คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : INTRO
Intro
ความเจ็บปวดแพร่ซ่านไปทั่วช่องท้องที่เหมือนจะปริแตกออกมาเป็นเสี่ยงๆ
ราวกับว่าดวงตาที่เห็นแสงไฟอยู่เหนือท้องฟ้าด้านบนมันหนักอึ้งเสียเหลือเกิน
ฉันเพียงแค่มีแรงพอที่จะกระพริบตาเบาๆเท่านั้น
แก้มที่เย็นเฉียบสัมผัสได้ถึงน้ำอุ่นๆที่ไหลพ้นขอบเปลือกตาลงมา
พระเจ้าช่วย ทำไมลูกถึงรู้สึกเจ็บปวดแบบนี้ เหมือนคนกำลังไกล้ตาย เหมือนฉันกำลังจะตาย แต่ความรู้สึกนั้นก็ไม่มาถึงสักที มีเพียงอาการโหวงเหวงและเริ่มหมดเรี่ยวแรงที่มีมาพร้อมกับเสียงจอแจของคนหลายๆคนรอบๆ
ฉันได้ยินมัน แต่กลับไม่เข้าใจว่าพวกขากำลังพูดอะไรกัน
ฉันต้องทำมันได้สิ ฉันทนแบบนี้มา8เดือนกว่ามันจะมีอะไรที่ยากไปกว่านี้..
ลมหายใจของฉันกระตุกเป็นห้วง ฉันรู้สึกแน่นหน้าอกอยู่แบบนั้นพักนึง ก่อนที่แสงสว่างที่ฉันเฝ้ามองมาเป็นเวลานานภายใต้ดวงตาที่เฉอะแฉะได้ดับวูบลง
++++++++++
ฤดูร้อนที่นี่ไวกว่าที่ปักกิ่งเป็นพิเศษ ถึงจะไม่ได้อยู่ที่นั่นมานานแล้วก็เถอะนะ
อากาศร้อนที่เจจูนี่ก็ทรมานไม่ใช่เล่นๆ เพราะลมทะเลที่อบอ้าวเป็นพิเศษ แต่ชายทะเลยามพระอาทิตย์ตกกับหมอกที่ยังคงมีราวกับปุยนุ่นเหนือน้ำทะเลที่เคลื่อนไหวในยามเช้าก็ต้องยอมรับว่ามันงดงามจริงๆ
“พี่จะมาพักที่นี่จริงนะหรอ” ดวงตาที่กลมโตกระพริบซ้ำๆ เพื่อพิจารณาโรงแรมสีขาวด้านหน้า ในขณะที่รถแทกซี่เริ่มเคลื่อนขับวนไปรอบๆเพื่อหาทางเข้าไปจอดใต้ตึกสีขาวสูงใหญ่ที่เรียงรายกันสลับกับต้นไม่สีเขียวเป็นระยะๆ
มันดูไม่สวยงามเท่าไหร่ถ้าเปรียบเทียบกับสถานที่พักอื่นๆที่ผ่านมา
“แกจะไปพักที่หรูๆให้มันเป็นเป้าสายตาทำไมยะ เรามาพักหนีงานวุ่นๆก็พอละ ฉันเบื่อที่จะคอยดูแลให้แกพ้นจากสาวๆพวกนั้นเต็มทน ขอฉันพักบ้างเถอะน่ะ” คนร่างซูบผอมโวยวายเสียงดังใส่เด็กหนุ่มที่ยืนหน้ามาหา เสียงดังนั่นทำให้คนขับรถสะดุ้งเล็กน้อย แต่สำหรับเด็กชายกลับไม่ได้รู้สึกอะไรเพราะความเคยชิน
“นี่คุณ ไม่ต้องวนไปหาที่จอดลึกขนาดนั้นก็ได้ ฉันกับเขาจะลงข้างหน้านี่ละ เอ้า ลู่หาน’ รีบหยิบกระเป๋าตัวเองซะนะ เดี๋ยวฉันจะไปช่วยขนของหลังรถ”
ชายหนุ่มถอนหายใจพร้อมกับเสียงบ่นงึมงำ นี่ตกลงเขาหรือผู้จัดการที่เป็นนายกันแน่
ลู่หานสายกระเป๋าเป้หนังสีดำ พลางหยิบแว่นกันแดดและหูฟังคู่ใจอันโตสวมรั้งไว้ที่คอก่อนจะก้าวลงจากประตูรถแทกซี่ช้าๆ ไม่มีคำว่าโกรธเคืองที่มีต่ออิมยองคยุนแม้แต่นิดเดียว
แหงละ อิมคยุนดูแลเขาตั้งแต่ยังเป็นเด็กชายที่ยังต้องนั่งรถรับส่งไปโรงเรียนสมัยไฮสคูลยันปัจจุบัน…
ปัจจุบันที่เขากลับกลายเป็นนักร้องชื่อดังไปเสียแล้ว ผู้ชายคนนี้ก็ยังคงไม่ไปไหน และยังดูแลเขาเหมือนญาติพี่น้องคนนึงเหมือนเดิม ด้วยเพราะครอบครัวของลู่หานที่อยู่ปักกิ่งทั้งหมด ทำธุรกิจด้านทัวร์ท่องเที่ยว เวลาเล็กน้อยๆ จึงมีค่าสำหรับตระกูลฟานเสมอ เด็กชายได้ถูกส่งมาเรียนที่เกาหลีเพราะการสอบชิงทุนแลกเปลี่ยนตามภาควิชาภาษาต่างประเทศที่จัดขึ้นทุกๆปี และสุดท้าย เขาก็เลือกที่จะไม่กลับไปที่จีนอีกเลย
แน่นอนว่าอยู่กับเจ้อิมคยุนดีกว่าเป็นไหนๆ
อิมยองคยุน หรืออิมคยุนที่เด็กชายเรียกจนชินปากเริ่มติดต่อให้ลู่หานมาเป็นนักร้องฝึกหัดในเวลาช่วงมอปลายที่เขาได้มีโอกาสเรียนแลกเปลี่ยนในช่วงนั้น
เพราะใบหน้าที่สดใส ดวงตาที่กลมโต และรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสุขทำให้ใครๆก็ต้องสะดุดตาและหลงรัก
ลู่หานเริ่มต้นจาการร้องเพลงในบาร์เล็กๆระหว่างฝึกหัดและเริ่มเดบิวต์เป็นนักร้องชื่อดังหลังจากที่ฝึกซ้อมมาเป็นเวลาหลายปี
T^T ซึ้งมั้ยละ
แล้ววันนี้ก็ดีเดย์ซะด้วยที่พวกเขาจะพักผ่อนระหว่างการรอทำอัลบั้มใหม่ที่เจจู
“ฉันถามจริงๆเถอะนะ แกจะไม่คิดกลับไปหาแม่ที่ปักกิ่งมั่งรึไงกัน” เสียงเริ่มสนทนาเอ่ยขึ้นเมื่อเขาได้เข้ามาถึงชั้นล้อบบี้ที่มีคนจอแจประมาณหนึ่ง เห็นได้ชัดว่าคนที่นี่ไม่ได้สังเกตถึงพวกเขาสองคนสักเท่าไหร่ อาจจะเป็นเพราะหมวกและแว่นดำของชายหนุ่มด้านข้าง
อ่า..เขาจะหมายถึง ตามสถานที่ท่องเที่ยวโดยทั่วไปนักท่องเที่ยวก็มักจะแต่งตัวกันประมาณนี้นั่นละ
“ไม่อะ แม่ไม่สนใจผมหรอกพี่ก็รู้ อีกอย่าง เรื่องแบบนั้นไม่มีทางอยู่ในหัวของลู่หานอยู่แล้ว”
ร่างสูงเบ้ปากก่อนที่จะเอาหูฟังคู่โตที่พักไว้ที่คอ พลิกขึ้นมาสวมที่หู
“แกอย่ามาโหกฉันน่ะ ฉันพาแกบินไปปักกิ่งวันสองวันนี้ได้นะเอาไหม ยังไงเราก็มีเวลาพักเป็นเดือน อย่าทำเป็นเด็กหน่อเลยย่ะ”
“-0- บลา บลา บลา บลา บลา ~~”
“นี่เจ้าเด็กโง่ ฉันพูดกับแกอยู่นะยะ”
“>O<บลา บลา บลา น่าไม่อาย คนมองเต็มแล้วดูสิดู ดูสิ”
อิมคยุนหยุดการสนทนาลงแค่นั้น เขามองเด็กชายด้วยสายตาราวกับว่าอยากจะกินเลือดกินเนื้อเต็มที ลู่หานเป็นแบบนี้เสมอ ยังคงทำนิสัยเหมือนเด็กๆ เขารู้ดีเด็กชายยังคงติดแม่เหมือนเด็กทั่วไป เพียงแต่แม่ ในความหมายของลู่หานนั้นแตกต่างจากคนอื่นไปก็เท่านั่นเอง
ช่วงไฮสคูลปีสอง หลังจากที่อิมคยุนได้เข้ามาดูแลลู่หานตามคำสั่งของบริษัทแล้ว
เขาก็ยังเคยเอาการ์ดวันเกิดเล็กๆที่เด็กชายทำซ่อนเอาไว้ในหนังสือเรียนส่งไปรษณีย์กลับไปให้แม่ของเขาที่อยู่ปักกิ่งโดยที่ไม่ได้บอก แต่หลังจากเจ้าตัวแสบรู้ก็หลายเป็นเรื่องเป็นราว
ลู่หานเพียงแต่โวยวายแค่ว่า 'เขาไม่ได้ทำมันให้แม่ของเขา'
ในทางกลับกัน ความจริงแล้ว..
ลู่หานมักจะทำการ์ด แต่งเพลง ทุกๆวันเกิดของแม่ วันเกิดของพ่อรวมไปถึงวันเกิดของเขาเองในทุกๆปี แม้สุดท้ายมันก็ยังคงอยู่ใต้ลิ้นชักเก้ะในห้องของเขาจนมาถึงวันนี้ -- อิมคยุนเองก็เป็นเหมือนพ่อและแม่ของลู่หานในเวลาเดียวกัน เขาจึงรู้ดีกว่า กระดาษและหนังสือเล่มยักษ์ที่เด็กชายซ่อนนักซ่อนหนามันมีความหมายมากมายขนาดไหน
เรื่องพวกนี้ก็เป็นความลับของลู่หานมาโดยตลอด ถึงแม้สิ่งที่ออกไปสู่สื่อจะบอกแค่ว่าเขาเพียงแต่แยกตัวออกมาจากครอบครัวและไม่มีโอกาสกลับไปเยี่ยมทุกคนเพราะตารางที่ยุ่งเหยิงเท่านั้น
ผู้จัดการก็มีหน้าที่วนไปวนมาอยู่แค่นี้ แต่คำว่าแค่นี้’ในที่นี้หมายถึงทุกสิ่งทุกอย่างของฟานลู่หาน
พนักงานสาวกดเช็คอินหมายเลขห้องเชื่องช้าเป็นพิเศษ พวกเธอกำลังเริ่มสนอกสนใจชายหนุ่มที่ใส่แว่นดำข้างอิมคยุนจนได้ ถึงแม้เขาจะมีหมวกไหมพรมสวมอยู่และปกปิดดวงตาที่โดดเด่นด้วยแว่นกันแดดไปแล้วก็ตามที
“ว้าวOoO คืนนี้มีปาร์ตี้ที่ริมหาดนี่นา พี่จะลงมาหาอะไรดื่มกับผมมั้ยละ นี่ๆ “
เสียงนุ่มร้องดังขึ้น ทันทีที่เขาเริ่มหยุดและสังเกตสิ่งรอบๆ รวมไปถึงสาวๆข้างหลังเคาว์เตอร์ด้านหน้าก็เริ่มเอียงสายตาไปมองเขามากขึ้นเช่นกัน เห็นได้ชัดว่าในหูฟังราคาแพงนั้นเค้าไม่ได้กดเปิดเพลงเล่นตั้งแต่แรก..ป้ายไวนิลทรงสูงแจ้งถึงปาร์ตี้สิ้นปีทั่วลอบบี้เริ่มทำให้ลู่หานแสดงท่าทีร่าเริงแบบเด็กๆขึ้นมา----“ลงมาเที่ยวกันเถอะ!! เขาว่าที่ชายหาดจะจัดเป็นปาร์ตี้ให้กับลูกค้าของโรงแรมที่มาเที่ยวสิ้นปีด้วยนะ”
“จะไปก็ไปย่ะ ฉันว่าจะนอนสักหน่อย ทำงานกับแกมาทั้งปี ไม่ได้นอนเต็มตื่นสักวัน!”
“พี่อิมคยุนใจร้าย-3-”
“เลิกทำหน้าแบบเด็กสามขวบน้ำลายย้อยแบบนั้นสักที ตามฉันมานี่ นี่การ์ดห้อง เอาไปแล้วเก็บของซะ จะไปไหนก็ระวังหน่อยละกัน จำได้มั้ยฉันเคยพูดอะไรเอาไว้ฟานลู่หาน???”
คนเป็นผู้ดูแลเริ่มชี้นิ้วยาวไปที่หน้าเด็กหนุ่มราวกับแม่ที่กำลังดุด่าลูกชายไม่มีผิด
“ห้ามดื่มหนัก ห้ามออกไปไหนไกลโดยไม่บอก แล้วก็ห้ามปิดโทรศัพท์หนีครับ-_-“
ชายหนุ่มตอบ
“ดีที่นายจำได้ เอาล่ะ ถ้ายังไงก็ดูแลตัวเองด้วย วันนี้ฉันจะปล่อยให้นายเป็นอิสระวันนึง!! รีบขนของไปเก็บที่ห้องได้แล้วไป ชั้นรำคาญสายตาแม่ชะน้อยชะนีใหญ่ที่เค้าว์เตอร์นั่นเต็มทนละ อะไรกัน มองอยู่ได้!”
อิมคยุนก้าวขาฉับๆอีกครั้งไปยังลิพท์ เขายังคงบ่นไม่ยอมหยุดเหมือนเคย ชายหนุ่มพ่นลมออกปากช้าๆ ก่อนจะกระชับเป้หนังและกระเป๋าที่ถูกเหวี่ยงมาให้ลากเองเข้าไปไกล้ลิพท์ด้วย
แต่ทว่า สมองของเขากลับกำลังจินตนาการถึงปาร์ตี้อย่างช่วยไม่ได้
ถึงพี่จะปิดเรื่องราวแบบนี้กับแฟนคลับและคนอื่น
แต่ความจริงที่เขาเป็นเจ้าพ่อคอทองแดง ยังไงวันนี้เขาก็ต้องโชว์สักหน่อยละล่ะ!!
-..-
++
ฉันจำได้ว่า ผู้ชายคนนั้นเขาอยู่ในปาร์ตี้ของโรงแรม ผมสั้นสีน้ำตาลอ่อนที่สะท้อนกับแสงวิบวับในบาร์ผมของเขาเริ่มชื้นเหงื่อนิดหน่อย เพราะการเต้นอย่างบ้าคลั่งแบบนั้นล่ะมั้ง
ใช่สิ มีสาวๆประมาณสิบกว่าคน รวมถึงเฮมีด้วยที่คุ้มคลั่งไปกับท่าเต้นบ้าบอนั่น พวกเธอกำลังพยายามยกขวดไวน์และโซจูเพื่อจะไปเต้นให้ไกล้หนุ่มๆกลุ่มนั้นมากที่สุด
ยัยเพื่อนสนิทคงเมาโซจูค้างแล้วแหง๋มๆ
ฉันได้แต่ยืนดูทิ้งระยะห่าง
ไม่ใช่ฉันไม่อยากออกไปเต้น หรือร้องให้สุดเหวี่ยงหรอกนะ
เพราะมันเป็นปาร์ตี้ที่เศร้าที่สุดในชีวิตของฉันมากกว่า ในสมองกลวงๆของฉันมีเพียงคำพูดของผู้ชายคนนึงที่เพิ่งบอกเลิกฉันไปเมื่ออาทิตย์ก่อนเท่านั้น มันงี่เง่ามากที่ฉันไม่รู้แม้แต่เหตุผล มารู้ตัวอีกที ฉันกับเขาก็กลายเป็นคนไม่รู้จักกันไปซะแล้ว มันตลกมั้ยล่ะ ฉันยังเก็บตั๋วหนังเรื่องแรกที่เราดูด้วยกันไว้ในกระเป๋าสตางค์อยู่เลย T-T
ฉันเองเพิ่งเรียนมหาวิทยาลัยปีที่3 เป็นช่วงที่สมควรจะคร่ำเคร่งกับวิชาที่จะเป็นสายอาชีพงานในอนาคต ฉันเรียกเอกดีไซน์และการเป็นไสตลิสส์หรือดีไซเนอร์ คอสตูม อะไรก็ตามที่เกี่ยวกับด้านนี้มันทำให้ชีวิตเหี่ยวๆของฉันมักจะมีสีสันขึ้นมาทุกครั้งเมื่อได้นึกถึงมัน
แต่ทุกอย่างกลับพังลงจนได้
ปาร์ตี้กำลังจะเลิก ฉันยังคงนั่งดื่มอยู่แบบนั้น เฮมีดูเหมือนจะกลับห้องไปแล้วเพราะเธอเริ่มอ้วกเรี่ยราดเหมือนลูกหมาไม่มีผิด บกซุนที่เต้นขนาบข้างหิ้วปีกของยัยงั่งนั้นเดินกระโผลกกระเผลกพากันพยุงร่างแห้งๆที่ยืนบิดเบี้ยวราวกับโลกไร้แรงโน้มถ่วงให้ถึงลิพท์ในบาร์ชั้นใต้ดินของโรงแรม เพื่อกลับห้องพัก สายตาที่พร่ามัวและสติสัมปัชชัญญะที่กำลังสิ้นสุดของฉันเช่นกัน
เหมือนเสียงของตางี่เง่านั่นลอยกลับมาอีกครั้ง ฉันเห็นใบหน้าของเขาลอยว่อนเต็มไปหมด
นายบอกเลิกฉันไปแล้วไม่ใช่หรอ
นายจะกลับมาทำไมอีก
สัมผัสอับอบอุ่นและเนิ่นนานนั่นกลับมาอีกครั้ง ฉันกำลังร้องไห้รึปล่าวนะ หรือมันกำลังจะเริ่มต้นใหม่ สัมผัสที่อ่อนโยนมันทำให้ฉันหลุดลอยออกไป
เสียงหายใจของเขาไกล้ชิดฉันเหลือเกิน..
นายทำให้ฉันไม่อยากจากนายไปไหนอีกแล้วนะ จางอี้ชิง....
+++++++++++++++
จบอินโทรแล้ว ไม่งงใช่มั้ยค่ะ
พยายามปรับปรุงการแต่งอยู่ค่ะTT
ฮี่ๆ ลงงแชปหนึ่งไว้ให้เลย คลิกอ่านต่อเล้ยยย>_<
ความคิดเห็น