ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Hallelujah (WONCIN + HAEKI +SHINDONG)

    ลำดับตอนที่ #11 : Chapter 10

    • อัปเดตล่าสุด 13 มิ.ย. 64




    เสร็จแล้ว”


    เอ่ยจบเมื่อทำแผลขนาดใหญ่บนหลังกว้างเสร็จแล้วเรียบร้อย ฮีชอลลุกออกจากเตียงนอนพร้อมกับอุปกรณ์ทำแผลที่เก็บเข้าที่เรียบร้อย เดินไปวางเอาไว้บนโต๊ะไม้ทรงกลมก่อนจะเดินกลับไปนั่งบนเตียงอีกครั้ง


    ชายหนุ่มสวมเสื้อนอนของตนอีกรอบก่อนจะเหลือบมองร่างข้างๆที่ล้มตัวนอนบนเตียงคู่นี้ เขานึกดีใจที่ภายในห้องที่โรงแรมเล็กๆแถวนี้ที่เพิ่งหาได้นั้นมีเพียงแค่เตียงคู่เท่านั้น และนั่นก็เลยทำให้เขาได้นอนห้องเดียวและเตียงเดียวกับฮีชอล


    อ้ะ!”ตกใจจนเผลออุทานออกมาเมื่อจู่ๆก็มีแขนแกร่งสอดลอดใต้วงแขนแล้วโอบรั้งเขาเอาไว้ ไม่ต้องเดาก็รู้มีเพียงคนข้างหลังเขาเท่านั้นแหละ ไม่ใช่แค่ชอบทำเวลานอนข้างๆกัน แต่ต้องทำเป็นประจำทุกคืนเป็นกิจวัตรประจำวัน ก่อนนอนต้องกอดกันและตื่นมาก็จะพบว่าตัวเองตกอยู่ในอ้อมกอดผู้ชายคนนี้ทุกๆเช้า


    คุณผอมลงนะ”เอ่ยทักเมื่อรู้สึกถึงเอวเล็กที่คอดลงมากกว่าเก่า น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วงนั้นทำเอางคนในอ้อมกอดกระตุกยิ้มก่อนเอ่ยตอบกลับไปเรียบๆราวกับสิ่งที่พูดอยู่นั้นเป็นเรื่องธรรมดา


    ก็เอาแต่ร้องห่มร้องไห้ตอนที่นายจากไปจนไม่เป็นอันกินอะไรเลยไงหละ”


    ความเงียบเข้าปกคลุมทั้งสองร่างเมื่อฮีชอลจบประโยคของตนเอง ความรู้สึกผิดก็แล่นเข้ามาเกาะกุมจิตใจ ประโยคคำพูดมากมายเหลือเกินแทบจะล้นทะลักออกมาจากริมฝีปากหยัก หากแต่ซีวอนก็เก็บเอาไว้ นึกหาคำพูดที่เหมาะกับสถานการณ์นี้แล้วจึงเกริ่นออกไป


    ฮีชอล...”คนรับฟังนั้น ฟังจากน้ำเสียงก็คงจะไม่พ้นน้อยใจ ประชดประชันอย่างแน่นอน กระนั้นเขาก็ยังเป็นผู้ฟังที่ดีโดยการเลือกที่จะนิ่งเงียบฟังประโยคที่ตามมาจากปากชายหนุ่ม


    ผมรักคุณ...รักเสียจนไม่สามารถรักใครได้อีกแล้วในชีวิตนี้”นี่คือเรื่องจริง แม้จะเลิกลากันไปนานครึ่งปี คู่ควงคนอื่นๆเป็นเพียงแค่คู่นอน เคยคิดว่าจะลองตัดใจจากคนๆนี้ดูแต่มันก็ไม่เคยทำได้เสียที...จะให้ไปรักคนอื่นได้ไง? ในเมื่อหัวใจคอยทรยศมีแต่คนๆนี้มาโดยตลอด


    และเพราะงานของผม...FBIมันเป็นงานที่อันตรายมาก คุณก็รู้ใช่ไหมตอนนั้นทั้งผมและคุณต่างก็พากันโกหกเรื่องงานของตัวเอง...และที่ทำไปก็เพื่อที่จะไม่ให้คุณต้องเป็นห่วงผมยังไงหละ”


    แม้รู้อยู่แก่ใจว่าคนฉลาดอย่างฮีชอลยังไงก็ต้องเดาเหตุผลของเขาออกอยู่แล้ว แต่ก็ยังเลือกที่จะพูดไป เพราะรู้ว่าคนในอ้อมกอดแม้จะพอเดาอะไรออกได้บ้างแต่ก็ยังคงอยากได้ยินจากปากเขาอยู่ดี “เพราะผมเป็นห่วงคุณ ไม่อยากให้คนที่ผมรักต้องมาตกอยู่ในอันตราย”


    คิมฮีชอลรู้สึกว่าขอบตาตัวเองกำลังร้อนผ่าวระหว่างที่ฟังคำอธิบายจากปากของร่างสูง...คำว่ารัก ใครมากมายหลายคนเคยพูดกับเขา แต่น่าแปลกมันไม่เคยทำให้หัวใจชุ่มฉ่ำพองโตหรือเต้นระรัวเลย มันกลับเฉยๆเป็นปกติ หากแต่ไม่ใช่กับชเวซีวอน เจ้าของหัวใจดวงนี้


    ผมรักคุณนะ”


    ประโยคบอกรักที่ไม่ว่าจะได้ยินกี่ครั้งก็ยังทำให้หัวใจพองโตได้และเรียกรอยยิ้มหวานให้กลับมาวาดใหม่บนดวงหน้าได้อีกครั้ง ฮีชอลอมยิ้มเงียบๆคนเดียวก่อนที่จะสูดหายใจก่อนเอ่ยตอบกลับไปเบาๆ


    ฉันก็รักนาย”


    นานเท่าไหร่แล้วนะ? ที่เขาไม่ได้บอกรักชเวซีวอน? คงจะตั้งแต่วันที่เลิกรากันไปสินะ แล้วตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเขาก็เก็บคำว่ารักเอาไว้ไม่เคยพูดออกไปเลยแม้แต่น้อย แต่วันนี้เขาได้พูดมันออกมาแล้ว

                    

    ...ให้แก่คนที่เขารักฟัง


    ชเวซีวอนฉีกยิ้มทั้งน้ำตา คนในอ้อมกอดคงจะไม่มีทางได้เห็นน้ำตาเขาอีกครั้ง เขาเผลอร้องไห้ต่อหน้าฮีชอลไปแล้วหนึ่งครั้งเพราะความดีใจ มันคงจะไม่มีอีกแล้วหละวันที่เขาจะแสดงความอ่อนแอให้คนที่รักเห็น

                    

    ทั้งๆที่เขาบอกตัวเองอย่างนี้ทุกครั้ง แต่คราวนี้เพียงแค่ได้ยินประโยคบอกรักที่ไม่ได้ยินมาเสียนาน น้ำตาก็ทะลักไหลออกมาอย่างห้ามไม่ได้ ความเข้มแข็งที่ก่อตัวเอาไว้พังทลายลงเพียงแค่ประโยคๆเดียวที่ทำให้ต้องกระชับอ้อมกอดแล้วจุมพิตเบาๆบนเรือนผมสีดำ

                    

    รัก...ฮีชอลยังรักเขาอยู่

                    

    ชเวซีวอน FBI ฝีมือระดับเทพผู้ที่ยากจะต่อกรด้วย ฝีมือนั้นเป็นที่เลื่องชื่อไปทั่วสำนักงาน ไม่ว่าคดียากขนาดไหน คู่ต่อสู้แข็งแรงขนาดไหน เขาก็สามารถล้มมาได้อย่างไม่หวาดไม่หวั่น

                    

    แต่เขากลับยอมแพ้สิโรราบให้แก่คนหนึ่งคนบนโลกใบนี้เท่านั้น

                    

    คนนั้นก็คือคิมฮีชอล ผู้ซึ่งดูจะเป็นคนเดียวที่ซีวอนรู้จักคำว่าอ่อนแอ ร้องไห้ทุกครั้งยามอยู่คนเดียวตั้งแต่เลิกรากัน รู้จักคำว่าเจ็บปวด และทำให้เขาร้องไห้เพียงแค่ได้ยินประโยคบอกรัก  

                    

    ผมขอนอนกอดคุณแบบนี้ได้ไหม?”เอ่ยถามไปทั้งรอยยิ้ม และยิ่งยิ้มกว้างมากขึ้นไปอีกกับคำตอบที่ซีวอนคาดเอาไว้...คิมฮีชอลยังคงเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยนเลยแม้แต่น้อย ปากก็พูดไปด้วยน้ำเสียงเย็นชาหากแต่ในใจกลับดีใจจนหัวใจแทบจะหลุดออกมาจากอกอยู่แล้ว

                    

    ถึงฉันจะตอบปฏิเสธไปยังไงนายก็ยังจะนอนกอดฉันเหมือนสมัยก่อนอยู่แล้ว อีกอย่างต่อให้ไม่ขอนายก็นอนกอดฉันอยู่ดีแหละ”

                    

    ชายหนุ่มรีบเช็ดน้ำตากับหมอนหนุนของตนอย่างนึกดีใจที่ร่างในอ้อมกอดยังจำสิ่งที่เขาชอบทำได้สมัยก่อนเป็นอย่างดีก่อนจะชะโงกหน้าไปจุมพิตเบาๆบนริมฝีปากเล็กที่ซึ่งดวงหน้าหวานหันหน้ามาทางเขาพอดีก่อนที่จะตามมาด้วยจุมพิตราตรีสวัสดิ์เบาๆบนขมับบาง


    ผมรักฮีชอลที่สุด เท่าที่คนๆหนึ่งจะทำได้”


    ไม่ใช่คำพูดพร่ำเพ้อ ไม่ใช่คำพูดปรุงแต่งหากแต่มันเป็นความจริงที่แสนหวาน เขารักฮีชอลที่สุดเท่าที่หัวใจของผู้ชายธรรมดาๆคนหนึ่งจะสามารถรักได้





    โครมมมมมมมมมม!!!


    เสียงอึกทึกโครมครามที่ดังมาจากชั้นล่างนั้นทำเอาคนที่นอนหลับฝันดีบนชั้นสองถึงกับสะดุ้งตื่นขึ้นมาทันที ชายหนุ่มรีบยันตัวเองให้ลุกขึ้นนั่ง คว้าปืนที่อยู่บนโต๊ะหัวเตียงก่อนจะหันมาปลุกร่างเล็กที่ดูจะงัวเงียเล็กน้อยเมื่อคนที่นอนกกกอดตัวเองมาครึ่งค่อนคืนจู่ๆก็ผละออกและเขย่าร่างตนอยู่


    อืมมม...เสียงอะไรหนะ?”แม้จะง่วงขนาดไหน แต่เสียงโครมครามที่ยังคงดังมาไม่ขาดสายนั้นก็จุดประกายคำถามมากมายให้แก่เขาได้เป็นอย่างดี ไม่ทันที่ชายหนุ่มจะได้เอ่ยปากตอบอีกหนึ่งเสียงก็ดังขึ้นมาเสียก่อน


    เพล้งงงงงงงงงงงงงงงงงงง!!!


    คราวนี้เป็นเสียงแก้วแตกก่อนที่จะตามมาความเงียบ ทั้งสองร่างบนเตียงใหญ่มองหน้ากันในความมืด และราวกับนัดหมายก็กระโจนลงจากเตียงพร้อมกัน ฮีชอลปราดไปยืนหลังชายหนุ่มเมื่อมือแกร่งกวักมือเรียกให้มา


    ทั้งสองค่อยๆเดินลงบันไดวนลงมาข้างล่าง ซีวอนกระชับปืนให้แม่นระหว่างที่อีกมือจับมือเล็กคนข้างหลังเอาไว้...ไฟข้างล่างเปิดอยู่ แสดงว่าสู้กันโดยที่เห็นหน้าของอีกฝ่ายอย่างงั้นเลยเหรอ?


    คำถามที่ลอยเข้ามาเมื่อครู่ถูกเก็บกลับเข้าหัวของตัวเองไปเมื่อเดินลงมาจนถึงชั้นล่างสุด


    สภาพชั้นล่างนั้นไม่ต่างอะไรไปจากสมรภูมิรบ ข้าวของกระจัดกระจาย เศษแก้วแตกกระจายไม่เป็นชิ้นดี และที่สำคัญคือประตูไม้โรงแรมสองชั้นขนาดเล็กที่ไม่ค่อยมีแขกนี้ก็หักเป็นสองท่อน


    เหนือสิ่งอื่นใดคือลีดงแฮที่นั่งพิงผนังพร้อมกับหอบหายใจเรียกอากาศกลับมาให้ชุ่มปอดเหมือนเดิม ทั่วร่างเต็มไปด้วยรอยแผลจากการต่อสู้เมื่อครู่ เลือดไหลออกมาจากมุมปาก มือข้างถนัดยกขึ้นกุมแขนข้างซ้ายที่เลือดไหลอาบจากการกระเด็นไปโดนเศษแก้ว


    แต่ความเจ็บเหล่านั้น ชายหนุ่มไม่ได้รับรู้ถึงมันเลยแม้แต่น้อย คงเพราะความเจ็บที่มาจากหัวใจที่ยังคงเต้นอยู่ข้างในหน้าอกด้านซ้ายหละมั้งที่กำลังแผ่ซ่านไปทั่วร่าง


    ภาพเมื่อครู่ยังคงตราตรึงแล่นย้อนกลับมาไม่เลิก ถ้าเพียงแต่เขาแข็งแรงกว่านี้...ถ้าเพียงแต่เขาเก่งกว่านี้ ทุกอย่างก็คงไม่เป็นแบบนี้หรอก


    ดวงหน้าคมคายเงยหน้าขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้า สองอาคันตุกะผู้มาใหม่มีสีหน้าตกใจกับสภาพเละเทะของชั้นนี้ แต่พวกเขาเลือกที่จะไม่ถาม


    ถ้าเพียงแต่เขาแข็งแรงกว่านี้...


    เสียงฝีเท้าของอีกหนึ่งคนดังขึ้น เขาเงยหน้าขึ้นมามอง ชินดงฮีที่เพิ่งเดินลงมาสมทบเองก็ดูตกใจและงุนงงไม่แพ้กับซีวอนและฮีชอล


    ความเงียบเข้าปกคลุมทั้งสี่คน มีเพียงเสียงหายใจถี่ระรัวที่ยังคงดังไม่เลิก


    ดงแฮรอให้ตัวเองหอบหายใจจนกลับมาเป็นเหมือนเดิมก่อนที่จะค่อยๆขยับปากพูด มันเจ็บเหลือเกินเพราะแผลในปากจากการสู้เมื่อครู่ แต่มันกลายเป็นสิ่งไร้ค่าเมื่อเทียบกับความเจ็บที่เฝ้ามองสองคนนั้นจากไปพร้อมกับความจริงที่ว่าเขาแข็งแรงพอที่จะปกป้องคนที่สัญญาว่าจะปกป้องได้


    คิบอมโดนพวกมันจับตัวไป”


    -------------------------------------------------------------------------------------------------------------


    ค้าง ค้างให้หมด ๕๕๕! che ery 
    เพราะรู้ว่าค้างก็เลยอัพให้อีกหนึ่งตอน กลัวรีดเดอร์ตุมตื้บ XPP
    ไปอ่านตอนต่อไปได้เลยคะ :D


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×