ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ฟิคหัวขโมยแห่งบารามอส [เฉพาะกลุ่ม]

    ลำดับตอนที่ #3 : ความลับของนักล่า : ตอนที่ 2

    • อัปเดตล่าสุด 5 พ.ค. 55




    สายลมหนาวที่พัดมาปะทะใบหน้าปลุกให้ร่างบนเตียงตื่นขึ้นมาจากนิทรา แสงจันทร์ที่สาดส่องกระทบกับกิ่งก้านของต้นไม้ทำให้เกิดเงาคล้ายอสูรกายในนิทาน มือน้อยๆไขว่คว้าหาคนข้างกายหมายเป็นที่ยึดแต่กลับควานเจอแค่เพียงความว่างเปล่า เด็กน้อยใช้ความกล้าลุกขึ้นจากที่นอนก่อนคว้าคุณหมีเพื่อนยัดนุ่นตัวโปรดคลำหาทางออกจากห้อง แสงสีฟ้าสว่างวาบจากข้างล่างทำให้เด็กน้อยตัดสินใจก้าวเดินลงบันได จิตสังหารที่ปกคลุมไปทั่วบริเวณทำให้เธอตัวสั่น ดวงตาสีนิลเบิกกว้างเมื่อมองเห็นภาพเบื้องหน้า

    แม่และพี่ชายของเธอกำลังสร้างบาเรียป้องกันผู้บุกรุกคนหนึ่งที่กำลังพังเข้ามา ดวงตาสีเขียวเหลือบมองมาที่เธออย่างเหยียดหยามก่อนแสยะยิ้มให้ดั่งปีศาจ

    แม่คะ พี่คะเด็กน้อยร้องอย่างเสียขวัญ พี่ชายหันมาที่เธอแวบหนึ่ง เกิดเสียงเปรี๊ยะเบาๆ บาเรียเกิดรอยร้าวเป็นแนวยาว แม่ของเธอพยักหน้าเล็กน้อย ทันใดนั้น พี่ชายก็วิ่งตรงเข้ามากอดเธอเอาไว้

     

     

    บาเรียแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ผู้บุกรุกคว้าตัวแม่เธอไว้แล้วปักดาบเข้าที่กลางหัวใจ ร่างของผู้ให้กำเนิดกระตุกเฮือกหนึ่งก่อนแน่นิ่ง ทุกอย่างตรงหน้าหายไปเมื่อพี่ชายพาเธอวาร์ปออกมา

     

     

    เหมือนหัวใจโดนกรีด เด็กน้อยร้องไห้ลั่นเมื่อไม่รับรู้ถึงความมีตัวตนอยู่ของผู้เป็นแม่ มีเพียงไออุ่นจากพี่ชายของเธอเท่านั้นที่คอยปลอบโยนเธอ แสงสีแดงอมส้มที่เห็นอยู่ไกลๆเป็นเรื่องย้ำเตือนได้ดี

     

     

    หลังจากที่เกิดเหตุการณ์พี่ชายก็พาเธอวิ่งไปตามที่ต่างๆสลับกับวาร์ปเพื่อที่จะให้นักล่าตามกลิ่นไม่เจอ เธอไม่รู้ว่ากำลังมุ่งหน้าไปที่ไหน เพราะเหนื่อยเกินกว่าที่จะถาม ป้ายบอกทางเข้าเขตชายแดนคาโนวาลพี่ชายก็พาเธอวิ่งเข้าไปในป่า

    ยิ่งวิ่งเข้ามาลึกเท่าไหร่ต้นไม้ก็ดูจะเยอะขึ้นเท่านั้น เสียงฝีเท้าจากที่มีเพียงสองก็เริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ หมาป่าหลายตัวกำลังวิ่งไล่ตามมาข้างหลัง  ข้างหน้าเป็นไม้พุ่มที่สูงเลยหัวทอดตัวขวางเอาไว้เป็นแนวยาว 

    คริส หลับตาเอาไว้นะเสียงพี่ชายเธอดังขึ้นในหัว เธอหลับตาโดยไม่ลังเล

    ข้า ฟีเนสท์ บุตรแห่งไนซินเทล โปรดเปิดทางให้เราเข้าไปด้วยเถอะ

    แสงสว่างวาบทำให้เธอหยีตาขึ้นมอง พุ่มไม้แหวกออกราวกับประตูบานใหญ่ ด้วยความที่ทั้งคู่กระโจนเข้ามาทำให้ล้มกลิ้งไปตามทาง เพราะมีพี่ชายกอดไว้ทำให้เธอไม่เจ็บอะไรมากนัก ทั้งสองช่วยกันพยุงตัวลุกขึ้นก่อนมองไปรอบๆ มีผู้คนมากมายกำลังจ้องมอง เสียงพูดคุยงึมงำเงียบหายไปเมื่อชายชราคนหนึ่งแหวกฝูงชนเข้ามา

    อ่า ใช่แล้ว สวัสดีเด็กน้อยทั้งสอง ฉันกำลังรออยู่เลย ยินดีต้อนรับสู่วินเวิร์ด อยู่ที่นี่พวกเจ้าจะปลอดภัย 

    มือใหญ่โอบรอบพวกเราทั้งสองไว้ก่อนพาออกเดิน

    ฉันชื่อ อบิเกล เป็นคนปกครองที่นี่ และตอนนี้ฉันว่าพวกเธอสมควรที่จะได้รับการพักผ่อนนะ

    ดวงตาสีเทาอ่อนที่เผลอไปสบตาเข้าด้วยนั้นทำให้เธอนิ่งไปชั่วขณะ ชายชรายิ้มให้เธออย่างอ่อนโยน ความรู้สึกบางอย่างที่แล่นเข้ามาบอกเธอว่าชายชราคนนี้หมายความอย่างที่พูด


    พวกเราปลอดภัยแล้วจริงๆ


    หลังจากกล่อมน้องเข้านอนได้แล้วเด็กชายยังคงนั่งอยู่ริมเตียงภายในหัวมีภาพเหตุการณ์ในอดีตฉายซ้ำไปมา

     

    2ปีก่อน เป็นวันที่ฝนตกหนัก เย็นนั้นพ่อไม่กลับบ้าน แม่บอกแต่เพียงว่า พ่อมีงานใหญ่ที่ต้องทำ ตั้งแต่นั้นมาก็ไม่เคยมีใครเห็นพ่ออีกเลย ถัดมาไม่กี่เดือน แม่เริ่มกระวนกระวายอย่างเห็นได้ชัด พ่อไม่กลับมาซะที แม่ชอบบ่นอย่างนี้ ตาพยากรณ์ของแม่ถูกอำนาจที่มากกว่าขวางเอาไว้ทำให้ไม่สามารถทำนายเหตุการณ์ล่วงหน้าได้อีกเหมือนเคย

     

     

    และในวันนี้คืนก่อนเกิดเหตุแม่เข้ามาเคาะประตูที่ห้องก่อนเข้ามานั่งพูดคุย

    ที่ชายแดนคาโนวาล ลึกเข้าไปในป่าจะเห็นพุ่มไม้ขนาดใหญ่ ข้างหลังจะมีหมู่บ้านซ่อนอยู่ พาน้องไปซ่อนที่นั่น น้องจะปลอดภัย

    แล้วแม่ล่ะครับ?” ผมถามออกไปอย่างสงสัย แม่แต่ลูบหัวเด็กชายเบาๆก่อนดึงเข้ามากอด

    หนีไปให้ไกล แล้วอย่าหันหลังกลับมานะลูกเด็กน้อยวัย 13ขวบแม้จะสงสัยในคำตอบ แต่ ณ เวลานี้ เค้าทำได้เพียงกอดแม่เอาไว้ โดยที่ไม่รู้เลยว่า นี่เป็นคำสั่งเสียครั้งสุดท้าย . . .

     

     

    เช้าวันรุ่งขึ้น เด็กชายตื่นขึ้นอย่างเงียบๆ ก่อนจะลุกออกจากที่นอน เตรียมออกไปข้างนอก ติดแต่เพียงมือเล็กๆที่คว้าแขนเค้าอย่างรวดเร็ว ดวงตาสีดำราวขนกามีน้ำตาคลอ  

    อย่าไปเลยนะฟีเนสท์เพียงแต่ชำเลืองมองคนร้องขอก่อนแกะมือออก

    อยู่ที่นี่ปลอดภัยกว่า ฟีเนสท์หันหลังแล้วเดินไปที่ประตู พยายามที่จะซ่อนความรู้สึกเอาไว้ ไม่ว่าอนาคตจะเป็นหรือตาย ตัวเค้าเองจะไม่ลากน้องสาวเข้าไปเสี่ยงด้วยเด็ดขาด

    ไม่เอา จะไปด้วยเด็กหญิงตั้งท่าจะวิ่งตาม

    คาริสต้า!!” ฟีเนสท์หันขวับมาเผชิญหน้ากับน้องสาวทันที ดวงตาสีฟ้าครามแปรเปลี่ยนไปเป็นสีม่วงอ่อน ของภายในห้องต่างพากันปลิวว่อน เด็กหญิงหยุดชะงัก

    “. . . ยะ อย่า ทิ้งหนู ปะ ไปคาริสต้าสะอื้นเมื่อรู้ว่าทำให้พี่โกรธ

    ขอโทษนะคริสฟีเนสท์นึกในใจก่อนพูดคำที่ไม่เคยคิดว่าจะพูดออกมา

     

    เธอไปกับพี่ก็ดีแต่เป็นตัวถ่วงคาริสต้าสะอึกก่อนเงยหน้ามองพี่ชายของเธอแววตาที่จ้องตอบกลับมานั้นเย็นชาจนแทบอยากจะหยุดหายใจ

    รู้ตัวบ้างรึเปล่าว่าแม่ตายเพราะใคร?” ฟีเนสท์พูดส่งท้ายแล้วเดินออกไปโดยไม่เหลียวกลับมามอง

     

     


    ภายในห้องที่เหมือนจะว่างเปล่าและเงียบสนิท ร่างของเด็กหญิงตัวเล็กๆยังคงนั่งอยู่บนพื้นที่เย็นเฉียบ เธอนั่งอยู่กับสายตาที่เลื่อนลอยและหัวใจที่แหลกสลายแทบไม่มีชิ้นดี

     

     

     

     

    เด็กเป็นไงบ้าง ชายชรารีบรุดมาที่ห้องพยาบาลทันทีที่ได้รู้ข่าว ดวงตาสีเทาอ่อนมองไปที่ม่านที่ถูกปิดไว้อย่างนึกเป็นห่วง

    เอ่อ ดูไม่สู้ดีนักหมอหนุ่มเสยผมสีน้ำตาลเข้มแล้วรีบลุกขึ้นเดินพาชายชราไปที่เตียงก่อนเปิดม่านออก ชายชราเลิกคิ้วกว้าง ภาพเด็กหญิงที่อยู่บนเตียงนั้นดูอิดโรย ผมที่เคยเป็นสีดำราวขนกากลับกลายเป็นสีขาวอย่างน่าอัศจรรย์

    อาจเพราะช็อกกับเหตุการณ์หลายอย่างที่เกิดขึ้นสมองเลยปฏิเสธที่จะรับรู้เหตุการณ์และ  ... ลบล้างตัวตนที่เคยเป็นอยู่

    หมอหนุ่มส่ายหัวอย่างปลงๆก่อนพูดต่อ

    คนสายธาตุร่างกายภายนอกจะอ่อนแอ ทำอะไรมากไม่ได้นักหรอกแล้วข่าวที่ท่านออกไปหามาเป็นอย่างไรบ้างล่ะนัยน์ตาสีแดงทอดมองไปยังร่างที่ยังนอนหลับไม่ได้สติ คำตอบที่ได้ยินทำให้เค้ารู้สึกสงสารเด็กหญิงที่อยู่ตรงหน้าขึ้นมาอย่างจับใจ

    ไม่รอด ... เจ้าหนูนี่เหลือตัวคนเดียวแล้วล่ะ



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×