ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    G E T out HERE ! - - -

    ลำดับตอนที่ #2 : แวมไพร์ --- ☺

    • อัปเดตล่าสุด 7 ต.ค. 56



    6Q6YbU.png [500x433px] ฝากรูป

    Register 

    รูป: 1 2 3

    รูปร่างหน้าตา: ตามภาพค่ะ ฟฟฟ-

     

                มาโคว --- เธอคือเด็กสาวผู้มีผมสีครีมสวย ที่ยาวสลวย แต่เธอนั้นไม่ใช่คนที่จะปล่อยผมให้มันดูไม่เรียบร้อย เธอจึงถักผมเปียไว้ตลอดเวลา มาโควมีดวงตาสีน้ำเงินเข้มที่ส่องประกายแวววาวเมื่อโดนแสง ผิวสีขาวสะอาดทำให้เธอดูเป็นเด็กสาวผู้เพียบพร้อมไปด้วยทุกสิ่ง ใบหน้ารูปไข่ได้รูป และ ริมฝีจากที่เป็นรูปหัวใจทำให้เธอดูเป็นสาวน้อยบอบบาง จมูกน้อยๆที่โด่งรั้นแต่กลับดูอ่อนแอเมื่อยู่บนใบหน้าที่สวยของเธอ มาโควมักแต่งกายด้วยผ้าโปร่งเพราะเธอเป็นคนขี้ร้อน แต่กลับกันในฤดูหนาว เธอกลับเป็นคนขี้หนาวอย่างเห็นได้ชัด เธอจึงเป็นคนที่ดูคล้ายกับคนที่อินไปกับฤดูนั้นนั้นทันที  และเครื่องประดับประจำกายของเธอคือไม้กางเขนสีทองแวววาว แวมไพร์สมัยนี้มันไม่กลัวไม้กางเขนกันแล้วสินะ ฟฟฟ- มาโควที่คนที่รูปร่างสูงพอตัวแต่ไม่มากไปจนเป็นเปรต คนยุโรปเขารู้จักเปรตด้วยรือ ? รูปร่างของเธอเมื่อดูโดยรวมอาจจะดูเป็นเด็กสาวม.ต้นที่ไร้ความเว้า (?) แต่นั้นมันก็เป็นเพราะเสื้อผ้าที่เธอใส่ มาโควเป็นคนที่มีรูปร่างดี สะโพกก็มี หน้าอกก็มี แต่เธอไม่เคยอยากจะโชว์ใคร เธอนั้นเป็นคนที่มีกำปั้นน้อยๆพร้อมเพรียงกับนิ้วเรียวยาวห้านิ้วในแต่ล่ะข้าง แขนขาที่ยาวที่ไม่เก้งก้างเธอจึงดูเป็นคนที่เพอร์เฟ็ค !

    ส่วนสูง :: 170 ซม.

    น้ำหนัก : 60 กิโลกรัม

    ข้อมูลทั่วไป

    ชื่อ:  มาโคนาไคว์  ไลน์ซานดร้า ออนิซ ( Macomaquah Linesandra Onyz )

    ชื่อเล่น: มาโควนาร์ ( Macouna )

    ความหมายของชื่อ:

    นักโทษผู้บริสุทธิ์ที่เป็นอิสระจากอัญมณีแห่งรัตติกาลที่คอยควบคุมไม่ให้มีความสุข

    อายุ: 18 ปี

    นิสัย

     

                “ มาโควนาร์ ” เธอคือเด็กสาวที่ไม่ค่อยแยแสอะไรมากนัก ไม่เคยเห็นอะไรอยู่ในสายตา เพียงแต่เสแสร้งยิ้มไปวันๆ แม้เธอจะอ่อนโยนต่อทุกคนไม่ว่าใคร แต่เธอกลับรู้สึกเบื่อที่คอยทำแบบนั่น --- มาโควไม่เคยเรียกใครว่าเพื่อนแบบจริงๆจังๆสักครั้งหนึ่ง เพียงแค่คบในนามไม่เคยคบจริงจัง แต่ว่าเธอนั้นรักครอบครัวมากกว่าสิ่งใด จึงดูแปลกๆเมื่อบอกว่าเธอไม่เคยรักใครเลย มาโควเป็นคนใจเย็นแต่กลับดูใจเย็นไปในบางครั้ง จึงดูเหมือนเธอเคยฝ่าฟันชีวิตมาแล้วแถบทุกแบบ

                และ สิ่งที่หลายๆคนมักกลัวก็คือเวลาที่เธอกระตุกยิ้ม นั้นคือเธอมีแผนบางอย่างอยู่ในหัวภายใต้ใบหน้าใสๆ สวยๆของเธอ มาโควไม่เคยทำตัวให้ดูเด่น เพราะเธอไม่ใช่มนุษย์ “ สัตว์ในโลกนี้นะ มักหลบซ่อนตนไม่ให้ตนเด่น มีแต่มนุษย์นั้นล่ะที่พยายามทำตัวให้เด่นและทำให้ตนดูน่ารังเกียจในสายตาผู้อื่น ” เคยพูดอย่างนี้หลายครั้ง ไม่ว่าเวลาใด แต่คำพูดนี้กลับเข้ากับสถานการณ์ได้แบบไม่น่าเชื่อ

                “ ไม่เคยมีสิ่งใดที่มาโควไม่รู้ ” นั้นคือสิ่งที่ใครๆต่างก็พูดเมื่อตนมีสิ่งที่สงสัย แต่เธอไม่เคยยอมบอกง่ายๆ เธอไม่ต้องการสิ่งของเพื่อแลกเปลี่ยน แค่แลกกับหนึ่งความลับของคนคนนั่น (ยกเว้นพี่น้อง) มาโคว ไม่เคยเชื่อมั่นในความรัก ไม่เคยสนใจในความรัก คำว่ารักที่พูดออกจากปากเธอล้วนเป็นคำโกหกที่พูดพ่นออกไปราวกับยาพิษที่ชโลมด้วยน้ำผึ้งหอมหวาน

                มาโควไม่ใช่นางเอกในนิยายรักใสๆที่นางเอกต้องตาย แต่เธอคือนางเอกในคราบนางมารร้ายที่สามารถคร่าชีวิตของคุณได้ทุกครั้งด้วยคำพูด แต่ล่ะคำพูดของนั้นล้วนมีเหตุผลไม่สามารถเอาผิดได้ มาโควเกลียดการต่อสู้ เธอมักจะไม่ก่อสงคราม แต่จะยุติสงครามดั่งคำที่ว่า “ หากเราไม่ยุติสงคราม สงครามจะยุติเรา ” นั้นเอง --- มาโควไม่เคยรอคอยโชคชะตา เพราะโชคชะตามันอยู่ในสองมือของเธอหากเธอต้องการสิ่งใด ก็ต้องทำสิ่งนั้นให้ได้ มาโควไม่ต้องการจะพึ่งใคร แม้จะรู้ตัวว่าอยู่คนเดียวไม่ได้

               

                มาโควมักก้าวต่อไปข้างหน้า ไม่เคยหยุดหรือถอยหลังเพื่อรออีกก้าว เธอจะก้าวไปในทางที่เธอคิดว่าถูกต้อง เธอไม่ค่อยจะกลัวอะไร เพราะความกลัวคือจุดเริ่มต้นในการสร้างกำแพงที่ตนเองไม่สามารถก้าวข้ามไปได้ มาโควไม่เคยเชื่อมั่นในใคร แม้แต่พี่น้องหรือตัวเอง มาโควมักยึดติดในอดีตที่ไม่อาจสลัดทิ้งไปได้แม้แต่ในความฝัน

                จริงๆแล้วมาโควเป็นคนที่โหยหาความอบอุ่นมากที่สุด เธอเจอกับความเจ็บปวดมากเกินไป แต่มาโควไม่เคยพูด มาโควเป็นคนที่เรียกได้ว่าแข็งแกร่งแม้จะเกลียดการต่อสู้ก็ตาม เธอไม่เคยบอกว่าเจ็บ ไม่เคยบอกว่าปวด และ ไม่เคยมีน้ำตารินไหล

                มาโควเป็นคนที่มีเล่ห์เหลี่ยม แม้เธอจะเกลียดการโกหกแต่เธอก็ต้องใช้พูดบ้างในบางครั้ง เธอเปรียบเหมือนกับจิ้งจอกที่มีพันโฉมหน้า เพราะเธอรักในการปลอมตัว เมื่อเธอปลอมตัวไม่มีใครดูเธอออกได้ และ เธอมักดูคนออกทุกรูปแบบไม่ว่าใคร มาโควมักคิดว่าชีวิตของตนมีความหมาย ไม่งั้นเราจะอยู่ไปเพื่ออะไรหากชีวิตเราไร้ความหมาย เพราะงั้นเธอจึงทำให้ตัวเองมีค่า แต่ไม่ได้ดูเด่น เพราะฉะนั้นก็ไม่มีใครว่าเธอหากเธออยากจะทำอะไรในสิ่งที่ทำให้ตนเองดูสูงขึ้นแต่ไม่มากเกินแก่ตน

                มาโควไม่เคยไล่ใครให้จนมุม เพราะว่าเมื่อมันจนตรอก มันก็สามารถแว้งกัดเราได้ดั่งที่เธอเคยเป็น คำพูดที่เธอพูดเมื่อเป็นสัญญาเธอจะทำให้ได้ ไม่เหมือนใครบางคนที่พูดออกมาง่ายๆแต่ตนเองทำไม่ได้สุดท้ายก็ได้เป็นแค่คนไม่ได้เรื่อง เธอไม่เคยคิดว่าตนใหญ่ เพราะเธอไม่เอาตัวเองไม่เทียบกับใคร แต่เอาตัวเองไปเทียบกับผืนฟ้าและแผ่นดิน

                เธอไม่เคยคบใครจากคำพูด ไม่เคยคบใครจากใบหน้าแสนสวย แต่เธอคบกับคนที่มีเนื้อในดี ที่อ่อนโยนและพูดทุกสิ่งออกมาจากใจจริง ที่เธอทำไม่ได้ เพราะฉะนั้นเธอจึงพยายามหาคนแบบนั้นเพื่อฉุดให้ตนเองขึ้นไปสู่โลกแห่งความจริงไม่ใช่ในความฝันอย่างที่เธออยู่ มาโควไม่เคยให้ความหวังใคร เพราะเธอไม่มีความหวังที่จะให้ใคร เพราะเธอเองก็ยังไม่รู้จักเหมือนว่าการตั้งความหวังมันเป็นเช่นไร---

     

    สิ่งที่แค้นหมาป่า::

     

                มาโคนาไคว์  ไลน์ซานดร้า ออนิซ หรือชื่อเดิมที่ดูคุ้นหูสำหรับเหล่าหมาป่า ---  “ เฮเดีย ( เสียงสะท้อนของพระเจ้า ) ”  

                ก่อนจะพูดถึงความแค้นที่เธอมีกับหมาป่า มาฟังประวัติของเธอกันดีกว่า --- เฮเดีย เธอเป็นเด็กสาวที่มีอัธยาศัยดีในหมู่บ้านเล็กๆในป่าลึกแห่งหนึ่ง เธอเป็นที่รักของทุกคนในหมู่บ้าน เธออาศัยในครอบครัวที่มีความสุข มีทั้งพ่อ แม่ และ พี่สาว เหมือนนิทานสมัยเด็กที่มีความอบอุ่นเสมอๆ จนกระทั่ง ---

    มีคนในหมู่บ้านถูกฆ่าตายกลางป่า

                ทุกคนนั้นหมู่บ้านล้วนสงสัยว่าใครกันน่ะเป็นคนทำ โดยมุ่งไปยังพรานที่มักเข้าไปในป่า และหนึ่งในนั้นคือพ่อของเธอ – แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันกลับเกิดขึ้น --- นายพรานที่ล้วนเข้าไปในป่าถูกฆ่าตายจนสิ้น ไม่เหลือแม้แต่คนเดียว โดยหนึ่งในนั้นคือพ่อของเธออีก ---

                2 อาทิตย์ ต่อมา--- เด็กๆในหมูบ้านเริ่มหายตัวไปที่ล่ะคน สองคน และพี่สาวของเธอด้วย  --- แต่เธอกลับยังอยู่ ทำให้ชาวบ้านต่างเริ่มหวาดระแวงเธอและหาว่าเธอคือตัวการ --- และในคืนหนึ่งในบ้านของเธอเองที่เคยมีทั้งความอบอุ่นและความห่วงใย รวมถึงความหวังต่างๆ --- ชาวบ้านได้บุกเข้ามาและเผาบ้านนี้ทิ้ง --- แม่ของเธอตื่นขึ้นมาพบว่าจุดศูนย์กลางเพลิงคือห้องของเธอ --- แม่ของเธอได้วิ่งฝ่ากองเพลิงเข้าไปและกอดเธอไว้จนบ้านทั้งหลังนี้มอดไปทั้งหลัง --- ไม่เคยมีใครแยแสบ้านหลังนี้อีกนับจากนั้น

                แต่เธอก็ยังมีชีวิตอยู่ --- ด้วยเหตุที่แม่ของเธอกอดเธอไว้ ปกป้องเธอเอาไว้จากไฟ --- เธอไม่ได้ยินเสียงกรีดร้องของแม่ แต่กลับได้ยินเสียงบอกลาอันนุ่มนวล --- หลังจากวันนั้นเธอได้บุกเข้าไปในป่าเพื่อหาความจริง -   -  - จนกระทั่งพบร่องรอย

                เธอพบรอยเท้าของหมาป่า --- เธอตามรอยเท้านั้นไปจนพบกับกองศพ --- กลิ่นศพเหม็นเน่าลอยไปโดยรอบจนเธออยากอาเจียน --- แต่ในตอนนั้นเธอเหลือบเห็นร่างของชายคนหนึ่งซึ่งคุ้นหน้าคุ้นตาเธอเป็นอย่างดี --- นั้นคือพ่อของตนเอง --- ร่างของพ่อของเธอเดินเข้ามาใกล้ๆ --- เธอโผเข้ากอดด้วยความดีใจ แต่ร่างของพ่อเธอนั่นกลับกลายเป็นหมาป่าและและเขี้ยวของมันถูกฝังบนแขนของเธอ ---

                เธอทั้งเจ็บปวด --- แต่ยังมีสติที่จะวิ่งหนีมาได้ --- แต่ทางที่เธอไปมักมีอุปสรรค ทางที่เธอวิ่งไปแต่ล่ะทาง กลับมีเหล่าหมาป่ารายล้อม เธอไม่มีทางที่จะให้หนี --- เธอวิ่งไปจนสุดทาง --- ทางหน้าเธอตรงนี้คือหน้าผาที่ไร้ทางหนีรอด --- แต่เมื่อหันหลังไป --- เธอได้พบกับร่างของชายหญิงเพียงสองร่าง --- นั้นคือพ่อและแม่ของเธอ --- เธอจะไม่หลงกลอีกต่อไป --- เธอได้กู่ร้องออกไปว่า

     

    “ ทำไม...ทำไมต้องมายุ่งกับพวกเราด้วย !!!!!!!!

     

                เธอพูดพลางถือมีดสั้นของเธอที่พกติดตัวเอาไว้ --- แต่ทั้งตัวของเธอกลับสั่นไปด้วยความกลัว --- ดวงตาแข็งกร้าว เริ่มมีสีแดงรอบดวงตาด้วยความโกรธ --- ร่างของคนคู่นั้นเริ่มเปลี่ยนเป็นหมาป่า --- ที่พร้อมจะจู่โจมเธอได้ทุกเมื่อ --- เมื่อพวกมันกระโดดมาเธอเตรียมพร้อมไว้และพุ่งเข้าแทงหมาป่าทันที !!! --- แต่สิ่งที่ผิดพลาดอันใหญ่หลวงของเธอคือ --- การที่สิ่งที่อยู่บนมือของเธอ --- เลือดสีแดงถูกไหลรินออกมาจากร่างกาย --- ไม่ใช่ของเธอและหมาป่า ---

     

    แต่กลับเป็นพี่สาวที่เธอรักยิ่ง

     

                เลือดจากตัวพี่สาวไหลกระเซ็นเปราะเปื้อนหน้าของเด็กน้อย --- แต่สิ่งที่ทำให้เธอต้องโกรธแค้นมากที่สุดคือ --- การที่หมาป่านั้นล่ะเป็นคนกระชากพี่สาวตนมาบังตัวไม่ให้โดนคมมีดของเธอ --- และนั้นทำให้เธอต้องหมดแรง --- ร่างของเธอที่อยู่ใกล้กับหน้าผานั้นได้หมดแรงลง ---

     

    และได้ตกลงจากหน้าผาสู่พื้นดินที่เป็นจุดจบของชีวิต

     

    .

    .

    .

    “ เรื่องราวนี้ได้เกิดขึ้นมาเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ”

    เสียงใสของใครบางคนถูกพูดขึ้น

    “ เอาล่ะ --- และเรื่องราวในปัจจุบันจะเป็นอย่างไรกันน้า ? ”

    ร่างนั้นพูดพลางหายไปในความมืดมิด-

    ชอบ/เกลียด/กลัว/แพ้ ::

    ชอบ

    -          ดอกไม้ต่างๆ /* เพราะมันดูบอบบาง และ สวยงามแถมยังแทนความรู้สึกต่างๆได้ ( เมื่อเห็นจะแอบอมยิ้ม )

    -          ท้องฟ้า /* เพราะท้องฟ้ามักจะมาพร้อมความอบอุ่นเธอจึงรัก ( เธอจะจ้องมองท้องฟ้านั้นตลอดทั้งวัน (?))

    -          หนังสือแพทย์ /* เพราะเธอชอบในการช่วยเหลือคน (??) ( เธอจะหยิบขึ้นมาอ่านทันที ทันใด )

    -          ความลับ /* เพราะมันจะไม่มีใครรู้ ( เธอจะหัวเราะคิกคักเอได้ฟัง )

    เกลียด

    -          คนละโมภ /* ( เกรียดยิ้มสวยก่อนเดินไปต่อย(?))

    -          คนโมเม เชไช /* ( มองด้วยสายตาเหยียดหยาม )

    -          หมาป่า /* ( มองด้วยสายตาโกรธแค้นที่พร้อมจะโจมตีได้ทุกเมื่อ )

    -          คนบ้ากาม /* ( เดินไปตบหน้าสักครั้ง ไปถีบสักรอบ )

    -          ความเจ็บปวด /* ( ทำหน้าเซ็งๆประมาณว่าเจ็บอีกแล้ว )

    กลัว

    -          หิม /* สิ่งเดียวตลอดที่เธอกลัว เพราะเธอเป็นโรคที่ชื่อว่า “ ชิโอโนะโฟเบีย ( Chionophobia ) ” หรือโรคกลัวหิมะนั้นเอง ! ( เธอจะพยายามไม่ออกไปในและอยู่ในบ้านตลอดเวลา )

    แพ้

    -          หนามของดอกกุหลาบ /* เธอจึงแอบแอนตั้กุหลาบเล็กน้อย ( เมื่อโดนจะคันยิกๆ )

    งานอดิเรก: เดินป่า , ก่อกวนการนอนหลับของคนอื่น (?)

    อาวุธ: ไม้กางเขนที่เธอใส่เมื่อกดปุ่มที่อยู่ตรงไม้กางเขนจะกลายเป็นดาบค่ะ !

    พลังพิเศษ: ตาทิพย์

    เพิ่มเติม: -

    ข้อมูลเรื่องคู่

    ชื่อของคู่ :: เบียคุรัน เจสโซ่ -

    เรียกคู่ว่า :: นายกล้วยไม้ขาว ( เวลาพูดติดตลกหรืออารมณ์ดี ) , เ – บี – ย – คุ – รั – น ( ออกแนวรำคาญหรือโกรธจะพูดช้าๆ - ) เบียคุรัน ( เวลาอารมณ์ดีและจริงจังในเวลาเดียวกัน ) นายหมาป่าขาว ( เวลาโมโหขั้นร้ายแรง- )

    คู่เรียกว่า :: มาไคว์ ( เรียกเวลาอารมณ์ดี ) มาโคนาไคว์ ! ( เวลาที่มาโควกวนจนอารมณ์เสีย- ) แวมไพร์คราบนางฟ้า ( เวลาประชดประชัน ) มาโคนาไคว์  ไลน์ซานดร้า ออนิซ ( เวลาจริงจัง และ โมโห- )

    คิดอย่างไรกับคู่ของตัวเอง :: หืม --- เขาก็เป็นแค่หมาป่าตัวหนึ่งที่มีชีวิตและจิตใจเหมือนฉัน – เรียบง่ายมากลูก-

     

    Interview Your Ori

    (ยามค่ำคืนที่มืดมิด)

    เด็กหนุ่มคนหนึ่งกำลังเดินเล่นอยู่ในป่าอันกว้างใหญ่แล้วเขาก็เผลอไปชนคุณเขาแล้วเขาก็พูดกับคุณว่า ขอโทษนะฮะ ผมไม่ได้ตั้งใจ

    -          ใบหน้าใสปั้นยิ้มให้แก่เด็กหนุ่ม เด็กหนุ่มคนนั้นมีใบหน้ายิ้มเล็กน้อย “ ไม่เป็นไรหรอก--- แต่คราวหน้าคราวหลังอย่ามาวิ่งในป่าแบบนี้ล่ะ มันอันตราย - ” ใบหน้าใสพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนด้วยความหวังที่จะเตือนให้เด็กหนุ่มตรงหน้าระวัง ก่อนจะเดินไปข้างหน้าโดยมีเด็กหนุ่มคนนั้นเดินมาติดๆ “ มีอะไรหรือเปล่า ? ” เด็กสาวถามเด็กหนุ่มที่เดินมาเอมาอย่างอ่อนโยน

    เอ่อ คุณชื่ออะไรหรอฮะเด็กหนุ่มถามอย่างสงสัย ดวงตาสีน้ำตาลเข้มที่มืดมนมองหน้าคุณอย่างไม่เกรงกลัวด้วยแววตาใสซื่อ

    -          เด็กสาวมองไปยังเด็กคนนั้นพลางย่อตัวลงมาคุยด้วย ดวงตาสีฟ้าครามมองดวงตาสีน้ำตาลที่ไม่หวั้นเกรงสิ่งใด ก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆ “ ฉันมีชื่อว่า มาโคนาไคว์ ไลน์ซานดร้า ออนิซ ” เด็กสาวพูดด้วยน้ำเสียอ่อนโยนอีกครั้งก่อนจะมายืนแบบเดิม ทำให้เด็กหนุ่มตรงหน้าคิดเล็กน้อยจะจะพูดต่อว่า ---

    อ่า ท่านคงเป็นว่าที่ราชินีสินะ ชื่อท่านเพราะมากเลยนะขอรับฝ่าบาท แล้วท่านมาทำอะไรที่นี่หรอฮะ

    -          ใบหน้าสวยมองเด็กตรงหน้าอย่างแปลกใจ รู้จักเราด้วยหรือ ? หรือจะเป็นสายของพวกหมาป่า ?  ใบหน้าใสส่ายหน้าเบาๆเพื่อให้ความคิดบ้าๆหลุดออกไป “ ฉันมาเดินเล่นนิดหน่อยนะ --- ที่ที่ฉันอยู่มันน่าเบื่อ /* ” ใบหน้าใสมองใยหน้าของเด็กหนุ่มที่ที่สีหน้าสามารถบอกคำถามในใจว่า ไม่กลัวหมาป่าหรือ ? เด็กสาวยิ้มบางๆก่อนจะอบกลับสีหน้านั้นไปว่า “ ฉันเป็นแวมไพร์นะ --- กลัวหมาป่าคงเป็นไปไม่ได้หรอก --- ” ใบหน้าใสพูดพลางหัวเราะคิกคัก ทำให้ใบหน้ากลายเป็นเด็กน้อยไร้เดียงสา ก่อนที่เด็กหนุ่มจะพูดต่อ ---

    อืม... อย่างนั้นหรอขอรับ งั้นผมขอถามอะไรหน่อยได้ไหมฮะ ถ้าวันหนึ่งท่านกำลังเดินเล่น(ออกล่าเหยื่อ)กับพี่ๆน้องๆของคุณทั้งหลาย แล้วพบว่าพวกพี่ๆน้องๆของคุณกำลังจะข้ามเขตไปเขตพวกหมาป่าคุณจะทำยังไงหรอฮะ

    -          ใบหน้าสวยกลับมาปั้นหน้ายิ้มอีกครั้ง “ ฮะๆ --- ต้องห้ามอยู่แล้วล่ะ ! ---  ใบหน้าสวยหังเราะออกมาอย่างเบาใจ ทั้งๆที่ในใจกลับแอบกังวล “ --- เพราะหมาป่านะ – น่ากลัวจะตายไป ถึงแม้ว่าพวกเรา(บางคน)อาจจะไม่กลัวก็เถอะนะ --- ” ใบหน้าใสอธิบายเหตุผลทั้งๆที่ในใจกลับเป็นอีกอย่าง เธอก็กลัวหมาป่าเช่นกัน แต่ก็พอที่ยังควบคุมสติได้ --- เด็กหนุ่มคนนั้นได้พูดต่อไปเรื่อยๆ -

    หรอฮะ ผมไม่แปลกใจเท่าไหร่แล้วถ้าเกิดคุณตกหลุมรักกับใครสักคนคุณคิดว่ามันจะเป็นยังไงหรอฮะ

    -          ใบหน้าใสเริ่มขึ้นสีแดงระเรื่อบนแก้มนิ่มสองข้าง ในตอนนี้ทั้งคู่เดินมาถึงบ่อน้ำกลางป่าที่มีม้านั่ง และ รอบนั้นมีดอกไม้ขึ้นอยู่รอบๆ เรียกได้ว่าที่แห่งนี้เป็นสรวงสวรรค์กลางป่าเลยก็ได้ “ ไหนๆก็เดินกันมานานแล้ว---เรามานั่งพักแถวนี้กันก่อนดีกว่า ” ใบหน้าใสพยายามเปลี่ยนเรื่อง แต่ดูเหมือนเด็กหนุ่มจะไม่เล่นด้วย ใบหน้าใสจึงได้แต่ถอนหายใจเบาๆก่อนจะไปนั่งที่ม้านั่ง “ สำหรับฉันความรักเหมือนกับการจากลา --- ” ใบหน้าใสพูดพลางมองท้องฟ้าที่ไม่เห็นแม้แต่ดวงจันทร์ทรา คืนเดือนมืดงั้นรึ ? เด็กสาวคิด “ ความรักพรากสิ่งสำคัญของฉันมาแล้วหลายครั้ง ” เด็กพูดพลางกระพริบตาตาที่ดูเหมือนจะมีน้ำตาไหล “ แต่ไหนๆก็ไหนๆ--- หากฉันตกหลุมรักใครสักคน ฉันคงคิดว่าฉันคงเป็นบ้าไปแล้วล่ะ ฮะ ฮะ --- ” เด็กสาวพูดพลางหัวเราะมาอีกครั้ง เด็กหนุ่มคนนั้นก็ได้พูดต่อมา --

    แล้วถ้าเกิดคนที่คุณตกหลุมรักเกิดเป็นหมาป่าคู่อริของคุณ คุณจะทำยังไงหรอฮะ

    -          เด็กสาวตกใจเล็กน้อยกับคำถาม “ นั้นคงแย่ --- มากเลยล่ะ – ฉันคิดว่าครอบครัวของฉัน พี่น้องของฉัน คงไม่อาจยอมรับเรื่องนี้ได้ - ” เด็กสาวพูดออกมาจากใจจริง ก่อนจะพูดต่อไป “ หากเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง ฉันคงหนีออกมาจากที่นั้นล่ะมั้ง ฮะ ฮะ ” เด็กสาวพูดติดตลกโดยที่ไม่รู้เลยว่าเรื่องนั้นอาจจะเป็นจริง เด็กหนุ่มคนนั้นพูดต่อ--

    ฮ่าๆๆตลกดีนะฮะ งั้นผมต้องไปแล้วล่ะฮะ หวังว่าเราคงจะได้เจอกันอีกเด็กน้อยบอกแค่นั้นก่อนจะกลายร่างเป็นหมาป่าแล้ววิ่งห่างไปอย่างรวดเร็ว

    -          เด็กสาวมองร่างของหมาป่า พลางโบกมือให้ “ ฉันรู้อยู่แล้วล่ะว่าเธอเป็นหมาป่า --- ” เด็กสาวพูดพลางมองไปยังท้องฟ้าอีกครั้ง “ ก็วันนี้มันเป็น คืนเดือนมืดนี้นา --- ” เด็กสาวพูดพลางเดินกลับเข้าป่าลึกตามไปเช่นกัน ---

     

    Interview You

    ดีค่ะ ชื่อไรเอ่ย?

    -          ซูค่ะ !

    คิดยังไงถึงพาลูกสาวที่น่ารักของคุณมาที่นี่

    -          เพราะว่าพล็อตมันถูกใจค่ะ !

    เรื่องใบสมัครทางเราไม่เรื่องมากไปใช่มั๊ย(ไรท์ว่ามันโคตรเยอะเลยT^T)

    -          ไม่หรอกค่ะ ฮะ ฮะ

    หากลูกสาวคุณติดอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรนิดหน่อย ทำใจได้มั๊ย

    -          จัดไปเลยค่ะ !

    แล้วถ้าหากว่าลูกสาวไม่ติดคุณจะทำยังไง

    -          รับกลับค่ะ !

    แอดfav.แล้วใช่มั๊ยคะ

    -          .ใช่แล้ว !

    งั้นก็ขอให้โชคดีนะคะขอบคุณที่ร่วมสมัครนะค่ะ^^

    -          เย่ะห์ --- เช่นกันค่ะ !


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×