ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    มาเฟีย...ที่รัก

    ลำดับตอนที่ #1 : เปิดเทอมและเจ้าชายในฝัน

    • อัปเดตล่าสุด 29 ธ.ค. 49


    เย้! เปิดเทอมแล้วเว้ย!!! วันนี้แหละฉันจะเริ่มต้นชีวิตเด็กสายวิทย์-คณิตฯ ที่แสนจะสดใสอย่างมากมายฮ่าๆๆๆ ฉันรอวันนี้มานานเหลือเกินนานแส๊นนาน แส๊นนาน เอิง เอิง เอยยยย~~~~ (เฮอะ! เริ่มต้นตอนแรกก็ให้ฉันบ้าเลยนะยะ) (แหะๆ โทษทีนะ โทษทีแหะๆ: ผู้แต่ง) ที่รอมานานก็เพราะว่าปีนี้ฉันอยู่ชั้นม.5 แล้วน่ะสิ เป็นชั้นม.ปลายที่ฉันใฝ่ฝันที่จะอยู่มาตลอดเฮ้อ! ช่างเถอะๆ พร่ามไปก็เท่านั้น ฉันอยากรู้แล้วว่าฉันได้อยู่ห้องไหน อูย~~ ตื่นเต้นๆ ตื่นเต้นจังเล้ย~~~ ดูห้อง 5/1 ก่อนดีกว่า...ฉันก็ไม่ได้หวังที่จะเป็นเด็กที่อยู่ห้องคิงสายวิทย์ฯ หรอกนะแต่...ดูไว้หน่อยดีกว่า ฮิ ฮิ ฮิ ^o^ เอ....หูย! ~~ มีแต่พวกอัจฉริยะทั้งน้านนน~~~ เลยนะเนี่ย ฉันคงไม่มีสิทธิ์หรอกแต่เอ๊ะ! เลขที่ 19 ชื่อคุ้นๆ แฮะเอ...-_-a ธณัทฐา...เหรอ...หา! นั่นมันชื่อไอ้เธียรนี่หว่าทำไมมันถึงได้อยู่ห้องคิงวิทย์ฯ เนี่ยเอ๊ะ! ทำไมต้องสงกะสัยด้วยเนี่ยก็ไอ้เธียรมันเรียนเก่งนี่หว่าตั้งแต่ที่รู้จักกันมาตั้งแต่ป.5 ไอ้นี่มันสอบได้ที่ 1 เกือบทุกปีเลยล่ะจะบอกให้ เหอ เหอ เหอ แล้วทำไมตูต้องสงกะสัยด้วยฟะ-_-? ดูต่อๆ อะ...อะไรกันเนี่ย!!!! เป็นไปได้ไง? พะ...เพียรเพลง...เพียรเพลงงั้นเหรอ? นั่นมันชื่อไอ้เปียโนนี่หว่าเป็นไปได้ไงว้า~~~ เออ...ใช่! ไอ้นี่มันได้รองท๊อปวิชาวิทย์ฯ-คณิตนี่หว่าทำไมต้องตกใจด้วยฟะ-_-? แล้ว....แล้วเราล่ะเพื่อนสนิทเราได้อยู่ห้องคิงวิทย์ฯ ทั้ง 2 คนแล้วเราล่ะอยู่ห้องไหน......

                              จ้ะเอ๋! คุณหนูนาโนะอรุณซาหวัดยามเช้าที่สดใสในวันเปิดเทอมใหม่จ้า~~~~”เอ๊ะ! เสียงคุ้นๆ นั่นมันเสียงไอ้เปียโนนี่หว่า โอ๊ะ! ไอ้เธียรก็อยู่ด้วยยืนยิ้มอยู่ เฮอะ! คิดจะมาเยาะเย้ยฉันล่ะสิ!

                              อื้ม! หวัดดีเปีย...อรุณสวัสดิ์ยามเช้าเธียรฉันพูดด้วยเสียงที่มืดมนมากกกกกกก~~~~ เลยล่ะ

                              ปะ...เป็นไรอ่ะนาโนะทำไมซึมอย่างนี้ล่ะไม่ดีใจเหรอที่พวกฉันได้อยู่ห้องคิงวิทย์ฯ กับ...อุ๊บ!”ยัยคุณหนูเพียรเพลงยังพูดอะไรไม่ทันจะจบฉันก็อุดปากอันบางเฉียบสีชมพูของคุณเธอไว้ด้วยลูกอมรสสเตอเบอรี่

                             ไม่ต้องมาเยาะเย้ยฉันหรอกเรื่องที่พวกเธอได้อยู่ห้องคิงวิทย์ฯ กัน 2 คนน่ะไม่ต้องเยาะเย้ยฉันหรอกฉันพูดด้วยเสียงกลั้นน้ำตาเอาไว้ ก็มันเสียใจนี่นาที่เพื่อนที่คบกันมาตั้งแต่ป.5 ที่ไม่เคยมีนิสัยชอบอวดชอบหรือเยาะเย้ยเพื่อนจะมาเยาะเย้ยกันอย่างนี้ ฮือ~~ คิดแล้วก็อยากร้องไห้ ฮือๆๆๆๆY^Y

                        พะ...พูดอะไรน่ะนาโนะฉันกับเธียรไม่เห็นจะรู้เรื่องเลยเยาะเย้ยอะไรกัน?”เปียพูด

                                   ฉันก็พูดเรื่องที่เป็นจริงน่ะสิ...ถ้าพวกเธอคิดจะมาเยาะเย้ยฉันล่ะก็เงียบไปเลยฉันไม่อยากได้ยิน ตั้งแต่คบเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่ป.5 ฉันเพิ่งรู้ว่าพวกเธอเป็นคนที่ชอบเยาะเย้ยคนอย่างนี้...ฉันไปล่ะ ToTฉันพูดด้วยสีหน้าที่มีน้ำตาครอเบ้า เดินออกมาจากที่ตรงนั้นที่ๆ มีไว้เฉพาะพวกอัจฉริยะเท่านั้น T^T (อันที่จริงใครจะยืนจะนั่งจะนอนก็ได้...ที่ตรงนั้นน่ะแต่ฉันพูดประชดไปงั้นแหละ)

                              แล้วนั่นเธอจะไปไหนน่ะนาโนะ?”เสียงที่เป็นการเป็นงานที่สุดสำหรับฉันถามขึ้น

                              ก็ไปห้องเรียนของฉันน่ะสิฉันหันหน้าไปตอบ

                              แล้วเธอรู้รึยังล่ะว่าห้องเรียนเธออยู่ไหน?”เธียรถามฉันต่อ เออ...จริงฉันยังไม่รู้เลยว่าฉันได้อยู่ห้องไหนแล้วฉันจะเดินไปไหนล่ะเนี่ย -_-?

                              ยัง...ยังไม่รู้ฉันตอบตามความจริงด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย

                               ฉันรู้แล้วล่ะว่าเมื่อกี้นี้นาโนงอนเราทำไมเธียรหันไปกระซิบกระซาบกับเปียโน แต่ขอโทษเถอะนะคะขอบอกไว้อย่างว่าไอ้กระซิบกระซาบของไอ้ 2 คนนี้เนี่ยมันดังไปถึงทวีปอเมริกาใต้เลย-_-;

                     อื้อใช่ ฉันก็รู้แล้วเปียโนกระซิบตอบกลับ แต่ขอโทษอีกครั้งเถอะนะคะไอ้เธียรน่ะแค่ไปถึงอเมริกาใต้แต่ไอ้คำว่ากระซิบกระซาบของไอ้เปียน่ะดังไปถึงขั้วโลกใต้เลย-_-; (โอเวอร์เกินไปแล้วย่ะ: ผู้แต่ง)

                             แล้วทำไมเธอถึงไม่ไปดูก่อนล่ะว่าเธออยู่ห้องไหน?”เธียรหันกลับมาคุยกับฉันอีกครั้ง

                             ก็ได้ฉันพูดและเดินดุ่มๆ ไปที่บอร์ดบอกชั้นเรียนโดยที่ไม่มองหน้ายัยคุณหนูทั้ง 2 คนเลยแม้แต่น้อยก็แหม! คนมันกำลังอารมณ์บ่จอยนี่นา~~ ทำไงได้ล่ะ

                             ไหนหว่า~~-_-?”ฉันพึมพำกับตัวเองเบาๆ ก่อนที่จะใช้นิ้วชี้ที่เรียวงามไล่ไปตามแผ่นกระดาษรายชื่อที่ขาวสะอาดปราศจากรอยใดๆ

                              อ้าว! ทำไมถึงไม่หาจากห้องทับ 1 ก่อนล่ะสาวน้อยหน้าใสนามว่าเปียโนทักท้วงฉัน

                              หาไปก็เท่านั้นแหละฉันไม่ได้อยู่ห้องคิงเหมือนเธอหรอกฉันว่าอย่างประชดประชันสุดๆ

                  งั้นก็ตามใจเปียว่าพลางยักไหล่และเดินไปนั่งกับเธียรที่ม้านั่ง เชอะ! นั่งมองฉันอย่างงี้จะนั่งเยาะเย้ยกับสมน้ำหน้าฉันล่ะสิ เฮอะ! ฝันไปเถอะย่ะ

                              เอ...แล้วมันอยู่ไหนหว่า~~~ ทับ 5 ก็ไม่มี ทับ 4 ก็ไม่มี ทับ 3 ก็ไม่มี....โอเค โอเค ใจเย็นๆ ก่อนนาโนะเธออาจจะได้อยู่ทับ 2 ก็ได้ ใจเย็นๆฉันพูดให้กำลังใจตัวเองเสร็จแล้วก็เอานิ้วชี้อันเรียวงามของฉันไล่ไปตามแผ่นกระดาษรายชื่อนักเรียนของห้อง 5/2ไปเรื่อยๆๆๆ แล้วก็เรื่อยๆ จนไปถึงเลขที่ 55 เลขที่สุดท้ายของห้อง...แล้วก็พบว่า...ไม่มีชื่อฉันเลยอ่ะT^T อ๊ากกกกกกกก~~~! ไม่น้า~~~~~~~

                    ไม่ๆๆๆๆๆๆ มันต้องมีชื่อฉันสิชื่อฉันๆๆๆๆ ชื่อช้าน~~~ อยู่หนาย~~~~ ฮือๆๆๆๆๆๆๆ อย่าบอกนะว่าคะแนนวิชาวิทยาศาสตร์กับวิชาคณิตศาสตร์ไม่ดี แล้วถูกย้ายไปอยู่สายภาษาน่ะ อ๊ากกกกกก~~ ไม่! ฉันไม่ยอมเด็ดขาด! ฉันอุตส่าห์ตรากตรำมาทั้งปีการศึกษาที่เรียนอยู่ชั้นม.4 เพื่อที่จะได้เรียนต่อสายวิทย์ฯ ต่อไป...แล้วนี่อะไรทำมาย~~~ ฉันถึงไม่ได้เรียนอยู่สายวิทย์ฯ ฮึกๆTT^TTฉันพูดพึมพำกับตัวเองพลางทำหน้าจะร้องไห้อยู่ลอมล่อ ก็มันเสียใจนะอุตส่าห์ตรากตรำเป็นเด็กเรียนพยายามตั้งใจสุดชีวิตที่ตั้งใจน่ะเหรอก็เพราะว่าฉันน่ะอยากเป็นหมอไม่รู้ทำไมเหมือนกันเกือบทุกคนในครอบครัวของฉันจะทำงานเกี่ยวกับพวกวิทยาศาสตร์หรือคณิตศาสตร์ทั้งนั้นคือแบบว่าเก่งกันแบบเป็นพวกอัจฉริยะกันเกือบทุกคนเลยทางด้านวิทย์ฯ-คณิตฯ เนี่ย...แต่ทำม้าย~~~ ทำไมถึงไม่ค่อยแบ่งสมองทางด้านนี้มาให้ฉันมั้งเลยแต่ก็ไม่ใช่ว่าฉันจะไม่ได้เรื่องอะไรเลยนะแต่ฉันไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่น่ะแต่ว่า...คิดดูสิฉันกลับเก่งทางด้านภาษามากกกกกกก~~~~~~ (แบบว่ามากจริงๆ น่ะ) ถึงมากที่สุดเลยล่ะแบบว่าเก่งแบบไม่ได้ตั้งใจน่ะ ก็คิดดูสิไอ้พวกภาษาๆ น่ะในครอบครัวของฉันน่ะมีคนที่ทำงานเกี่ยวกับภาษาก็แค่ภรรยาของน้องชายของพ่อฉันที่ทำงานเป็นล่ามแค่คนเดียวโดยไม่เกี่ยวพันกับสายเลือดของฉันแต่อย่างใดก็แค่มาแต่งงานกับน้องชายของพ่อฉันเท่านั้นทำไมมันถึงมาถ่ายทอดถึงฉันได้ฟะ!!! TT^TT ครอบครัวของฉันน่ะนะคิดดูเอาเองเหอะมีทั้งวิศวฯ แพทย์ สัตวแพทย์ นารีแพทย์ ทันตแพทย์ กุมารแพทย์ จักษุแพทย์มั่งล่ะ ทำงานธนาคารที่เกี่ยวกับคณิตศาสตร์มั่งล่ะ ครูสอนคณิตฯ มั่งล่ะ สอนวิทย์ฯ มั่งล่ะคิดดูสิชีวิตของฉันรันทดแค่ไหนไม่ค่อยมีพรสวรรค์ทางด้านนี้...กลุ้ม!!!! และที่กลุ้มกว่านี้ก็คืออาจารย์ทางด้านสายภาษากับทางด้านสายวิทย์ฯ น่ะเห็นว่าฉันน่าจะไปเรียนเกี่ยวกับภาษามากกว่าด้วยเหตุผลที่ว่าคะแนนภาษาอังกฤษของฉันไม่เคยต่ำกว่า 98 คะแนนเลยน่ะสิโคตะระกลุ้มเลย อาจารย์เลยบอกว่าให้ฉันไปเรียนทางด้านภาษาน่าจะดีกว่าแต่ฉันไม่ยอมขอลองอยู่สายวิทย์ฯ ดูก่อนแต่อาจารย์ก็ยอมนะแต่มีข้อแม้ว่าคะแนนวิชาวิทย์ฯ กับคณิตฯ ของฉันต้องให้สูง 85 คะแนนขึ้นไป ถ้าต่ำกว่านี้ล่ะก็...ฉันจะถูกย้ายไปอยู่สายภาษาอ่ะดิ ฮือ~~ อยากจะบ้า ก็ใครมันจะไปทำได้ล่ะ ก็ไอ้คนที่ได้คะแนน 2 วิชานี้ไม่เคยเกิน 80 คะแนนตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมาอย่างฉันใครมันจะไปทำได้ ฉันเองก็ยังไม่รู้คะแนนตัวเองเลย ก็เพราะอาจารย์อีกนั่นแหละที่ไม่ยอมให้ฉันดูคะแนนเหมือนคนอื่นบอกว่าให้ฉันมาดูว่าฉันได้อยู่ห้องไหนเลยตอนเปิดเทอม ฮึกๆ อยากจะบ้าแล้วนี่อะไรไม่มีชื่อช้าน~~~ เล้ย~~!

               โอ้ย!!! กลุ้มแล้วนะเว้ย!!!! >O<!!

                     ไง มีชื่อเธอมั้ยล่ะ^_^?”เปียกับเธียรถามฉันพร้อมกันพลางเดินตบบ่าฉันคนละข้าง เชอะ! คิดจะเยาะเย้ยฉันรึไง ฮึกๆ ฮือๆๆๆๆๆ T^T

                 ไม่มีฉันหันหน้ามาตอบทั้ง 2 คนด้วยสีหน้าและน้ำเสียงที่เรียบเฉยแต่ในใจฉัน...เศร้าอ่ะ ToT      

     เห็นมั้ยล่ะฉันบอกแล้วว่าให้ดูที่ทับ 1 ก่อนเชื่อฉันรึยังล่ะ?”เปียพล่ามต่อไป

    แล้วจะดูให้มันได้อะไรขึ้นมาล่ะ...ยังไงก็ไม่มีชื่อฉันอยู่แล้ว...ถอยฉันจะไปดูรายชื่อฉันที่ตึกภาษาฉันพูดอย่างไร้ความสงสารเพื่อนทั้ง 2 คนที่พยายามอย่างยิ่งที่จะให้ฉันไปดูรายชื่อที่ห้องทับ1

    มีเหตุผลมั้งสินาโนะ...ไปดูให้มันครบทุกห้องก่อนสิเธียรพูดด้วยเสียงที่ฉันคิดว่ากำลังระงับความโกรธอยู่...ฮึ! ฉันไม่สนหรอกฉันมีเหตุผลพอแล้วฉันจะไปสักอย่างใครจะทำไม ว่าแล้วฉันก็เดินหน้าต่อไปยังตึกภาษาหรืออาคารภาษา

    ฉันบอกให้มาดูก่อนไงไม่ได้ยินเหรอ!?”เธียรตะโกนเสียงดังและแน่นอนน่ากลัวด้วยน่ากลัวถึงขนาดว่าทำให้คนข้างๆ สะดุ้งสุดตัวไปเลยแม้แต่ไอ้เปียก็สะดุ้ง....สะดุ้งซะขนาดนั้น....แล้วฉันจะเหลือเหรอฉันหันกลับมาแล้วก็ยิ้มแหยๆ มาให้เธียร ก็แหม! เวลาไอ้นี่มันโกรธเหมือนคนซะที่ไหนล่ะ บรื๋อ! คิดแล้วขนลุก

    จะมาดูได้ยัง!?”เธียรร้องถามอีกครั้ง ว๋าย~~~! เธียรร้องออกมาอีกแล้วอ่ะT^T

    กะ...ก็ได้แหะ แหะ ^_^;”ฉันและส่งยิ้มแห้งไปให้เธียรพลางเดินไปดูใบรายชื่อห้องทับ 1 มะ...มันจะมีชื่อฉันแน่เหรอ...อะ...เอ่อฉันหาดูแล้วนะเธียรมัน...จะมีเหรอ?”ฉันถามเสียงสั่นและเงอะงะ

    หาดูใหม่เซ่!!! รู้ไม่ใช่เหรอว่าตัวเองเป็นคนที่สะเพร่าขนาดไหนลองหาดูใหม่เซะ!!!”แง้~~~! เธียรตะคอกมาอีกแล้วง่า~~~ ตายแน่ เปลี่ยนเป็นคนละคนเลยอ้า~~~! ทำไมนะจากคนเรียบร้อยถึงกลายเป็นคนน่ากลัวแบบนี้ได้ ฮือ~~~~ TOT

    อะ...อื้อ!”ฉันรับคำเสียงดังฟังชัดและใช้นิ้วชี้ที่เรียวงามไล่ไปตามกระดาษแผ่นสีขาวสะอาด (อีกครั้ง) เอ่อ...มันจะมีชื่อฉันได้ไงล่ะเนี่ยก็ดูแล้วนี่น่า~~~ เอ๊ะ! อะ...อะไรเนี่ยณัฐณิตานี่มันชื่อฉันนี่นา...แต่เอ๊ะ! คงไม่ใช่หรอกอาจจะมีชื่อเหมือนกันก็ได้ดูต่อๆ 50 51 52 53 54 และ 55 อะ...อะไรกันเนี่ยไม่...ไม่มีชื่อฉันอ๊ากกกกก~~~ ช้าน~~~~~ ถูกย้ายปาย~~~ อยู่สายภาษาจริงๆ ล้วยยยย~~~~ ฮือๆๆๆ TTOTT

    เห็นมั้ยล่ะ?”เธียรและเปียโนพูดขึ้นพร้อมกัน

    ใช่เห็น...เห็นว่าไม่มีชื่อฉันเลยน่ะสิฉันพูดด้วยเสียงเศร้าโศก

    ................ไม่มีเสียงตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก 2 คนนั้นไม่พูดอะรก่อนที่จะ....

    แกมีตาเอาไว้กินข้าวเรอะ!!! ไอ้คุณหนูนาโนะ!?”2 คนนั้นตะโกนพร้อมกัน แกลองเอาตาของแกเบิ่งดูซิว่าไอ้เลขที่ 12 นั่นมันไม่ใช่ชื่อของแกเรอะ!?”เปียโนร้องด่าทำเอาคนที่เดินไปมาและที่นั่งอยู่ข้างๆ สะดุ้งไปซะสุดฤทธิ์สุดเดช...พอเหอะ...ฉันอายเค้านะโว้ย!!!!

    ก็แค่คนที่ชื่อเหมือนกันเองเปียฉันพูด

    ชื่อเหมือนกันเรอะ!!? แล้วอะไรมันจะบังเอิญปานนั้นไอ้คนที่แกคิดว่ามีชื่อเหมือนแกคงไม่บังเอิญมีนามสกุลเหมือนแกด้วยหรอกมั้งไอ้นาโนะ!!!!”อ้าว! เอาแล้วครับท่านเธียรออกโรงแล้วครับท่าน...เอ๊ะ! เดี๋ยวนามสกุลเหมือนฉันด้วยงั้นเหรอOoO!

    อ...อะไรนะ!?”ฉันร้องออกมาด้วยเสียงและสีหน้าที่ตกใจเอาซะมากมาย เมื่อกี้พวกแกว่าอะไรนะ...แกว่านามสกุลเหมือนฉันด้วยงั้นเหรอ....เป็นไปไม่ได้น่า~~~ อย่ามาหลอกฉันหน่อยเลย

    หลอกงั้นเหรอ....งั้นแกลองก้มหัวลงไปดูใหม่ดิ๊ว่าไอ้คนที่ชื่อ นางสาวณัฐณิตา ศิริวัฒนกุล มันเป็นใคร!?”ง้า~~~! พวกนี้ตะคอกใส่ฉันอีกแล้วง้า~~~~! T^T

    ชะ...ชื่อฉันนี่ฉันพูดเสียงสั่น

    ใช่! ชื่อของเธอ2 คนนั้นพูดขึ้นพร้อมกันอีกครั้ง...เดี๋ยว...อะไรนะ!? ชื่อฉันงั้นเรอะ!!! OoO?

    ว้ากกกกกกก~~~ (เสียงอุทานน่าเกลียดมาก: ผู้แต่ง) ชื่อฉันจริงๆ ด้วย!!! OoO”ฉันร้องออกมาเสียงที่บ่งบอกถึงความตกใจสุดขีด

    ปะ...เป็นไปไม่ได้...งั้น...งั้นฉันก็ได้อยู่ห้องคิงวิทย์ฯ น่ะสิ!?”ฉันร้องถามออกมาอีกครั้ง

    อื้ม! ใช่2 คนนั้นพูดออกมาพร้อมกันอีกแล้ว

    ........ยะ......เย้!!!!!!! เย้ๆๆๆๆๆๆ!!!! ไชโย โห่ฮิ้ว!!!!^O^”ฉันร้องออกมาอย่างดีใจมากกกกกกก~~~~~ เลย!!!

    นี่เธอไม่รู้เลยเหรอไงว่าตัวเองได้คะแนนเท่าไหร่?”เปียถามพลางหน้าทำใจกับลักษณะดีใจเกินเหตุของฉันสายตานี่อ่านได้เลยว่า-เพื่อนฉันดีใจจนบ้าไปแล้วแน่ๆ-ประมาณนี้แหละ...มั้ง

    ฉันจะไปรู้ได้ไงเล่า! ก็อาจารย์เล่นแบบว่าไม่ให้ฉันรู้คะแนนตัวเองเลยบอกว่าตอนเปิดเทอมมาดูเลยว่าฉันได้อยู่ห้องไหน...แล้วจะให้ฉันรู้ได้ไงเล่า^o^”ฉันพูดด้วยเสียงที่ร่าเริงสุดขีด

    แล้วเธออยากรู้มั้ยล่ะ?”เธียรเดินเข้ามาถาม

    อยาก...อยากสิ...เอ๊ะ! เดี๋ยวเธอพูดอย่างกับว่าเธอรู้งั้นแหละ

    ไป...ไปนั่งก่อนดีกว่ามั้ง เนอะเธียร...ป่ะ!”เปียพูดพลางดึงแขนของฉันไปนั่งที่โต๊ะม้าหินอ่อนที่ประจำ

    เดี๋ยว! พวกเธอต้องตอบคำถามของฉันก่อนฉันพูด

    เธอไปนั่งก่อนสิถ้าไม่ไปนั่งก็อย่าหวังว่าพวกฉันจะเล่าให้ฟังเธียรพูดเสียงเฉียบขาด

    กะ...ก็ได้ฉันพูดและยอมเดินตามพวกนั้นไปอย่างโดยดี และแล้วพวกฉัน 3 คนก็เดินไปถึงจุดมุ่งหมายอย่างรวดเร็วก็แน่ล่ะโต๊ะม้าหินอ่อนโต๊ะประจำของพวกฉันอยู่ห่างจากบอร์ดดูรายชื่อไม่ถึง 10 เมตรเลยนี่นา~~~~ แล้วพอฉันและยัย 2 คนนั้นเดินมาถึงม้าหินอ่อนตัวประจำก็หย่อนก้นนั่งลงไปโดยทันทีและพอนั่งลงไปเรียบร้อยแล้วคุณหนูเธียรก็หยิบกระดาษอะไรก็ไม่รู้มาจากกระเป๋า

    อ๊ะ! รีบๆ ดูซะแล้วจะได้เอากระเป๋าขึ้นไปเก็บบนห้องเธียรพูดพลางยื่นกระดาษใบนั้นมาให้ฉันและพอฉันชะโงกหน้าไปดู...เท่านั้นแหละลมแทบจับ...อะไรมันจะเก่งขนาดนี้เนี่ยฉันOoO!! วิทย์ฯ ได้ตั้ง 88 คะแนน แล้ว...แล้วจะยังคณิตฯ อีก ได้ตั้ง 92 คะแนนนั่นมันใช่ของฉันแน่เหรอเนี่ย!!! เดี๋ยวๆ อังกฤษล่ะ...แป๋ว! ว่าแล้วเชียวปีนี้ก็ไม่ต่ำกว่า 98 คะแนนอีกแล้วได้ไม่ผิดเพี้ยนจากม.4 เทอม 1 เท่าไหร่เลยอันที่จริงก็ไม่ต่างเลยแหละ 99 คะแนนครบท่วน...สงสัยคงเพราะว่าตอนสอบมีข้อนึงล่ะมั้งฉันกามั่วเลยผิด -_-;

    เป็นไงล่ะตะลึงไปเลยเหรอเพื่อน...เงียบเชียวเปียพูดพลางสะกิดฉันเบาๆ

    อื้อ! ตะลึงไปเลยแล้วก็ไม่คิดว่าตัวเองจะทำได้ดีขนาดนี้ด้วยฉันพูดด้วยเสียงที่ค่อนข้างที่จะตื่นเต้น

    อืม...ฉันว่าเราเอากระเป๋าขึ้นไปเก็บดีกว่ามั้ง...ไปเหอะเธียรพูดพลางลุกขึ้นยืน

    อื้อ! ดีเหมือนกันฉันอยากเห็นห้องเรียนใหม่เร็วๆ^o^”ฉันพูด

    ตื่นเต้นเชียวนะยัยคุณหนูนาโนะ...ทีเมื่อกี้ล่ะก็ทำหน้าอย่างกับว่าจะกินคนซะได้เปียแซวฉันในขณะที่เดินออกาจากที่ตรงนั้นกำลังจะเดินขึ้นไปบนอาคารวิทย์ฯ แต่แล้วก็เหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้น!!!

    ปัง!!”ฉันดันซุ่มซ่ามเดินชนกับผู้ชาย 2 คนที่กำลังจะเดินลงมาจากอาคารวิทย์ฯ แต่พอฉันกำลังจะเงยหน้าขึ้นมาขอโทษเท่านั้นแหละแทบลมจับอีกแล้ว...จะ...เจ้าชายในฝันของฉันชัดๆ เลยนี่!!!! คิ้วเข้ม ตาคม ปากไม่บางไม่หนาเกินไป ผิวสีน้ำผึ้ง จมูกโด่งเป็นสัน ตัวสูงพอประมาณ...นี่มันสเป็กฉันชัดๆ เลยนี่!!!

    ขอโทษครับเป็นอะไรมากมั้ยครับ^_^?”ผู้ชายที่เดินชนฉันกล่าวถามขึ้นมาด้วยรอยยิ้มทำให้ฉันหลุดออกมาจากภวังค์ อ๊ายยยยย~~~~ สุภาพจังเลย^O^

    มะ...ไม่เป็นไรมากหรอกค่ะ...ฉันสิคะที่ต้องเป็นคนขอโทษ^_^”ฉันดัดจริตทำเสียงหวานและยิ้มไปให้พร้อมอ๊ายยยยๆๆๆ~~~~ อายจังๆๆๆๆ

    งั้นเหรอครับถ้าคุณไม่เป็นไรแล้วงั้นผมไปก่อนละกันนะครับ^_^”ผู้ชายคนนั้นพูดขึ้นมาอีกครั้งอย่างสุภาพก่อนที่จะยิ้มให้ฉันก่อนที่จะเดินจากไป อ๊ายยยย~~~ ผู้ชายคนนั้นมีเขี้ยวด้วยล่ะแถม...แถมมีลักยิ้มด้วยแหละ ว้ายยยยย~~~~ นั่นมันพี่ซี ศิวัฒน์ กับพี่น้ำ รพีภัทร ของฉันผสมกันชัดๆ เลยนี่นา~~~ อ๊ายยยยย~~~~

    นี่! นี่ๆ! เป็นไรน่ะเหม่อเชียวเปียสะกิดฉันเบาๆ

    นี่! พวกเธอ 2 คนรู้จักผู้ชายคนที่ชนฉันเมื่อตะกี้มั้ย?”ฉันพูดอย่างเหม่อลอย

    ทำไม-_-?”2 สาวถามอย่างสงสัย

    ฉันว่าฉันเจอรักแรกเข้าซะแล้วล่ะฉันอย่างใจลอย ลอยไปหาผู้ชายคนนั้นยังไงล่ะอ๊ายยย~~~!

    ห๊า! อะไรนะ!? ลองพูดใหม่อีกทีซิ!!!”2 สาวประสานเสียงอีกครั้ง

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×