ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ทองเนื้อเก้า

    ลำดับตอนที่ #21 : คำสาป ทายาทเมื่อพ้นผ่านเจ็ดชั่วอายุคน

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 292
      0
      10 เม.ย. 51

    หลานคิดว่า คงอาจจะเป็นเพราะว่าเมืองนี้ เป็นเมืองแห่งรัตนมณีอันงดงามหลายชนิด จะมีชื่อเมืองอย่างเช่นนี้เพคะ จากนั้น... เออ... วชิรารัตน์พูด อ้าว เล่าต่อสิ พี่กำลังเพลิน จำไม่ได้แล้วรึน้องวชิรารัตน์ กิ่งโกมินทร์ถามขึ้น หามิได้เพคะ แต่... วชิรารัตน์ยังมิกล้าเอ่ยหันไปสบพระเนตรพระบิดา รติวุฒิมองลูกสาวแล้วพยักหน้าคล้ายอนุญาต วชิรารัตน์ยังมิมั่นใจหันมามองเสด็จตา เสด็จยายอีกครา เรื่องต่อจากนั้น ไม่มีใครอยากจะสดับฟังในวันนี้ และ เพลานี้หรอกเพคะ วชิรารัตน์พูด องค์เหนือหัวฤทธิ์นาท พระมเหสีกรกนกตระหนักดีถึงสิ่งที่นัดดาน้อยจะเอ่ยถึง ว่าไปเถอะ วชิรารัตน์ เราทุกคนในที่นี้ ทราบเรื่องกันหมดแล้ว เว้นก็แต่ราชนัดดาทั้งเก้าพระองค์ ที่มีเจ้าเพียงคนเดียวที่พอจะได้รับรู้มาบ้าง องค์เหนือฤทธิ์นาทรับสั่ง เพคะ ยังมีสองอสุราพี่น้องอาศัยอยู่ยังดินแดนหนึ่งที่ล่องลอยอยู่กลางเวหา ผู้พี่มุทะลุดุดัน แต่ผู้น้องสุขุมรอบคอบ ครานั้นสองพี่น้องเร่งเดินทางไปเข้าเฝ้าพระอินทร์ เพื่อขอพระราชทานนิรมิตบ้านเมืองให้ ระหว่างทางต้องล่าช้าพระมีภูเขายักษ์ขวางหน้า อสุราผู้พี่ไม่พอให้จึงนิรมิตกายใหญ่โตทุบทำลายขุนเขานั้น เป็นเหตุให้เขาทลายลงทับบ้านเมืองมณีนพรัตนา องค์เทวราชผู้สร้างและครอบครองเมืองพิโรธนักจึงได้สาปส่งยักษานั่น ไว้ใต้แผ่นดินมณีนพรัตนาที่เราเหยียบกันตราบเท่าทุกวันนี้ ส่วนยักษ์ผู้น้องได้รับการสถาปนาจากพระอินทร์ครอบครองเมืองอสุรเวหานครที่พระอินทร์ได้ทรงนิรมิตให้ ยักษ์ผู้นั้น ก็คือบรรพบุรุษของเสด็จพ่อ แล้ว ตัวหม่อมฉันด้วยเพคะ แต่บางคัมภีร์ว่าไว้ว่า ยังมีคำสาป ของยักษ์ใต้พสุธา แต่จะสาปว่าอย่างไรนั้น หม่อมฉันไม่รู้เสียแล้ว พระธิดาน้อยรับสั่ง คำสาปนั่น น่ากลัวมากไหม มรกตถาม น่ากลัวมาก วชิรารัตน์ตอบ ที่วชิรารัตน์พูด เป็นความจริงทั้งหมดเลยเหรอเพคะ น้องกลัว ปีตมณีกอดเอวกิ่งโกมินทร์ไว้แน่น น่ายกย่องภูมิรู้ของเจ้าจริงๆ แต่มันคงเป็นนิทานหลอกเด็กเสียมากกว่า กิ่งโกมินทร์พูด ไม่ใช่หรอก กิ่งโกมินทร์ นั่นคือประวัติศาสตร์ของบ้านเมืองพ่อจริงๆ กนกนาทพูด ตอนนี้ได้เวลาฤกษ์ดีแล้วพระพุทธเจ้าข้า เสด็จสู่ที่ประกอบพระราชพิธีได้แล้ว อัครโหรากราบทูล

    พลับพลา พระราชพิธีบวงสรวงเทวดาเริ่มขึ้น ระหว่างที่พราหมณ์กำลังสวดคาถาอะไรสักอย่างอยู่นั้น พระนัดดาที่ทรงพระเยาว์กันอยู่ก็ดูเหมือนจะหน่ายใจไม่เบา เมื่อพราหมณ์หยุดสวด ท่านอัครโหราก็หันมากราบทูล เสร็จพิธีพราหมณ์แล้วพระพุทธเจ้าข้า ท่านอัครโหราว่า องค์เหนือหัวฤทธิ์นาทยิ้มแล้วหันมารับสั่งกับพระบรมวงศานุวงศ์ ทุกๆพระองค์ ตอนนี้ทุกคนจะกลับไปพักกันก่อนก็เดี๋ยว แล้วสายๆ ก็จะมีงานต่อ องค์เหนือหัวฤทธิ์นาทรับสั่ง เด็กๆจะไปวิ่งเล่นกันในสวนก่อนก็ได้นะ เดี๋ยวยายจะให้คนไปเรียก พระมเหสีกรกนกรับสั่ง วชิรารัตน์ เดี๋ยวเราไปคุยกันที่ตำหนักรับรองของเราได้ไหม เราอยากจะคุยกับเจ้าเรื่องคำสาปอะไรนั่นหนะ น่าสนใจดี มรกตพูด ใช่ เราก็อยากรู้ มณีกาฬพูด เราก็อยากรู้เหมือนกัน แก้วไพฑูรย์พูด สามพี่น้องจากเมืองบาดาลนี่สนใจเรื่องนี้กันทุกคนเชียว... วชิรารัตน์พูดพลางยิ้มให้อย่างเป็นมิตร ได้สิ ไปเถอะ วชิรารัตน์พูดแล้วเดินนำไป ทันใดนั้น

                    วัชราปลาบแปลบแฉลนรอน                            ฟ้าอัมพรหนึ่งว่าจะรานร้าว

    อันตรายรายรอบประหนึ่งราว                                          ทุกย่างก้าวอันตรายเหลือคณนา

                    ฟ้าสลัวมัวมืดเหมือนพลบค่ำ                            สีแดงก่ำน่ากลัวที่ขอบฟ้า

    เหมือนถูกทับดับสิ้นสุริยา                                 ถูกเมฆาสีดำคล้ำบดบัง

                    พสุธาหวั่นไหวไปทั่วถิ่น                                   กัณณ์ได้ยินแต่เพียงเสียงฟ้าคลั่ง

    ที่รอบกายพระพายพัดมาประดัง                                      ว่าเวียงวังเหมือนหวั่นไหวใกล้ทลาย

    ท้องฟ้าที่เป็นปกติอยู่มืดมัวสลัวไปหมด เสียงฟ้าร้องเปรียบประดุจเสียงพญาราชสีห์คำราม ฟ้าแลบแปลบปลาบ สายฟ้าฟาดผ่าไปราวเกิดรอยร้าวขึ้นบนท้องฟ้า แผ่นพื้นพสุธาสั่นไหว หินในพานที่นำมาประกอบพระราชพิธีก่อตัวเป็นปีศาจร้ายอยู่ใกล้พระนัดดาวชิรารัตน์เป็นที่สุด วชิรารัตน์ยืนจ้องเหมือนตัวแข็งไม่ขยับเขยื่อนไปไหนเลย สามพี่น้องธิดาบาดาลหันมาสบตากันอย่างตกใจ เสด็จพ่อ นั่นศิลาแลง ที่จะนำมาประกอบพิธีนี่เพคะ สร้อยสายเพชรพูดด้วยความแปลกใจ ตกใจ และ กังวลใจ ปีศาจศิลาแลงนั่นยิ่งเข้าใกล้วชิรารัตน์เข้ามาอีก วชิรารัตน์... สร้อยสายเพชรตกใจมากแล้วจะวิ่งออกไป เสด็จแม่... รดามณีรั้งพระมารดาเอาไว้ สร้อยสายเพชรหันมาโอบกอดรดามณีไว้แน่น ศิรสิทธิ์ ศดิศรันย์ ไปช่วยวชิรารัตน์สิ ไปช่วยน้องเรา จันทรัตน์พูดด้วยทีท่าที่ตกใจอย่างหนัก แล้วพระนัดดา ใครจะอารักขา ศิรสิทธิ์พูด ไปเถอะ ไม่มีอันตรายใดๆเกิดขึ้นกับเราหรอก จันทรัตน์พูด ศดิศรันย์ กับ ศิรสิทธิ์จะเข้าไป แต่ ปีศาจศิลาแลงนั่นเหมือนจะปล่อยพลังบางอย่างพุ่งเข้าตาวชิรารัตน์แล้วมันก็กลายเป็นเพียงศิลาแลงธรรมดาเช่นเคย ทว่าพลังที่ทำให้มันเคลื่อนไหว ถูกส่งเข้าสู่ร่างเด็กผู้หญิงที่สวมแหวนเพชรนางวชิรารัตน์ ราชนัดดาองค์สำคัญพระองค์นั้น วชิรารัตน์หันมาหาทุกคน พลังบางอย่างพุ่งออกจากฝ่ามือของวชิรารัตน์มาทำร้ายศิรสิทธิ์ และ ศดิศรันย์จนต้องล้มลงบาดเจ็บ ศิรสิทธิ์ ศดิศรันย์ จันทรัตน์ตกใจไม่เบา เราเลือกนังเด็กคนนี้ มันเป็นทายาทของเรา มันสืบเชื้อเครือวงศ์เดียวกับเรา แล้วก็วงศ์เดียวกับมณีนพรัตนา มันจะเป็นผู้ที่ทำลายมณีนพรัตนาให้เป็นจุนได้ วชิรารัตน์พูด ปล่อยลูกของกระหม่อมเถิด กระหม่อมเองก็สืบเชื้อเครือวงศ์มาจากองค์ท่าน ทรงโปรด อย่าทำร้ายกัน ให้เสียขวัญเลย รติวุฒิทูลขอ เราเลือกแล้ว แล้วก็จะไม่เปลี่ยนคนด้วย นังเด็กนี่มีพลัง มีแหวนเพชรเป็นศัสตรา มันคือเจ้าแห่งอัญมณี มันทายาทของอสุรเวหานคร มันคือทายาทรุ่นที่เจ็ดของข้า วชิรารัตน์พูดขึ้นอีกครั้งเหมือนถูกสะกดจิตแล้วล้มลงหมดสติ ลูกพ่อ องค์รติวุฒิรีบรุดเข้าประคองร่างพระธิดาเอาไว้แล้วโอบกอดไว้แน่น วชิรารัตน์ สร้อยสายเพชรวิ่งเข้าไปหาลูกด้วยความเป็นห่วงเช่นกัน

    ที่พระตำหนักพระธิดาสร้อยสายเพชร รติวุฒิวางร่างลูกสาวลงบนพระแท่น แล้วนั่งลงบนแท่นนั้นด้วย รติวุฒิลูบศีรษะลูกสีหน้าแววตาห่วงกังวลนัก ไม่ผิดกับสร้อยสายเพชร ร้องห่มร้องไห้เข้ามากุมมือลูกสาวไว้แน่น วชิรารัตน์ลูกแม่... ทำไม ทำไมต้องเป็นเจ้า สร้อยสายเพชรร้องไห้ใหญ่ ถ้าไม่ใช่วชิรารัตน์ ก็ต้องเป็นลูก รดามณีเดินเข้ามา ไม่... พ่อจะไม่ยอมให้เป็นเช่นนั้น ทั้ง รดามณี ทั้ง วชิรารัตน์ รติวุฒิพูด ครู่หนึ่ง พี่มรกต รีบเข้าไปดูเร็ววชิรารัตน์เป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้ เสียงของแก้วไพฑูรย์ดังมา ใช่ วชิรารัตน์ต้องโดนคำสาปของปีศาจศิลาแลงนั่นแล้วแน่ๆเลย เสียงของมณีกาฬดังมาอีกคน แล้วมรกตก็ถูกผลักเข้ามาในห้องนั้น มรกตหันมาปรามน้องสาวยอดยุ่งทั้งสองคน แก้วไพฑูรย์ มณีกาฬ... เบาๆหน่อยสิ เห็นไหมเสด็จน้าทรงกันแสงอยู่นั่นหนะ คงจะเศร้าพระทัย กลัวว่าวชิรารัตน์จะต้องคำสาปจริงๆ มรกตหันมาบอก งั้น เราเข้าไปดูใกล้ๆกันเถอะ มณีกาฬพูด อ้าว มรกต แก้วไพฑูรย์ มณีกาฬ องค์รติวุฒิเรียก เด็กทั้งสามยกมือไหว้ทำความเคารพแล้วมานั่งกับพื้นข้างๆพระแท่นชะเง้อดูอาการวชิรารัตน์ วชิรารัตน์จะเป็นอะไรไหมเพคะ มณีกาฬพูด ไม่หรอก ก็แค่หมดสติไป เดี๋ยวก็ฟื้นหนะ องค์รติวุฒิพูด ผ่านไปพักใหญ่ วชิรารัตน์ก็เริ่มขยับตัว ทุกคนในห้องนั้นต่างจับจ้องมองที่วชิรารัตน์กรทั่งสะดุ้งตื่นขึ้น เสด็จพ่อ เสด็จแม่ วชิรารัตน์เพรียกขึ้นทัน แม่อยู่นี่ลูก สร้อยสายเพชรเข้ามาโอบกอดลูกสาวคนเล็กไว้โดยพลัน รติวุฒิก็กอดทับอีกคน วชิรารัตน์ ลูกพ่อ ไม่เป็นอะไรแล้วนะลูกนะ รติวุฒิพูด ลูกกลัว... เสด็จพ่อ เสด็จแม่ อย่าทิ้งลูกไหนนะเพคะ วชิรารัตน์สะอึกสะอื้น ไม่เป็นไรนะน้องพี่ ไม่มีอะไรหรอก รดามณีช่วยปลอบ วชิรารัตน์ เมื่อกี้เจ้ารู้สึกยังไงบ้างหนะ มณีกาฬถามด้วยความยากรู้ มรกตหันมาหยิกแขนมณีกาฬแรงๆ โอ๊ย... เจ็บนะเพคะพี่มรกต มณีกาฬพูด

    ที่เรือนท่านขุนวงศา ทั้งศิรสิทธิ์ และ ศดิศรันย์ได้รับบาดเจ็บพอสมควร แม่มาลัย ภรรยาท่านขุนกำลังใส่ยาให้กับเด็กทั้งสองอยู่ พระนัดดาจันทรัตน์เสด็จมา ท่านขุนวงศา แม่มาลัย สองคนนี่เป็นยังไงบ้าง จันทรัตน์ถาม ไม่เป็นอะไรมากหรอกเพคะ แต่ตอนนี้ยังไม่ได้สติ ห่วงก็แต่ พระนัดดาวชิรารัตน์สิเพคะ ทรงเป็นยังไงบ้าง แม่มาลัยพูด วชิรารัตน์ไม่เป็นอะไรหรอก เค้าเก่งอยู่แล้ว จันทรัตน์พูด

    ช่วงสาย เงินสมโภชก็เริ่มขึ้นอีก เจ้าฟ้ามณีนพรัตนาทุกพระองค์เสด็จมายังพระอุทยาน ดอกไม้นิ่งแน่สนิทชูช่อขึ้นมาแล้วร่ายรำตามเสียงดนตรีที่ถูกขับกล่อมขึ้น ทุกคนเพลิดเพลินกับการชมอุทยาน นี่คงเป็นสวนนิรมิต ฝีมือของใครสักคนหนึ่งเป็นแน่ กิ่งโกมินทร์ชาญฉลาดมองเห็นก็รู้ ฉลาดมากกิ่งโกมินทร์ลูกรัก กนกนาทพูด แล้วพี่กิ่งโกมินทร์ทราบไหมเพคะ ว่าเป็นฝีมือของใคร พิมพ์เพทายว่าด้วยน้ำเสียงประชด พิมพ์เพทาย... อย่าว่าพี่ บุษราปรามลูกสาวไว้

    ตกเย็น รอบเมืองมณีนพรัตนามีการจุดพลุหลากหลายสีสันดูช่างตระการตายิ่งนัก องค์เหนือหัว และ พระมเหสีแห่งมณีนพรัตนาประทับนั่งเหนือสีวิกามาศ หรือ เสลี่ยงชมเมือง ถัดมาเป็นสีวิกาของกนกนาท และ บุษรา ตามด้วยสีวิกาของ องค์มัศวุฒิ และ นพมาศ สีวิกาของ องค์รติวุฒิ และ สร้อยสายเพชร ถัดไปนั้นก็มีพระนัดดากิ่งโกมินทร์ พระนัดดาจันทรัตน์ พระนัดดามรกต พระนัดดาพิมพ์เพทาย พระนัดดารดามณี พระนัดดาปีตมณี พระนัดดาแก้วไพฑูรย์ พระนัดดามณีกาฬ และ สุดท้าย พระนัดดาวชิรารัตน์ เก้าพระองค์ยังเป็นเยาวนารีอยู่ เสียงทรงพระเจริญดังกึกก้องสนั่นปฐพี สลับกับเสียงพลุแตกบนเวหา ช่างเป็นพาที่งดงามยิ่งนักในคืนนั้น เห็นแล้วคิดถึงนพคุณนะเพคะเจ้าพี่ พระมเหสีกรกนกรับสั่ง ใช่... เป็นห่วงวชิรารัตน์เหลือเกิน ตามคำทำนายที่ท่านโหราเคยกราบทูลพี่นั้น มีแค่นพคุณคนเดียวยับยั้งเหตุการณ์ร้ายๆที่กำลังจะเกิดขึ้นได้ องค์เหนือหัวฤทธิ์นาทรับสั่ง

    ใต้ฟ้าป่าหิมพานต์ เวียงทิฆัมพร พระตำหนักพระนัดดาไอศิกา จันทร์... เราเบื่อเหลือเกิน เบื่อจนไม่อยากจะมีชีวิตอยู่ต่อไปแล้ว ไอศิกาพูด วิหงค์จันทร์ปิดปากธิดาราชน้อยแล้วส่ายหน้า ไม่อยากให้เราพูดเช่นนั่นรึจันทร์ ก็มันจริงนี่นา เราคิดถึงเสด็จพ่อ เสด็จแม่ อยากพบพระพักตร์สักครั้งหนึ่ง ก็ยังดี ไอศิกาพูดด้วยแววตาหมองเศร้า วิหงค์จันทร์กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ จับพระหัตถ์พระธิดาไว้แล้วก้มหน้าร่ำไห้ โถ่... ลูกแม่... แม่จะทำเช่นไรให้เจ้ารู้ว่าแม่อยู่นี่ ใกล้ๆเจ้าตรงนี้ วิหงค์จันทร์ต่อไห้ร่ำเรียกแค่ไหนก็ไม่มีเสียงออกมาเลยสักนิด ไอศิกามองวิหงค์จันทร์แล้วก็พลอยร้องไห้ไปด้วย จันทร์... เจ้าอยากจะพูดใช่ไหม เจ้าไม่ต้องพูดหรอกนะ ไม่ต้องพยายามหรอกจันทร์... เรารู้ว่าเจ้าเห็นใจเรา รู้ว่าเจ้าภักดีต่อเราไม่แพ้สกุณา อย่าห่วงนะจันทร์ เราไม่เป็นอะไรแล้ว เราทนอยู่มาโดยไม่มีเสด็จพ่อเสด็จแม่ตั้งแต่เกิด ความเจ็บช้ำน้ำใจของเรานั้นมากจนด้านชาไปหมดแล้ว จันทร์อย่าร้องไห้นะ ถ้าจันทร์อยากให้เราสบายใจ เจ้าต้องไม่ร้องไห้เพราะเรา ไอศิกาสะอึกสะอื้น วิหงค์จันทร์เช็ดน้ำตา นพคุณเข้ามาหาวิหงค์จันทร์ เมื่อเข้ามาถึงก็ก้มลงกราบ ไอศิกาเห็นรอยไหม้บนตัวนพคุณก็สงสาร ลูกเจ้าเหรอจันทร์ น่าสงสารจริง ไอศิกาพูด วิหงค์จันทร์พยักหน้าเป็นคำตอบ นพคุณเงยหน้าขึ้น ทันทีที่พระนัดดาไอศิกาได้เห็นหน้านพคุณก็ลุกขึ้นแล้วถอยออกห่าง ไม่... ออกไป อย่าเข้ามาใกล้เรา จันทร์ เอามันออกไป เราไม่อยากเห็นหน้า จันทร์... ไม่เอานะจันทร์ ออกไป ออกไปสิ ไอศิกาถอยออกไกลท่าทีเหมือนหวาดหวั่นหวาดเกรงสิ่งใดก็หารู้ได้ไม่ วิหงค์จันทร์เข้ามาโอบกอด นพคุณมีทีท่าแปลกใจ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×