ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC SNSD] LOVE FIGHT ศึกรัก(ฉบับ)คู่หมั้นกำละมอ [YURI]

    ลำดับตอนที่ #2 : ยกที่หนึ่ง... ศึกเปิดตัว ณ งานหมั้น [100%]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 754
      1
      9 ม.ค. 58



    ยกที่หนึ่ง... ศึกเปิดตัว ณ งานหมั้น

     

     


     

     

    บ้านตระกูลคิม

     

    วันนี้ของบ้านใหญ่คิมก็วุ่นวายไม่ต่างจากเมื่อวานนักหรอก แต่วันนี้อาจจะวุ่นวายแบบเต็มใจเพราะเหล่าบรรดาลูกน้องมาเฟียทั้งหลายต่างทำงานอย่างขยันขันแข็งมาช่วยงานนู้นงานนี้เพื่อเตรียมตัวส่งว่าที่ผู้นำรุ่นที่ 27 (ที่นับเป็นผู้นำไปแล้วแหละ) เข้าสู่พิธีหมั้น ณ โรงแรมห้าดาวสุดหรูและโคตรแพงซึ่งมีเจ้าของคือตระกูลไฮโซฮวังในคราบลูกชายคนเล็ก (บุตรคนที่สาม)

     

    ส่วนคนที่ต้องเข้าร่วมงานหมั้นนั้นกำลังแต่งองค์ทรงเครื่องอยู่ในห้องแต่งตัว(โดยเฉพาะ)ขนาดใหญ่กับผู้เป็นมารดาและเหล่าหญิงรับใช้ หญิงสาวทั้งหลายวิ่งวนกันพัลวันสวนกันไปสวนกันมาราวกับวิ่งเปรี้ยวอยู่ก็ไม่ปาน หยิบจับนั่นจับนี่ เสียงตะโกนอื้ออึงบอกความต้องการก้องทั่วห้อง  ยกเว้นเพียงลูกสาวคนโตของตระกูลคิมที่ยืนนิ่งอยู่กับที่เป็นตุ๊กตาให้นางรับใช้จับแต่งเฉยๆและแม่ผู้เรียบร้อยคอยช่วยอย่างเงียบๆ

     

    ที่มันโคตรวุ่นวายอย่างนี้ก็เพราะอีกชั่วโมงครึ่งจะถึงพิธีหมั้นแล้ว...!?

     

    การแต่งตัวไปหมั้นน่ะไม่ยากหรอก แต่ที่มันนานเพราะต้องเปลี่ยนลูกสาวคนโตให้กลายเป็นลูกชายคนเล็กนั่นแหละ(?)

     

    ผ่านไปสิบนาทีความวุ่นวายในห้องแต่งตัวก็จบลงแล้วก็ไปวุ่นวายกันต่อที่ลานจอดรถด้วยประเด็นที่ว่าจะพาไปส่งหน้าโรงแรมยังไงเพราะตอนนี้คงมีพวกสำนักข่าวจากหลายสำนักยืนออกันอยู่หน้ากันพรึบเป็นแน่ ฉะนั้นการไปเปิดตัวยิ่งครั้งแรกต่อหน้าสังคมจะต้องอลังการสมกับว่าที่ผู้นำสักหน่อย

     

    แต่ปัญหาคือจะไปด้วยวิธีไหน? ทุกคนตกลงว่าจะยกเป็นขบวนไปเลยแต่ด้วยเวลาที่น้อยลงทุกทีบวกกับความรำคาญส่วนตัวของลูกสาวแอ๊บแมน แทยอนเลยปัดปัญหาทุกอย่างทิ้งแล้วซิ่งรถหรูคันโปรดไปเลย

     

    ฝีมือการซิ่งของแทยอนเข้าขั้นเทพเลยทีเดียว ควบคุมฉวัดเฉวียนรถแทรกคันนั้นตัดหน้าคันนี้ด้วยความช่ำชอง เป็นการขับที่น่ามึนดีทีเดียวแต่เจ้าตัวคนขับกลับทำหน้านิ่งไม่เปลี่ยน ไอคนที่เป็นคือคนที่กำลังเกาะเบาะและอ้าปากค้างอยู่ข้างหลังต่างหาก แทยังแทบจะกรีดร้องให้โลกรู้เมื่อลูกสาวในคราบลูกชายของตนซิ่งตัดหน้ารถใหญ่มาแล้วไม่รู้กี่คันต่อกี่คัน คนข้างหลังเกือบหัวใจวายแต่ข้างหน้านั้น...

     

    “เอาอีกค่าพี่แท~  ซิ่งไปเล้ยยย~” เสียงเชียร์อย่างชอบใจของลูกคนสุดท้อง คิม ฮายอน ดังตลอดไม่ขาดสายตั้งแต่ออกจากบ้าน ไม่ได้มีเสี้ยวความกลัวอยู่เล้ย พอกันกับหญิงแม่ที่ก็นั่งหน้ายิ้มอ่อนโยนตลอดเวลาแค่คอยจับฮายอนบนตักไม่ให้หล่นเท่านั้น “นั่งดีๆสิคะฮายอน เดี๋ยวพี่เขาซิ่งไม่ได้นะ”

     

    “เข้าใจแล้วค่า... คิกคิก พี่แท เร็วอีก~” นั่งดีๆปุ๊บก็รีเควสความเร็วปั๊บ ซึ่งผู้ขับก็หันมายิ้มให้และจัดตามคำขอทันที “จัดให้ครับ พร้อมมั้ย? ฮายอน”

     

    “พร้อมค่า~” จบคำ มือขวาจับเปลี่ยนเกียร์อย่างเร็วและ...

     

    บรืนนนน! รถหรูดำเงาวับพุ่งไปข้างหน้าด้วยความเร็วเกือบ 140

     

    แต่พ่อไม่พร้อมครับลูก~ ว้ากกกกกกกกกกกกกกกกกก!  ผู้นำคนปัจจุบันทำได้แต่กรีดร้องภายในใจเพราะตรงกรามมันค้าง(?) ผู้หญิงบ้านนี้จะแกร่งเกินหน้าเกินตาผู้ชายในตระกูลไปซะแล้วสิ

     

    อีกยี่สิบนาทีถัดมาที่หน้าโรงแรมอันเป็นที่สิงสู่ของเหล่านักข่าวทั้งหลายได้มีปรากฏการณ์คลื่นเสียงกัมปนาท เอ้ย เสียงหวีดแหลมของเนื้อล้อที่เสียดสีกับพื้นถนนจากการดิฟท์รถ(?)

     

    อา คุณฟังไม่ผิดหรอก...

     

    ว่าที่เจ้าบ่าวหรือคู่หมั้นฝั่งมาเฟียดิฟท์รถมางานหมั้น!? แถมดิฟท์มาบรรจบที่หน้าพรมแดงพอดิบพอดีแบบไม่น่าเชื่อพร้อมเอฟเฟคควันหลังดิฟท์ โอ้ ช่างเป็นการเปิดตัวสู่สาธารณะชนครั้งแรกที่ยิ่งใหญ่และคาดไม่ถึงมาก

     

    แทยอนยกยิ้มมุมปากพอใจกับผลงานการจอดรถอันไร้ที่ติของตัวเอง จัดทรงผมซอยสั้นแบบผู้ชายให้เข้าที่ก่อนจะเปิดประตูลงจากรถพร้อมก้าวอ้อมมาอีกฝั่ง เปิดประตูเชื้อเชิญคุณแม่และน้องสาวประหนึ่งตนเองเป็นพ่อบ้าน

     

    “พอใจมั้ยครับคุณน้องสาว?” แทยอนก้มถามเด็กสาวที่เข้ามาสวมกอดคอ “พอใจค่า~ พี่แทสุดยอดที่สุดเลย”

     

    “ฮ่ะๆ... แต่ว่าตอนนี้พี่เป็นผู้ชาย ฮายอนต้องเรียกพี่ว่าพี่แทงนะครับ รู้มั้ย?” คนที่ต้องสลับเพศชั่วคราวกระซิบบอก อีกคนก็ตบปากรับคำพี่ชาย(สาว)อย่างน่ารัก พี่แทงของน้องสาวเงยหน้ากลับไปถามหญิงสาวที่ยืนจูงมือฮายอนอยู่

     

    “เมื่อยมั้ยครับแม่?” คนถูกถามส่ายหน้า “ไม่หรอกจ้ะ ลูกขับแป๊บเดียวก็ถึงนี่น่า... ฮิๆ แต่แม่ว่าลูกควรไปดูพ่อเค้าหน่อยนะจ๊ะ”

     

    ลูก(แอ๊บ)ชายทำตาม รีบมุดตัวเข้าประตูหลัง “ไหวมั้ยเนี่ยพ่อ?”

     

    “คิดว่าไหวนะครับ... ลูกสา.. เอ้ย ลูกชาย” ที่คนพ่อยังไม่ออกเพราะมัวแต่จัดสภาพร่างกายและสูทของตัวเองอยู่ ถ้าออกไปเมื่อกี้นะขายหน้าเขาตาย “ถ้างั้นก็ไปได้แล้วครับ”

     

    เหล่าบรรดาผู้อยากสอดเรื่องคนอื่น(นักข่าว)ค้างเติ่งกันเป็นแถวหลังจากเห็นกิจกรรมของครอบครัวที่เหมือนมาเที่ยวกันมากกว่าจะมาร่วมงานพิธีหมั้น แต่ก็ถูกแทนที่ด้วยความตะลึงในเวลาต่อมาจากครอบครัวมาเฟียที่กำลังก้าวเดินอยู่บนพรมแดงเพราะมาดที่สมกับเป็นมาเฟีย(สักที)

     

    ทั้งสี่เดินเรียงตามหน้ากระดานโดยลูกชายคนเล็กที่ทุกคนเพิ่งได้เจออยู่ตรงกลาง ขวามือคือสาวสวยที่ใครหลายคนอาจไม่เชื่อว่าเธอเป็นแม่ลูกสามแล้ว เธอควงลูกชายขณะเดินจูงมือฮายอน ขนาบซ้ายด้วยคุณพ่อเชฟที่ได้โชว์มาดมาเฟียของตัวเองนานๆที

     

    แทยอนก้าวเดินด้วยท่วงท่าสงบแต่แฝงด้วยความหนักแน่นในแต่ละก้าว ใบหน้านิ่งเรียบเช่นทุกครั้งที่อยู่ต่อหน้าคนนอก ยิ่งดูหล่อเท่มากขึ้นเมื่อแต่งกายด้วยชุดสูทดำ ผูกเนคไท กางเกงดำเข้ารูป รวมการแต่งหน้าให้ดูคมที่สุดทำให้ไม่มีใครคิดเอะใจว่าเขาเป็นผู้หญิง แล้วท่าทางห้าวอยู่แล้วเลยไม่เป็นปัญหาเข้าไปใหญ่

     

    สมาชิกในครอบครัวก็เจิดไม่แพ้กัน แทยังแต่งคล้ายลูกชาย ส่วนสองสาวแม่ลูกอยู่ในชุดราตรีสว่างประกาย แม่ฮานึลสีฟ้าและฮายอนสีขาว

     

    เมื่อมารวมกันทั้งครอบครัวแล้วนั้นไซร้... ออร่ากระจาย!

     

     

     

    เป้ง! มุมน้ำเงินเข้าสู่เวทีแล้วก็ตามมาด้วยมุมแดงที่ห่างกันไม่กี่นาที

     

    ขบวนเบิกตัวผู้ร่วมศึกมุมแดงเป็นไปอย่างยิ่งใหญ่ที่ทำเอานักข่าวตะลึงอีกรอบ แต่มันต่างจากไอตระกูลที่แล้วที่ทำตัวธรรมดาเกิ๊นซึ่งตระกูลนี้ก็เวอร์เกิ๊น

     

    ขบวนเปิดตัวคู่หมั้นสาวฝั่งไฮโซนั้นก็เป็นขบวนจริงๆ ขบวนโคตรๆ ขบวนยาวเป็นหางว่าวเลยทีเดียว แน่ใจว่าเป็นขบวนขนว่าที่เจ้าสาวมาเข้าพิธีหมั้นไม่ใช่มาร่วมงานประมูลตลาดมืด!? คนดูแลอารักเพียบ กลัวพวกมาเฟียลักพาตัวคุณหนูไปรืไงฟ่ะ

     

    รถซีมูลีนสุดหรูสีดำจอดสนิทหน้าพรมแดง(รถของแทยอนมีคนขับไปจอดแล้ว) พร้อมกับลูกสาวคนเล็กของตระกูลก้าวลงมายืนเชิดอยู่บนพรม ส่งยิ้มให้กล้องนู้นกล้องนี้ราวกับดารารุ่นใหญ่ ซึ่งชุดใส่มาร่วมพิธีคือชุดราตรีสี... สีชมพูสิ (จะมีสีไหนได้) สวยน่ารักสุดๆ

     

    ตามมาด้วยหญิงแม่ในชุดราตรีสีแดง(!) แดงสดด้วยนะเออ ปากก็แดง รองเท้าส้นสูงแดง อื้อหือ สมกับเป็นนางพญาไฮโซแห่งตระกูลฮวัง

     

    ส่วนคุณพ่อเลโอใส่สูทผูกไทเหมือนลูกชายอีกคน ลีโอ ที่ตามมาร่วมงานด้วยเพราะอยากเห็นหน้าและรู้จักกับคู่หมั้นของน้องสาว (หวงน้อง)

     

    มาอยู่ด้วยกันก็เจิดไม่แพ้อีกครอบครัว... ออร่ากระจาย!

     

    ดูจะสมน้ำสมเนื้อกันดีแหะสองตระกูลนี้

     

    เป้ง! มุมแดงเข้าสู่เวที...

     

     

     

     

     

     

     

     

    “คุณทิฟฟานี่รออยู่ที่ห้องรับรองนี้ก่อนนะคะ อีกครึ่งชั่วโมงเมื่องานเริ่มแล้วฉันจะพาไปเข้าร่วมวิธีค่ะ” หนึ่งในผู้จัดงานกล่าวเสร็จก็เดินออกจากห้องทิ้งให้เธออยู่เพียงลำพัง 

     

    ทิฟฟานี่คิดอย่างหงุดหงิดว่าทำไมต้องมารอให้ยุ่งยาก ทำอย่างกับงานแต่งนี่แค่งานหมั้นเองนะ เมื่อกี้ที่คนพามารีบเผ่นไปก็คงเพราะรู้ว่าเธอกำลังจะวีนน่ะสิและไหนล่ะคู่หมั้นของเธอที่เขาบอกว่ามาแล้ว หงุดหงิดจนแม่นางเริ่มพาลไปหาคนอื่นล่ะ

     

    “โอ๊ย หงุดหงิด! ไหนล่ะคุณคู่หมั้นมาเฟียหน้าละอ่อน”

     

    “เรียกฉันหรอ? คุณคู่หมั้น... / กรี๊ด!” เสียงโทนกลางที่ก่ำกึ่งระหว่างชายหญิงดังขึ้นเบื้องหลังเรียกเสียงตกใจของเจ้าหล่อนได้มากพอดูจนคนทักต้องกระทึบไปนิด

     

    “นี่คุณ! เข้ามาในห้องของผู้หญิงอย่างนี้ได้ไง!” แม่นางแหวใส่ทันทีที่สงบสติได้แต่ยังเอามือทาบหน้าอกอยู่ ส่วนคนที่โดนว่าทำหน้างง อะไรของคุณเธอ อยู่ๆก็มาว่าเขาเฉย

     

    “อะไรของคุณ... ฉันอยู่มาก่อนคุณอีกนะคุณผู้หญิง อีกอย่างฉันเป็นคู่หมั้นคุณทำไมจะเข้ามาไม่ได้ล่ะ” ฉันก็เป็นผู้หญิงไง แทยอนต่อประโยคเพียงในใจ

     

    “คุณน่ะหรอคู่หมั้นหน้าละอ่อน” ทิฟฟานี่พิจารณาผู้ชายที่จะมาหมั้นกับเธอ อืม หล่อ เท่ สูงกว่าเธอนิดหน่อย ขาวเนียน หน้าตาดี พอถึงตรงนี้เธอแทบถอนคำพูดก่อนหน้านี้ ก็ตอนนี้คุณมาเฟียเขาไม่หน้าละอ่อนแล้วนี่ ดูคมเข้มต่างจากในรูปเลยแหะ

     

    “เอ้ย ไม่ได้ๆ... ห้ามหลงในรูปลักษณ์ภายนอก” คิดเองพูดเองแล้วก็ส่ายหัวปัดความคิดของตัวเองทิ้ง กลับมาเผชิญหน้ากับคนที่ยืนมองเธอ ขุดความพยายามในการยกเลิกงานหมั้นขึ้นอีกครั้ง “คุณมาหมั้นแทนพี่ตัวเองใช่มั้ย?”

     

    “อืม” รับคำเบาๆ

     

    “ฉันก็ถูกบังคับมาแทนพี่สาว งั้นเรามายกเลิกงานหมั้นกันมั้ย? คุณมาเฟีย” แทยอนเงียบไปเล็กน้อยก่อนจะตอบกลับ “ไม่ดีกว่า”

     

    “ทำไมล่ะ? คุณก็ถูกบังคับมาเหมือนกันไม่ใช่หรอ ไม่มีใครชอบการคลุมถุงชนหรอกนะโดยเฉพาะฉัน” ร่างบางในชุดราตรีสีชมพูทำหน้างง

     

    “ฉันยังไม่ได้บอกเลยนะว่าถูกบังคับ”

     

    “ก็คุณบอกมาแทนพี่ตัวเอง”

     

    “ก็ฉันมาแทนพี่ชาย... แต่ไม่ได้ถูกสั่งให้มาสักหน่อย” แทยอนตอบเรียบๆ ไม่มีใครในตระกูลที่บังคับเขาได้ ส่วนอีกคนทำหน้าเหวอ เออ ก็จริงแหะ

     

    “แล้วทำไมคุณถึงยอมมาล่ะ?” เธอถามเหตุผลที่ไม่มีใครรู้

     

    “ความลับ”

     

    “นี่คุณ! บอกฉันมาเดี๋ยวนี้เลยนะ” หญิงสาวเริ่มจะวีนอีกครั้งพร้อมกับฮึกฮัดอย่างหงุดหงิดใจ คนมีความลับยังคงหน้าเดิมไม่เปลี่ยนไม่สะทกสะท้าน

     

    “ทำไมฉันต้องบอกคุณด้วยล่ะ?”

     

    “ก็เพราะว่าไม่เคยมีใครขัดใจฉันน่ะสิ” แล้วเชิดหน้าใส่  เอาให้รู้กันไปว่าเธอน่ะใหญ่แค่ไหน แทยอนลอบยิ้มมุมปาก “งั้นฉันคงจะเป็นคนแรกของคุณสินะ น่าดีใจจัง”

     

    “นี่คุณมาเฟีย! ตกลงคุณจะขัดใจฉันใช่มั้ย?” ทิฟฟานี่ถามเสียงแหลม เริ่มจะใช้สกิลเหวี่ยงมาร่วมด้วย ถ้าใครเจอเป็นอันต้องหุบปาก ซึ่งคนนี้ก็...

     

    “ครับ” ยอมรับแบบหน้าตายเหมือนเดิม

     

    “อ้าย! ไอคุณมาเฟีย! ไอคู่หมั้นหน้าหล่อ เอ้ย หน้าละอ่อน ไอคุณๆๆ...” แล้วเธอก็นึกคำด่าไม่ออก แต่ดูคำด่าจะไม่ได้เจ็บเท่าไหร่เลยนะแม่คุณ

     

    “ขอบคุณที่ชมครับ” แทยอนรับคำชม(ด่า)หน้าาตาเฉย “แต่เรียกด้วยชื่อจะดีกว่านะคุณคู่หมั้น... คิม แทงกู ครับ ฝากเนื้อฝากตัวฝากใจด้วยนะคุณผู้หญิง”

     

    “แหวะ ไม่ต้องเอามาฝากเลย ฉันไม่รับ ฮึ” เธอปฏิเสธแทบจะทันทีแล้วสะบัดบ๊อบใส่ “แล้วฉันก็ไม่แนะนำตัวด้วย อยากรู้ก็สืบเองแล้วกัน”

     

    “แต่บังเอิญฉันรู้จักคุณอยู่แล้วล่ะคุณฮวัง ทิฟฟานี่ ไม่ใช่สิ คุณฮวัง มิยอง”

     

    “กรี๊ด! คุณรู้ชื่อนั่นได้ไง!” ทิฟฟานี่กรีดร้องตกใจเพราะชื่อที่เธอเขวี้ยงทิ้งไปนานแล้วกลับวกมาตอกหน้าเธอแถมจากคนที่กำลังจะกลายเป็นพวกชอบขัดใจเธอเป็นแน่ (ซึ่งก็จริง)

     

    “ก็ความลับอีกแหละ มิยอง”

     

    “หยุดเรียกชื่อนั้นเลยนะ! ไอมาเฟีย!” ยิ่งถูกกระตุ้นด้วยชื่อที่ทีผลกระทบต่อจิตใจอันแสนบอบบาง(?)ของเธอมาก คำว่าสุภาพหรือคู่หมั้นคงไม่อยู่สารบบของเธออีก แต่ไอคนหน้าเดียวก็ยังคงความนิ่งแฝงความเอาแต่ใจในฉบับของตนได้ดังเดิม “ทำไมล่ะ ฉันว่าน่ารักออกนะ มิ-ยอง”

     

    “กรี๊ด ฉันบอกให้หยุดเรียกไม่ใช่ให้มาย้ำเพิ่ม ไอหมาขาว!” ฉายาใหม่ถูกตั้งให้กับลูกสาวมาเฟีย นี่คงเป็นครั้งแรกที่แทงกูคิ้วกระตุกแม้จะเพียงข้างเดียวก็เถอะ ตั้งแต่เกิดยังไม่เคยมีใครบังอาจว่าเขาขนาดนี้มาก่อน หึหึ ได้เจอคู่(รัก)แข่งที่สมน้ำสมเนื้อซะแล้ว

     

    “แทงกูครับแทงกู... คุณฟานี่” ในที่สุดเขาก็เลี่ยงที่จะเอ่ยชื่อนั้น ไม่ใช่อะไรเขาจะเก็บมันไว้เป็นไพ่ตาย

     

    “ฮึ! ฉันอนุญาตให้เรียกชื่อเล่นตั้งแต่เมื่อไหร่” ฝ่ายฮวังยังคงเคืองและอาจจะเคืองอีกนาน เธอที่คิดว่าผู้ชาย(?)ตรงหน้านี่ต้องเป็นพวกดื้อเงียบแน่ๆ ดูทรงแล้ว(ไปดูตรงไหนล่ะฟานี่?)

     

    “ชื่อนั้นก็ไม่ได้ชื่อนี้ก็ไม่ได้... แล้วคุณคู่หมั้นจะให้ฉันเรียกด้วยชื่อไหนล่ะ?” แทงกูถามเสียงเรียบซึ่งก็เรียบได้เสมอต้นเสมอปลายดีมาก

     

    “ทิฟฟานี่ไง! อย่างคุณนี่ฉันคงต้องดูพฤติกรรมก่อนว่าจะให้เรียกชื่อเล่นฉันได้รึเปล่า?” นี่แม่นางคิดว่าตัวเองกำลังเป็นคุณครูอยู่รึ มีมาส่องดูพฤติกรรมด้วย

     

    “ครับๆ เชิญคุณเลย” เขาตกลงตามใจอีกคน โนวๆ อย่าเพิ่งคิดว่าเขากำลังจะกลายเป็นลูกไล่เธอ ของอย่างนี้มันต้องดูจังหวะและโอกาสที่จะเอาคืนนะครับ

     

    ทิฟฟานี่เผลอยกยิ้มพอใจที่สุดท้ายเขาไม่ขัดใจเธอ(แค่ตอนนี้เท่านั้นล่ะ) จึงรีบกลับไปถามสิ่งที่อาจจะกลายเป็นอุปสรรคของเธอถ้าหล่อนไม่รู้มันตอนนี้

     

    “แล้วตกลงคุณรู้ความลับฉันได้ยังไง?”

     

    “หือ? ฉันบอกคุณทิฟฟานี่ไปแล้วนี่ว่า... ความ-ลับ-ครับ”

     

    “ไอหมาขาว!”

     

    “แต่ฉันบอกให้ก็ได้นะ...” หญิงสาวหูผึ่งทันทีที่ได้ยิน ถลาไปล่อนลงหยุดข้างหน้าของแทงกู ตาจิกมองจ้องอย่างคาดคั้น “...ถ้าคุณยอมรับข้อแม้อย่างหนึ่ง”

     

    “อะไร!?” แทงกูยิ้มเจ้าเล่ห์ ไอข้อแม้นั่นต้องทำเธอกรี๊ดแน่ๆ “คุณต้องยอมหมั้นกับฉันแต่โดยดีห้ามแย้งห้ามยกเลิก... แค่นี้ยอมได้มั้ยล่ะครับคุณคู่หมั้นคนสวย”

     

    “อ้าย! ไอหมาขาว” นั่นไง คิดผิดซะที่ไหนล่ะ

     

    “ว่าไงล่ะครับ?”

     

    “ยังไงก็ต้องหมั้นอยู่แล้วนี่! ก็ได้ ฉันยอมรับ!”

     

    “ยอมรับอะไร?”

     

    “อะไรของคุณมากมายเนี่ย! ฉันยอมหมั้นด้วยความสมัครใจของตัวเองจะไม่แย้งไม่ยกเลิก พอใจยัง?” เมื่อหญิงสาวยินยอมข้อแม้ของเขา รอยยิ้มที่เป็นยิ้มจริงๆก็ปรากฏให้เธอได้เห็นซึ่งทำเอาอึ้งไปเลย แต่บางทีเธออาจตาฝาดก็ได้เพราะแวบเดียวมันก็กลับมาเป็นยิ้มชวนหงุดหงิดอีกรอบ

     

    “ฮ่ะๆ คุณพูดแล้วนะ อย่าคิดตุกติกล่ะเพราะฉันมีหลักฐานไว้พร้อมแล้ว”

     

    “??” ทิฟฟานี่ทำหน้างง หลักฐานอะไรของเขาและต่อมาไอสิ่งที่เขาเรียกว่าหลักฐานก็โผล่มาอยู่ในเจ้าของซึ่งมันเป็น...

     

    “ฉันยอมหมั้นด้วยความสมัครใจของตัวเองจะไม่แย้งไม่ยกเลิก พอใจยัง?” มือถือแอนดรอยด์เครื่องหรูที่กำลังเล่นไฟล์เสียงของเธออยู่ นี่เขาลงทุนอัดเสียงเธอเลยเรอะ มันจะธุรกิจสมกับเป็นมาเฟียเกินไปไหม พระเจ้า อย่างนี้ก็เธอก็ตุกติกจริงๆไม่ได้น่ะสิ อยากจะกรี๊ดจริงๆ

     

    “กรี๊ด!” ...และก็กรี๊ดจริงๆ

     

    “หึ่ย! จะลงทุนเกินไปแล้วนะยะ! แล้วไหนล่ะคำตอบของคุณน่ะ” หญิงสาวที่เพิ่งโดนเล่นงานรีบทวงคำตอบจากผู้ชาย(?)เจ้าเล่ห์ก่อนที่เธอจะโดนเล่นรอบสอง... ไอมาเฟียนี่ไม่น่าไว้ใจ

     

    “หึๆ ฉันยังไม่ได้บอกคุณนะว่าจะบอกตอนไหน... อืม เอาเป็นว่าให้ผ่านงานหมั้นไปก่อนแล้วกันนะครับ คุณมิยอง” และแล้วหญิงสาวไฮโซจากตระกูลฮวังก็โดนลูกสาวในร่างลูกชายเล่นอีกเป็นรอบที่สอง ซึ่งเธอก็ไม่สามารถทำอะไรได้อีกนอกจาก...

     

    “ไอมาเฟียหน้าเข้ม! เข้มยันข้างใน!... ไอคู่หมั้นเฮงซวย! ผู้ชายอะไรไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษ! ไอคนหน้าเดียว! ไอหมาขาวหน้าตายยยยยยย!!”

     

    ก็ได้แต่ด่าอย่างคับแค้นใจและอีกคนก็รับฟังคำชม(?)อย่างสุขีเปรมปรีใจเป็นอย่างมากที่หญิงสาวเข้าทางเขา ฮ่าๆ



    เป้ง!! พักยก


     

    หลังจากที่ศึกแรกระหว่างคู่หมั้นในห้องรับร้องจบลงด้วยชัยของฝั่งมาเฟีย สักพักผู้หญิงผู้จัดก็มาพาทั้งคู่เข้าสู่เวทีพิธีหมั้น ต้องเดินผ่ากลางเหล่าแขกบนพรมแดงตรงกลางขึ้นเวทีอย่างกับงานแต่ง นี่ไม่เอาดอกไม้มาโปรยให้ด้วยเลยล่ะ ถ้าจะขนาดนี้แล้วก็ให้มันเป็นงานแต่งไปเลยซี้ (อย่าท้านะ)

     

    หน้าของทิฟฟานี่เริ่มหงุดหงิดและแผ่ออร่าครึ้มอย่างเห็นได้ชัด แทงกูก็หน้านิ่ง นิ่งมาก แม้ทั้งคู่จะเดินข้างกันแต่ว่า... ห่างกันเป็นกิโล!? โดยเฉพาะฝั่งว่าที่เจ้าสาวที่เว้นระยะจนจะไปสิงแขกที่นั่งอยู่แล้วน่ะ

     

    สรุปทั้งคู่จะมาหมั้นกันสินะ ใช่มั้ย?  ทุกคนได้แต่คิดอย่างสงสัย

     

    เมื่อเดินมาได้ครึ่งทาง(ห้องจัดงานใหญ่มาก) แทงกูรู้สึกได้ถึงความสงสัยจากสายตาของทุกหมู่เหล่า ขยับชิดเข้าใกล้ร่างบางเรื่อยๆ เรื่อยๆ จนกระทั่งไหล่ชนไหล่ แต่มีหรือที่อีกคนจะยอม พยายามเดินเลี่ยงออกไปอีก ไปข้างๆไม่ได้ก็ไปข้างหลัง

     

    แต่แทงกูไม่ปล่อยให้หญิงสาวไป มือเอื้อมจับแขนร่างบางไว้แล้วตวัดแขนโอบเอวเจ้าหล่อนไม่ให้กระเทิบหนีไปอีก ยิ่งทิฟฟานี่ดิ้นเท่าไหร่อีกฝ่ายก็ดึงแนบชิดตนมากขึ้นเท่านั้น กลายเป็นภาพชวนเขินสำหรับบรรดาแขกเรื่อทั้งหลายที่ชาย(?)หญิงคู่นี้อิงแอบแนบชิดกันมาก สงสัยเมื่อกี้อาจจะเก้อเขินกันล่ะมั้ง?

     

    และในความเป็นจริงก็คงจะเป็นอย่างนั้น...

     

    “หึ่ม! ไอมาเฟียเผด็จการ ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ! ไม่ต้องมาโอบด้วย!” ดูเหมือนจะไม่ใช่อย่างที่คิด

     

    “อย่าดิ้นสิคุณ... คุณไม่เห็นหรอว่าพวกเขามองเราอยู่” ภาพคู่หมั้นกระซิบกระซาบกับยิ่งเพิ่มความมุ้งมิ้งให้คนอื่น แต่ความเป็นจริงมักโหดร้ายเพราะสองเจ้าตัวน่ะกำลังคุยกันแบบฮาร์ดคอต่างหาก

     

    “แล้วไง” หญิงสาวสวนกลับ อีกคนก็อธิบายอย่างใจเย็น “ถ้าคุณเป็นอย่างนี้มันไม่เหมือนคู่ที่กำลังจะหมั้นกันนะ คุณคู่หมั้น”

     

    “ก็ฉันไม่ได้อยากหมั้น!” เสียงกระซิบที่เน้นย้ำของเธอกระตุกใจเขาได้ไม่น้อย นั่นสินะ เธอไม่ได้อยากหมั้นด้วยความต้องการของตัวเองนี่น่า

     

    “เป็นอะไรน่ะคุณ” ทิฟฟานี่ถามเมื่อลูกชายมาเฟียเงียบไป

     

    “เปล่า พอดีเสียงคุณมันทำหูฉันดับไปพักนึง” เขาเลี่ยงตอบด้วยการกวนแบบนิ่งๆอย่างทุกที

     

    “ไอหมาขาว!”

     

    “เอาน่าคุณ... ถ้าคุณไม่ทำให้พวกเราเหมือนเป็นคู่หมั้นกัน คราวนี้สองตระกูลได้ดังขึ้นหน้าหนึ่งแน่ว่าหลอกประชาชนทั้งประเทศ” ร่างบางเงียบไปครุ่นคิด จนสุดท้ายเธอก็ต้องยอมรับในการแสร้งทำเป็นว่ามีความสุขมากมายกับการหมั้นครั้งนี้

     

    “ก็ได้! แค่ตอนนี้หรอกนะ รู้ไว้ด้วย” ยังมิวายทิ้งท้าย

     

    “เข้าใจแล้วครับมิยอง”

     

    “ไอหมาขาวหน้าตาย!” ขอด่าก่อนขึ้นเวทีสักรอบ เห็นหน้านิ่งงี้นะกวนเป็นที่หนึ่งเลย แล้วถ้าไปอยู่ด้วยกันไม่ฮาร์ดคอกว่านี้หรอ? ทิฟฟานี่ก็ได้แต่ปลง

     

    เมื่อตกลงกันได้แล้ว ตลอดงานพิธีหมั้นทั้งคู่ทำได้ดีมาก มีความสุขแบบหน้าตายสุดๆ ทำเอาทุกคนแฮปปี้กับคู่หมั้นคู่ใหม่ แต่ใครจะรู้ว่าหญิงสาวฮวังนั้นกำลังขุ่นเคืองในใจยิ่งนักโดยเฉพาะกับหมาขาวข้างตัวที่ยิ้มหน้าบาน(ตามจริงแค่ยิ้มมุมปาก)จนน่าหมั่นไส้

     

    แล้วยังจับนู่นจับนี่ตามตัวเธอตลอดแล้วอ้างว่าทำเพื่อความสมจริง แหม่ เชื่อตายล่ะ เธอเลยจัดการตอกกลับไปบ้าง ตอนเขากำลังสวมแหวนเพชรหลายกะรัต(ฟานี่ตาวาว)ให้หญิงสาวเธอก็แอบยิกเขาที่หลังจนคนโดนขมวดคิ้ว ตอนถ่ายรูปรวมครอบครัวหรือรวมทั้งสองตระกูลแทงกูก็โดนอีกหลายดอกจนเกือบน่วม ทั้งยิกหลัง ยิกเอว กระทุ้งข้อศอกเข้าท้องทำเอาจุก แต่ที่เจ็บจี๊ดที่สุดก็คือไอส้นแหลมสูงของแม่นางที่กระทืบลงเต็มเท้าของเขาจนหลุดร้องเบาๆ ดีที่เขาสวมรองเท้าหนังดำที่มันหนากว่าคู่อื่นไม่งั้นอาจต้องเดินกระเพลกซิ่งกลับบ้านก็เป็นได้

     

    เวลาล่วงเลยสู่ยามเย็นพิธีทุกอย่างได้เสร็จสิ้นลง ก็ถึงช่วงที่สองครอบครัวที่กำลังจะปรองดองกัน(ได้รึเปล่า?)คุยกันแบบส่วนตัว พวกผู้ใหญ่แยกตัวออกไปคุยกันลำพังอีกห้องตามประสาพวกอาบน้ำร้อนมาก่อน ปล่อยให้คู่หมั้นอย่างเป็นทางการ(หมาดๆ)อยู่กันอีกห้องที่ใช้รับรองพวกเขาก่อนเข้าร่วมงานและศึกครั้งแรกระหว่างมาเฟียกับไฮโซ ซึ่งมีฮายอนน้องสาวของแทงกูกับลีโอพี่ชายของทิฟฟานี่ร่วมอยู่ด้วยเหมือนกัน

     

    “เป็นอะไรน่ะน้องฟาน” ชายหนุ่ม(แท้)คนเดียวในห้องกระซิบถามน้องสาวที่นั่งอยู่ข้างๆ หลังจากสังเกตุเห็นอารมณ์บ่จอยของร่างบางมาสักพัก ซ้ำสายตายังจิกไปยังคู่หมั้นของตัวเองที่นั่งบนโซฟาตัวตรงข้ามกับพวกเขาอีก

     

    ก็รู้นะว่าไม่ได้เต็มใจหมั้น แต่นี่เหมือนไปโกรธแค้นกันมาแต่ชาติปางก่อน...  

     

    แต่เขาว่าน่าจะเป็นแค่ทางฝั่งเขามากกว่ามั้งที่แค้นเคืองเพราะดูอีกฝ่ายไม่มีท่าทางจะโกรธหรืออาการหงุดหงิดเลย กลับดูมีความสุขมากซะอีก ถ้าลีโอไม่รู้ว่าทั้งคู่ต้องมาหมั้นแทนพี่ๆตัวเองนะเขาคงคิดว่าลูกชายมาเฟียนั่นต้องชอบน้องสาวเขาแน่ๆ ถึงได้ดูลั้ลลาขนาดนั้นแม้จะเพียงแสดงออกนิดเดียว แต่ด้วยความที่เขาก็เป็นผู้ชายทำไมจะดูไม่ออกล่ะ (แต่เขาเป็นผู้หญิงนะคะพี่)

     

    “เปล่าค่ะ” แต่ดูหน้าตาของน้องไม่บอกงั้นเลยนะ

     

    “ก็แค่หงุดหงิดหมาขาวบางตัว ชอบเผด็จการ ฮึ” ลีโอถึงบางอ้อทันทีที่เขาเหลือบไปทางที่สายตาของน้องสาวจ้องอยู่ ชายหนุ่มสบตากับคนที่กำลังจะมาเป็นน้องเขย ซึ่งอีกคนก็ยิ้มบางๆทักทาย

     

    “พี่แทงค่า~” น้องเล็กฮายอนกระโดดตุบขึ้นมาบนตัวของพี่ชาย(สาว)ที่รัก หันหน้าเข้าหาตัวของคุณพี่ขณะอยู่บนตัก พี่แทงของน้องเผยยิ้มอ่อนโยนเป็นครั้งแรกให้คู่หมั้นสาวเห็นก่อนจะเอ่ยถามเจ้าตัวแสบ “ว่าไงครับ คุณน้องสาว”

     

    “พี่กำลังมีความสุขหรอคะ?” ฮายอนเอียงคอถาม

     

    “ครับ”

     

    “ทำไมหรอคะ?” เจ้าตัวแสบโอบรอบคอพี่ชายแล้วถามเสียงใส พร้อมกระพริบตาปริบเพิ่มความโมเอ้แก่ตัวเองเป็นอย่างมาก

     

    “ก็เพราะว่าพี่แทงเอาชนะหมีชมพูแถวนี้ได้น่ะสิครับ” หญิงสาวคนหนึ่งหันพรึบราวกับรู้ว่าตัวเองคือหมีชมพู อย่างนี้เขาเรียกร้อนตัวนะฟานี่

     

    “ไอหมาขาว!”

     

    “เอ๋!” น้องน้อยอุทานลั่นก่อนจะโดดลงพื้นแล้ววิ่งเข้าหาคนเป็นหมีอย่างรวดเร็วจนเธอตกใจ ทิฟฟานี่มองน้องสาวของคู่หมั้นตัวเองที่จ้องเธอไม่กระพริบแบบใกล้ชิดจนเธอประหม่า “อะ... ไรหรอคะ? สาวน้อย”

     

    “พี่สาวคู่หมั้นคนสวยเป็นหมีหรอคะ? แล้วทำไมต้องสีชมพูอ่ะ ฮายอนไม่เคยเห็นเลย~” ชายหนุ่มสองคนหลุดหัวเราะพรืดไม่เว้นแม้คนหน้านิ่งกับคำถามอันใสซื่อ ส่วนคนถูกมองหมีได้แต่ทำหน้าเหวอไม่รู้จะตอบยังไง ถึงจะแอบชอบใจที่ถูกชมว่าสวยแต่ไอคำถามนี่ทำเอาสาวสวยไฮโซผู้สุดแสนจะเอาแต่ใจไปไม่เป็นเลยทีเดียว “เอ่อ..”

     

    “นี่คุณไปบอกน้องอย่างนี้ได้ยังไง ฉันเสียหายนะ!” ในเมื่อทำตัวไม่ถูกกับคำถาม เธอจึงหันไปแหวใส่คนเป็นพี่ที่ใส่ร้ายว่าเธอเป็นหมีแถมสีชมพูอีก

     

    “เอ้า ฉันก็ไม่เห็นว่ามันจะเสียหายตรงไหนเลยนะ... ใช่มั้ยครับคุณลีโอ” แทงกูหาพรรคพวก

     

    “อืม ก็จริงนะน้องฟาน” ทิฟฟานี่หน้าบึ้งใส่พี่ชายที่ไม่ช่วยน้องตัวเองแล้วยังไปเข้าข้างคนที่เธอตีตราเป็นคู่อริแล้วอีกด้วย “แล้วไม่ตอบน้องเขาหรือไงฮึ ดูสิรอตาแป๋วเลย”

     

    “อ่า...” หญิงสาวกลับมาทำไม่เป็นอีกรอบ ได้แต่จ้องสมตากับตาใสวิ๊งของสาวน้อย

     

    เมื่อคนเป็นหมีเงียบไป ฮายอนก็ทำหน้าหมองลงเพราะพี่สาว(ที่เพิ่งมีเพิ่ม)ไม่ตอบคำถามของเจ้าตัว ทำเอาร่างบางตรงหน้าใจเสีย เอ้ย ฟานี่ไม่ถูกกับเด็กค่า ตั้งแต่เกิดมาระรานคนบนโลกเธอยังไม่เคยง้อเด็กเลยนะ แล้วมันต้องทำยังไงเล่า

     

    “อ่า พี่ไม่ได้เป็นหมีค่ะแค่รู้จักเฉยๆ เอ่อ ส่วนที่ทำไมสีชมพู อ้อ เพราะเผ่านั้นสีชมพูไงคะ พิเศษไม่เหมือนใคร สาวน้อยไม่เคยเห็นหรอกเนอะ มันแอบหลบมุมอยู่”

     

    “ฮ่าๆ/ฮ่ะๆ” เสียงประสานดังจากหนึ่งหนุ่ม(แท้)กับหนึ่ง(แอ๊บ)แมน คนเป็นพี่ชายหัวเราะแบบไม่คิดปิดบัง ส่วนคนเป็นคู่หมั้นนี่คงเป็นหนแรกที่เขาหัวเราะขนาดนี้ ทั้งสองต่างขำกับคำตอบเอาตัวรอดของหญิงสาว

     

    “พี่ลีโอหยุดหัวเราะเลยนะ... คุณด้วยไอหมาขาว! หน้าไม่ตายแล้วหรอยะ!” ทิฟฟานี่ยิ่งหงุดหงิดกว่าเดิมที่โดนประสานหัวเราะใส่อย่างนี้  

     

    “จริงหรอคะ? พี่สาวคนสวย ฮายอนอยากเจออ่ะ พี่สาวพาฮายอนไปเจอคุณหมีชมพูหน่อยได้มั้ยค่า?” พี่สาวคนสวยเหวอกว่าเดิม เอาล่ะสิ หางานเข้าตัวเองแท้ๆ ยัยฟานี่เอ้ย

     

    “นะคะพี่สาว น้านะ” เจ้าตัวแสบออดอ้อนพร้อมจับหัวเข่าของร่างบางเขย่าเบาๆ เมื่อทิฟฟานี่เจอความน่ารักสดใสขี้อ้อนของสาวน้อยเข้าไปกลับรำคาญหรือหงุดหงิดไม่ลง ทั้งที่จริงแล้วเด็กกี่คนต่อกี่คนที่เข้าหาเธอเมื่อก่อนมักโดนไล่ทั้งนั้น แต่ทำไมพอเป็นเด็กคนนี้เธอกลับเอ็นดูกันนะ

     

    “ก็ได้ค่ะ แต่เอาไว้สักวันนะคะ” แทงกูอมยิ้มขำกับท่าทางปลงตกของคู่หมั้นที่หมดมาดสาวขี้วีนเอาแต่ใจไปแล้วตอนนี้เมื่อเจออาวุธของน้องเล็กเขา

     

    “เย้! ดีใจจัง แต่พี่สาวสัญญาแล้วน้า” ความน่ารักแต่สุดแสบสันต์สร้างความเอ็นดูแก่คนอายุมากกว่าได้มากเลยเชียว

     

    “ค่ะๆ” สักพักสาวน้อยก็หยุดกระโดดแล้วแนะนำตัวกับพี่สาวทันทีที่นึกได้ “สวัสดีค่ะพี่สาวว่าที่พี่สะใภ้(?) หนูชื่อคิม ฮายอน ลูกสาวคนเล็กของตระกูลคิมและน้องสาวคนเล็กของพี่ชายแทงกูค่ะ”

     

    ว่าที่พี่สะใภ้แอบหน้าแดงน้อยๆกับคำเรียก ก็ในชีวิตไม่เคยมีใครเรียกคำนี้กับเธอนี่ แล้วสาวน้อยนับเธอเป็นพี่สะใภ้แล้วเรอะ นี่เพิ่งวันหมั้นเองนะ รู้ได้ยังว่าเธอจะแต่งกับพี่ชายตัวเอง แล้วทิฟฟานี่ก็แนะนำตัวกลับบ้าง

     

    “สวัสดีค่ะฮายอน พี่ชื่อฮวัง ทิฟฟานี่นะ เรียกพี่ฟานี่เฉยๆก็ได้ค่ะ” แล้วฮายอนก็ตอบรับด้วยสดใส แทงกูรีบหันมามองทันทีที่ได้ยินประโยคเมื่อกี้ “โห ไม่ยุติธรรมอ่ะคุณทิฟฟานี่ ฉันที่เป็นคู่หมั้นคุณยังไม่ให้ฉันเรียกด้วยชื่อเล่นเลย แล้วทำไมฮายอนเรียกได้ล่ะ”

     

    “เสียใจย่ะ น้องสาวคุณทำตัวน่ารักน่าเอ็นดูกว่าคุณเยอะ เพราะฉะนั้นก็รอไปเถอะ แบร่” คราวนี้กลายเป็นฝ่ายมาเฟียบ้างที่ต้องทำหน้าเหวอ

     

    “ใจร้าย” หญิงสาวที่ถูกว่าใจร้ายไม่สน สะบัดหน้าใส่แล้วหันไปคุยกับฮายอนข้างๆกันสองคน สนิทกันซะแล้ว เร็วไปไหม สนิทเพราะหมีชมพูแท้ๆ

     

    “คุณแทงกูครับ” เจ้าของชื่อหันมองลีโอที่มองมาทางเขา “ครับพี่ลีโอ”

     

    “พวกสาวๆเข้าสู่โลกส่วนตัวกันแล้ว พวกเรายังไม่รู้จักกันเลย คุณแทงกูสนใจไปคุยกับผมริมหน้าต่างไหมครับ?” แทงกูไม่ปฏิเสธอคำชวน สองหนุ่มเลยพากันลุกเดินไปนั่งที่ขอบหน้าต่างบานใหญ่แทน ฝ่ายคนชวนเริ่มแนะนำตัวก่อน “ผมฮวัง ลีโอ ลูกชายคนโต(บุตรคนรอง)ของตระกูลฮวัง พี่ชายของคู่หมั้นคุณครับ”

     

    ลูกสาวในร่างชายหนุ่มจากตระกูลมาเฟียเอื้อมมือไปจับมือของอีกฝ่ายที่ยื่นมารอพร้อมกับแนะนำตัวบ้าง “สวัสดีครับคุณลีโอ... ผมคิมแทงกู ลูกชายคนเล็ก(บุตรคนที่สาม)ตระกูลคิม คู่หมั้นของน้องสาวคุณ”

     

    “เรียกว่าพี่ลีโอก็ได้”

     

    “พี่ลีโอก็เรียกผมว่าแทงกูเฉยๆเถอะครับ”

     

    “ฮ่าๆ ได้เลยไอน้องชาย”

     

    “งั้นผมขอฝากเนื้อฝากตัวเป็นน้องชายของพี่เลยนะครับ พี่ลีโอ” แทงกูค้อมตัวลงอย่างนอบน้อม

     

    “ยินดีอย่างยิ่ง น้องชายแทงกู” ลีโอล็อคคอคนที่เพิ่งรับมาเป็นน้องชายแล้วยีหัวอย่างสนุกสนาน ให้คนหน้านิ่งร้องห้ามรัวๆ เพราะผมเสียทรง

     

    “พี่ลีโอ ผมต้องขออภัยล่วงหน้าด้วยครับที่อนาคตข้างหน้าน้องสาวพี่คงถูกผมแกล้งอีกหลายครั้ง” แทงกูขอความกรุณากับพี่ชายของคู่หมั้น เดี๋ยวมีปัญหาใหญ่พอดีถ้าทิฟฟานี่ไปฟ้องทางครอบครัว เขาอาจจะโดนว่ากลับมาก็ได้ที่คิดจะไปแกล้งน้องสาวสุดหวง แต่ว่า...

     

    “เชิญเลยไอน้อง ก็ดีเหมือนกันที่มีคนปราบยัยน้องสาวแสนเอาแต่ใจได้สักที แต่อย่าแกล้งเธอหนักเกินไปล่ะ ยังไงพี่ก็หวงอยู่ดี ถ้าแค่ยั่วเบาๆล่ะก็พี่เป็นแบ็คอัพให้ได้” ผ่าง! สิ่งไม่คาดคิดได้เกิดขึ้นแล้ว เขาไม่คิดว่าลีโอจะไม่ว่าเขานะเนี่ย แล้วยิ่งเกินคาดที่เขาปล่อยผ่านแถมยังมาเป็นแบ็คอัพด้วยอีก น่อล! คงจะลำบากขึ้นอีกแล้วล่ะคุณคู่หมั้นคนสวย

     

    และการพูดคุยระหว่างพี่สาวกับน้องสาวและพี่ชายกับน้องชาย(?)ก็ดำเนินต่อไปอีกสักพักจนกระทั่งทางผู้ใหญ่คุยกันเสร็จจึงพากันแยกย้ายกลับตระกูล ซึ่งขามามาด้วยวิธีไหนขากลับก็วิธีเดิม ด้านฮวังเปิดปิดขบวนอย่างยิ่งใหญ่และยาวเหยียด ส่วนฝั่งคิมก็รถคันเดิมและคนซิ่งคนเดิม

     

     

     

     

     

    ด้านครอบครัวตระกูลคิมที่กำลังโดยสารรถสุดหรูคันโปรดของแทยอนกลับบ้านด้วยความเร็วของรถที่ยังไม่มากนักเพราะบรรดาพาหนะเต็มเอี๊ยดแน่นถนน สร้างความเซ็งให้แทยอนและน้องเล็กสุดแสบไม่น้อย คุณแม่ฮานึลคอยปลอบฮายอนอย่างใจดี แต่คุณพ่อนั้นสุดแสนจะมีความสุขที่ไม่ต้องเสี่ยงตายตอนขากลับ(แน่ใจหรอพ่อ)

     

    “คู่หมั้นของลูกเป็นยังไงบ้างล่ะแทยอน” เมื่อไม่ต้องมาคอยร้องตะโกนยามที่รถวิ่งตัดหน้าคันอื่น แทยังจึงมีโอกาสได้คุยกับลูกสาว

     

    “อืม ก็น่ารักเหมือนเดิม สวยขึ้นกว่าแต่ก่อน แต่นิสัยเอาแต่ใจมากกว่าเมื่อก่อนเยอะเลยค่ะพ่อ” แทยอนตอบขณะพิงหัวกับแขนซ้ายและขับรถด้วยมือขวา เพราะมีคนสะกิดเขาเลยส่งความคิดถึงไปหาอีกคนเงียบๆ

     

    “ฮ่าๆ งั้นหรอ... ก็เมื่อก่อนยัยนั่นเลี้ยงหนูฟานี่แบบตามใจไม่มีขัดเลยนี่ พอมาขัดใจตอนโตเลยไม่ค่อยช่วยเปลี่ยนนิสัยเท่าไหร่หรอก ฮ่าๆ”

     

    “แล้วก่อนออกมาลูกฝากลีโอเอาอะไรให้หนูฟานี่หรอจ๊ะ” ฮานึลถามบ้าง เพราะก่อนออกจากงานเธอเห็นลูกสาวในคราบลูกชายหยิบบางอย่างให้พี่ชายที่เริ่มสนิทกันฝากถึงคุณคู่หมั้น

     

    “ก็แค่ช่อดอกไม้พร้อมข้อความสุดแสนคิดถึงที่ไม่ได้กันนานเป็นสิบปีน่ะค่ะแม่”

     

    “แหม่ๆ โรแมนติกจังนะลูกแม่เนี่ย” คุณแม่ยังสาวป้องปากหัวเราะอย่างกุลสตรี

     

    “ฮ่ะๆ งั้นหรอคะ”

     

    “พี่แทค่า ถนนว่างแล้วค่ะ” แทยอนหันมองถนนหลังจากเรดาร์ตัวน้อยที่อยู่เงียบๆคอยจ้องทางเบื้องหน้ามาสักพักเอ่ยบอก นักซิ่งเฉพาะกิจกำลังยุ่งกับการถอดกระดุมเสื้อสูทและเนกไท แต่มือบางเรียวของผู้เป็นแม่ก็ยื่นข้ามมาจัดการถอดให้ก่อนพร้อมกับคลายเนกไทให้สบายคอ “ขอบคุณค่ะคุณแม่สุดสวย”

     

    “จ้าคุณลูกชาย อ่ะ..ไม่สิ คุณลูกสาวปากหวาน ฮิๆ”

     

    “เอาล่ะ พร้อมมั้ยทุกคน?” แทยอนร้องถามที่ตอบเพียงสองคน ส่วนคนที่อยู่เบาะหลังอ้าปากค้างแล้วเรียบร้อยพร้อมสวดมนต์ให้ตัวเองในใจ

     

    “ซิ่งโล้ดค่าพี่แท~”

     

    “ขับดีๆนะจ๊ะลูก คิก”

     

    “ไม่...!” ยังไม่ทันให้คนพ่อเอ่ยปฏิเสธ

     

    บรืนนนนนนนนนนนนนนน!

     

    ว้ากกกกกกกกกกก!~  กรีดร้องเหมือนเดิมเป๊ะ โอ้ ช่างน่าสงสารคุณพ่อจริงๆ

     

     

     

     

    ฝั่งฮวังภายในลีมูซีนก็กำลังฟังคุณลูกสาวบ่นวีรกรรมของลูกชายบ้านโน้นให้ฟังอย่างออกรส ทั้งพ่อแม่พี่ชายกลับคิดโดยพร้อมเพรียงกันว่ามีคนที่จะมาปราบยัยแสบได้แล้ว(โว้ย)

     

    “แต่แม่ว่าเขาหล่อน่ารักสุภาพดีนะคะคุณลูกสาว ใช่มั้ยตาลีโอ” มินยองเบือนใบหน้างามถามลูกชายที่มีโอกาสคุยกับคู่หมั้นน้องสาวแล้ว

     

     

    “ครับแม่ น้องแทงกูเขาสุภาพมากเลยล่ะครับ ถ่อมตัวกับผมสุดๆ” เมื่อได้ยินคำบอกเล่าจากปากลีโอ ทิฟฟานี่ก็เบะปากแทบจะทันที

     

    “ก็กับพวกคุณแม่แต่ไม่ใช่กับลูกสาวแม่นี่คะ กับฟานี่นะกวนอย่างกับอะไรดี หน้าก็นิ่ง ฮึ ไม่เห็นเหมือนน้องสาวตัวเองเล้ย!” หญิงสาวบ่นอย่างหงุดหงิด ยิ่งนึกย้อนกลับไปตอนเขาให้เธอยอมรับการหมั้นแต่แอบอัดเสียงเธอไว้นี่แบบเคืองไม่หายจริงๆ

     

    จู่ๆลีโอพลันนึกขึ้นมาได้ว่าน้องชายต่างตระกูลฝากช่อดอกไม้มาให้น้องสาว เขาจึงรีบหยิบแล้วยื่นส่งแก่ร่างบางที่นั่งอยู่ข้างกายหญิงแม่ “อะไรคะ?”

     

    “แทงกูเขาฝากมาให้น้องน่ะ” ทิฟฟานี่รับช่อดอกไม้กุหลาบแดงสดมาอย่างงงๆ หมอนั่นมีนิสัยอย่างนี้ด้วยหรอ เธอสูดหอมดอกไม้จนชื่นใจแล้วคิดว่าบางทีเขาคงไม่เลวร้ายเท่าไหร่หรอก แต่หางตาเหลือบเห็นกระดาษแผ่นนึงที่เสียบมาพร้อมกัน

     

    จาก...คิมแทงกู เธอรู้เพราะมันมีชื่อเขาเขียนอยู่กับข้อความที่เขียนด้วยลายมือ น่าจะเป็นลายมือของคู่กรณีเธอ

     

    ทิฟฟานี่ดึงออกมาแล้ววางช่อดอกไม้ไว้ข้างตัว คลี่กระดาษออกมาอ่านในใจเพียงคนเดียว

     

    สวัสดีคุณคู่หมั้นคนสวยของฉัน...  หญิงสาวยิ้มบางให้คำเรียกของเขา เธอไปเป็นของเขาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน

     

    ต้องขอโทษด้วยที่ฉันบังคับคุณให้มาหมั้นกับด้วย แต่ฉันอยากจะบอกว่าฉันเต็มใจที่จะหมั้นกับคุณ ไม่มีใครสั่งให้ฉันมา เพราะอะไรนั้นคุณอยากรู้สินะ... แต่ว่าฉันจะไว้บอกเมื่อเราสนิทกันมากกว่านี้นะครับคุณทิฟฟานี่... เธอยู่ปากอย่างขัดใจที่เขาก็ยังไม่บอก แต่ไม่รู้ทำไมเธอถึงแอบมีความสุขเบาๆ

     

    ทุกอย่างเหมือนจะดีขึ้นนิดนึง...

     

    แล้วอีกอย่างที่ฉันอยากจะบอกก็คือคุณยังน่ารักเหมือนเดิม แต่ความสวยของคุณมีมากขึ้นจนเสน่ห์นั่นทำให้ฉันแอบ..(คุณคงต้องเติมคำเองล่ะนะ)...  ทิฟฟานี่ขมวดคิ้วเป็นปม อะไรของเขาทำไมไม่เขียนให้มันจบๆ แล้วเธอจะไปรู้ความคิดเขาไหม ถ้างั้นเธอจะหลงตัวเองล่ะนะว่าเขาแอบหวั่นไหวกับเสน่ห์เธอ

     

    แต่อีกความสงสัย เขาเคยรู้จักเธอมาก่อนหรอ? หรือว่าเราเคยรู้จัก? ทำไมเธอไม่เห็นจำได้หรือคุ้นเลย

     

    ความรู้สึกของเธอที่มีให้เขาดีขึ้นมาอีกนิด... และถึงประโยคสุดท้ายในกระดาษ

     

    แต่มีเพียงอย่างเดียวของคุณที่ไม่เปลี่ยนไปเลย... ไอเสน่ห์ของผู้หญิงของคุณนี่ไม่เจริญเติบโตขึ้นเลยนะ เมื่อก่อนขนาดเท่าไหนก็เท่าเดิมเลยจริงๆ ฉันออกจะเสียดายนิดหน่อยที่มันไม่เพิ่มขึ้น...

     

    ครึบ! หญิงสาวที่เสน่ห์ไม่เจริญเติบโตขยำกระดาษคามือทันที หยุดความคิดที่จะอ่านต่อและหมดอารมณ์ด้วย

     

    ความรู้สึกที่เพิ่งขึ้นไปนิดนึงเมื่อกี้ดิ่งลดแบบฮวบฮาบทันทีแถมดูท่าจะติดลบด้วย...

     

    “หึ่ม! มาเฟียเผด็จการ! ไอผู้ชายเฮงซวย! ไอคนไม่ให้เกียรติผู้หญิงไม่เห็นแก่จิตใจสาวน้อย ไอคู่หมั้นหน้านิ่ง! พรุ่งนี้ฉันจะเอาคืนเป็นสิบเท่าเลย! ไอหมาขาวหน้า(น่า)ตายยยยยยยยยย!!!”



    เป้ง!! จบยกที่หนึ่ง
    .

    .

    .

     

    ช่างน่าเสียดายที่ทิฟฟานี่ไม่คิดมองคำสุดท้ายที่เขียนอยู่บนกระดาษยับยู่ยี่ในมือ เพราะไม่อย่างนั้นเธออาจจะได้รู้ถึงความรู้สึกจริงของใครอีกคน

     

     

    ...ฉันคิดถึงคุณมาตลอดเลยนะ ลูกหมีน้อยของฉัน...

     

     

     

     

     

    2 BE CON…

     

     

     

     

     

    Preview the next CHAPTER

     

    “ทำไมฉันต้องมาอยู่บ้านเดียวกับคุณตามลำพังด้วยเนี่ย”

    “ช่วยไม่ได้นี่น่าคุณ คำสั่งผู้ใหญ่เลยนะ”

    “หึหึ ฉันจะเล่นคุณคืนเป็นสิบ ไม่สิ ร้อยเท่าเลย ไอหมาขาวหน้าตาย”

    “เฮ้ย ทำไมกาแฟมันเค็มงี้ล่ะ ยัยหมีชมพู!~”

    “ว้าก ลูกรักของฉัน TT ทำไมยางถึงแบนแต๊ดแต๋อย่างนี้ล่ะ”

    “ชิ! ฉันจะไปเที่ยวไหนก็เรื่องของฉันน่าไอมาเฟียเผด็จการ”

    “จะไปไหนก็บอกกันก่อนสิคุณทิฟฟานี่”

    “นี่ยัยฟานี่! แกจะชวนพวกฉันมาผับทำไมไม่พาคู่หมั้นเธอมาแนะนำตัวด้วยล่ะ ฉันอยากเจอนะ”

    “หายไปที่ไหนเนี่ย ฟานี่!”

    “เฮ้ย! พวกแกสนใจเล่นคุณหนูไฮโซกับข้าป่ะว่ะ ไอคู่หมั้นหน้าละอ่อนมันไม่มาด้วยว่ะ ฮ่าๆ”

    “หึ เสร็จข้าแน่ ยัยคุณหนู!”




    _______________________________________________________________________________________

    ครบแล้วค่าาาาา แต่ดูไม่น่าใช่อีก 40 เปอ เพราะดูแล้วมันมากกว่า 40 อีกนะเนี่ย
    เอาเถอะอ่านกันยาวๆเน้อ 
    ลีดคิดว่าตอนนี้มุมไหนชนะคะ มุมน้ำเงินเนอะ 555+
    ก็ต้องดูกันตอนหน้าว่ามุมแดงจะเอาคืนได้หรือไม่? และอะไรจะเกิดขึ้นกัน!?
    ลาล่ะค่ะ ^^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×