ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic 2Eun Apink] Give It ยกทั้งใจให้ยัยตัวแสบ (Yuri)

    ลำดับตอนที่ #15 : CHARPTER 12

    • อัปเดตล่าสุด 28 เม.ย. 58


     







     

    CHARPTER 12

    NAEUN’PART

    วันนี้เป็นวันแรกที่พวกเรา “มักเน่ไลน์” จะเริ่มซ้อม แต่อาจารย์อนุญาตให้ซ้อมได้ตั้งแต่บ่ายสามโมงเป็นต้นไป เพื่อไม่ให้เสียการเรียน

    “ฮายอง วันนี้บ่ายสามเจอกันที่ห้องกลุ่มนะ” นัมจูบอกกับฮายอง ห้องซ้อมของเราก็คือห้องกลุ่มของพวกเรานั่นเอง อยู่ในกลุ่มคริสตัล ก็ดีนะ มีห้องกลุ่มที่มีเครื่องอำนวยความสะดวกทุกอย่าง มีหอพักส่วนตัวเฉพาะของกลุ่ม 

    “โอเคค่ะพี่ๆ ฉันไปเรียนก่อนนะ” ฮายองรับคำแล้วแยกตัวออกไปทันที

    “นี่นัมจู แกคิดท่ามาบ้างยังอะ” ฉันถามนัมจูหลังจากฮายองเดินจากไป

    “ก็นิดหน่อยอะ คิดกับฮายองเมื่อคืนหลังจากแกกลับแล้วอ่ะ” นัมจูบอกพร้อมกับเดินขึ้นบันไดตึกเรียน

    “ก็ไหนเมื่อคืนฮายองบอกง่วง แสดงว่าไม่นอนสินะ ถึงได้คิดท่าเต้นกันต่อ” ฉันถามด้วยความสงสัย

    “ฮายองมันก็ง่วงนั่นแหละ แต่ฉันยังไม่ง่วงก็เลยเปิดเพลงคิดท่าเต้น มันเสียงดังฮายองก็เลยนอนไม่ได้ สุดท้ายก็เลยลุกขึ้นมาช่วยฉันคิดท่าแทน” นัมจูอธิบายยาวเหยียด ประจวบเหมาะกับที่เราสองคนเดินมาถึงหน้าห้องเรียนพอดี

    “อ๋ออ เอ๋!! เพื่อนมุงดูอะไรกันน่ะ” ฉันชี้ไปที่กลุ่มเพื่อนในห้อง ที่กำลังมุงดูอะไรสักอย่าง แล้วพูดคุยกันเสียงดัง

    “นั่นสิ ตรงนั้นรู้สึกจะเหมือนจะเป็นแถวโต๊ะที่เรานั่งนี่น่า ไปดูกันเถอะ” พูดจบนัมจูก็เดินนำฉันเข้าไป พอแหวกเพื่อนในห้องเข้าไป ฉันก็รู้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น

    “นี่มันอะไรกันว่ะเนี้ยยย!!” นัมจูตะโกนออกมาด้วยความโกรธ เพราะอะไรน่ะหรอ ก็โต๊ะเรียนของฉันนะสิ โดนฟันด้วยอะไรสักอย่างจนพังไม่เหลือซากเลยนะสิ ไม่พอสมุดและหนังสือที่อยู่ใต้โต๊ะ ก็ถูกฉีกขาดจนหมด

    “ใครมันเป็นคนทำแบบนี้เนี้ยย” ฉํนมองโต๊ะเรียนของตัวเองด้วยความสงสัยบวกกับความโกรธ

    “นักเรียนมุงทำอะไรกัน นั่งประจำที่สิ” อาจารย์ประจำชั้นสั่งให้ทุกคนนั่งที่ เพื่อนในห้องก็ทำตาม ทำให้อาจารย์ได้เห็นว่าเกิดอะไรขึ้น

    “นี่เกิดอะไรขึ้น โต๊ะของใครทำไมเป็นแบบนี้” อาจารย์วางหนังสือที่จะสอนแล้วเดินมาที่ซากโต๊ะ

    “โต๊ะหนูเองค่ะอาจารย์” ฉันยกมือตอบอาจารย์

    “แล้วทำไมถึงมีสภาพแบบนี้ ไหนจะหนังสือเรียกนี่อีกขาดแบบนี้จะเรียนได้ยังไง”

    “พวกหนูก็ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ พอมาถึงก็เห็นเพื่อนๆมุงดูกันอยู่” นัมจูอธิบาย

    “แล้วพวกเธอมีใครรู้มั้ยว่าใครเป็นคนทำ” อาจารย์หันไปถามเพื่อนๆในห้อง ก็ได้คำตอบเป็นการส่ายหน้ากันทุกคน

    “พอมาถึงก็เจอแบบนี้แล้วค่ะอาจารย์” เพื่อนในห้องคนนึงบอกกับอาจารย์

    “งั้นหรอ แล้วนี่แจ้งสารวัตนักเรียนกับประธานนักเรียนหรือยัง” อาจารย์หันมาถามฉัน

    “ยังเลยค่ะ แต่ไม่เป็นไรหรอกค่ะอาจารย์ เดี๋ยวหนูไปยกโต๊ะห้องข้างๆมาก็ได้ ส่วนเรื่องหนังสือดูกับเพื่อนไปก่อนก็ได้ เดี๋ยวเลิกเรียนหนูจะไปซื้อใหม่เอง” ฉันบอกกับอาจารย์ เพื่อให้อาจารย์สบายใจ

    “งั้นก็เก็บกวาดช่วยกันซะนะ ส่วนเธอก็รีบๆแยกโต๊ะมาละ จะได้เริ่มเรียนกัน” อาจารย์สั่งแล้วเดินกลับไปที่หน้าห้องตามเดิม ฉันยกโต๊ะที่พังออกมาไว้ห้องข้างๆแล้วยกโต๊ะใหม่จากห้องข้างๆมาแทนที ส่วนนัมจูอาสาเก็บเศษไม้แล้วกระดาษให้

    “เอ่อนี่ ฉันส่งข้อความบอกพี่อึนจีแล้วนะ” นัมจูกระซิบเบาๆให้ฉันได้ยินหลังจากที่เราเก็บกวาดเรียบร้อยแล้ว

    “ไปรบกวนพี่เขาทำไม เรื่องแค่นี้เองเดี๋ยวก็ได้กลายเป็นเรื่องใหญ่อีกหรอก” ฉันบอกนัมจู แต่สายตามองไปที่หน้าห้องเรียน เรียนอย่าตั้งใจ

    “ฉันไม่คิดว่ามันจะเป็นแค่เรื่องแค่นี้นะสิ ฉันกลัวว่ามันจะไม่จบแค่นี้” นัมจูตอบฉัน

    “สองคนคุยไรกัน ตั้งใจเรียนหน่อยสิ!!!” เสียงอาจารย์ดังมาจากหน้าห้อง ทำให้เราสองคนก้มหัวขอโทษอาจารย์แล้วกลับมาตั้งใจเรียน

    “พักเที่ยงค่อยคุยกัน” ฉันกระซิบบอกนัมจู นัมจูก็พยักหน้าตอบแล้วหันไปสนใจกระดานแทน

     

    อ๊อดดดดด!!!!

    และแล้วเสียงออดบอกเวลาพักเที่ยงก็มาถึง

    “เอาไว้แค่นี้ก่อน เจอกันคาบหน้านะนักเรียน” อาจารย์บอก

    “นักเรียนเคารพ” < - - - หัวหน้าห้อง

    “ขอบคุณค่ะ”

     

    “นัมจู ไปกันเถอะ” เมื่อเก็บของเสร็จนัมจูกับฉันก็เดินออกจากห้อง

    “ว่าไง ไม่เจอกันนานเลยนะ” พอเดินออกจากห้องได้ไม่ไกล มินอา ก็เดินมาขว้างหน้าไว้ก่อน

    “ก็สบายดี เธอมีอะไรหรือเปล่า” ฉันตอบมินอาดีๆ เพราะไม่อยากมีเรื่อง ทุกคนก็รู้ดีไม่ใช่หรอว่าเราไม่ถูกกัน ไม่ใช่สิ เธอไม่ชอบฉันซะมากกว่า

    “เปล่าไม่มีอะไร ได้ข่าวว่าโต๊ะเธอโดนฟันไม่เหลือซาก ก็เลยมาถามดูด้วยความเป็นห่วง” ด้วยความเป็นห่วงหรือจะมาซ้ำเติมกันแน่

    “ฝีมือเธออีกแล้วสินะมินอา!!!” นัมจูเอ่ยขึ้นด้วยความโมโห

    “ทำไมถึงคิดว่าเป็นฉันละ นัมจู อาจจะเป็นคนอื่นก็ได้ คนที่ไม่ชอบหน้านังนี่เหมือนฉัน” มินอาตอบเสียงเรียบไม่สะทกสะท้านกับคำกล่าวหาของนัมจู

    “ฉันจะต้องรู้ให้ได้ว่า ใครเป็นคนทำ ไปกันเถอะนาอึน” นัมจูจูงมือฉันออกมาจากตรงนั้น

    “ถ้ารู้แล้วมาบอกฉันด้วยนะ ฉันจะได้ขอบคุณเธอคนนั้น ที่ทำแบบนี้แทนฉัน” มินอาตะโกนไล่หลังมา ฉันกับนัมจูทำเป็นไม่ได้สนใจ

    “ฉันว่า มินอาเป็นคนทำแน่ๆ” นัมจูพูดขึ้นหลังจากเราเดินออกมาจากตรงไหนได้ไกลพอสมควร

    “เราไม่มีหลักฐาน ไปกล่าวหาเขาแบบนั้นไม่ได้หรอก” ฉันบอกกับนัมจู ถึงแม้ในใจจะคิดแบบนัมจูก็ตาม

    “แล้วเธอจะทำยังไงต่อไปนาอึน ฉันว่ามันไม่จบแค่นี้แน่ๆ” นัมจูถามฉันอีกครั้ง

    “ไม่รู้เหมือนกัน คอยดูต่อไปก่อนแล้วกัน ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับฉันอีกหรือเปล่า” ฉันพูดจบก็เดินมาถึงห้องกลุ่มพอดี พอเปิดประตูเข้าไป พี่อึนจีก็รีบเดินเข้ามาหาฉันทันที

    “เป็นอะไรหรือเปล่า” พี่อึนจีจับฉันหมุนซ้ายหมุนขวา

    “ฉันไม่ได้เป็นอะไร” ฉันตอบสั้นๆ แต่พี่แกก็ไม่เลิกหมุนฉัน ฉันจึงดันหัวพี่แกเบาๆ พี่ดึนจีเซออกไปจากฉันเล็กน้อย

    “ผลักทำไมเนี้ยยย”

    “ก็บอกไม่ได้เป็นอะไร พี่นี่ก็หมุนอยู่นั่นหละ”

    “นี่สรุปแกเป็นพี่หรือเป็นน้องกันแน่อึนจี 555 ฉันเห็นนาอึนทำร้ายแกประจำเลย” พี่โบมีที่นั่งอยู่ข้างๆพี่โชรงหัวเราะเบา

    “ฉันก็ชักไม่แน่ใจแล้วเหมือนกัน 555 ” อึนจีบอกโบมีอย่างติดตลก

    “ว่าแต่เรื่องนี้จะเอายังไงหรอนาอึน” พี่โชรงเอ่ยถามฉันขึ้น

    “ปล่อยๆไปเถอะพี่ เรื่องแค่นี้เอง”

    “เรื่องแค่นี้เองงั้นหรอ พี่ว่ามันไม่จบแค่นี้หรอกนาอึน” พี่อึนจีเดินเข้ามาหาฉันด้วยความเป็นห่วง

    “ฉันก็บอกนาอึนแบบนี้เหมือนกันพี่ แต่นาอึนก็บอกว่า ช่างมันเถอะ” นัมจูพูดขึ้นมาอีกคน

    “ก็มันจริงมั้ยล่ะ เรื่องแบบนี้เราจับมือใครดมไม่ได้หรอก ส่วนเรื่องโต๊ะเรียนฉันก็มีใหม่แล้ว เรื่องหนังสือ ซื้อใหม่ก็ได้ไม่มีปัญหา และไม่รู้จะหาตัวคนทำไปทำไม ต่อให้หามาได้ ก็ไม่ช่วยให้โต๊ะเรียนที่พังหรือหนังสือที่ขาด กลับมาอยู่ในสภาพเดิมได้” ฉันตอบอย่างสบายใจ

    “แล้วอีกอย่างฉันก็ไม่อยากให้มีคนเกลียดฉันเพิ่มด้วย”

    “เอางั้นก็ได้นาอึน พี่เคารพการตัดสินใจของเธอ” พี่โชรงบอกพร้อมกับยิ้มมาให้ฉัน

    “ขอบคุณค่ะพี่” ฉันยิ้มตอบ

    “ยิ้มให้กันไปมาแบบนี้ คบกันเลยมั้ยค่ะ” โบมีมองหน้าพี่โชรงแล้วพูดด้วยท่าทีน้อยใจ

    “โถ่ตัว เค้าก็แค่ยิ้มให้น้องมันเฉยๆ ทำเป็นหึงไปได้” พี่โชรงซบไหล่คนนั่งข้างเพื่อง้อ พี่โชรงนี่เวลาอยู่กับพี่โบมีนี่น่ารักเป็นบ้า ทำลายมาดประธานนักเรียนจอมโหดไปเลยที่เดียว

    “เค้าแค่แซวเล่นเฉยๆหรอกน่า” พี่โบมียกมือลูบหัวมีโชรง สรุปนี่ใครเมะใครเคะคะ

    “มีข่าวดีมาบอกค่ะทุกคน” ฮายองที่เพิ่งมาถึงเรียกคนสนใจจากทุกคนให้ห้อง

    “ขอให้ข่าวดีจริงๆเถอะ ไม่งั้นจะโดนทำโทษฐานมาสาย” นัมจูเอ่ยคาดโทษฮายองผู้มาสายทันที

    “ดีแน่นอนค่ะ อะแฮ่มๆฮายองหยิบกระดาษขึ้นมา แล้วก็พูดขึ้น

     “บ่ายนี้งดการเรียนการสอน เนื่องจากวันนี้อาจารย์กับรุ่นพี่ศิษย์เก่าจะประชุมหาลือกันเรื่องงานวันเสาร์ จึงเรียนมาเพื่อทราบ” อ่านจบ ฮายองก็เก็บกระดาษใส่กระเป๋ากระโปรงแล้วกดคำนับ ทำเพื่ออะไรว่ะ???

    “โอเค ถือว่าเป็นข่าวดี งั้นรอดตัวไป” นัมจูเดินไปโอบไหล่ฮายอง ฮายองจึงหันมายิ้มให้

    “งั้นเราก็เริ่มซ้อมกันเลยมั้ย” ฉันเสนอความคิดเห็น

    “ก็ดีนะ เพราะเรายังได้ท่ายังไม่ครบเลย” นัมจูพยักหน้าเห็นด้วยพร้อมให้เหตุผล

    “งั้นพี่ขออยู่ดูได้ป่ะ” พี่อึนจีมองหน้าฉัน

    “ทำไมไม่ไปซ้อมของตัวเองล่ะ” ฉันถามพร้อมกับมองค้อนใส่

    “ไม่ต้องเลยอึนจี เพลงยังหาไม่ได้เลยว่าจะร้องเพลงอะไร เมื่อคืนทั้งๆที่นัดกันจะเลือกเพลง ก็หนีไปเฝ้าพวกน้องมันเลือกเพลงแทน” พี่โชรงบ่นให้พี่อึนจี

    “ไหนบอกไม่ต้องซ้อมก็ได้ไง” ฉันมองพี่อึนจีอย่างคาดโทษ

    “ก็อยากอยู่ด้วยอะ” พี่อึนจีมองหน้าฉันทำตาอ้อนๆ

    “แล้วมันเสียการเสียงานป่ะ พี่ ฉันจะบอกให้นะ พี่ต้องซ้อม และฉันก็ต้องซ้อม สุดท้ายก็กลับมาเจอกันที่ห้องเหมือนเดิมป่ะ เพราะงั้นตั้งใจหน่อยสิ” ฉันทำหน้าจริงจังให้พี่อึนจี “ถึงงานนี้จะไม่มีผลอะไรกับพวกพี่ทุกคน แต่สำหรับฉันมันสำคัญมาก เพราะถ้าฉันทำออกมาได้ดี มันก็พิสูจน์ได้ว่า ฉันเหมาะที่จะอยู่ในกลุ่มนี้เหมือนกัน ฉันอยากให้ทุกคนมองว่า ฉันก็มีความสามารถ เหมาะที่จะอยู่ในกลุ่ม ไม่ใช่ได้เข้ามาเพราะมี “แฟน” อยู่ในกลุ่ม” ฉันบอกกับพี่อึนจี

    “ค่ะ พี่เข้าใจแล้ว งั้นเราต่างคนต่างซ้อม ห้ามแอบดูกัน แล้วไว้วันงานพี่จะรอดูนะว่านาอึนจะทำได้ดีแค่ไหน” พี่อึนจีกุมมือฉันไว้ แล้วยิ้มให้

    “ฉันก็จะรอดูพี่เหมือนกันค่ะ” ฉันยิ้มตอบ

    “จะหวานกันอีกนานมั้ยค่ะ ไปกินข้าวกันก่อนมั้ย จะได้กลับมาซ้อม” พี่โชรงแซกขึ้น ทำลายความโรแมนติก(????)

    “ตามนั้นก็ได้” พี่อึนจีตอบพี่โชรง แต่มองหน้าฉัน

    “งั้นก็ตามสิ” พี่โชรงเดินนำหน้า โดยมีพี่โบมีควงแขนอยู่ข้างๆ ตามด้วยนัมจีกับฮายอง ที่วิ่งไล่ตีกันออกไป

    “ไปกันเถอะนาอึน” พี่อึนจีจับมือฉัน แล้วออกแรงดึงให้เดินตาม

    “อย่าลากสิคะ เดี๋ยวฉันก็ล้มหรอกพี่” ฉันบอกพี่อึนจีที่เอาแต่ลากฉัน คือหยุดแล้วให้ค่อยเดินไปพร้อมกันก็ได้ จะลากทำไมก็ไม่รู้ ไม่โรแมนติดเลย

    มาถึงตอนนี้ฉันแน่ใจแล้วว่าจะเรียกพี่อึนจีว่า แฟนได้สักที แต่ทำไมในหัวเอาแต่คิดเรื่องเหตุการณ์ที่โต๊ะฉันโดนฟันจนพัง ฉันรู้สึกเหมือนมันจะต้องมีอะไรเกิดขึ้นอีกแน่ๆ แต่เรื่องนี้เอาไว้ก่อนดีกว่า ฉันต้องเอาเวลามาคิดเรื่องการแสดงในงานวันเสาร์ที่จะถึงนี้ดีกว่า ฉันต้องทำออกมาให้ดีที่สุด เพื่อทุกคนจะได้ยอมรับฉันสักที นาอึนไฟต์ติ้ง!!!!!

     

     

    *_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*_*

     

    Ps.  ตอนเช้าไรท์มีสอบปลายภาค ที่ผ่านมาเลยเอาแต่อ่านหนังสือเตรียมสอบ ไม่มีเวลาได้ลงเลย วันนี้แก้เครียดจากการอ่านหนังสือ ก็เลยมาลงให้อ่านกันสักหน่อย ถ้างงอย่าว่ากันนะ เพราะตอนนี้ไรท์มึนๆเหมือนกัน (สงสัยอ่านหนังสือมากเกิน)

    ไรท์ใกล้จบปี 1 แล้ว ปิดเทอมนี้ไรท์จะไปทำงานเก็บตังค์ รอแฟนมีตพวกเพี้ยน อิอิ ถ้างานแฟนมีตถูกจัดขึ้นจริงๆ หวังว่า แพนด้าทุกคนจะไปร่วมงานกันเยอะๆน้า (ไรท์ก็จะไปเหมือนกัน) แล้วเจอกันอีกครั้งหลังไรท์สอบเสร็จคร้าบบ บายยยย จุ๊บๆ.

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×