
“จ๊ะเอ๋!!!!”สงสัยได้ไม่นานนัก ร่างบางก็กระโดดเข้ามาขวางเลนส์แว่นด้วยท่าทางน่ารักน่าเอ็นดูเสียจนร่างสูงอดที่จะคว้าเอวบางๆเข้ามากอดไม่ได้
“ไหนดูซิ....ทาครีมกันแดดรึยังเนี่ย? ออกไปเล่นแบบนี้เดี๋ยวก็ดำหมดหรอก”แว่นราคาแพงถูกถอดออกอย่างง่ายดายโดยฝีมือของร่างบาง หลังบางเอนพิงอกแกร่งแล้วเอาแว่นมาใส่เลนส์อย่างซุกซนทั้งที่อายุก็ปาเข้าไปตั้ง 27 แล้วแท้ๆ
“ขี้บ่นจัง....แล้วคุณยุนโฮทารึยังล่ะครับ”แจจุงถอดแว่นอันโตวางไว้บนโต๊ะข้างๆเก้าอี้ชายหาดที่ตนและท่านประธานนั่งอยู่ เนื้อครีมเข้มข้นถูกบีบออกมาจากขวดก่อนที่มันจะถูกนำไปทาบนผิวเนื้อของร่างสูง มือบางค่อยๆทาครีมไปตามแขนและขาอย่างทั่วถึง หากแต่มือหนาต้องรีบคว้าหมับเข้าที่มือของร่างบางทันทีเมื่อมันกำลังจะล้วงลึกเข้าไปถึงตรงนั้น!!
“ฮ่าๆๆ เสร็จแล้วครับ...ไปเล่นน้ำกันน้า”กลุ่มผมดำสนิทถูไถไปกับหน้าอกหนาอย่างอ้อนๆ ดวงตากลมโตเป็นประกายวิ้งๆจนร่างสูงอดที่จะใจอ่อนไม่ได้.....เขาไม่ได้เล่นน้ำทะเลมาตั้ง 8 ปีแล้วตั้งแต่เข้ามาทำงานก็ไม่ได้ไปเที่ยวที่ไหนอีกเลย - * -
“แต่นายยังไม่ทาครีมเลยนี่นา”มือหนากอดกระชับเอวบางเอาไว้แล้วบีบครีมใส่มือ ร่างบางก็นั่งนิ่งยอมให้ร่างสูงทาครีมโดยง่าย ริมฝีปากอิ่มปล่อยเสียงหัวเราะคิกคักออกมาบ้างยามที่รู้สึกจั๊กจี๋....
ตัดฉับ / / ฝากเมลล์เอาไว้ได้เสมอจ้า ^^
“ไปเล่นน้ำกัน”ยุนโฮยิ้มทะเล้นๆแล้วเหวี่ยงร่างบางที่ทำหน้ามุ่ยสุดๆขึ้นบ่า ก่อนจะวิ่งลงไปในทะเลแล้วโยนแจจุงที่ส่งเสียงโวยวายดังลั่นหาดลงน้ำ!!!
“อ้ากกกกกกกก!!! ปล่อยยยยย!! คุณยุนโฮ!!! ปล่อยผมมมมมมม!!! ว้ากกกกกกกกกกกก!!!! ตู้มมมมมม!!!!”เสียงคลื่นน้ำแตกกระจายเป็นวงกว้าง แจจุงโผล่ขึ้นมาจากน้ำด้วยสภาพที่เปียกไปทั้งตัว ร่างบางสำลักน้ำค่อกแค่กหน้าดำหน้าแดงจนน่าสงสาร.....
“เป็นอะไรมากรึเปล่า....แจจุง”ยุนโฮเริ่มหน้าเสียเมื่อร่างบางยังไม่หายจากอาการสำลักเสียที ร่างหนาเดินเข้าไปใกล้ร่างบางอย่างรู้สึกผิด…..
“แค่กๆ แค่กๆ”เมื่อเป้าหมายเดินเข้ามาใกล้ ร่างบางก็บิดพุงหนาๆอย่างแรงง!!
“อ้ากกกกกกกกกกกกกก!!! แจจุงงงง!!! ปล่อยยย!!! อ่อกกก!!”หมีตัวใหญ่ดิ้นทุรนทุรายอยู่กลางน้ำ เมื่อมือบางที่ทั้งบิดทั้งจิกอยู่ตรงพุงน้อยๆเกาะแน่นไม่ยอมปล่อย!!!
“ชิ สมน้ำหน้า!!”ร่างบางสะบัดมือออกมาจากพุงอย่างหมั่นไส้สุดๆ หน้าหวานเชิดขึ้นก่อนจะเดินสะบัดไปเล่นกับกลุ่มเพื่อนที่อยู่ไม่ไกลนัก.......ไม่มงไม่มีมันแล้ว อารมณ์บ้าไรไม่รู้ ไอ้ท่านประธานบ้า >///<
******************
คืนที่ 3
นี่ก็คืนที่ 3 แล้ว....ยังไม่ไปถึงไหนเลย จะทำยังไงดีนะ เฮ้อ!!!
แจจุงถอนหายใจออกมาเพราะความเครียด การที่เราจะช่วยเด็กสักคนให้อยู่รอดนี่ถึงกับต้องเอาความซิงของตัวเองเข้าแลกเลยรึไง? ประตูไม้หนาถูกเปิดออกมาด้วยฝีมือของร่างสูงที่เพิ่งจะกลับมาจากการเดินออกไปข้างนอกเมื่อครู่ ร่างบางที่สวมเสื้อคลุมเพียงตัวเดียวเดินเข้าไปกอดยุนโฮพลางส่งยิ้มหวานให้...แน่นอน ถ้าคนสวยของเรายิ้มหวานมาแต่ไกลแบบนี้แปลว่ามีแผน.....
“คุณยุนโฮ...อาบน้ำด้วยกันนะครับ”แจจุงช้อนตาขึ้นมองแบบอ้อนๆ ร่างสูงที่กำลังคิดว่าตัวเองหูฝาดก็ยิ่งอึ้งเข้าไปอีก...ก็รู้อ่ะนะว่าช่วงนี้ร่างบางช่างยั่วเสียเหลือเกิน แต่ถึงขนาดชวนไปอาบน้ำเนี่ยมันจะดีเร๋อ??.....แต่มีหรือหมีจะปฏิเสธ-*-
“ไปสิ....อุตส่าห์ชวนทั้งที”ว่าแล้วร่างสูงก็ยิ้มหื่นจนร่างบางหน้าถอดสี ยุนโฮอุ้มร่างบางขึ้นจนตัวลอยเหนือพื้นแล้วก็เข้าห้องน้ำไปอย่างรวดเร็ว.....โอกาสมีก็ต้องคว้า เพราะถ้าช้าอาจมีอด หึหึหึ
“คุณยุนโฮถอดเสื้อผ้าแล้วลงไปแช่น้ำรอก่อนนะครับ....เดี๋ยวผมมา...”ร่างบางยิ้มหวานแล้วเดินออกไปนอกห้องด้วยหัวใจที่เต้นรัวเพราะความตื่นเต้นประตูห้องน้ำปิดลง มือเล็กทาบลงบนอกของตัวเองเบาๆ ตากลมโตหลับลงสูดหายลึกๆ เตรียมใจเอาไว้ให้ดี....เหลือเวลาอีกแค่ 4 วันเท่านั้น...และคืนนี้เขาต้องทำให้ได้!!
ประตูห้องถูกเปิดขึ้นมาอีกครั้งหลังจากที่เวลาผ่านไปนานพอสมควร ยุนโฮดำน้ำลงไปในอ่างจึงไม่ได้รับรู้อะไรกับการมาเยือนของร่างบาง แจจุงมองไปรอบๆห้องน้ำก่อนสายตาจะมาหยุดลงในอ่างอาบน้ำที่ว่างเปล่า เสื้อคลุมตัวใหญ่หลุดออกจากเรือนร่างบอบบางที่ไม่เคยมีใครได้แตะต้องนอกจากร่างสูงเท่านั้น
ขาเรียวก้าวลงไปในอ่างอย่างระมัดระวังเพราะกลัวจะเผลอเหยียบร่างสูงเข้าให้ ร่างบางนั่งลงที่ขอบอ่างรอเวลาที่หมีโผล่ขึ้นมาจากน้ำ.....
พรวดดด!!!
“ผมนึกว่าคุณจะกลายเป็นหมีขึ้นอืดซะแล้ว”ศีรษะที่ปกคลุมไปด้วยกลุ่มผมสีน้ำตาลซบลงภายในหว่างขาเรียว แจจุงขยับตัวออกนิดๆด้วยความจั๊กจี้ มือนิ่มนวดเบาๆไปตามลาดไหล่หนาเพื่อให้ผ่อนคลาย.....
“คุณดูเครียดๆนะครับ”ร่างบางก็แค่พูดตามความจริง ตอนแรกร่างสูงก็ยังดูดีๆอยู่ เพียงแต่เขาเดินออกไปจากห้องได้ครู่เดียว กลับมาก็ดูเหมือนว่ากำลังเครียดกับอะไรบางอย่างอยู่ อันที่จริงเขาก็มีเรื่องเครียดเหมือนกัน.....
“ลงมาด้วยกันสิ”มือนิ่มถูกดึงเบาๆแต่ร่างบางก็เข้าใจความหมายนั้น แจจุงก้าวไปนั่งลงในอ่างตามตำแหน่งที่คากว่าน่าจะเป็นส่วนนั้นของร่างสูง สะโพกนิ่มกดทับลงไปอย่างจงใจลำตัวด้านหน้าหันเข้าหาร่างสูง
“อื้มมม” ยุนโฮกดจูบลงบนปากนิ่มเบาๆ คิ้วที่ขมวดอยู่เมื่อครู่ค่อยๆคลายลง มือบางลูบไล้ไปตามอกหนาและหน้าท้องแบนราบที่อุดมไปด้วยมัดกล้าม เหมือนจะเป็นการรับรู้ตามสัญชาตญานว่ากำลังจะมีอะไรเกิดขึ้นต่อไป....อะไรที่เขารู้ดีว่าถ้าหากไม่ทำมุนบินก็จะมาเกิดไม่ได้ แล้วเขาทำถูกแน่แล้วหรือ.....
“ถ้านายไม่ยอม....ฉันก็จะไม่ทำ”
“.................................”
ตัดฉับ / / ฝากเมลล์เอาไว้ได้เสมอจ้า ^^
“....คุณยุนโฮ....ผมกลัว.....”ทุกอย่างหยุดชะงักลง ร่างบางที่ร้องไห้สะอึกสะอื้นตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้โผกอดร่างสูงอย่างหวาดกลัว ยุนโฮลูบแผ่นหลังบางน้อยๆอย่างเข้าใจ.....เพราะหลายๆอย่างก็ต้องการเวลา
“งั้นอาบน้ำแล้วเข้านอนกันนะ”เสียงที่อ่อนโยนทำให้ร่างบางเบาใจ แต่ความรู้สึกที่หวาดกลัวก็ยังคงติดอยู่ตรงนั้น
เพราะไม่รู้ว่าตนเองกลัวอะไร....
กลัวใจของตนเอง......ที่ยังไม่มั่นใจในความรัก.....
กลัวใจของยุนโฮ.......กลัวว่าจะโดนทิ้ง........
กลัวทุกอย่าง........สุดท้าย....แจจุงก็แค่ “กลัว”
ร่างบางหลับไปแล้ว ยุนโฮยืนอยู่ตรงระเบียงคนเดียว....
“จะให้ป๊าทำยังไง......ป๊าไม่อยากฝืนใจมี๊แจ......”ปัญหาหนักอกหนักใจถูกยกขึ้นมาถกเถียงกับลูกชายตัวน้อยที่อยากจะไปเกิด ปีกเล็กบินไปมาไปหยุกอย่างซุกซนจนร่างสูงที่กำลังเครียดถึงกับต้องคว้าคอเสื้อเล็กมาแล้วจับให้นั่งนิ่งๆอยู่บนโต๊ะเล็กๆ
“โธ่ป๊ายุน....ถ้ามี๊แจเค้าไม่ยอมมี๊แจเค้าคงไม่ทำแบบนั้นหรอกฮะ”
“....................................”
“ผมว่ามี๊แจกำลังกลัวอะไรสักอย่างมากกว่า ช่วงนี้มี๊แจดูเครียดๆนะฮะ”เด็กน้อยพูดออกมาอย่างมีหลักการและเหตุผลทำให้ร่างสูงอดที่จะคิดตามไม่ได้ ถ้าเป็นเมื่อก่อนเรื่องพวกนี้คือเรื่องที่เขาสามารถจัดการได้สบายแต่ตอนนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว....
“ป๊ายุนก็พยายามเข้านะฮะ...ผมไปละ บ๊ายบาย”พูดจบเทพน้อยก็หายวับไปทันที ทำเอายุนโฮต้องส่ายหน้าด้วยความปวดหัวแต่ก็อดที่จะยิ้มด้วยความเอ็นดูไม่ได้......
แล้วคืนนี้ก็จบลง........ที่ยุนโฮนอนกอดร่างบางอย่างอบอุ่นเหมือนหลายๆคืนที่ผ่านมา......
*****************
คืนที่ 4
“นายมีอะไรไม่สบายใจรึเปล่าแจจุง”ร่างเล็กที่นอนอยู่ข้างๆร่างบางเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง รู้สึกตะหงิดๆในใจตั้งแต่เพื่อนรักมาขอนอนด้วย จนต้องไล่แกมบังคับให้ปาร์คยูชอนไปนอนกับคุณยุนโฮแทน บรรยากาศตกอยู่ในความเงียบจนจุนซูรู้สึกอึดอัด.......
“ฉันไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงดี.......”พูดมาแค่นั้นแล้วร่างบางก็เงียบ จุนซูกุมมือแจจุงเอาไว้หลวมๆก่อนจะกระชับให้แน่นขึ้น
“ฉันไม่รู้หรอกนะ ว่านายเครียดเรื่องอะไร....”
“............................................”
“แต่ถ้านายไม่บอกฉัน ฉันก็ช่วยนายไม่ได้ คนเราน่ะ ไม่ได้อยู่บนโลกนี้แค่คนเดียว และตอนนี้นายก็อยู่กับฉันด้วย”จุนซูส่งยิ้มอ่อนๆแล้วพลิกตัวไปกอดแจจุงที่พลิกตัวมากอดจุนซูเช่นกัน ใบหน่าหวานซบลงกับอกนิ่มก่อนจะเริ่มเล่าเรื่องราวทั้งหมด
“วันนั้นฉันตื่นนอนขึ้นมา แล้วก็เจอเด็กคนหนึ่ง....เค้าเป็นเทพ เค้าบอกว่าเค้าจะต้องมาเกิดเป็นลูกของฉันกับยุนโฮ แต่ฉันกับยุนโฮไม่รักกันสักทีเค้าเลยมาเกิดไม่ได้.......”มือบางลูบหลังเพื่อนเบาๆแล้วค่อยๆรับฟังอย่างใจเย็น แม้อดที่จะแปลกใจไม่ได้แต่ก็เชื่อว่าเพื่อนรักของตนไม่ได้พูดโกหก....
“แต่เทพที่จะต้องมาเกิดบนโลกมนุษย์มีเวลาแค่ 6 ปี เค้าก็เลยลงมาหาฉัน เพื่อทำให้ตัวเองไปเกิด.....ฉันจะทำยังไงดีจุนซู ฉันอยากช่วยเค้า แต่ฉันกลัว มันเหลือเวลาอีกแค่ 4 วันเองนะจุนซู”แจจุงกอดจุนซูเอาไว้แน่น น้ำตาเม็ดเล็กไหลลงมาไม่หยุดถึงแม้มันจะซึมลงไปในเนื้อผ้า เป็นเวลานานกว่าร่างบางจะหยุดร้องไห้ จุนซูค่อยๆปาดน้ำตาให้เพื่อนรักอย่างอ่อนโยน
“นายคิดดูดีดีนะแจจุง...ถึงเด็กคนนั้นจะเกิดขึ้นมาได้ แต่ถ้านายกับคุณยุนโฮไม่รักกัน เค้าจะมีความสุขเหรอ.....ถามใจนายเองดีกว่านะ....ว่าสิ่งที่นายกลัวคืออะไร.....เพราะเวลามันไม่รอนายเสมอไปหรอก.....แต่สิ่งที่ฉันรับรู้ได้ ....คือคุณยุนโฮเค้ารักนาย”ร่างบางเบิกตากว้างกับคำพูดที่ได้ยิน ดวงตากลมโตมองหน้าเพื่อนรักอย่างไม่เชื่อหู....
“นายรู้ได้ยังไง”0[]o
“ความลับน่ะ ^___^”ว่าแล้วจุนซูก็ล้มตัวนอนแล้วหันหลังให้ร่างบางทันที่ แรงเขย่าตามลำตัวไม่ทำให้คนที่แกล้งหลับสนใจเลยแม่แต่น้อย.....ถึงเวลาที่นายต้องจัดการกับความรู้สึกของตัวเองแล้วนะแจจุง ฉันอุตส่าห์เชียร์พวกนายมาตั้งนาน อิอิ
“จุนซู ตื่นมาก่อนสิ...มาบอกแจจุงก่อนนนนนนTT”แจจุงยังเขย่าตัวจุนซูเค้นหาความจริงไม่เลิกแม้(จะเข้าใจว่า)เพื่อนรักจะหลับไปแล้ว แต่ในที่สุดก็ต้องยอมแพ้ให้กับความอดทนของจุนซู แจจุงล้มตัวนอนลงข้างๆก่อนจะลอบยิ้มอยู่คนเดียว.....ขอบใจนะจุนซู นายเป็นเพื่อนดีที่ดีสุดของฉันเลยนะรู้ตัวรึเปล่า...แขนเรียวลากเพื่อนรักให้มาอยู่ในอ้อมแขน ก่อนที่ทั้งสองจะนอนกอดกันอย่างมีความสุข
ตัดมาที่ฝั่งของยุนโฮและยูชอนกันบ้าง
“ห๊า!!!!! แล้วมึงจะเอาไงวะ!!!”ปาร์คหน้าไก่อุทานเสียงดังเมื่อรับรู้เรื่องราวทั้งหมดจากร่างสูง มีเด็กเทพคนหนึ่งมาบอกว่าจะมาเกิดเป็นลูกของไอ้หมียุนกับคุณแจจุงเลขาสุดสวย ฮ่วย!! ทำไมชีวิตเพื่อนตรูมันแฟนตาซีแบบนี้วะเนี่ย-*-
“ไม่รู้ว่ะ ถึงได้มาถามไง กูจะทำไงดีวะ ไม่อยากฝืนใจเค้าว่ ะ”ยุนโอกล่าวออกมาอย่างหนักอกหนักใจ ทำเอาคนปากห้อยต้องอ้าปากค้างอีกรอบ.....วิญญานคาสโนว่ายังไม่กลับคืนร่างมัน 100% นี่หว่า ไม่งั้นคุณแจจุงคงเสร็จไปแล้ว อะคึๆๆๆๆ
“เลิกทำปากห้อยสักทีได้ไหมวะ ช่วยกูจริงจังหน่อย ไอ้ห้อยนิ!!”ยูชอนหุบปากทันทีที่สิ้นคำด่า ร่างสูงพาดท่อนแขนหนักๆลงไปบ่นไหล่กว้างของเพื่อนรักหน้าหมีพร้อมกำหน้าตาที่เริ่มจริงจัง ยูชอนถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ก่อนจะพูดคำบางคำให้ร่างสูงคิดได้
“ถ้าแกไม่มั่นใจว่ารักเค้ารึเปล่าแกก็อย่าไปทำอะไรเค้าเลย เดี๋ยวครอบครัวจะมีปัญหาว่ะ ฉันก็ไม่อยากให้แกไปทนทุกข์ทรมานกับขุมนรกที่ขึ้นมาไม่ได้หรอกนะเว้ยย! ฉันจะบอกให้นะ ครอบครัวมันมีความหมายมากกว่าที่แกคิด แต่ถ้าแกรักเค้าจริงล่ะก็.....จับฟันแล้วขอแต่งไปซะ รับรองไม่มีหลุด!!!”ยูชอนพูดอย่างมาดมั่นทำเอายุนโฮถึงกับคิ้วกระตุก.....................จับฟันแล้วขอแต่ง????
“โหมึง......คมว่ะไม่น่าเชื่อว่าหน้าอย่างมึงจะคิดเป็นด้วย”ในที่สุดสมองหมีๆก็เข้าใจขึ้นมาบ้าน อันที่จริงมันก็น่าสนอ่ะนะ แต่ว่า.....เขายังไม่มั่นใจความรู้ของตัวเองเลยนี่สิปัญหาหนัก......
“แต่กูไม่มั่นใจว่ะว่ากูรักเค้ารึเปลา”ยูชอนถึงกับเหวอเมื่อเพื่อร่างสูงที่เมื่อครู่ก็ร่างเริงดีอยู่ จู่ๆก็ทำเศร้า สมองไก่ๆนั่งคิดไปคิดมาก็นึกขึ้นได้ว่าคนอย่างยุนโฮถึงจะเคยควงสาวมากมายแต่ก็ไม่เคยมีความรักแบบฝังจิตฝังใจมากก่อน....อย่างนี้ปาร์คต้องกู้ หุหุหุ
“แอบมองเค้าอยู่ห่างๆ ชอบไปลวนลามเค้า จ้องเค้าโดยไม่มีเหตุผล เค้าทำอะไรก็ดูน่ารักน่าหลงไปหมด ยิ้มหวานเหมือนนางฟ้า ไม่อยากให้เจ็บป่วย เป็นห่วงอยู่ตลอดเวลา กลัวว่าเค้าจะได้รับอันตราย ถ้าไม่มีเค้าอยู่ด้วยถึงกับกินไม่ได้นอนไม่หลับ ไม่ได้เจอหน้าก็ขอให้ได้ยินเสียง บางทีก็อยากจะหาเรื่องให้เค้ามาอยู่ใกล้ๆ............”และอื่นๆอีกมากมายที่ยูชอนค่อยๆพ่นใส่หูของยุนโฮทีละฉากๆ ร่างสูงก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ตามคำพูดของเพื่อนรักอย่างเดียว เหม่อไปเหม่อมาจนโดนปีกไปตบกะโหลกเข้าให้
ป๊าบ!!!!!
“โอ้ย!!!!!”ร่างสูงลูบหัวป้อยๆพลางมองยูชอนที่ยืนเก๊กยักคิ้วจึกๆอยู่ตรงหน้าอย่างเคืองๆ แต่ก่อนที่จะพูดอะไรไปมากกว่านี้ เสียงแหบเสน่ห์ก็แทรกขึ้นมาเสียก่อน....
“เคลิ้มขนาดนี้ยังบอกตัวเองว่าไม่มั่นใจอีกนะมึง ใครๆเค้าก็ดูออก จัดการได้แล้ว!! คนทั้งบริษัทเค้าลุ้นจนเหนื่อยแล้วนะเว้ยย!!!”พูดจบยูชอนก็กระโดดกลิ้งไปกับที่นอนแล้ว(แกล้ง)หลับสนิททันที เพราะกลัวจะโดนเอาคืนที่ตนเองไปตบหัวร่างสูงเข้าให้ ปากห้อยๆแอบยกยิ้มอยู่ในมุมกล้องที่ร่างสูงไม่เห็น...........อุตส่าห์ช่วยขนาดนี้...หวังว่าแกจะคิดได้แล้วนะเว้ยย^^
ยุนโฮถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายกับเพื่อนคนนี้ มือหนาปิดไฟลงแล้วคลานไปนอนข้างๆ ขาหนักๆพาดไปที่ลำตัวยาวๆของยูชอนอย่างหมั่นไส้.......ขอบใจว่ะไอ้ปาร์ค ^^
ในความมืดมิด ยูชอนกำลังรู้สึกเหมือนถูกหมีอำ มือหนาพยายามงัดท่อนซุงออกจากตัว น้ำหนังที่กดทำลงมากำลังจะทำให้พยาธิในท้องของเขาโอครวญเพราะไม่มีที่อยู่!!!!
‘เอาขาหมีๆของมึงงงงลงงงงป๊ายยยยยย’ T______T
*****************
คืนที่ 5
อีกคืนที่ยุนโฮและแจจุงนอนอยู่บนเตียงเดียวกัน อ้อมกอดที่เคยได้รับอยู่ทุกค่ำคืนบัดนี้กลับดูเหมือนห่างไกลทั้งที่ห่างกันแค่หมอนข้างกั้น ร่างบางเองก็คิดมากเกินกว่าที่จะมานั่งน้อยอกน้อยใจกับอะไรแบบนี้ หน้าหวานแดงซ่านเมื่อคิดถึงประโยคที่เพื่อนรักเอ่ยก่อนที่ตนจะเข้าห้องนอน....
“แจจุง! ถ้าเค้าไม่ยอมนายก็รอให้เค้าหลับก่อนแล้วค่อยลักหลับสิ รับรองเหอะ! ตื่นมาเดี๋ยวเค้าก็สมยอม” ^_____^
มือบางขยำผ้าปูที่นอนซะเป็นรอยยับย่น ฟันขาวกัดปากเบาๆ ก่อนที่คนสวยจะยันตัวขึ้นจากเตียง แจจุงชะเง้อมองไปยังใบหน้าของร่างสูง ตาคมปิดสนิทหากแต่คิ้วหนายังคงขมวดกันแน่น สื่อให้เห็นว่าร่างสูงคงหลับไปแล้ว
แจจุงค่อยๆขยับตัวขึ้นไปคล่อมร่างสูงช้าๆ เสื้อกล้ามตัวหนาถูกเลิกขึ้นก่อนมันจะหลุดออกไปจากร่างกายหนาอย่างไม่ง่ายนัก หน้าที่แดงอยู่แล้วกลับยิ่งแดงมากขึ้นไปอีกเมื่อเห็นมัดกล้ามสมชายชาตรีแบบจะๆ แจจุงซุกหน้าลงกับมือนุ่มของตัวเพราะความอาย
“ให้ตายสิ! เกิดจากท้องพ่อท้องแม่ยังไม่เคยต้องมานั่งทำอะไรแบบนี้เลย>///<” เสียงหวานพึมพำออกมาเบาๆ....
กางเกงบ๊อกเซอร์ใส่นอนเลื่อนลงมาตามท่อนขาก่อนมันจะเคลื่อนที่ตามแรงเหวี่ยงลงไปตกอยู่ที่พื้นมือบางที่กำลังจะถอดชั้นในส่วนสุดท้ายออกต้องชะงักลงเมื่อมือหนาคว้าหมับเข้าที่มือบาง.....
“นายถอดให้ฉันแล้ว.....งั้นต่อไปตาฉันมั่งละกัน!!!!”
ตัดฉับ / / ฝากเมลล์เอาไว้ได้เสมอจ้า ^^
“ยุน....แจแสบ”เสียงหวานที่ครางออกมาเบาๆทำให้ร่างสูงเพิ่งจะเพ่งมองเห็นได้ชัดๆว่ามีคราบเลือดเกรอะกรังอยู่
“เดี๋ยวยุนพาแจไปอาบน้ำก่อนนะครับ”แขนแกร่งช้อนตัวของร่างบางขึ้นแนบอกก่อนจะวางลงในอ่างน้ำแผ่วเบา
“เจ็บมากไหมแจ.....”น้ำสะอาดถูกเปิดออกจนแทบเต็มอ่าง น้ำเรียวถูไถไปที่ช่องทางเบาๆ โพรงแคบหดเกร็งเพราะความแสบ
.
.
.
“เสร็จแล้วไปนอนกันนะ”ร่างสูงพูดขึ้นอย่างอ่อนโยน ผ้าผืนหนาพันกายบางไว้ทันทีที่อาบน้ำเสร็จ ยุนโฮช้อนตัวบางๆขึ้นให้ไปนั่งอยู่บนโซฟา สวมใส่เสื้อผ้าตัวหลวมให้กายบางได้มีอะไรปิดบัง ร่างสูงก็แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าตัวใหม่เช่นกัน ผ้าห่มผืนหนาถูกคลี่ออกก่อนมันจะแผ่ขยายกลายเป็นผ้าปูเตียงผืนใหม่โดยปริยาย ยุนโฮค่อยๆโอบอุ้มร่างบางที่หลับคาโซฟาไปแล้วให้มานอนสบายๆบนเตียง ปากหยักจูบหน้าผากเนียนเบาๆ แจจุงซุกหัวเข้ากับแผ่นอกอบอุ่นเพราะความหนาว แขนเรียวโอบกอดเอวหนาเอาไว้เสมือเป็นหมอนข้าง ร่างสูงโอบร่างบางเอาไว้ในอ้อมกอดก่อนจะหลับตาลงเพราะความอ่อนเพลีย......
..........ไม่มีใครรู้ว่ามุนบินจะได้ไปเกิดรึเปล่า
..........หรือสิ่งที่ทั้งคู่ทำไปจะไม่ช่วยอะไรเลย
..........ในเวลานี้แจจุงได้ทำสิ่งที่ไม่รู้ว่าถูกรึเปล่าไปแล้ว
..........อนาคต
..........มีใครที่รู้ความจริง!!!!
*****************
“ฮึ ข้าจะลงโทษเทพที่ผิดกฎอย่างเจ้าเช่นไรดี......ซีวอน!!!!!!”มหาเทพซีอุสมองตรงไปยังร่างของเทพตัวน้อยตรงหน้าด้วยอารมณ์คุกรุ่น ก่อนหางเสียงจะตวัดถามผู้ที่มีหน้าที่ปกครองผู้กระทำผิดกฎสวรรค์ในครั้งนี้โดยตรง.....
“ข้าคิดว่า..”
“ข้าต้องการคำตอบไม่ใช่ความคิดของเจ้า!!!!”เสียงมีอำนาจตวาดแทรกขึ้นมาเหมือนจะทดสอบปัญญาของเทพผู้ให้กำเนิด ร่างสูงที่คุกเข่าอยู่หน้าบัลลังค์สะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะปรับน้ำเสียงให้เป็นปกติแล้วกล่าว ”คำตอบ” ในแบบที่มหาเทพต้องการออกไป...
“ตอนนี้กำลังของมุนบินอ่อนแอยิ่งนัก...ให้เทพแห่งการเยียวยารักษาให้หายดีก่อนแล้วค่อยตัดสินโทษ ท่านคงไม่ใจร้ายเกินไปใช่หรือไม่...ท่านมหาเทพ...” เทพซีอุสเหยียดยิ้มอย่างพึงพอใจ ร่างสูงใหญ่เหยียดกายขึ้น ชายผ้าผืนหนาสะบัดพลิ้วไปตามแรงหมุนตัว และคำตอบที่ได้ก็ทำให้เทพหลายๆคนเผยยิ้มออกมาอย่างปิดแทบไม่มิด....
“งั้นก็เอาตามนั้น และเห็นแก่ความดีความชอบของเจ้า....ซีวอน ข้าจะเลื่อนกำหนดวันรับโทษให้เป็นวันที่เจ้าเทพน้อยนี่ต้องลงไปเกิดเป็นลูกหมา แต่ถ้าหากเจ้าได้ไปเกิดจริงๆละก็”
“.................................”
“.................................”
มหาเทพชะงักประโยคเอาไว้ ก่อนจะเผยยิ้มอ่อนโยนออกมาเมื่อทุกคนยังคงปิดปากเงียบรอฟังอย่างใจจดใจจ่อ.....
“โทษทั้งหมด ข้าจะยกให้เจ้า”
ฉับพลัน!แสงสีแสบตาก็สว่างวาบขึ้น ร่างเทพน้อยหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยก่อนจะปรากฏร่างของเทพแห่งการเยียวยารักษาขึ้นมาแทนที่ เทพซองมินยิ้มออกมาน้อยๆแล้วค้อมหลังลงทำความเคารพอย่างสุภาพ......ก่อนจะหายตัวไปอีกครั้ง
ทุกอย่างยังคงตกอยู่ในความเงียบ หากแต่บรรยากาศกลับไม่อึดอัดเหมือนเมื่อครู่ ซีวอนถอนหายใจออกมาหนักๆออกมา ความจริงที่ใครๆต่างคาดไม่ถึงทำเอาเทพหลายๆตนในที่นั้นถึงเบิกตากว้างแล้วมองหน้ากันไปมา.....
“ท่านล้อเล่นซะข้าใจหายใจคว่ำ”เสียงทุ้มเอ่ยออกมาด้วยความไม่เห็นด้วย แต่ตัวการของเรื่องวุ่นวายกลับเดินไปนั่งบนบัลลังค์แล้วหยิบไวน์ขึ้นมาจิบอย่างไม่หยี่ระ
“ก็นั้นเป็นพียงแค่ค่านิยมนี่ กฎของสวรรค์มีบอกที่ไหนว่าห้ามเทพลงไปป้วนเปี้ยนบนโลกมนุษย์”ทันทีที่พูดจบไวน์หลายแล้วก็ปรากฏขึ้นข้างๆกายเทพไม่กี่ตนในที่นั้น ปากหยักของมหาเทพยกยิ้มกว้างอย่างแสดงความยินดี
“ดื่มฉลอง....เพราะมุนบินขวัญใจพวกเจ้าได้ไปเกิดแน่!!!!!”
*********************
หลังจากที่คณะทัวร์จากบริษัทยักษ์ใหญ่กลับมาถึงกรุงโซลอย่างปลอดภัยพร้อมกับข่าวดี งานแต่งงานก็ถูกกำหนดให้เกิดขึ้นในอีก 3 เดือนข้างหน้า ทางฝั่งครอบครัวของท่านประธานก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร แล้วยิ่งทางฝั่งครอบครัวของแจจุงพอรู้ข่าวก็ดีใจยกใหญ่ ไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องขัดขวางเพราะความสุขของลูก...ก็คือความสุขของพ่อแม่เช่นกัน.....
.
.
กลางดึกคืนหนึ่ง....หลังจากที่ยุนโฮไม่ยอมกลับบ้านมาหลายคืน - -
ร่างผอมบางยืนกอดอกมองคนที่นั่งกอดหมอนใบโตทำตาปริบๆอยู่บนเตียงด้วยใบหน้างอง้ำอย่างไม่พอใจ บรรยากาศเย็นเยือกเพราะเครื่องปรับอากาศที่ทำหน้าที่ให้อุณหภูมิของห้องลดต่ำลง.....หรืออาจเป็นเพราะสงครามประสาทที่คนสวยเล่นมาได้นาทีกว่า....
และในที่สุด......
“.............................”
“ฮื้ออ…แจจุง มานอนได้แล้วน่า ยุนรอนานแล้วนะครับ”วงแขนกว้างอ้าออกเหมือนจะอ้อนให้คนอุ้ม สลักคราบท่านประธานสุดหล่อเหลือเพียงอาการของหมีที่ถูกเลี้ยงดูอย่างดี เสียงนุ่มทุ้มที่มักเอาชนะใจสาวๆได้เสมอถูกดัดเปลี่ยนเป็นเสียงของเด็กน้อยขี้อ้อนเวลาอยากได้ของเล่น.........แต่มันก็ไม่สามารถทำลายกำแพงของคนที่อารมณ์ไม่ปกติลงได้
“.............................”เพราะคนสวยกำลังโมโห!!!!
“ไม่เอาน่า คนดี ดึกแล้วนะครับ”ไม่รู้ว่าโมโหอะไร....แต่ยิ่งเจอแบบนี้มันยิ่งหงุดหงิด!!!!
“แจจะไปนอนข้างนอก!! อยากนอนในห้องก็นอนไปคนเดียวแล้วกัน!!!!”ว่าแล้วหมอนใบโตกับผ้าห่มผืนหนาก็ถูกแบกออกไปวางแผ่ยังห้องรับแขกทันที ร่างสูงถอนหายใจออกมาอย่างท้อใจ.....กลับมาจากทะเลอาทิตย์แรกยังดีๆอยู่เลยนี่นา เอ๊ะ! แล้วแจจุงเริ่มเป็นแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไร????
ปึงๆๆๆๆๆๆๆๆๆ!!!!
ยังไม่ทันคิดอะไรได้มากกว่านี้ เสียงเคาะประตูดังปึงปังก็ดึงให้ร่างสูงหลุดออกมาจากภวังค์
ชิบหาย!!!!! งานเข้าแล้วไหมล่ะ!!! ลืมง้อคนสวยนี่หว่า!!!!!!
“ชองยุนโฮ!!!! นายจะไม่ง้อฉันจริงๆใช่ไหม!!!!”เสียงหวานที่ฟังดูเกรี้ยวกราดทำให้ร่างสูงขนลุกซู่ อาศัยความว่องไวรีบกระโดดถลาไปเปิดประตู แขนแกร่งถูกยกขึ้นมากันท่าการตบตีของร่างบางที่ชักจะถี่ขึ้นเรื่อยๆอย่างรู้แกวจนตามท่อนแขนของเขาเป็นรอยจิกข่วนเต็มไปหมด ยุนโฮหลับตาปี๋ยอมรับชะตากรรมด้วยความหวาดเสียว!!!.....แต่วันนี้คงไม่ใช่
“อึกกก ฮือออ โฮฮฮ....ไม่รักกันแล้วใช่ไหมอ่ะ!! ฮือออ หมีบ้า ใจร้ายยย!!!”ตาคมค่อยลืมขึ้นมาด้วยความรู้สึกแปลกๆเมื่อไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดอย่างเคย...ตรงกันข้าม หัวใจกลับกระตุกวูบลงเพียงเพราะน้ำตาที่ไหลนองใบหน้าหวาน ลำแบขนที่ถูกยกขึ้นมาป้องกันตัวเองในตอนแรกค่อยลดต่ำลง ก่อนมันจะไปโอบรอบเอวบางให้แนบชิด....มืออบอุ่นลูบผมดำขลับเบาๆ เพียงไม่นานก็ต้องรู้สึกแปลกใจอีกครั้งเมื่อร่างในอ้อมกอดนิ่งไป พร้อมกับลมหายใจที่สม่ำเสมอ แจจุงหลับคาอกหนาด้วยความอ่อนเพลีย.......ที่มันมากกว่าปกติ
แล้วอะไรล่ะ?ที่ทำให้แจจุงที่เคยน่ารักเปลี่ยนไปได้มากขนาดนี้????
ยิ่งคิด?......หมีก็ยิ่ง “งง”
เลิกคิดดีกว่า - -
ว่าแล้วยุนโฮก็ค่อยๆอุ้มร่างบางขึ้นแนบอก ขาเรียวสาวเท้าให้เร็วขึ้นเมื่อรู้สึกถึงน้ำหนักที่ไม่ปกติ........แจจุงน้ำหนักเพิ่มขึ้นเหรอเนี่ย!!!
*********************
ยุนโฮค่อยๆวางแจจุงลงบนเตียง อย่างแผ่วเบาเพราะกลัวว่าตนจะไปรบกวนเวลานอนของร่างบางเข้าให้ แขนเรียวบางตวัดกอดเอวหนาทันทีที่คนรักทิ้งตัวลงกับเตียง มือหนาลูบกลุ่มผมสีดำสนิทเบาๆด้วยความรัก แต่ถึงอย่างนั้นสมองหมีๆก็ยังคงครุ่นคิดถึงอาการที่เปลี่ยนไปของร่างบางไม่ เลิก มือหนาตวัดหยิบโทรศัพท์เครื่องแพงขึ้นมากดเลือกเบอร์ที่คุ้นเคยก่อนจะกด โทรออกทันทีที่นึกอะไรขึ้นมาได้.....
“ฮัลโหล...”น้ำเสียงงัวเงีย ของคู่สายที่สื่อออกมาทำให้ร่างสูงรับรู้ได้ทันทีว่ายูชอนคงจะตื่นมาเพราะ เสียงโทรศัพท์ ทั้งที่อยากจะหลับต่อขนาดไหน แต่ความร้อนรนที่สื่อออกมาผ่านน้ำเสียงก็ทำให้มือหนาดันร่างตัวเองขึ้นมาพิง หัวเตียงได้อย่างไม่ยากเย็น
“เฮ้ย ไอ้มิค กูมีเรื่องอยากจะปรึกษา”
“มีไร???”
“คือว่าอยู่ๆแจก็เป็นอะไรไม่ รู้ว่ะ กูรู้สึกว่าช่วงนี้แจขี้หงุดหงิด..............”ร่างสูงค่อยๆบรรยายอาการ แปลกๆของแจจุงที่ตนเองประสบพบเจอมา 2 สัปดาห์กว่าๆอย่างละเอียด ตาคมก็มองร่างบางที่นอนซบอกตัวเองไปด้วยเพราะเกรงว่าคนที่กำลังหลับสนิทจะ ตื่นขึ้นมา นิ้วเรียวเกลี่ยแก้มของแจจุงเล่นเบาๆอย่างหยอกเอิน ยุนโฮกดจมูกเข้ากับแก้มนิ่มด้วยความรัก....
“....................”เสียง จากปลายสายเงียบไปจนร่างสูงคิดว่ายูชอนอาจจะเผลองีบหลับไปแล้ว นิ้วเรียวเตรียมเปลี่ยนตำแหน่งวางนิ้วเป็นปุ่มวางสาย แต่ประโยคสั้นๆที่ดังลอดออกมาทำเอาโทรศัพท์แทบร่วงจากมือ!!!!
“กู ว่าแจท้องว่ะ”
“ห๊า!!!!!”เสียงทุ้มเผลอตะโกนออกมา ด้วยอารมณ์หลากหลาย ก่อนจะถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อเห็นว่าแจจุงยังคงหลับสนิทดี
“แต่กูไม่มั่นใจนะเว้ย อย่างนี้มันต้องพิสูจน์!”
*********************
แจ จุงตื่นแต่เช้ามาทำงานตามปกติ ไม่รู้ทำไมวันนี้รู้สึกอารมณ์ดี๊ดี มองอะไรก็มีความสุขไปหมด ถึงแม้จะแอบงงงวยไปบ้างที่ยุนโฮดูเหมือนจะเทคแคร์เขาดีกว่าปกติ แต่ก็ไม่ได้สงสัยอะไรมากมาย ปากบางยิ้มกว้างอย่างน่ารักเมื่อห็นจุนซูเดินถือกล่องขนมเค้กร้านโปรดมาให้ ถึงโต๊ะทำงานหน้าห้องท่านประธาน แจจุงค่อยๆแกะกล่อง เค้กออกมาด้วยกลัวว่าหน้าเค้กจะพังไปเสียก่อน ท้องไส้เริ่มรู้สึกแปลกๆเมื่อกลิ่นหอมที่ตนเคยชอบนักหากลับหลายเป็นกลิ่น เหม็นชวนอ้วก แต่ก็รู้สึกไม่ค่อยรุนแรงเท่าไรนักจึงตัดสินใจตักเค้กตรงหน้าเข้าปากด้วย กลัวว่าเพื่อนรักที่นั่งจ้องอย่างใจจดใจจ่อจะเสียใจที่ตนไม่ยอมกลิ่นเค้กที่ อุตส่าห์ซื้อมาให้
“อุ๊บ”มือขาวรีบยกขึ้นมาอุด ปากเพราะอาหารที่กินเข้าไปเมื่อตอนเช้าแล่นขึ้นมาจุกอยู่ที่ลำคอ ขาเรียวยืนขึ้นแล้วรีบวิ่งเข้าไปในห้องน้ำอย่างรวดเร็ว ไม่กี่วินาทีต่อมา ประตูห้องท่านประธานที่ปิดสนิทอยู่ก็กระแทกเปิดออกมาก่อนที่ยุนโฮวิ่งไปทิศ เดียวกันกับที่แจจุงวิ่งไปเมื่อครู่ด้วยความเป็นห่วง
“อ้วกกกก!!!”ความดังของเสียงอาเจียนที่ ดังลอดออกมาจากห้องน้ำไม่ได้ทำให้ร่างสูงรู้สึกขยะแขยงแต่อย่างใด ตรงกันข้ามยุนโฮกลับเดินเข้าไปลูบแผ่นหลังบางเบาๆ มือหนาเอื้อมดึงทิชชู่ข้างๆอ่างล้างหน้ามายื่นให้ร่างบาง
“แหวะ! อ้วกกกก!!!”
“ไหว ไหมครับแจ...ไปโรงพยาบาลรึเปล่า”น้ำนุ่มเอ่ยออกมาด้วยความเป็นห่วง แจจุงน้ำตาคลอเบ้าอย่างตื้นตันใจ นานเท่าไรแล้วที่เขาต้องป่วยอยู่คนเดียวโดยไม่มีใครดูแล...ก็คงตั้งแต่แยก ตัวออกมาอยู่คนเดียวสินะ เสียงอาเจียนยังคงดังออกมาเป็นระยะแต่ก็มีเสียงทุ้มคอยช่วยเหลือดูแลอยู่ทุก ครั้ง จุนซูเผยยิ้มออกมาเล็กหลังจากแอบมองเหตุการณ์ข้างในห้องน้ำอยู่นาน ขาเรียวก้าวออกไปจากจุดๆนั้นก่อนจะเดินเข้าลิฟต์ไปเพื่อเตรียมตัวสำหรับแผน ต่อไปที่นัดแนะกับปาร์ค ยูชอนเอาไว้
-
-
แจ จุงนอนหลับตาพริ้มอยู่ในห้องพักของยุนโฮที่มักใช้นอนเมื่อตนต้องทำงานดึกๆ ส่วนยุนโฮก็ถึงกับต้องหอบเอกสารเข้ามาเซ็นในห้องเคียง ข้างร่างบาง แทนที่จะนั่งเซ็นที่โต๊ะอย่างปกติ โต๊ะทำงานของเลขาหน้าห้องที่แจจุงมักนั่งอยู่เป็นประจำมีพนักงานจากฝ่าย บุคคลเข้ามาแทนที่ตามคำสั่งของบุคคลที่มีอำนาจมากที่สุดในบริษัท
“อื้อ อ ยุนโฮ....”คำแรกที่เอ่ยออกมาทันทีที่ลืมตาคือชื่อของคนรักที่อยู่ข้างกาย ยุนโฮวางงานที่ตนอ่านอยู่ไว้ข้างๆตัวแล้วเดินไปประคองแจจุงขึ้นมานั่งบน เตียง
“หิวน้ำ...”กลุ่มผมสีดำถูไถ ไปกับอกกว้าง น้ำเสียงออดอ้อนอย่างน่ารักทำเอาร่างสูงต้องหอมแก้มๆนิ่มๆไปซะหลายฟอดก่อนจะ เดินไปเทน้ำใส่แก้วมาให้ร่างบางดื่มกิน แจจุงยกตัวขึ้นไปนั่งบนตักของยุนโฮ แขนเรียววาดขึ้นโอบคอหนาเอาไว้หลวมๆ ก่อนจมูกนิ่มจะกดลงหอมแก้มทั้งสองข้างของยุนโฮที่ดูเหมือนจะบวมๆขึ้นเพราะ กินจุเหลือเกิน
“น่ารักจัง”เสียงหวานดังขึ้น พร้อมกับมือขาวที่บิดแก้มยุ้ยๆไปมาอย่างน่ารัก มือหนาที่โอบเอวบางอยู่ยกขึ้นมาแนบกับมือขาวที่ทาบอยู่บนหน้าของตนแล้วส่ง สายตามีความหมายไปให้ร่างบางที่ยังคงนั่งอยู่บนตัก แก้มเนียนแดงปรั่งขึ้นมาอย่างเขินอายแต่ปากอิ่มก็กดจูบลงไปบนปากหยักเบาๆ
“ออก ไปรอยูชอนกับจุนซูข้างนอกดีกว่า จะได้ออกไปกินข้าวพร้อมกันดีไหม?”แจจุงพยักหน้าหงึกหงักอย่าง เห็นด้วย ก่อนจะลุกขึ้นจากตักของร่างสูง ยุนโฮเองก็ลุกตามขึ้นมาติดๆ ทั้งสองโอบเอวกันออกไปยังห้องที่ยุนโฮควรจะนั่งทำงานอยู่…
“อะ แฮ่ม!”เสียงกระแอม ไอดังขึ้นขัดจังหวะคู่รักที่กำลังเดินโอบเอวออกมาจากห้องอย่างสวีทหวาน แจจุงขืนตัวออกมาจากอ้อมแขนแกร่งกายบางทรุดนั่งลงบนโซฟาฝั่งตรงข้ามเพื่อน รักที่มีแฟนหนุ่มแปะยี่ห้อรองผู้บริหารบริษัทนั่งอยู่ข้างกาย
“สวัสดี ครับคุณยูชอน จุนซูขอโทษนะที่เมื่อเช้า......”
“ไม่ เป็นไรหรอกแจ อ่ะนี่….จุนซูซื้อมะม่วงมาฝาก”จุนซูเอ่ยตัดประโยครู้สึกผิดนั่นไป มือขาวส่งถุงมะม่วงเปรี้ยวเข็ดฟันที่ถูกเฉาะมาอย่างดีให้เพื่อนรักที่ดู หงอยๆ
“กินดูสิอร่อยนะ”แจจุงเงย หน้าขึ้นมามองหน้าของจุนซูก็ใจชื้อขึ้นเพราะดูท่าว่าเพื่อนของตนจะไม่ได้ โกรธเคืองอะไร ตรงกันข้าม รอยยิ้มน่ารักๆถูกส่งมาให้จนแจจุงต้องยิ้มตาม มือขาวรีบหยิบอาหารพิสูจน์คนท้องขึ้นมากินอย่างไม่รีรอ ยูชอนแอบเบือนหน้าหนีอย่างหวาดเสียวเพราะเขาพิสูจน์ความเปรี้ยวมาเรียบร้อย แล้ว
“อร่อยจริงๆด้วย! ยุนลองกินดูสิ”ชิ้นมะม่วงถูก ยื่นเข้าไปในปากของร่างสูง ยุนโฮกัดเข้าปากอย่างกล้าๆกลัวๆ ทันทีที่รสชาติเปรี้ยวจี๊ดถึงใจแตะลิ้นหน้าหล่อก็เหยเกทันทีแต่ก็พยายามที่ จะเคี้ยวให้หมดเพราะเกรงว่าร่างบางที่อุตส่าห์ป้อนจะเสียใจ
“แจ จุนซูว่าจะพายูชอนไปตรวจสุขภาพแหละ ไปด้วยกันไหม”ร่างเล็กเริ่มวางแผนหลอกล่อให้เพื่อนรักไปตรวจครรภ์เพื่อความ แน่ชัดอีกที เมื่อผลการพิสูจน์เริ่มจะแน่ชัดขึ้น แจจุงทำท่าครุ่นคิดพร้อมกับหยิบมะม่วงเข้าปากไม่หยุด
“แจ คิดดูนะ คุณยุนโฮทำงานหนักจะตาย แถมไม่เคยไปตรวจสุภาพด้วยเกิดเป็นอะไรขึ้นมาหล่ะแย่เลย”
“นั่น สิๆ เนี่ยผมกะว่าจะพาจุนซูไปตรวจด้วยเหมือนกัน ช่วงนี้เหมือนจะแปลกๆ ยังกะคนท้อง โอ้ย!!!”ยูชอนพูดสนับสนุนอีกแรงแต่ด้วยประโยคที่เอ่ยขึ้นมาดันปัดหูคน ข้างกายซะนี่ มือบางๆแต่พลังการทำลายล้างสูงจึงฟาดเพี๊ยะเข้ากับแขนแกร่งจนต้องร้องโอยๆ อย่างอดไม่ได้
“อืมนั่นสิ ช่วงนี้แจก็ดูเหนื่อยๆยังไงไม่รู้”ร่างบางพูดขึ้นมาเมื่อนึกถึงอาการของตน เองทำเอายุนโฮหันมามองอย่างอดที่จะเป็นห่วงไม่ได้
“งั้น แจก็ต้องยิ่งไปตรวจเลยนะ ถือว่าทำเพื่อยุนก็ได้”มือหนากุมมือบางเอาไว้ มืออีกข้างยกขึ้นแนบกับหน้าผากเกลี้ยงเหมือนจะวัด อุณหภูมิไข้
“อื้ม งั้นแจไปก็ได้แต่ยุนต้องไปด้วยนะ แจเป็นห่วง”สัมผัสเย็นๆจากหลังมือบางที่ยกขึ้นมาแนบหน้าผากกว้างทำให้ร่าง สูงยิ้มขึ้นมาอย่างมีความสุข ออร่าสีชมพูอมม่วงเปล่งประกายไปทั่วห้อง ไม่ได้มาจากคู่ยุนแจเพียงอย่างเดียว หากแต่มันออกมาจากความรักจากคู่มิคเซียเช่นกัน สายตา 3 คู่มองสบกันอย่างมีความหมาย ยูชอนกับจุนซูแอบแตะมือกันเบาๆเป็นสัญญาแห่งความสำเร็จ ทั้งสี่พยักหน้าให้กันเบาๆก่อนจะเดินออกไปจากห้อง ยุนโฮยิ้มแก้มปริกับข่าวดีที่กำลังจะได้รับ รอเพียงแพทย์ผู้เชี่ยวชาญออกมายืนยันอีกครั้ง.......ถึงว่า.....ช่วงนี้ไม่ เห็นเจ้าตัวเล็กออกมาป้วนเปี้ยนอยู่ใกล้ๆเลย สงสัยกำลังเตรียมตัวไปเกิดอยู่ล่ะมั้ง ^^
“รอไปอีก 9 เดือนนะ ลูกพ่อ”
ยุนโฮเปิดประตูรถให้แจจุงก่อนจะวิ่งเหยาะอ้อมมานั่งฝั่งคนขับ เพลงเบาๆฟังสบายหูถูกเปิดขึ้นสร้างความผ่อนคลายให้บรรยากาศอบอวลไปด้วยความรัก
“เค้าบอกกันมาว่าเปิดเพลงแบบ นี้ให้เด็กในท้องฟังเด็กจะอารมณ์ดี งั้นผมขอเริ่มตั้งแต่วันนี้เลยแล้วกันนะ” ^^
*********************
“ยุนโฮ จุนซู ทำไมตรวจสุขภาพต้องมาที่แผนกสูติด้วยอ่ะ???” มารอที่หน้าแผนกสูติน่ะไม่เท่าไรหรอก...แต่เรื่องของเรื่องคือเขาเป็นผู้ชายนี่สิ แถมรอบๆตัวก็มีแต่คุณแม่ท้องป่อง แล้วยังที่จุนซูเป็นคนจัดการเอกสารทุกอย่างโดยที่เขาแทบไม่ต้องทำอะไรเลยนอกจากเดินเข้ามาในโรงพยาบาล และนั่งลงบนเกาอี้รอตรวจ......แล้วอย่างนี้จะไม่ให้สงสัยได้ยังไง??
ยุนโฮกับจุนซูหันมามองหน้ากันอัตโนมัติก่อนที่จุนซูจะเป็นฝ่ายที่ตอบออกไปพร้อมกับแสดงท่าน่ารักๆที่แสดงถึงอาการงงงวยได้อย่างแนบเนียนจนเพื่อนหายสงสัย “เอ๋???ก็ตรวจภายในไง” ร่างบางพยักหน้าเบาๆเป็นเชิงรับรู้ ในขณะที่หัวใจของว่าที่คุณพ่อกลับเต้นตุบๆด้วยความตื่นเต้น เวลาผ่านไปไม่นานมากนัก ร่างระหงก็เดินออกมาขานชื่อที่ทำให้ร่างสูงลุกพรึ่บ!!!
“คุณพ่อรออยู่ข้างนอกก่อนนะค่ะ”ประโยคที่เอ่ยออกมาพร้อมกับรอยยิ้มจางทำเอามือหนาต้องยกขึ้นมาเกาท้ายทอยอย่างเขินๆ เลือดถูกสูบฉีดขึ้นมาหล่อเลี้ยงใบหน้าคมจนขึ้นสี แจจุงกระพริบตาปริบๆอย่างงงๆแต่ก็เดินตามคุณพยาบาลไปโดยง่าย
“สวัสดีครับ คุณแจจุง อ่า...ก่อนอื่นผมขอถามอาการก่อนนะครับ ช่วงเดือนนี้มีอาการอะไรแปลกๆไหมครับ??”ร่างบางอดที่รู้สึกเกร็งขึ้นมาไม่ได้เมื่อเห็นท่าทีเอาจริงเอาจังของคุณหมอ แต่ก็ให้ความร่วมมือในการตรวจเป็นอย่างดี ริมฝีปากอิ่มเอ่ยอาการที่ตนเองพอจะจำได้ออกไปคร่าวๆ แท่งเล็กๆที่ไม่รู้ว่าคืออะไรถูกยืนมาให้ร่างบาง
“ห้องน้ำอยู่ด้านโน้นน่ะครับ มีอยู่ 3 อัน ใช้ให้ครบทุกอันนะครับเสร็จแล้วเอาไปให้คุณพยาบาลแล้วนั่งรอที่เดิมนะครับ”
“ครับ”แจจุงพยักหน้าขึ้นลงแล้วเดินไปเข้าห้องน้ำตามคำบอกของคุณหมอ มือเล็กพลิกแท่งสีเหลี่ยมเล็กๆไปมา คุณพยาบาลบอกวิธีใช้ให้เรียบร้อย ผ่านไปสักพักร่างบางก็เดินออกมาแล้วส่งแท่งนั่นให้คุณพยาบาลเอาไปตรวจอย่างไม่คิดอะไร
เพราะสิ่งเดียวที่คิดได้ก็คือ....เครื่องมือสมัยนี้ไฮเทคเนอะแป๊บเดียวเดี๋ยวก็รู้เรื่องแล้ว แต่เมื่อกี้เห็นแว๊บๆว่าขึ้นมาสองขีด จะเป็นโรคอะไรรึเปล่าหว่า????
พยาบาลคนเดิมเดินมาอีกครั้ง และครั้งนี้ก็ได้เรียก “คุณพ่อ” เข้าไปด้วย สรรพนามนี้สร้างความงงงวยให้แก่ร่างบางได้ไม่น้อย...แต่ก็พอจะปะติดปะต่ออะไรได้รางๆ
“ยินดีด้วยนะครับ”
“เอ๋”
“ภรรยาของคุณกำลังตั้งครรภ์ จะฝากครรรภ์เลยไหมครับ”ยุนโฮยิ้มขึ้นมาอย่างดีใจ ในขณะที่แจจุงเกิดอาการอึ้ง!
“แจจุง!!! เรากำลังจะมีลูกแหละ ดีใจไหมแจ”
“...............”
“แจครับ”
“.............”
“แจจุง”
“ฮึก....”ร่างสูงถึงกับสะอึกไปเมื่อเห็นหยาดน้ำตาค่อยๆไหลออกมาจากตาสวย รอยยิ้มกว้างหุบลง.....
“ฮือออ.....ฮึก..ยุน...แจ...ฮึกก...ดีใจ...ฮือออ”มือที่ปาดน้ำตาป้อยๆโผเข้ากอดร่างสูงทันทีเมื่อรับรู้ถึงความอบอุ่น ยุนโฮโอบร่างบางเอาไว้เบาๆรอยยิ้มที่เพิ่งหุบลงเผยขึ้นมาอีกครั้ง มือหนาค่อยๆปาดน้ำตาออก คุณหมอชางมินยิ้มให้คู่รักตรงหน้า รอให้ทั้งสองแสดงความรู้สึกต่อกันอย่างใจเย็น ยุนโฮลูบหัวแจจุงเบาๆ แล้วเปลี่ยนมากุมมือนิ่มๆเอาไว้แทน แจจุงยังคงสะอึกสะอื้นไม่เลิก แต่ชางมินก็รู้ว่าทั้งสองพร้อมที่จะรับฟังแล้ว คุณหมอสุดหล่อจัดการจัดยาตัวที่เหมาะสมให้แล้วนัดให้มาตรวจทุกๆอาทิตย์ คนสองคนนั่งรออยู่ที่แผนกสูตินารีอย่างกระวนกระวายเมื่อเพื่อนรักของทั้งคู่ยังไม่ออกมาเสียที ยูชอนนี่ไม่เท่าไร แต่จุนซูนี่สิ.....
“ยูชอนเมื่อไรแจกับคุณยุนโฮจะออกมา”
“เดี๋ยวเค้าก็ออกมาแล้วครับ”
“ยูชอนนี่มันนานไปแล้วนะ”
“เดี๋ยวไอ้ยุนก็พาแจออกมาน่า”
“ยูชอ..” จุ๊บ ปากอิ่มกดเข้ากับปากของคนช่างพูดเบาๆแล้วรีบผละออก จุนซูกระพริบตาปริบๆอย่างตกใจเพราะไม่คิดว่ายูชอนจะกล้าทำแบบนี้ต่อหน้าคนมากมาย ยุนโฮและแจจุงเดินเดินจูงมือกันมาพร้อมกับออร่าสีชมพูที่โอบล้อมทั้งคู่เอาไว้
“จุนซูเป็นอะไรเหรอยูชอน”เสียงหวานดึงสติของจุนซูให้กลับเข้ามา จุนซูกระโดดไปหลบหลังแจจุง ตาเล็กมองมาทางคนปากห้อยอย่างหวาดระแวง....
“ไม่มีอะไรหรอก จุนซูแค่ทำตัวน่ารักฉันเลยอดใจไม่ไหวน่ะ แล้วนายล่ะเป็นยังไงมั้ง ติดรึเปล่า”ประโยคสุดท้ายของแฟนเพื่อนทำเอาเพื่อนแฟนต้องหน้าแดงไปตามๆกัน ยูชอนไม่ต้องการคำตอบอะไรมากมายเพราะแค่มองไปทางยุนโฮที่ยืดอกอย่างภาคภูมิใจและแถมมาด้วยคิ้วหนาที่ยักขึ้นลงอย่างกวนๆก็ทำเอาเพื่อนคนนี้อดที่จะหมั่นไส้ไม่ได้ มือบางกระตุกมือหนาเบาๆ เพียงเท่านั้นยุนโฮก็พยักหน้าอย่างเข้าใจ ไม่ต้องพูดอะไรมากมือหนาก็จูงมือนิ่ม ที่มีจุนซูติดสอยห้อยตามมา ไปทางฝ่ายรับยาและชำระเงิน เหมือนจุนซุจะยังไม่หายดีเท่าไร ยูชอนดึงตัวของร่างเล็กเอาไว้แล้วโบกมือบ๊ายบายยุนโฮกับแจจุงที่รอรับยาอยู่
มี-เรื่อง-เคลียร์-กัน-นิด-หน่อย ร่างโปร่งพูดออกมาแบบไม่มีเสียง แจจุงโบกมือบ๊ายบายจุนซูอย่างหน่ารัก ต่างกับจุนซูที่ทำหน้าตาเว้าวอนอย่างน่าสงสาร
“ยูชอนไปทำอะไรจุนซูเอาไว้เหรอ”เสียงหวานดังขึ้นเมื่อลับตาร่างของเพื่อนทั้งสอง
“แจจุงอยากรู้จริงๆเหรอ”ยุนโฮเอ่ยออกมาพร้อมกับแววตาที่พราวระยับ เพียงเท่านั้น แจจุงก็ถึงกับต้องส่ายหน้ารัวแล้วหันหน้าไปทางอื่นไม่มีคำพูดใดๆเล็ดลอดออกมาจากปากของคนทั้งสองเลยหลังจากนั้น มีเพียงมือหนาที่กุมกระชับมือบางๆเอาไว้เหมือนเป็นคำสัญญาว่าจะอยู่เคียงข้างและจะปกป้องตลอดไป....
“มุนบิน....แม่ทำสำเร็จแล้วนะลูก”
“ป๊าทำสำเร็จแล้วนะ....ไอ้ตัวเล็ก”
*********************
ทันทีที่ทางบ้านตระกูลชองรู้ข่าวว่า ว่าที่ลูกสะใภ้กำลังตั้งครรภ์ก็ถึงกับเฮกันยกบ้าน กำหนดการจัดงานแต่งงานที่ว่าจะเกิดขึ้นในอีก 3 เดือนข้างหน้า กลับกลายเป็นเหลือระยะเวลาเพียงแค่ 2 อาทิตย์!!!!
“ทานเยอะๆนะจ๊ะ หนูแจ ลูกจะได้แข็งแรง”ใบหน้าสวยหวานของหญิงสาววัย 50 กว่าส่งยิ้มมาให้ร่างบางอย่างอ่อนโยน ไม่มีทีท่าว่าจะรังเกียจเลยสักนิด ทั้งที่ร่างบางท้องก่อนแต่งแท้ๆ แล้วยิ่งเป็นยุนโฮก็ยิ่งยิ้มกว้างเพราะเห็นคนทั้งบ้านตั้งแต่ยามหน้าประตูยันคุณนายใหญ่พากันเห่อทายาทตระกูลชองคนต่อไปอย่างสุดฤทธิ์ ทั้งอาหารและยาบำรุงสำหรับคนท้องถูกส่งมาให้ร่างบางได้ทานอย่างไม่หวาดไม่ไหวจนแจจุงแทบไม่ต้องซื้ออะไรทานเองเลยด้วยซ้ำ
“โอ้ย!! แม่ตีผมทำไม!!”หนุ่มชองลูบแขนตัวเองเพราะความรู้สึกเจ็บแปลบ คุณนายแห่งบ้านตระกูลชองมองมาที่ลูกชายของตนอย่างตำหนิติเตียน
“แกนี่ไม่รู้เรื่องอะไร!! หนูแจเค้ากำลังท้องกำลังไส้แทนที่จะพามาดูแลที่บ้านกลับให้เค้าอยู่บ้านตัวเอง แล้วจะมีใครดูแลเค้ารึเปล่าฮะ!!!”
“เออคุณน้าครับ ผมไม่..”
“โอ้ยยยน้าเน้ออะไรกันลูก เรียกแม่สิจ๊ะ อีกหน่อยก็จะมาเป็นสะใภ้บ้านนี้แล้วฝึกไว้ก่อนจะได้ชิน”
“เอ่อ...ครับ”
“ตกลงหนูแจมาอยู่บ้านแม่เถอะนะลูก อีก 2 อาทิตย์เองแม่ละอยากเลี้ยงหลานใจจะขาด เลี้ยงตายุนออกมาแล้วไม่ได้เรื่อง!!”คุณนายชองไม่เพียงแต่พูดเปล่า หากแต่สายตาจิดกัดก็ถูกส่งไปทิ่มแทงคุณลูกชายที่นั่งอยู่เคียงข้างแจจุงอีกด้วย ร่างบางที่นั่งอยู่ระหว่างกลางหัวเราะออกมาอย่างน่ารักเมื่อเห็นสิ่งที่สองแม่ลูกเล่นกัน...
“หนูแจหัวเราะอะไรจ๊ะ??”คุณนายชองเอ่ยถามร่างบางแทนลูกชายที่ทำหน้าตาสงสัยไม่แพ้กัน แจจุงยิ้มหวานออกมาจนแม่ยายแทบเคลิ้มไปกับออร่าแห่งความน่ารัก ยุนโฮยกมือขึ้นมาลูบหัวของแจจุงเบาๆด้วยความเอ็นดู
“คุณแม่กับยุนโฮเล่นกันน่ารักดีนะครับ”ทันทีที่พูดจบคุณนายชองก็ถึงกับทำแก้มป่องทันที ร้อนถึงแจจุงและยุนโฮต้องช่วยกันง้อคุณนายที่แกล้งงอน ลูกชายคนดีเดินอ้อมไปอีกด้านของเก้าอี้กลายเป็นว่าคุณนายชองนั่งอยู่ตรงกลางแทน ยุนโฮขยิบตาให้แจจุงที่จ้องมองอยู่ แล้วทั้งสองก็เริ่มดำเนินแผนการง้อ...
ฟอดดดดดดด
เสียงหอมแก้มดังๆแรงๆเรียกให้คุณนายใจยังสาวหน้าขึ้นสีที่มีชายหนุ่มสองคนมาหอมแก้มทั้งสองข้าง แต่แหมถึงคนหนึ่งจะเป็นลูกชายแล้วอีกคนเป็นลูกสะใภ้ก็เถอะนะ....ป้าละอยากเป็นลม >///<
“หายงอนนะครับคุณแม่”เสียงหวานออดอ้อนอย่างน่ารักจนคุณนายชองอดที่จะเอ็นดูคนตัวบางๆมากกว่าเดิมไม่ได้ ก็ดูสิ! ตัวก็บางแค่นี้เองมารับลูกชายเขาที่ถึกอย่างกับหมีได้ไงน้า เอ๊ะ! หรือของตายุนจะเล็ก?? ก็ไม่น่าใช่ คิดไปคิดมาคุณนายชองก็หน้าแดงเองซะงั้น ยุนโฮที่เห็นอาการของแม่ตนก็พอเดาๆออกบ้าง เสียงหึหึดังขึ้นข้างๆหูคุณนายชอง ก่อนเจ้าของเสียงนั้นจะเอ่ยประโยคที่แสดงถึงอาการล้อเลียนออกมา...
“ฮั่นแน่!!! คิดอะไรลามกอยู่ล่ะซี่”
“อ้ายย!! ตายุน!!! พูดอะไรออกมาห๊า ไม่รู้ล่ะวันนี้แม่เข้าครัวต้อนรับสะใภ้ดีกว่า”ว่าแล้วคุณนายชองก็เดินหลั่นล้าเข้าครัวกลบเกลื่อนที่ถูกลูกชายจับไต๋ได้ แจจุงและยุนโฮยังคงหัวเราะคิกคักกับความน่ารักที่ดูอ่อนกว่าวัยของคนอายุมาก ไม่น่าเชื่อว่าคุณแม่ที่น่ารักๆแบบนี้จะสามารถเลี้ยงยุนโฮจนโตมาเป็นเจ้าคนนายคนได้ ฟอดดดดด!! ระหว่างที่คิดอะไรอยู่เพลินๆจมูกโด่งก็กดเข้าสูดความหอมที่แก้มนิ่ม
“ยุนโฮ!!!!”ตากลมโตค้อนขวับส่งไปทางคนชอบฉวยโอกาสหวังจะให้ยุนโฮรู้สึกผิด แต่คนอย่างยุนโฮนะเหรอ? ไม่มีทางซะละ ยิ้มกว้างๆส่งมาให้ร่างบางอย่างเอาอกเอาใจนิ้วเรียวสะกิดเบาๆที่แก้มของตนเองพลางทำแก้มป่องใส่ร่างบางอย่างอ้อนๆ แจจุงกดจมูกเข้ากับแก้มนิ่มๆที่ถูกดูแลมาอย่างดีอย่างขวยเขิน..
“เดี๋ยวแจไปช่วยคุณแม่ทำกับข้าวก่อนนะยุน”
“ครับผม อย่าไปนานนะ คิดถึง”
“บ้า!!!”
*********************
หลายสัปดาห์ผ่านไป
.
.
คุณหมอชางมินลูบท้องคุณแม่ที่เพิ่งตั้งครรภ์มาได้ไม่กี่สัปดาห์อย่างเอะใจ คิ้วหนาขมวดเข้าหากันอย่างครุ่นคิด....
“ครรภ์ของคุณแจจุงดูโตกว่าปกตินะครับ จะเป็นอะไรไหมครับถ้าผมจะขออนุญาตอัลตร้าซาวด์ตรวจอาการดู?”แจจุงและยุนโฮหันมามองหน้ากันอัตโนมัตก่อนจะเป็นยุนโฮที่พยักหน้าออกมาเบาๆ ภาพในจอเครื่องค่อยๆฉายชัดขึ้นมา มือหนาบีบมือของแจจุงแน่นด้วยความตื่นเต้น ดวงตา 3 คู่จ้องไปยังภาพที่ปรากฏไม่วางตา... ก่อนจะเป็นชางมินที่เบิกตากว้างและเริ่มตรวจดูรายละเอียดให้มากขึ้น ดวงตาสองคู่ที่เหลือมองสบกันอย่างไม่เข้าใจ...
“เอ่อ...เกิดอะไรขึ้นหรือครับ คุณหมอ?” ชางมินส่งยิ้มบางๆให้ยุนโฮและแจจุงที่แสดงสีหน้าที่บ่งบอกถึงความกังวลออกมา ในใจคิดแสดงความยินดีกับทั้งคู่ ก่อนสายตาจะเบนไปทางจอขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่อีกครั้ง...
“หมอมีทั้งข่าวดีและข่าวร้ายนะครับ”
“.....................”
“.....................”
“ข่าวร้ายก็คือ...คุณทั้งสองคนต้องดูแลครรภ์ที่ผิดปกตินี้ให้มากขึ้น เพราะเด็กในท้องอาจเป็นอันตรายได้ทุกเมื่อหากไม่ระวัง”
“ทำไมละครับคุณหมอ!!!”เป็นยุนโฮที่ถามออกมาด้วยความตกใจทันทีที่ชางมินพูดจบเพราะแจจุงตอนนี้ดูเหมือนจะอึ้งไปแล้ว....
“ใจเย็นๆก่อนสิครับ”ถึงแม้จะเห็นว่าทั้งสองดูร้อนรนสักเพียงใด แต่ชางมินก็ยังคงยิ้มบางๆส่งไปเช่นปกติ...
“เพราะข่าวดีก็คือคุณสองคนได้ลูกแฝดครับ”จากยิ้มบางๆเปลี่ยนเป็นยิ้มกว้าง หากแต่ปฏิกิริยาของคุณพ่อคุณแม่มือใหม่กลับผิดคาด เมื่อสีหน้าของคนทั้งคู่แสดงออกถึงความงงงวยอย่างเห็นได้ชัด??
อ้าว?? คนหนึ่งคือมุนบิน แล้วอีกคนล่ะ???
อ้าวเฮ้ย!!! เจ้าตัวเล็ก...ไหงกลายเป็นแฝดได้ล่ะเนี่ย!!!
*********************
6 ปีผ่านไป
.
.
.
“มุนบิน....ซองอุง มากินข้าวเร็วลูก”เสียงหวานๆเอ่ยเรียกลูกชายทั้งสองที่วิ่งเล่นกันอยู่ที่สนามหน้าบ้านอย่างซุกซนตามประสาเด็กวัย 5 ขวบ เด็กที่ตัวเล็กกว่าล้มไปก้นจ้ำเบ้าอยู่กับพื้นโดยมีมุนบินหัวเราะคิกคักเป็นแบล็คกราวแต่ถึงกระนั้นคนเป็นพี่ก็ยังส่งมือเล็กๆไปให้คนน้องจับเพื่อพยุงตัวลุกขึ้นมา
“คร้าบบบบ”เสียงของเด็กน้อยทั้งสองดังขึ้นพร้อมๆกันอย่างพร้อมเพรียง ตั้งแต่ที่ได้เห็นหน้าลูกครั้งแรก ยุนโฮและแจจุงก็รับรู้ได้ทันที ว่าคนไหนคือมุนบิน และคนไหนคือ เจ้าตัวเล็กของยุนโฮ
“ป๊ายุนๆ วันนี้พี่มุนบินแกล้งซองอุงอีกแล้ว”เจ้าตัวเล็กวิ่งเข้ามาในอ้อมกอดของผุ้เป็นพ่อที่อ้ารอรับไว้อยู่แล้ว ปากสวยพูดจาเจื้อยแจ้วในขณะที่คนเป็นพ่อกำลังเช็ดหน้าเช็ดตาให้ลูกอย่างรักใคร่
“พี่มุนบินแกล้งอะไรซองอุงเหรอครับ หื้ม”ยุนโฮเอ่ยถามออกไป เจ้าตัวเล็กทำหน้าอมลมแก้มป่องที่เหมือนกับแจจุงไม่มีผิดก่อนจะเอ่ยแฉพี่ชายของตนออกมา
“พี่มุนบินแย่งข้าวกล่องซองอุงกินตอนอยู่โรงเรียนฮะ”
“อะไร! มุนบินไม่ได้ทำนะฮะมี๊แจ ก็ซองอุงมาแย่งกิมจิของมุนบินก่อน”พูดจบเด็กน้อยก็ทำหน้างอเป็นลูกหมีงอนเรียกรอยยิ้มจากยุนโฮและแจจุงได้เป็นอย่างดี
“ไม่เอาน่า พี่น้องกันอย่าทะเลาะกันสิครับ ไปช่วยมี๊แจจัดโต๊ะอาหารกันดีกว่าเนอะ”มือหนาดันหลังเล็กทั้งสองเบาๆ เด็กน้อยไม่รอช้ารีบวิ่งวุ่นไปช่วยมี๊แจจัดโต๊ะอาหารทันที ไม่นานนักโต๊ะที่เคยว่างเปล่าก็พร้อมสำหรับการรับประธานอาหาร ถึงแม้มุนบินและซองอุงจะแย่งกันกินบ้าง แต่ก็มีบ่อยครั้งที่เด็กทั้งสองตักอาหารให้กันและกัน จนไปๆมาๆก็กลายเป็นสงครามที่แย่งตักอาหารให้กัน แต่ถึงจะมีกับข้าวเต็มไปหมดจนพูนจาน แต่เด็กน้อยก็กินกันจนหมด
เพราะมุนบินรักซองอุง...
และซองอุงก็รักพี่มุนบิน...
เพราะมุนบินและซองอุงรักมี๊แจ...
เพราะมุนบินและซองอุงรักป๊ายุน...
และสุดท้าย...
เพราะป๊ายุนกับมี๊แจ...รักมุนบินและซองอุง
*****[The End]*****
Special ซองอุง (เจ้าตัวเล็ก)
“ป๊ายุน! ตื่นนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน!!!!!!!”เสียงเล็กแปดหลอดดังไปทั้งคฤหาสถ์ตระกูลชอง แต่มีเพียงร่างหมีๆที่นอนอืดอยู่บนเตียงเท่านั้นที่ได้ยิน มือหนายกขึ้นแคะขี้หูที่แทบจะออกมาเต้นระบำชาวเกาะก่อนจะงัวเงียตื่นขึ้นมา…
“ฮื้ออ มีอะไรเจ้าตัวเล็ก นี่ยังไม่ไปอีกเหรอเนี่ย!ก็บอกแล้วไงว่าไม่เชื่อหรอก เลขาฉันเป็นผู้ชายจะท้องได้ไง ไปๆ จะไปไหนก็ไป ไปหลอกคนอื่นเหอะ”ว่าแล้วร่างหนาก็ซุกตัวลงกับที่นอนหนานุ่มอีกครั้ง แต่ก็อดที่จะลืมตาขึ้นมามองเจ้าเด็กตัวเล็กๆที่กำลังก้มหน้าอยู่ปลายเตียงไม่ได้ ยุนโฮตัดสินใจยันตัวขึ้นมาเมื่อเห็นเจ้าตัวเล็กเงียบผิดปกติที่จะต้อง้อคลอเคลียไปมาจนกว่าเขาจะยอมตกลง แววตาคมฉายแววรู้สึกผิดเล็กน้อยเมื่อเห็นน้ำสายเล็กไหลมาหยุดที่ปลายคางก่อนที่มันจะหยดซึมลงไปกับผ้าปูที่นอน ฟันซี่เล็กๆกัดปากล่างแน่นอย่างคนที่กำลังกลั้นเสียงสะอื้นเอาไว้ให้มากที่สุด มือหนาดึงข้อมือเล็กเข้ามาหาตัวแต่ก็โดนสะบัดออก
“ป๊า...ยุน....ใจ...ฮึก....ร...ร้าย”เสียงสั่นสะอื้นดังลอดออกมา ยุนโฮตัดสินใจที่จะดึงกายเล็กๆเข้ามากอด
“ทำ....ยัง...ไง....ถ.....ช...เชื่อ”เสียงเล็กดังลอดขึ้นมาจากแผ่นอก ร่างสูงไม่ได้พูดอะไรหากแต่มือหนากลับลูบหัวเล็กๆอย่างอ่อยโยน....จะทำไงได้ ก็คนมันไม่เชื่อนี่หว่า คิ้วหนาขมวดจนขึ้นเป็นปม เด็กตัวน้อยขืนตัวออกจากอ้อมกอดของว่าที่ผู้เป็นพ่อ ปาดน้ำตาป้อยๆแล้วเอ่ยคำประกาศิตออกมาอย่างมาดมั่น!
“ค...คอย....ดู....ซองอุง...ฮึก...จะทำให้......ป๊า....ชะ....เชื่อ.....ให้.ได้”เด็กตัวเล็กวิ่งออกไปจากห้องเพื่อไปนั่งกอดเข่าร้องไห้อยู่คนเดียวโดยที่ไม่มีใครรู้ ร่างสูงถอนหายใจออกมาอย่างหนักหน่วงลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัวเข้าบริษัทเพื่อรีบๆไปทำภารกิจของเจ้าตัวเล็กให้สำเร็จสักที มีอย่างที่ไหน นอนตื่นขึ้นมาเจอเด็กนั่งฟันหลออยู่ปลายเตียงแถมยังเล่าเรื่องอะไรก็ไม่รู้ มันจะมีเหรอ? ซองอุงเป็นเทพมาจากบนสวรรค์แล้วมีหน้าที่มาทำให้ป๊ายุนกับมี๊แจรักกันให้ได้ภายในเวลา 1 ปีไม่งั้นซองอุงจะไม่ได้ไปเกิด บนสวรรค์มีเทพไม่ได้ไปเกิดหลายคนแล้วนะฮะ เนี่ยๆ บางคนก็ถูกส่งไปเฝ้าประตูนรก บางคนก็ถูกส่งให้ไปเป็นผีเจ้าที่ ป๊ายุนต้องช่วยซองอุงน้า ว่าแล้วก็ทำตาปิ๊งๆใส่ เรื่องรักๆใคร่ๆก็ห่างไปซะหลายปี แถมนี่ยังเป็นเรื่องที่ไม่คบพบเคยได้ยินอีกต่างหากใครจะไปเชื่อล่ะ จริงไหม? แต่ถึงอย่างไรก็ตาม วันนี้ชองยุนโฮก็มีลูกตั้งสองคนแหนะแถมยังเป็นลูกแฝดซะด้วย ทั้งเขาและแจจุงก็ต่างพากันตกใจแทบแย่ตอนรู้ที่มาของซองอุงกับมุนบิน ให้ตายเหอะ มันไม่ใช่เรื่องที่จะเชื่อกันได้ง่ายๆ แต่จะให้ทำไงได้ก็มันเป็นไปแล้วนี่นา
.
.
.
มุนบิน....ไม่อยากไปเกิดเป็นลูกหมา
ซองอุง....ไม่อยากไปทำหน้าที่ของเทพ
เทพน้อยทั้งสองก้าวเข้ามาในชีวิตของยุนโฮและแจจุงด้วยเหตุผลเดียวกันคืออยากไปเกิด
ทั้งที่เป็นพี่น้องกัน พ่อแม่คนเดียวกัน แต่ก็ไม่สามารถที่จะมองเห็นกันได้....
เพราะจักรวาลนี้กว้างใหญ่นัก
จึงไม่แปลกหากโลกของเทพจะมีมากกว่าหนึ่งโลกเช่นกัน
ในโลกนี้ไม่สามารถที่จะคาดเดาอะไรได้แน่นอน....
จากหนึ่งอาจจะกลายเป็นสอง....
ปริศนาด้ายแดงยังคงผูกติดไว้กับปลายนิ้วก้อยของแต่ละคน...
หากคุณมองไม่เห็นอีกด้านของมัน....
คุณอาจจะไม่ได้โชคดีเหมือนยุนโฮและแจจุง...
ที่มีผู้คอยดูแลเส้นด้านนั้นเอาไว้...
ระวังไม่ให้มันขาด...
คอยซ่อมแซมยามมันหลุดลุ่ยจนด้ายกลับมาเป็นเส้นเดียวกันดังเดิม...
ซองอุง...
มุนบิน...
You’re My Destiny
You’re My Miracle
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
คืนสู่สภาพ SF เหมือนเดิม TT
ก็ไรท์เตอร์พลาดตรงที่มาแต่งเป็นแบบ "เรื่องสั้น" ตั้งแต่แรกนี่แหละค่ะ
ถ้าแต่งแบบเป็นเรื่องยาวก็คงยาวโขอยู่ งื้มๆๆๆ เชาผิดไปแล้วว
ตอนนี้รีดเดอร์ทุกคนคงจะรู้จักนังบ๊วยสินะ หึหึหึ
คิดถึงรีดเดอร์โฮกๆๆๆๆๆๆ แง้ๆ
ไรท์เตอร์รอพี่สาวไปซื้อโมเด็มแต่ก็ไม่ยอมไปซื้อซักที
แล้วไรท์เตอร์ก็ถึงกาลลุยเอง หึหึหึ
เดินจนขาลากตรงนู้นก็หมด ตรงนี้ก็ไม่มีฮ่วย!!!
โทรไปหาทรูปั๊บ ไรท์เตอร์ถามไปว่า
"คือว่าตัวโมเด็มอินเตอร์เน็ตหมดทุกร้านเลยไหมอ่ะค่ะ"แบบว่าเสียงหงอยๆ
ไปๆมาๆเค้าโอนสายไปที่พนักงานขาย อ้ากก มันสั่งได้ค่ะ!!!
ถ้ารู้งี้สั่งไปนานแล้วไม่เดินหาจนปวดน่องหรอก อ้ากกกก!!!!!!!
จะบ้าตาย ฮือๆๆๆๆ
ไปเข้าค่ายธรรมมะ 3 วัน 2 คืน กะจะกลับมาอ่านเม้นให้ชื่นใจ
โมเด็มพัง นั่งซ่อมเน็ตค่ะ!! ร้าวไปทั้งตัว ฮือๆๆๆ
เรื่องนี้ก็จบลง ดีรึเปล่าไรท์เตอร์ก็ไม่รู้อ่ะ
แต่เป็นเรื่องแรกที่ไรท์เตอร์ถือว่าประสบความสำเร็จมากมาย
ถึงมันจะมึนๆงงๆก็เถอะ แง่มๆๆๆ
ขอบอกพอต่อเน็ตได้ไรท์เตอร์มาอัพฟิคก่อนเลยนะเนี่ย 555+
อืม..มาซึ้งกันมั่งดีกว่าเนอะ ^^ อินยอมรับว่าอินจะไม่ได้หรอกค่ะว่าเคยขออะไรรีดเดอร์ทุกๆคนเอาไว้บ้าง
แต่ในครั้งนี้จะเป็นคำขอร้องสุดท้ายของอินสำหรับฟิคเรื่องนี้....
อินอยากให้รีดเดอร์ทุกคนที่เข้ามาอ่านแล้วยังไม่เคยเม้น เม้นให้อินได้ไหมค่ะ
นี่แหละค่ะคำขอของอิน ไหนๆมันก็จะจบแล้ว
อินอยากให้จบแบบประทับใจโฮกๆ
และ.....
นี่คงจะเป็นครั้งสุดท้ายแล้วที่ไรท์เตอร์จะได้บอกกับรีดเดอร์ทุกคนในฟิคเรื่องนี้ว่า.....
ฝันดีนะคะ รักรีดเดอร์ทุกคนเลย ^^ จุ๊บๆ
บ๊ายบายค่าา
ผลงานอื่นๆ ของ yunINhyung ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ yunINhyung
"สร้างสรรค์มาก !!!"
(แจ้งลบ)เป็นอะไรที่ อ่านแล้ว .. เฮ้ย คิดได้ไงอะ เกิดมาไม่เคยเห็นพล็อตแบบนี้มทาก่อนในชีวิต แบบว่าถูกใจเจ๊ ฮิยะฮะฮ่าๆๆๆๆ และที่สำคัญ ... บางทีไรเตอร์อาจจะกังวล ว่ามันอาจจะไม่จบเรื่อง เลยแต่งเป็น ShorT FiC ซึ่ง ก็ดีไปอย่าง แต่บางทีอาจหาตอนไม่เจอร์ 5555+++ คำแนะนำ อ่านรวดเดียวมันให้หมดนี่แหละ !!!!! >.. ... อ่านเพิ่มเติม
เป็นอะไรที่ อ่านแล้ว .. เฮ้ย คิดได้ไงอะ เกิดมาไม่เคยเห็นพล็อตแบบนี้มทาก่อนในชีวิต แบบว่าถูกใจเจ๊ ฮิยะฮะฮ่าๆๆๆๆ และที่สำคัญ ... บางทีไรเตอร์อาจจะกังวล ว่ามันอาจจะไม่จบเรื่อง เลยแต่งเป็น ShorT FiC ซึ่ง ก็ดีไปอย่าง แต่บางทีอาจหาตอนไม่เจอร์ 5555+++ คำแนะนำ อ่านรวดเดียวมันให้หมดนี่แหละ !!!!! >.. อ่านน้อยลง
kimmykung. | 9 มี.ค. 53
8
0
"You can make it !"
(แจ้งลบ)ฟิคเรื่องนี้เป็นฟิคสั้นที่ยาวมากจนต้องเปลี่ยนเป็น LF 55+ เค้ายังจำได้อยู่เลย วันที่แกบอกว่า ไม่กล้าแต่งเป็นฟิคยาว เพราะกลัวไม่จบ ตอนนี้แกทำมัน "จบ" แล้วนะเฮ้ย!! O__Ob!! แกบรรยายมุนบินน่ารักมากก!! รู้ไว้ซะด้วย 55+ ไม่งั้นเค้าไม่แอบย่องเข้ามาดูบ่อยๆหรอกนะ = =" P.S. อย่าใช้ไอบ๊วย อัพฟิคให้อีกเป็นอันขาด ฮ่ะๆๆๆ เลือกคนก่อนทีหลัง (ป่านนี้บัวคง ... อ่านเพิ่มเติม
ฟิคเรื่องนี้เป็นฟิคสั้นที่ยาวมากจนต้องเปลี่ยนเป็น LF 55+ เค้ายังจำได้อยู่เลย วันที่แกบอกว่า ไม่กล้าแต่งเป็นฟิคยาว เพราะกลัวไม่จบ ตอนนี้แกทำมัน "จบ" แล้วนะเฮ้ย!! O__Ob!! แกบรรยายมุนบินน่ารักมากก!! รู้ไว้ซะด้วย 55+ ไม่งั้นเค้าไม่แอบย่องเข้ามาดูบ่อยๆหรอกนะ = =" P.S. อย่าใช้ไอบ๊วย อัพฟิคให้อีกเป็นอันขาด ฮ่ะๆๆๆ เลือกคนก่อนทีหลัง (ป่านนี้บัวคง เฮิร์ทแตกไปละ = =) อ่านน้อยลง
SRH_Tiffany[SoNyeoShiDae] | 15 พ.ค. 53
1
0
ดูทั้งหมด
"You can make it !"
(แจ้งลบ)ฟิคเรื่องนี้เป็นฟิคสั้นที่ยาวมากจนต้องเปลี่ยนเป็น LF 55+ เค้ายังจำได้อยู่เลย วันที่แกบอกว่า ไม่กล้าแต่งเป็นฟิคยาว เพราะกลัวไม่จบ ตอนนี้แกทำมัน "จบ" แล้วนะเฮ้ย!! O__Ob!! แกบรรยายมุนบินน่ารักมากก!! รู้ไว้ซะด้วย 55+ ไม่งั้นเค้าไม่แอบย่องเข้ามาดูบ่อยๆหรอกนะ = =" P.S. อย่าใช้ไอบ๊วย อัพฟิคให้อีกเป็นอันขาด ฮ่ะๆๆๆ เลือกคนก่อนทีหลัง (ป่านนี้บัวคง ... อ่านเพิ่มเติม
ฟิคเรื่องนี้เป็นฟิคสั้นที่ยาวมากจนต้องเปลี่ยนเป็น LF 55+ เค้ายังจำได้อยู่เลย วันที่แกบอกว่า ไม่กล้าแต่งเป็นฟิคยาว เพราะกลัวไม่จบ ตอนนี้แกทำมัน "จบ" แล้วนะเฮ้ย!! O__Ob!! แกบรรยายมุนบินน่ารักมากก!! รู้ไว้ซะด้วย 55+ ไม่งั้นเค้าไม่แอบย่องเข้ามาดูบ่อยๆหรอกนะ = =" P.S. อย่าใช้ไอบ๊วย อัพฟิคให้อีกเป็นอันขาด ฮ่ะๆๆๆ เลือกคนก่อนทีหลัง (ป่านนี้บัวคง เฮิร์ทแตกไปละ = =) อ่านน้อยลง
SRH_Tiffany[SoNyeoShiDae] | 15 พ.ค. 53
1
0
"สร้างสรรค์มาก !!!"
(แจ้งลบ)เป็นอะไรที่ อ่านแล้ว .. เฮ้ย คิดได้ไงอะ เกิดมาไม่เคยเห็นพล็อตแบบนี้มทาก่อนในชีวิต แบบว่าถูกใจเจ๊ ฮิยะฮะฮ่าๆๆๆๆ และที่สำคัญ ... บางทีไรเตอร์อาจจะกังวล ว่ามันอาจจะไม่จบเรื่อง เลยแต่งเป็น ShorT FiC ซึ่ง ก็ดีไปอย่าง แต่บางทีอาจหาตอนไม่เจอร์ 5555+++ คำแนะนำ อ่านรวดเดียวมันให้หมดนี่แหละ !!!!! >.. ... อ่านเพิ่มเติม
เป็นอะไรที่ อ่านแล้ว .. เฮ้ย คิดได้ไงอะ เกิดมาไม่เคยเห็นพล็อตแบบนี้มทาก่อนในชีวิต แบบว่าถูกใจเจ๊ ฮิยะฮะฮ่าๆๆๆๆ และที่สำคัญ ... บางทีไรเตอร์อาจจะกังวล ว่ามันอาจจะไม่จบเรื่อง เลยแต่งเป็น ShorT FiC ซึ่ง ก็ดีไปอย่าง แต่บางทีอาจหาตอนไม่เจอร์ 5555+++ คำแนะนำ อ่านรวดเดียวมันให้หมดนี่แหละ !!!!! >.. อ่านน้อยลง
kimmykung. | 9 มี.ค. 53
8
0
ดูทั้งหมด
ความคิดเห็น