ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เรื่องของมุมมืด

    ลำดับตอนที่ #6 : บท ฮีโร่

    • อัปเดตล่าสุด 19 พ.ย. 54


    บท ฮีโร่




    ผมกำลังทำอะไรอยู่กันนะ ผมไม่เข้าใจว่าการรุมแกล้งไอ้อ้วนมันจะสนุกตรงไหน ผมไม่เข้าใจไอ้สองตัวนี่เลยจริงๆ ผมรู้สึกสมเพชพวก มันอยู่ในใจ ที่ทำตัวเป็นเด็กมีปัญญาเพียงเพื่อเรียกร้องความสนใจ หรือ การแกล้งคนอื่นเพียงเพื่อทำให้ตัวเองดูสูงขึ้น ผมสมเพชพวกมันจริงๆ แล้วนี่ผมกำลังทำอะไรอยู่เนี่ย กำลังดูมันสองตัวเตะ ต่อย ไอ้อ้วนอยู่ในห้องน้ำเน่าๆเนี่ยนะ ทำอะไรกันเนี่ย

    "แกไม่เอาบ้างรึไง สนุกนะว้อย"

    "ไม่เป็นไรขอ ผ่าน ขอดูดีกว่า"

    "ตามใจ แกก็เป็นแบบนี่ประจำ ชั้นรู้จักแกดี"

    อะไรนะแกคิดว่าแกรู้จักชั้นดีอย่างงั้นรึไง พวกแกมันก็แค่ไอ้พวกเหลือขอ ไม่ได้รู้จักตัวชั้นเลยแม้แต่น้อย
    อย่าทำเป็นรู้ดีไปหน่อยเลยหน่า

    "เมื่่อกี้แกว่ายังไงนะ"

    "เปล่านี่ ไม่ได้พูดอะไรซะหน่อย"

    "ก็แล้วไป"

    ...............................................................................................................................................................




    ผมเคยอยากจะเป็นฮีโร่ ผมมักจะดูหนังแนวฮีโร่มาตั้งแต่เด็กๆแล้วล่ะ ผมชอบมันมาก ผมคิดว่าถ้าโตขึ้นผมจะพยายามช่วยเหลือผู้อื่นบ้าง ผมจะเป็นฮีโร่ ปราบเหล่าร้าย ผมคิดอย่างงั้นมาตลอด

    ผมเคยเมีพื่อนอยู่คนหนึ่ง เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็กๆ หมอนี่จะคอยยกให้ผมเป็นหัวหน้าตลอด จะว่าไงดีดูเหมือนมันจะคือว่าผมเป็นฮีโร่ จริงๆล่ะมั้ง

    "วันนี้เราจะช่วยใครดีครับท่านหัวหน้า" หมอนี่จะคอยมาถามผมอยู่ตลอด ผมก็จะตอบออกไปแบบขอไปทีให้จบๆไปทุกที

    แต่ไม่ว่ายังไงหมอนี่ก็มักจะมาหาผมตลอกแล้วคอยบอกให้ผมไปช่วยคนนั้นทีคนนูนที แรกๆผมก็รู้สึกรำคาญแต่หลังๆ ผมกลับรู้สึกสนุกไปตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ ทุกๆวันหยุดเราจะออกไปตรวจเมืองรอบๆว่ามีเหตุร้ายอะไรรึเปล่าแต่ส่วนมากจะไม่ คอยจะมืเท่าไรนั้น ถ้าจะมีก็มีแต่เหตุการณ์เล็กๆน้อยๆ ไม่มีอะไรมากแต่เราทั้งสองก็ยินดีจะช่วยทุกคนอย่างเติมที

    "เรานี่เป็นคู่หูที่ดีจริงๆ"วันหนึ่งหมอนั้นพูดกับผม

    "อาจจะใช่ก็ได้" พอมารู้ตัวอีกทีหมอนีก็กลายเป็นเพื่อนสนิทผมไปตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้
    จนเราขึ้นมัธยมต้น เราก็ยังคงเล่นเป็นฮีโร่เพื่อช่วยเหลือคนอื่นๆอยู่ประจำ

    "ไปตรวจเมืองกันเถอะ"หมอนั้นมักจะมาชวนผมถึงที่ห้องเรียนหลังเลิกเป็นประจำ

    "เบาๆสิ เดี๋ยวคนอื่นได้ยิน"ถึงจะอย่างงั้นแต่โตขนาดนี่แล้วยังเล่นเป็นฮีโร่มันก็หน้าอายอยู่เหมือนกัน

    "ทำไมล่ะ"หมอนั้นถามผมอย่างซื่อๆ "ก็เรากำลังทำความดีกันอยู่ไม่ใช่หรือยังไงอ่ะ"

    "ก็มันเป็นหน้าที่สำคัญ เลยต้องเก็บเป็นควมลับยังไงล่ะ"

    "จริงด้วย" หมอนี่เป็นคนซื่อๆแบบนี่มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ถือว่าเป็นข้อที่ของเขา

    เราจะใช้เวลาสอง สามชั่วโมงในการเดินสำรวจตรวจตราเมืองที่เราอาศัยทุกๆวัน ที่เราว่างๆกัน ทุกอย่างมักจะเรียบร้อยจนกระทั่งวันนี้

    ขนาดที่พวกผมกำลังเดินตรวจอยู่นั้น พวกเราได้ยินเสียงแปลกๆมาจากขนาดในอาคารร้าง เวลานั้นเป็นเวลาเย็นใกล้ๆจะมืดแล้ว จึงไม่ค่อยมีคนเดินอยู่แถวนั้นเท่าไรนั้น

    "เราเข้าไปดูกันไหม"หมอนั้นถามผม ด้วยความกล้าผมจึงตอบไปว่า

    "เอาสิ ลองเข้าไปดูกัน"ผมกับหมอนั้นจึงรีบเดินเข้าไปในอาคารร้างกันทั้งที

    "มืดจังเลยนะว่าไหม"พวกเราเดินไปตามทางเดืนมืดๆ ยิ่งเดินก็ได้ยินเสียงชัดมากขึ้น

    "ใกล้แล้ว"จนในที่สุดก็มาถึงต้นเสียงจนได้ ภาพที่ผมเห็นคือชายสามคนแบกศพเป็นจำนวนมากเดินไปที่หลุมแล้วฝัง

    "แย่แล้วเราควรทำไงดี"ปากของผมสั่นไปหมดไม่คิดไม่ฝันว่าต้องมาเจออะไรแบบนี่

    "เราต้องเอาเรื่องนี่ไปบอกตำรวจน่ะ"หมอนั้นเสนอความคิดเห็น

    "ถูก งั้นเราควรออกจากที่นี่ให้ได้ก่อน"

    "อืม"
    พวกเราค่อยๆเดินถอยหลังเบาๆ แต่เหมือนมีของแข็งอะไรมาโดนขาผม แล้วล้มลง เสียงดัง

    "เสียงอะไรว่ะ "พวกมันรู้ตัวกันแล้ว มองไปรอบๆแล้วเห็นพวกผม พวกผมจึงวิ่งหนีอย่างสุดชีวิต พวกมันวิ่งตามมาทั้งที

    "หนีเร็วเข้า วิ่งเร็ว" พวกเราทั้งสองวิ่ง ผ่านทางเดินมืดๆแคบๆด้วยกัน จู้ๆหมอนี่ก็ล้มลง

    "เป็นอะไร "

    "ขอโทษดูเหมือนข้อเท้าชั้นจะพลิกนะ "

    "ลุกขึ้นไหวไหม"

    "ไม่ไหวนายไปก่อนเลย"

    "ไอ้บ้ามาด้วยกันก็ต้องไปด้วยกันสิ"ผมตะโกนเสียงดัง ไม่สนใจอะไรแล้ว

    "เร็วลุกขึ้น "ผมพยายามจะัจับตัวให้ลุกขึ้น แต่ก็ไม่ไหว

    "เจอแล้ว หนูสองตัว"มันคนนึงเดินมาจากความมืดตรงมาที่พวกเรา มันถือไม้มาด้วย

    "ไปสิชั้นบอกให้นายไปไง"เขาพยายามผลักผมให้ไป

    "ไม่มีใครจะได้ไปจากที่นี่แน่ๆ พวกแกสองคนต้องตายที่นี่"มันอีกคนเดินออกมาจากความมืด
    ขาผมสั่นไปหมด ไม่ไหว ผมรู้สึกว่ามีน้ำไหลมาจากหว่างขาของผม ขาผมสั่นตัวสั่นไปหมด ทำไงดี ทำไงดี
    เราจะต้องทำไงดี

    "ชั้นบอกให้ไปยังไงล่ะ ไอ้บ้า ถ้านายไม่ไปก็ได้ตายกันทั้งคู่"เขาตะโกนใส่ผม "ชั้นบอกให้หนีไปไง ไม่ต้องสนชั้น"

    เมื่อเขาพูดจบไม่ต้องคืออีกแล้ว ผมรีบหันหลังแล้วรีบวิ่งหนีไปอย่างไม่คิดชีวิตอีกแล้ว มันคงจะเป็นการวิ่งที่เร็วที่สุดในชีวิตผมแล้วแน่ๆ ผมวิ่ง ผมกลัว ได้แต่ยินเสียงของมันไล่หลังว่า "เพื่อนแกตายแน่" แล้วได้ยิ่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด ผมได้แต่วิ่ง ผมวิ่ง และก็วิ่ง จนไปถึงสถานีตำรวจแล้วรีบแจ้งตำรวจ

    สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นคือตำรวจไม่สามารถจับกุมคนร้ายทั้งสามได้ เพราะพวกมันหนีไปหมดแล้ว ผมก็ไม่สามารถบอกรูปร่างหน้าตาของ พวกมันได้เพราะในตึกร้างมันมืดมากจนแทบมองอะไรไม่เห็น มันก็มองหน้าผมไม่เห็นด้วยเหมือนกันจึงวางใจได้ ว่ามันไม่รู้ตัวผมแน่ๆ แต่ที่ผมห่วงกว่าคือเพื่อนของผม ตำรวจพบเขาในสภาพที่เลือดไหลไปทั้งตัวเนื่องจากถูกของแข็งตี่ จนหน้าตาไม่เหลือเค้าเดิม ดูไม่ได้ และถูกแทงอีกหลายแผลทั่วร่างกาย หมอบอกว่าเขาไม่รอด ให้ญาติๆเข้าไปหาเขาเป็นครั้งสุดท้าย

    เวลาผ่านไปชั่วโมงกว่าๆ ผมนั่งรอที่นั่ง แม่ของเขาก็ออกมา เดินตรงมาที่ผม เธอพูดกับผมว่า "เขาจากไปแล้วล่ะ"เสียงเธอสั่น

    "เขาฝากมาบอกว่า ขอใจน่ะจ๊ะ ที่ช่วยเขาเอาไว้ เขาบอกว่าเธอคือฮีโร่ของเขามาตลอด ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น"เธอพูดอย่างเศร้าแล้วเดินจากไป ปล่อยให้ผมเหลืออยู่คนเดียว

    "ชั้นเนี่ยนะฮีโร่ แม้แต่ตอนที่นายใกล้จะตายนายยังคงเชื่อว่าคนที่ทิ้งนายอย่างชั้นเป็นฮีโร่"น้ำตาผมไหลอาบแอ้มไม่มีแรงแม้ แต่จะยืน

    "ชั้นขอโทษ ถ้าชั้นไม่บอกให้เข้าไป มันคงจะไม่เกิดขึ้น ชั้นมันไม่ใช่ฮีโร่ ชั้นมันไม่มีค่าพอ ไม่มีอะไรเลย แค่จะเป็นเพื่อนนายชั้นยังทำไม่ไ้ด้เลย ชั้นขอโทษ  "

    ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นผมได้เสียเพื่อนที่รักที่สุดของผมไปแล้ว







































    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×