การเป็นตะคริวบ่อย บ่งบอกโรคร้ายได้หรือไม่?

ข้อมูลเบื้องต้น

ตะคริว คือ ภาวะที่กล้ามเนื้อหดตัวอย่างรุนแรงจนไม่สามารถควบคุมได้ ซึ่งทำให้เกิดความเจ็บปวด โดยทั่วไปแล้วตะคริวมักจะเกิดขึ้นตามบริเวณกล้ามเนื้อขา กล้ามเนื้อแขนหรือเท้า สามารถเกิดขึ้นได้เวลาออกกำลังกายหรือนอนหลับ และการเป็นตะคริวบ่อยนั้นอาจเป็นการบ่งบอกโรคบางอย่างได้ เพราะถ้าหากเกิดเป็นตะคริวในระหว่างที่ทำกิจกรรมอื่นอยู่ อาจจะก่อให้เกิดอันตรายได้ 

การเป็นตะคริวบ่อยนั้นอาจเป็นการบ่งบอกโรคได้จริงเพียงบางส่วน เพราะว่าตะคริวนั้นเกิดขึ้นจากหลายสาเหตุ และสาเหตุหลักๆ ที่จะให้เกิดตะคริว ก็คือ

1. การขาดน้ำ เพราะถ้าหากร่างกายคนเราขาดน้ำจะทำให้ความสมดุลของเกลือแร่ในร่างกายไม่เพียงพอหรือเสียหาย ทำให้เกิดการเป็นตะคริวได้ 

2. การไหลเวียนของเลือดไม่เพียงพอ เพราะการไหลเวียนของเลือดไม่เพียงพอนั้นเกิดจากการที่ยืนนานๆหรือท่าเดิมนานๆ หรือการที่สวมเสื้อผ้าที่รัดแน่นเป็นเวลานานๆ ทำให้การไหลเวียนของเลือดไม่สะดวก อาจทำให้กล้ามเนื้อไม่ได้รับเลือดที่เพียงพอและทำให้เกิดตะคริวขึ้น

3. การขาดสารอาหาร หรือการขาดวิตามินและแร่ธาตุ โดยเฉพาะ แมกนีเซียม โดยแมกนีเซียมเป็นแร่ธาตุที่สำคัญในการทำงานของกล้ามเนื้อและระบบประสาท ต่อมาเป็นแคลเซียม แคลเซียมเป็นแร่ธาตุสำคัญในการหดตัวของกล้ามเนื้อ และโพแทสเซียม มีบทบาทสำคัญในการควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อและระบบประสาทช่วยควบคุมความสมดุลในร่างกาย การขาดโพแทสเซียมอาจทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงและเป็นตะคริวบ่อย

4. การออกกำลังกายอย่างหนัก อาจทำให้กล้ามเนื้อหดเกร็งอย่างรุนแรงและไม่คลายตัว ถึงแม้จะเป็นชั่วคราวไม่ยาวนานและไม่อันตราย แต่ทำให้รู้สึกเจ็บปวดทรมาน เนื่องจากกล้ามเนื้อมัดนั้นขยับไม่ได้คล้ายกับเป็นอัมพาต

แต่บางสาเหตุก็อาจเกิดจากความเหนื่อยล้า หรือบ่งบอกว่ามีโรคซ่อนอยู่ก็ได้ เช่น โรคหลอดเลือดแข็งตัว หลอดเลือดสมอง ไทรอยด์ หรือเอ็นประสาทอักเสบ การเป็นตะคริวบ่อยอาจจะเป็นจากโรคที่ซ่อนอยู่ หากเป็นตะคริวปกติกล้ามเนื้อจะเกร็ง เมื่อพักแล้วจะดีขึ้น แต่ถ้าปวดจากโรคอื่นจะรู้สึกเย็นและชาร่วมด้วย เมื่อเดินไปเรื่อยๆ จะปวดมากขึ้นแต่เมื่อพักอาการก็จะหายไป 

สรุปได้ว่าการเป็นตะคริวบ่อยนั้น คือการที่กล้ามเนื้อนั้นหดตัวอย่างรุนแรง ทำให้เกิดการเจ็บปวด และสาเหตุในการเป็นตะคริวบ่อยนั้นก็มีหลากหลายสาเหตุ อาจเกิดจากสาเหตุข้างต้น หรืออาจะเกิดจากการมีโรคซ่อนอยู่ได้