ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Exo]+ ShortFic++(ChanSoo)

    ลำดับตอนที่ #7 : (นอกเรื่อง)SF Friends (Chansoobaek) part3

    • อัปเดตล่าสุด 10 เม.ย. 56


    มานั่งลากลงใส่ให้เรียบร้อยสำหรับตอนนี้ เดี๋ยวจะทยอยเอาลงนะคะ 
    ขอบคุณมากๆเลยที่รู้สึกชอบไปกับฟิคตามใจฉันของไรเตอร์อะT^T ขอบคุณมากจริงๆ><
    จะรีบทยอยเอามาลงนะคะ รอหน่อยนะ!!>< มันฝืดๆยังไงอขออภัยไว้ก่อน เพราะดองๆเอาไว้


    ตามธรรมเนียมฟิคสั้นนี้ ต้องคลิกก่อนอ่านค่ะ ฮี่ๆ กดที่รูปได้เลย-..-
    http://www.listenonrepeat.com/watch/?v=7k4U1RBzW6c






     



    SF Chanyeol Kyungsoo Baekhyun "Friends"(3)

    ...
    ..
    ...
    ฉัน....ขอโทษนะ.......

    ...
    ....
    ...

    ถ้าความรักที่ต้องพยายาม.....
    พยายาม จนทำให้รู้สึกอ่อนล้า


    บางครั้ง...ไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องทนฝืนมันเอาไว้แบบนั้น

    หยุดทิ้งเอาไว้ข้างตัวสักครั้ง...
    ..
    และปล่อยให้มันเป็นไปอย่างที่มันควรเป็น..

    คงแปลกดีถ้าจะมีใครสักคนที่ทั้งหัวเราะ ร้องไห้ ยิ้ม ตะโกน ทำทุกสิ่งทุกอย่างได้ในเวลาเดียวกัน

    ความจริงแล้ว..เพียงมันจะเกิดขึ้นทีละอย่าง

    ทีอย่าง

    วันนึงอาจจะยิ้ม
    ..
    อีกวันนึงอาจจะร้องไห้ ...
    วันที่เศร้าเสียใจ ก็คงไม่ได้หมายความว่า จะไม่มีโอกาสได้รับความสุขไปตลอดชีวิต

    ผมก็แค่เฝ้ารอวันที่จะได้มีโอกาสยิ้มอย่างบริสุทธิ์ใจสักครั้งหนึ่ง





    -----------------

    ตรรกะพวกนี้ดูจะเข้าใจยากสำหรับผมไปหน่อย 

    อาจจะไม่เกี่ยวกับสมองขี้เลื่อยๆ..
    ...
    เพราะทุกวันนี้ผมก็กำลังยิ้มอยู่ ผมกำลังมีความสุข ผมสามารถร้องไห้ไปพร้อมๆกับฉีกยิ้มกว้างๆ
    ไม่ได้หมายความว่าผมจะมานั่งสะอึกสะอื้นไปทั้งๆที่แสดงท่าทีว่าขำขันไปด้วยหรอกนะ
    ผมจะบอกว่า ผมสามารถมีความทุกข์ทั้งๆที่ใบหน้ายังคงฉาบไปด้วยรอยยิ้มและความสนุกสนาน
    ---

    ถึงเวลาข้าวเย็นที่เฝ้ารอ

    ฝันกลางวันที่ดูจะทำให้สมองส่วนในของผมนั้นไม่ได้หยุดพักผ่อนเลยแม้แต่นิดเดียว เสียงฝน เสียงฟ้าร้อง เสียงรถยนต์ และคำพูดที่คุ้นเคยยังคงอยู่ในห้วงความคิด

    ภายในกระจกเหนืออ่างล่างหน้าสะท้อนใบหน้าซูบเซียวดูหมองคล้ำเล็กน้อย มันเริ่มดูแย่ตั้งแต่การซ้อมอย่างหนักในทุกๆคืนก่อนที่อัลบั้มที่2ของพวกผมจะได้มีโอกาสเปิดตัวอีกไม่กี่อาทิตย์นี้
    ฮ่ายยย
    =_=
    ยิ่งกว่ากอลลั่มใน The Lord of the Rings ซะอีกปาร์คชานยอล นี่แกแค่หลับกลางวันหรือไปออกรบที่ไหนมาวะ

    ไม่ทันได้บีบครีมบำรุงทาลงบนใบหน้าหยาบๆดี 

    เสียงของพี่เมเนเจอร์ที่ผมชินหูก็ดังเข้ามาข้างใน อดไม่ได้ที่จะวางทุกสิ่งอย่างที่ทำอยู่แล้วเดินออกไปสำรวจว่าสาเหตุที่พี่ยองมินต้องร้องเอะอะขนาดนั้นมันเกิดเพราะเรื่องไม่ดีอะไรรึปล่าว
    ภายในห้องโถงกลางโล่งๆมีพี่ซูโฮกำลังนั่งอยู่กับพื้น มีจงอินที่กำลังทอดร่างยาวๆหลับสนิทบนหมอนตุ้กตาเปโรโระของคยองซูตัวเบ้อเริ่มที่เขาได้มันมาเมื่อตอนวันเกิด แบคฮยอนนั่งพิงกับกำแพงพลางกดมือถือเล่นอย่างตั้งอกตั้งใจ
    ผมไม่เห็นโอเซฮุนอยู่ในห้อง บางทีเขาอาจจะถูกใช้ให้ลงไปซื้อของอะไรบางอย่างจากด้านล่าง

    คยองซูกำลังถอดรองเท้าเพื่อที่จะเดินตามพี่ยองมินเข้ามาติดๆ ดูท่าว่าเขาจะเป็นคนไปรับพี่ยองมินมาในวันนี้
    ความจริงแล้วพี่ยองมินเป็นญาติห่างๆทางฝายพ่อของเจ้าเด็กนี่ แต่น้อยคนนักที่จะมีคนรู้ ตั้งแต่เดบิวต์มาเป็นเรื่องปรกติที่ทางบริษัทมักจะมีมาตรการปิดข่าวบางอย่างที่ไม่เกิดผลดีของศิลปินแต่ละคน คยองซูเองก็เหมือนกัน ทีมงานก็คงไม่อยากให้เขาถูกล่าวหาว่าที่เข้ามาทำงานที่นี่ได้เพราะมีคนรู้จัก หรือใช้เส้นสายเป็นสะพานเข้ามา 
    ผมคิดว่าแบบนั้น

    เรื่องที่ผมสอบตกเป็นประจำก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่บริษัทปกปิดมันไว้จากแฟนที่คอยติดตามพวกเรา 
    อ่า---

    =_=
    ครูมันอ๊กบอกว่าผมทำให้เธอดำรงชีวิตลำบากขึ้นนิดหน่อย หลังจากที่ต้องทำสัญญามากมายเพื่อเป็นข้อตกลงรักษาความภัยเพียงแค่ข้อมูลการศึกษาของเด็กผู้ชายคนหนึ่ง

    ชีวิตในรั้วโรงเรียนของผมเลยมีแค่รูปถ่ายเล่นๆจากไซเวิร์ลเมื่อสองสามปีก่อนเท่านั้น

    บางอย่างแลดูจะมากเกินไปก็จะถูกจำกัดการเผยแพร่ เว้นเสียแต่คลิปบ้าๆบอๆขอแบคฮยอนที่หลุดออกมาเพราะเพื่อนในกลุ่มของเขานึกสนุกนำมาปล่อยโดยที่ไม่รู้เรื่องถึงกฏเกณฑ์ของพวกเรา

    ถึงสมองของผมจะกำลังอธิบายเรื่องราวของพวกเราอยู่ แต่ในความเป็นจริง สองขายาวๆนั่นผมรีบสาวมันเข้าไปหาโดคยองซู ในมือข้างหนึ่งของเขามีถุงสีน้ำตาลหนึ่งใบ ข้างในดูท่าว่าจะมีของกินเยอะแยะไปหมด 

    หิวเป็นบ้าเลย=_=

    ผมกลืนน้ำลายแห้งๆลงคอสองสามครั้งพลางร้องเอะอะอย่างที่ชอบทำ

    คยองซูอา นี่นายซื้อขนมปังมาใช่มั้ย ทันเวลาพอดี หิวเป็นบ้า;_; รีบไปที่โต้ะเข้า นายคงไม่ได้ใช้เซฮุนซื้อของกินฝากมาที่หลังใช่ป่ะมือใหญ่คว้าถุงนั่นมาถือเสียเอง ผมก็คงรับไม่ได้ถ้าหากเขาตอบแบบนั้น

    อาหารที่รอคอยจะต้องมาถึงล่าช้ามากไปกว่านี้ L..

    .. 

    โชคดีที่คยองซูส่ายหัวหงึกหงักเป็นเชิงว่า เขาไม่ได้ใช้โอเซฮุนเพื่อซื้อของตามกลับมาที่หลังแต่อย่างใดนอกเสียจากคำพูดตอบโต้สั้นๆ

    เอากลับมานี่ กินได้สะที่ไหน ฉันยังไม่ได้บอกเลยว่าซื้อมาทำไมน่ะ

    อ้าว ทำไมฉันจะกินไม่ได้เล่า!!??”

    ผมร้องถามพลางยื้อยุดออกไป ทั้งๆที่ขนมปังใส้ถั่วแดงหนึ่งในสองก้อนนั้นกำลังจะถูกหยิบขึ้นมากัดอยู่อีกไม่กี่วินาทีข้างหน้านี้ ความหงุดหงิดที่ฝังแน่นภายในจิตใต้สำนึกพุ่งพล่านอย่างบอกไม่ถูก

    ซื้อมาให้แบคฮยอน หรือจงอินรึไง เห็นฉันไม่ใช่รูมเมทนายละสิหา!? งี้ทุกที...ทำอะไรไม่คิดถึงฉันบ้าง อย่างน้อยๆพี่ซูโฮละ นั่นน่ะ ไม่มีสำหรับเค้าด้วยหรอ เค้าพี่นายนะ

    ผมโวยวายด้วยเสียงดังลั่น.. 
    มันดูมากไปก็จริง ก็แค่เรื่องเล็กๆนี่

    ...พอกลับมาคิดๆดูอีกที... อันที่จริงถึงเขาจะรู้สึกสนิทสนมกับเพื่อนคนไหนเป็นพิเศษ

    ไม่สิ
    ผมพูดแบบนั้นไม่ถูก ผมแค่หมายถึงว่า พวกเราทั้งหมดเป็นเพื่อนกัน ต้องใช้ชีวิตร่วมกัน ทำแบบนี้ดูจะมากเกินไปสักหน่อยอย่างเช่นว่าเค้าอาจจะซื้อของแบคฮยอน หรือไม่ก็จงอินให้ดีกว่าของพวกเราที่เหลือหน่อยก็ได้...

    แต่ขอแค่มีสำหรับสมาชิกคนอื่นๆ
    แค่มีสำหรับผมบ้าง..

    …=_=...~ เอาอีกแล้ว....เพราะความหิวกำลังปั่นหัวผมเล่นจนคิดอะไรฟุ้งซ่าน..พอๆกับแววตาของเขาที่จับจ้องผ่านแววตาประหม่าของผมไม่ไปไหน โดคยองซูหยุดนิ่งเหมือนรูปปั้นตุ้กตาหมี มองเห็นเพียงแววตาหวานๆนั่นกำลังหยุดเฝ้ามองใบหน้ายุ่งเหยิงของจ้ายักษ์จอมตะกละเพื่อนของเขา ผมคิดว่าความรู้สึกไม่พอใจผ่านสายตาคู่นั้นมันกำลังทะลุผ่านร่างกายสูงๆของผมออกไปอย่างเจ็บปวด

    ถึงตัวใหญ่ยังไงฉันก็ต้องกินอะไรบ้างเหมือนกันไม่รู้รึไง....หรี่เสียงลงเมื่อรู้สึกตัว….

    ถึงตอนนี้สิ่งที่ทำได้มีเพียงแต่เฉไฉดวงตากลมๆของตัวเองออกไปสู่บานหน้าต่างอีกฝากฝั่งของหอพักเพื่อหลบหลีกดวงตาคู่สวยข้างหน้า 
    ผมพลาดขึ้นเสียงและขี้โวยวายแบบนี้จนเป็นนิสัยยากเกินคำตักเตือนของใครต่อใครจะเป็นผล แม้ว่าการทะเลาะกับบยอนแบคฮยอนทุกๆคืนก่อนนอนหลับจะเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงร่องรอยแห่งประสบการณ์ของการพูดจาแย่ๆของผมก็ตามที
    ที่เกิดเรื่องไรสาระแบบนั้นบ่อยๆจนสมาชิกต่างก็เอือมระอา ..
    ผมได้แต่บอกตัวเองว่า มันไม่ได้เกิดมาจากความรู้สึกบ้าๆเป็นต้นเหตุ...

    ผมไม่ได้อิจฉา..

    .. ไม่ไม่ได้โมโห

    ...ผมไม่ได้โกรธ

    ร่างบางถอดถอนลมหายใจเสียดัง ผมได้ยินมันเต็มๆสองรูหูแม้ไม่ได้สังเกตใบหน้าของเขาในเวลานี้ตรงๆก็ตามที
    ...
    ริมฝีปากที่ขบเม้มจนห้อเลือดสีแดงเข้มนั่นค่อยๆยกขึ้นเอ่ยคำพูดแผ่วเบาราวกับกระซิบ

    คิดว่าฉันยืนอยู่ไหน ตะโกนทำไม โน่นในตู้เย็นมีของกินแทบจะทะลักออกมาก็ไปดูเอาสิ

    “......”

    เห้ยๆ ชานยอล มากไปละ เรื่องแค่นี้จะไปว่าคยองซูมันทำไมเนี่ยะ ---

    แบคฮยอนซุปเปอร์ฮีโร่ที่ไม่ได้สวมกางเกงในสีแดง และไม่ได้บินได้เหมือนในหนังราวกับกำลังร่อนตัวลงอย่างสวยงาม...

    คยองซูดึงของกินต้นเหตุกลับมา เขาเดินก้าวสั้นๆพลางเก็บมันเข้าตู้เย็น ก่อนที่พี่ยองมินจะเดินเข้ามาหาผมในจุดที่มองเห็นได้ชัดเจน 

    ...ฮ่ายย~~-*-อย่ามาทำเหมือนฉันเลี้ยงพวกแกทิ้งๆขว้างได้มั้ย ชานยอล ฉันยังไม่ได้กินข้าว แค่ฝากคยองซูถือมา ฉันต้องแบกเอกสาร เรื่องแค่นี้ก็ต้องทะเลาะกัน แล้วจะไปทำงานร่วมกันยังไงได้หา!?” ผู้ใหญ่สุดร้องขึ้นสั่งสอน 

    ผมได้แต่รู้สึกกระตุกวูบในหัวใจเล็กน้อยเมื่อคำพูดของเมเนอเจอร์หลุดออกมา 
    ตามเคย ...โดคยองซูสะสมแต้มเกลียดผมอยู่น่ะ

    สักวันนึงที่ความรำคาญ ความหงุดหงิดเหล้านั้นมันถูกเติมเต็มจนล้น....เมื่อนั้น เขาอาจจะลุกขึ้นมาตั้นหน้าผมแรงๆหนึ่งหมัดด้วยความอัดอั้น
    ดูมือของเขาตอนนี้สิ กำจนแน่นเชียว
    ..

    ร่างเล็กของหมอนั่นค่อยๆเคลื่อนย้ายลงไปนั่งระหว่างจงอินที่นอนหลับและแบคฮยอนที่เริ่มยื่นมือถือของเขาให้เจ้าเด็กเตี้ยดูถึงแต้มคะแนนเกมส์ไร้สาระที่เพิ่งโหลดมาเมื่อวาน ผมเองก็ได้เล่น 
    คยองซูเองเองเช่นกัน อันที่จริงเราแข่งกันอยู่ว่าใครจะได้พ้อยสูงสุด

    ผมว่าผมคงทิ้งห่างกับแบคฮยอนมากโข.....

    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    ฉัน....ขอโทษนะ.......
    ...
    ....
    ....
    ...

    01.30น.

    ผมจ้องมองนาฬิกาดิจิตัลบนฝาผนังของหอพักด้วยดวงตาที่เบิกโพลง
    แม้ว่าจะเพลียสักแค่ไหนจากการซ้อมเมื่อช่วงหัวค่ำที่ผ่านมา แต่ทว่ากลับไม่ได้ทำให้เปลือกตาทั้งสองข้างของผมสามารถปิดลงไปได้เลย ความเมื่อยล้าที่สามารถรับรู้จากอาหารปวดหนึบตามข้อแขนข้อขาดูท่าว่าจะไม่สงผล
    เสียงลมพัดผ่านช่องหน้าต่างของห้องที่ถูกเปิดเอาไว้ทำให้รับสัมผัสจากธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ มันสมควรที่จะนอนสบายตัวมากกว่าเดิมหลายเท่าเสียด้วยซ้ำ
    ถึงกระนั้นผมก็ยังคงรวมรวมสติให้กลับคืนสู่ตัวได้ยากลำบากเหลือเกิน....

    เตียงด้านข้างนั่น

    เด็กชายที่มีเส้นผมสีน้ำตาลกำลังหลับใหลอยู่รึปล่าวนะ …..
    ผมไม่อาจรู้อะไรได้เลยเพราะมีเพียงผมเท่านั้นที่ยังคงจ้องมองเขาฝ่ายเดียวไม่ละสายตาไปไหน.... 
    แผ่นหลังแคบๆไหวตัวขึ้นลงด้วยแรงหายใจเชื่องช้า ……
    แขนขาๆสั้นๆขดขยุกขยิกภายใต้ผ้าห่มผืนไม่หนานัก มองเผินๆคงคล้ายกับซาลาเปาลูกย่อม
    …..แทบอยากจะสลัดเจ้าใยสังเคราะห์คู่กายทิ้ง
    ผมมีตุ๊กตาที่ทดแทนหมอนข้างอย่างเจ้ากบเขียวข้างตัวที่ต้องกอดมันก่อนนอนทุกวันเป็นประจำอยู่แล้ว 
    แต่ทำไมหัวสมองกลวงๆในตอนนี้….
    ทำไมตอนนี้ถึงกลับมัวจินตนาการถึงสำผัสของเจ้าตุ้กตามีชีวิตตัวกลมที่ห่างไปเพียงหนึ่งช่วงแขนบนเตียงนั่นอย่างอดไม่ได้
    อา..

    นุ่มนิ่มอบอุ่นขนาดไหนกัน........

    ..
    ...

    .....

    ฮ่ายยยย..
    ....=_=

    ผมฟุ้งซ่านอีกแล้ว

    เอาอีกแล้ว...
    ……
    ..
    ...

    ชานยอลแกเลิกหาเรื่องเข้าตัวสิวะ 
    โน่น....
    แกสมควรจะกลับตัวแล้วหันไปมองกีตาร์ของแกอีกฝั่ง 
    เลิกว้าวุ่นแล้วก็หลับซักที!!


    ผมคิดพลางลากผ้าห่มผืนกว้างขึ้นคลุมศีรษะที่เรียบเตียนด้วยผมสั้น หวังเพียงอย่างน้อยๆ ผ้ากันหนาวผืนนี้ก็จะได้กีดกันทัศนคติการมองเห็นของผมให้พ้นๆเจ้าสิ่งมีชีวิตเตียงถัดไป พฤติกรรมสมาธิสั้นค่อยๆกำเริบทีละเล็กละน้อยกำลังทำให้ปลายนิ้วเท้าองผมเริ่มรู้สึกถึงสัมผัสจากแผ่นเตียงชั้นในสากๆ เพราะการดิ้นไปดิ้นมาตลอด1ชม.

    ผ้าปูที่นอนบางๆคงยับยู่ยี่จนถลกออกมาจากเจ้าเตียงจนได้นะสิ….=_=.
    ..

    ..
    ใครก็ได้ช่วยที..
    =_=

    เพราะสิ่งมีชีวิตที่ชื่อว่าโดคยองซู

    ...

    เพราะเขา
    ...
    ...
    ย้อนกลับไปปฏิเสธเรื่องราวเมื่อเย็นไปเสียได้ก็คงดี...
    ไม่มีเหตุผลอื่นที่เมเนเจอร์จะต้องเดินทางเข้าออกหอพักนอกจากเช็คของขาดเหลือ..
    สาเหตุที่พี่ยองมินแวะมาหาก็เพราะเรื่องการยุบหอรวมของสมาชิก...
    พวกเรามีปัญหาเล็กน้อย มาระยะหนึ่งจนกระทั่งมีการย้ายที่พักซึ่งผมก็คงจะบอกรายละเอียดมากกว่านี้ไม่ได้ 

    ขอโทษทีนะครับ...

    เพื่อนชาวๆจีนกำลังจะย้ายมาอยู่ภายในไม่กี่วันข้างหน้า ในฐานะที่เป็นฝ่ายต้อนรับจึงจำเป็นจะต้องจัดที่นอนเสียใหม่ 
    โดยตามกฏเกณฑ์ที่ตกลงไว้คือหนึ่งห้องต้องมีสมาชิกอย่างน้อยสาม-สี่คน ด้วยสภาพที่อยู่อันคับแคบ

    ไม่รู้ว่าโชคเข้าข้างหรือทำร้าย
    ผมถูกแบ่งให้นอนกับคยองซู และลู่หาน...แต่พี่ลู่หานจะขนของจากหอเก่ามาที่นี่อีกสามวันข้างหน้า

    เวลานี้เลยมีเพียงผมและเขาแค่สองคน

    ผมคิดว่าการจับคู่ให้นอนร่วมกับเจ้าเตี้ยก็คงเพราะผมกับแบคฮยอนมักจะส่งเสียงดังน่ารำคาญรวมไปถึงนอนดึกโต้รุ่งเสมอๆ
    แม้ว่าจะถูกตักเตือนต่อว่ามามากขนาดไหน
    พี่ยองมินคงคิดว่าเจ้าเตี้ยนี่อาจจะดัดสันดานผมได้ด้วยการบ้าเก็บขยะไปรอบๆเตียงแล้วก็เข้านอนตั้งแต่4ทุ่มสินะ

    ผิดขนัด...

    ผมนอนดึกยิ่งกว่าตอนเล่นเกมส์พนันจนเช้ากับแบคฮยอนซะอีก
    ….
    เวลานี้ได้แต่ซุกตัวเข้าหาตุ้กตากบยักษ์ เจ้าหมอนข้างจำเป็นของผมมานานหลายเดือน หวังว่าเจ้าตัวเขียวในอ้อมกอดนี่จะพาให้ร่างกายที่กำลังร้อนระอุขึ้นมาเสียดื้อๆให้เงียบสงบลง
    มันเกิดอะไรขึ้นก็ไม่รู้กับความรู้สึกตื่นเต้นจนทำลายความอ่อนล้าไปเสียจนผมลืมนึกถึงมัน
    หัวใจกำลังทำงานหนักอย่างแปลกประหลาด ...ตามหลักนาฬิกาชีวิตที่ผมเคยเรียนจากฮวางจื่อเทา ตำราหมอจีนจากชิงเต่า

    ช่วงเวลานี้มันไม่ใช่ช่วงเวลาการทำงานของหัวใจนี่นา..
    =_=
    ออกซิเจนที่สูดเข้าจนสุดปอดก็ราวกับว่ามันไร้ซึ่งประโยชน์ 
    ผมทิ้งให้ร่างกายทั้งหมดถูกความมืดกลืนค่อยๆกินไปอย่างเชื่องช้า….ยกเว้นแขนแข็งแรงทั้งสองข้างที่ยังคงไม่ทอดทิ้งเจ้าเพื่อนรัก
    กบฟูกนิ่มที่ผมได้มันมาจากคอนเสิร์ตทัวร์ของทางค่าย 
    มันน่ารักมากจนอดไม่ได้ที่จะขอเก็บกลับมาด้วย 
    มันน่ารักมากจนอดไม่ได้ที่จะขอเก็บกลับมาด้วย ผมเลือกที่จะยัดมันเข้าประเป่าเป้ และเอาข้าวของเครื่องใช้ทั้งหมดถ่ายลงประเป๋าเดินทาง เพื่อง่ายต่อการขนย้าย
    เรียกได้ว่ามันนอนเป็นเพื่อนผมทุกคืนจนเป็นเรื่องของความเคยชินปัญญาอ่อนๆนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
    ..

    ต้องการอะไรจากเขากันแน่ไอ้ชานยอล

    ..

    ..
    คยองซู......นะ....นายหลับแล้วหรอ?”



    ในที่สุดผมก็เลือกที่จะพ่ายแพ้ตัวเอง ลดผ้าห่มลงมาเพื่อโผล่หัวออกจากพันธนาการความมืดมิดภายในนั้น
    คิดสั้นๆถามคำถามโง่ๆออกไป ทั้งที่ก็รู้อยู่แก่ใจว่าคยองซูน่าจะหลับไปตั้งแต่ตอนที่เขาปิดไฟและทิ้งตัวลงเตียงตั้งกะสองชั่วโมงกว่านู่นแล้ว
    “......”

    อ่า..
    ไม่มีอะไรผิดคาดหรอกครับ
    ผมก็ไม่ได้คิดว่าเขาจะตอบหลับมาว่า เห้ ชานยอล เหมือนชั้นเลย นายก็นอนไม่หลับหรอเนี่ยะ มาร้องเพลงกันมั้ยอะไรทำนองนี้หรอกน่า ผมรู้จักเค้าดี
    =_=
    เห้อ~
    ผมพ่นลมหายใจร้อนๆออกไปรอบที่ล้าน พร้อมถ้อยคำที่พรั่งพรูออกมา

    ..
    ฉัน....ขอโทษนะ....
    ….
    ….
    ลำบากใจที่จะมานอนร่วมห้องกับไอ้ตัวสกปรกอย่างฉันล่ะสิ.......
    แต่ก็คงไม่เท่าไหร่มั้ง.....ดูดิ...นอนสบายใจเชียว
    .... นายมันหลับง่าย กินก็ง่าย ถึงตอนนี้ก็มีฉันเป็นบ้าอยู่คนเดียว 
    นายมันถนัดนี่ ปั่นป่วนฉันเรื่อย .......
    ตามมาปั่นป่วนหัวใจของฉันแม้กระทั่งเวลานอนสินะ---บ้าจริง

    มันเหนื่อยนะ....หัวใจของฉันน่ะ

    ไม่รู้ว่านานขนาดไหนที่ผงก็ยังคงปลดปล่อยให้ตัวเองจ้องมองแผ่นหลังแคบๆนั่นแทนการนับแกะนับพันๆตัว 
    เฝ้ารอความง่วงที่อาจจะแวะเวียนเข้ามาหาสักเสี้ยววินาทีนึงที่จะถึงนี้
    จนแล้วจนรอดแลดูเหมือนว่ามันจะยังไม่มีเค้ารางว่าจะเกิดขึ้น....
    ….
    ตัดสินใจชันตัวนั่งบนเตียงประจำ ทิ้งความคิดที่จะพักผ่อนออกไปถ้าหากความว้าวุ่นยังคงไม่ไปไหน 
    เฝ้ามองบุคคลคนหนึ่งที่มีผลกระทบต่อชีวิตของผมนอกเหนือรองลงมาจากครอบครัว
    ...
    เวลาได้ผ่านไปช้าๆ ---- ผมก็ยังคงทำได้เพียงปล่อยความรู้สึกเหล่านี้ให้มันค่อยๆตกตะกอน
    เป็นเวลาสามปีแล้วนับตั้งแต่วันนั้นที่ผมรู้สึกดีกับคนๆนึงมาโดยตลอด ----ความรู้สึกอบอุ่นเหลือเกินอย่างที่ผมได้ตัดสินใจมองข้ามเรื่องความเหมาะสมของโลกความเป็นจริงออกไป แม้ว่าเราจะไม่ได้เป็นเพื่อนที่สนิทกันขนาดเท่ากับคนอื่นๆในวงก็ตาม....

    ผมพูดคุยกับแบคฮยอนและเซฮุนมากกว่าใครๆ 
    คยองซูเอง ก็สนิทและพูดคุยกับแบคฮยอนและจงอินมากกว่าผมและคนอื่นๆเช่นกัน..
    แค่ที่ต่างกันแค่ตรงที่ว่า
    เขาสามารถทำให้ผมใจเต้นแรงได้ง่ายๆ….
    และทำให้ผมอยากก่อเรื่องอะไรต่อมิอะไรบ้าๆบอๆอยู่ตลอด 
    ผมชอบที่จะเห็นเขาหัวเราะเวลาที่ผมทำท่าโง่ๆออกไป

    แม้ว่าตอนหลับอย่างในเวลานี้.....
     เขาคงจะไม่เห็นสิ่งโง่ๆที่ผมกำลังทำอยู่ใช่ไหมครับ

    เพราะมันอาจจะน่าขำกว่ามุกฝืดๆทั้งหมดที่ผมเคยเล่นมา...
    ....
    ผมทิ้งเจ้ากบใยสังเคราะห์ให้อ้างว้างชั่วเวลานึงเพื่อจะเคลื่อนย้ายตัวเองมาหยุดอยู่หน้าเตียงของเจ้าตัวปัญหา

    เมื่อสังเกตถึงอากาศที่หนาวเย็น คงได้แต่ขยับผ้าห่มที่มันดูจะไม่หนาเท่าไหร่นักขึ้นกระชับเข้าตัวของร่างเล็กด้านหน้า
    ทั้งน่าเอ็นดูเสียจนอยากปกป้อง
    ..

    เหมือนเด็ก5ขวบไม่มีผิด
    ...
    ...
    สองขาย่อลงด้วยความปรารถนาจะเห็นเขาใกล้ๆสักครั้งหนึ่ง
    ในความเป็นจริงผมคงไม่มีโอกาสได้ใกล้ชิดกับคยองซูแบบนี้ 
    นอกเหนือเสียจากช่วงเวลาที่เขาปราศจากสติ..
    หรือนอกเหนือเสียจากเขาจะรับรู้ว่าผมอยากอยู่ใกล้ๆ
    ...
    .... 
    แม้ว่าเขายังคงหันหลังให้กับผมเหมือนเดิมก็ตามที แต่คยองซูก็ยังคงส่งผมต่อการเต้นของหัวใจที่มันมากขึ้นๆ .
    ..ถี่ขึ้น...
    เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
    ..
    แผ่นหลังแคบเคลื่อนไหวโคลงเคลง พร้อมๆกับเสียงลมหายใจที่อดถอนออกมาชุดใหญ่

    มันไม่ใช่ของผมแล้วล่ะ .....

    ผ้าห่มที่อุตส่าห์บรรจงห่อหุ้มขึ้นไปก็แลดูจะขยับเขยื้อนเองจนเริ่มหลวมโคร่ง
    ...
    ยังไม่ทันที่จะยกมือหนาขึ้นเข้าจัดแจงผ้าผืนเล็กให้เข้าที่เหมือนเดิมอีกครั้ง..เป็นอันต้องสะดุ้งดึงกลับเข้าแนบข้างร่างกายราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
    คยองซูกำลังเริ่มเคลื่อนไหว...
    ไหล้แคบเอี้ยวไปมา
    ...จนสุดท้ายร่างบางก็ได้พลิกตัวกลับมาเผชิญหน้ากับผมที่ยังคงนั่งอยู่ข้างๆเตียงไม่ได้ไปไหนในที่สุด
    ความรู้สึกเหมือนโดนจับได้ว่าทำความผิดมหาศาล
    มันเป็นแบบนี้เองสินะ...

    ----ราวกับระบบอวัยวะทุกส่วนของร่างกายหยุดทำงาน ผมกำลังลืมหายใจ ลืมคิด ลืมขยับตัว 
    ลืมไปจนหมดทุกสิ่งทุกอย่าง...
    มีเพียงสายตาที่รับรู้เพียงว่าใบหน้าใสและดวงตาหวานคู่นั้นกำลังจ้องมองตัวเองอยู่
    ไกล้เพียงสำผัสถึงลมหายใจอุ่นๆที่รวยรดบนปลายจมูกคมและสองแก้มที่ร้อนผ่าว
    คยองซูไม่ได้หลับ...

    ตลอดเวลาที่ผ่านมา เขาไม่ได้ถูกห้วงนิทราลักพาตัวไปอย่างที่ผมเข้าใจ

    แววตาไร้เดียงสาของเจ้าตัวเล็กกระพริบที่ถี่ขึ้น..

    .. ถี่ขึ้น...


    แม้ว่ามันจะได้เบิ่งกว้างเหมือนยามที่เขาตกใจอยู่ก็ตามที...
    ริมฝีปากอิ่มราวกับกลีบกุหลาบ ค่อยขยับขึ้นลงอย่างเชื่องช้าด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย
    ....
    ...เขากำลังพูดอะไรกับผมนะ..
    ....

    เขาพูดว่าอะไร...

    ....

    ....
    ...
    ..

    ปาร์คชานยอล.....
    ----นาย...
    เป็นเกย์ใช่ไหม.....


    ...
    ...
    ...
    ...

    ..

    อา....ถึงตอนนี้ ผมควรจะเลือกได้แล้ว
    ว่าความรักครั้งนี้
    สมควรปล่อยมันทั้งเอาไว้ข้างๆสักพัก
    ให้ทุกสิ่งทุกอย่างค่อยๆเป็นไปที่มันควรเป็น...
    คงจะดีกว่า...ใช่ไหมครับ...


    ...tbc

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×