ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ทองเนื้อเก้า

    ลำดับตอนที่ #22 : ครุฑฑานคร

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 327
      0
      10 เม.ย. 51

    นพคุณเงยหน้าขึ้น ทันทีที่พระนัดดาไอศิกาได้เห็นหน้านพคุณก็ลุกขึ้นแล้วถอยออกห่าง ไม่... ออกไป อย่าเข้ามาใกล้เรา จันทร์ เอามันออกไป เราไม่อยากเห็นหน้า จันทร์... ไม่เอานะจันทร์ ออกไป ออกไปสิ ไอศิกาถอยออกไกลท่าทีเหมือนหวาดหวั่นหวาดเกรงสิ่งใดก็หารู้ได้ไม่ วิหงค์จันทร์เข้ามาโอบกอด นพคุณมีทีท่าแปลกใจ ข้าพระองค์ชื่อนพคุณ เป็นลูกของแม่จันทร์ เข้ามาหาได้มีเจตนาร้ายไม่ นพคุณพูด ไม่... จันทร์... ให้เค้าออกไป ออกไปไม่เข้าใจหรือไง พระนัดดาน้อยน้ำตาไหล ไม่เคยเจอกัน ข้าพระองค์ก็ไม่เคยสร้างความเดือดร้อนใดๆให้ ทำไมจึงทำเช่นว่าข้าพระองค์คือศัตรู คือตัวอันตรายนัก นพคุณพูดด้วยน้ำเสียงน่าเกรงขามแต่ไม่มีอารมณ์โกรธแต่อย่างใด ข้าพระองค์ทูลลาพระเจ้าข้า นพคุณพูดแล้วออกไปจากที่นั่น วิหงค์จันทร์โอบกอดไอศิกาไว้อย่างปลอบขวัญ

    อรุณรุ่งวันต่อมา เวียงทิฆัมพรในยามเช้าช่างดูสดชื่นอะไรเช่นนี้ เหล่ากินนร กินรีโผบินเหนือน่านฟ้าไปทั่ว หมู่ปักษา แล พญาเหยี่ยวรุ้ง รวมทั้งสัตว์พิสดารน้อยใหญ่นานา บรรยากาศเช่นนี้ จะหาชมมิได้ในแดนมนุษย์ทั่วไป

    ท้องพระโรงเวียงทิฆัมพร บุรุษสง่างามผู้หนึ่งเดินเข้ามา อ้าว... วายุภักษ์ ว่าอย่างไรหละ มาเยี่ยมปักษยุลูกชายของเจ้าเหรอ องค์เหนือหัวปักษินราชรับสั่ง พระเจ้าข้า ก็ว่าจะพาปักษยุไปอยู่ที่ครุฑฑานคร วายุภักษ์เป็นเจ้าเหนือพญาครุฑทั้งปวงรับสั่ง ต้องถามเจ้าตัวเค้าดูก่อนนะ พระมเหสีวินตาพูด พระเจ้าข้า วายุภักษ์ตอบ

    ที่อุทยาน ว่ายังไง จะไปอยู่พ่อไหมปักษยุ วายุภักษ์เอ่ยถามลูกชาย ลูกนี่อยากไปอยู่หรอกพระเจ้าข้าเสด็จพ่อ เบื่อเสด็จแม่เต็มทนแล้ว แต่ว่า ลูกก็เป็นห่วงน้อง... น้องสาวของลูกหนะพระเจ้าข้า เป็นพระธิดาของเสด็จน้าวิหงค์จันทร์ ปักษยุพูด อ๋อ... ถ้าเจ้าจะหมายถึงไอศิกาหละก็ ให้ไปด้วยกันเลยสิ วายุภักษ์พูด ได้เหรอพระเจ้าข้า ปักษยุพูด ได้สิ พ่อจะรออยู่ที่ท้องพระโรง เจ้าเร่งไปบอกน้องสาวของเจ้าสิ วายุภักษ์พูด เป็นพระมหากรุณาธิคุณพระเจ้าข้า ปักษยุรีบวิ่งไปที่ตำหนักไอศิกาในพลัน

    ที่พระตำหนักพระนัดดาไอศิกา ไอศิกา พี่มีข่าวดีจะมาบอกเจ้าด้วย ปักษยุเข้ามา อะไรเพคะ พี่ปักษยุ ไอศิกาถามด้วยความสงสัย จากอยากจะออกไปจากป่าหิมพานต์นี่ไหม ปักษยุพูด ทันทีที่ได้ยิน ไอศิกาลุกขึ้นยืนทันที อยากสิเพคะ น้องอยากเจอเสด็จพ่อ เสด็จแม่ ถ้าออกไปจากป่าหิมพานต์ได้ น้องก็จะมีโอกาสตามหาทั้งสองพระองค์มากยิ่งขึ้น ไอศิกาพูดด้วยแววตาตื่นเต้นดีใจอยากจะออกไปเต็มทีแล้ว แต่ก็พลันหน้าเศร้าลงไปอีก แล้ว... น้องจะออกไปได้ยังไง เสด็จตาเสด็จยาย คงไม่ยอมง่ายหรอก แล้วน้องก็ไม่รู้ทางด้วย ไอศิกาพูดแล้วหน้าเศร้าลง ไปกับพี่สิ พี่จะไปอยู่กับเสด็จพ่อของพี่ที่เมืองครุฑฑานคร ปักษยุพูด จริงเหรอเพคะ จันทร์... ไปกับเรานะ ไอศิกายิ้มออกอย่างดีใจ วิหงค์จันทร์ยิ้มเพราะเห็นลูกยิ้มได้ แม่ดีใจเหลือเกินไอศิกา ที่เห็นรอยยิ้มเจ้า แต่... แล้วนพคุณเล่า แม่ห่วงนัก วิหงค์จันทร์ได้แต่พูดในใจสีหน้าเศร้าสลดลง เศร้าใจอะไรหละ เป็นห่วงลูกของเจ้ารึ ให้เค้าไปกับเราด้วยสิ ปักษยุพูด ไม่นะเพคะ ไอศิการีบแย้ง ทำไมหละ ปักษยุถามอย่างแปลกใจ น้องไม่ชอบคนชื่อนพคุณ เวลาอยู่ใกล้แล้วน้องรู้สึกว่า... เหมือนกับ... เหมือนร้อนรนจนอยู่ไม่ได้ เหมือนเจ็บปวด เจ็บใจที่ไหนไม่รู้เพคะ รู้หวาดหวั่น อะไรก็ไม่รู้โดยไม่มีสาเหตุ ไอศิกาพูด แปลกจริง พี่ก็เคยคุยเล่นกับนพคุณตั้งหลายครั้ง แต่ก็ไม่เห็นว่าจะมีอะไรเลย เอาเถอะน่าไอศิกา พี่จะไม่ให้นพคุณมาให้เจ้าเห็นเลยก็ได้ ปักษยุพูด

    กลางป่า องค์วายุภักษ์ พญาครุฑผู้ยิ่งใหญ่เสด็จพระราชดำเนินนำหน้าปักษยุ ไอศิกา นพคุณ และ วิหงค์จันทร์ ทางข้างหน้า นั่นคือรอยต่อระหว่างป่าหิมพานต์ ป่าครุฑฑานคร และ ป่ามนุษย์ ทางนี้จะเป็นทางที่อันตรายมากที่สุด ไอศิกา พระพี่เลี้ยงของเจ้าเป็นกินรีรึเปล่า วายุภักษ์ถามด้วยน้ำเสียงที่น่าเกรงขามแต่ดูเป็นมิตรดี ไอศิกาหันมองวิหงค์จันทร์ วิหงค์จันทร์ยิ้มรับคล้ายจะเป็นคำตอบ ไม่มีปัญหาเพคะ ไอศิกาพูด แต่ข้าพระองค์มิใช่ นพคุณพูดขึ้น ไอศิกาเร่งนำไปไกลเพราะไม่อยากจะเข้าใกล้นพคุณ ไม่เป็นไรนะนพคุณ เราจะพาเจ้าบินข้ามไปเอง ปักษยุพูดอย่างเป็นมิตรที่ดี พระเจ้าข้า นพคุณตอบ ก่อนที่ไอศิกา และ วิหงค์จันทร์จะเรียกปีกกับหางออกมา พร้อมกันกับที่องค์วายุภักษ์ และ ปักษยุจะแปลงร่างเป็นพญาครุฑ

    กลางเวหาในขณะที่องค์วายุภักษ์ ปักษยุ ไอศิกา วิหงค์จันทร์ และ นพคุณกำลังเหาะข้ามผ่านรอยต่อของแต่ละภพอยู่นั้น ขณะเคลื่อนออกจากป่าหิมพานต์ วิหงค์จันทร์ยิ้ม ไอศิกา... อีกเดี๋ยว พอล่วงพ้นแดนป่าหิมพานต์ แม่ก็จะพูดได้ แม่ก็จะพูดกับลูกได้แล้ว วิหงค์จันทร์เอ่ยขึ้นในใจด้วยความหวัง แต่แล้ว ก็เหมือนโชคชะตากลั่นแกล้ง พยุหมุนลูกใหญ่พัดกระหน่ำมาในขณะที่กำลังล่วงพ้นเขตป่าหิมพานต์ ปีกของวิหงค์จันทร์อ่อนแรงลงพลัน บินต้านพายุไม่ไหว เสด็จแม่... นพคุณหันมามอง แล้วผลักตัวออกจากปักษยุที่เป็นร่างครุฑอยู่ในเวลานั้นจนทำให้ตกร่วงลงไปข้างล่าง เวลานั้นมองอะไรก็แทบจะไม่เห็นอยู่แล้ว ไอศิกา... ลูกแม่... วิหงค์จันทร์พูดได้ก็ร้องสุดเสียงก่อนจะร่วงลงพื้น จันทร์... เสียงเจ้ารึเปล่า เจ้าพูดได้แล้วเหรอ เราจะลงไปช่วยเจ้าเดี๋ยวนี้ ไอศิกาพูด

    ผืนป่า พายุท่าทางจะสงบลงแล้ว ไอศิกามองหาวิหงค์จันทร์ไปทั่ว นางหายไปแล้วหละไอศิกา ทำใจเถอะหลาน วายุภักษ์พูด ใช่แล้วไอศิกา จันทร์กับ นพคุณตกลงมาจากที่สูง สูงมากๆ อาจจะไม่รอด ปักษยุพูด ไอศิกาที่น้ำตาคลออยู่แล้วยิ่งเศร้า น้ำตาไหลรินลงอาบสองแก้ม ทำไม... ไอศิการักจันทร์เหมือนแม่ แต่ทำไมต้องถูกพรากไปด้วย ทำไมชีวิตของไอศิกาถึงมีแต่พลัดพรากเพคะ ไอศิกาน้ำตาไหล

    ฝ่ายนพคุณ นอนอยู่ในป่า ฟื้นตัวขึ้นมาก็รู้สึกเจ็บปวดที่รอยแผลไหม้ราวกับถูกเปลวเพลิงผลาญ นี่... เรายังอยู่ในเขตป่าหิมพานต์หรือนี่ นพคุณพูด

    ส่วนวิหงค์จันทร์ เดินโซซัดโซเซอยู่ในป่าแดนมนุษย์ ท่าทางนางดูอ่อนแรงมาก อัสสุชลรินไหลไม่หยุด นางทรุดตัวล้มลงกองกับพื้น ไอศิกา... ไอศิกาของแม่... ลูกอยู่ไหน... พ่อนพคุณ... ทองเนื้อเก้าของแม่ ลูกๆของแม่ไปไหนกันหมด... สิ้นแล้ว...  สิ้นแล้วรึความหวังของเรา เราสิ้นหวังทุกสิ่งทุกอย่างแล้วรึ วิหงค์จันทร์ร่ำไห้

    ที่อุทยานนครมณีนพรัตนา มรกตเดินเล่นอยู่ในสวนนั้นกับน้องทั้งสอง สวนมณีนพรัตนานี่สวยจริงๆนะ มณีกาฬ แก้วไพฑูรย์ มรกตพูด เพคะ พระพี่นาง ทั้งมณีกาฬ และ แก้วไพฑูรย์ตอบเป็นเสียงเดียวกัน แต่ท่าทางสีหน้าของสองพระธิดาจะไม่สนพระทัยในดอกไม้เหล่านั้นสักเท่าไหร่ ทูลพระพี่นางสิแก้วไพฑูรย์ มณีกาฬกระซิบบอก เจ้านั่นแหละทูล แก้วไพฑูรย์พูด ทั้งสองคนเถียงกันไปมาอยู่ได้จนมรกตได้ยิน อะไรกันสองคนนี้ มรกตพูด ทูลสิ แก้วไพฑูรย์พูด พระพี่นางเพคะ พวกเราอยากรู้เรื่องของสาปมณีนพรัตนาเพคะ ไปหาวชิรารัตน์กันเถอะนะเพคะ มณีกาฬพูด นึกว่าเบื่อมณีนพรัตนาแล้วซะอีก มรกตพูด จะเบื่อได้ยังไงเพคะ ที่นี่มีแต่อะไรที่น่าสนุกน่าค้นหาทั้งนั้น แก้วไพฑูรย์พูด ไปเถอะ ไปหาวชิรารัตน์กัน มรกตพูดแล้วกำลังจะเดินนำไป แล้วก็มีร่างครุฑตนหนึ่งพุ่งโฉบเอาร่างมรกตไปพลันจนไม่มีใครทันได้ตั้งตัว พระพี่นาง พระธิดาน้อยนาคีทั้งสองเรียกเป็นเสียงเดียวกันอย่างตกใจแล้วหันมาสบตากัน ไปกราบทูลเสด็จพ่อ เสด็จแม่กันเถอะ แก้วไพฑูรย์พูด มณีกาฬพยักหน้า แล้วสองพระธิดานาคีก็รีบวิ่งไปทันที หมายจะเร่งไปเข้าเฝ้าพระบิดา พระมารดาเพื่อกราบทูลเรื่องที่เกิดขึ้นกับพระพี่นางด้วยท่าทางที่ร้อนรนเป็นห่วงไม่น้อย

    ที่นคราหนึ่ง อยู่กลางเวหา เป็นเมืองที่มีม่านหมอกบางปกคลุม ปราสาทราชวังลอยเด่นอยู่กลางอากาศ มีทหารหน้าตาแปลกยืนเฝ้าหน้าประตูเมือง ยอดปราสาทมีรูปปั้นสลักเป็นพญาครุฑเกาอยู่ นครแห่งนี้คือ ครุฑฑานครนั่นเอง ภายในปราสาทราชมนเทียร พระตำหนักหนึ่ง พระธิดาบาดาลนามว่ามรกตหมดสติอยู่ในนั้น ห่างออกมาไกล ปักษยุยืนมองอยู่กับพระราชบิดา เสด็จพ่อพระเจ้าข้า เด็กคนนี้เป็นนาคราช ทำไมมิทรงสังหาร เป็นอาหารเสียเล่า ปักษยุพูด ครุฑไม่จำเป็นต้องฆ่านาคทุกตัวหรอกปักษยุ เด็กคนนี้ก็แค่ตัวล่อ พ่อต้องการจะล่อเจ้ามัศวุฒิ เจ้าแห่งคุ้งน้ำให้มาที่นี่ ให้นาคทุกตัว ศิโรราบแก่ครุฑโดยดี แล้วจากนี้ครุฑก็หาเป็นแค่เจ้าแห่งเวหาไม่ แต่ก็เป็นเจ้าครอบครองคุ้งน้ำด้วยเช่นกัน วายุภักษ์พูด ทรงมีพระราชดำริยาวไกลเหลือเกินพระเจ้าข้า ลูกว่า ยังไงซะ นาคราช ก็ต้องพ่ายแพ้แก่ครุฑอยู่เสมอ แม้นเป็นศัตรูกันมาแต่ก่อนกาลนานนัก แต่นาค ก็หาเคยชนะครุฑได้ไม่ ปักษยุพูด ใช่... ครุฑคือพญาปักษาที่ยิ่งใหญ่ แลเกรียงไกรที่สุด จำนะลูก ปักษยุ วายุภักษ์พูด

    ที่ตำหนักรับรองนครมณีนพรัตนา จริงเหรอลูก มณีกาฬ แก้วไพฑูรย์ นพมาศแทบจะขาดใจ เจ้าพี่... หรือว่าจะเป็นไปตามคำทำนายแล้วเพคะ นพมาศพูด ไม่ได้นะ... ไม่ได้เด็ดขาด หากเป็นไปตามคำทำนาย งั้นคู่บุญญาบารมีของลูกเราก็เป็นครุฑนาสิ... พี่ไม่ยอมให้มรกตโตขึ้นมาแล้วมีคู่เป็นครุฑหรอก องค์มัศวุฒิรับสั่งอย่างฉุนเฉียว เสด็จพ่อพูดถึงอะไรหนะ มณีกาฬหันมาคุยกับแก้วไพฑูรย์ เราก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน แก้วไพฑูรย์ตอบ จะทำยังไงต่อไปเพคะเจ้าพี่ หม่อมฉันเป็นห่วงมรกตเหลือเกิน นพมาศพูด ฟังนะนพมาศ เราต้องกลับบาดาลนครเดี๋ยวนี้ พี่จะเตรียมทัพ ไปชิงตัวลูกคืนมา มัศวุฒิรับสั่ง

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×