ตอนที่ 13 : บทที่ 13 ไล่ล่า
บทที่ 13 ไล่ล่า
หลังจากจางจิ้งจิ้งออกจากสตูดิโอไปด้วยอาการอ่อนแรง หยานมู่หลินก็อุทิศพลังงานทั้งหมดของเขาไปกับการทำงาน ชายหนุ่มไม่คิดจะเข้าเว่ยปั๋วหรือแม้แต่สิ่งไม่จำเป็นใดๆทั้งสิ้น
“พานจินเหลียน” มีทั้งสิ้น 40 ตอน แต่ละตอนจะประมาณ 25 นาที ด้วยพื้นฐานความสามารถของหยานมู่หลิน ใช้เวลาประมาณ 2-4 ชั่วโมงจึงจะเสร็จหนึ่งตอน และเขาทำงานทั้งชั่วโมงได้เหมือนมืออาชีพ ที่พื้นฐานคือ 12 ชั่วโมงหรือมากกว่านั้น การตรวจสอบทำให้ใช้เวลาของเขามากขึ้น ผู้กำกับบางคนมีเงื่อนไขพิเศษที่อยากได้ จึงจำเป็นต้องใช้จ่ายเป็นจำนวนมากช่วงประโยคพิเศษ การวิเคราะห์และก็ทำเสียงพากย์อีกครั้ง
รถไฟที่กลับไปยังมหาวิทยาลัยปิดตอน 5 ทุ่ม ขณะที่รถบัสเที่ยวกลางดึกเริ่มเดินทางไปได้หนึ่งชั่วโมง รอแท็กซี่มันนานเกินไป หยานมู่หลินคิดจะถามผู้กำกับเฉินว่าเขาจะขอค้างในบริษัท ผู้กำกับเฉินก็คิดเรื่องนี้ แล้วถามฝ่ายบริหารให้ห้องและเตียงกับเขา ทุกๆวัน พนักงานทำความสะอาดจะเข้ามาและจัดการห้อง
เทียบกับที่พักเล็กๆของเขาในเมือง ที่นี้มันใหญ่อย่างกับห้องคู่ ตัวเตียงเป็นแบบควีนไซส์ ชายหนุ่มสามารถอยู่ที่นี้ได้อย่างสบายใจ หยานมู่หลินวางกระเป๋าเดินทางของเขาที่ด้านข้างผนังชั่วคราว เขาอยู่ชั้นใต้ดิน และการบริการถือว่าดีมาก อย่างไรก็ตาม เขาไม่คิดจะอยู่ที่นี้นานนัก ค่าตอบแทนที่ผู้กำกับเฉินมอบให้เขาคือสองสัปดาห์ หยานมู่หลินต้องไม่ทำให้ความคืบหน้าของทุกคนช้าไปกว่านี้
หยานมู่หลินไปขออนุญาตอาจารย์เพื่อไปค้างข้างนอก อาจารย์ในโรงเรียนนี้จะผ่อนผันอย่างมากให้กับนักศึกษาที่ได้งานแล้ว พวกเขาไม่อยากจะนักศึกษาของพวกเขาแค่เรียนแล้วไม่ทำอะไร
จังหวะช่วงที่หยานมู่หลินไม่ได้อยู่ที่มหาวิทยาลัย เชงเซียเส่าที่มักจะแกล้งเขาเสมอตลอดทั้งสัปดาห์ ได้ค้นพบบางอย่างที่ผิดแปลกไป เขาไม่เห็นหยานมู่หลินมานานมาก หมอนั้นไปไหน มันตายไปแล้วหรือ!?
เขาไม่คิดเลยว่าคนที่เขามักจะกลั่นแกล้งเสมอ วันหนึ่งจะหายตัวไป หลังจากสั่งให้ใครสักคนไปตามหา เขาก็ค้นพบว่าหยานมู่หลินได้งานแล้ว หมอนั้นได้งานได้ยังไง? เขาทำงานที่ไหน? คนที่สั่นสะท้านตลอดที่เขามองได้งานไปแล้ว? หรือจะเป็นงานพากย์เสียงจริงๆ? เขาไม่มีทางได้รับงานพากย์เสียงโฆษณาของเขา ทำไมถึงไม่มีใครรู้เรื่องนี้?
การปกปิดความลับของหยานมู่หลินที่ไปทำงานเป็นไปได้ด้วยดี ไม่ใช่ว่าเขาทำไปโดยมีวัตถุประสงค์ แต่นี้เป็นเพราะเขาไม่มีเพื่อนสักคน นอกจากนี้ เขายังเพิ่งจะได้เป็นนักพากย์เสียงที่ยังไม่โด่งดัง เขาไม่คิดจะใช้ชื่อเสียงของพานจินเหลียนเพื่อยกระดับให้สาธารณชนรับรู้ถึงตัวเขา คุณควรรู้ได้ว่าชายหนุ่มไม่มีแม้กระทั่งบัญชีเว่ยปั๋วด้วยซ้ำ นี้แสดงให้เห็นว่าเขาเป็นพวกเก็บตัวจริงๆ ชายหนุ่มไม่คิดแม้แต่จะเสมอตัวเอง เขาจดจ่ออยู่กับการงานของเขา
ที่นี้ไม่มีตัวน่ารำคาญอย่างคนสกุลเชง และโทรไปหาแม่หยานเป็นครั้งคราว ในช่วงเวลาอื่นๆ หยานมู่หลินก็มักจะนอนหลับ เรียนรู้ถึงตัวละครของเขา หรือการทำงาน อีกอย่าง เขาไม่มีเวลาแม้แต่จะเข้าไปในออนไลน์และหาข่าวซุบซิบ
เมื่อสองวันก่อน นี้เป็นหัวข้อที่ร้อนแรงมาก มันขึ้นถึงอันดับห้าของหัวข้อที่มีการสืบค้นมากที่สุดในเว่ยปั๋ว และกลายเป็นอันดับหนึ่งในเวลาต่อมา
หัวข้อนั้นกระชับและได้ใจความ แต่ก็มีสิ่งที่ดึงดูดคนให้เข้ามา : ให้ทายว่าเสียงครางอันไหนเป็นของจางจิ้งจิ้ง? พร้อมไฟล์แนบ
นี้เป็นโพสต์ของเว่ยปั๋วเมื่อสองวันก่อน ส่วนของเนื้อหาเหมือนกับหัวเรื่อง มีแค่ไฟล์เสียงสองไฟล์ด้านใน หลังจากเปิดไฟล์แรก คุณจะได้ยินเสียงหอบถี่ธรรมดาๆ ถ้าหากคุณเป็นนักพากย์เสียง คุณก็จะสามารถทำเรื่องแบบนี้ได้ หากจะให้พูดอย่างตรงไปตรงมา มันก็แค่ดีกว่าเสียงหอบหายใจเวลาปีนเขาแค่นั้นเอง มันอ่อนแอแล้วยังไม่มีความหนักแน่น เหมือนกับทุกที ที่มีคนรู้สึกปวดหัวและเป็นลม ถึงอย่างนั้น จุดสนใจไม่ได้อยู่ที่ความอนาถาของไฟล์ตัวนี้ แต่เป็นอันถัดไป ที่ทำให้อัตราการเต้นหัวใจแรงขึ้นจนเลือดสูบฉีด พวกเขาลืมแม้กระทั่งปิดไฟล์ ครั้งแล้วครั้งเล่า พวกเขาเปิดเล่นซ้ำไปซ้ำมา คนเหล่านั้นคาดว่านี้คือผลงานของจางจิ้งจิ้ง แต่ก็นะ ถ้าเสียงของจางจิ้งจิ้งเป็นของอันก่อนที่ฟังออกยาก เสียงเหมือนคนตาย งั้นใครเป็นเจ้าของไฟล์นี้?
ทางโพสต์ของเว่ยปั๋วจะใส่ไฟหรือสรรเสริญจางจิ้งจิ้งดี?
อะไรคือคำตอบ? ไม่มีใครประกาศเลยสักคน! คนเปิดประเด็นนะอยู่ไหน!?
เพราะว่าไม่มีคำตอบเลยหลังจากมีคอมเมนต์และคำถามจำนวนนับไม่ถ้วนบนเว่ยปั๋วโพสต์ แถมมันยังอยู่ในหัวข้อร้อนแรงที่สุดโดยไม่รู้ตัว บล็อกเกอร์ที่ทำโพสต์ตัวนี้ขึ้นมาก็ยอมรับการเป็นบัญชีสาธารณะ แน่นอนว่าบล็อกเกอร์ไม่ใช่บัญชีสาธารณะที่จะขโมยรูปใครก็ไม่รู้มา เนื่องจากข้อบังคับทางอินเทอร์เน็ตในปัจจุบันหากคุณละเมิดสิทธิในการถ่ายภาพบุคคลอื่นหรือสิทธิอื่นใดตำรวจมีสิทธิ์ที่จะลงโทษคุณหรือ บริษัท ที่อยู่เบื้องหลังเว่ยปั๋ว หากมีการละเมิดสิบครั้งในสองเหตุผลนี้ ประการแรกคือความสมบูรณ์ส่วนบุคคลของบล็อกเกอร์เป็นเรื่องที่น่าสงสัยและประการที่สองเว็บไซต์ไม่ได้รับการตรวจสอบอย่างถูกต้อง
ไม่ว่าตัวโพสต์จะร้อนแรงแค่ไหน มันก็ยังส่งไปไม่ถึงหยานมู่หลินอยู่ดี บล็อกเกอร์ไม่มีทางปิดการตอบคำถามต่อสาธารณะ ถ้าคุณอยากจะรู้งั้นก็รอ รอ และรอ̴ ไม่ใช่ว่าตัวบล็อกเกอร์ไม่อยากจะประกาศผล แต่แหล่งที่มาของเขาไม่อยากจะให้บอก ชายหนุ่มแค่บอกเขาว่าความจริงควรจะถูกเปิดเผยในเวลาที่เหมาะสม
การอยู่ในสตูดิโออัดเสียงแบบลืมเวลา หยานมู่หลินมักจะออกจากที่นี้ตอนที่ดวงจันทร์ขึ้นสูงเหนือต้นหลิวเสมอ วันนี้ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง หลังจากบอกลาสต๊าฟบางส่วนที่ยังคงอยู่ในสตูดิโออัดเสียงเพื่อจัดเรียงเทปอัดเสียง หยานมู่หลินจับใบหน้าของเขา หลังจากช่วงที่ร้อนที่สุดของฤดูหนาว อุณหภูมิในตอนกลางคืนก็พลิกกลับ
เย็นนี้ ดวงจันทร์เต็มดวงส่องสว่างไสว ขณะที่ดาวรอบๆต่างดูเบาบาง ท้องฟ้ายามกลางคืนคืนนี้งดงามมาก
ยืนตรงหน้าตึกอาคารขนาดใหญ่ หยานมู่หลินแหงนศีรษะของเขามองท้องฟ้า ความรู้สึกกะทันหันนี้ช่างเป็นช่วงเวลาที่สวยงาม เขาคิดว่าคงน่าเสียดายที่จะกลับไปยังห้องของเขาแล้วนอน ชายหนุ่มควรจะเดินไปรอบๆแล้วสัมผัสกับบรรยากาศยามค่ำคืนของโลกใบนี้
หยานมู่หลินที่ปราศจากความเอาใจใส่ของครอบครัว ทำได้แค่พาตัวเองไปมาอย่างอิสระในบาร์ ในโลกก่อนของเขามีพ่อแม่น้อยคนนักที่จะยอมรับว่าลูกชายของพวกเขาเป็นพวกรักร่วมเพศ พวกเขามักคิดมันเป็นโรคหรืออาการป่วยทางจิต
ถูกแล้ว หยานมู่หลินเป็นเกย์ตลอดมาแล้วตลอดไป และเขาก็ยังบริสุทธิ์ 100% การเน้นย้ำให้เขาชอบผู้หญิงเป็นอะไรที่ยากเย็นมากสำหรับเขาที่จะทำ ในวงการพากย์เสียงโลกของเขา เขาไม่กล้าที่จะประกาศรสนิยมทางเพศของเขาสู่สาธารณะแม้กระทั่งกับเพื่อนตัวเอง ชายหนุ่มมักจะซ่อนเอาไว้ตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาไปหาพวกเดียวกัน ชายหนุ่มมักแต่งหน้าและสวมเสื้อผ้าที่แตกต่างเสมอ เมื่อเขาเจอคนที่ดีคนหนึ่ง เขาอยากจะดื่มสักแก้วสองแก้วกับพวกเขาแล้วมี one night stand ด้วยกัน แต่เขาไม่เคยทำแบบนั้น สุดท้าย เขาก็ไม่รู้เลยว่าส่วนไหนของเขาที่มันเป็นปัญหา แต่เขาก็ไม่สามารถจะเล่นผีผ้าห่มบนเตียงกับคนที่เขาไม่รู้จักได้จริงๆ
ตัวเขายังไม่ตระหนักเลยว่าตัวเองอยากจะเก็บร่างกายให้สะอาดบริสุทธิ์เอาไว้ และเขามักมีความฝันถึงครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ
ตัวคนเดียวในโลกที่แตกต่าง หยานมู่หลินหยิบโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมาแล้วมองหาบาร์ที่ใกล้ๆ จากนั้นเขาก็ใช้แอปพลิเคชั่นนำทางไปยังสถานที่นั้น ถ้ามันไกลเกินไป เขาก็กลัวว่าเขาจะมาไม่ทันเที่ยวรถบัสรอบสุดท้ายเพื่อกลับบ้าน ใช้บริการแท็กซี่เป็นไปไม่ได้ เขาเป็นแค่นักศึกษาจนๆ ชายหนุ่มยังไม่ได้รับเงินเดือนเป็นของตัวเอง ไม่มีเงิน ไม่มีเงิน อา!
คิดไปได้ครึ่งทาง เขาพลันจำได้ว่าตัวเองเป็นแค่นักศึกษายากจนคนหนึ่ง เขาไม่มีเงินที่จะไปบาร์ กระเป๋าตังค์แฟ่บๆของเขาดูจะมีเงินไม่มากพอให้ชายหนุ่มใช้ การจะใช้เงินในบัญชีก็ดูจะเป็นปัญหาใหญ่ หยานมู่หลินที่ถูกความจริงแสกหน้า หันหัวกลับไปยังหอพักชั่วคราวของเขา แน่นอนว่า เหรีญเพนนีแค่เหรียญเดียวตอนนี้ก็ดูจะเป็นฮีโร่สำหรับเขาไปแล้ว
ทางขากลับ หยานมู่หลินตัดสินใจจะเดินเล่นอีกสักหน่อย มันสายเกินไปสำหรับมื้อเย็นของเขา ชายหนุ่มเพียงแค่เดินไปเดินมาเฉยๆ พลางคิดว่าช่างตกต่ำเหลือคณา เฮ้
ขณะที่หยานมู่หลินกำลังจมไปกับห้วงอารมณ์ของเขา ตรงจุดที่ไม่ไกลนักได้มีเสียงของคนกำลังต่อสู้กัน ถ้าเขาไม่วอกแวก เขาคงจะได้ยินเสียงคนกำลังชกต่อยกันแน่ และเสียงของท่อเหล็กที่ถูกเขวี้ยงลงพื้นด้วยเช่นกัน
หยานมู่หลินที่ยังคงเดินต่อไป ตระหนักในที่สุดว่าถนนที่เขากำลังเดินอยู่มันเงียบเกินไป เมื่อเขาได้สติกลับมา เขาเห็นเงาดำๆในถนนที่กำลังมุ่งตรงไป ชายหนุ่มไม่มีแม้แต่เวลาจะตอบสนองต่อมือของผู้ชายที่ยื่นตรงเข้ามาดึงตัวเขาไปแนบชิด ฝ่ามือของใครบางคน พอสังเกตไปที่กลิ่นเลือดเข้มข้น ที่กำลังปิดปากของเขาอยู่!
หยานมู่หลินจ้องไปยังผู้ชายแข็งแกร่งจำนวนหนึ่งที่ถือท่อระบายน้ำวิ่งไปยังทิศทางตรงกันข้าม เขาหนาวยะเยือกเพราะชายที่อยู่ด้านหลัง “อย่าพูด หรือพวกเราจะตายใต้ท่อระบายน้ำนั้น!”
นี้มันสถานการณ์อะไรกัน!
นี้เขาถูกจับเป็นตัวประกันงั้นเหรอ!?
หยานมู่หลินใจเย็นลงอย่างรวดเร็ว บางทีขาควรจะคุยกับชายที่จับตัวเขาไว้ หมอนั้นไม่มีอาวุธ คงไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร
โชคร้ายที่คาดไม่ถึงและกะทันหัน พวกเขากำลังต่อสู้ และเขา ผู้ผ่านทาง A ก็ถูกลากเข้ามาเกี่ยวข้อง อา!
ตอนนี้ โชคชะตาของเขาได้อยู่ในอีกกำมือ หยานมู่หลินได้ทำแค่รอพร้อมดวงตาที่เบิกกว้างและมือที่สั่นเทา ต่อให้เขากลับมาเกิดใหม่ เคยเผชิญหน้ากับความตาย เขาก็ยังคงหวาดกลัวอยู่ดี ไม่มีใครไม่กลัวความตาย ไม่อย่างนั้น ทำไมผู้คนมากมายถึงอยากจะเป็นอมตะ? อย่างเช่น ถังซง
บุรุษที่อยู่ด้านหลังเขาหอบสั่นระริก แผ่นอกของอีกฝ่ายดันแผ่นหลังหยานมู่หลิน แผ่นหลังของเขารับรู้ถึงความร้อนจากอกของอีกฝ่าย และมันเริ่มจะเผาไหม้
เมื่อพวกเขาไม่ได้ยินเสียงกลุ่มคนที่ไล่ตามพวกเขา จึงออกไปตรวจดู มันมืดและไม่ง่ายที่จะหาพวกเขาเจอ นอกจากนี้ ถ้าพวกหยานมู่หลินไม่รีบ คนอื่นๆอาจจะกลับมา แล้วพวกเขาก็จะตาย หยานมู่หลินคิดกับตัวเองว่าคนนี้ก็แค่คนๆหนึ่ง ที่ชักนำปัญหามาให้เขา
ชายด้านหลังของหยานมู่หลินมีเสียงต่ำ มันมีความดึงดูดให้ค้นหาอย่างที่ผู้ชายโตเต็มวัยจะมี เป็นเสียงที่หยานมู่หลินชอบมากที่สุด
ริมฝีปากของชายด้านหลังขยับเข้าใกล้หูของหยานมู่หลินพร้อมกับเอ่ย “นายพักที่ไหน? ฉันจะพาไปส่ง วางใจได้ ฉันไม่ทำร้ายนาย”
หยานมู่หลินอยากตอบแต่มือของอีกคนยังวางอยู่บนปากของเขา เขาจึงพูดไม่ได้ เขาใช้วิธีพยักหน้าเพื่อตอบกลับไปว่าเข้าใจแล้ว และชี้ไปที่ริมฝีปากของเขา
หลังจากตระหนักถึงปัญหา ชายคนนั้นจึงปล่อยมือลง “ขอโทษ สถานการณ์เมื่อกี้ทำให้ฉันเผลอทำลงไป”
หยานมู่หลินหันไปมองและด้วยความช่วยเหลือจากแสงไฟของถนน เขาจึงเห็นเส้นโค้งอันโดดเด่นของอีกฝ่าย เขามีใบหน้าน่าเกรงขามอันเฉียบคม เขาคิดว่าเทียบกับไปเจอคนหน้าตาน่าเกลียดที่บาร์แล้ว มันคงจะดีกว่าถ้าจะพาชายหนุ่มสุดเท่คนนี้ไปยังห้องพักชั่วคราวของเขา ยังไงก็ตาม คืนนี้ เขาก็ตัวคนเดียวอยู่แล้ว
ไม่ว่าหยานมู่หลินจะพยายามปฏิเสธแค่ไหน ชายคนนี้ก็ยังคงยืนยันว่าจะไปส่งเขา
พวกเขาเดินตามเส้นทางแถวย่านที่อยู่อาศัย เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยยอมให้หยานมู่หลินกลับดึกได้ เมื่อเห็นชายสูงและหุ่นดีด้านหลังเขา ก็ไม่ได้กล่าวอะไร คนหนุ่มมักมีช่วงชีวิตที่เป็นส่วนตัว ดังนั้นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจึงเมินเขาไป
ขณะอยู่ในลิฟต์ หยานมู่หลินนึกขึ้นมาได้ว่าเขารู้สึกคุ้นเคยกับคนข้างตัว
นัยน์ตาของเขาเบิกกว้างและกรามก็ตกลง ชายหนุ่มตื่นเต้นมาก เขาไม่อาจพูดได้ชัดเจน สิ้นของเขาพันกันมั่วและเอ่ยขึ้นมาทันทีทันใด “คุณคือคนขับรถสุดหล่อคนนั้น!”
“คนขับเชา” มีสีหน้าขาวซีดเหมือนศพ และแขนของเขายังคงมีเลือดออก ที่ศีรษะของเขาโดนตีด้วยกระบอง ดังนั้นเขาจึงรู้สึกปวดหัว ชายหนุ่มไม่อยากพูดแต่เมื่อเขารับรู้ว่าหยานมู่หลินอยู่ในอารมณ์ดี เขาจึงผ่อนคลายและเป็นลม
หยานมู่หลินรับเข้าไปประคองเชานัวอวี้แล้วพูด “เฮ้....”
เว่ยปั๋ว – คือ U博
ถังซง – ชื่อตามมารยาทคือถังซันซงในนิยายการเดินทางสู่ตะวันตก เขาตั้งอยู่บนพื้นฐานของพระภิกษุสงฆ์ชื่อเซียนซง เขาถูกข่มขวัญโดยสัตว์ประหลาดและปีศาจอย่างต่อเนื่องเพราะมีตำนานกล่าวว่าสามารถทำให้อมตะเป็นที่รู้จักโดยการกินน้ำของเขาเพราะเขาเป็นตัวตนของมนุษย์ศักดิ์สิทธิ์
***********************************************
ขอโทษที่หายไปนานนะค่า พอดีว่าหาเวลามาแตะคอมไม่ได้เลย เด็จพ่อเด็จแม่คุมเข้มหนักมาก เพระปีนี้เราสอบเข้ามหาลัยนะค่ะ แต่เอามาลงให้แล้วนะค่า
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

รอนะคะ
รอจ้าาา
สสนุกมากค่ะ
มาต่อไวๆน้าาาา
รอน้าาา. แต่ไปสู้กับเรื่องสอบก่อนก็ได้
แต่อย่าหายไป น้าา
ขอบคุณค่ะ สู้ๆ ค่ะ
พระเอกมาแล้วว.
เย้ๆๆๆ