ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ SF B.A.P STATION] BANGCHAN DAEUP ETC.

    ลำดับตอนที่ #3 : Heaven Series : Angel?... 60%

    • อัปเดตล่าสุด 18 ก.ย. 55


    Title :: [SF] Angel?...

    Author :: Zenjuri

    Pairing:: DaeUp

    Rating :: PG 15+

    Note ::
    ภาคต่อของObsessionค่ะ~

    ________________________________________________________________________________________

    เกิดความผิดปกติกับร่างกายของผม

    ปีกของผมไม่ยอมกลับเป็นสีขาว

     

               

                ปีกของเหล่าเทพบนสวรรค์จะกลายเป็นสีดำเมื่อจิตใจของตนเองนั้นบิดเบี้ยว แล้วจะกลับมาเป็นสีขาวเหมือนเดิมภายในเวลาไม่นานแต่ตั้งแต่กลับมาจากโลกมนุษย์นั้นก็ตั้งนานแล้ว ปีกของผมก็ยังคงเป็นสีดำเหมือนยังตอนนั้นอยู่ดี

     

                ตอนที่ผมฆ่ามนุษย์ที่ชื่อ จองแดฮยอน

                มนุษย์ที่บังอาจมาแตะต้องนางฟ้าของพระเจ้า

     

                พี่ฮโยซองเป็นนางฟ้าสูงสุดในสวรรค์ เป็นนางฟ้าประจำตัวของเพราะเจ้า เป็นนางฟ้าที่งดงามมากที่สุดแต่ในขณะเดียวกันก็เป็นนางฟ้าที่ซุกซนมากที่สุด พี่ฮโยซองชอบลงไปเล่นที่โลกมนุษย์สกปรกนั่น มันเป็นสาเหตที่ทำให้ผมต้องรับหน้าที่นี้

     

                คิลเลอร์เทวดาผู้พร้อมจะสังหารมนุษย์สกปรกที่มาวุ่นวายกับนางฟ้าของผม

     

                ผมฆ่ามนุษย์ครั้งแรกตอนพี่ฮโยซองลงไปเล่นที่นั่นแล้วเจอผู้ชายคนนึงผมยังจำสัมผัสตอนที่เลือดของไอ้มนุษย์คนนั้นกระเซ็นโดนผิวของผมได้อยู่เลย แววตาหวาดกลัวของมันตอนที่ผมปักมีดลงไปที่หัวใจช่างให้ความรู้สึกสะใจเหลือเกินพี่ฮโยซองไม่ได้ต่อว่าอะไรผม กลับแค่ทำหน้าดุแล้วบอกว่าเลอะเลือดหมดแล้ว ก่อนจะพากันกลับขึ้นมา

     

                ครั้งนั้นทำให้ผมรู้ว่าผมเกิดมาเพื่อสิ่งนี้เป็นเทวดาที่จะปกป้องนางฟ้าตนนี้

     

                แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนกับทุกครั้งพี่ฮโยซองไม่ยอมคุยกับผมตั้งแต่กลับมาจากโลกมนุษย์ ปกติพี่เค้าจะไม่เคยโกรธผมแม้ว่าผมจะฆ่าใครที่ยุ่งกับพี่ แต่พอเป็นจองแดฮยอนไอ้มนุษย์สกปรกคนนั้นพี่เค้ากลับไม่ยอมพูด

     

                ที่สำคัญพี่เค้าเข้าไปคุยเรื่องอะไรบางอย่างกับพระเจ้าตั้งนานแล้ว

     

     

                “เป็นตามที่ท่านว่าจริงๆเหรอคะ?

     

                เสียงของพี่ฮโยซองที่เล็ดรอดออกมาจากประตูบานใหญ่เชิญชวนให้ผมเดินเข้าไปใกล้ ใบหูแนบกับประตูเพื่อฟังบทสนทนาในห้อง เสียงทุ่มต่ำอันคุ้นเคยของพระเจ้าที่จู่ๆดังขึ้นมานั้นไม่ทำให้ผมตกใจเท่ากับประโยคที่ท่านพูดออกมา

     

                “ได้ยินไม่ผิดหรอก...จองแดฮยอนผู้ชายคนนั้นยังไม่ตาย

     

     

                จองแดฮยอนยังไม่ตาย

     

     

     

                “ที่สำคัญเค้าจำจงออบได้แล้วฮโยซอง

             

     

              จำผมได้? หมายความว่ายังไง?

     

     

                “แสดงว่าอีกไม่นานแล้วใช่มั้ยคะ?...เรื่องปีกของจงออบก็เพราะแบบนี้ใช่มั้ย?

     

                “เรื่องปีกมันเหมือนเป็นเครื่องหมายเตือนเท่านั้นที่เราทำได้ก็แค่รอเวลา

     

              “ไม่มีทางที่จะเปลี่ยนอะไรได้เลยเหรอคะ? จงออบเค้าไม่สมควรจะรู้เรื่องนี้นะคะ เค้าสะอาดเกินไป!!! ท่านเป็นถึงพระเจ้า ท่านจะเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้เลยเหรอ?

     

                “ถึงฉันจะเป็นพระเจ้าก็ใช่ว่าจะเปลี่ยนแปลงเรื่องนี้ได้ยิ่งอีกฝ่ายเป็นจองแดฮยอนด้วยแล้ว

     

                เรื่องที่สองคนในห้องคุยกันทำให้ผมรู้สึกมึนตึบขึ้นมา มันหมายความว่ายังไงกัน เรื่องปีกของผม? เรื่องไอ้มนุษย์นั่น  พี่ฮโยซองกับพระเจ้ากำลังปิดบังอะไรผมเอาไว้อยู่?

     

                “ท่านยองแจคะ ไม่ใช่ว่าท่านทำไม่ได้ แต่เป็นท่านไม่อยากทำมากกว่าหรอกเหรอคะ แค่ท่านเปลี่ยนชีวิตจงออบ เรื่องราวมันก็จะดีขึ้น แต่ที่ท่านไม่อยากทำเป็นเพราะว่าท่านกำลังกลัวผู้ชายคนนั้นอยู่ใช่มั้ย!! ”น้ำเสียงของพี่ฮโยซองดูดุดันขึ้น คนที่กล้าขึ้นเสียงใส่พระเจ้าได้ก็คงจะมีแต่พี่เค้าเท่านั้น

     

                “แต่เป็นเธอเองไม่ใช่เหรอฮโยซองที่เริ่มก่อนถ้าเธอไม่ลงไปหามัน จงออบคงจะไม่ตามเธอลงไปที่เรื่องกลายเป็นแบบนี้ก็เพราะเธอไม่ใช่เหรอ?

     

                ….

     

                “ปล่อยให้มันเป็นไปตามที่ฉันเขียนไว้เถอะ จอนฮโยซองถ้าไม่อยากให้สวรรค์วุ่นวายไปกว่านี้

     

              บรรยากาศในห้องดูเหมือนจะเงียบสงบลง ไร้เสียงอะไรทั้งสิ้น ราวกับในห้องนั้นไม่มีใครอยู่แล้ว แต่ผมกลับสัมผัสได้ถึงออร่ารุนแรงที่กระจายออกมาจนผมถึงกับต้องถอยห่างออกมาจากประตูห้อง ถ้าเดาไม่ผิดคงจะเป็นพลังของพี่ฮโยซองที่พุ่งออกมาเวลาโกรธเป็นแน่

     

                “ชีวิตของจงออบที่ท่านเขียนไว้ ฉันจะเป็นคนฉีกมันเอง!!!

     

     

    “อยู่เฉยๆแบบนี้จะดีเหรอ?”บุรุษชุดดำนั่งมองเจ้านายของตนที่กำลังนั่งจิบชาอย่างสบายอารมณ์ คนตรงหน้าดูใจเย็นเกินไปจนอดที่จะเป็นห่วงแทนไม่ได้ ใบหน้าหล่อค่อยๆเงยขึ้นมามองเพื่อนสนิท รอยยิ้มบริเวณมุมปากปรากฏขึ้นมาบนใบหน้า

     

                “เดี๋ยวเค้าก็ลงมาหาฉันเองหละ”

     

                “ถ้าเค้าไม่ลงมาหละ?

     

                “เชื่อสิเค้าต้องลงมาหาฉันแน่ๆ”คนที่เป็นทั้งเพื่อนและผู้ดูแลได้แต่ส่ายหน้ากับความมั่นใจที่ไม่รู้ไปเอามาจากไหนของชายหนุ่ม แค่ตอนนั้นเจอกันยังโดนซะขนาดนั้น ถ้าตอนนี้ได้เจออีกไม่อยากจะคิดเลยว่าสภาพเพื่อนเค้าจะออกมาเป็นแบบไหน

     

                “ถึงเค้าไม่ลงมา ฉันก็จะขึ้นไปหาเค้าเอง

     

     

    จิตใจที่บิดเบี้ยวไปแล้ว

    ย่อมยากที่จะกลับมาเป็นเหมือนเดิม

     

     

                “นั่งคิดอะไรอยู่เหรอออบบี้?

     

                “อ๊ะ! พี่ฮิมชาน….”ผมหันมามองคนที่นั่งลงข้างๆพร้อทส่งยิ้มให้ผมอยู่ คิมฮิมชาน หนึ่งในสามเทวดาคุมกฏของสวรรค์แห่งนี้ รอยยิ้มของพี่ฮิมชานสวยมาก เผลอๆอาจจะสวยยิ่งกว่าพี่ฮโยซองอีก แต่ทุกครั้งผมกลับรู้สึกได้ถึงความเศร้าเบื้องหลังรอยยิ้มนั่น

     

                “ไหน คิดอะไรอยู่เด็กน้อย?

     

                “พี่ฮโยซองกับพระเจ้าเหมือนกำลังปิดบังผมอยู่ผมอยากรู้ว่าพวกเค้าปิดบังเรื่องอะไร”พี่ฮิมชานลูบหัวผมเบาๆ ปีกสีขาวของพี่เค้าขยับเล็กน้อยทำให้ผมรู้สึกอิจฉาเมื่อเห็น ผมก็อยากกลับมามีปีกสีขาวแล้วนะ การที่ปีกผมกลายเป็นสีดำแบบนี้ทำให้ใครก็ไม่กล้าที่เข้าใกล้ผม จะมีก็แต่พี่ฮิมชานกับอีกสองเทวดาคุมกฏที่ยังคุยกับผมอยู่

               

                “จงออบของพี่เป็นคนเก่ง เรื่องที่เราอยากรู้เราน่าจะรู้ดีนี่ว่าต้องทำยังไง

     

                “กลับไปที่นั่นสิจงออบ

     

     

                สิ่งที่ผมเห็นอยู่ตรงหน้าแทบทำให้ผมไม่อยากจะเชื่อในสายตาตัวเองคฤหาสน์สีขาวหลังใหญ่ที่ตั้งตระหง่าอยู่ตรงหน้าทำเอาผมอยากจะตบหน้าตัวเองแรงๆว่าผมไม่ได้ฝันไปอยู่  คฤหาสน์หลังนี้ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปเลยแม้แต่น้อยราวกับเรื่องในวันนั้นไม่เคยเกิดขึ้น

     

                วันที่ผมจุดไฟเผาที่ตรงหน้าจดเรื่องแค่เถ้าถ่าน

                คฤหาสน์ที่ผมเผาไปพร้อมกับร่างของผู้ชายคนนั้น

     

                มือของผมเอื้อมไปแง้มประตูรั้วหน้าคฤหาสน์ให้เปิดออกก่อนจะค่อยๆเดินเข้าไปจนถึงตัวคฤหาสน์หลังนั้น บรรยากาศรอบๆข้างยังคงเหมือนเดิม จะเปลี่ยนไปก็แค่สวนสวยที่แต่เดิมเคยมีดอกทิวลิปเต็มไปหมดตอนนี้กลับเต็มไปด้วยดอกฟอร์เกทมีน็อตแทน

               

                บานประตูที่ตอนแรกปิดสนิทค่อยๆเปิดออกเอง ความมืดภายในนั้นทำให้ผมลังเลที่จะเดินเข้าไป แต่ในเมื่อพี่ฮิมชานบอกว่าสิ่งที่ผมอยากรู้มันอยู่ข้างในนั้นทำให้ผมจำใจเดินเข้ามาข้างในก่อนจะสะดุ้งเมื่อบานประตูใหญ่ปิดเองจนเกิดเสียงดังสนั่นราวกับบอกว่าผมไม่มีสิทธิ์ที่จะถอยออกไปแล้ว

     

                อากาศเย็นเชียบข้างในต่างจากคราวแรกที่ผมเคยมา อาจจะเพราะครั้งนั้นผมมัวแต่สนุกกับการเล่นไล่จับแดฮยอนเลยไม่ทันได้รู้สึก ถึงผมจะตายจนกลายมาเป็นเทวดาแล้วก็ใช่ว่าผมจะไร้ความรู้สึกนะ เทวดาก็ร้อนเป็น หนาวเป็นเหมือนมนุษย์ธรรมดานี่หละ

     

                “ยังไม่ตายจริงเหรอ

     

                แค่คิดว่าผู้ชายคนนั้นยังไม่ตายก็อดที่จะเสียวสันหลังไม่ได้ การที่จองแดฮยอนรอดจากผมไปได้แถมยังเนรมิตที่นี้ให้กลับมาเป็นเมื่อเดิมได้มีเหตผลเดียวคือคนๆนี้ไม่ใช่มนุษย์ ทำให้ผมไม่สามารถจับได้ถึงการมีอยู่ของผู้ชายคนนี้ได้พอกลับขึ้นไปสวรรค์

     

                คำถามคือถ้าไม่ใช่มนุษย์แล้วแดฮยอนเป็นตัวอะไร?...

    เทวดา? ยมทูต? หรือแวมไพร์?

     

    จะเป็นตัวอะไรผมก็ไม่สนหรอกนะเพราะการมีชีวิตอยู่ของคนๆนี้อาจจะทำให้พี่ฮโยซองของผมเป็นอันตรายได้

     

    “แทนที่จะตายๆไปเรื่องจะได้ไม่ยุ่งยากถ้าเจอคราวนี้จะไม่ให้เหลือแม้แต่วิญญาณไปเกิดเลยคอยดู

     

    “มันจะง่ายแบบนั้นเลยเหรอมุมจงออบ”

     

    เสียงทุ้มคุ้นเคยทำให้ผมหันไปมองรอบทิศเพื่อหาเจ้าของเสียงแต่ก็ไม่พบ ฟันซี่คมขบกัดกลีบปากนุ่มจนเลือดซิบออกมา ประโยคที่เหมือนจะท้าทายว่าผมไม่มีทางทำได้ทำเอาผมเดือดขึ้นเล็กน้อย ยิ่งเสียงหัวเราะน่ารังเกียจที่ตามมาทีหลังยิ่งทำให้ผมอยากจะต่อยหน้าเจ้าของมันแรงๆ

     

    “อะไรกันแค่นี้ก็หาพี่ไม่เจอเหรอเนี้ย?...ไม่สมกับเป็นคนที่เคยฆ่าพี่เลยนะครับ หึหึ

     

    “แกอยู่ไหนหนะ!!! ออกมาเดี๋ยวนี้เลยนะ!

     

    “ถ้าบอกมันก็ไม่สนุกสิครับเด็กน้อยของพี่

     

    ยิ่งพูดยิ่งอยากจะฆ่าคนๆนี้ไม่สิ ไอ้ตัวนี้อีกซักรอบ เส้นเลือดเริ่มปุดขึ้นมาตรงศีรษะของผมตามความโกรธที่พุ่งขึ้นมาเรื่อยๆ ยิ่งมันพูดยิ่งทำให้ผมนึกเสียดายที่ตอนนั้นตายใจแค่ฆ่าธรรมดาไม่ได้เอาวิญญาณของมันไปให้ปีศาจในขุมนรกกิน

     

    “จงออบของพี่นี่น้า~ ตาถั่วจังเลยแค่นี้ก็หาพี่ไม่เจอ

     

    “แล้วแกอยู่ไหนหละ!!! ออกมาสิวะ!

     

     

     

    “พี่ก็อยู่ข้างหลังเรามาตลอดไงครับ

     

    แค่เสียงนั่นกระซิบข้างหูทุกอย่างรอบตัวผมมันก็ดับวูบลงไป เหลือเพียงรอยยิ้มเลือนลางพร้อมกับเสียงกระซิบแผ่วเบา

     

     Catch You…








    งงใช่ป๊ะ? อย่าถามเพราะเราก็งงเหมือนกัน555
    นั่งแต่งตอนเที่ยงคืนต่อ มึนเมาเล็กน้อยข้าน้อยขออภัยT T
    อีก40ที่เหลือจะตามมาภายหลัง
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×