ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    저는 권지용 �영원히 �사랑해요.

    ลำดับตอนที่ #3 : m a b o y 1 ϟ บทนำ

    • อัปเดตล่าสุด 19 เม.ย. 58



     
     
    First, you both go out your way And the vibe is feeling strong
    And what's small turned to a friendship A friendship turned to a bond
    And that bond will never be broken The love will never get lost
    And when brotherhood come first Then the line will never be crossed
    Established it on our own When that line had to be drawn
    And that line is what we reached So remember me when i'm gone
    ในตอนแรก พวกนายสองคนไปตามทางของนาย และความรู้สึกที่มีให้กันมันช่างยิ่งใหญ่
    จากสิ่งเล็กๆ มันแปรเปลี่ยนเป็นมิตรภาพ และมิตรภาพก็เปลี่ยนเป็นสายใย
    และสายใยนั้นจะไม่มีวันพังทลาย ความรักจะไม่มีวันสูญสลายไป
    และเมื่อความเป็นพี่น้องย่อมมาก่อนทุกสิ่งใดๆ เราก็จะไม่มีวันข้ามเส้นแห่งความตายนั้นไปจริงๆหรอก
    สร้างมันขึ้นมาด้วยมือของเราเอง เมื่อเส้นแบ่งที่ต้องถูกขีดขึ้นมานั้น
    และเส้นนั้นแหละคือสิ่งที่เราไขว่คว้ามาได้ ดังนั้น ช่วยจำฉันไว้ด้วยนะ ในยามที่ฉันจากไปแล้ว


     
     


    บทนำ

     

               

                ‘ไอ้บ้า!

                ‘ไอ้โรคจิต!

                ‘ไอ้ไม่มีเพื่อน!

                ‘ไอ้ลูกคนเลว!

                ผมกับโจวมี่หรือไอ้โจกำลังเดินเล่นไปทำไมก็ไม่รู้  โรงเรียนนี้มันน่าเดินเล่นตรงไหน...ไม่เห็นจะมีอะไรดี ในระหว่างที่กำลังใช้ความคิดหาว่าโรงเรียนนี้มันดียังไงผมกับไอ้โจก็ได้ยินเสียงอะไรบางอย่าง

    เหมือน...เสียงมันอยู่ใกล้ๆนะ

                กูขอล่ะ  อย่าเป็นเสียงร้องของผีเลย  TT  นี่มันกลางวันแดดร้อนยิ่งกว่าไฟนะเฮ้ย!

                ...แม้จะไม่อยากเจอผี  แต่ ส.ใส่เกือก  ก็ไม่เกรงใจใคร  ผมกับไอ้โจจึงเดินเข้าไปหาต้นเสียงทันที

                “ไอ้เวรพวกนี้!!! ออกไปให้หมดเลย!!

                พอเห็นว่ามันไม่ใช่ผีและคือคนที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกับพวกผม  ผมก็ไม่กลัวและตะโกนออกไปจนลั่นห้องบวกกับท่าทางที่กำลังจะฆ่าคนแล้วใครไม่หนีมีตาย 

                ผู้คนวิ่งหนีออกไปจนเห็นเด็กผู้ชายคนนึงนั่งอยู่ที่พื้นตัวระบมไปด้วยรอย  ผมยืนมองมันอยู่ห่างๆส่วนไอ้โจก็ทำหน้าที่ไปประคองขึ้นมา

                “นี่นายไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”  ไอ้โจถามขึ้น

                “ไอ้บ้าพวกนั้นคิดว่าตัวเองเป็นใคร ห๊ะ!!

                ผมสบถออกมาอย่างหัวเสีย  พลางมองไปที่ไอ้โจ  ทำไมมันเหมือนจะพากันล้มแบบนั้นน่ะ  แน่ใจนะว่าช่วยพยุงขึ้นมา เฮ้อ...ช่วยอีกแรงก็ได้วะ 

                ...นี่ตัวคนแน่นะ(?)  นึกว่าซากคน

                “พวกนายเป็นใคร?...”

                พอยืนขึ้นมาได้ผมกับไอ้โจวก็ปล่อยให้คนที่โดนทำร้ายมายืนเองบ้าง  ดูๆแล้วหน้ามันก็ใช้ได้นะเพียงแต่ผมหล่อกว่านิดนึง ฮ่าๆๆๆ

                “อ๋อ! พวกเราก็เป็นเพื่อนนายไงโจตอบและยิ้มอย่างสดใสโลกไร้มลพิษ(?)

                เพื่อนหรอ?  อืมๆ เพื่อนก็เพื่อน...ผมไม่ได้รังเกียจอะไรตั้งแต่แรกอยู่แล้วล่ะ  เพียงแต่เป็นคนที่แสดงออกไม่ค่อยเก่งในเรื่องพวกนี้  ผู้คนที่ไม่ค่อยสนิทด้วยจึงจะบอกว่าผมมันนิสัยไม่ดี  เอาแต่ใจตัวเองตั้งแต่เด็กๆ  ทำไมไม่ลองหลับตาดูบ้างล่ะ  ผมก็อยากทำอาหาร  พาไปเดินเล่น  ยิ้มให้ทุกวันเหมือนคนอื่นบ้างนะ  ผมแค่อาย...และคนอื่นทำให้ผมไม่กล้าที่จะแสดงออกมา

                เพียงเพราะพวกเขาบอกว่า...’ไอ้บ้านั่นไม่มีอะไรดีสักอย่างหรอก  นิสัยเสียไปวันๆ

                 “ใช่! ต่อไปนี้เราสองคนจะเป็นเพื่อนนายเอง

                ผมตอบบ้างและเอื้อมมือไปตบไหล่มันเบาๆ  อืม..นี่มันมากกว่าทุกครั้งที่ผมจะทำได้เลยนะ  ตอนเป็นเพื่อนกับไอ้โจผมแค่ยืนอยู่เฉยๆมีแต่มันนั่นแหละที่เข้ามาทักผม  แต่เราก็เป็นเพื่อนกันได้จนวันนี้ผมก็จะมีเพื่อนเพิ่มมาอีกคนแล้ว

                 “เพื่อน...งั้นหรอ?”  คนที่ผมตบไหล่ไปเมื่อกี้ทวนประโยคขึ้นมาเบาๆแล้วก็เงียบไป  ผมไม่รู้หรอกนะว่าทำไมมันถึงเงียบ  ผมไม่ได้มองหน้ามันเลยด้วยซ้ำ  แค่กำลังคิดว่าต่อไปผมจะทำอะไรต่างหาก

                   “ก็ใช่นะสิ! เราเป็นเพื่อนกันแล้วตอนนี้ อ่อ!ฉันชื่อโจวมี่นะ

                ไอ้โจพูดขึ้นทำลายบรรยากาศที่เงียบได้ดีจริงๆ  ผมเลยไม่รอช้าแนะนำตัวบ้าง

                “ส่วนฉันโรเลอร์ ยินดีที่ได้รู้จัก

                ผมกับไอ้โจมองไปที่ไอหน้าหล่อแล้วยิ้มให้

                “…ฉันชื่อเทสโก้

                เทสโก้ตอบและนิ่งไปอีก  ฮะ?  มีต่อป่ะ  หรือว่าจบแล้ว...ยังไงๆจบตอนไหนกูไม่รู้เรื่องว่ามันจบตอนไหน

                “นายต้องพูดให้มันเข้มแข็งสิ! ต้องพูดแบบนี้ ฉันชื่อ เทสโก้ผู้หล่อเลิศที่สุดในปฐพี ฮ่าาๆ”   ผมพูดออกมาและตบไหล่เทสโก้เพื่อจะบอกมันว่าการแนะนำตัวมันต้องเป็นแบบนี้

                 “ฮ่าๆๆ หล่อเลิศที่สุดในปฐพี นี่แกคิดได้ไงว่ะฮะ ฮ่าๆๆๆ”   ไอ้โจระเบิดหัวเราะออกมา

                “ฮ่าาาๆๆส่วนเทสโก้ก็ใช่ว่าจะน้อยหน้า

                อะไรวะ  คนยกตำแหน่งนี้ให้แล้วยังมาหัวเราะอีกเดี๋ยวยึดคืนซะเลย  นั่นไอ้โจตัวดีเลยถ้ามันไม่หัวเราะไอ้เทสโก้ก็ไม่ตามหรอก  -//-  พอยัง...พวกแกจะพอได้รึไง  กูรู้สึกหน้าไม่หนาพอนะเว้ย

                แต่อย่างน้อยคนที่โดนซ้อมและหน้านิ่งอย่างไอ้เทสโก้ก็หัวเราะได้ล่ะวะ

                “…พอเหอะๆ ออกไปจากนี่กัน ฉันจะบ้าตาย

                เลิกสนใจพวกนั้นผมก็เพิ่งรู้ว่าตอนนี้เราอยู่ในห้องที่แคบมากและฝุ่นเยอะมากด้วย 

                “เออว่ะๆ ไปเหอะ”  ไอ้โจพอระลึกชาติได้ก็เดินไปที่ประตูเพื่อจะเปิดมันออก  ผมมองตามมันที่พยายามจะเปิดประตูที่ปิดอยู่ด้วยท่าทางแปลกๆ

                แกร๊ก !

                “เฮ้ยย!!

                เริ่มจะรู้สึกไม่ดีแล้วสิ  แค่เปิดประตูเหมือนตอนเข้ามามันจะยากอะไร  ไม่มีคนมาล็อกไว้นี่หว่า  ไอ้โจมันเว่อร์รับเพื่อนใหม่หรือไง 

                ถึงความคิดจะพยายามคิดในทางที่ดี  แต่ความจริงก็ขัดไม่ได้อยู่ดีถ้าจะบอกว่าเราถูกขังไว้ในนี้น่ะ -_-;;

                 “ไอ้พวกนั้น!! กล้าขังเราไว้ในนี้งั้นหรอ!!

                ถ้าจะโลกสวยแล้วไม่ทำให้ออกจากที่นี่ได้งั้นก็ไม่ต้องโลกซงโลกสวยมันแล้วล่ะตอนนี้  ทำไงดี  พังประตูออกไปดีมั้ยวะ  หรือว่าจะขุดดินลอดออกไปดี -_-

                “อ่าจริงๆเลย! ฉันน่าจะขอม้าซื้อโทรศัพท์ก่อนที่จะซื้อโมเดลรถนั่นนะ!! ให้ตายดิแล้วนี่จะทำยังไงเนี่ย!ไอ้โจสบถออกมาทำให้ผมอดไม่ได้ที่จะมองมันทำปากขมุบขมิบกับตัวเอง

                ไม่นานมันก็หยุดและหันมามองผมบ้าง  ซึ่งมองทำไมผมก็รู้ดีในสิ่งที่มันมองมา  ก็อยากบอกว่าถึงตัวข้าจะเป็นลูกมาเฟียผู้ยิ่งใหญ่แต่ข้าก็ไม่มีโทรศัพท์ใช้นะ  อินดี้เหลือหลาย

                ใจป่ะ...กูอินดี้มากมาย

                “ไม่ต้องมอง   ไม่มีเว้ย!!  อินดี้ไง -___-;;”   ไม่ต้องรอคำตอบนานผมก็รีบตอบออกไป

                 “ฉันรู้มาว่าพ่อนายเป็นนักธุรกิจ นายคือความหวังสุดท้าย เทสโก้…” หลังจากที่ไอ้โมเดลรถกับไอ้อินดี้มันไม่มีประโยชน์  ลูกนักธุรกิจก็ควรจะเป็นความหวังสุดท้ายนะ

                “ไม่มีหรอก ฉันใช้แต่โทรศัพท์บ้านเทสโก้ตอบเสียงเรียบ

                มีเถอะ  กูขอ TT

                  “สาบานว่านี่ลูกนักธุรกิจกันทั้ง 3 คน -__-”   ไอ้โจพูดออกมา

                “เราคงได้ตายกันอยู่ที่นี่แน่ๆเลย - -”  ขอไม่ให้ผมเลยหมดหวังแล้วนั่งลงกับพื้นที่มีฝุ่นหนาเตอะ  แล้ววาดรูปเล่นระบายความอึกอัด

                “แต่ฉันมีวิธีที่จะออกไปจากที่นี่นะ

                เทสโก้พูดออกมาทำให้ผมละความสนใจการวาดรูปบนพื้นฝุ่นทันที

                ภาพที่เห็นคือไอ้เทสโก้ก้มลงหยิบไม้บรรทัดเล็กๆที่อยู่บนพื้นขึ้นมาแล้วยิ้มให้พวกเราเหมือนจะมาเชือด  เฮ้ยๆ

                มันโรคจิตโคตรเลย...

                “นายจะทำอะไร?”  ไอ้โจถามขึ้น

                “ฉันจะเอาไม้บรรทัดนี้ไขน็อตที่ประตูออก

                “นายเอาจริง?”  ผมถามขึ้นมา

                “อื้อ!”  แสดงว่ามันจะทำจริงๆสินะ  -_-; 

                ในเวลาแค่  20  นาที  ก็สามารถออกมามองท้องฟ้าที่สดใสได้  เราได้ออกมาจากห้องที่สกปรกโสโครกแล้ว  โอ๊ย...เริ่มหายใจสะดวกสบายเต็มปอดแล้ว

                ดีใจได้ไม่นานผมก็นึกไปถึงพวกที่ขังเราไว้ในห้องนี้  ฮึ่ย!  คิดถึงแล้วอยากไปหาจังเลย

                 “ไอเวรพวกนั้นตายแน่! ที่กล้ามาขังท่านโรลเลอร์คนนี้!!!

     

     

                สามวันต่อมา...

                “ทุกคน..ฉันมีอะไรจะบอก

                ผมถือกล่องสี่เหลี่ยมจัตุรัสสีดำขึ้นมาให้โจวมี่กับเทสโก้ดู  พวกนั้นดูจะสนใจมากกับสิ่งที่ผมกำลังจะทำในตอนนี้

                “มันคืออะไร”  เทสโก้ถามอย่างงๆ

                “ยะ..อย่าบอกนะว่านิ้วมือคนน่ะ

                “นิ้วมือคนที่ไหน O.O”

                “ฉันเคยดูละครพวกเขาชอบเอานิ้วมือคนใส่ในกล่องดำแบบนี้แล้วส่งมาให้คนที่เป็นศัตรู ในกล่องนั่นจะเขียนว่าแกคือคนต่อไป

                โจวมี่พูดอย่างจริงจังและแอคติ้งโอเวอร์จัดเต็มกับท่าทางนั่นมันอาจจะทำให้ใครหลายๆคนคิดและกลัวตาม  แต่ผมมองแล้วมันฮามากกว่า

                “ฮ่าๆๆๆ

                “นายขำอะไร -_-;”

                “อุ๊บส์ OxO เปล่าไม่ได้ขำ...ฉันจะบอกอะไรให้นะนายฟังนะ  เลิกดูละครพวกนั้นสักอาทิตย์แล้วดูบาร์บี้สิ  เปิดกล่องมามีนางฟ้าตัวน้อยๆบินออกมาพร้อมออร่าวิ้งๆ

                “นายพูดอย่างกับเคยดูน่ะ”  เทสโก้พูดขึ้นอย่างทึ่งๆ

                “จริงด้วย  นายดูหรอ”  โจวมี่กองหนุน

                “ก็...ก็ประมาณนั้น

                ผมตอบแบบไม่ใส่ใจนัก  พยายามทำหน้าให้เป็นปกติด้วย  แต่ให้ตาย...ไอ้พวกนั้นมันจะขำอะไรหนักหนาวะกะแค่ผมดูบาร์บี้เองนะ...แค่ตอนเดียว...เอง U.U//

                “ฮ่าๆๆๆๆๆๆ”  โจวมี่ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาแล้วชี้มาที่ผม

                “ฮ่าๆๆๆ บาร์บี้หรอ  พูดเป็นเล่น”  เทสโก้ก็มองหน้าโจวมี่แล้วเกิดติดเชื้อไวรัส(?)ด้วยกัน  ไอ้พวกนี้นี่ถ้าอีกคนหัวเราะแล้วอีกคนจะหุบปากอยู่เฉยๆไม่เป็นรึไง -//-

                “รึพวกนายไม่เคยดู

                “ไม่เว้ย  เคยดูแต่มาสค์ไรเดอร์ ซีรีส์  รู้จักป่ะไอ้มดแดงน่ะ”  โจวมี่พูดพร้อมกับท่าปล่อยพลังเหมือนซุปเปอร์ไซย่าในเรื่องดราก้อนบอล =_=;

                “เข้าเรื่อง!  ฉันเปิดแล้วนะ

                “เปิดเลยๆๆๆ” 

                “คิมุระ  โคริภูมิใจนำเสนอ....ท้าดา~~”

                จบประโยคผมก็เปิดกล่องนั่นขึ้นมา

                “โทรศัพท์!!

                เทสโก้กับโจวมี่พูดขึ้นมาพร้อมกัน

                “ใช่ไง  ฉันขอป๊าได้เมื่อเช้านี้เองนะ  ต่อไปนี้ไม่ว่าใครจะมาขังเราไว้ก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป  ฉันจะเป็นคนโทรไปบอกป๊าเอง  เมื่อออกมาได้ฉันจะบอกป๊าให้ไปฆ่าพวกนั้นจนตำรวจหน้าไหนก็ไม่กล้ามาทำคดีให้มัน!

                “...”

                “...”

                โจวมี่กับเทสโก้ไม่พูดอะไรขึ้นมามองแต่หน้าผมนั่นแหละ

                “มีอะไรงั้นรึ

                “กระผมแค่จะถามว่านายมีโทรศัพท์อย่างเดียวไม่ได้นะต้องเติมเงินด้วยไม่งั้นก็หมดประโยชน์  หรือแบตหมดก็ไม่ได้

                “สาบานว่ามันไม่เกิดขึ้นกับฉันแน่นอน -_-;”

                พูดถึงเรื่องที่พวกเราถูกขังไว้มันก็น่าแก้แค้น   แต่ถ้ามองให้ลึกไปอีกจะเห็นว่าได้เพื่อน  ยิ่งนานพวกเรายิ่งสนิทกันเหมือนกับเป็นพี่น้องที่คลานตามกันมา  เหมือนกับเคยรู้จักมาแล้วสิบชาติ   เอิ่ม...

                แต่นี่แค่สามวันเองนะยังเหมือนอยู่มาสามปี  แล้วถ้าเราเป็นเพื่อนแบบนี้ตลอดไปงั้นเวลาผมไม่มีบ้านอยู่จะไปอยู่กับพวกมันล่ะกัน ^^

                “ฉันจะขอบ้าง  พรุ่งนี้คอยดูนะ”  ไอ้โจพูดขึ้น

                ผมจึงยิ้มให้มันแบบว่า  ‘ แกไม่ได้แน่นอน’   ซึ่งมันน่าจะรับรู้ได้ว่าผมสื่ออะไรไปถึงหน้าทำหน้ามั่นอกมั่นใจกลับมาซะขนาดนั้น  ถ้ามันได้ก็ช่างมันผมก็แค่เล่นกับมันสนุกๆเฉยๆน่า :)

                เราออกจะรักกัน...


    © themy  butter
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×