ตอนที่ 3 : บทที่ 3 การแสดงตัว
บทที่ 3 การแสดงตัว
ก่อนที่หยานมู่หลินจะมาที่โลกนี้ หยานมู่หลินคนเดิมเป็นโรคกลัวที่ทึบ เมื่อเขาได้เข้าเรียนที่วิทยาลัย Imperial Media มันขึ้นอยู่กับเกรดที่เขาทำได้ การสัมภาษณ์ของเขาไม่ต้องเข้าไปในหัวอัดเสียง ดังนั้น หยานมู่หลินจึงทำได้ดี เขามีลักษณะที่ดี เสียงเพราะและความสามารถ เกรดหลักสูตรวัฒนธรรมของเขาก็ดีด้วย ผู้ตรวจสอบทุกคนจึงให้เขาผ่าน
อย่างไรก็ตาม เมื่อหยานมู่หลินเข้ามาเรียนและเริ่มบทเรียนที่จะอัดเสียง เขามักมีปัญหา เขาค้นพบว่าเขาเป็นโรคกลัวที่ทึบ ตลอดปีที่ผ่านมา อาจารย์ทุกคนรู้ว่าเขาไม่สามารถเข้าไปในสตูดิโอได้ นับประสาอะไรกับอัดเสียงดีๆ เขาทำให้ดวงตาของอาจารย์เต็มไปด้วยความผิดหวัง
จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมอาจารย์จึงตกใจเมื่อเขาได้งานแบบนี้จากหยานมู่หลิน อาจารย์สงสัย นอกจากนี้ การโกงก็มักมีบ่อยครั้ง นักศึกษาบางคนมีการโกงในการสอบ ทำให้พวกเขาได้รับโอกาสในการพากย์ อย่างไรก็ตาม เขาไม่อนุญาตเรื่องแบบนี้ในชั้นเรียนของเขา อาจารย์หนุ่มไม่มีทางให้นักศึกษาตัวเองมาทำลายชื่อเสียงของตัวเอง
หลังจากได้รับงานของหยานมู่หลิน อาจารย์ได้เรียกหยานมู่หลินให้มาที่สตูดิโออัดเสียง เขาอย่างจะตรวจสอบให้แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับเด็กคนนี้ เขาสงสัยก็จริง แต่นั้นเป็นแค่ความไม่แน่ใจ เขาต้องดูความสามารถเป็นอย่างแรก จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมถึงทำแบบนี้ เพราะเขาชอบเสียงที่หยานมู่หลินทำ มันไม่ใช่สิ่งปกติที่นักศึกษาทั่วไปจะทำได้ มันแสดงอารมณ์ที่แตกต่าง เหมือนความอบอุ่นและความสบายอกสบายใจ ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด เขาจะเสนอสำเนาเสียงนี้ให้กับทางโฆษณาขึ้นจอ หลังจากนั้น พวกเขาจะได้พูดคุยเป็นครั้งสุดท้าย
หยานมู่หลินเข้ามาในสตูดิโออัดเสียงทันทีหลังจากที่เขาโดนอาจารย์เรียกตัว นามสกุลของอาจารย์ที่สอนหลักสูตรมืออาชีพคือ เฉง หยานมู่หลินเห็นอาจารย์เฉงยืนอยู่ในห้องควบคุม อีกฝ่ายโบกมือให้และเพื่อบอกเขาให้ใส่หูฟัง หยานมู่หยินคาดเดาสถานการณ์ออกและสวมชุดหูฟัง หยานมู่หลินได้ยินเสียงอาจารย์เฉงจากหูฟัง
“หยานมู่หลิน ทำบทความที่เธอส่งมาให้ฉันอีกครั้ง”
หยานมู่หลินคิดไว้แล้ว แน่นอนว่าอาจารย์ต้องสงสัยงานของเขา เมื่อเขาไม่เคยเข้าไปในห้องอัดเสียง อาจารย์เฉงจึงอดไม่ได้ที่จะสงสัยในความโปร่งใสของงานของเขา อย่างไรก็ตามเมื่อเผชิญหน้าความสงสัยของอาจารย์ เขายังคงอัดเสียงด้วยความจริงจัง ชายหนุ่มหวังจะใช้สิ่งนี้เพื่อเข้าใกล้อาจารย์ของเขาสำหรับการพบปะในอนาคต นอกจากนี้ เขายังเป็นรุ่นพี่ที่มีเกียรติ นักศึกษาที่ดีต้องเคารพเขา
หันหน้าไปทางไมโครโฟนคอนเดนเซอร์ หยานมู่หลินแสดงเสียงของเขาออกไปได้อย่างคล่องแคล่วและเป็นมืออาชีพ
มันไม่แตกต่างกันเลย อาจารย์เฉงไม่สงสัยเขาอีกต่อไป เขาไม่รู้ว่านักศึกษาใช้วิธีอะไรถึงก้าวข้ามอุปสรรคทางจิตวิทยามาได้ ในความจริง เมื่อเขาค้นพบว่าหยานมู่หลินเป็นโรคกลัวที่ทึบ ผู้ให้คำปรึกษาให้คำแนะนำหยานมู่หลินเพื่อเปลี่ยนจุดสำคัญของเขา แต่ในท้ายที่สุด เขายังคงเคารพความหวังของนักศึกษา ผลออกมาว่าหยานมู่หลินไปต่อได้ในการกระจายเสียง
วันนี้ เขาได้ฟังเสียงของหยานมู่หลิน อาจารย์เฉงช็อคมาก หยานมู่หลินเป็นเมล็ดพันธุ์ที่ดีจริงๆ เขาเมินนักศึกษาที่มีความสามารถขนาดนี้ อาจารย์เฉงรู้สึกละอายใจต่อการกระทำก่อนหน้า แต่เขาเชื่อว่าหยานมู่หลินจะได้รับการสั่งสอนอย่างรอบคอบในอนาคต
ที่สำคัญ หยานมู่หลินยังต้องการคำแนะนำของเขา? เรามาดูกัน
วันต่อมา อาจารย์เฉงได้ประกาศรายชื่อคนที่ถูกเลือกในชั้นเรียนของเขา เชงเซียเส่า หยานมู่หลินและชื่อของนักศึกษาอีกคนที่โดดเด่น หลังจากชื่อของหยานมู่หลินถูกประกาษ คนในห้องต้องเกิดอาการตกตะลึง พวกเขาไม่ชื่อว่าหยานมู่หลินจะสามารถอัดเสียงได้ ยิ่งกว่านั้นคือการที่เขาอยู่กลุ่มเดียวกับเชงเซียเส่าในเวลาเดียวกัน เชงเซียเส่าพูดเป็นนัยให้นักเรียนคนอื่นยืนขึ้นและถามอาจารย์
นักเรียน A ยกมือขึ้น “อาจารย์ ทำไมหยานมู่หลินถึงถูกเลือก?”
นักเรียน B สนับสนุน “ใช่ๆ อาจารย์ คุณไม่ยุติธรรม!”
อาจารย์เฉงรู้ว่าลูกร้องของเชงเซียเส่าต้องสร้างปัญหา เขาพูดความจริงออกไป “พวกเธอไม่ควรสงสัยในความสามารถของหยานมู่หลิน อาจารย์คนนี้ไม่ได้ลำเอียง”
เชงเซียเส่าและคนอื่นกลืนน้ำลาย ในความจริง เชงเซียเส่ามีชื่อเสียงนิดหน่อยในวงการ เขามีแม้แต่พื้นหลังของครอบครัวเขา เส้นทางของเขาในอุตสาหกรรมเสียงกำลังไหลลื่น ทันใดนั้น ไอ้ครึ่งสายเลือดที่โผล่ออกมาและแบ่งมืออาชีพกับเขา ความโกรธมันคุกรุ่นอยู่ในหัวใจ เขาทนต่อการดำรงอยู่ของหยานมู่หลินไม่ได้
ความจริงแล้ว อาจารย์ไม่ได้มีที่ชอบเป็นพิเศษ ไม่คำนึงถึงว่าจะเป็นแค่การฟื้นตัวชั่วคราวหรือถาวรของหยานมู่หลิน เขายังคงดีใจที่นักศึกษาของเขามีความสามารถ จากเหตุการณ์คราวก่อน เขาไม่เข้าไปควบคุมมัน นั้นเป็นเรื่องของโปรดิวเซอร์ ใครก็ตามที่พวกเขาอยากเลือกก็เป็นเรื่องของอีกฝ่าย
นักศึกษาทั้งสามได้ส่งแค่ตัวอย่าง ไม่ใช่ฉบับเต็ม หลังจากการเลือกครั้งสุดท้าย ทางโปรดิวเซอร์จะติดต่อหาอาจารย์เฉงในฐานะคนกลาง เชงเซียเส่าเชื่อว่าบริษัทจะต้องเลือกเขามากกว่าหยานมู่หลิน คนที่ไม่เคยทำงานสำเร็จสักชิ้น
หยานมู่หลินที่ถูกตั้งคำถาม ไม่สนใจพวกนั้น เขายังไม่ได้ทำอะไรเลย ชายหนุ่มอยากวางแผนทิศทางอนาคตของตัวเองและตั้งตารอการตอบกลับของบริษัท
สาเหตุที่เชงเซียเส่ารู้สึกมั่นใจเพราะเขาเคยถูกเชิญให้มีส่วนร่วมในการอัดเสียงอนิเมะเมื่อเทอมที่แล้ว เขาได้กลุ่มผู้หนุนหลัง ตัวมังงะต้นฉบับไม่ค่อยดังนัก แต่เมื่ออนิเมะถูกฉาย มันกลายเป็นว่านิยมสุดๆ เนื่องจากตัวเองของเรื่องถูกพากย์โดยเฉงยี่ ดาว CV ที่โด่งดัง เชงเซียเส่าได้แค่เข้าไปเพราะมันเป็นส่วนหนึ่งของการลงทุนของบริษัทครอบครัวเชงของเขา ไม่อย่างนั้น มันคงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะได้ผู้หนุนหลัง เขาแค่ไม่ทราบ
แน่นอนว่าความสามารถของเชงเซียเส่าไม่ได้แย่ในฐานะนักพากย์เสียงอายุน้อย
เชงเซียเส่าต้องการจะฉีกหน้าหยานมู่หลิน เขาเคลื่อนไหวส่งสัญญาณไปให้นักเรียน A ที่อยู่ข้างๆ นักเรียน A พูด “อาจารย์ ผมขอเสนอให้หยานมู่หลินทำตามเป้าหมาย ยังไงพวกเราก็ยอมรับไม่ได้”
ยอมรับไม่ได้?
หยานมู่หลินยกคิ้วขึ้น งั้นฉันจะทำให้นายยอมรับ
อาจารย์เฉงคิดสักครู่ “ได้ งั้น ครูจะเป็นคนเลือกธีม วันนี้คือบทเรียนเลียนแบบ ดังนั้น มันคงดีถ้าหากใช้การเลียนแบบ << Courting The Phoenix >>”
<< Courting The Phoenix >> เป็นเรื่องราวความรักดั้งเดิมของซีหม๋าเซียงหรูกับโจวเหวินจุน มันถูกสอนในคลาสละครเวทีความรักคลาสสิก เป็นซีรี่ย์ทีวีที่ฮิตมากในสถานีทีวีชั้นนำ เสียงพากย์ของตัวเอกโด่งดังมากกว่าเดิม และด้วยละครเวทีนี้ เขาชนะรางวัล Best Male CV สถานะของเขาจึงสูงขึ้น
บทของละครก็ยอดเยี่ยม มันมีบรรทัดคลาสสิกที่น่าจดจำไปจนถึงผู้ชม อาจารย์เฉงให้ของธรรมดาที่สุดแต่เป็นกลอนยากที่สุดของวัน :
ที่นั่นมีสตรีผู้งดงาม; เมื่อได้เห็นนางไม่อาจลืมเลือน
หากข้ามิได้เห็นนางในเร็ววัน คงคะนึงนางจนแทบบ้า
ตัวข้าเป็นดั่งเช่นฟินิกซ์ที่โผบิน, ทะยานฟ้าและสัญจรไปทั่วสี่มหาสมุทรเพื่อตามหาฟินิกซ์สาวของตน
น่าเสียดาย ที่สตรีงามผู้นั้นไม่ได้อยู่ที่กำลังตะวันออก
ใช้กู้เจิ้งแทนคำกล่าว เพื่อบรรเทาตนกับความรู้สึกนี่
เมื่อไหร่ข้าจะเห็นเจ้ายอมรับ และบรรเทาความกระวนกระวายของข้า?
คำกล่าวที่พาหนึ่งเดียวของคุณธรรมนาง มือสู่มือที่เรายึดถือ
ตั้งแต่เราไม่สามารถบิดนได้ เป็นเพราะข้าหดหู่และซึมเศร้า
อ่านกลอนนี้ด้วยความรู้สึก ขณะพยายามเชื่อมต่อกับฉากละครเวที มันไม่ง่ายเลยจริงๆ พูดได้ว่าอาจารย์เฉงใช้เวลากับมันไปมาก และคำแนะนำโดยเฉพาะจากอาจารย์ผู้สอนบทกวีเก่าแก่
ในสายตาผู้คน การอ่านบทกวีเป็นเรื่องปกติ ทุกคนสามารถอ่านได้ ทุกๆวันที่อนุบาลก็มี “ห่าน ห่าน ห่าน เธอกำลังร้องเพลงไปทางท้องฟ้า ด้วยคำขอแสนสวยของเธอรวมเป็นหนึ่งเดียวกับเส้นโค้งที่งดงาม ขนสีขาวตัดกับน้ำสีเขียวอมฟ้า เท้าสีแดงของเธอขยับขับคลื่อนไปมาบนผิวน้ำ” สำหรับคนธรรมดาการท่องบทกวีเป็นเพียงส่วนหนึ่งเล็กๆในชั้นเรียน และไม่ได้ทำมันทุกวันด้วย ทว่า ในฐานะที่เป็นนักศึกษาชั้นนำในการกระจายเสียง ถ้าเกณฑ์มาตรฐานของคุณต่ำขนาดนี้ เช่นนั้น กรุณากลับบ้านและไปหาข้าวกินเอง อย่าได้คิดจะเข้าวิทยาลัย
ที่นี้ การกระจายเสียงชั้นนำเฉพาะในการเลียนแบบ แสดงและลิปซิงค์ ส่วนที่ยากที่สุดในการเป็น CV คือ “รูปริมฝีปาก” ด้วยลิปซิงค์ ถ้ารูปริมฝีปากไม่ตรงกัน เช่นนั้นการพากย์ก็จะล้มเหลว คุณไม่มีคุณสมบัติพอในฐานะ CV
อาจารย์เฉงแก้ไขวีดีโอและเปิดเล่นที่หน้าห้องเรียน คนที่ตั้งคำถามหยานมู่หลินอาสาจะเป็นคำพูด นี้ประกอบด้วยเชงเซียเส่า พวกเขาถูกจัดลำดับโดยนักเรียนจากห้องเรียนอื่นและอาจารย์ เป็นกรรมการที่ยุติธรรม
นักศึกษาทั้งหมดพากันขึ้นพื้นยก พยายามเลียนแบบเสียงของฉางยี่ และสร้างความรักอันล้ำลึกที่มีต่อเหม่ย พวกเขาใช้ทุกอย่างเพื่อสัมผัสความรู้สึกที่ตรงกับบทความนี้มากที่สุด ห้าคนจะจัดลำดับพวกเขา มีสองคนได้พากย์ก่อน และคะแนนของพวกเขาก็ค่อนข้างปกติ นอกเหนือจากอาจารย์เฉง หนึ่งในกรรมการการตัดสินเองก็เป็นนักเรียนที่ยอดเยี่ยม ซุนเหวินรัน เขามีส่วนร่วมในการพากย์ละครเวทีทางทีวี แต่เขาใช้ความสามารถของตัวเองแทนการใช้เบื้องหลังของครอบครัว หนึ่งในคนที่ได้รับการยอมรับจากเชงเซียเส่า
เมื่อถึงตาเชงเซียเส่าเป็นคนพากย์ เขายื่นตรงหน้าหยานมู่หลินแล้วเอ่ย “ระวังจะฉี่รดกางเกงอย่างคนขี้ขลาดตาขาวเถอะ อย่าคิดจะกล้าขึ้นเวทีและพากย์เลย”
หยานมู่หลินโต้กลับด้วยรอยยิ้มปลอดโปร่ง “นายคิดว่าตัวเองมีความสามารถจะทำให้คนอื่นฉี่ราดเหรอ?”
ทันใดนั้น นักเรียนหญิงในห้องต่างพากันหัวเราะ หยานมู่หลินไม่ทราบว่าอะไรที่ทำให้พวกเธอขำ เชงเซียเส่าฮึดฮัดในจมูกแล้วหมุนตัวกลับ เขาขึ้นไปยืนบนเวทีและเดินไปที่ไมโครโฟน
《Courting The Phoenix》ที่เต็มไปด้วยความรู้สึกที่ไม่มีที่สิ้นสุดดังขึ้นอีกครั้งภายในห้อง
เชงเซียเส่าตามหลังวีดีโอและอ่านสคริป “ที่นั่นมีสตรีผู้งดงาม; เมื่อได้เห็นนางไม่อาจลืมเลือน...”
เมื่อเชงเซียเส่าเริ่มอ่าน หยานมู่หลินมีสมาธิจดจ่ออยู่กับวีดีโอ เขามองเห็นว่าเชงเซียเส่าไม่สามารถสื่ออารมณ์จากเสียงได้ อีกฝ่ายแค่ลิปซิงค์ ด้วยแค่นี้ เขาไม่มีทางเสมอกับฉางยี่ได้ มันเป็นไปได้ที่จะได้ยินเสียงของเขา เทียบกับอีกสองคนแล้วยังดีกว่าเล็กน้อย
อาจารย์เฉงและคนอื่นๆให้คะแนนสูงกว่านักเรียนสองคนก่อนหน้า
เชงเซียเส่าเดินลงอย่างมั่นใจ แน่แหละว่าเขาไม่พอใจกับคะแนนเท่านี้ แต่เขาเชื่อว่าหยานมู่หลินจะต้องไม่ได้คะแนนสูงไปกว่าเขา
หยานมู่หลินเดินขึ้นเวทีโดยอย่างไม่ลังเลและปรับไมโครโฟน เขานวดลำคอและแก้มเล็กน้อยเพื่อปรับความกว้างของเส้นเสียง จากนั้นเขาก็เคลื่อนไหวบอกให้เพื่อนร่วมห้องที่ทำหน้าที่เปิดวีดีโอเริ่มเล่น
ช่วงเวลานี้ หยานมู่หลินไม่ได้ใช้เสียงต่างๆของซูเปอร์สตาร์ แต่ทำการเลียนแบบ เมื่ออาจารย์เล่นวีดีโอ เขาจำทิมเบอร์ของฉางยี่ในวีดีโอได้ เขาควบคุมลำคอให้เปิดออกและการวางตำแหน่งเสียง เปลี่ยนจุดเสียงและสลับระหว่างอะไรคือถูก อะไรคือผิดที่ทำให้สามารถเข้าใกล้โทนสีของฉางยี่ มันไม่ได้ยากเกินไป ส่วนที่ยากคือการใช้เสียงเพื่อแสดงออกถึงอารมณ์ให้เหมือนกับวีดีโอต้นฉบับอีกครั้ง
ชายหนุ่มเริ่มออกเสียง
“ที่นั่นมีสตรีผู้งดงาม; เมื่อได้เห็นนางไม่อาจลืมเลือน
หากข้ามิได้เห็นนางในเร็ววัน คงคะนึงนางจนแทบบ้า...”
ในสคริปบทที่สอง ทุกคนต่างถูกโจมตีด้วยเสียงของเขา พวกเขาเหมือนเห็นตัวเองอยู่ในฉากวีดีโอ มองเห็นสาวงามกำลังโหยหาบางสิ่งทั้งกลางวันและกลางคืน และพวกเขาเห็นชายที่กำลังจ้องมองมาแต่ไม่ได้เข้าไปหา
ที่นั่นมีสตรีผู้งดงาม; เมื่อได้เห็นนางไม่อาจลืมเลือน
หากข้ามิได้เห็นนางในเร็ววัน คงคะนึงนางจนแทบบ้า
ตัวข้าเป็นดั่งเช่นฟินิกซ์ที่โผบิน, ทะยานฟ้าและสัญจรไปทั่วสี่มหาสมุทรเพื่อตามหาฟินิกซ์สาวของตน
น่าเสียดาย ที่สตรีงามผู้นั้นไม่ได้อยู่ที่กำลังตะวันออก
ใช้กู้เจิ้งแทนคำกล่าว เพื่อบรรเทาตนกับความรู้สึกนี่
เมื่อไหร่ข้าจะเห็นเจ้ายอมรับ และบรรเทาความกระวนกระวายของข้า?
คำกล่าวที่พาหนึ่งเดียวของคุณธรรมนาง มือสู่มือที่เรายึดถือ.....
Courting the Phoenix – เป็นช่วงที่ซีหม๋าเซียงหรูกำลังเล่นกู้เจิ้งเพื่อโจวเหวินจุน หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถหาได้ที่ https://www.shine.cn/feature/art-culture/1709113504/
กรุณากลับบ้านแล้วกินข้าวเอง – คุณถูกไล่ออก คุณอยู่ด้วยตัวเอง
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

อย่างตัว i ส่วนใหญ่จะออกเสียงสระ อือ
ส่วน e จะออก เออ ในกรณีที่ ลงท้ายด้วย e
แต่ถ้าผสมกับพยัญชนะอื่นก็กลายเป็น เอิx ไปนะคะ
a ก็ อา เป็นต้นค่ะ
หลินทำดีมากลูก
หลับตาลงแล้วลองจินตนาการออกมาเป็นฉากๆ
ทำไมรู้สึกเหมือนกำลังถูกบอกรัก(///-///)