ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Simbarella's stories. (WONCIN)

    ลำดับตอนที่ #1 : Love shy.

    • อัปเดตล่าสุด 18 มิ.ย. 64


     
     
    Title: 'Love Shy'
    Pairing: Siwon x Heechul


    ผมได้เห็นเขาบอกเลิกแฟนเป็นครั้งแรก...ในค๊อฟฟี่ช้อปที่ผมทำงานพิเศษอยู่
     
     
    “เราเลิกกันเถอะ”
     
     
    ชายหนุ่มรูปหล่อในเสื้อเชิ้ตนักศึกษา ใบหน้าคมคายและจมูกโด่งเป็นสัน ดวงตาคมเข้มและริมฝีปากหยักได้รูป ทั้งหมดนี้รวมกันเป็นนักศึกษาคณะบริหารธุรกิจปีสาม มหาลัยWC ดิกรีเกียรตินิยมนักศึกษาดีเด่น เพอร์เฟ็ค รูปหล่อพ่อรวย เจ้าชู้เป็นที่สุด...ชเวชีวอน
     
     
    ผมชะงักไปกับคำพูดของเขา ถึงจะไม่ได้พูดกับผมก็เถอะ ผมเองก็อดไม่ได้ที่จะเหลือบไปมองคนที่โดนบอกเลิกที่นั่งตรงข้ามกับชีวอน
     
     
    อ่า...ดาน่า ดาวคณะอักษรปีสี่ ได้ข่าวจากชินดงดอทคอมว่าเพิ่งคบกันมาเมื่อสามอาทิตย์ก่อนนี่นา
     
     
    จากจุดที่ผมยืนอยู่ ผมสามารถเห็นละครฉากนี้ได้อย่างชัดเจน ดาน่าหน้าเหวอไปเล็กน้อยกับการบอกเลิกของร่างสูงนั่น
     
     
    “ท ทำไมหละ?”
     
     
    ชเวชีวอนลุกขึ้นยืนมองหญิงสาวแทนคำตอบ
     
     
    “ฉันเบื่อเธอ”
     
     
    สั้นๆง่ายๆได้ใจความ และทำร้ายจิตใจของดาน่าสาวสวยจากคณะอักษรอย่างสุดๆ พูดจบชายหนุ่มก็เดินออกไปจากร้านโดยไม่สนใจเสียงโวยวายของอดีตแฟนเลยแม้แต่น้อย
     
     
    ผมมองตามไปจนประตูกระจกใสของร้านปิดลงแล้วค่อยหันกลับไปมองดาน่าที่นั่งก้มหน้านิ่งเป็นเวลานานก่อนที่สุดท้ายจะค่อยๆลุกขึ้น คว้ากระเป๋ามาสะพายแล้วเดินออกไปจากร้านบ้าง
     
     
    เจ้าชู้เป็นที่สุด ฟันแล้วทิ้ง รักง่ายเบื่อง่าย...ชเวชีวอน
     
     
    เพิ่งมาเห็นจริงๆก็วันนี้แหละหลังจากที่ได้ยินข่าวลือมานานเกี่ยวกับเจ้าหมอนั่น
     
     
    อ่า...สงสารเหล่าอดีตแฟนของชีวอนจังเลย =..=
     
     
    แต่ก็น่าแปลกใจที่ทั้งๆที่รู้ว่าชีวอนนั้นเป็นคนยังไง ก็ยังมีผู้หญิงผู้ชายกระเทยเสนอหน้าเสนอตัวมาเป็นแฟนและคู่นอนของเขาอีก ยังมีคนอีกตั้งมากมายที่หลงรักหมอนั่น
     
     
    และผมเอง...ก็หนึ่งในนั้นเหมือนกัน
     
     
    แต่มันคงเป็นไปไม่ได้หรอกที่เจ้าชายในฝันของทุกๆคนอย่างชีวอนจะเหลือบมองผม สักครั้งก็คงยังไม่มีแม้แต่โอกาส
     
     
    ทั้งนี้เพราะผมเป็นแค่คนเดินดิน ฐานะออกแนวยากจน บ้านนอกเข้ากรุง และที่สำคัญผมกับเขาเป็นผู้ชายเหมือนกันทั้งสิ้น
     
     
    นึกถึงเรื่องนี้ทีไรๆก็เจ็บแปลบที่หัวใจเหมือนกันแฮะ หลงรักเขามาสองปีกว่าๆตั้งแต่ปีแรกที่เห็นเขาจูบดูดดิ่มกับรุ่นพี่คณะเดียวกับผม ผมก็ตกหลุมรักเขาเลยหละ
     
     
    ก็คงได้แต่มองเขาโดยที่อยู่นอกสายตาของชีวอนแบบนี้ต่อไปแหละ
     
     
    ผมมองยังคงมองโต๊ะที่สองคนนั้นเคยนั่ง บัดนี้ว่างเปล่าแล้ว มีเพียงเก้าอี้ที่ถอยออกจากโต๊ะไปเป็นสัญลักษณ์บอกว่าเคยมีคนมานั่งและแก้วชาเย็นเล็กๆหนึ่งแก้วที่ว่างเปล่าของชีวอนกับแก้วน้ำส้มที่ยังไม่หมดของดาน่า
     
     
    “ลูกค้าไปแล้ว ยังไม่จ่ายค่าชาเย็นเลย! นายปล่อยลูกค้าหนีไป จ่ายแทนแล้วกันนะคิมฮีชอล”
     
     
    อ่าวเวร เป็นงั้นไป (=UU=;;;)
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
    “ชีวอน เพื่อนยาก!”
     
     
    เสียงหวานของเพื่อนรักดังลั่นขึ้นมาทันทีที่ร่างสูงเปิดประตูห้องเข้ามาด้วยท่าทีเบื่อหน่าย เจ้าของชื่อกลอกตาขึ้นมองท้องฟ้าอย่างเซ็งโลกผิดกับต้นเสียงที่พุ่งมาหาเขาอย่างรวดเร็ว
     
     
    “มึงเลิกกับดาน่า ดาวคณะอักษรจริงๆแล้วใช่ไหม?!”ทันทีที่ถึงบุคคลที่เฝ้ารอมาตั้งแต่เช้า มือเล็กก็เกาะแขนแกร่งของเพื่อนแล้วแกว่งไปมาพร้อมๆกับส่งสายตาเป็นประกายความสอดรู้สอดเห็นไปให้
     
     
    “เออ ปล่อยน่าคิบอม~
     
     
    เจ้าของชื่อร่างบางปล่อยทันที มือเล็กรีบล้วงเข้าไปหยิบสมุดโน้ตและดินสอขึ้นมาก่อนที่จะรัวคำถามใส่
     
     
    “ทีไหน? กี่โมง? ทำไม...อ้อ! เหตุผลเดิมๆ‘ฉันเบื่อเธอ’อย่างแน่นอน ยกเว้นทำไม ที่ไหนกับกี่โมงบอกมาสิ”ถามไปพร้อมกับมือเล็กที่จดลงไปบนสมุดโน้ตอย่างรวดเร็วก่อนที่จะยกดินสอขึ้นมาทัดหูแล้วเท้าสะเอวจ้องมองคนโดนถาม
     
     
    คิมคิบอม ปีสามคณะบริหารธุรกิจ ร่างบางหน้าหวานดูถนุถนอม หากแต่เจ้าตัวไม่ได้เรียบร้อยอย่างที่คนอื่นคิดเอาไว้เลย คิบอมนั้นทั้งซ่า แสบ และที่สำคัญCNNเป็นที่สุด
     
     
    “ร้านค๊อฟฟี่ช้อปข้างๆมหาลัย กี่โมงก็...ราวๆหลังเลิกเรียน พอใจยัง?”
     
     
    ถามออกไปทั้งๆที่รู้อยู่แก่ใจว่าไอ้CNNตัวเล็กนี้ต้องการรายละเอียดมากกว่านี้ โดยไม่รอให้คิบอมได้อ้าปากถามต่อเสียงทุ้มต่ำก็พูดตัดบทไปทันที
     
     
    “มึงไปถามพนักงานที่นั่นสิ”
     
     
    “สัตว์! แล้วเขาหน้าตาเป็นไงวะ?”
     
     
    ใบหน้าคมคายเสมองไปยังหน้าต่างที่วิวข้างหน้าคือตึกคณะศิลป์ ดวงตาคมเข้มเบิกตากว้างเล็กน้อยก่อนที่จะริมฝีปากหยักได้รูปจะอมยิ้มนิดๆที่มุมปาก
     
     
    “ก็หน้าตาเป็นแบบนั้นไง”
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
    รู้สึกเหมือนโดนจ้องเลยเว้ยเฮ้ย...
     
     
    ผมละสายตาจากชินดงCNNของมหาลัยที่ทำงานคู่กับคิมคิบอมเพื่อนซี้ชีวอนที่กำลังคุยจ้ออยู่คนเดียวโดยไม่มีใครฟังแม้แต่น้อยไปมองยังหน้าต่างที่ตั้งอยู่ข้างๆผม
     
     
    ใจหายวูบ...
     
     
    ชเวชีวอนที่อยู่อีกฝากหนึ่งของตึกคณะอักษรกำลังมองมาทางผม
     
     
    เราสองคนสบตากัน...นานเอาเรื่องเหมือนกัน
     
     
    หัวใจผมเต้นโครมครามไม่เป็นจังหวะ เขากำลังทำให้ผมเป็นบ้า~
     
     
    ในที่สุดชีวอนก็เป็นฝ่ายส่งยิ้มให้ก่อน ผมยิ้มตอบให้อย่างเก้อเขินแล้วยกมือโบกให้ ชีวอนหัวเราะเบาๆพร้อมกับโบกมือกลับ
     
     
    อา...เขาน่ารักชิบหายเลย
     
     
    ราวกับว่าโลกนี้มีแต่เราสองคน
     
     
    นี่ผมไม่ได้ฝันไปใช่ไหม?
     
     
    “ฮีชอล...ฮีชอลโว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!”
     
     
    ผมสะดุ้งเฮือกเมื่อได้ยินเสียงแว้ดๆของชินดงกรอกเข้ามาที่หูของผมเสียงดัง ผมละสายตาจากเจ้าชายที่ยิ้มให้ผมข้างหน้ามามองในตึกเรียนตัวเองไปมองข้างๆก็พบชินดงที่เท้าสะเอวอย่างไม่พอใจ
     
     
    “เรียกตั้งนานทำไมไม่ฟังฉันเลยวะ?!”
     
     
    “เอ่อ...ก็...”
     
     
    เกิดอาการไม่รู้จะยกข้ออ้างสาเหตุไปบอกชินดง ขืนบอกว่าไปสบตาปิ๋งๆกับเจ้าชายเดือนคณะอักษรและโบกมือยิ้มทักทายจนไปอยู่ในโลกส่วนตัวสองต่อสองชินดงมีหวังด่าเป็นชุดว่าไปมองผู้ชายแทนที่จะฟังเพื่อนรักอย่างมันแน่ๆเลยหละ
     
     
    ผมเหลือบไปมองยังหน้าต่างระหว่างที่สมองคิดหาข้ออ้างก็พบกับชีวอนที่หัวเราะเบาๆอย่างขบขันแล้วยิ้มมาทางผมอีกรอบเป็นเชิงว่าสมน้ำหน้าที่โดนชินดงตะโกนกรอกหู
     
     
    ไอ้บ้า~
     
     
    ผมส่งสายตาค้อนๆไปให้โดยลืมไปเลยว่าชินดงกำลังรอคอยคำตอบของผมอยู่ ชีวอนยิ่งหัวเราะหนักกว่าเก่าเสียอีก...อ่าาา ผมรู้สึกอายชะมัดยากเลย-///-
     
     
    “คิมฮีชอล! Oh-my-god ไม่น่าเชื่อว่านายกับHEอัพเกรดระดับความสัมพันธ์มาเป็นสบสายตาหวานแหววและส่งยิ้มให้กันเสียแล้ว สองปีกว่าที่เฝ้าหลงรักHEมา ดีใจด้วย ในที่สุดก็สบตาส่งยิ้มให้ผ่านตึกได้เสียที”
     
     
    ไอ้ชินดง=___=+++
     
     
    “ขอบคุณมากชินดง-0-“
     
     
    ไอ้CNNเจ้าของชื่อตัวอ้วนได้แต่ยิ้มแหะๆก่อนที่จะหันไปมองยังหน้าต่างที่เดียวกับที่ผมมองบ้าง ผมหันกลับไปมองมันอีกครั้งเหมือนกัน
     
     
    คราวนี้ชีวอนไม่ได้มองผมแล้ว ชีวอนหันไปคุยกับคิมคิบอมCNNคณะอักษรด้วยท่าทีเบื่อๆ สงสัยคงโดนซักที่ว่าทำไมเลิกกับดาน่าแน่นอน
     
     
    “โอ้ะ คิบอม! เฮ้ คิบอมมมมม!!!!”
     
     
    น้ำเสียงอันทรงพลังของชินดงตะโกนเรียกชื่อคิบอมดังลั่นข้ามตึก และมันคงจะดังจริงๆด้วยเพราะตอนนี้คิบอมเหลือบไปเห็นคู่หูตัวอ้วนของตัวเองตะโกนและโบกมือเรียกชื่อตน
     
     
    “อ้ะ ชินดง! แปปเดียวนะเว้ยชีวอน!”
     
     
    ได้ทีสั่งเพื่อนเสร็จก็วิ่งมาประชิดตรงหน้าต่างแล้วเริ่มตะโกนข้ามกลับไป
     
     
    “แกเว้ย! ชีวอนเลิกกับดาน่าเมื่อวานแล้วเว้ย!!!”
     
     
    อา...90%ของหัวข้อในการสนทนาของชินดงและคิบอมคือข่าวซุบซิบเกี่ยวกับชีวอนและคู่ควง
     
     
    และน่าแปลกคือทุกๆครั้งที่ไม่ชินดงก็คิบอมได้ยินประโยคแพทเติ้ลแบบนี้แล้ว ปฏิกิริยามักจะเป็นเบิกตากว้างทั้งๆที่มันควรจะเคยชินไปได้แล้ว...นี่แหละหนา gossip gay ไม่ก็ gossip boy =__=^
     
     
    “O-M-G! ที่ไหนวะ?!”ชินดงตะโกนถามกลับไป ท่าทางมันคงไม่รู้เลยนะว่าผมนี่แหละอยู่ในเหตุการณ์การบอกเลิกของชีวอนและดาน่า
     
     
    “ร้านค๊อฟฟี่ช้อป...ฮีชอลไง! ฮีชอลก็อยู่ในเหตุการณ์ตอนบอกเลิก ชีวอนบอกฉัน!!!”
     
     
    ผมสะดุ้งเฮือกเมื่อคิบอมเอ่ยชื่อผมในบทสนทนา ผมเงยหน้าขึ้นไปมองคิบอมที่ส่งยิ้มกว้างแล้วโบกมือให้แหยๆ...ผมมองข้ามคิบอมไปเห็นชีวอนที่หันมามองผมเช่นกัน
     
     
    อา...เขากำลังทำให้ผมละลาย-///-
     
     
    “โอเค พักเที่ยงฉันจะไปหานายที่ตึกนะชินดง แล้วฉันจะถามๆๆๆๆๆๆฮีชอลให้หมดเปลือกเลย! ว่าแต่แกเห็นmy loveหรือเปล่าววะ?!?!”
     
     
    My loveที่ว่าของคิบอมคือลีดงแฮ เจ้าชายน้ำแข็งรูปหล่อเพื่อนซี้ผมคณะเดียวกันห้องเดียวกัน
     
     
    ไม่น่าเชื่อว่าคบกันมาตั้งแต่ม.3ยันปัจจุบันนี้ และไม่น่าเชื่อว่าเป็นแฟนกันก็คิบอมทั้งเจี้ยวจ้าว พูดมาก สอดรู้สอดเห็นเรื่องชาวบ้านและร่าเริงสดใสตลอดเวลา แต่ดงแฮนี่คือตรงกันข้ามกับคิบอมทุกอย่าง
     
     
    เงียบ พูดน้อยต่อยหนัก เย็นชา ไม่สุงสิงกับใครอื่น
     
     
    “Where is my love~~~~~~~?!?!?!!!!!”
     
     
    เสียงหวานแจ้ดแสบแก้วหูของคิบอมตะโกนลั่นทั้งตึกตัวเองและตึกของผมเพื่อตามหาคนรักน้ำแข็งเคลื่อนที่ของเขาที่อยู่ทีไหนสักแห่งในตึกที่ผมกับชินดงอยู่...
     
     
    ...ข้างๆผมไงหละ
     
     
    “หนวกหูชะมัด”
     
     
    เสียงทุ้มต่ำสบถออกมาเบาๆพร้อมกับลุกขึ้นยืน มือแกร่งถอดหูฟังออกมาคล้องคอแล้วหันหน้าไปมองเจ้าของเสียงที่อยู่คนละฝากตึก
     
     
    “นั่นไงๆๆๆ ดงแฮ!!!!”
     
     
    เจ้าของชื่อได้โบกมือแทนคำทักทาย ไม่มีแม้แต่รอยยิ้ม มีเพียงใบหน้าหล่อๆไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆ แต่ใครๆก็รู้ว่าหัวใจของไอ้น้ำแข็งนั่นกำลังยิ้มอยู่เหมือนกับที่คิบอมที่ยิ้มอยู่ตอนนี้เหมือนกัน
     
     
    ช่างเป็นคู่รักที่แตกต่างกันสุดขั้วแต่น่ารักที่สุดในมหาลัยเสียจริงๆ
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
    “คิมฮีชอลลลลลลลลลล~~~~~”
     
     
    เสียงของCNNคิมคิบอมนั่นเอง เสียงมาก่อนเจ้าตัวเลยเว้ยเฮ้ย
     
     
    ผมหันหน้าไปมองก็ต้องใจหายวาบไปอีกรอบเมื่อพบว่าคิบอมไม่ได้มาคนเดียว แต่กลับพ่วงเพื่อนสุดหล่อชเวชีวอนมาซะด้วย
     
     
    โอเค...เก็บอาการเข้าไว้คิมฮีชอล เก็บอาการ –[]-;;
     
     
    อย่าแสดงออกให้มาก เก็บอาการ ท่องเอาไว้ เก็บอาการ เก็บอาการ...
     
     
    “นายอยู่ตอนที่ชีวอนกับดาน่าเลิกกันจริงๆเหรอ?”ผมพยักหน้าไม่กล้าพูดอะไรไปมากกว่านี้ กลัวจะไปทำอะไรขายหน้าต่อหน้าคนที่ผมแอบรัก
     
     
    อ่าาา...ชีวอน ได้โปรดอย่ามองผมคนเดียวสิ ผมอายนะ!
     
     
    “แล้วดาน่าพูดอะไรหรือเปล่าตอนที่ชีวอนเดินออกไปจากร้าน?”
     
     
    “ม ไม่ได้พูดอะไรทั้งสิ้น ก็แค่เก็บกระเป๋าแล้วเดินออกไปจากร้าน”โดยไม่ได้จ่ายตังค์...ประโยคนั้นได้แต่เก็บงำเอาไว้ในใจผมอย่างเจ็บแค้นนิดๆ เพราะเป็นแบบนั้นผมเลยต้องจ่ายเงินค่าชาเย็นและน้ำส้มด้วยตาของผมเอง
     
     
    ชีวอนไม่ผิด เพราะผมรักชีวอน เพราะฉะนั้นดาน่า ยัยนั่นผิด! =____=;;;
     
     
    “โหยยยย ไม่ได้อาละวาดร้องไห้โฮเหมือนคนอื่นเขาเลย หมดมันส์!”พูดจบก็บ่นปนสบถพรืดออกมาเสียยืดยาวก่อนที่จะเหลือบไปเห็นคนรักที่ยืนฟังเพลงอยู่หน้าห้องเรียน
     
     
    “อ้ะ~ดงแฮ!”พูดจบก็วิ่งจู๊ดไปหาร่างสูงโปร่งทันที เจ้าของชื่อเงยหน้าขึ้นมามองแล้วกลอกตามองท้องฟ้าทันทีเมื่อเห็นร่างบางวิ่งมาทางตนอย่างรวดเร็ว
     
     
    คือแบบนี้มันมีลางสังหรณ์ว่ามันจะไม่ใช่แค่ลากไปกินข้าวอย่างแน่นอน
     
     
    “ลีบาดา อยู่คณะแพทย์ เก่งก็จริงแต่เก่งในเรื่องร่านผู้ชายเหมือนกัน มันมาหานายตอนเที่ยงของเมื่อวานใช่ไหม?!”ใบหน้าคมคายพยักหน้าพลางผละตัวออกจากกำแพงแล้วเดินไปโดยไม่สนใจเสียงเจี้ยวจ้าวของคิบอมที่ยังคงดังตามมาไม่ขาดสาย...
     
     
    “ดงแฮ! นายจะเดินหนีฉันไปแบบนี้ไม่ได้นะ ฉันสั่งห้ามนายอย่างไปยุ่งกับSHEเด็ดขาด! เฮ้ ฟังอยู่หรือเปล่าเนี่ย ลีดงแฮ!!!!”
     
     
    ...ทิ้งผมเอาไว้กับชเวชีวอนสองต่อสองคนเท่านั้น
     
     
    ชิบ...หาย...
     
     
    ผมไม่รู้จะทำตัวยังไง วางท่ายังไง เพราะผมกลัวเหลือเกินว่าอาการตื่นเต้นใจเต้นโครมครามหน้าแดงๆมันจะเก็บไม่อยู่ต้องเผลอแสดงออกมา
     
     
    ทางที่ดีเงียบเอาไว้ดีกว่า=.,=
     
     
    และดูเหมือนว่าชีวอนเองก็เลือกที่จะเงียบ มีเพียงเสียงเท้าที่เดินไปยังโรงอาหารและเสียงหัวใจของผมเต้มโครมครามดังในหัวไม่หยุดหย่อน
     
     
    มันเงียบจนมันน่าอึดอัด ผมอยากจะพูดอะไรนะ แต่ผมไม่กล้าหนะสิ...
     
     
    ผมไม่กล้าคุยกับเขา ผมไม่กล้าสบตาเขาในระยะที่ใกล้ๆแบบนี้ไม่ใช่แบบตอนที่อยู่บนตึกเพราะระยะมันโคตรจะไกลห่างจากกันเลยหละ
     
     
    ผมควรทำไงดีเนี่ย?
     
     
    “ขอโทษแทนคิบอมด้วยนะ”
     
     
    “เอ๋?”ผมส่งเสียงอย่างงุนงงพลางเผลอตัวเงยหน้าขึ้นไปมองชีวอนก็ผมกับรอยยิ้มที่ยิ้มจนแก้มบุ๋มและสายตาที่มองมายังผม
     
     
    ผมรีบก้มหน้างุดอย่างเขินอายทันที
     
     
    “ก็ท่าทางนายดูตกใจนะ คิบอมเล่นวิ่งแจ้นมาถามนายนี่ ไอ้หมอนั่นมันก็งี้แหละ เป็นแบบนี้เสมอ ขอโทษแทนมันก็แล้วกันนะ”น้ำเสียงของเขาและประโยคขอโทษทำเอาผมยิ้มออกมาแห้งๆ
     
     
    “อื้อ ไม่เป็นไรหรอก^^”ผมพูดอุบอิบไม่ได้ศัพท์ก่อนที่จะก้มหน้างุดเดินเคียงข้างชีวอนไปยังโรงอาหาร ผมไม่กล้าเงยหน้าไปมองเขาทั้งๆที่อยู่ใกล้กันขนาดนี้แล้วเชียว
     
     
    “เดินก้มหน้าระวังชนไม่รู้ด้วยหละ”อ่าาา...ชีวอนกำลังแซวผมอยู่นะเนี่ย
     
     
    “ม ไม่ ไม่ชนหรอก...”
     
     
    ปังงงงงงงงงงงงงงงงงงงง!!!
     
     
    อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก T[]T;;; ~~~!!!!
     
     
    ผมเจ็บTT~
     
     
    เออ ไม่ชนแกอะคิมฮีชอล=_=^ พูดจบปุ๊บก็มีคนเปิดประตูห้องเก็บของออกมาพอดีเลยทำให้ผมที่เดินก้มหน้างุดไม่มองตาม้าตาเรือนมองแต่พื้นชนเข้าไปเต็มๆเลยหละ
     
     
    ผมยกมือกุมหน้าผากแล้วเบ้ปาก อ่าาา...ชนไปซะเต็มแรง จะปูดไหมเนี่ยTT?
     
     
    “ไม่เป็นไรนะ?”
     
     
    ไม่เป็นไรบ้าอะไร หัวจะปูดแตกตายเลือดไหลเปรอะหน้าเป็นไอ้บ้าเลือดอาบหน้าหรือเปล่ายังไม่รู้เลย=[]=;;; แต่นั่นก็เป็นแค่ความคิดเท่านั้นแหละ เพราะคนที่ถามผมคือชเวชีวอน
     
     
    “เจ็บ...”คำๆเดียวที่หลุดออกจากปาก และเป็นคำๆเดียวที่ทำให้เขาหัวเราะเบาๆ
     
     
    ผมลุกขึ้นแล้วหันไปมองเขาตาเขียว แต่ก่อนที่ผมจะเอ่ยปากพูดอะไร ชีวอนก็ยกมือขึ้นมาลูบหน้าผากผมอย่างแผ่วเบาแล้วโน้มใบหน้ามา...จุมพิตเบาๆที่หน้าผากปูดๆของผม
     
     
    อ่อนโยน...น่มนวล...
     
     
    ผมช้อก...มือไม้อ่อนแข็งไปหมด เขาประทับริมฝีปากเสียเนิ่นนานแล้วค่อยๆผละออกมาแล้วจุ๊บเบาๆอีกทีบนหน้าผากแล้วก้มลงมามองผม...ที่เสมองลงพื้นกลบเกลื่อนความอาย
     
     
    พระเจ้า...กลับไปจะไม่ล้างหน้าเลย ผมได้ยาดี จะไม่ทายาอะไรทั้งสิ้น!
     
     
    “เดี๋ยวก็หายแล้วหละ”
     
     
    และนั่นก็เป็นครั้งแรกที่ผมส่งยิ้มหวานให้เขาในระยะใกล้ๆขนาดนี้
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
    อาาาาา...มีความสุขชะมัด>///<
     
     
    หลังจากเหตุการร์ที่ผมเปิ่นเดินชนประตูจนหัวปูดแล้วผมกับชีวอนก็เดินไปที่โรงอาหารกันสองคน กินข้าวโต๊ะเดียวกันเป็นครั้งแรก และและ...ชีวอนเดินมาส่งผมถึงที่คณะ ถึงที่ห้องเรียนเลยหละ >///<!!
     
     
    มันช่างเป็นความทรงจำที่ดีเยี่ยม นึกถึงมันทีไรก็ต้องอมยิ้มออกมาและหัวใจเต้นโครมครามทุกทีๆ
     
     
    ตัดไอ้ที่ว่าไม่ยอมพูดไม่ยอมจาท่าทางเก้ๆกังๆหน้าแดงๆจนชีวอนกับคิบอมทักว่าเป็นอะไรเสียหลายรอบ นอกเหนือจากนั้น ดีเยี่ยมแม่เจ้าโว้ยย!!!
     
     
    อยากย้อนเวลากลับไปจังเลยอะ แล้วผมก็จะ Replay~ Replay~ Replay~ >/////<~~
     
     
    “ข่าวด่วนๆๆๆ!!!”
     
     
    เสียงของชินดงดังลั่นขึ้นมาดึงสติของผมให้หลุดออกมาจากภวังค์แห่งความฝัน ผมหันไปมองก็พบกับชินดงที่วิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาหาผม
     
     
    ไอ้อ้วนชินดงหอบหายใจแฮ่กๆแล้วตะปบบ่าของผมก่อนที่จะเงยหน้าที่โชกไปด้วยเหงื่อของมันขึ้นมามองหน้าผม ท่าทางมันวิ่งมาสุดตีนนันยางของมันเลยสินะ
     
     
    “ฮีชอล...”
     
     
    โอเค...มาแพตเติ้ลแบบนี้แสดงว่ามันต้องเป็นอะไรที่ไม่ดีอย่างแน่นอนเลย =[]=;;;
     
     
    “ชีวอนมีแฟนใหม่อีกแล้ว”
     
     
    นั่นไง ตูว่าแล้ว~ น่าแปลกนะที่ผมเจ็บจนชินเสียแล้วหละ
     
     
    “พระเจ้า นุนอา...Again! แม่เจ้า! คบกับชีวอนเป็นรอบที่ห้าแล้วนะ!”และเสียงของชินดงบ่นออกมาเสียยาวก็ดังเข้าตลอดเรื่อยมา เข้าหูซ้ายและทะลุหูขวาของผม
     
     
    แน่นอน ผมไม่ได้สนใจที่ชินดงพูดแม้แต่น้อย แค่รู้ว่าแฟนคนใหม่ของชีวอนเป็นใครผมก็พอใจแล้วหละ
     
     
    แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่าสักวันหนึ่งมันคงจะเป็นผม
     
     
    เป็นไปไม่ได้สุดๆเลยหละ
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
    “เราเลิกกันเถอะ”
     
     
    จุดเดิม เวลาเดิม ที่เดิม คนบอกเลิกคนเดิม ชาเย็นเหมือนเดิม แต่คนโดนบอกเลิกคนละคน...คราวนีเป็นนุนอาหละ
     
     
    เอ้ะ เพิ่งคบกันเมื่อวานไม่ใช่เหรอ?
     
     
    และชเวชีวอนก็เดินออกไปเหมือนเดิม ผมเฝ้ามองเขาจนเขาเดินออกไปจากร้านแล้วผมค่อยหันกลับไปมองนุนอาผู้ค่อนข้างจะน่าสงสาร
     
     
    หล่อนชักสีหน้าไม่พอใจก่อนที่จะลุกขึ้นคว้าโทรศัพท์ยกแนบหูแล้วเดินปึงปังออกไปจากร้าน
     
     
    “ปล่อยให้ลูกค้าหนีออกไปอีกแล้วนะคิมฮีชอล คงต้องหักค่าชาเย็นออกจากเงินเดือนนายแล้วกันนะ”อ่าา...อีกแล้วเหรอเนี่ยTUUUT;;; ~
     
     
    ผมถอนหายใจแล้วหันกลับไปมองโต๊ะที่ชีวอนเคยนั่งแล้วอมยิ้มที่มุมปากแห้งๆ เอาวะ จ่ายค่าคาปูชิดโน่ให้คนที่ผมแอบรักอย่างชีวอนก็ยังดี เพื่อชีวอนToT~!!!
     
     
    และนี่ก็เป็นครั้งที่สองที่ผมเห็นชีวอนบอกเลิกแฟนของเขา
     
     
    และครั้งอื่นๆก็ตามมายาวเป็นหางว่าว...
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
    กรุ๋งกริ๋งกรุ๋งกริ๋ง~~
     
     
     
    เสียงกระดิ่งที่ติดเอาไว้ที่ประตูร้านดังขึ้นมาเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าได้มีลูกค้ามาใช้บริการแล้ว ผมเงยหน้าจากการทำการบ้านในยามว่างที่เคาต์เตอร์เพื่อเอ่ยทักทายลูกค้าที่เพิ่งเข้ามาใหม่
     
     
    “สวัสดีครับ^^”
     
     
    ชีวอนและแฟนใหม่...เอ่อ...รู้สึกว่าจะเป็นลีอานะ=_=a
     
     
    เอ้ะ หรือสเตลล่านะ?
     
     
    ไม่ได้การแล้ว! ผมไม่รู้ว่าแฟนคนล่าสุดของชีวอนเป็นใครได้ไง?! แบบนี้ไม่ได้การแล้ว ผมต้องถามCNNชินดงฮีซะแล้ว~~~~!!!!
     
     
    คิดได้เท่านั้นก็คว้ามือถือจากกระเป๋ากางเกงขึ้นมาแล้วรีบกดส่งข้อความไปหาชินดงเพื่อนรักทันที
     
     
    รู้สึกว่าผมติดไอ้โรคเสือกส่องชาวบ้านชาวช่องมาจากชินดงเสียแล้วหละ=UU=;;;
     
     
    “ฮีชอล...”
     
     
    ใครเรียกชื่อผมวะ-*-???
     
     
    “ฮีชอล...ฮีชอล...”
     
     
    แปปสิวะ ขอส่งแมสเสจหาชินดงก่อน ไอ้บ้านี่หนิ=_=+++
     
     
    แต่ดูเหมือนว่าผมจะลืมไปเลยว่าในร้านมีแค่ผมกับคนอีกสองคน ชีวอนและแฟนใหม่ของเขา...ซึ่งผมคิดว่าจะเป็นลีอานะ ถ้าผมจำไม่ผิด
     
     
    “ฮีชอล!”
     
     
    “อะไรเล่า?!?!!!!”
     
     
    กดปุ่มsendพลางเงยหน้ามาตะคอกใส่ไอ้บ้าที่เรียกชื่อผมอยู่ได้เสียงเขียวอย่างหงุดหงิดใจเป็นที่สุดก่อนที่จะเบิกตากว้าง อ้าปากค้าง หัวใจผมตกไปอยู่ตาตุ่ม
     
     
    ชิบหายแล้วคิมฮีชอล...O[]O;;;
     
     
    ไอ้บ้าที่แกตะโกนใส่หนะ มัน...มัน...มันชเวชีวอนชัดๆเลยหนะเซ่!!!!
     
     
    ดูเหมือนว่าคนที่ผมตะโกนใส่หน้าจะไม่รู้สึกกลัวเลยแม้แต่น้อย อันที่จริงแล้วชีวอนฉีกยิ้มเห็นลักยิ้มบุ๋มอันเป็นเสน่ห์ของเขามาให้ผมแทนที่จะตะโกนกลับใส่หน้า
     
     
    “ทำอะไรอยู่เนี่ย? แอบอู้งานเหรอ? เดี๋ยวฉันจะฟ้องผู้จัดการนะ แล้วนี่อยู่ร้านคนเดียวเหรอ? ไม่เหงาเหรอเนี่ย? มีอะไรทำแก้เซ็งไหม?”
     
     
    ค คำถาม...ม มาเป็นชุด!
     
     
    พระเจ้าจ้อด! มันมาเป็นชุด! ชีวอนยิงคำถามมาเป็นชุด!
     
     
    ผมได้กระทำสิ่งที่เด๋อที่สุดลงไปในวินาทีนั้น สิ่งที่ผมเลือกทำคือการอ้าปากค้าง ตาปริบๆและส่งเสียงเอ่อ...อ่า...แบบขาดๆหายๆออกมาจากลำคอไปให้เขา และที่สำคัญหน้าแดงหัวใจเต้นโครมครามทำอะไรไม่ถุกด้วยหละ!
     
     
    ชีวอนหัวเราะแล้วส่งยิ้มให้ผมอีกแล้ว อ่าาา...ผมละลาย-///-~
     
     
    “โอเค ท่าทางฉันจะถามนายเยอะไปหน่อย ฉันจะถามทีละข้อก็แล้วกันนะ^^”ผมพยักหน้าอายๆแต่ก็ยังมีชีวอนที่ยิ้มมาให้ผมอยู่ไม่วางตา เขาใจดีจังเลย
     
     
    “นายทำอะไรอยู่?”
     
     
    ทำอะไรอยู่ดีหละ? จะให้ไปบอกว่าผมส่งแมสเสจไปถามชินดงว่าชีวอนคบกับใครอยู่ ณ ตอนนี้หรอกเหรอ? ไม่มีท๊างงง ไม่มีทาง!!!!
     
     
    “เอ่อ...หายใจ”
     
     
    พระเจ้า นั่นเป็นคำตอบที่ห่วยแตกและกวนส้นตีนที่สุดในโลกเลย=[]=;;;
     
     
    แต่อย่างน้อยชีวอนก็หัวเราะเบาๆอย่างถูกใจแทนที่จะชักสีหน้าไม่พอใจแล้วกระโดดข้ามเคาต์เตอร์มาถีบผมกระเด็นตกเก้าอี้ไป
     
     
    “แล้วนี่นายไม่เหงาเหรอ?”
     
     
    ผมส่ายหน้าเบาๆแล้วยิ้มแห้งๆ
     
     
    “ชินแล้วหละ”ชีวอนยิ้มกลับแล้วชูนิ้วชี้ขึ้นมา ผมเอียงคออย่างสงสัยก่อนที่จะร้องอ๋อออกมาเบาๆ
     
     
    “ชาเย็นแก้ว!”ชีวอนพยักหน้าแล้วเดินกลับไปที่โต๊ะตัวเดิมที่เขาชอบนั่ง ผมมองตามไปแล้วอมยิ้มให้กับความเปิ่นได้โชคของผม
     
     
    จะว่าไปเพราะความเปิ่นได้โชคของผมทำให้ชีวอนจูบผมที่หน้าผากนี่...
     
     
    ผมยกมือขึ้นลูบหน้าผาก ทำแบบนี้ทีไรภาพมันก็แล่นเข้ามาในหัวชวนให้ใจเต้นโครมครามตลอดเวลา
     
     
    สัมผัสอุ่นๆของชีวอนมันยังคาอยู่เลย...
     
     
    ผมนี่ชักจะเป็นเอามากแล้วเนอะ>////<
     
     
     
     
     
     
     
     
    “ขอบคุณนะ”
     
     
    ชีวอนเอ่ยขอบคุณผมเมื่อผมยื่นชาเย็นให้เขา ผมยิ้มให้แล้วหุบยิ้มอย่างรวดเร็วเมื่อสัมผัสถึงรัศมีหึงหวงอาฆาตแค้นจากลีอา...ไม่ก็สเตลล่าที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับชีวอนส่งมาให้ผม
     
     
    โอเค ถอยทัพครับ ถอยทัพ-*-
     
     
    ผมเดินกลับมาประจำเคาต์เตอร์ตัวเดิมแล้วหยิบมือถือขึ้นมาดูเวลาก็พบว่าชินดงส่งแมสเสจตอบผมมาแล้ว ผมรีบเปิดอ่านทันที
     
     
    ลีอาเว้ย สเตลล่าเลิกกันที่ร้านนายเป็นครั้งที่แปดนี่ จำไม่ได้หรือไง?
     
     
    คำตอบคือลีอาสินะ งั้นผมก็ถูกหนะเซ่!>3<
     
     
    “เยสสสสสสสสสสสสสสสสส!!!!”
     
     
    ด้วยความดีใจที่ตอบถูกว่าแฟนคนใหม่ที่ชีวอนควงอยู่ ณ ตอนนี้คือลีอาทำให้ผมตะโกนออกมาดังลั่นอย่างลืมตัวว่าไม่ได้อยู่ในหอพัก...
     
     
    ...มาเสือกรู้ตัวเมื่อตะโกนเสร็จแล้วเงยหน้าขึ้นมามองก็พบว่าชีวอนกับลีอาหันขวับมามองผม-////-
     
     
    “ข ขอโทษครับ”เอ่ยขอโทษเสียงอ่อยอย่างอายๆแล้วรีบก้มหน้างุดหลบเสียงหัวเราะดังลั่นของชีวอนที่หัวเราะร่ากับการกระทำของผมเมื่อครูราวกับตอกย้ำความเปิ่นของผม
     
     
    นี่เป็นครั้งที่สองที่ผมเปิ่นแตกต่อหน้าคนที่ผมแอบหลงรักมานานแล้วนะเนี่ยT////T~~
     
     
    ผมก้มลงกะจะพิมพ์ข้อความตอบกลับชินดงไปแต่ก็ต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงของชีวอนดังขึ้นมาเสียก่อน
     
     
    “เราเลิกกันเถอะ...”
     
     
    ผมหยุดชะงักไปเล็กน้อยก่อนที่จะลบแมสเสจที่กำลังพิมพ์อยู่นั้นออกไปแล้วกดพิมพ์อะไรอย่างอื่นแทนอย่างรวดเร็วแล้วกดปุ่มsend
     
     
    ข่าวด่วน! ชเวชีวอนเลิกกับลีอาแล้ว ที่ร้านฉัน คราวนี้รายที่12แล้วนะ!!!
     
     
    รู้สึกเหมือนผมเป็นพวกCNNยังไงอย่างงั้นเลย เข้าใจความรู้สึกของชินดงกับคิบอมเวลามีอะไรอัพเดทก่อนใครเพื่อนแล้วหละ>..<
     
     
    ผมได้ยินเสียงประตูร้านเปิด ชีวอนคงเดินออกไปเหมือนเดิมแล้วหละ เพราะฉะนั้นจึงไม่มีเหตุผลอะไรที่ผมจะเสียเวลาเงยหน้าขึ้นไปมอง
     
     
    ตอนนี้ได้แต่นั่งทำใจ นี่ผมต้องจ่ายค่าชาเย็นแทนชีวอนเป็นแก้วที่12อีกแล้วใช่ไหมเนี่ย? TT~
     
     
    “ทำอะไรอยู่อะ?”
     
     
    “ยุ่งไรด้วย=[]=”ตอบออกไปอย่างไม่ใส่ใจพลางลงมือทำการบ้านต่อไปก่อนที่จะชะงัก
     
     
    เมื่อกี้...เมื่อกี้...ชเวชีวอนนี่หว่า!!!
     
     
    O_O!!!
     
     
    ผมรีบเงยขึ้นมามองก็ต้องอ้าปากค้าง ใจหายวูบเป็นรอบที่สองของวันเมื่อคนที่ด่าใส่ตรงหน้าคือคนที่ผมแอบรักมาเสียนาน
     
     
    “อ เอ่อ...”ใบ้แดกไปชั่วขณะครับท่านผู้อ่าน=[]=;;;
     
     
    “นึกว่าฉันไปแล้วเหรอ?”เออ นึกว่าออกไปแล้ว-_- แต่ก็ได้แต่เก็บงำไว้ในใจแล้วพยักหน้าอายๆแทนคำตอบของตัวเอง
     
     
    “นายนี่ตลกดีนะ”
     
     
    เง้อออออ~~~~ T///T
     
     
    “...ฉันชอบ^^”
     
     
    เง้ออออออออ~~~T///T...ห้ะ?! O_O?!?!!
     
     
    ชีวอนพูดได้แค่นั้นแล้วก็ส่งยิ้มให้ก่อนที่เขาจะเดินออกไปจากร้านทิ้งให้ผมยืนอึ้งหน้าแดงๆกับคำพูดของเขาที่ยังคงสะท้อนก้องอยู่ในหัวของผมไม่เลิก
     
     
    ช ชอบ...งั้นเหรอ...
     
     
    อ่าาาาาา อ้ากกกกกกกกกกกกกกก-///-~~~~~~~~~~~~~~
     
     
    “ว่าแต่นี่นายไม่เหงาแย่เหรอ ทำงานอยู่คนเดียวแบบนี้?”
     
     
    ผมส่ายหน้าเบาๆแล้วส่งยิ้มหวานๆให้เขาถ้าผมไม่คิดไปเอง ผมสังเกตุว่าชีวอนยิ้มตอบและหน้าแดงๆนิดๆด้วยแหละ >///<
     
     
    “ปกติอยู่กับผู้จัดการ แต่วันนี้ผู้จัดการเขาออกไปทำธุระข้างนอกเลยอยู่เฝ้าร้านคนเดียวหนะ”
     
     
    ชีวอนพยักหน้าแล้วส่งเสียงอืมลากยาวๆในลำคอ ผมพยักหน้าตามบ้างก่อนที่จะหยุดพยักหน้าเมื่อได้ยินประโยคต่อไปของเขา
     
     
    “งั้นขอฉันอยู่เป็นเพื่อนคุยนะ”
     
    ผมกับชีวอนพูดคุยกันไม่หยุดจนร้านปิดพวกเรายังนั่งคุยกันอยู่หน้าร่านถึงสองทุ่มแล้วค่อยแยกย้ายกลับบ้าน มันช่างมีความสุข ไม่ไหวแล้ว...ผมไม่อยากตื่นออกจากฝันหวานครั้งนี้เลยแม้แต่น้อย
     
     
    ไม่แม้แต่น้อย...
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
    แต่ดูเหมือนความสุขของผมจะไม่ยั่งยืนอย่างที่ผมคิดเอาไว้
     
     
    ตอนนี้มันเจ็บยิ่งกว่าคราวไหนๆเสียอีก...
     
     
    “สองเดือนแล้วนะ ยาวที่สุดในรอบหนึ่งปีที่ชีวอนคบกับแฟน แถมยังเป็นผู้ชายเสียด้วย”เสียงของชินดงที่สรุปข่าวกับคิบอมข้างๆผมไม่ได้ทำให้ผมมีความสุขเลย อันที่จริงแล้วมันกลับยิ่งกรีดลึกเข้าไปในหัวใจของผมมากเข้าไปอีก
     
     
    “ดูรักกันดี หรือว่าฮยองจุนเป็นตัวจริงของชีวอนนะ?”คราวนี้เป็นเสียงของคิบอม ผมเหลือบไปเห็นชินดงหันมามองผมเล็กน้อยแล้วหันกลับไปมองคิบอม
     
     
    ได้โปรดชินดง ช่วยพูดอะไรให้ฉันใจชื้นขึ้นมาเสียหน่อยก็ยังดี...
     
     
    “ก็แค่คบเล่นๆแล้วหวังฟันทิ้งเท่านั้นแหละ”
     
     
    ไม่ใช่ชินดงที่พูดออกมา แต่เป็นลีดงแฮเจ้าชายน้ำแข็งรูปหล่อเพื่อนซี้ผมที่นั่งอ่านหนังสือขาพาดโต๊ะอยู่ข้างๆคิบอมเองต่างหาก
     
     
    ดงแฮตวัดสายตาเย็นๆขึ้นมามองผมราวกับต้องการจะสื่ออะไรบางอย่าง
     
     
    ใช่...และผมเองก็เข้าใจมันเสียด้วย สิ่งที่เขาต้องการจะสื่อ
     
     
    พูดเข้าข้างผมเพื่อไม่ให้เจ็บปวดไปมากกว่านี้
     
     
    “ฉันว่าดงแฮพูดถูกหวะแก คงเพราะแบบนานๆทีจะได้คบกับผู้ชายกันเองหละมั้ง แกก็รู้ว่าชีวอนมันชายได้หญิงได้”ชินดงเองก็ดูเหมือนว่าต้องการจะให้ผมไม่เจ็บปวดไปมากกว่านี้อีก
     
     
    แต่ดูเหมือนคิบอมจะไม่เข้าใจ...
     
     
    “แฟนเมื่อสองเดือนก่อนของชีวอนยังเป็นผู้ชายเลย คบกันแค่สามวันเลิก แต่ฮยองจุนมีการขึ้นไปส่งถึงบ้านไม่ก็พามาบ้าน...”
     
     
    “...แล้วก็มีเซ็กส์กันด้วย”
     
     
    ผมหยุดหายใจ หัวใจหยุดเต้นชั่วขณะ เหมือนมีคนเอาน้ำเย็นมาสาดเข้าที่หัวใจแล้วใช้มีดกรีดทับลงไปให้ลึกและเจ็บไปมากกว่านี้
     
     
    ความหวังริบหรี่ที่ดงแฮและชินดงช่วยกันพูดให้ใจชื้นและกลับมามีหวังนิดๆอีกครั้งถล่มลงไปในพริบตาเดียวเพียงแค่ประโยคสั้นๆของคิบอม
     
     
    แสดงว่านี่คือ...ตัวจริงสินะ
     
     
     
    ลีดงแฮลุกขึ้นยืนขึ้นท่ามกลางความงุนงงของคนอื่นๆ ดงแฮเดินมาคว้าข้อมือคิบอมแล้วลากคิบอมออกไปจากห้องโดยมีเสียงเจ้าตัวCNNดังแว้ดมาไม่ขาดสายแล้วค่อยๆเงียบหายไปในที่สุด
     
     
    “ฮีชอล แก...ฉันหาแฟนให้แกได้นะ แกเอาไหม?”
     
     
    ชินดงหันมาพูดกับผม ผมได้แต่ยักไหล่แล้วไม่ตอบอะไร ผมรู้ว่าชินดงเป็นห่วงผมพอๆกับดงแฮ(แต่ไอ้หมอนั่นไม่แสดงออกเท่านั้นแหละ) แต่ก็นะ...สำหรับเรื่องของชีวอน ถ้ามันเป็นความจริง ผมก็หมดหวังทันที
     
     
     
    หมดหวัง อกหักเสียแล้วหละคิมฮีชอล~
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
    “ชาเย็นแก้วนะฮีชอล”
     
     
    ผมส่งยิ้มแห้งๆให้คนสั่งเป็นเชิงรับออเดอร์ อันที่จริงเรี่ยวแรงจะยืนจะยิ้มพูดคุยกับเขาก็แทบจะไม่มีแล้ว ผมมองชีวอนเดินกลับไปนั่งข้างๆผู้ชายหน้าหวานๆคนหนึ่ง ลีฮยองจุนสินะ
     
     
    ชีวอนพาฮยองจุนมาร้านนี้เป็นรอบที่สิบกว่าแล้ว และทุกๆครั้งที่มาผมก็จะภาวนาให้ชีวอนเอ่ยประโยคบอกเลิกกับฮยองจุน...และมันก็ไม่เป็นจริง
     
     
    ผมอิจฉาเขาเหลือเกิน...
     
     
    เพราะฮยองจุนเป็นคนที่ได้หัวใจของชีวอนไป ได้กอดชีวอน ได้เป็นคนที่ยืนข้างๆชีวอน
     
     
    เพราะฮยองจุนเป็นตั้งจริงของชีวอน...
     
     
    “เราเลิกกันเถอะ”
     
     
    ผมหยุดชะงัก เมื่อกี้ถ้าได้ยินไม่ผิดคือชีวอนกำลังเอ่ยประโยคบอกเลิกกับลีฮยองจุน...อย่างงั้นเหรอ?  ผมแอบเงยหน้าขึ้นไปมองยังโต๊ะตัวนั้นก็พบว่าฮยองจุนหน้าซีดเผือดลงอย่างเห็นได้ชัด
     
     
    งั้นไอ้ที่บอกว่าฮยองจุนเป็นตัวจริงของชีวอน ผมขอกลับคำพูดนะครับคุณผู้อ่าน=..=
     
     
    “ท ทำไมหละ?”อาาา...ฮยองจุนผู้แสนจะน่าสงสารเริ่มร้องไห้แล้ว ชีวอนก้มหน้ามองโต๊ะไม้
     
     
    “ฉันไม่เคยรักนาย”
     
     
    เฮือก! ข่าวเด็ดประจำวัน! แบบนี้ต้องส่งแมสเสจไปบอกชินดงเสียแล้ว! >[]<!!!
     
     
    “ฉันมีคนอื่นอยู่ในหัวใจ...มาปีกว่าแล้วหละ”
     
     
    บ แบบนั้นมันเจ็บยิ่งกว่าตอนที่คิดว่าฮยองจุนเป็นตัวจริงของชีวอนเสียอีกTT~
     
     
    ผมไม่ได้รับรู้อะไรทั้งสิ้น ผมรู้แต่ตอนนี้ขอบตาของผมร้อนผ่าว...ผมอยากจะร้องไห้สุดๆเลยหละ อกหัก อกหักซ้ำสองคิมฮีชอล
     
     
    ดูท่าจะไม่มีหวัง ไม่สิไม่มีตั้งแต่แรกแล้วหละ
     
     
    “ฮีชอล! ชาเย็นที่ฉันสั่งได้ยัง?”
     
     
    ผมสะดุ้งตัวเฮือก ลืมเรื่องชาเย็นไปเลย! ผมต้องเอาชาเย็นไปเสิรฟ์เขาเหมือนทุกครั้งนี่นา!
     
     
    ผมตั้งหน้าทำใจปั้นหน้าให้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นอยู่เสียนานก่อนที่จะเดินถือชาเย็นออกมาจากเคาต์เตอร์ สวนกับฮยองจุนที่เดินมาหยุดอยู่หน้าผมทั้งน้ำตาพอดี
     
     
    “นายคือคนที่โชคดีที่สุด”
     
     
    โชคดีพระแสงแกสิ หลงรักชีวอนมาสองปีแล้วเสือกมาอกหัก แถมยังทำตัวเด๋อๆเปิ่นๆต่อหน้าเขาอีก แบบนี้เขาเรียกว่าโชคดีหรือไง? ไอ้บ้านั่นพูดอะไรไม่รู้เรื่องเลยจริงๆ=..=
     
     
    ผมเดินสวนกับฮยองจุนที่เดินไปร้องไห้ออกไปจากร้าน ผมเดินไปวางชาเย็นลงบนโต๊ะไม้ที่ชีวอนนั่งเหม่อลอยออกไปนอกหน้าต่างอยู่ ชีวอนสะดุ้งนิดๆแล้วหันไปมองแก้วชาเย็นแล้วเงยหน้าขึ้นมายิ้มให้ผม
     
     
    ผมส่งยิ้มให้เศร้าๆแล้วเลือกที่จะเดินกลับไปที่เคาต์เตอร์ ยังไงซะก็คงต้องรายงานข่าวให้ชินดงฟังสินะ ให้ตายเถอะต่อให้อกหักยังไงก็ต้องรายงานข่าวให้ได้ ผมนี่โรคจิตเรื่องCNNขึ้นทุกๆทีแล้วนะ-..-
     
     
    ชีวอนบอกเลิกฮยองจุน รายที่13ที่ร้านฉัน ชีวอนบอกว่าเขามีคนที่รักมานานปีกว่าแล้ว
    ฉันอกหักดังเป้าะของจริงแล้วหละ แกช่วยหาแฟนให้ฉันหน่อยสิ ฉันว่าฉันจะตัดใจจากชีวอนแล้วอะ
     
     
    “แบบนั้นไม่ได้นะ!!!!!”
     
     
    อุแม่เจ้า=..= ผมจะหัวใจวายตายไหมนั่น?
     
     
    ผมสะดุ้งเฮือกแล้วหันขวับกลับไปมองก็ต้องอึ้งแดกอย่างสุดๆที่สุดเมื่อพบว่าชีวอนยืนอยู่ข้างหลังผม เขาชะโงกหน้ามองหน้าจอมือถือของผม...งั้นก็หมายความว่าเขาก็อ่านแมสเสจ
     
     
    ชีวอนเงยหน้ามามองผมอย่างน้อยใจ โอเค ถ้าผมไม่ได้ตาฝาดไปเขาไม่ได้แค่มองหน้าผมอย่างน้อยใจดวงตาของเขาดูปวดร้าวมากเอาเสียด้วย
     
     
    “นายจะไปมีแฟนไม่ได้นะฮีชอล และนายห้ามตัดใจจากฉันด้วย”
     
     
    สถานการณ์ที่ชีวอนรู้ว่าผมแอบรักชีวอนมานานผมเลือกที่จะทำหน้างงๆมากกว่าทำหน้าอายๆเมื่อพบว่าเขารู้ความจริงแล้ว
     
     
    “ท ทำไมหละ?”เอ่ยถามไปอย่างอยากรู้อยากเห็นไปแล้วก็อายไป ผมก้มหน้านิ่งเพื่อซ่อนใบหน้าที่แดงระเรื่อเอาไว้ไม่ให้เขารู้
     
     
    “เพราะนายรู้อะไรไหมฮีชอล?”
     
     
    น้ำเสียงของเขาเปลี่ยนไปเป็นซีเรียสจริงจังไม่ขี้เล่นเหมือนก่อน ผมแอบเงยหน้าขึ้นไปมองก็พบว่าเขาส่งสายตาจริงใจมาให้ผมบ่งบอกว่าตอนนี้ชเวชีวอนไม่ได้ล้อเล่นเหมือนคราวอื่นแต่จริงจังเป็นการเป็นงานแล้ว
     
     
    “คนที่อยู่ในหัวใจของฉันมานาน...”
     
     
    “...คือนายไงหละ คิมฮีชอล”
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
    ประโยคบอกรักของชีวอนยังดังก้องซ้ำไปซ้ำมาอยู่ในหัวผมไม่หยุดหย่อน ยิ่งนึกถึงเหตุการณ์บอกรักที่เกิดขึ้นเมื่อชั่วโมงก่อนหน้าก็แดงและใจเต้นโครมครามขึ้นมาตลอด
     
     
    “ฉันตกหลุมรักนายตั้งแต่สองปีก่อน ตอนที่ฉันกำลังจูบกับรุ่นพี่คณะนายที่ตึกนายแล้วฉันเหลือบไปเห็นนายที่มองมาทางฉัน รู้อะไรไหมฮีชอล ครั้งแรกที่เห็นนาย ฉันคิดว่า...”
     
     
    “...ฉันอยากจะดูแลถนุถนอมนาย นายสวยเหมือนนางฟ้าเลยหละ”
     
     
    ผมเอง...ผมเองก็ตกหลุมรักชีวอนตอนนั้นเองเหมือนกัน
     
     
    “ฉันรู้สึกว่าฉันโชคดีมากที่นายเป็นเพื่อนสนิทกับชินดงและดงแฮที่เป็นเพื่อนและแฟนกับคิบอม เพื่อนซี้ฉัน ฉันมักจะแอบมองนายเวลาที่นายโดนชินดงลากให้มาหาคิบอมที่ห้องฉัน นายชอบทำหน้าเซ็งโลกตลอดเลยหละ แต่ฉันก็ไม่เคยเบื่อที่จะมองหน้าเซ็งโลกของนายเลยนะ รู้ไหม?”
     
     
    สาเหตุเดียวที่ยอมมาห้องเรียนของคณะบริหารธุรกิจเพราะคิบอมอยู่ห้องเดียวกับชีวอน ผมมาที่ห้องเพียงเพื่อจะมาหาชีวอนเท่านั้นแหละ
     
     
    “ฉันชอบนิสัยเปิ่นๆของนาย มันไม่ใช่ข้อเสียของนายหรอกรู้ไหม? ฉันว่ามันออกจะน่ารักด้วยซ้ำไปถ้านายทำอะไรเปิ่นๆ ไม่ฉันก็คิดไปเองแหละ...”
     
     
    “...ก็ไม่ว่าฮีชอลจะทำอะไร นายก็น่ารักเสมอในสายตาฉันนี่แหละ”
     
     
    ผมทำตัวเปิ่นแตกตลอดทุกครั้งที่อยู่ต่อหน้าเขา
     
     
    “ที่ฉันพาแฟนมาที่นี่แล้วพามาบอกเลิกต่อหน้านายเพราะฉันอยากจะเห็นสีหน้าของนายว่าจะเป็นยังไง ฉันอยาจะรู้ว่คนที่ฉันรักจะรักฉันไหม?”
     
     
    “แต่นายกลับไม่ทำสีหน้าอะไรเลย จนฉันเริ่มใจเสีย ฉันเลยคิดว่าจะลองตัดใจจากนายแล้วไปคบกับฮยองจุนแทน...”
     
     
    ถ้าผมทำสีหน้าดีใจหรือเสียใจแบบนั้นชีวอนก็คงต้องรู้ว่าผมแอบรักเขาอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นทางที่ดีคือทุกครั้งที่เขาเดินออกไปจากร้านผมค่อยแสดงอาการและอารมณ์ออกมา
     
     
    “แต่ฉันกลับลืมนายไม่ได้เลย ทุกครั้งที่จูบคนอื่น มีอะไรกับคนอื่น มันมีแต่ภาพนายลอยขึ้นมาในหัว...ฉันว่ามันบ้ามากเลยหละ บางทีฉันก็เผลอเรียกชื่อนายออกมาตอนมีอะไรกับคนอื่นๆ”
     
     
    “และเมื่อวานคิบอมก็เดินมาบอกฉันว่า ความจริงแล้วนายเองก็ชอบฉันเหมือนกัน ตอนนั้นแหละที่ฉันรู้สึกว่าหัวใจพองโตที่สุดในโลก วันนี้ฉันเลยรีบลากฮยองจุนมาแล้วบอกเลิก พาฮยองจุนเดินออกไปจากร้านฉันก็เดินไปหานายแล้วฉันก็ชะโงกไปเห็นนายกำลังส่งแมสเสจไปหาชินดงบอกว่าจะตัดใจจากฉันแล้วไปมีแฟนเป็นคนอื่น...”
     
     
    “...ตอนนั้นฉันคิดว่ารอให้กล้ากว่านี้หน่อยค่อยบอกรักนาย แต่พอเห็นข้อความนั้นมันทำให้ฉันยอมไม่ได้เด็ดขาด แล้วฉันก็บอกรักนายไป...”
     
     
    “...และตอนนี้นายก็คือ คิมฮีชอล...สุดที่รักของฉัน”
     
     
    ชเวชีวอน...รักที่สุดของผม
     
     
    ประโยคเล่าเรื่องของเขาตั้งแต่ต้นจนจบทำเอาผมยิ้มไม่เลิก อาาา...เขาครางชื่อผมตอนมีอะไรกับคนอื่นด้วยเหรอเนี่ย?
     
     
    เขาบอกว่าถึงผมจะทำตัวเปิ่นๆเด๋อๆผมก็ยังน่ารักเสมอในสายตาของเขาเสมอ
     
     
    อ่าาาา...เขาทำให้ผมลอยนะเนี่ย=///=~~~~
     
     
    “ฉันชอบกินชาเย็นของฮีชอลนะ อ้อ! นี่ด้วย...”
     
     
    ผมละสายตาจากอุ้งมือที่กำจนแน่นแล้วหันไปมองชีวอนทีเดินไปที่ลิ้นชักที่ตั้งอยู่ข้างๆเตียงของเขา ตอนนี้ชีวอนพาผมมายังบ้านของเขา บ้านของเขาหรูสุดๆเลยหละ และตอนนี้ผมกับชีวอนก็นั่งคุยเปิดใจกันอยู่บนเตียงนุ่มๆของชีวอน
     
     
    อันที่จริงแล้วชีวอนต่างหากที่เล่าเรื่องทั้งหมดให้ผมฟัง ส่วนผมก็ได้แต่ฟังไปบิดไปบิดมาอย่างเขินอายสุดๆ ก็เรื่องของชีวอนมันน่ารักสุดๆไปเลย>///<~
     
     
    ชีวอนเดินกลับมาแล้วยื่นซองจดหมายสีขาวให้ผม ผมรับมันมาอย่างงุนงงนิดๆ...มันคืออะไรหนะ?
     
     
    ผมเปิดซองจดหมายสีขาวออกมาดูก็พบว่าในนั้นเป็นเงินสดจำนวนมากอยู่ในนั้น
     
     
    “ค่าชาเย็นไงหละ ทุกครั้งที่กลับมาบ้านก็จะเอาเงินออกมาตามจำนวนค่าชาเย็นแล้วใส่ซองจดหมายนั่นแล้วรอว่าที่ฉันกล้าพอ เพราฉันคิดว่า...”
     
     
    “...ฉันจะเดินไปยื่นซองค่าชาเย็นแล้วบอกรักนายด้วยไง”
     
     
    ผมหน้าแดงอีกรอบแล้วอมยิ้มแห้งๆก่อนที่จะพับซองจดหมายเก็บใส่กระเป๋านักเรียนที่วางเอาไว้บนพื้นก่อนที่จะโน้มหน้าไปหอมแก้มชีวอนเบาๆ
     
     
    ชีวอนหน้าแดงเล็กน้อยและดูอึ้งๆกับการกระทำเมื่อครู่ แต่ผมสิ แดงไปไหนต่อไหนแล้ว
     
     
    “ขอบคุณนะที่เพิ่งมาจ่าย ชาเย็นสิบสามแก้วที่ผ่านมาฉันต้องเป็นคนออกเงินจ่ายแทนตลอดเลย-0-“ผมเอ่ยอย่างน้อยใจเล็กน้อยแล้วยกมือกอดอกพลางทำแก้มป่องลม ผมทำแบบนี้ทุกครั้งเวลาที่ผมงอน
     
     
    ชีวอนหัวเราะเบาๆแล้วโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้ๆผมพร้อมๆกับตวัดแขนโอบกอดตัวผมเอาไว้
     
     
    “แต่ตอนนี้ก็ได้เงินคืนแล้วนี่ แถมด้วยตัวกับหัวใจของชเวชีวอนสุดหล่อคนนี้ด้วยนะ”
     
     
    แหวะ ไอ้หลงตัวเอง:P
     
     
    ด่าในใจเพราะพูดออกไปไม่ได้เนื่องจากปากโดนปิดประทับด้วยริมฝีปากของอีกฝ่ายที่บดเบียดเข้ามาอย่างดูดดิ่ม ผมครางเบาๆ ร่างทั้งร่างของผมอ่อนยวบยาบไม่สามารถทรงตัวให้นั่งได้ มือไม้ยกขึ้นโอบคอเขาแล้วดึงให้เข้ามาใกล้มากขึ้น ผมหลับตาลงแล้วปล่อยกายปล่อยใจไปตามอารมณ์
     
     
    ปล่อยให้ไปกับชเวชีวอน คนที่ผมรักหมดหัวใจ
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
     
    “ชเวชีวอน~~~~~!!!!!!!!!!!!!!!!!”
     
     
    เสียงประตูเปิดแล้วตามด้วยเสียงตะโกนของคิบอมปลุกให้ผมกับชีวอนสะดุ้งตืนขึ้นมาพร้อมกัน พวกเราสองคนรีบลุกขึ้นแล้วหันขวับไปมองคิบอมที่ยืนหน้าแดงไม่แพ้กัน
     
     
    ทำไมหนะเหรอ?!?!
     
     
    ก็เพราะตอนนี้ผมกับชีวอนเปลือยนู้ดกันทั้งสองคนหนะสิ! มีแค่ผ้าห่มนุ่มของชีวอนเท่านั้นที่ปกปิดร่างกายของเราสองคนเอาไว้


    ผมค่อยลุกขึ้นมาเพราะความเจ็บแปลบจากช่วงล่างแล่นเข้ามา...ตอกย้ำว่า เรื่องเมื่อคืนเป็นความจริง ผมกับชีวอนมีอะไรกันจริงๆด้วย >///<
     
     
    ชีวอนคว้าเอวผมมากอดเอาไว้แล้วกดหน้าผมให้ทาบกับหน้าอกเขาก่อนที่จะหันไปสบถด่าใส่อาคันตุกะ
     
     
    “ไอ้ห่า! มีมารยาทซะบ้างสิ!”
     
     
    คนโดนด่าไม่ยอมให้โดนใส่อย่างเดียว คิบอมยกมือขึ้นเท้าสะเอวและขึ้นเสียงสูง
     
     
    “เห๊~?!?!! มึงจะอายอะไรอีกยะ?!”
     
     
    “เออ! กูไม่อาย แต่ฮีชอลเขาอายนะโว้ย!!!”
     
     
    แต่ดูเหมือนว่าคิบอมจะไม่สนใจเลยแม้แต่น้อย ร่างบางวิ่งตรี่ขึ้นมาแล้วกระโดดขึ้นนั่งบนเตียงชีวอนข้างๆผมแล้วส่งยิ้มกว้างให้
     
     
    ผมทำอะไรไม่ถูกได้แต่รีบยกผ้าห่มขึ้นมาปิดตัวเองเอาไว้ด้วยความอาย...แต่ดูเหมือนคิบอมจะไม่สนใจเลยแม้แต่น้อย
     
     
    “ดีใจด้วยนะคิมฮีชอล^^ นายคือตัวจริงของชีวอนเขา”
     
     
    ผมสั่งยิ้มให้เล็กน้อย คิบอมยิ้มหวานกลับช่างน่ารักเหลือเกินก่อนที่เจ้าตัวจะคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วกดเบอร์ใครบางคนแล้วยกขึ้นมาแนบหู
     
     
    ผมกับชีวอนมองหน้ากันงงๆแล้วหันกลับไปมองคิบอม
     
     
    “ชินดง! ชีวอนกับฮีชอลเป็นแฟนกันแล้วเว้ย!!! เยสสสสสส! โอ้ย ฮีชอลตอนเสร็จชีวอนโคตรน่ารักเลย ตัวงี้เป็นจ้ำๆเลยแล้วแล้ว...”
     
     
    “คิบอม!”เจ้าของชื่อสะดุ้งโหยงเมื่อชีวอนตะคอกใส่อย่างหงุดหงิดคิบอมชักสีหน้าเจื่อนๆแล้วรีบกดวางโทรศัพท์ ลุกออกจากเตียงแล้วเดินไปที่ประตูห้อง
     
     
    “ฉันมาแค่ดูหลักฐานว่าเป็นแฟนกันจริงหรือยัง แต่แค่นี้ก็พอใจ ขอไปอัพเดทข่าวก่อนนะจ้ะทุกคน^^ ดงแฮฮฮฮ~~~~!!!”
     
     
    ประโยคแรกพูดกับพวกผมแต่ประโยคหลังตะโกนเรียกชื่อราชาน้ำแข็งแล้วปิดประตูห้องวิ่งตึงตังจากไปทิ้งให้ผมอยู่กับชีวอนบนเตียงกันอยู่สองคน
     
     
    “เดี๋ยวนายได้เป็นHot topicแน่นอนเลย”
     
     
    ผมเงยหน้าไปมองชีวอนแล้วยิ้มให้
     
     
    “นายก็เหมือนกันแหละ”
     
     
    ชเวชีวอนหัวเราะเบาๆแล้วหอมแก้มผมอย่างรักใคร่ก่อนที่จะเลื่อนมาประทับจูบเบาๆอย่างอ่อนโยนที่ริมฝีปากผม ผมหลับตาลงเคลิ้มไปกับรสจูบของเขา
     
     
    เราสองคนจูบกันเป็นเวลานานเหมือนกัน ชีวอนค่อยๆผละริมฝีปากออกมาอย่างอ้อยอิ่งแล้วจุมพิตที่หน้าผากของผมเบาๆ
     
     
    “รักเปิ่นแตกคิมฮีชอลนะ”
     
     
    ฉายามันช่าง...เปิ่นแตกเลยเหรอ?=UUU=;;; แต่อย่าคิดนะว่าตัวเองจะไม่มี ผมก็คิดออกอันหนึ่งแหละ!
     
     
    “รักชาเย็นไม่ยอมจ่ายเงินชเวชีวอนเหมือนกัน^^”

     
    SQW
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×