คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : {MINI SERIES/LUMIN} LU MANAGER (2) 100% UP
Tittle : LU MANAGER : SEHUN FANSIGN !!
Paring : LUHAN x MINSEOK
Rate : PG-13
Note : ว่าจะแต่งเป็นมินิซีรี่ย์ตอนสั้นๆเรื่อยๆค่ะ ถ้าชอบหรือไม่ชอบยังไงบอกกันด้วยนะคะ แต่จริงๆแล้วมันก็ไม่มีอะไรเลย แต่งด้วยความไบแอสลู่หมิน อี้ชิง และเซฮุนค่ะ กร๊ากกกกก #ลมนจ
วันนี้จะเป็นวันที่คิมมินซอกมีความสุขที่สุดในโลกกกกกกใบนี้
เพราะอะไรน่ะเหรอ ?
เพราะว่าคิมมินซอกได้สิทธิ์แฟนไซน์ของเซฮุนมายังไงล่ะ คิคิ /ชูสุดแขน
“ชิงงงง ไปกับฉันหน่อยนะ ทำยังไงดีอ่ะตื่นเต้นไปหมดแล้ว” คนตัวเล็กมองบัตรงานแฟนไซน์ในมือด้วยดวงตาเป็นประกายก่อนจะใช้สายตาเหมือนลูกแมวนั่นช้อนมองเพื่อนตัวขาวที่ยืนเท้าคางมองเขาอยู่บนพนักพิงของโซฟา ถ้ามีหูมีหางก็คงกระดิกไปหมดแน่ๆ
“หว่า คนคงเยอะน่าดูแน่เลยมินซอก” ความจริงเรื่องคนเยอะน่ะจางอี้ชิงไม่ยี่ระอยู่แล้ว แต่การได้เห็นเพื่อนตัวเล็กคนนี้อ้อนสักหน่อยคงจะคุ้มกันกับการยอมไปเบียดกับคนนับแสนด้วยล่ะนะ
“ง่า พูดแบบนี้ชิงจะไม่ไปหรอ” เสียงหวานดูหงอยลงทันทีพร้อมกับหูและหาง(?)ที่เหมือนจะลู่ลงไปด้วย มินซอกเด้งตัวจากการนอนหงายบนโซฟาขึ้นมานั่งเกาะขอบพนักพิงและส่งสายตาเหมือนลูกแมวไปให้
“อืมมมม.. ไปดีมั้ยนะ”
“งื้ออออ ต้องไปสิ ไปนะ ชิงจะปล่อยฉันไปคนเดียวหรอ” มือเล็กเอื้อมขึ้นมาเกาะแขนเพื่อนตัวขาวพร้อมกับเขย่าเบาๆ
“...” คนตัวขาวแสร้งทำเป็นเบือนหน้าไปทางอื่นเหมือนกำลังใช้ความคิด เมื่อเห็นแบบนั้นมินซอกก็เอาคางเกยไว้บนพนักพิงเพื่อรอฟังคำตอบ อี้ชิงต้องไปกับมินซอกสิ มินซอกมั่นใ จ อี้ชิงไม่ใจร้ายปล่อยมินซอกไปคนเดียวหรอก... มั้ง
“อี้ชิงงง ตอบซี่ อย่าเงียบแบบนี้” มินซอกยู่ปากอย่างขัดใจเมื่อเพื่อนตัวดีของเขาเอาแต่ยืนเงียบแถมมองไปทางอื่นอีกต่างหาก อี้ชิงลอบยิ้มกับท่าทางของเพื่อนตัวเล็ก เขาไอกระแอมเล็กน้อยก่อนจะตอบ
“ไปก็ได้” ริมฝีปากอิ่มยกยิ้มทันทีที่ได้ยินคำตอบ
“เยสส ต้องแบบนี้สิ”
พรุ่งนี้เจอกันนะเซฮุนนน ><
มินซอกทั้งตื่นเต้นทั้งดีใจ แต่ทำไมถึงรู้สึกสังหรใจแปลกๆยังไงก็ไม่รู้..
อนึ่ง คิมมินซอกในปัจจุบันได้ลืมเรื่องเมเนฯหน้าเหี่ยวไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
#น้องขอโทษแทนมินซอกด้วยนะคะพี่หานเด็กก็ลืมง่ายแบบนี้แหละค่ะ ถถถถถ
“เซฮุน เก็บโทรศัพท์ ไปเตรียมตัวขึ้นรถได้แล้ว” ขาที่ไม่ยาวเท่าไหร่ก้าวเข้ามาพร้อมกับกระดาษที่เขียนรายละเอียดของงานวันนี้ในมือ เสียงทุ้มติดหวานพูดทั้งๆที่สายตายังจดจ้องอยู่กับกระดาษในมือ ไอดอลหนุ่มเงยหน้าจากสมาร์ทโฟนก่อนจะลุกขึ้นบิดขี้เกียจ
“แวะซื้อต๊อกข้างทางได้ป่ะพี่ ผมหิวอ่ะ” เขาพูดพร้อมกับลูบท้องตัวเองไปด้วยซึ่งแน่นอนว่าอีกฝ่ายคงจะไม่เห็นเพราะเอาแต่พลิกแผ่นกระดาษไปมา
“นายอยากให้แฟนคลับได้กลิ่นต๊อกโปกีตอนนายให้ลายเซ็นรึไง” โอเค โอเซฮุนเข้าใจแล้ว นั่นคือคำตอบสินะ...
“แฟนคลับผมอาจจะชอบก็ได้นะ ให้ความรู้สึกเป็นคนธรรมดาดีออก ลมหายใจกลิ่นต๊อกโปกี” เด็กหนุ่มว่า ขอแถสักนิดเถอะ ถึงจะเข้าใจความหมายที่เมเนเจอร์ของตัวเองพูดก็เถอะ แต่เขาอยากจะกินนี่นา
ลู่หานเงยหน้าขึ้นจากแผ่นกระดาษเลิกคิ้วให้เด็กตัวสูงที่กำลังทำหน้าตามีความหวังก่อนจะพูดอย่างชัดถ้อยชัดคำว่า
“ไม่”
โอเค โอเซฮุนเข้าใจ เอาไว้กินหลังเสร็จงานก็ได้ครับ
เพียง 15 นาที รถของพวกเขาก็มาถึงสถานที่จัดงาน ลู่หานบอกให้เซฮุนนั่งรอบนรถส่วนตัวเขาออกไปคุยกับผู้จัดและทีมงานข้างนอก ถ้าให้โอเซฮุนลงไปตอนนี้รับรองว่างานแตกแน่ๆ เพราะแฟนๆของไอดอลหนุ่มนั่งอยู่เต็มพื้นที่เรียบร้อยแล้ว ขนาดแค่เขาที่เป็นเมเนเจอร์ลงจากรถเสียงกรี้ดก็สนั่นแล้ว
ขณะที่กำลังเดินเข้าหลังเวที สายตาเมเนเจอร์หนุ่มก็เหลือบไปเห็นใบหน้าที่ยังติดอยู่ในหัวของเขาไม่ไปไหนมาหลายวัน สองขาของเขาหยุดชะงักทันทีที่เห็นคนตัวเล็กในชุดนักเรียนมัธยมปลายนั่นยกยิ้มให้เด็กผู้ชายในชุดนักเรียนอีกคนเสียจนเต็มแก้ม คงจะมีความสุขสินะ ก็แน่สิ เด็กคนนั้นเป็นแฟนคลับเซฮุนนี่ เคยเจอกันแค่ครั้งเดียวแท้ๆแต่เขากลับจำหน้าของเด็กคนนั้นได้แม่น แถมพ่อคุณก็ได้ที่นั่งอยู่หน้าสุดพอดีทำให้เห็นง่ายเข้าไปใหญ่
ก่อนจะคิดอะไรมากกว่านั้นลู่หานละสายตาออกมาและเดินเข้าไปหลังเวที ถ้ามองนานกว่านี้มีหวังงานวันนี้ต้องล่าช้าไปเพราะเขาแน่ๆ เสียงานเพราะมองเด็กนี่คงจะไม่ดีเท่าไหร่...
“เป็นอะไรเหรอมินซอก” อี้ชิงเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าเพื่อนตัวเล็กจู่ๆก็เงียบไปเสียดื้อๆ มินซอกมองซ้ายมองขวาก่อนจะขมวดคิ้วแล้วหันกลับมามองอี้ชิง
“เปล่า แค่รู้สึกเหมือนมีใครมองเลยอ่ะเมื่อกี้” คนตัวเล็กตอบพร้อมกับไหวไหล่น้อยๆ “สงสัยจะคิดไปเอง” แถวนี้คนเยอะจะตาย ถ้าถูกมองก็คงไม่แปลกล่ะนะ อี้ชิงพยักหน้าเป็นเชิงรับรู้ก่อนที่พวกเขาจะคุยกันต่อ
อีกไม่ถึง 1 ชม. งานก็จะเริ่มแล้ว วันนี้มินซอกจะขอจับมือกับเซฮุนให้ได้ !! /มุ่งมั่นสุดๆ
“สวัสดีครับเซฮุนแฟนทุกท่าน !!” เสียงพิธีกรของงานดังขึ้นพร้อมๆกับเสียงกรีดร้องของบรรดาแฟนคลับ คนตัวเล็กแก้มกลมที่นั่งอยู่หน้าสุดเขย่าแขนเพื่อนตัวขาวอย่างตื่นเต้นก่อนจะปรบมือให้กับพิธีกรหนุ่มบนเวที
“ขอบคุณทุกเสียงปรบมือนะครับ แม้ผมจะไม่ใช่โอเซฮุนของพวกคุณ ฮ่าๆ อีกไม่กี่นาทีงานแจกลายเซ็นของไอดอลแห่งยุคก็จะเริ่มขึ้นแล้ว ตื่นเต้นกันไหมครับ ??!!”
“ตื่นเต้นนน !!” เหล่าแฟนคลับตอบรับเสียงดัง แน่นอนว่าหนึ่งในเสียงนั้นก็ต้องมีคิมมินซอกอยู่ด้วย
“ดูจะตื่นเต้นกันมากเลยนะครับ งั้นถ้าจะให้ตื่นเต้นกว่าเดิม เรามาช่วยกันเรียกโอเซฮุนออกมาดีกว่า !!”
“กรี้ดดดดดด !! โอเซฮุน โอเซฮุน !!”
“อ๊า ทำยังไงดีอี้ชิง เซฮุนจะออกมาแล้วว” มินซอกตะโกนแข่งกับเสียงแฟนคลับที่ร้องเรียกนักร้องในดวงใจของเขา ร่างเล็กดิ้นยุกยิกไม่อยู่สุขอย่างตื่นเต้นพาลให้อี้ชิงต้องโอบไหล่เอาไว้
“ใจเย็นๆนะมินซอก หายใจเข้าลึกๆ” อี้ชิงลูบหัวลูบหางมินซอกให้ใจเย็นลง คนตัวเล็กมองหน้าเพื่อนตัวขาวก่อนจะหายใจเข้าลึกๆตาม โอเคคิมมินซอก ใจเย็นๆ เก็บอาการติ่งไว้ ไม่ใช่การเจอโอเซฮุนครั้งแรกเสียหน่อย.. แต่นี้มันงานแฟนไซน์ครั้งแรกนี่นา มินซอกตื่นเต้นนน !!
“งื้ออออ ถ้าเจอเซฮุนใกล้ขนาดนั้นต้องเขินจนเป็นบ้าแน่ๆเลยชิง” มินซอกพูดพร้อมกับซุกหน้าลงกับอกของเพื่อนสนิท
“กรี้ดให้ดังกว่านี้สิครับ โอเซฮุนจะออกมาแล้ว ขอเสียงอีกหน่อย !!” ไอ้พิธีกรนี่ก็บิวท์จัง มินซอกตื่นเต้นจนจะบ้าอยู่แล้วนะ จะออกก็รีบออกมาซี่ !!
“กรี้ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด !!” เสียงกรี้ดจนแผ่นดินแทบสะเทือนนั่นดังขึ้นพร้อมกับร่างสูงของไอดอลหนุ่มที่เป็นตัวหลักของงานนี้ที่ก้าวขึ้นมาบนเวที เพียงแค่รอยยิ้มมุมปากก็เรียกเสียงกรีดร้องจนแก้วน้ำบนโต้ะที่เตรียมเอาไว้สำหรับเขาเกือบจะแตกได้ เด็กหนุ่มโปรยรอยยิ้มเสียจนแฟนคลับบางคนจะเป็นลมก่อนจะรับไมค์จากพิธีกร
“สวัสดีครับ โอเซฮุนครับผม” เสียงทุ้มกล่าวทักทายพร้อมกับก้มหัวให้ทุกๆคนในงาน ทันทีที่เขาพูดจบเสียงกรี้ดก็ดังสนั่นขึ้นอีกครั้ง
“กรี้ดดดดดดดด สวัสดีค่า !! กรี้ดดดดดดดดดดดด!!”
“อ๊ากกกก เซฮุนนนน” เสียงของคิมมินซอก.. ก็เขากรี้ดไม่เป็นนี่ สงสัยต้องกลับบ้านไปฝึกกรี้ดบ่อยๆ ใครๆก็บอกว่าเสียงเขาแหลม แต่ถ้าจะให้กรี้ดสู้กับผู้หญิงก็คงไม่ไหว
“ระวังเจ็บคอนะมินซอก” อี้ชิงพูดปนหัวเราะ แต่ว่าตอนนี้มินซอกคงจะไม่ได้ยินเขาหรอกมั้ง ก็คนตัวเล็กนี่สนใจแค่คนบนเวทีนี่นา อายุพอๆกับพวกเราแท้ๆ ทำไมถึงตัวสูงใหญ่ขนาดนั้นนะ ยิ่งมองอี้ชิงก็ยิ่งคิดหนัก หรือว่าพวกเขาตัวเล็กไป ?
“เพราะวันนี้มีเวลาไม่มากนัก พวกเราจะขอเริ่มงานเลยนะครับ เชิญคุณโอเซฮุนนั่งที่เก้าอี้เลยครับผม ส่วนแฟนๆที่มีบัตรแฟนไซน์วันนี้จะได้ขึ้นมาบนเวทีทีละคนครับ !!” เมื่อพิธีกรพูดจบ ไอดอลหนุ่มยิ้มพร้อมกับก้มหัวให้แฟนๆอีกครั้งก่อนจะเดินไปนั่งที่เก้าอี้ เขาหยิบน้ำขึ้นมาจิบเล็กน้อย แต่แค่นั้นแฟนคลับก็กรี้ดกันคอแทบแตกแล้ว
“ทีละคนเลยอ่ะชิงงง ทีละค๊นน” มินซอกพูดพร้อมกับเขย่าตัวอี้ชิงไปด้วย คนตัวขาวได้แต่หัวเราะแห้งๆและบอกให้คนตัวเล็กใจเย็นลง
“เดี๋ยวเชิญแฟนที่มีบัตรที่ข้างเวทีเลยนะครับ”
“เดี๋ยวมานะชิง ถ่ายรูปตอนฉันอยู่บนเวทีกับเซฮุนเอาไว้ด้วยนะ” ฝากฝังเสร็จคิมมินซอกก็วิ่งดุ๊กดิ๊กไปข้างเวทีทันที คนตัวเล็กพ่นลมหายใจออกจากปากเพื่อลดความตื่นเต้นลง ถ้าเขาขึ้นไปทำอะไรแปลกๆบนเวทีต้องอายไปตลอดชีวิตแน่ๆ
“ใจเย็นๆนะคิมมินซอก ใจเย็นๆแบบที่อี้ชิงบอกไง ฟู่ววว” ริมฝีปากเล็กบ่นงุบงิบกับตัวเองก่อนจะพ่นลมออกมาอีกครั้ง
ไม่รู้ว่าโชคดีหรือโชคร้าย คิมมินซอกถึงได้คิวสุดท้ายพอดิบพอดี คนตัวเล็กชะโงกหน้าออกไปดูด้านหน้าทุกคนดูตื่นเต้นไม่ต่างจากเขาเท่าไหร่นัก ทีมงานเดินแจกโปสเตอร์ที่จะให้ศิลปินหนุ่มเซ็นให้กับบรรดาแฟนที่ต่อคิวรอขึ้นไปบนเวที
เมเนเจอร์หนุ่มยืนมองสถานการณ์อยู่ข้างล่างเวที เขากวาดสายตามองไปรอบๆก่อนจะไปสะดุดอยู่ที่เด็กผู้ชายตัวเล็กในชุดนักเรียนคนสุดท้ายของแถว ริมฝีปากบางยกยิ้มก่อนจะเดินไปขอโปสเตอร์จากทีมงาน เขาก็ไม่ค่อยเข้าใจตัวเองหรอกว่าที่ทำอยู่นี่มันอะไร แค่ใจมันบอกให้ทำ /ฮ่า
“อ้ะ ขอบคุณครับ” มินซอกสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะหันไปก้มหัวให้กับคนที่ส่งโปสเตอร์มาให้เขา คนตัวเล็กรับโปสเตอร์เอาไว้แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ได้สนใจมองเลยว่าใครเป็นคนยื่นมาให้ เขายังคงสนใจอยู่กับการทำให้ตัวเองใจเย็นลง
“นี่ บอกขอบคุณแล้วไม่คิดจะมองหน้าเลยหรือไง” เสียงที่ดังขึ้นใกล้ๆทำให้มินซอกต้องหันไปตามเสียงทั้งๆที่ไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าพูดกับตัวเขาหรือเปล่า ดวงตากลมจดจ้องชายตรงหน้าก่อนจะหันมองซ้ายขวาแล้วหันกลับมามองต้นเสียงอีกครั้ง
“พูดกับผมเหรอ ?” มินซอกถามพร้อมกับใช้นิ้วชี้มาที่ตัวเอง เห็นแบบนั้นเมเนเจอร์หนุ่มลอบหัวเราะเบาๆ เขามั่นใจว่าจำไม่ผิดคนแน่ นี่เด็กนั่นลืมเขาไปแล้วงั้นเหรอ ต้องฟื้นความจำกันหน่อยมั้ยเนี่ย
“พูดกับนายนั่นแหละ” ลู่หานพูดพร้อมกับก้มหน้าเข้าไปใกล้ ตอนนี้ไม่มีใครสนใจพวกเขาเพราะสายตาของทุกคนกำลังจับจ้องไปบนเวทีที่ศิลปินในความดูแลของเขาอยู่
“เอ๋ ??” มินซอกไม่ได้หลบหรือผละหน้าออกอย่างที่อีกฝ่ายตั้งใจให้เป็น คนตัวเล็กขมวดคิ้วและเลื่อนหน้าเข้าไปใกล้อีก นี่มันใครกันนะ คุ้นหน้าคุ้นตายังไงก็ไม่รู้...
“เป็นโรคความจำเสื่อมงั้นเหรอ ยังเด็กอยู่แท้ๆ” เมเนเจอร์หนุ่มพูดพร้อมกับปัดเส้นผมบนหน้าผากเนียนเบาๆ
“!!” ดวงตากลมเบิกตากว้างทันที พอได้มองนานๆเหมือนความจำทุกอย่างจะไหลย้อนกลับมาเป็นฉากๆ นี่มันคนบ้าที่จะเหวี่ยงเขาออกนอกหน้าต่างนี่ !! คิดได้ดังนั้นมินซอกก็ย่อขาลงและกอดเข่าเอาไว้ทันที
“???” เหมือนเครื่องหมายเควชั่นมาร์คโผล่ขึ้นมาตรงหน้า ลู่หานขมวดคิ้วมองคนที่นั่งกอดเข่าจนตัวกลมอยู่ตรงพื้นก่อนจะย่อตัวลงตรงหน้าอีกฝ่าย
“ทำอะไรของนายน่ะ”
“ห้ามอุ้มนะ” คนตัวเล็กพูดเสียงอู้อี้เพราะใบหน้ายังซุกอยู่กับเข่าของตัวเอง นั่งท่านี้รับรองหมอนั่นอุ้มเขาไม่ได้แน่ๆ เพราะงั้นอยู่แบบนี้แหละปลอดภัย !! /ในความคิดคิมมินซอก
“อุ.. ฮ่าๆๆๆๆๆๆ” ทันทีที่ได้ยินเมเนเจอร์หนุ่มก็หัวเราะออกมาทันที เด็กนี่ฝังใจกับเรื่องถูกเขาจับเหวี่ยงไปเหวี่ยงมาขนาดนั้นเลยงั้นเหรอ
“หัวเราะอะไร” คิมมินซอกเงยหน้าขึ้นมาส่งตาเขียวให้กับคนที่นั่งย่อขาอยู่ตรงหน้าเขา นี่ไม่ใช่ที่โรงแรมหรือที่ที่เขาไม่ควรอยู่นะ นี่มันงานแฟนไซน์ ถึงจะบอกว่าจะไม่มาให้เห็นอีกก็เถอะ !!
“เปล่า ลุกขึ้นยืนดีๆเถอะ ฉันไม่อุ้มนายหรอก แถวเลื่อนไปนู่นแล้ว” เขาพูดพร้อมกับพยักเพยิดหน้าไปตรงแถวที่ขยับเลื่อนขึ้นไปเรื่อยๆ มินซอกหันไปมองตามแถว จริงอย่างที่อีกฝ่ายว่า คนตัวเล็กหันกลับมาเหลือบมองหน้าของอีกฝ่ายอย่างชั่งใจเล็กน้อยก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วรีบวิ่งเดินตามแถวไป ลู่หานหัวเราะเบาๆและลุกขึ้นเดินตามไป
“ตามมาทำไม” มินซอกเอ่ยถามทันทีที่เห็นเมเนเจอร์คนเดิมเดินมาหยุดอยู่ข้างๆเขา
“ไม่ได้ตามนายสักหน่อย” อีกฝ่ายตอบพร้อมกับกวาดสายตาไปรอบๆเหมือนกับว่าไม่ได้สนใจมินซอกเสียเท่าไหร่ คนตัวเล็กยู่ปากก่อนจะไม่สนใจคนตัวสูงกว่าบ้าง คนเยอะขนาดนี้คงจะไม่กล้าทำอะไรเขาหรอก เพราะฉะนั้นมินซอกต้องไม่กลัว !
แถวที่หดสั้นลงเรื่อยๆนั่นทำให้ความตื่นเต้นของมินซอกก่อตัวขึ้นอีกครั้ง ถ้าอี้ชิงอยู่ใกล้ๆมินซอกคงจะซุกตัวเข้าไปในอกของอี้ชิงแล้วแน่ๆ แต่ตอนนี้อี้ชิงไม่อยู่ มินซอกไม่มีที่ระบาย(?) มินซอกอยากจะเอาหัวมุดลงดินจริงๆ ตื่นเต้นนน
ลู่หานที่ลอบมองคนที่ทำตัวเหมือนแมวกังวลเข้าไปทุกที่ เด็กคนนี้ดูยุกยิกไม่อยู่สุขเดี๋ยวก็ชะโงกออกไปมองบนเวทีเดี๋ยวก็ก้มหน้าพูดกับตัวเอง
“เฮ้ ไหวมั้ยเนี่ย”
“ไหวอะไร ไม่ได้เป็นไรสักหน่อย” มินซอกตอบกลับทันที เขาก็แค่ตื่นเต้นไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย คนตัวเล็กคิดก่อนจะสูดหายใจเข้าลึกๆ โอเค หายแล้ว ไม่ตื่นเต้น ซ้อมไว้เนอะมินซอกเผื่อได้เข้าใกล้เซฮุนบ่อยๆ /ก็ว่าไปนั่น..
ลู่หานไม่ได้พูดอะไรต่อเขาแค่ลอบพิจารณาเด็กคนนี้ใกล้ๆ ตอนยืนเฉยๆนี่ก็ดูไร้พิษภัยดีนะ แต่ความจริงแล้วหลังจากที่ปะทะ(?)กันไปแล้วครั้งหนึ่ง เด็กคนนี้ก็ไม่ได้ต่อกรอะไรกับเขาได้ แค่จับอุ้มเหวี่ยงไปมาก็หมดพิษสงแล้ว คิดแล้วก็อยากจะลองจับเหวี่ยงดูอีกสักรอบ แต่ถ้าเขาทำตอนนี้คนทั้งงานคนดราหน้าว่าเขาเป็นไอ้โรคจิตที่อยู่ๆก็จับเด็กผู้ชายมาอุ้มเล่นแน่ๆ
“เอาล่ะครับ !! ในที่สุดก็ถึงผู้โชคดีคนสุดท้ายแล้วนะครับ ถึงงานจะใกล้จบลงแล้ว แต่รับรองว่าคราวหน้าเราต้องจัดงานดีๆเพื่อเซฮุนแฟนแบบนี้อีกแน่นอนคร้าบบบ !!” พิธีกรบนเวทีกล่าว มินซอกสูดหายใจเข้าลึกๆก่อนจะเดินขึ้นไปบนเวที คนตัวเล็กเดินก้มหน้างุดเข้าไปเรื่อยๆ เขารู้สึกว่าตอนนี้อะไรบนร่างกายก็เกะกะจนอยากจะสะบัดทิ้งไปให้หมด
โอเซฮุนนั่งยิ้มอยู่ตรงนั้น... นี่คิมมินซอกฝันไปรึเปล่า อยากจะยกมือขึ้นมาตบหน้าตัวเองสักฉาดเผื่อนี่เป็นความฝัน แต่มันคงไม่ใช่ที่ เพราะถ้ามันไม่ใช่ความฝันทุกคนคงคิดว่าเขาเป็นบ้า
“ส.. สวัสดีครับ” มินซอกพูดพร้อมกับก้มหัวจนแทบจะโขกกับโต๊ะงานไซน์ มือเล็กยื่นกระดาษโปสเตอร์ที่อีกฝ่ายจะต้องเซ็นไปตรงหน้า ไอดอลหนุ่มหัวเราะเบาๆก่อนจะรับมาเซ็น
“ชื่ออะไรครับ ?”
“คิมมินซอกครับ...” ไม่รู้ว่าทำไมเสียงของเขามันถึงเบาลงได้ขนาดนี้ทั้งๆที่ปกติก็ไม่ใช่คนเสียงเบาสักหน่อย..
“อะไรนะครับ ?” เพราะได้ยินไม่ค่อยเซฮุนเลยเลื่อนหน้าเข้าไปใกล้ๆแฟนคลับตัวเล็กคนนั้น มินซอกรู้สึกว่าแก้มของตัวเองร้อนมากแต่ก็รวบรวมสติก่อนจะเอามือป้องปากตัวเองแล้วพูดอีกครั้ง
“คิม มิน ซอก..” จบคำพูดคนตัวเล็กก็เอาแต่ก้มหน้า ทั้งๆที่คิดไว้ว่าถ้าได้เข้าใกล้ขนาดนี้เขาจะมองหน้าโอเซฮุนให้คุ้มกับที่โชคดีได้บัตรมาแท้ๆ แต่เอาเข้าจริงแค่หายใจยังลำบากเลย
“ก้มหน้าทำไมล่ะครับ ระวังจะเสียใจทีหลังนะ” เซฮุนพูดปนหัวเราะ พอได้ยินแบบนั้นมินซอกกัดริมฝีปากก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองศิลปินในดวงใจของตัวเอง ตอนนี้ใครจะบอกว่าคิมมินซอกเว่อร์ยังไงก็ได้ แต่เขารู้สึกเหมือนมีศรรักมาปักอกซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทั้งรอยยิ้มทั้งน้ำเสียงของโอเซฮุนทำให้คิมมินซอกตกหลุมรักซ้ำแล้วซ้ำเล่าจริงๆ
“ร้อนเหรอครับ หน้าแดงหมดแล้ว”
“ไม่ได้ร้อนครับ เขิน” คำตอบของมินซอกทำให้เซฮุนต้องหัวเราะอีกครั้ง
“ชอบผมมากเลยเหรอ ?” ไม่รู้อะไรดลใจให้ไอดอลหนุ่มถามออกไปแบบนั้น แต่พอเห็นแก้มแดงๆกับดวงตากลมใสที่มองเขาคำถามนั้นมันก็หลุดออกจากปากไปเอง จบคำถามของเขา แก้มที่แดงอยู่แล้วนั่นก็แดงขึ้นไปอีก คนตัวเล็กนิ่งไปก่อนจะพยักหน้ารัวแทนคำตอบ
“หืม พยักหน้านี่แปลว่าอะไรครับ ?” เหมือนว่าโอเซฮุนจะลืมตัวไปแล้ว มือเรียวถูกยกขึ้นมาเท้าคางมองคนตัวเล็ก มินซอกใช้หลังมือแนบแก้มของตัวเองก่อนจะสบตากับอีกฝ่าย
“อื้อ ชอบมากๆเลย” ใครก็ได้หยุดเวลาให้คิมมินซอกที อยากจะหยุดอยู่ตรงนี้ตลอดไปจริงๆ ไอ้เขินมันก็เขินแหละ แต่แค่ได้บอกชอบเซฮุนต่อหน้าแบบนี้ก็โยนคำว่าเขินอายทิ้งไปได้เลย พูดจบมินซอกก็ต้องหลุบสายตาลง ถ้าสบตากับเซฮุนนานกว่านี้มินซอกต้องเป็นลมแน่ๆ
“ถ้าชอบมากคราวหน้าต้องมาอีกนะ” ยิ้ม ยิ้มอีกแล้ว มินซอกชอบมากเลยทำยังไงดี ฮือออ ชอบรอยยิ้มของเซฮุนที่สุดเลย
“อื้อ จะมาให้ได้เลย !!” คนตัวเล็กตอบพร้อมกับพยักหน้าก่อนจะรับกระดาษพร้อมลายเซ็นของไอดอลหนุ่มมาไว้ในมือ
“แล้วเจอกันอีกนะครับ” ไอดอลหนุ่มยิ้มพร้อมกับโบกมือให้น้อยๆ เห็นแบบนั้นมินซอกก็ยิ้มให้กับอีกฝ่ายจนเต็มแก้ม คนตัวเล็กกอดโปสเตอร์เอาไว้ก่อนจะเดินอมยิ้มลงจากเวที วันนี้มันวันอะไรกัน วันอะไรก็ไม่รู้แต่คิมมินซอกจะกลับบ้านไปเขียนไว้ในไดอารี่ว่าเป็นวันที่มีความสุขที่สุดในโลกจริงๆ
“เป็นไงบ้างมินซอก” ถึงเจ้าตัวไม่บอกก็พอจะรู้คำตอบอยู่ มินซอกเอาแต่ยิ้มไม่หยุดตั้งแต่เดินลงเวทีมาซึ่งอี้ชิงก็พอจะเข้าใจ มองจากมุมนี้เขาเห็นทุกอย่างบนนั้นเกือบทั้งหมด
“แหะ แหะ” มินซอกหัวเราะพร้อมกับส่ายหน้าและยิ้มไปด้วย ตอนนี้ยังพูดอะไรไม่ออก รอก่อนนะอี้ชิง รับรองเรื่องนี้มินซอกจะเก็บไว้พูดจนอี้ชิงมีหลานเลยล่ะ !!
อ่าว ทำไงดีล่ะพี่เมเน น้องมินซอกเขาชอบเซฮุนขนาดนี้....
ความคิดเห็น