ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    { GOT7 } ` แมวเหมียว 。| MARKBAM ♡

    ลำดับตอนที่ #3 : แมวตัวที่ ๓

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 659
      4
      18 พ.ค. 57



    แมวตัวที่ ๓

    Tip : อย่าตั้งชื่อที่ทำให้แมวรู้สึกว่าไม่ปลอดภัย

               

                เมี๊ยวววว~

                “คิกๆๆ”

                เมี๊ยวววว~

                “อย่าสิ มันจั๊กจี้นะ”

                เมี๊ยวววว~

                “คิก~

     

                ผมไม่เบื่อเลยครับ...

                ไม่เบื่อเลยแม้แต่นิดเดียว..

                ทำไมจู่ๆ ก็รู้สึกว่าห้องมันมีสีสันขึ้นมาเลยนะ~

     

                “พี่มาร์ค..”

                “ครับ?...”

                “พี่จะจ้องแบมอีกนานมั้ย... -///////-“ น้องพูดทั้งๆ ที่สายตายังจดจ้องอยู่กับเจ้าเหมียวที่อยู่บนตัก ผมกดยิ้มมุมปากน้อยๆ ก่อนจะจ้องมองแก้มป่องๆ ที่เริ่มขึ้นสีจนลามไปถึงใบหู อืม.. ไม่เบื่อจริงๆ นั่นแหละ J

                น่าจับมาหอมแก้มซะให้หายหมั่นไส้...

                “ทำไมล่ะ แบมก็เล่นกับเจ้าเหมียวนี่ไปสิ พี่ไม่ได้กวนสักหน่อย แค่นั่งมองเฉยๆ เอง”

                “ถ้ามองเฉยๆ แบมไม่เป็นอย่างงี้หรอก...”

                “หืม? ว่าไงนะครับ?”

                “ปะ.. เปล่าครับ แบมไม่ได้พูดอะไรสักหน่อย” ผมหัวเราะในลำคอเล็กน้อยก่อนจะนั่งมองแบมกับเจ้าเหมียวต่อไป มองยังไงก็ไม่เบื่อครับ

                พูดถึงเจ้าเหมียวนี่ เห็นแล้วน่าหมั่นไส้มาก สองมาตรฐานชัดๆ ทีตอนผมจะเข้าไปอุ้มนี่ไม่ยอม แถมยังมุดเข้าไปในกระเป๋าอีกต่างหาก แต่พอแบมเข้าแป๊บเดียวกลับยอมให้อุ้มซะงั้น!

                “พี่มาร์คอยากเล่นกับเจ้าเหมียวนี่บ้างมั้ยครับ?” ผมมองเจ้าของประโยคคำถามนั้นก่อนจะเลิกคิ้วเล็กๆ

                “ไม่ล่ะ มันไม่ยอมเข้าใกล้พี่ด้วยซ้ำ แบมเล่นไปเหอะ”

                “ได้ไงอ่ะพี่ ยังไงพี่ก็เป็นคนเลี้ยงมันนะ พี่ควรจะคุ้นเคยกับมันไว้ก่อน มานั่งนี่มา ข้างๆ แบมนี่” ดูเหมือนพอเป็นเรื่องเจ้าเหมียวนี่ทีไรแบมแบมจะกระตือรือร้นตลอด คงลืมไปแล้วล่ะมั้งว่าเค้าเพิ่งเขินผมไปเมื่อกี้

                ผมลุกออกจากเก้าอี้ ก่อนจะเดินไปทิ้งตัวลงที่โซฟาข้างๆ แบมแบมอย่างที่เจ้าตัวต้องการ

                “ตอนแรกๆ มันจะระแวงกับทุกคน โดยเฉพาะคนแปลกหน้า ต้องทำให้มันคุ้นก่อน พี่มาร์คลองยื่นมือมาสิ” ผมยื่นมือไปหาเจ้าเหมียวตามที่แบมแบมบอก เจ้าเหมียวมันมองสิ่งแปลกปลอม(?)ที่ยื่นไปหามันก่อนที่จะค่อยๆ เดินถอยหลังไป ตัวสั่นๆ เหมือนกลัวอะไรสักอย่าง

                “มันไม่ยอมเข้าใกล้พี่เลยอ่ะแบม..” ผมหันหน้าไปมองเจ้าตัวเล็กด้วยสายตาขอความช่วยเหลือหลังจากที่ผลการทดลองครั้งแรกล้มเหลว

                “พี่มาร์คต้องค่อยๆ ยื่นมือไปหามันสิ ให้มันดมกลิ่นก่อน” ผมลองทำตามที่แบมบอกอีกครั้ง ค่อยๆ ยื่นมือเข้าไปใกล้เจ้าเหมียว มันมองมือผมด้วยความระแวงเล็กน้อย ก่อนจะค่อยๆ ยื่นหน้ามาดมมือผม อา... ดูเหมือนมันจะหายตัวสั่นแล้วด้วยอ่ะ!

                เหมือนมันจะคุ้นชินแล้ว ผมเลยยื่นมือไปลูบหัวมันเบาๆ เจ้าเหมียวมันเริ่มคลอเคลียกับมือผมมากขึ้น น่ารักชะมัด!

                “เห็นมั้ยล่ะ พี่ก็ทำได้นี่” ผมให้ไปยิ้มกว้างให้แบมก่อนจะหันกลับมาเล่นกับเจ้านี่อีกครั้ง มันคลอเคลียกับมือผมไม่หยุดเลย ผมเคยบอกไปหรือยังนะว่าเจ้าแมวนี่น่ะมีขนสีดำพาดลาย ตรงอุ้งเท้าทั้งสี่ข้างขนจะเป็นสีขาวเหมือนใส่ถุงเท้าอยู่ ตรงท้องก็เป็นสีขาวเหมือนกัน แต่หูของมันจะพับครึ่งไม่เหมือนกับแมวตัวอื่น ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม อาจเป็นสายพันธุ์ของมันล่ะมั้ง

                “แบมว่าจะถามตั้งนานแล้ว เจ้าเหมียวนี่ชื่ออะไรเหรอครับ” แบมว่าพลางนั่งลูกขนเจ้าเหมียวนี่ไปด้วย

                “อา.. นั่นสินะ”

                “หือ?”

                “คือ.. ความจริงมันยังไม่มีชื่อน่ะ”

                “เอ๋?”

                “ก็... แมวตัวนี้น่ะ แทมมี่... พี่สาวพี่ฝากมาให้เลี้ยงเพราะต้องไปดูงานที่ต่างประเทศสามเดือนน่ะ”

                “แล้วพี่สาวของพี่ไม่ตั้งชื่อให้มันเลยเหรอครับ?”

                “ก็นะ.. ยัยนั่นดันไปเจอแมวตัวนี้ถูกทิ้งไว้ใต้ตึกแล้วเกิดถูกใจ หิ้วมาฝากให้เลี้ยงทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ตั้งชื่อให้มันเลยแหละ ฮะๆ” พอผมเล่าจบแบมก็ทำตาโตหน่อยๆ ก่อนจะหันกลับมามองเจ้าเหมียวในมือ

                “อย่างงี้นี่เอง.. งั้นพี่ก็ตั้งชื่อให้มันสิครับ”

                “พี่ไม่ค่อยมีเซ้นส์ด้านนี้เท่าไหร่ แบมตั้งให้มันหน่อยสิ”

                “ให้แบมตั้งให้?”

                “อื้อ~” ผมละมือจากเจ้าเหมียว แล้วหันไปมองหน้าเจ้าตัวเล็กที่นั่งข้างๆ เจ้าเหมียวมันก็เหมือนจะรู้เรื่อง มันเลิกเล่นกับมือผมแล้วก็หันหน้าไปมองแบมแบมเหมือนกัน

                “ชื่อเหรอ... งืมมม” คิ้วเรียวเล็กขมวดเข้าหากันอย่างใช้ความคิด ผมมองใบหน้าหวานๆ นั่นแล้วก็อดยิ้มขึ้นมาไม่ได้ ไม่ว่าจะทำอะไรก็ดูน่ารักไปซะหมดล่ะนะ~

                “ว่าแต่ เจ้าเหมียวนี่เป็นตัวเมียหรือตัวผู้นะ” คนตัวเล็กพูดพร้อมกับยกเจ้าเหมียวนี่ขึ้นมาสำรวจ แหม่ น้องแบมของผมนี่ก็แอบลามกเหมือนกันนะเนี่ย -.,-

                “อ๊ะ! ตัวผู้ล่ะ” เมื่อสำรวจเสร็จแบมก็วางเจ้าเหมียวลงดังเดิมแล้วก็นั่งพึมพำอย่างใช้ความคิด

                “เขาบอกว่าเวลาจะตั้งชื่อแมวห้ามตั้งชื่อที่มีเสียง ฟ ฝ อืมมม...”

                “ห๊ะ จริงเหรอ?”

                “ครับ เพราะถ้าตั้งชื่ออย่างนั่นมันจะคล้ายเสียงขู่น่ะ ทำให้แมวรู้สึกไม่ปลอดภัย..” โห ทำไมผมถึงไม่รู้มาก่อนเลยนะ -o-

                “.......”

                “.......”

                “.......”

                เงียบ

                แบมเงียบ ผมก็เงียบ นั่งเล่นกับเจ้าเหมียวไป ปล่อยให้น้องคิดชื่อไป ดูเหมือนเป็นการใช้แรงงานเด็กกลายๆ นะครับ -..-

                “แคสเปอร์...”

                “หืม? อะไรนะ”

                “ให้มันชื่อแคสเปอร์... ดีมั้ยครับ” แบมพูดทั้งๆ ที่ยังไม่ละสายตาจากไอ้เหมียวนั่น

                “ทำไมถึงอยากให้มันชื่อแคสเปอร์ล่ะ”

                “ก็... ตอนเด็กๆ ผมเคยดูเรื่องแคสเปอร์ ผีน้อยน่ารักน่ะครับ”

                “หา?” แบมหัวเราะผมทันทีที่ผมร้องออกไปอย่างงั้น ก็ผมไม่เคยดู ไม่รู้เรื่องนี่

                “แคสเปอร์.. เป็นชื่อของผีน้อยตัวหนึ่งที่แค่อยากมีเพื่อนน่ะครับ แต่ด้วยความที่เป็นผี ทำให้ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ เขาคงเหงามาก อยากมีเพื่อนสักคน... ก็เหมือนแมวตัวนี้ มันคงเหงาแน่ๆ ถ้าไม่มีใครอยู่เป็นเพื่อนด้วย เพราะฉะนั้นพี่มาร์คต้องเป็นเพื่อนกับมันนะครับ อย่าให้มันเหงา” น้องบอกพลางหันมายิ้มให้ผม แต่ผมก็ไม่ได้พูดอะไร

                “..........”

                “ฮะๆ ความจริงที่พูดมาทั้งหมดมันก็ไม่มีอะไรหรอกครับ ผมก็แค่... ชอบผีน้อยแคสเปอร์มาก เลยเอามาตั้งเป็นชื่อให้แค่นั้นเอง ถ้าพี่มาร์คไม่ชอบก็...”

                “เอาสิ”

                “เอ๋?”

                “ต่อไปนี้แกชื่อแคสเปอร์นะเจ้าเหมียวน้อย” ผมพูดยิ้มๆ แล้วก็ขยี้หัวเจ้าเหมียวที่ตอนนี้มีชื่อใหม่ไปแล้ว แบมแบมที่ตอนแรกทำหน้าหงอยๆ เพราะคิดว่าผมไม่ชอบชื่อทำหน้าแปลกใจจากนั้นก็ยิ้มให้ผม ก็ทำหน้าหงอยอย่างนั้นใครจะปฏิเสธลงล่ะ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผมจะไม่ชอบชื่อแคสเปอร์หรอกนะครับ

                น้องชอบอะไรผมก็ชอบด้วยทั้งนั้นแหละ...

                “ดีจังเลย! แคสเปอร์~!

                อา.. สงสัยผมคงต้องไปหาหนังเรื่องแคสเปอร์มาดูซะล่ะมั้งครับ -..-

     

     

                หลังจากที่ปล่อยให้แบมแบมกับแคสเปอร์นั่งฟัดกันอยู่นานสองนานโดยที่ผมก็นั่งมองอยู่เฉยๆ เหมือนไอ้ตัวเล็กจะเริ่มเหนื่อยซะแล้ว

                “จริงสิ พี่มาร์คให้อาหารแคสเปอร์ยัง”

                “ยังเลย พี่ไม่รู้ด้วยว่าลูกแมวมันกินอะไร ความจริงคือไม่รู้อะไรเกี่ยวกับแมวสักอย่าง =_____=” พอผมพูดอย่างนั้นแบมแบมก็มองไปรอบห้องทันที ซึ่งมันไม่มีอะไรที่เกี่ยวกับแมวเลยสักอย่าง

                “อืมมม จริงด้วย งั้นพี่มาร์คเล่นกับแคสเปอร์ไปก่อนแล้วกันนะ เดี๋ยวแบมมา” พูดจบแบมก็วิ่งดุ๊กดิ๊กออกไปจากห้อง ทิ้งให้ผมอยู่กับไอ้แคสเปอร์

                “ว่าไงอ่ะเรา” ผมเริ่มปฏิบัติการป่วนแมวล่ะครับ ไอ้แคสเปอร์มันมองหน้าผมงงๆ

                “มองทำไม หาเรื่องอ่อ” ผมว่าแมวมันไม่ได้หาเรื่องผมหรอกครับ ผมนี่แหละหาเรื่องแมวเอง =___=

                “ชอบมั้ย ชื่อแคสเปอร์น่ะ” ยังไม่ละความพยายามในการชวนคุยต่อไป ผมว่าผมใกล้บ้าแล้วล่ะ -o-

                ไม่ว่าผมจะพูดอะไรมากมายแค่ไหน เจ้าแคสเปอร์ก็ทำแค่อย่างเดียวคือมอง มอง และมอง ตาแป๋วๆ นั่นจ้องผมมาหลายนาทีประมาณว่า มึงพูดอะไรของมึงอะไรประมาณนั้น -____-

                สุดท้ายผมก็ล้มเลิกความพยายามที่จะคุยกับแมว (ความจริงควรเลิกตั้งนานแล้ว) เปลี่ยนไปเป็นเล่นจ้องตากับมันแทน (บ้าพอกัน) แต่จ้องได้ไม่นานก็ต้องเลิกอีก

                อืมมม... ทำไมผมรู้สึกง่วงอย่างนี้นะ..

     

     


     

     

     

     

               


    รถคันสีขาวสะอาดจอดนิ่งสนิทอยู่ริมฟุตบาท ร่างสูงโปร่งของใครบางคนก้าวลงมาจากรถ ผมสีเงินรับกับใบหน้าเรียวได้เป็นอย่างดี เรียกความสนใจจากทุกคนที่อยู่บริเวณนั้นได้ไม่ยาก แต่ใครคนนั้นหาได้สนใจไม่ จุดมุ่งหมายเดียวของเขาคือร้านที่อยู่ตรงหน้าเท่านั้น

    กริ๊งง

    PET Café ยินดีต้อนรับคร้าบบบ... เฮ้ยยยย! ไอ้คุณชาย มาได้ไงวะเนี่ย!” ทันทีที่เสียงกระดิ่งร้านส่งสัญญาณว่ามีแขกเข้ามา เสียงทุ้มๆ ของใครสักคนก็ดังขึ้นก่อนจะเปลี่ยนเป็นคำพูดเป็นกันเองทันทีที่เห็นว่าผู้มาใหม่นั้นคือใคร

    “เหาะมามั้ง -______-

    “แหม่ มาถึงก็กวนทันทีเลยนะครับ มาๆ มานั่งนี่ เฮ้ย! อินฮยอก ขอกาแฟเย็นสองแก้วนะเว้ย!” ร่างสูงของใครอีกคนที่เมื่อเห็นว่าเพื่อนรักก้าวเข้ามาก็จัดแจงหาที่นั่งให้ทันที แถมยังผันตัวเองจากที่เป็นเด็กเสิร์ฟกลายมาเป็นลูกค้าอีกคนของร้าน ก่อนที่จะตะโกนสั่งเมนูโปรดของตนเผื่อแผ่ให้คนข้างๆ โดยไม่ถามความสมัครใจของเจ้าตัวสักนิด

    เจ้าของเรือนผมสีเงินกวาดสายตามองไปทั่วร้าน การตกแต่งสไตล์วินเทจทำให้บรรยากาศดูผ่อนคลาย กลิ่นดอกไม้ที่อยู่ตามขอบหน้าต่างลอยอบอวลไปทั่วร้านคละเคล้ากับกลิ่นหอมอ่อนๆ ของน้ำชาเชิญชวนให้ทุกคนเข้ามาเยี่ยมชม โซนที่นั่งที่จัดไว้เป็นสัดส่วนทำให้ลุกค้าสามารถเลือกที่ที่ต้องการได้ บรรยากาศภายในร้านดูอบอุ่นเป็นกันเอง เสียงหัวเราะดังขึ้นเป็นระยะๆ บวกกับเสียงเพลงที่คลอเบาๆ ทำให้เกิดรอยยิ้มได้ไม่ยาก แถมร้านนี้ยังตั้งอยู่ในบริเวณที่มีทำเลดี ผู้คนผลัดกันเข้าออกไม่ขาดสาย และทุกคนที่เข้ามา.. ไม่เคยมีใครที่ไม่มีรอยยิ้มออกไป

    “ว่าไงคุณชาย ลมอะไรหอบให้มาที่นี่ได้ ไหนว่าต้องไปส่งน้องเข้าคอนโดไม่ใช่เรอะ”

    “จูเนียร์อยู่ไหน?” ร่างสูงไม่ได้ตอบคำถามของคนตรงหน้า แต่กลับถามถึงใครอีกคนแทน

    “โหยยยยยย ไรอ่า แจบอมไม่สนใจหวังน้อยคนนี้เลยอ่า ถามหาแต่ใครก็ไม่รู้ หวังน้อยเสียใจจจจจจ งี้ดดดดดดด T^T

    “แจ็กสัน หวัง -___-++” หน้าแบ๊วๆ มันไม่เหมากับแกหรอกนะจะบอกให้

    “เออ ก็ได้ ไม่เห็นต้องทำเสียงดุอย่างงั้นเลย บู่วววว จินยองอยู่หลังร้าน อยู่โซนน้องหมานู่น -3- ” อิม แจบอมพยักหน้ารับ ก่อนที่จะหันไปสนใจแก้วกาแฟของตัวเองต่อ ลองให้คนตัวเล็กเข้าไปในโซนนั้นคงไม่ได้ออกมาง่ายๆ ล่ะ

    ร้านนี้ไม่ใช่ร้านคาเฟ่ธรรมดา ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นร้าน PET Café เป็นร้านที่อนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงเขามาได้ และหากใครที่อยากมาเล่นกับสัตว์เลี้ยงของทางร้านได้เช่นกัน แต่มีกฎเล็กๆ น้อยๆ คือต้องเล่นแค่บริเวณที่ทางร้านจัดไว้ให้เท่านั้น ซึ่งก็จะแบ่งเป็นโซนๆ ไป โซนแรกคือบริเวณหน้าร้าน ไว้เป็นที่พักผ่อน จิบน้ำชา กินเค้กให้ผ่อนคลายเท่านั้น จะไม่มีการนำสัตว์เลี้ยงมาไว้ในบริเวณนี้เด็ดขาด

    โซนที่สองคือโซนของน้องหมาอยู่ลึกเข้าไปอีก มีของทุกอย่างเกี่ยวกับสุนัขให้ได้เลือกรวมถึงได้เล่นกับน้องหมาที่ด้วย ใครที่นำน้องหมามาก็สามารถนำมาเล่นได้ที่บริเวณนี้ ข้างๆ กันคือโซนของแมว นก และกระต่ายตามลำดับ

    ส่วนเจ้าของร้านก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ก็คนที่เขาเพิ่งถามถึงไปเมื่อกี้นี่แหละ จูเนียร์อยากเปิดร้านเกี่ยวกับเพ็ดคาเฟ่เลยหุ้นกับไอ้แจ็กสันเปิดร้านขึ้นมาโดยมีเขาช่วยอะไรนิดๆ หน่อยๆ ถ้าว่ากันตามตรงแล้วไอ้คนที่นั่งอยู่ตรงหน้าเขานี่ก็ถือได้เป็นเจ้าของร้านคนนึงเหมือนกัน แต่วันดีคืนดีเจ้าตัวเกิดนึกคึกอะไรไม่รู้ลุกขึ้นมาแต่งตัวเป็นเด็กเสิร์ฟในร้านเฉย

    “ฮั่นแน่ ว่าแต่คุณเจบีถามหาคุณจินยองทำไมหรือครับ~” สายตาเจ้าเล่ห์แฝงนัยน์บางอย่างถูกส่งมาให้ร่างสูงกำลังที่สาละวนอยู่กับแก้วกาแฟ แจบอมชะงักนิดนึง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาด้วยสายตาอาฆาต

    “เมื่อกี้แกเรียกฉันว่าไงนะไอ้หวัง -______-+++

    “โหยยยยยยย หวังขอโทษษษษษษ เรียกแค่นี้ไม่ได้เลยใช่มั้ย นี่ฉันยังเป็นเพื่อนแกอยู่หรือเปล่าฮะไอ้แจบอม!” เสียงบ่นงุ้งงิ้งๆ ไม่ได้เรียกความสนใจจากเขาได้มากสักเท่าไหร่ ชื่อ เจบี เป็นชื่อที่เขาให้แค่คนในครอบครัวเรียกได้เท่านั้น เพื่อนทุกคนรู้ดี และไม่ได้ซีเรียสอะไร จะมีก็แค่คนที่นั่งตรงหน้าเขานี่แหละที่บ่นงุ้งงิ้งอยู่ตลอดเวลา

    แต่ก็มีอยู่คนนึง ที่เขาอนุญาตให้เรียกได้โดยไม่มีข้อยกเว้นใดๆ..

    “เจบี!! มาตั้งแต่เมื่อไหร่น่ะ!!!!!” เสียงที่ดังอยู่ข้างๆ ทำให้แจบอมหลุดจากภวังค์ คนตัวเล็กที่เดินออกมาจากโซนน้องหมาตรงมาที่เขาทันที แววตาดีใจฉายชัดอยู่บนดวงตาคู่สวย ก่อนจะทรุดตัวลงข้างๆ เขาทันที

    “เพิ่งมาเมื่อกี้นี่เอง” ไม่แปลกที่คนตัวเล็กจะดีใจ ก็เขาไม่ได้มาที่ร้านนี้นานแล้วนี่นา.. ถึงอยู่มหาลัยจะเจอกันทุกวันก็เถอะ (เรียกว่าตัวติดกันเลยดีกว่า!//เสียงจากแจ็คสัน หวัง)

    “บีมาเหนื่อยๆ หิวมั้ย? เดี๋ยวเนียร์ไปเอาเค้กที่ทำไว้ออกมาให้นะ” จูเนียร์พูดจบก็ลุกออกไปทันทีโดยไม่ฟังเขาสักคำ แต่ก็ไม่คิดจะปฏิเสธหรอกนะ เพราะเค้กที่จูเนียร์ทำอร่อยอย่าบอกใคร นี่คงเป็นจุดขายอีกอย่างนึงของร้านนี้ล่ะมั้ง ก็ทั้งเค้กแล้วก็คนทำเค้กน่ะ... น่ากินสุดไปเลยๆ

    “แน่ะๆ คุณอิม แจบอมครับ มองอย่านั้นคิดอกุศลอะไรอยู่ใช่มั้ยครับ สายตานี่แทบจะกลืนกินไปทั้งตัว”

    “ยุ่งน่าไอ้แจ็คสัน กลับไปทำงานได้แล้วไป เดี๋ยวพนักงานคนอื่นก็สงสัยหรอก”

    “เออ ใช่ซี้~ แจ็คสันมันไม่สำคัญนี่ มันก็แค่คนคั่นเวลา เชอะๆๆ” พูดเสร็จก็เดินหน้าบูดไปนู่น

    แจบอมได้แต่คิดแล้วก็ขำตัวเอง เมื่อไหร่กันที่เขาปฏิบัติกับจูเนียร์ไม่เหมือนเพื่อนคนอื่น ไม่เคยพูดกูมึงกับจูเนียร์ ถึงแม้จะเรียนคนละคณะ แต่ตอนเช้าเขาก็จะรับจูเนียร์ไปมหาลัยด้วยกัน เรียนเสร็จก็พามาส่งที่ร้าน นั่งรอจนกว่าร้านจะปิดแล้วค่อยพาไปส่งคอนโด มีแค่ช่วงหลังๆ นี้เท่านั้นที่เขายุ่งมากจนหาเวลาปลีกตัวมารับจูเนียร์ไม่ได้ เพราะทั้งโปรเจคทั้งหลายแหล่ที่ถาโถมเข้ามารวมถึงงานของคณะที่รัดตัวเขาจนกระดิกไปไหนไม่ได้ บางครั้งก็จำต้องให้จูเนียร์ขึ้นแท็กซี่กลับคอนโดเองซึ่งเจ้าตัวก็ยืนยันว่ากลับเองได้ แต่คนตัวสูงก็ยังไม่ไว้วางใจอยู่ดี

    อาจเป็นเพราะอยู่คอนโดเดียวกันเรื่องไปรับไปส่งก็เลยกลายเป็นปกติ

    อาจเป็นเพราะว่าอยู่ห้องข้างกันเลยสนิทกันมากกว่าคนอื่นๆ

    อาจะเป็นเพราะพ่อแม่ของจูเนียร์ฝากฝังคนตัวเล็กไว้กับเขา

    แต่สุดท้ายเขาก็หาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้อยู่ดีว่าทำไมถึงยอมให้คนๆ นี้เรียกเขาว่า เจบี

     

     

    “หวัดดี ที่ตรงนี้มีใครนั่งหรือยัง ให้เรานั่งด้วยได้หรือเปล่า” เสียงใสๆ ของใครสักคนดังขึ้น เรียกให้ร่างสูงที่ฟุบอยู่กับโต๊ะเงยหน้าขึ้นมา วันนี้เป็นวันเปิดเรียนวันแรกของนักเรียนม.ปลายปีสอง ตั้งแต่เดินเข้ามาเขาไม่ได้สนใจใครมากนัก แค่มองหาที่นั่งที่ว่างๆ แล้วก็ฟุบตัวลงไปแค่นั้น

    ดวงตาคมกวาดสายตามองผู้มาใหม่ใบหน้าเรียวติดออกหวานประดับไปด้วยรอยยิ้มจนตาหยี เป็นคนแรกที่กล้าขอนั่งข้างเขา ต่างจากหลายคนที่มองมาแต่ไม่กล้าเดินเข้ามาขอ

    “นายชื่ออะไร?”

    “หา?”

    “ฉันถามว่านายชื่ออะไร”

    “ฉันเหรอ จินยองน่ะ ปาร์คจินยอง เรียกว่าจูเนียร์ก็ได้นะ ^____^” ร่างสูงแค่พยักหน้ารับ ก่อนจะใช้สายตาสำรวจร่างเล็กต่อไป จนจินยองเริ่มรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ กับสายตาคนตรงหน้าอย่างบอกไม่ถูก

    “เอ่อ... แล้วนาย..”

    “เจบี”

    “เอ๋?”

    “เรียกฉันว่าเจบี” พูดจบก็ฟุบลงไปนอนต่อ

    “ตกลงฉันนั่งข้างนายได้มั้ย?”

    “ก็นั่งไปสิ ไม่มีใครนั่งหรอก”

    “ขอบคุณนะ” เสียงวางกระเป๋าดังขึ้น ก่อนที่กลิ่นหอมอ่อนๆ จะโชยมา เป็นสัญญาณว่าตอนนี้ที่นั่งข้างๆ เขาถูกจับจองเรียบร้อย

    “นี่...”

    “......”

    “ยินดีที่ได้รู้จักนะเจบี ^____^

     

     

     

    บางที... อาจเป็นเพราะรอยยิ้มหวานๆ นั่นก็เป็นได้

     

     

     

     




     



              To Be Continue

              

     













    มาแว้วววววววววว 5555555 ขอโทษทีที่หายไปนานนะขอรับบบบ
    โซซอรี่จริงๆ บอกเลยว่าไม่ได้ตั้งใจจะดอง แต่พอดีโรงเรียนเปิดแล้วไงขอรับ ก็เลยต้องไปอยู่หอซึ่งทำอะไรไม่ค่อยสะดวกสักเท่าไหร่ เลยไม่ได้มาอัพเบยยยย
    ช่วงนี้ถ้าจะอัพคงอัพได้แค่เสาร์-อาทิตย์น้าาาา อย่าว่ากันเน้อ ไม่สะดวกจริงๆ ขอรับ >/\<

    ในที่สุดดดดดดด เนียร์น้อยของเราก็ได้ออกโรงแว้ววววววว
    มาพร้อมกับแจ็คสันเลยทีเดียวเชียววว เหลือใครที่ยังไม่ได้ออกอีกนะ แตงกวาน้อยกับมักเน่ช้ะะะ? 5555
    มีใครงงกับคาแรคเตอร์พี่บีคนหล่อมั้ยครัชชชช? ไม่มีเนอะ ^__^ (ถามเองตอบเอง 555)
    ถ้างงก็รอดูกันต่อไปเรื่อยๆ เน้อออออ

    แปะนิดนึง เรื่องนี้มีบอทกันแล้วนะฮ๊าฟทุกคน >[]< เย้!!!
    บอทเด็กปอยผมชมพู น้องแบมบี้ของเรานี่เองงงง
    ไปเต๊าะกันได้นะครับบบบบ คลิ้กเบยยย >>>>>> 

    ดิทๆ พี่มาร์คคนหล่อของเราก็มีบอทแล้วเหมือนกันน้าาาาาา >>>>>> 
    แถมเพิ่มตำแหน่งว่าง เจ้าเหมียวแคสเปอร์ของเรานี่เองงงงง ใครอยากเป็นเหมียวก็ติดต่อมาได้เหมือนกันนะฮ๊าฟฟฟ
    บอทคนอื่นยังไม่มีน้าาา ใครสนใจติดต่อมาได้เรื่อยๆ ทางทวิตเตอร์นะจ๊ะะะะะ @___praewpraew 


    สั้นไปมั้ยตอนนี้? 5555 คงไม่ม้างงงงงงง
    เอนจอยรีดดิ้งนะขอรับบบบ ^____^
    เมาท์มอยกันได้ที่ #ฟิคเหมียวเหมียว นะฮ๊าฟฟฟฟฟ
    เลิ้บคนอ่านทุกคนเน้อออออออ >3<

    IAuaIA.gif [286x196px] ฝากรูป
    ❀ QUITE EXACTLY

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×