ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    { BLOCK B } ขาวดำ || COTAE ♡

    ลำดับตอนที่ #3 : ขาวดำ | CHAPTER TWO

    • อัปเดตล่าสุด 6 เม.ย. 58




    One touch and I was a believer
    เพียงสัมผัสเดียว ผมก็เชื่อมั่นแล้ว
    Every kiss it gets a little sweeter
    ทุกการจูบ ยิ่งหวานขึ้นกว่าเดิม
    It’s getting better
    มันดีขึ้นเรื่อยๆ
    Keeps getting better all the time girl
    มันดีขึ้นเรื่อยๆมาตลอดเลยล่ะ

     

    แผ่นอลูมิเนียมฟรอยด์ซองเล็กๆถูกแกะออกช้าๆ เผยในเห็นผงละเอียดสีขาวที่อยู่ด้านในดูไม่ต่างจากผงแป้งสักเท่าไหร่หากแต่ผลลัพธ์ของมันต่างกันอย่างคาดไม่ถึง มือหนาอีกข้างควานหาไฟแช็คที่คงร่วงตกอยู่สักทีที่ไม่ไกลจากเขานัก ปลายนิ้วแตะเข้ากับโทรศัพท์ที่ยังคงสั่นอยู่ครืดๆไม่หยุดอยู่ตั้งแต่เมื่อคืน หากแต่เขาก็ไม่ได้สนใจ

     

    มือแกร่งคว้าไฟแช็คมาถือไว้ นิ้วยาวๆจุดมันขึ้นอย่างคล่องแคล่ว ไฟดวงเล็กๆถูกติดขึ้น แผ่นฟรอยด์ถูกยื่นมาจ่อตรงไฟสีส้มแดง กลิ่นเผาไหม้ลอยอ่อนๆก่อนที่จะถูกกลบด้วยกลิ่นอย่างอื่น ผงสีขาวที่ว่าหลังจากได้รับความร้อนมันก็กำลังถูกเผาไหม้ ยาถูกระเหยกลายเป็นไอ

     

    จมูกโด่งสูดมันเข้าปอดอย่างที่เคยทำ ความรู้สึกต่างๆเริ่มหายไป สติทั้งหมดกำลังถูกตีรวนอยู่ในสมอง ดวงตาเรียวยาวปิดลงช้าๆ ทิ้งร่างหนาของตัวเองลงบนเตียงกว้าง สิ่งของที่อยู่ในมือถูกปล่อยทิ้งลงกับพื้น ดูเหมือนอะไรในสมองที่ทำเขาเครียดกำลังจะเลือนหายไป

     

    โทรศัพท์เครื่องสวยยังสั่นครืดๆอยู่ไม่หยุดแต่ไม่ได้เรียกความสนใจจากอูจีโฮได้เลยสักนิด เสียงออดห้องดังอยู่สองสามทีไม่ได้ทำให้จีโฮลุกขึ้นเช่นกัน ก่อนจะตามมาด้วยเสียงทุบประตูห้องอย่างรุนแรง จีโฮไม่ได้หลับ หากแต่ฤทธิ์ของยามันทำให้เขาไม่อยากจะทำอะไรนอกจากนอนปิดตาอยู่ตรงนี้

     

    ฉันแค่อยากให้ลูกฉันได้สิ่งที่ดีที่สุด

     

    อา... เวียนหัวชะมัด..

     

    ---

     

    อีแทอิลกำลังจะบ้าตาย

     

    มือนุ่มกำลังออกแรงทุบประตูห้องอย่างรุนแรง หากแต่ไม่ได้เสียงตอบรับมาจากเจ้าของห้อง หัวใจดวงน้อยกำลังเต้นถี่รัวราวกับคนบ้า หลักจากที่อูจีโฮกลับไปแทอิลก็รอข้อความของคนตัวสูงแต่กลับไม่มีเลยสักข้อความ พอลองโทรไปหากลับโดนตัดสายอยู่อย่างนั้นสามสี่รอบก่อนที่จะโทรไม่ติดอีกเลย

     

    แต่เมื่อเช้าโทรศัพท์ถูกเปิดอีกครั้ง แต่คนตัวสูงก็ไม่รับโทรศัพท์เหมือนเคย ยิ่งนึกถึงคำพูดที่คนเป็นพ่อเรียกแทอิลเข้าไปคุยด้วยหลังจากที่จีโฮกลับไป แทอิลก็ยิ่งใจไม่ดีเข้าไปใหญ่

     

    คนเป็นพ่อก็อยากให้ลูกเจอสิ่งที่ดีๆกว่านี้

     

    ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าแทอิลไม่เคยทะเลาะกับคนเป็นพ่อรุนแรงเท่าเมื่อคืนมาก่อน

     

    “จีโฮ!!” คนตัวเล็กร้องเรียก

     

    กึก

     

    ก่อนที่ประตูจะถูกเปิดออกเมื่อแทอิลลองบิดลูกบิด คนตัวเล็กดันประตูเข้าไปข้างในอย่างถือวิสาสะ บรรยากาศในห้องเงียบราวกับไม่มีคนอยู่ คนตัวเล็กโผล่หน้าเข้าไปในห้องน้ำแต่อย่างคาดไม่มีคนอยู่ มือเล็กเอื้อมไปประชากประตูห้องนอนให้เปิดออก

     

    กลิ่นบุหรี่เป็นอย่างแรกที่แทอิลรู้สึกได้ นึกฉุนขึ้นมาทันที ไหนเคยบอกว่าจะไม่สูบบุหรี่ในห้องยังไงล่ะ ร่างยาวๆนอนแผ่อยู่บนเตียงอย่างหมดสภาพ มีเพียงแค่กางเกงยีนส์ตัวเอาเท่านั้นที่ติดอยู่กับตัวคนตัวสูง ทีวีถูกเปิดไว้อย่างไม่ใส่ใจ รอบเตียงเกลื่อนกลาดไปด้วยกระป๋องเบียร์ ซองบุหรี่ถูกวางแหมะไว้รอบๆมีแท่งบุหรี่ที่ยังไม่ถูกใช้งานกระจัดกระจายไว้ไม่ไกลกัน

     

    “จีโฮ” คนตัวเล็กสะกิดร่างยาวๆของอูจีโฮเบาๆ “เป็นอะไรเนี่ย”

     

    แต่แล้วสายตาก็ไปสะดุดเข้ากับแผ่นกระดาษฟรอยด์ที่ถูกเผาและข้างๆยังมีไฟแช็คอยู่อีกด้วย หัวใจดวงน้อยกระตุบวูบ ก่อนคว้าขึ้นมาถือไว้ แทอิลไม่ใช่เด็ก แทอิลรู้ว่ามันคืออะไร มือนุ่มกำมันไว้แน่น ก่อนจะออกแรงกระชากแขนคนที่นอนอยู่อย่างแรง

     

    “อูจีโฮ!!!!” คนตัวเล็กเม้มปากแน่น “ย่าห์!!!!

     

    หากแต่เจ้าของชื่อทำเพียงแค่ปรือตาขึ้นมองเท่านั้น อูจีโฮมองใบหน้าหวานที่เริ่มเหยเก ก่อนจะคิดได้ว่าเมื่อครู่ตัวเองทำอะไรลงไป คนตัวสูงดันตัวเองขึ้นนั่ง ดวงตาเรียวสบเข้ากับสิ่งของในกำมือของแทอิล ราวกับโดนทุบกลางศีรษะ  มือแกร่งเอื้อมไปคว้าข้อมือของอีกคนไว้ก่อนจะดึงซองเจ้าปัญหานั้นออกมาแต่แทอิลกลับซ่อนมือไว้ข้างหลัง

     

    “แทอิล..เอามานี่”

     

    “อะไร” ดวงตากลมจ้องใบหน้าซีดของอูจีโฮอย่างเอาเรื่องหากแต่คนโดนถามกลับไม่ปริปาก

     

    “...”

     

    “ถามว่านี่อะไร” แทอิลขย้ำซองในมือก่อนจะยัดใส่หน้าอกของอีกคน “ถามก็ตอบดิ!!

     

    “ถ้ารู้แล้วก็ไม่ต้องถามดิวะ!!!

     

    เพี้ยะ!!

     

    ไวกว่าความคิด มือเล็กๆถูกเหวี่ยงเข้ากระทบข้างแก้มของคนตัวสูงอย่างแรงจนหน้าหัน ริมฝีปากสีอิ่มเม้มเข้าหากันแน่นพยายามกลืนก้อนสะอื้นที่มันแล่นขึ้นมาจุกตรงคอให้ลงไป ไม่มั่นใจว่าไอ้น้ำตาเม็ดโตที่กลิ้งตกลงมาจากตากลมนี่เพราะเสียใจหรือว่าโกรธกันแน่

     

    “นั่นคือสิ่งที่สมควรตอบเหรออูจีโฮ..”

     

    คนตัวสูงหลับตาแน่นความเจ็บปวดตรงข้างแก้มไม่ได้ทำให้สติสตังค์กลับมาบ้าง ใบหน้าคมก้มลงสงบสติอารมณ์ของตัวเอง กำปั้นเล็กๆทุบไหล่หนาเบาๆด้วยความอัดอั้น

     

    “เป็นบ้าอะไรเนี่ย...อึก..” อีแทอิลยกมือขึ้นปาดน้ำตาลวกๆ “บอกแล้วใช่ไหม.. บอกไปแล้วใช่ไหมว่าอย่า..”

     

    “...”

     

    “ย่าห์!! พูดอะไรบ้างสิ!!

     

    “รู้แล้ว..รู้แล้ว” อูจีโฮพึมพำเบาๆแขนแกร่งยกขึ้นกอดเอวอีกคนอย่างคนหมดแรงใบหน้าหล่อซบเข้ากับหน้าท้องของแทอิลก่อนจะผ่อนลมหายใจออกมาช้าๆ “..ขอโทษ..”

     

    “..ไอ้..ไอ้บ้าเอ้ย..”

     

    มือเล็กยกขึ้นลูบกลุ่มผมสีควันบุหรี่ของอีกคนเบาๆ ใบหน้าหวานส่อแววเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด แทอิลไม่รู้ต้องทำยังไง เป็นสถานการณ์ที่เกินคาดหมายไว้มาก โกรธ..ทั้งโกรธทั้งเสียใจ ฟันขาวกัดริมฝีปากตัวเองจนรู้สึกเจ็บ.. ในหัวตอนนี้มันเคว้งไปหมด ไม่รู้ว่าควรเริ่มจากตรงไหน และจะทำอะไรต่อไป

     

    “แทอิลไม่อยากเห็นจีโอเดินเข้าคุกนะ...”

     

    มือแกร่งกำมือเล็กๆไว้ “ไม่..ไม่เป็นอย่างนั้นหรอก..”

     

    ดวงตากลมกระพริบตาถี่ไล่น้ำตาให้หายไป “..คนโง่..”

     

    “...”

     

    “ไอ้โง่ ไอ้บ้า ไอ้คนนิสัยไม่ดี”

     

    แทอิลทิ้งตัวลงนั่งข้างอีกคนอย่างหมดแรง มือเล็กยังคงกำมือแกร่งของอีกคนไว้ไม่ยอมปล่อย เสียงทีวีที่เปิดทิ้งไว้ดังทำลายความเงียบรอบข้าง อูจีโฮหลับตาแน่น อาการมึนหัวเพราะฤทธิ์ยายังไม่หายไปร้อยเปอร์เซ็นนัก คนตัวเล็กดูเหนื่อยอ่อนอย่างเห็นได้ชัด

     

    “แทอิลทะเลาะกับป๊า..” คนตัวเล็กเปิดบทสนทนา “เรื่องจีโฮ”

     

    “หึ...” อูจีโฮแค่นยิ้ม “เขาแค่อยากให้นายได้สิ่งที่ดีที่สุด...เท่านั้นแหละ”

     

    “อยากไปเที่ยวจัง” ร่างเล็กๆเอนซบไหล่กว้าง มือเล็กๆชี้ออกไปนอกหน้าต่าง “ไปไกลๆ..”

     

    เสียงโทรศัพท์เครื่องสวยของร่างสูงสั่นครืดๆ ดวงตาคมกวาดมองรายชื่อที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอ นึกชั่งใจอยู่ชั่วครู่ก่อนจะสไลด์หน้าจอสวยเพื่อกดรับ

     

    “อืม”

     

    “เห้ย เดี๋ยวของไปส่ง” เสียงเพื่อนสนิทลอยมาจากปลายสาย “กูโอนเงินให้มึงละนะ ค่าของรอบที่แล้วอ่ะ”

     

    “..ไม่ต้องเอามาส่งหรอก”

     

    “อ้าวไรวะ รอบที่แล้วยังขายไม่หมดเหรอ ไม่ได้นะเว้ยย”

     

    “เปล่า.. กูไม่เอาแล้ว” อูจีโฮเหลือบมองใบหน้าหวานที่กำลังจ้องมาเช่นกัน “ไม่ต้องส่งมาแล้ว”

     

    “เหี้ย หมายความว่าไง”

     

    “กูจะเลิก”

     

    “เลิกพ่อเลิกแม่มึงสิ” ยูควอนตะโกนลั่นมาจากปลายสาย “ไม่ใช่เลิกยาคูวย์นะไอ้ห่า อะไรจะเลิกง่ายขนาดนั้น”

     

    “เออน่า....” อูจีโฮเอ่ยปัด “เดี๋ยวกูเคลียร์ปัญหาเอง... ช่วงนี้ไม่ต้องติดต่อกูมานะ ยกเว้นมึงตายแล้วค่อยโทรมา”

     

    นิ้วยาวๆกดตัดสายไปแล้ว ดวงตาคมสบตาแทอิลก่อนจะยกยิ้มบาง มือแกร่งกำมืออีกคนแน่น อูจีโฮไม่รู้หรอกนะ ว่าการจะเลิกของแบบนี้มันต้องใช้ความพยายามขนาดไหน รู้แค่ว่า.. เขาเองก็ต้องทำมันให้ได้เหมือนกัน

     

    “ไปเที่ยวกัน”

     

    คนตัวโตไม่รอคำตอบคว้าข้อมือเล็กของอีกคนให้ลุกขึ้นพร้อมกับก้าวพรวดๆออกจากอพาร์ทเม้นต์ของตัวเองอย่างรวดเร็ว คนตัวเล็กหัวเราะร่าเมื่อตั้งสติได้ อูจีโฮยกยิ้มในใจเขาอาจจะไม่ได้แค่โดนคดียาเสพติด อาจจะโดนคดีลักพาตัวลูกชาวบ้านด้วย

     

    เอาล่ะ ยิ้มไว้ ก่อนจะต้องไปเจออะไรร้ายๆแล้วกัน

     

    ทะเลอาจจะเป็นที่แรกๆที่คนส่วนมากนึกออกหากนึกอยากจะไปเที่ยว และแทอิลก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน ลมเย็นๆกำลังจะทำให้อีแทอิลหลับทั้งๆที่อยู่บนมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ แก้มอวบแนบพิงเข้ากับแผ่นหลังกว้างๆของอูจีโฮ วันนี้แทอิลปฏิเสธที่จะรับหมวกกันน็อค อูจีโฮก็เช่นกัน มือเล็กๆเอื้อมไปสัมผัสอากาศเย็นๆ ก่อนจะกลับมาโอบเอวสอบของคนข้างหน้า ดวงตากลมปรือขึ้นอย่างเหนื่อยอ่อนก่อนจะปิดลงในท้ายที่สุด อูจีโฮละมือข้างหนึ่งออกจากแฮนด์มอเตอร์ไซค์จับขอนสองข้างของคนตัวเองที่พาดอยู่บนเอวเขา ถ้าไม่อย่างนั้นคาดว่าอาจจะมีโศกอนาถกรรมเกิดขึ้นก็ได้

     

    หลังจากที่ประคับประคองไม่ให้ตัวเองกลิ้งตกจากมอเตอร์ไซค์คันโตไปได้ร่วมชั่วโมงสองชั่วโมง วิวข้างทางเปลี่ยนจากตึกสูงใหญ่เป็นต้นหญ้าสีเขียวสวย กลิ่นอายทะเลอ่อนๆลอยมาตามลม แก้มกลมที่บู้บี้อยู่กับหลังอีกคนก็ถูกเจ้าตัวยกออก จมูกรั้นสูดหายใจเข้าจนเต็มปอด กลุ่มผมสีดำสนิทกระจายสัมผัสอากาศเย็น 

     

    มอเตอร์ไซค์คันใหญ่จอดสนิทหน้าหาดกว้างใหญ่ คนตัวเล็กกระโดดลงจากมอเตอร์ไซค์อย่างตื่นเต้น ผืนน้ำสีครามยามบ่ายกำลังสะท้อนเงาของพระอาทิตย์ดูคล้ายกับทะเลกำลังถูกโรยด้วยกากเพชร คนตัวสูงกว่าเดินอ้อยอิ่งตามมา มือแกร่งยกขึ้นจัดทรงผมของคนตัวเล็กให้เข้าที่เข้าทาง แก้มด้านซ้ายแดงเป็นปื้นพร้อมรอยยับยู่ยี่เนื่องจากเจ้าตัวหลับมาตลอดการเดินทาง

     

    คนตัวเล็กสลัดรองเท้าเตรียมวิ่งลงผืนทรายกว้างแต่คนตัวสูงกลับรู้ทัน มือแกร่งดึงแขนของแทอิลไว้ก่อน “อยากตัวเปียกไปหาของกินเหรอ”

     

    ใบหน้าหวานมู่ทู่ราวกับเด็กน้อยโดนขัดใจ หากแต่ก็ยอมเดินตามอีกคนไปขึ้นรถอีกรอบ

     

    รถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ขับตามป้ายบอกทางไปเรื่อยๆ เนื่องจากไม่ใช่ฤดูท่องเที่ยว ผู้คนจึงไม่มากนัก คนทั้งคู่จึงสามารถเช็คอินเข้าโรงแรมได้ง่ายๆ โรงแรมที่ว่าไม่ได้อยู่ไกลจากหาดมากนัก สามารถมองเห็นวิวสวยๆของหาดได้จากระเบียง รอบข้างตัวโรงแรมจะเรียกว่าเป็นชุมชนนั้นก็คงไม่ผิดนัก มีบ้านเรือนเรียงรายรวมทั้งร้านอาหารทะเล ไหนจะตลาดเล็กๆที่อยู่ห่างออกไปประมาณสองสามซอย

     

    ท้องไส้เล็กๆของแทอิลประท้วงโครกครากแข่งกับริมฝีปากอิ่มที่กำลังโอดครวญว่าหิวเต็มที อูจีโฮเลือกที่จะทิ้งรถไว้ที่โรงแรม แขนแกร่งยกขึ้นโอบรอบคอคนตัวเล็กไว้ ดวงตาคมถูกบังไว้ด้วยแว่นกันแดดสีดำ กลุ่มผมสีควันบุหรี่ถูกเสยขึ้นอย่างลวกๆ แทอิลเบะปากหมั่นไส้ในความดูดีนั่น

     

    เหมือนว่ากำลังจะลืมเรื่องเมื่อเช้าไปได้แล้วเชียว

     

    “กินข้าวแล้วไปตลาดตรงนั้นกัน” นิ้วสั้นๆชี้ตรงไปยังตลาดที่อูจีโฮเห็นผ่านระเบียงของโรงแรม คนตัวสูงส่งเสียงในลำคอตอบรับเล็กน้อย แขนแกร่งถูกดึงเข้าร้านอาหารใกล้ๆ มีรูปปั้นปลาหมึกตัวเบ้อเร่อตั้งอยู่หน้าร้านและดูเหมือนจะถูกใจอีแทอิลอยู่ไม่น้อย

     

    อาหารหลายอย่างถูกยกมาเสิร์ฟบนโต๊ะ มองถัดจากระเบียงของร้านที่ยื่นออกไป เป็นผืนน้ำทะเลที่แผ่กว้างออกไปดูงดงาม แต่ภาพคนตัวเล็กกำลังจดจ่อกับอาหารมื้อใหญ่ตรงหน้ากลับดูน่ามองกว่าผืนทะเลเป็นไหนๆ กลิ่นอายเค็มๆของน้ำทะเลที่พัดลอยมาเสริมให้อาหารมื้อโตนี้ดูน่าอร่อยขึ้นเป็นเท่าตัว

     

    อูจีโฮกินได้ไม่เยอะเท่าไหร่ ผิดกับคนข้างๆที่ดูเหมือนตอนนี้จะเดินไม่ไหวแล้ว คนตัวเล็กเกาะแขนแกร่งด้วยมือข้างเดียว ส่วนอีกข้างลูบพุงกลมๆของตัวเองพร้อมกับถอนหายใจหนัก อีแทอิลงอตัวเดินอย่างช้าๆ ใบหน้าหวานเหยเก

     

    “อย่าเดินเร็วสิ...” คนตัวเล็กครางฮือพร้อมกับรั้งคนตัวสูงไว้ “จุกอยู่นะ...”

     

    “ใครใช้ให้กินเยอะขนาดนี้เนี่ย” อูจีโฮขำพรืดแขนถูกยกขึ้นโอบรอบคอของอีแทอิล “สมน้ำหน้า”

     

    ตลาดตอนบ่ายแก่ๆดูครึกครื้นอยู่สักหน่อย มีนักท่องเที่ยวไม่มากนัก ร้านค้ามากมายเริ่มเปิดไฟสีส้มอ่อนทำให้บรรยากาศดูน่าเดิน ของฝากมากมายถูกแขวนเรียงรายไปทั่ว นิ้วยาวๆของจีโฮแตะเบาๆที่โมบายที่ทำจากเปือกหอย เสียงของมันกระทบกันดังกรุ้งกริ้ง กลิ่นหอมอ่อนๆจากปลาหมึกที่ถูกเสียบไม้ปิ้ง คนตัวสูงเอ่ยชวนอีกคนกิน แต่กลับได้คำตอบเป็นใบหน้าหวานที่เหยเกราวกับว่าตอนนี้จะอาเจียนเอาของเก่าออกมาให้ได้

     

    “อันนี้น่ารัก” อีแทอิลชี้ไปที่เครื่องประดับที่ทำจากเรซิ่นที่ถูกวางเรียงรายไว้บนแผง ดวงตาเรียวยาวของอูจีโฮมองแวนวงเล็กที่จี้ของมันถูกทำมาจากเรซิ่นใส ด้านในของมันมีดอกไม้เล็กๆอยู่ ราวกับว่าถูกฟรีซไว้ในนั้น หากแต่ดูสวยงาม

     

    “ดอกไม้มันจะไม่เหี่ยวแล้วใช่ไหมอ่ะ” คนตัวเล็กหยิบแหวนขึ้นมาพินิจ “ก็มันโดนแช่แข็ง.. สวยจัง”

     

    นิ้วเรียวของจีโฮลูบจี้สวยงามนั้นเบาๆ “ซื้อให้เอาไหม”

     

    ดวงตากลมมองใบหน้าหล่อพร้อมกับหรี่ลงเล็กน้อย “เดี๋ยวนี้ทำตัวเป็นป๋าเหรอ ไม่เอาอ่ะ แค่เห็นน่ารักดีเฉยๆ”

     

    แหวนวงสวยถูกวางไว้ตำแหน่งเดิมก่อนที่คนตัวเล็กจะดึงแขนคนตัวสูงให้เดินตาม นิ้วเล็กๆแทรกเข้าระหว่างช่องนิ้วยาวของอูจีโฮ นิ้วทั้งหาของทั้งคู่ประสานกันแน่นโดยที่แทบจะไม่รู้ตัว ลมเย็นๆยังคงพัดเข้ามาเป็นระลอก อีแทอิลตัดสินใจซื้อเสื้อผ้าสองสามชุดโดยให้เหตุผลว่ามาทะเลยังไงก็ต้องเล่นน้ำ แต่นอนจีโฮก็จำเป็นต้องซื้อด้วย เพราะดูเหมือนคนตัวเล็กคงจะไม่ยอมลงเล่นน้ำคนเดียวแน่ๆ

     

    “หือ หัวเหม็นอ่ะ” คนตัวเล็กกว่าบ่นอุบขณะอยู่บนหลังของจีโฮ จมูกน้อยๆย่นเข้ากันเป็นการบ่งบอกว่าเหม็นจริงๆ

     

    “หือ ตัวหนักอ่ะ”อูจีโอพูดเบาๆก่อนจะได้คำตอบเป็นการฟาดผลั้วะลงบนไหล่กว้าง อีแทอิลหัวเราะร่าก่อนจะกอดคอแกร่งของอีกคนแน่น อูจีโฮสายหัวช้าๆก่อนจะค่อยๆเดินออกจากลิฟต์ ทำไมถึงมาอยู่สภาพนี้ได้น่ะเหรอ ก็เจ้าตัวอ้วนนั้นบ้าซื้อของมากมายแล้วก็มางอแงให้คนตัวสูงถือให้

     

    แน่นอนว่าอูจีโฮไม่ถือให้แน่ๆ

     

    “ถือให้หน่อยเส่” ถุงพลาสติกสองสามถุงถูกยัดใส่กลางอกแกร่ง

     

    “ไม่” ใบหน้าหล่อยิ้มเยาะ “ของของใครคนนั้นก็ถือเองสิ”

     

    “เอางั้นเหรอ?”

     

    ใบหน้าหวานฉีกยิ้มกว้างก่อนจะวิ่งดุ๊กดิ๊กอ้อมตัวอูจีโฮมาพร้อมกับกระโดดขึ้นหลังคนตัวสูงอย่างรวดเร็ว ด้วยสัญชาตญาณแขนแกร่งต้องอ้อมหลังไปจับตัวอีกคนไว้ไม่ให้ร่วง เสียงหัวเราะคิกคักดังอยู่ข้างหู แขนของแทอิลเอื้อมมาโอบรอบคออีกคนไว้แน่น

     

    “ทำไรเนี่ย” อูจีโฮเอ่ยถาม “อายชาวบ้านหน่อยไหมเราอ่ะ”

     

    “ไม่อาย” แทอิลขำ “ก็ของของใครคนนั้นก็ถือไม่ใช่เหรอ”

     

    “...”

     

    “ก็แทอิลเป็นของจีโฮไง ไปสิ เดินๆๆ” 

     

    นั่นเป็นเหตุการณ์เมื่อสิบนาทีก่อนเป็นเหตุผลว่าทำไมอีแทอิลถึงมาอารมณ์ดีอยู่บนหลังเขาแบบนี้ คนตัวเล็กเอื้อมมือเอาบัตรห้องไปแตะเบาๆที่ประตูก่อนที่ประตูห้องพักของโรงแรมจะเด้งเปิดออกเบาๆ อูจีโฮรับน้ำหนักอีกคนไว้ด้วยมือเดียว ส่วนอีกข้างรับบัตรจากมือของแทอิลมาถือไว้พร้อมกับเอื้อมมือไปเปิดประตูออกกว้างเพื่อที่จะพาร่างของตัวเองโดยที่มีกุมารน้อยเกาะหลังเข้าห้องไปด้วย บัตรถูกเสียบไว้ในที่ของมัน ไฟและแอร์ถูกเปิดโดยอัตโนมัติ

     

    คนตัวเล็กถูกจับเหวี่ยงลงเป็นเตียง เสียงหัวเราะอย่างมีความสุขยังไม่หายไป อูจีโฮทิ้งตัวนอนแผ่ลงบนเตียงข้างอีกคน ริมฝีปากหนาๆกอบโกยออกซิเจนเข้าปอดอย่างเอาเป็นเอาตาย

     “น้ำหนักขึ้นหรือเปล่าเนี่ย ชั่งครั้งสุดท้ายหนักเท่าไหร่” คนตัวสูงเอ่ย

     

    “ย่าห์ นิดๆหน่อยๆเอง ไม่หนักขนาดนั้นซะหน่อย” อีแทอิลแก้ตัวอู้อี้อยู่ในลำคอ

     

    “ไหนขอดูหน่อย” สิ้นคำคนตัวสูงกลิ้งกลับตัวพร้อมกับมือแกร่งที่ถลกชายเสื้อยืดของอีกคนให้เปิดออก เจ้าของร่างกายเหวลั่นก่อนจะม้วนตัวหลบ หากแต่แขนแกร่งรวบเอาเอวนิ่มนั่นได้ก่อน มือแกร่งถลกชายเสื้อขึ้นเผยให้เห็นเนื้อนุ่มๆสีขาวที่กำลังพยายามเกร็งเต็มที่

     

    ริมฝีปากหนาก้มลงเป่าพุงนุ่มๆนั่นจนเกิดเสียง คนตัวเล็กร้องลั่นด้วยความจั๊กจี้ อีแทอิลดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมแขนอีกคน ก่อนที่อูจีโฮจะยอมปล่อยให้แทอิลกลิ้งหลบไปอีกทาง แก้มอวบน้ำสีเข้มอย่างน่าสงสาร

     

    “ไปอาบน้ำเลยไป! ตัวก็เหม็น! หัวก็เหม็น!

     

    เขาว่ากันว่าคนหมดทางสู้มักจะโวยวาย

     

    “สระผมให้หน่อยสิ..” คนตัวสูงจ้องใบหน้าสีระเรื่อที่อยู่อีกฝั่งของเตียง

     

    “ไม่!

     

    “นะ อย่าใจร้ายสิครับ..”

     

    “ไม่!!

     

    “เนี่ยใจร้ายอ่ะ อุส่าห์ขับรถตากแดดตากลมมาตั้งไกลไหนจะต้องเดินตลาดนานๆ ไหนจะแบกหมูอ้วนขึ้นมาชั้นสิบอีก ถ้าไม่รักก็ไม่ทำให้ขนาดนี้นะเนี่ย แถมยังจะโดนแฟนขับไสไล่ส่งไปอาบน้ำอีก ขอแค่สระผมให้แค่เนี้ยะ... ”

     

    “...”

     

    --

    ยังไงเหรอครับ

     

    “โอ้ยๆ เบาสิ นี่คนนะ” คนตัวเล็กเบ้ปากด้วยความหมั่นไส้พร้อมกับยังไงม่ลดละแรงขยี้ผมของอีกคน อีแทอิลนั่งทำหน้าบู้อยู่บนขอบอ่างอาบน้ำในขณะที่คนตัวสูงนอนแช่อยู่ในอ่าง ฟองฟู่ที่ลอยละล่องอยู่เหนือน้ำช่วยบดบังอะไรที่อีแทอิลไม่อยากเห็น ถึงอยากนั้นก็เถอะ แก้มอวบๆนั่นก็ยังคงเห่อร้อนไม่หยุดในขณะเริ่มล้างแชมพูออกให้

     

    “พอยังเนี่ย” อีแทอิลเอ่ยถามเสียงบู้บี้ “รีบๆอาบได้แล้ว อยากอาบบ้าง”

     

    คงจะได้ออกไปนอนตากแอร์รอต่อคิวอาบน้ำอยู่ข้างนอกอยู่แล้วเชียว ถ้าหากว่าไม่โดนแขนที่เต็มไปด้วยรอยสักของคนที่นอนสบายใจอยู่บนอย่างขนาดใหญ่รวบเข้าที่เอวพร้อมกับออกแรงดึงเต็มที่ ร่างเล็กเซถลาตามแรงดึงอย่างรวดเร็ว แขนเล็กๆปัดป่ายไปในอากาศด้วยความตกใจหวังจะหาที่ยึด ก้นอันน่าหวงแหนร่วงลงสัมผัสน้ำในอ่างดังตู้ม ศีรษะกลมเกือบจะฟาดเอากับขอบสระอีกข้างแล้วเชียวหากแต่มือแกร่งประคองไว้ทัน แต่ก็แค่นั่นแหละ น่องขาวๆของแทอิลฟาดโผล้ะเข้ากับขอบอ่างอย่างแรง

     

    ห้องน้ำหรูหราเงียบสนิทอยู่ราวสามวิ อีแทอิลหอบหายใจแรงด้วยความตกใจ

     

    “ย่าห์!!!! อูจีโฮทำอะไรเนี่ย!!

     

    “....อาบน้ำ”

     

    “อาบน้ำอะไรเนี่ย! ถ้าล้มหัวฟาดขอบอ่างตายเป็นผีเฝ้าห้องน้ำมาจะทำยังไง”

     

    “จะตายตาม”

     

    โผล้ะ เหมือนโดนคิวปิดปาระเบิดลงกลางใจ

     

    “แล้ว..ละ..แล้วมันใช่เรื่องไหมเนี่ย....”

     

    คนตัวสูงหัวเราะอย่างอารมณ์ดี ใช้แขนของตัวเองดึงอีกคนให้ลงมาอยู่ในอ่างน้ำกว้างๆนี้ด้วยกัน เสื้อผ้าของอีแทอิลเปียกแฉะไปหมด คนตัวเล็กตั้งท่าจะดันตัวเองลุกจากอ่าง ราวกับอ่านใจออก อูจีโฮจัดการล็อคคออีกคนไว้เรียบร้อย แทอิลโดนกดให้นอนราบทับร่างกายหนั่นกล้าม

     

    “รู้ไหมว่าตัวเองก็หัวเหม็นเหมือนกันอ่ะ”

     

    ไล่ปล้ำถอดเสื้อคนตัวเล็กพักใหญ่ เสื้อยืดสีอ่อนก็ไปนอนแอ้งแม้งอยู่ข้างอ่าง กลุ่มผมสีขนกาปกคลุมไปด้วยฟองแชมพูกลิ่นหอม อูจีโฮถึงไม่ไม่เห็นหน้าของอีกคนเพราะโดนหันหลังให้แต่ก็พอเดาได้เพราะใบหูนั่นขึ้นสีแดงเถือก คนตัวสูงขยำกลุ่มผมนุ่มอย่างสนุกสนาน

     

    เอื้อมมือไปเปิดฝักบัวที่อยู่ไม่ไกลนัก คนตัวสูงผิวปากอย่างอารมณ์ดี ตอนนี้ห้องน้ำกลายเป็นซาลอนขนาดเล็กไปแล้ว คนตัวเล็กนั่งกอดเข่าตัวเองราวกับนักโทษ

     

    “เงยหน้าขึ้นหน่อยสิ เดี๋ยวน้ำก็เข้าตาหรอก” จีโฮเอ่ยดุ

     

    “โอ้ยๆๆ เข้าตา แสบๆ โอ้ย..”

     

    “นั่นไงล่ะ อย่าขยี้” อีแทอิลโดนจับหมุนตัวให้หันหน้าเข้าหา มือสากของจีโฮใช้น้ำลูบใบหน้าอีกคนอย่างเบามือ “ลืมตาหน่อยครับ”

     

    “ไม่ได้อ่ะ..แสบ...”

     

    “ชู่วๆ แปปเดียวครับ ลืมตาก่อน” ดวงตากลมพยายามเปิดเปลือกตาของตัวเองขึ้น จีโฮใช้น้ำสะอาดลูบเบาๆพร้อมกับเป่าลมน้อยๆราวกับว่าจะเป่าให้อาการแสบให้หายไป คนตัวเล็กกระพริบตาถี่ๆอยู่หลายครั้งก่อนจะลืมตาอย่างปกติได้ “..เป็นไงล่ะ”

     

    “เหม็นปากอ่ะ” คนตัวเล็กหัวเราะร่า

     

    “จริงเหรอ ไหนดมใหม่สิ”  ริมฝีปากหนาๆพ่นลมใส่ใบหน้าหวานคนอีกคนย่นจมูก “เหม็นจริงปะ”

     

    “แหยะๆๆ” ถึงแม้คนตัวเล็กจะแอคติ้งว่าเหม็นปากแต่ริมฝีปากสีสดกลับหัวเราะร่าอย่างไม่หยุด “อ๊าอูจีโฮ!

     

    มือแกร่งเอื้อมมาจิ้มแถวเอวอวบของอีแทอิลทำเองอีแทอิลกระตุกเกร็ง ก่อนจะดิ้นพล่าน ร่างอวบๆของอีแทอิลบิดตัวหนีมือกว้างๆที่พยายามจะจี้เขาอยู่เรื่อย แขนแกร่งโอบเอวอวบแน่นพร้อมกับดึงเข้ามาใกล้จนแผ่นหลังเล็กแนบไปกับอกแกร่ง

     

    “ย่าห์ๆๆ” คนตัวเล็กเกร็งตัวแน่น “ไม่ต้องชิดขนาดนี้ก็ได้มั้ง แทอิลไม่อยากจะ...”

     

    แต่แล้วขนก็ลุกวูบเมื่อสันจมูกคมปัดผ่านต้นคอ “..ไม่อยากจะอะไรครับ”

     

    “...ไม่อยากจะ...”โดนอะไรต่อมิอะไรน่ะสิ แทอิลคิดในใจก่อนจะส่ายศีรษะหวือ “เปล่า...”

     

    “เปล่าก็ไม่ปล่อย”

     

    ไม่ปล่อยก็ยังไม่เท่ากับจมูกโด่งที่ซุกซนอยู่แถวบริเวณต้นคอนี้หรอก คนตัวเล็กส่งเสียงงอแงพยายามหดคอหนีอีกคน พลันจะบิดตัวหนีเพื่อหันหน้ามาประชันแต่แขนแกร่งกลับกอดรั้งไว้ไม่ให้ขยับ มีเพียงกางเกงของอีแทอิลเท่านั้นพี่ปิดกั้นอะไรต่อมิอะไรที่อยู่เบื้องล่าง ทำให้คิดได้ว่า...อูจีโฮน่ะอยู่สภาพไหน

     

    ใบหน้าขาวของอีแทอิลเห่อร้อนขึ้นมาอีกครั้ง

     

    “หยุดดิ้นสิ” ริมฝีปากหนากระซิบชิดใบหู “เดี๋ยวดิ้นไปโดนอะไรเข้า อย่าหาว่าไม่เตือนนะ”

     

    “...ฮื้อ......”คนตัวเล็กแทบจะร้องไห้ลงมาตรงนั้น

     

    จมูกคมก้มลงสูดกลิ่นหอมบนลาดไหล่เล็ก อีแทอิลเกร็งตัวแน่น หัวใจดวงน้อยเต้นแรงจนแทบกระเด็นหลุดออกมานอกอก แทอิลไม่ใช่เด็ก แทอิลรู้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น มือปลาหมึกกำลังไล่บีบเค้นเนื้อขาวใต้น้ำอย่างสนุกมือ พลันปัดผ่านจุดสีอ่อนกลางหน้าอกทำเอาคนตัวเล็กเม้มปากแน่น ก่อนจะดันแขนแกร่งให้หลุดออกจากตัวพร้อมกันหันหน้ามาประชันอีกคนหมายจะหยุดกิจกรรมที่กำลังจะเกิด

     

    หากแต่ว่าร่างสูงกลับขยับเคลื่อนเข้ามาใกล้กว่าเดิม มือเล็กยกขึ้นดันแผ่นอกกว้างที่เคลื่อนเข้ามาใกล้  ดวงตาเรียวคมจ้องดวงตากลมของอีแทอิลด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหมายทำเอาร่างเล็กไม่กล้าขยับตัวหนี มือแกร่งรวบข้อมืออีกคนไว้ด้วยมือเดียว ก่อนจะใช้อีกข้างเชยคางอีกคนขึ้นมา ริมฝีปากสีสดถูกรุกรานด้วยริมฝีปากหนาของคนตัวสูง

     

    ไม่เหมือนครั้งก่อน ร่างเล็กราวกับถูกเผาด้วยไฟ อีแทอิลเผลอปล่อยกายโอ่นอ่อนไปตามเกมส์ สติที่มีอยู่น้อยนิดถูกดึงออกจนหมด อูจีโฮปล่อยแขนทั้งสองข้างให้เป็นอิสระ มือเล็กทั้งสองข้ามยกขึ้นโอบรอบคอหนาด้วยความเคลิ้บเคลิ้ม ริมฝีปากไล่ประทับจูบบนในหน้าหวานด้วยความรักใคร่ คนตัวเล็กหายใจติดขัดด้วยความเคอะเขิน

     

    มือแกร่งไล่บีบเฟ้นเนื้ออ่อนใต้ผิวน้ำ ลากไล้นิ้วยาวตามแนวยาวของซี่โครงไปถึงสะโพกมน ริมฝีปากหนาขบเม้มเนื้อเนินอกจนขึ้นสีระเรื่อ ฝากรอยสัญลักษณ์ไว้ให้เขินเล่นๆ ปลายลิ้นตวัดผ่านยอดอกอย่างวาบหวาม เรียกเสียงครางอื้ออึงให้หลุดจากริมฝีปากอิ่มได้ แขนแกร่งรวบขาทั้งสองข้างของอีกคนไว้ที่เอวสอบของตัวเอง

     

    “...ไม่อยากจมน้ำตาย..”

     

    อูจีโฮดันตัวเองให้ลุกขึ้นจากน้ำยืนเต็มความสูงโดยที่ร่างเล็กเกาะเกี่ยวอยู่ที่เอว ใบหน้าหวานซุกเข้ากับซอกคอแกร่งด้วยความเขินอาย เพียงชั่วครู่แผ่นหลังเล็กก็แนบลงกับเตียงกว้าง ใบหน้าหวานมุดเข้ากับเตียงนุ่ม ไม่อยากจะมองเห็นร่างหนั่นกล้ามเปลือยเปล่าที่กำลังคร่อมอยู่ด้านบน

     

    รสจูบหวานหอมกลับเข้ามาดำเนินเกมส์ต่ออีกครั้ง อูจีโฮใช้มือปลดพันธนาการชิ้นสุดท้ายให้หลุดออกจากคนเบื้องล่าง พลางบีบเฟ้นทุกส่วนบนร่างกายหมายจะปลุกเร้า ลิ้นหนาลากไล้ตามลำคอลงมาถึงหน้าท้องขาวเนียน กดจูบเบาๆบนท้องพลุ้ยๆให้จั๊กจี้เล่นราวกับจะแกล้ง

     

    “ฮื่ออ..”

     

    คนตัวเล็กครางฮื่อเมื่อมือแกร่งกอบกุมความต้องการของตนไว้ด้วยมือเดียว ดวงตาพร่ามัวไปด้วยน้ำตาแห่งความเขินอาย ริมฝีปากเม้มแน่นเมื่อถูกชักนำอย่างเชื่องช้า ความรู้สึกวูบวาบตรงท้องน้อยทำให้มือเล็กปัดป่ายไปบนเตียงหมายจะหาที่ยึด นิ้วเรียวกำผ้าห่มผืนหนาไว้ในมือ ใบหน้าหวานสะบัดไปมาด้วยแรงอารมณ์

     

    “ฮึก..” มืออีกข้างของคนตัวเล็กถูกเจ้าตัวยกขึ้นกัดไว้เพื่อที่จะได้ไม่หลุดเสียงน่าอายออกมา “อึก..ฮึก..”

     

    อูจีโฮมองใบหน้าที่กำลังทรมาน ก่อนที่มือแกร่งจะหยุดกิจกรรมตรงหน้า ริมฝีปากยกยิ้มเล็กน้อย ดวงตาที่หลับแน่นเบิกกว้างมองใบหน้าหล่อเหล่า แววตาเปื้อนหยาดน้ำกำลังสั่นระริก คนตัวเล็กประท้วงเสียงอ้อยอิ่ง รู้สึกเหมือนจะขาดอากาศหายใจอยู่ร่อมร่อ

     

    “จีโฮ...ฮึก..” หยาดน้ำตาใสกลิ้งตกลงบนพื้นเตียง “..จีโฮ”

     

    “ครับ?” คนตัวสูงมองอีกคนที่เหมือนพยายามจะพูดอะไรหากแต่กลับไม่ยอมพูด แต่อูจีโฮก็รู้สิ่งนั้นดี

     

    “ฮื่อออ” คนตัวเล็กเบนหน้าหนีสายตาเจ้าเล่ห์ที่กำลังจ้องลงมา “..อย่าแกล้ง..ฮึก..มัน..”

     

    ความรู้สึกมันตีรวนในท้องน้อยวุ่นวายไปหมดหากแต่โดนปิดกลั้นไม่ให้ระเบิดออกมา อูจีโฮดูสนุกเหลือเกิน “หื้ม? อะไรนะ?”

     

    “มัน..ฮึก.. อึดอัดนะ.. ไม่ไหว.. มัน..”

     

    ท้ายประโยคโดนริมฝีปากหนากลืนลงคอไปจนหมด อีแทอิลพยายามเรียกสติตัวเองคืนมาเมื่อเกมส์ถูกเริ่มขึ้นอีกครั้ง ก่อนจะกระตุกเกร็งแน่นพร้อมกับคลื่นความรู้สึกจะระเบิดออกมา หากแต่เกมส์ไม่ได้จบลงตรงนั้น ไม่ทันที่คนตัวเล็กจะได้กอบโกยสติให้กลับคืน แต่คนตัวสูงกำลังล้วงล้ำเข้ามามากขึ้น

     

    มากขึ้น

     

    และมากขึ้น

     

    เพลงรักดำเนินต่อไปอย่างเชื่องช้าหาก มีดวงจันทร์และดวงดาวมากมายเป็นพยานบทเพลงครั้งนี้ ท่วงทำนองถูกเร่งเร้าให้ร้อนแรง ราวกับพายุกำลังโหมพัด ความรู้สึกเอ่อล้นทะลัก ร่างกายทั้งสองถูกหลอมรวมให้กลายเป็นหนึ่งเดียว เกาะเกี่ยวแนบชิดไม่ให้แม้แต่อากาศธาตุได้มีสิทธิ์แทรกตรงกลาง เสียงแว่วหวานคลอเคลียอยู่ข้างหูไม่ต่างจากคนตัวสูงที่พร่ำบอกคำรักอยู่ไม่ห่าง

     

    --

     

    อากาศเย็นจากแอร์คอนดิชั่นเนอร์ทำเอาร่างเปลือยเปล่าของอีแทอิลขดตัวเป็นกุ้ง แขนเล็กๆกวาดไปด้านข้างหมายจะหาร่างกายอบอุ่นหากแต่แขนเล็กๆนั่นพบแต่ความว่างเปล่า ดวงตากลมปรือขึ้นช้าๆ ไม่พบร่างของอูจีโออยู่บนเตียงแต่อย่างใด อีแทอิลดันร่างตัวเองให้ลุกขึ้นนั่งกวาดสายตาไปรอบห้อง

     

    เสียงทุ้มดังอยู่ในห้องน้ำ ราวกับสัตว์ใหญ่ที่กำลังทรมาน คนตัวเล็กคว้าชุดคลุมอาบน้ำที่วางอยู่ไม่ไกลขึ้นมาสวม แม้ร่างกายจะแอบระบมอยู่เล็กน้อยแต่ก็ไม่ถึงกับเดินไม่ได้ มือเล็กดันประตูห้องน้ำที่แง้มอยู่ให้เปิดออก อูจีโฮกำลังนั่งคุกเข่าอยู่บนพื้น แผ่นหลังกว้างกำลังกระตุกเกร็งรุนแรงพร้อมกับออกแรงอาเจียนอย่างหนัก

     

    “..จีโฮ..” คนตัวสูงสะดุ้งเฮือกเล็กน้อย หากแต่ไม่สามารถหันกลับมาหาอีกคนได้ มือเล็กแตะหลังของอีกคนพร้อมกับลูบเบาๆ “..ไม่เป็นไรนะไม่เป็นไร”

     

    ดวงตากลมโตของแทอิลกำลังเอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำตา แทอิลรู้ว่ามันคืออะไร คนตัวสูงกำลังทรมานอย่างหนัก เมื่อช่วงเช้าคนตัวเล็กแอบเปิดอินเตอร์เน็ตหาข้อมูลบางอย่างนิดหน่อย จึงรู้ได้ว่าอาการตอนนี้ คืออาการ ขาดยา

    อาการขาดยา

    • อาการทุรนทุราย ทุกข์ทรมาน
    • กระวนกระวาย  ฟุ้งซ่าน
    • น้ำมูก น้ำตาไหล ขนลุก เหงื่อออก
    • ปวดท้อง และอาเจียน อย่างรุนแรง
    • เพ้อคลั่ง ขาดสติ
    • บางรายชัก และหมดสติ อาจเสียชีวิตได้

     

    “ไม่เป็นไรนะจีโฮ..” คนตัวเล็กเอ่ยปลอบประโลม มือเย็นยะเยือกของอูจีโฮเอื้อมมือกำแขนของแทอิลไว้ราวกับต้องการที่พึ่ง ร่างสูงกระตุกเกร็งอยู่อีกไม่กี่ครั้งก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งกับพื้นห้องน้ำอย่างอ่อนแรง อาการปวดท้องยังไม่หายไป ใบหน้าหล่อเหลาซีดราวกับกระดาษขาว

     

    ดวงตาเรียวคมหลับแน่น “แทอิล..แทอิล..”

     

    “อยู่นี่แล้ว..ฮึก..อยู่นี่แล้ว” เหงื่อเม็ดโตผุดขึ้นมาตามขมับของอูจีโฮ มือสั่นระริกด้วยความกลัวของอีแทอิลยกขึ้นลูบใบหน้าหล่อราวกับจะเน้นย้ำว่าตัวเองอยู่ตรงนี้

     

    จีโฮดันร่างของแทอิลให้ออกห่างก่อนจะหันไปอาเจียนลงชักโครกอีกระลอก อาเจียนจนไม่มีอะไรจะออก แต่ว่าร่างสูงก็ยังไม่หยุดกระตุกเกร็งนั่น อีแทอิลยกมือขึ้นปิดหน้าตัวเองอย่างไม่รู้จะทำยังไงดี จีโฮกำลังทรมาน และอีแทอิลทนเห็นไม่ได้ คนตัวเล็กคว้าร่างอ่อนแรงของอูจีโฮก่อนจะเริ่มค้นของในกางเกงที่คนตัวสูงใส่อยู่ หากแต่ไม่พบอะไร

     

    “ไม่ได้เอามาเหรอ..” คนตัวเล็กถามด้วยอาการสั่นเครือไม่ต่างจากคนตัวสูงนัก “ยาน่ะ.. จีโฮไม่ได้เอามาเหรอ”

     

    ใบหน้าอ่อนแรงส่ายไปมาเป็นการปฏิเสธ อีแทอิลยกกำปั้นขึ้นมาทุบอกแกร่งของอีกคนอย่างเหลืออด “ไอ้บ้า..ฮึก”

     

    “...”

     

    “ทำไมไม่เอามาล่ะ..” คนตัวเล็กสะอื้นไห้ “รู้ว่าทนไม่ไหวแล้วทำไมไม่เอาล่ะ!! อูจีโฮ! ไอ้คนบ้า!

     

    “...ละ..เลิก” ริมฝีปากหนาเอ่ยถ้อยคำแผ่วเบา “..ให้แทอิลนะ..”

     

    “..ฮึก..”

     

    “จะ..ทนให้ได้..อึก” น้ำตาเม็ดโตไหลลงจากหางตาเรียวของอูจีโฮ

     

    “...”

     

    “จะทำให้แทอิล..นะ..”

     

    “ฮึก..ไอ้คนบ้า..”

     

    --

     

    กรี้ดแรง หนูไม่รู้ หนูไม่รู้ หนูไม่ได้หื่นนนนน

    #ฟิคขาวดำ 

    @SQWEEZ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×