ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Hallelujah (WONCIN + HAEKI +SHINDONG)

    ลำดับตอนที่ #5 : Chapter 4

    • อัปเดตล่าสุด 12 มิ.ย. 64



     

                    

    ดูท่าว่าแผนการใส่ยานอนหลับในขนมปังในพิธีมิซซาของคุณจะประสบความสำเร็จมากเลยนะ”

                    

    น้ำเสียงทุ่มที่ดังขึ้นราวกับต้องการจะแสดงความยินดีนั้นทำได้แค่เพียงเรียกยิ้มที่มุมปากเล็กเท่านั้น “ต้องขอบคุณนายมากที่ยอมให้ฉันทำอะไรแบบนี้”

                    

    เพื่อความสงบสุขและชีวิตของคนทั้งโลก”ชายหนุ่มเอ่ยตอบประโยคยียวนกวนอารมณ์นั่นก่อนจะจอดรถเมื่อแล่นมาถึงคอนโดอันเป็นที่พักของร่างข้างๆตน ดวงตาคมเหลือบมองคนข้างๆที่เอื้อมมือกำลังจะไปเปิดประตู

                    

    ไม่คิดจะชวนขึ้นไปข้างบนหน่อยเหรอ?”เมื่อเห็นร่างเล็กหันหน้ามามองอย่างงุนงงจึงรีบพูดต่อ “ก็ผมอยากรู้ว่ามันเปลี่ยนไปหรือเปล่...”

                    

    เวลาครึ่งปีมันไม่ได้ทำให้บ้านฉันเปลี่ยนไปหรอกไม่ต้องห่วง”เอ่ยขัดขึ้นมาเรียบๆพลางเปิดประตูออก ไม่ทันจะได้เคลื่อนตัวออกก็ต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่กับท่าทีหงอยเหงาไปของชายหนุ่มคนขับรถ

                    

    ไม่ต้องเดาก็รู้ได้เลยว่าเขาได้ไปพูดประโยคตัดรอนไมตรีตอกย้ำความสัมพันธ์ที่เลิกรากันไปให้ซีวอนได้เจ็บปวด...อันที่จริงแล้วฮีชอลก็นึกอยากตบปากตัวเองเหมือนกันที่ไปพูดอย่างงั้น เพราะไม่ใช่แค่ร่างสูงเท่านั้นที่เจ็บ เขาเองก็เหมือนกัน

                    

    แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือฉันเหงาเพราะนายไม่อยู่ด้วยแล้วต่างหาก”

                    

    พูดจบก็รีบดีดตัวออกไปจากรถทันทีหากแต่มือแกร่งของคนข้างๆนั้นกลับมีปฏิกิริยาที่ไวกว่า ทันทีที่จบประโยคแล้วร่างเล็กทำท่าว่าจะลุกหนีนั้น ซีวอนผู้ที่กำลังดีใจจนไม่สามารถฉีกยิ้มได้ก็เอื้อมมือไปดึงคนที่กำลังจะลุกให้กลับมานั่งใหม่ที่เดิมแถมยังเซมาทางเขาเสียเต็มแรง

                    

    ซี...!”ไม่ทันจะได้เรียกชื่อก็เป็นอันต้องถูกริมฝีปากหยักประกบเข้าอย่างรวดเร็ว อาศัยจังหวะที่ร่างเล็กยังคงตกใจไม่หายกับจูบที่จาบจ้วงรวดเร็วส่งลิ้นหนาเข้าไปหยอกล้อทักทายในโพรงปากเล็ก

                    

    ดูดดื่ม...ร้อนแรง...โหยหา...คิดถึง...รัก

                    

    นานเท่าไหร่แล้วนะที่ไม่ได้จูบกับฮีชอล?

                    

    เป็นเวลานานกว่าชายหนุ่มจะค่อยๆผละริมฝีปากออกอย่างอ้อยอิ่งเมื่อคนในอ้อมกอดเริ่มกลับมาดิ้นอีกครั้งบ่งบอกถึงอากาศที่กำลังจะขาดไป

                    

    ฮีชอลแทบจะหลอมละลายลงไปกองแทบเท้ากับจูบเมื่อครู่ เขารีบเรียกสติที่ดูกำลังจะขาดหายไปให้กลับมาสู่ตัวอย่างรวดเร็วก่อนจะผละออกจากชายหนุ่มและเดินออกไปจากรถ

                    

    ฝันดีนะครับ!”ซีวอนตะโกนไล่หลังตามมาอย่างอารมณ์ดียิ่งทำเอาดวงหน้าหวานของคนที่เย็นชาให้แดงแปร้ดมากยิ่งขึ้นไปอีก พอจะหันมาค้อนให้ รถคันหรูก็ออกตัวจากไปเสียแล้ว


    นิ้วเรียวยกขึ้นแตะริมฝีปาก สัมผัสร้อนเมื่อครู่ยังคงคาเอาไว้ ณ ริมฝีปากที่บวมเจ่อ...ไม่รู้จะดีใจหรือเสียใจดีที่ซีวอนจูบเขา แบบนี้มันก็หมายความว่าที่ซีวอนต้องการจะกลับมาคืนดีกับเขานั้นเป็นเรื่องจริง


    แม้ใจจริงอยากจะคืนดีด้วยมากขนาดไหน แต่เพราะนิสัยหยิ่งยโสปากแข็งเล่นตัวไม่ยอมนั้นคงไปตัดรอนกำลังใจของชายหนุ่มให้ถดถอยลงแน่ๆ


    แต่นั่นก็อีกแหละ...เพราะนั่นคือชายหนุ่มที่เชื่อมั่นในตัวเอง เชื่อมันในความรักของตัวเองและเขา และเพราะนั่นคือซีวอน...ร่างสูงจะไม่ยอมแพ้แน่ๆ


    เพราะชเวซีวอนคือคนๆเดียวเท่านั้นที่สามารถหลอมละลายความเย็นชาดุจน้ำแข็งของเขาให้กลายไปเป็นน้ำธรรมดาๆได้


    ฮีชอลลลลลลลลลลลลลลลล~”


    ทันทีที่ประตูบ้านเปิดออกมาเสียงเรียกชื่ออาคันตุกะผู้เข้ามาใหม่นั้นก็ดังขึ้นมาทันทีพร้อมกับกลิ่นเหล้าที่โชยหึ่งออกมาเป็นสัมผัสทางกลิ่นอย่างแรกที่เข้าหาคนมาใหม่


    เจ้าของชื่อดูจะแปลกใจเล็กน้อยกับกลิ่นเหล้าที่โชยออกมา...ท่าทางคราวนี้คงจะต้องรักมากแน่ๆ เพราะเพียงแค่ได้กลิ่นที่ห่างจากเจ้าตัวชนิดคนละฟากห้องก็รู้แล้วว่าดื่มไปมากเท่าไหร่


    กลับมาแล้วครับ”ดูเหมือนประโยคนี้จะเป็นประโยคพูดกับตัวเองเบาๆเสียมากกว่าเพราะคนตรงหน้าดูท่าจะไม่ไม่สนใจเขาเลย หญิงสาวลุกพรวดออกมาจากโซฟาแล้ววิ่งมากระโดดกอดเขา


    ฉันรักแกนะฮีชอลลล~”บอกรักซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ดูท่าว่าคนบอกรักได้แต่ฉีกยิ้มอย่างนึกเอ็นดูเสียมากกว่าก่อนจะค่อยๆพยุงหญิงสาวกลับไปนั่งบนโซฟา ร่างเล็กวางกระเป๋าลงบนโต๊ะกาแฟก่อนจะหันหน้ามามองดูเจ้าหล่อนที่เอื้อมมือไปคว้าเหล้ามากระดกเข้าปากราวกับน้ำเปล่า


    ฉันทำใจไม่ได้หวะ?”ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ฮีชอลนิ่วหน้ากลับกลิ่นเหล้าที่ออกมาด้วยเมื่อหญิงสาวอ้าปากพูด


    ทำใจอะไรไม่ได้ฮะ?”


    ก็ที่แกสวยกว่าฉันไง ทั้งๆที่ฉันเป็นแม่แกแท้ๆเลยนะ!”พูดจบก็เป็นอันต้องกระดกเหล้าเข้าปากอีกหนึ่งรอบราวกับเป็นเรื่องปกติ ทว่าคนรับฟังกลับเบิกตากว้าง “เลิกกันเพราะผมอีกแล้วเหรอ?!”


    แต่ทว่าเสียงที่ตะโกนไปเมื่อครู่นั้นไม่ได้ทำให้หญิงสาวสะดุ้งตัวเลยแม้แต่น้อย เจ้าหล่อนเบ้ปากแล้วพยักหน้าอย่างปลงๆ “ก็ทำไงได้ แกได้เชื้อแม่มาเยอะ...เอาจริงๆพ่อแกก็สวยนะ”พูดราวกับเป็นเรื่องธรรมดา...เอาเข้าจริงมันก็กลายเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้วที่จะมาพูดกับถึงเรื่องพ่อที่ฮีชอลไม่เคยเห็นหน้าตามาก่อน


    เพราะเขาเกิดมาโดยความไม่ได้ตั้งใจ


    ใครบ้างอยากมีแฟนเป็นคนใจแตกและทำตัวอย่างกับกะหรี่?”


    คิมฮีนิมท้องเขาตอนที่ยังอายุสิบหก...สาวใจแตกคือคำที่สังคมใช้เรียกหล่อน ณ ตอนนั้น แม้จะรู้ว่าหล่อนจะต้องมีภาระเพิ่มมาอีกหนึ่งหลังจากที่เงินก็แทบจะไม่มีอยู่แล้ว ครอบครัวก็ไม่มี ไร้ญาติขาดมิตร แต่หล่อนก็ยังเลือกที่จะคลอดเขาและเลี้ยงดูเขามาด้วยตัวคนเดียวตลอด หาเงินให้เขาได้เรียนจนจบมหาลัยโดยอาศัยเงินทุนที่เขาสอบได้หรือเงินจากเหล่าคู่ควงรวยๆไม่ว่าจะเป็นแก่หรือหนุ่ม ขอเพียงแค่มีเงินให้เธอและลูกก็เพียงพอ


    กะหรี่...เมียน้อย...อิหนู...นี่คือคำเรียกสารพัดที่ใช้เรียกหญิงสาวด้วยมุมมองเพียงมุมมองเดียว แม้จะน้อยใจคิดอยากตายขนาดไหนแต่ของขวัญชิ้นพิเศษที่ฟ้าประทานมาให้หล่อนยังคงอยู่บนโลกนี้ ฮีชอลคือสิ่งๆเดียวและกำลังใจที่ทำให้หล่อนมีชีวิตอยู่เพื่อสู้กับชะตาชีวิตแสนโหดร้าย


    ตราบใดที่คิมฮีชอลลูกรักยังมีชีวิตอยู่ เธอก็จะกัดฟันเชิดหน้าท้าทายโชคชะตา


    สำหรับฮีชอลแล้ว เขากลับมองคนข้างๆด้วยมุมมองที่แปลกไป คงเพราะเป็นแม่ตัวเองที่ไม่ยอมทิ้งเขาไป คงเพราะเป็นคนที่ทำงานสารพัดทุกวันจนแทบจะไม่มีเวลานอนเพื่อหาเลี้ยงตัวเองและเขาเลยทำให้เขากลับมองว่าผู้หญิงคนนี้คือยอดหญิงนักสู้ชีวิตที่ไม่ยอมท้อถอยกับเรื่องใดๆเด็ดขาด


    ต่างคนต่างความคิดต่างแง่มุมในการมองคน คนอื่นมองว่าผู้หญิงคนนี้เป็นเพียงแค่เหล่าหญิงสาวที่หวังผลประโยชน์จากคู่ควง แต่เขากลับมองว่าผู้หญิงคนนี้ทำทุกอย่างเพื่อเขาเสมอ


    และนั่นคือสาเหตุที่คิมฮีชอลสามารถสอบได้ทุนเรียนฟรีมาตั้งแต่ขึ้นมัธยมจนเรียนจบมหาลัยด้วยผลการเรียนอันดับหนึ่งของคณะ ไม่ใช่แค่เพราะความอัจฉริยะแต่เพราะกำลังใจที่จะแบ่งปันภาระของแม่ตนจนทำให้เขาได้งานที่มีเงินเดือนสูง มีบ้านให้พักครบครัน


    เขาบอกเลิกเพราะบอกว่าเขาชอบแก อยากได้แกเป็นเมียมากกว่าฉัน...ดูไอ้หมอนั่นมันพูดสิ!”ไม่ว่าเปล่าก็ยกเท้าสองข้างกระถืบพื้นโครมๆ ฮีชอลได้แต่ถอนหายใจอย่างนึกปลง...คู่ควงที่แม่เขาควงมากกว่าครึ่งมาบอกเลิกหญิงสาวไปเพราะอยากเป็นแฟนกับลูกมากกว่าแม่


    นึกได้เท่านี้จู่ๆหัวใจเจ้ากรรมที่ชอบจำอะไรที่มันชอบกลับมาย้อนให้เจ็บปวดนั้นก็นึกไปถึงเมื่อครั้งที่ฮีนิมเมาจนไม่สามารถกลับบ้านได้จนเขาต้องรวบรวมสติเฮือกสุดท้ายโทรหาเขาซึ่งกำลังนอนหลับอยู่ในอ้อมกอดคนรักอยู่ให้มารับตอนเวลาตีสามกว่า เมื่อครั้งเขาจะไปรับคนเดียวก็ไม่ได้ ซีวอนต้องแหกขี้ตาตื่นมาขับรถให้เขาเพราะไม่อยากให้ไปคนเดียว


    ก่อนที่จะพบกับคู่ควงของแม่ที่เพิ่งบอกเลิกไปเดินมาหาเขาแล้วพูดจาลวนลามชวนให้ชกหน้าเป็นที่สุด


    ที่ฉันบอกเลิกกับฮีนิมเพราะฉันอยากได้ฮีชอลคนสวยมาเป็นเมียมากกว่าไงหละจ้ะ”


    และร่างของผู้ชายคนนั้นก็กระเด็นไปยังอีกฝากของผับด้วยหมัดหนักๆของผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างๆเขา


    ชเวซีวอน...


    คิมฮีชอลหนะ เป็นเมียของผมคนเดียวเท่านั้น!!”


    ...และประโยคคำพูดที่ประกาศออกไปต่อหน้าคนในผับนั้นทำให้คิมฮีนิมที่กำลังเมามายไม่ได้สติถึงกับตาสว่างและสะอึกไป ส่วนเจ้าของชื่อนั้นถูกแขนแกร่งโอบไหล่ประกาศตัวไปเสียแล้วเรียบร้อย


    ก็ชเวซีวอนคนเดียวจริงๆเท่านั้นแหละที่สามารถหลอมละลายคนเย็นชาอย่างเขาให้หน้าแดงแปร้ดและหัวใจเต้นตุบตับอย่างบ้าระห่ำอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนได้


    นอกเหนือจากนั้นก็ชเวซีวอนคนเดียวเท่านั้นที่สอนให้คนเย็นชาอย่างเขารู้จักกับความรักและเข้ามาครอบครองหัวใจของเขาเสียหมด


    แล้วก็ชเวซีวอนคนเดียวเท่านั้นที่ทำให้เขารู้จักความเจ็บปวด ความเศร้า และความเหงาที่เกิดจากความรักและความสัมพันธ์ที่ขาดสะบั้นลง


    เป็นอะไรไป?”


    เสียงของคนข้างๆดังขึ้นมาเมื่อเห็นผู้เป็นลูกซึมเศร้าไป คนโดนทักถอนหายใจเศร้าๆก่อนจะตอบกลับไป “ซีวอนกลับมาเกาหลี”


    ไอ้คนที่ตอแหลแกว่าเป็นรองประธานอะไรนั่นแล้วความจริงเป็น FBI มาประจำการอยู่ที่เกาหลีใช่ไหม?”


    ความจริงผมก็โกหกเขาเรื่องอาชีพเหมือนกันแหละฮะ”


    พอกัน!”ฮีนิมถอนหายใจเฮือกใหญ่พลางเอนหลังพิงโซฟาแล้วถามต่อเสียงเบา “แต่เจ้านั่นก็รู้ความจริงแล้วใช่ไหม?” ดวงหน้าหวานพยักหน้าแทนคำตอบ

             

    มันมาขอแกรีเทิรน์แน่ๆใช่ไหม?”เมื่อผู้เป็นลูกพยักหน้าเงียบๆอีกครั้งก็หัวเราะคิกคักอย่างถูกใจ...ชเวซีวอน ไม่ใช่หล่อนไม่ชอบผู้ชายคนนั้นหรอก หล่อนออกจะเอ็นดูเลยด้วยซ้ำ

                    

    เพราะชายหนุ่มมักจะตามติดดูแลเป็นบอดี้การ์ดฮีชอลตลอดเวลาฮีชอลไปไหน ไปรับไปส่งฮีชอลที่มหาลัยตลอด ยอมแหกขี้ตาตื่นมาตอนกลางดึกเพื่อขับรถมารับหล่อนที่เมามาย อะไรหลายๆอย่างที่ทำนั้นทำให้หล่อนนึกรับเจ้าคนนี้เป็นลูกเขยในอนาคต

                    

    เหนือสิ่งอื่นใดคือซีวอนยอมรับสภาพฐานะว่าฮีชอลเป็นเด็กที่เกิดมาไม่เคยเจอหน้าพ่อมาก่อนและมีแม่เป็นสาวใจแตกที่ทำงานเป็นผู้หญิงขายตัว เป็นเมียน้อยของคนอื่นไปวันๆ ชายหนุ่มนั้นไม่ได้ว่าอะไรเลยแม้แต่น้อยออกจะสงสารและพยายามทุกวิธีทางช่วยหล่อน ไม่ว่าจะเป็นแนะนำเพื่อนผู้บริหารบริษัทอื่นๆที่อายุเท่าหล่อนและยังโสดให้เสียด้วย

                    

    การที่ชเวซีวอนย้ายมาอยู่กินในบ้านของฮีชอลลูกรักราวกับคู่แต่งงานใหม่นั้นเพราะชายหนุ่มต้องการดูแลลูกรักของหล่อนบวกกับจะได้ไปรับหล่อนเวลาเมาได้สะดวก ความมีน้ำใจของซีวอนคือสิ่งที่ทำให้หล่อนเป็นปลื้มผู้ชายคนนี้มากที่สุด

                    

    แล้วแกยอมคืนดีกับซีวอนยัง?”เมื่อไม่มีคำตอบจากผู้เป็นลูก ฮีนิมก็ถึงกับสบถพรืดออกมาอย่างไม่พอใจพลางยกมือตบหัวร่างเล็กเบาๆอย่างนึกหมั่นไส้ “จะปากแข็งเล่นตัวไปถึงไหนยะคิมฮีชอล?! เดี๋ยวเขาก็ล้มเลิกความตั้งใจไปหรอ...”

                    

    หยุดพูดไปเมื่อเห็นว่าประโยคสุดท้ายดูท่าว่าจะไปสะกิดต่อมความเจ็บปวดของลูกรักให้ ฮีนิมเงียบไปสักพักก่อนพูดเสริม “แต่เขารักแกมานานแล้วนี่ คบกันมาสามปี เลิกกันไปครึ่งปี เขาไม่เลิกรักแกหรอก...อีกอย่างซีวอนก็ตามจีบแกมาปีกว่า กะอีเรื่องขอรีเทิรน์นี่ก็ไม่เป็นไรหรอก”

                    

    แกก็อย่าเล่นตัวให้มากไป อย่าทำปากแข็งเย็นชาไปหน่อยเลย เจ้าน้ำแข็งเดินได้”คำหลังอดไม่ได้ที่จะเหน็บแหนมนิสัยที่ดูจะแตกต่างกับหล่อนสุดขั้วเสียเหลือเกิน เจ้าน้ำแข็งเดินได้เพียงแต่เบ้ปากแล้วหัวเราะนิดๆ

                    

    แต่เมื่อครั้งจะอ้าปากพูดก็ถูกผู้เป็นแม่เอ่ยขัดเสียก่อนด้วยน้ำเสียงห้วนๆ “แกอย่ามาพูดเป็นเชิงทฤษฏีคบคิดนะเฟ้ย...พวกที่ไม่เคยรักมักจะทำเป็นพูดราวกับเข้าใจความรักดี แต่พวกที่รู้จักกับความรักมักจะพูดและปฏิบัติไปด้วยต่างหาก แกเป็นอย่างนั้นฉันรู้”

                    

    ไม่ว่าเปล่าก็หันมายิ้มให้ลูกรักของตน ที่แม้จะอายุไล่เลี่ยกันก็จริงแต่ก็ยังคงเป็นเด็กน้อยในสายตาหล่อนอยู่ “ปากก็บอกว่าไม่ตลอด แต่ในใจแกก็ดีใจใช่ไหมหละที่ซีวอนกลับมา”

                    

    ไร้ซึ่งทางหนีใดๆเพราะโดนพูดดักเอาไว้ราวกับอ่านใจออก สุดท้ายดวงหน้าหวานก็เป็นอันต้องพยักหน้าเงียบๆอย่างอายๆ ฮีนิมหัวเราะก้ากอย่างพอใจกับท่าทีเขินอายของลูกรักก่อนจะลุกขึ้นยืน

                   

    เห็นทีคงต้องขอนอนบ้านแกสักสองสามอาทิตย์จนกว่าจะหาเหยื่อใหม่ได้ก็แล้วกันนะ”เอ่ยพูดราวกับเป็นเรื่องปกติของหล่อน โดนบอกเลิก...ก็แล้วไง? แค่อกหัก ไม่ช้าก็เร็วหล่อนก็ต้องตามหาคู่ควงคนใหม่เสียอยู่ดีเพราะไม่อยากลำบากเงินที่ฮีชอลแบ่งมาให้


    จะมีไหมสักคนที่ยอมรับหล่อนและลูกที่ท้องมาโดยไม่มีพ่อได้?

                   

     

     

     

                    

    ดวงตากลมโตเฝ้ามองดูผู้เป็นแม่เดินออกมาจากห้องอาบน้ำแล้วเดินตรงตรี่เข้าห้องนอนตนเพื่อไปนอนทันทีก่อนที่จะละสายตามามองเหล่าขวดเหล้าจำนวนมากบนโต๊ะ...เดี๋ยวนี้พอเลิกกับซีวอนแล้ว แม่เขาก็ไม่อยากลำบากให้เขามารับที่ผับที่บาร์กลางดึก จึงตัดสินใจเปิดบาร์คนเดียวในบ้านนี้เสียเลย และยังไงก็ต้องลำบากลูกอย่างเขาที่ต้องมาตามเก็บทำความสะอาดทีหลังอยู่ดี

                    

    ความสัมพันธ์ของเขาและแม่มันดูจะไปทางพี่สาวและน้องชายเสียมากกว่า คงเพราะอายุห่างกันแค่เพียงไม่กี่ปีเท่านั้นหละมั้งเลยทำให้ดูสนิทกันราวพี่น้องมากกว่าแม่ลูก

                    

    ครืดๆ ครืดๆ ครืดๆ~

                    

    เสียงโทรศัพท์โมโตโรลลาแบบพับที่วางเอาไว้บนโต๊ะสั่นขึ้นมาเรียกความสนใจของร่างเล็กให้หันมามอง...ใครกันนะที่โทรมาดึกดื่นป่านนี้? นึกในใจระหว่างที่คว้าโทรศัพท์มา ความคิดที่กะเปิดเพื่อรับสายเป็นอันต้องหยุดชะงักไปเมื่อดวงตากลมโตเห็นชื่อของคนที่โทรมาที่โชว์หลาอยู่หน้าจอ

                

    ชเวซีวอน

                    

    ลังเลอยู่นาน ความคิดที่ตอนแรกหมายจะเพิกเฉยไม่สนใจไปเป็นอันต้องล้มเลิกเมื่อดูเหมือนคนปลายสายนั้นยังคงไม่ล้มเลิกความพยายาม โทรศัพท์ในมือยังคงสั่นไม่เลิกจนในที่สุดร่างเล็กก็พ่ายแพ้แต่ความพยายามของชายหนุ่ม...และหัวใจของตัวเองที่อยากได้ยินเสียงอยากคุยกับคนปลายสายเป็นยิ่งนัก

                    

    เปิดโทรศัพท์พับได้ของตนแล้วยกขึ้นแนบหู ไม่ทันจะได้กรอกเสียงลงไปเสียงจากคนที่อยู่ปลายสายก็ดังแทรกขึ้นมาก่อนทันที //นี่คุณยังเก็บเบอร์ของผมเอาไว้อยู่เหรอ?//

                    

    ใช่...นี่คือคำตอบจากหัวใจดวงน้อยๆ หัวใจรีบตอบกลับไปอย่างรวดเร็วแต่ปากกลับพูดอีกอย่าง “ฉันลืมลบหนะ”

                    

    ฟังก็รู้ว่ากำลังโกหกตัวเอง หัวใจตัวเองและคนปลายสายอยู่...คำตอบจากคนปากแข็งนั้นไม่ได้สร้างความแปลกใจให้ซีวอนเลยแม้แต่น้อย เขารู้อยู่แล้วว่าร่างเล็กต้องไม่ยอมรับแน่ๆว่ายังคงเก็บเบอร์เขาเอาไว้

                    

    //แต่ผมยังเก็บเบอร์ของคุณเอาไว้อยู่เลยนะ ดีใจจังที่คุณไม่เปลี่ยนเบอร์//

                    

    ฉันไม่อยากทำให้ชีวิตยุ่งยาก เบอร์ๆเดียวก็ถมเถแล้ว”เอ่ยตอบกลับไปเรียบๆ แม้จะฟังดูเป็นบทสนทนาที่ดูตัดรอนไมตรีมากนักแต่หัวใจของทั้งสองฝ่ายกลับพองโตเพียงแค่ได้ยินเสียงของอีกฝ่าย

                    

    //ผมแค่อยากจะโทรมาบอกราตรีสวัสดิ์//เมื่อความเงียบเข้าปกคลุมชายหนุ่มจึงพูดความรู้สึกในใจออกไปพร้อมกับรอยยิ้ม

                    

    ประโยคนั้นเรียกดวงหน้าหวานให้ขึ้นสีแดงระเรื่อได้ ฮีชอลกระแอมเบาๆกลบเกลื่อนความอายทั้งๆที่อยู่ตัวคนเดียวแล้วไยต้องกลบความอายตนด้วย...คงเพราะคนปลายสายรู้ดีหละมั้งว่าเขากำลังอายอยู่

                    

    งั้นก็...ราตรีสวัสดิ์นะ”

                   

     //นี่!//เสียงทุ้มที่ตะโกนออกมาราวกับอ่านใจออกว่าเมื่อจบประโยคนี้เขาก็จะกดพับโทรศัพท์เพื่อตัดสายดังลอดขึ้นมาทำเอาฮีชอลต้องยกโทรศัพท์แนบหูอีกครั้งแล้วเอ่ยถามห้วนๆ “อะไร?”

                    

    ประโยคต่อไปที่ดังเข้ามาในหัวก่อนที่ชายหนุ่มจะกดตัดสายทิ้งไปนั้นทำเอาคนรับฟังถึงกับหน้าขึ้นสีแดงแปร้ด ความเย็นชาของตัวเองถูกหลอมละลายอีกครั้งกับประโยคๆนั้น

                    

    //ปากของคุณยังหวานไม่เปลี่ยนเลยนะ//

     

    ----------------------------------------------------------------------------------------------------------


    ว่าจะอัพให้เมื่อวาน แต่เพราะหิมะตกหนัก internet เลยใช้ไม่ได้
    สาธุ ขอให้พายุหิมะเข้าหนักมากๆสองวันติดต่อกันด้วยเถิด TT .
    หิมะเริ่มละลายแล้ว ไม่ชอบเลย นั่นก็หมายความว่าโรงเรียนจะเปิดแล้ว ;(


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×