คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #17 : Chapter 16
เมื่ออะไรบางอย่างแล่นเข้ามาในหัว
คิมฮีชอลก็ไม่รอช้าที่จะเอ่ยมันออกไปอย่างรวดเร็ว
“หน้าสุดท้ายคือหน้าที่ห้าร้อยใช่ไหม?”
คำถามนั้นทำเอาคิบอมผู้ถือตำรานี้พลิกกลับไปยังหน้าสุดท้ายก่อนจะพยักหน้า เมื่อสังเกตุดูความหนาและเป็นไปตามที่คิดแล้ว ก็ดูเหมือนว่าข้อความเลขปริศนานั่นดูจะเริ่มเข้าที่เข้าทางมากกว่าเก่าเสียแล้ว
ดวงหน้าหวานก้มลงดูในสมุดโน้ตของตน จำนวนตัวเลขสิบห้าตัวนั้นดูเหมือนจะไม่ใช่ปริศนาสำหรับเขาอีกต่อไปแล้ว
ในเมื่อเลข500ซึ่งเป็นตัวแรกบอกความหนาของตำรานี้ เลข102ที่ตามมาก็อาจจะบอกถึงคำใบ้ต่อไปก็ได้และด้วยเลข500ที่อยู่หน้าสุดท้ายแล้ว เมื่อรวมเลข102กับหน้าสุดท้ายด้วยกัน ก็จะกลายเป็น...
“หน้าที่102 ตัวอักษรสุดท้ายของหน้าคืออะไร?”แม้จะงุนงงกับคำถามที่ได้รับ แต่ร่างบางก็รีบพลิกไปยังหน้าที่ต้องการอย่างช่ำชองก่อนจะเอ่ยตอบกลับไปอย่างรวดเร็ว “Tฮะ”
คิมฮีชอลจดตัวอักษรพยัญชนะภาษาอังกฤษที่ได้ยินมาลงในสมุดโน้ตของตน ข้างล่างเลข102พลางขมวดคิ้ว... มิน่าหละถึงได้ให้มาเป็นหน้าๆให้หาไป
หน้าละคำและอักษรตัวสุดท้าย
นี่คือวิธีการแก้ปริศนาตัวเลขที่ถูกเขียนด้วยเลือดบนหน้าแรกของตำรานั่น
เป็นห้านาทีกว่าตัวเลขทั้งหมดจะถูกแทนที่ด้วยตัวอักษรตัวสุดท้ายจากหน้าที่ถูกกำหนดเอาไว้ มือเล็กยื่นสมุดโน้ตให้ซีวอนและดงแฮที่พร้อมใจกันชะโงกหน้ามองดูคำตอบที่ได้มาจากการแก้ปริศนานี้
g l h r e t n u e a r v h o
“นั่นมันคำบ้าอะไรหนะ?”ลีดงแฮสบถออกมาอย่างหัวเสียกับคำตอบที่ดูยังไงก็แค่อักษรเรียงกันไปไม่ตามลำดับเพียงเท่านั้น
แต่สำหรับคิมฮีชอล ตัวอักษรภาษาอังกฤษพวกนี้เป็นมากกว่านั้น จริงอยู่ที่ไม่ได้เรียงกันตามลำดับ นั่นก็เพราะอีกฝ่ายจงใจที่จะให้เขาเรียงมันด้วยตัวเองต่างหาก
ไม่ใช่เรียงตามลำดับอักษรA-Z
“แต่เรียงกันให้เป็นคำด้วยตัวอักษรภาษาอังกฤษที่กำหนดเอาไว้”ประโยคนี้พูดพร้อมกับอีกหนึ่งคน ฮีชอลฉีกยิ้มกว้างพลางหันไปยังชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างๆที่เป็นคนเอ่ยประโยคเมื่อครู่ด้วยกัน...รู้ใจไม่เปลี่ยนเลยนะชเวซีวอน
“และถ้านั่นเป็นดั่งที่พวกคุณสองคนพูด?”เสียงหวานของคิบอมดังขึ้นมาเรียกความสนใจของร่างเล็กให้ละสายตาจากดวงตาคมเข้มนั้นหันมาจัดการกับปริศนาขั้นต่อไปบนสมุดโน้ตตน
เพียงแค่ไล่สายตาอ่านไปสองสามรอบและคำนวนคำศัพท์ร้อยสองคำที่ดูจะเป็นไปได้และเหมาะสมแล้วนั้น มือเล็กก็ทดลองเขียนเรียงคำศัพท์ออกมาก่อนที่จะกระตุกยิ้มที่มุมปากแล้วเอ่ยตอบกลับไป
“The grand lourve”
พิพิธภัณฑ์ลูฟร์หรือMusée du Louvre พิพิธภัณฑ์ศิลปะอันก้องโลกที่ตั้งอยู่ที่กรุงปารีส...ที่นี่
“และนั่นก็อธิบายว่าทำไมถึงเกิดเหตุลักพาตัวท่านทูตอเมริกาที่ปารีสได้”เสียงหวานเอ่ยสรุปพร้อมกับปิดสมุดโน้ต เก็บมันลงกระเป๋าหนังของตน เงยหน้าขึ้นมาประจัญหน้ากับคนที่เหลือ อ้าปากแล้ว...
“กรี๊ดดดดดดดดดดด!!!”
เสียงกรีดร้องดังขึ้นมาจากซอยข้างๆก่อนที่ฮีชอลจะได้เอ่ยชวนทุกคนกลับไปยังโรงแรม ไวเท่าความคิดซีวอนเป็นคนแรกที่ออกตัววิ่งไปยังที่เกิดเหตุก่อนที่จะหยุดนิ่ง ดวงตาเบิกกว้างกับภาพที่เห็นข้างหน้า
เพียงแค่ได้เห็น แม้จะไกลจนเห็นแค่รางๆ แต่คิมคิบอมก็ไม่อาจทนดูได้อีก ร่างเล็กรีบซุกหน้าเข้ากับหน้าอกกว้างของร่างสูงที่เพิ่งวิ่งมาถึง ราวกับรู้หน้าที่มือใหญ่รีบกดศรีษะเล็กเอาไว้แนบอกระหว่างที่อีกมือยกขึ้นลูบหลังปลอบขวัญก่อนที่จะหันไปมองยังภาพข้างหน้าอันแสนโหดร้าย
ไม่ทันที่คิมฮีชอลจะได้เห็นภาพตรงหน้า ร่างเล็กก็ถูกดึงมาซบไม่ให้เห็น ดวงหน้าคมคายหันไปมองอีกสองคนข้างหลังตน “ดงแฮ พาคิบอมกลับโรงแรมก่อน” เจ้าของชื่อพยักหน้ารับก่อนที่จะก้มลงกระซิบปลอบขวัญคนในอ้อมกอดแล้วทั้งสองคนก็ผละออกจากจุดเกิดเหตุ
ทิ้งเอาไว้แค่ชเวซีวอนที่เดินมายังศพหลังจากที่สั่งให้ร่างเล็กยืนอยู่กับที่ห้ามเดินเข้ามาเด็ดขาด ดูก็รู้ว่าฮีชอลยังคงช้อกกับสภาพของศพข้างหน้าตนเกินกว่าที่ขาทั้งสองข้างจะก้าวเดินได้ เขาจึงเลือกที่จะให้ร่างเล็กยืนยังต้นซอยดีกว่าที่จะเดินเข้ามากลางซอยที่ไกลเอาเรื่องเหมือนกัน ดวงหน้าคมคายละสายตาจากร่างของคนรักแล้วหันไปมองยังภาพข้างหน้าเขา
ภาพข้างหน้า...
ร่างไร้วิญญาณของท่านทูตแห่งสหรัฐอเมริกานอนคว่ำไร้ลมหายใจ ตรงคอมีรอยถูกมัดที่บ่งบอกว่าถูกมัดจนขาดอากาศหายใจ ท่อนบนเปลือยเปล่า แผ่นหลังกว้างมีรอยกรีดเป็นตัวอักษรที่มีเลือดซึมออกมา
1.00am Mona Lisa
นั่นคือข้อความถึงพวกเขา
คิดได้เพียงเท่านั้นก่อนจะรีบเอ่ยรายงานสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ให้แก่ทางตำรวจปารีสฟังในฐานะประชาชนธรรมดาๆต้องการจะแจ้งว่ามีศพอยู่ในซอยเพียงเท่านั้น เมื่อจบการสนทนาอันแสนรวดเร็วชายหนุ่มจึงเก็บโทรศัพท์ลงไปในกระเป๋ากางเกงก่อนจะเรียกชื่อพลางหันหน้าไปหาอีกหนึ่งคนที่อยู่ต้นซอย
“ตีหนึ่งที่ห้องจัดแสดงภาพโมนิลิซ่า ระบบการป้องกันของลูฟร์ตอนกลางคืนมันคงอันตรายเป็นที่สุดอย่างแน่นอน คุณคิดว่าไง...”
ชื่อคนรักถูกกลืนหายเข้าไปในลำคอ ดวงตาคมเข้มเบิกกว้าง หัวใจหยุดเต้นฉับพลัน
คิมฮีชอลหายตัวไป!
ซีวอนแน่ใจหนึ่งร้อยสองเปอร์เซนต์แล้วว่าคิมฮีชอลถูกลักพาตัวไปโดยอาศัยจังหวะช่วงที่เขาหันหลังให้เดินไปยังศพของท่านทูต พวกบาปทั้งเจ็ดที่เหลือต้องใช้อากาสนั้นเอาผ้าโปะยาสลบปิดหน้าแล้วลากออกไปแน่ๆ
มันเกิดขึ้นเพราะความสะเพร่าของเขาทั้งนั้น
ถ้าเขาไม่ระวังตัวกว่านี้ ฮีชอลก็คงไม่โดนจับตัวไปหรอก ถ้าเขาไม่ให้ฮีชอลยืนอยู่คนเดียว...ทุกอย่างก็คงไม่เกิดขึ้นหรอก
และเพราะหนึ่งในบาปทั้งเจ็ดที่ยังเหลืออยู่คือบาปแห่งราคะ ผู้ซึ่งฟักไฟ่และมีความคิดในกามอารมณ์...ซีวอนจึงทั้งกลัวทั้งเป็นห่วงว่าคนที่จะจับร่างเล็กไปนั้นคือบาปแห่งราคะหรือเปล่า?
คิดได้เพียงเท่านั้นก็ต้องเงยหน้าขึ้นมามองตามเสียงประตูที่ถูกเปิดออกมา ชินดงฮีเพื่อนรักผู้ซื่อสัตย์เดินเข้ามาพร้อมกับถังอ๊อกซิเจนสองถัง ร่างท้วมหยุดนิ่ง มองหน้าชายหนุ่มแล้วยื่นถังอ๊อกซิเจนในมือข้างขวาให้
“พร้อมแล้วนะ?”
ชเวซีวอน เจ้าของความคิดนี้พยักหน้าก่อนจะรับมันมาแล้วหันไปมองยังลีดงแฮที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องนอนพอดี “ฝากคิบอมด้วยนะ” ชายหนุ่มฉีกยิ้มกว้างรับคำ “ผมฝากต่อยหน้าไอ้เวรที่มันลักพาตัวฮีชอลไปให้หน่อยนะ”
ร่างสูงหัวเราะเบาๆรับคำก่อนจะหันกลับมาประจัญหน้ากับชินดงฮี นี่เป็นครั้งแรกตั้งแต่ทำคดีนี้มาที่เขาและชินดงจะบุกกันแค่สองคน มันช่างรู้สึกเหมือนตอนอยู่อเมริกา ตระเวนไปทั่วโลกกับชินดงสองคนจริงๆ
“ไปกันเถอะ”
คิมฮีชอลนอนหลับไปแล้ว
แม้จะดูเหนื่อยอ่อนจากกิจกรรมบนเตียงเมื่อครู่ แม้ว่าตามร่างกายจะเต็มไปด้วยร่องรอยสีกุหลาบอันเกิดจากการไม่ได้เต็มใจจากเจ้าตัว แม้ว่ามือทั้งสองข้างจะถูกเขามัดเอาไว้เพื่ออะไรต่อมิอะไรจะได้สะดวกขึ้น
ยังไงก็สวยอยู่ดี
ราวกับนางฟ้าเทวดารูปงามบนสวรรค์กำลังหลับไหล เป็นภาพที่สวยงามจนเขาไม่คิดที่จะให้มันสลายไปเลย อยากจะเก็บคนๆนี้เอาไว้ครอบครองตลอดชีวิต
รักแรกพบ?
น่าขันเสียจริงๆ
ถอนหายใจออกอย่างขมขื่นก่อนที่จะหันหน้ากลับไปมองร่างที่เขาได้ปลดปล่อยเชือกที่มัดข้อมือบางเอาไว้แล้วจัดการเช็ดตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดนอนที่เขาหาซื้อตามขนาดตัวที่เดาเอาไว้ เสื้อผ้าของคิมฮีชอลถูกจัดวางเอาไว้บนโต๊ะข้างๆเตียงเมื่อเจ้าตัวตื่นมาจะได้เห็น
มือใหญ่ยกขึ้นลูบกลุ่มผมสีดำนั่นอย่างอ่อนโยนพร้อมกับรอยยิ้มเศร้า วินาทีนี้ที่ลัสแทบไม่อยากจะลุกออกไปเลยแม้แต่น้อย แต่นี่มันก็ใกล้จะตีหนึ่งแล้ว เขานัดคนรักของคิมฮีชอลเอาไว้ที่ลูฟร์
“ทำไมต้องมาทำงานให้องค์กรนี้ด้วยนะ?”อดไม่ได้ที่จะถามตัวเอง คงเพราะฝีมือขั้นเทพบวกกับสันดานราคะของเขาหละมั้งที่ทำให้บอสดูสนใจและเสนอตำแหน่งให้ ซึ่งเขาก็เข้าร่วมโดยไม่รีรออะไรทั้งสิ้น คงเพราะไม่เหลืออะไรในชีวิตแล้วหละมั้ง
ลัสแทบจะยอมละทิ้งซึ่งทุกสิ่งทุกอย่างเพียงแค่ได้อยู่กับร่างที่นอนหลับไหลอยู่บนเตียง แต่ถ้าเกิดเขาไม่ได้ทำงานให้องค์กรนี้ เขาก็คงไม่ได้มาเจอร่างเล็ก และเหนือสิ่งอื่นใด...คือเวลา
“ทำไมผมกับฮีชอลถึงต้องมาเจอกันหลังจากที่ฮีชอลเจอไอ้นั่นด้วยแล้วนะ?”เขามาสายเกินไป หัวใจของคิมฮีชอลมอบให้FBIคู่อริองค์กรเขาไปเสียแล้ว และนี่ก็คงจะเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ลัสไม่รีรอเลยที่จะฆ่าเจ้าFBIนั่นให้ตายด้วยน้ำมือเขา ตอนแรกที่รู้ว่าฮีชอลรู้จักกับFBIคู่กรณีนั่นเขาแค่ไม่พอใจ แต่พอรู้ว่าคบกัน เลิกกันแต่ยังดูท่าว่าจะรักกันอยู่ ข้อมูลพวกนั้นทำให้เขาแทบบ้า
คิมฮีชอล...คนสวยของเขา
นั่นเป็นเพียงแค่ชื่อเรียกในความคิดที่เขาใช้เรียก ความจริงไม่ได้เป็นอย่างนั้น คิมฮีชอลไม่ใช่ของเขา ไม่เคยเป็นและจะไม่มีวันเป็น
เหลือบดูนาฬิกา ได้เวลาเที่ยงคืนครึ่งแล้ว เขาควรจะไปรอได้แล้วสินะ นึกได้เพียงเท่านั้นก็ลุกขึ้นจากเตียง คว้าแส้ที่แขวนเอาไว้บนผนังมาด้วย เดินไปยังประตูห้องที่ซึ่งเขาได้จัดการเปลี่ยนให้กลายมาเป็นล๊อคจากข้างนอกเอาไว้ บอสคงมารับฮีชอลคนสวยของเขาตอนที่เจ้าตัวตื่นแล้วอย่างแน่นอน
เหลือบหันกลับไปมองร่างที่นอนสลบบนเตียงเป็นครั้งสุดท้าย...อะไรบางอย่างบอกเขาว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่เจอกัน คิดได้เพียงเท่านั้นก็ถอนหายใจแล้วปิดประตูห้องอย่างเงียบเฉียบ
ลาก่อน คนสวยของผม
---------------------------------------------------------------------------------------
เอ้อ...ฮีตเตอร์ไม่ทำงาน
เมื่อเช้าตื่นมาอาบน้ำ น้ำร้อนไม่ทำงาน
โอ้ววว แช่แข็ง TT'
ความคิดเห็น