ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    - All of Short Story - TonoRitz -

    ลำดับตอนที่ #2 : Short Fiction - TonoRitz ft. PotterJotaro -

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 88
      0
      14 พ.ค. 55







     *WARNING*

     ตัวละครในตอนนี้ ไม่ว่าจะเป็นโน่ริท พ็อตโจ้ หรือ FC อีสาน เป็นเพียงเรื่องสมมติ และการสมมติเหตุการร์เท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาทำให้เกิดขึ้นจริง และ FC อีสาน ไม่ได้ต้องการไปเวิ่นหรือส่องที่คณะบ่อยๆแน่นอน กรุณาอย่าเข้าใจเราผิด นี่เป็นการสมมติเหตุการณ์ขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้นนะคะ (:

     

                                       --------------------------------------------


    -                Special Short Fiction     

     TonoRitz VS. PotterJotaro

     

    @ MED KKU.

     

    -rrrrrrrr rrrrrrrr-

     

    เส้นตรงนี้คือเส้นประสาท ใช้ควบคุม.....

     

    [ 14 misscalled ‘P’ Tono’ ]

     

    พี่ริทๆ โทรศัพท์

     

    อื้อ ปล่อยไว้นั่นแหละโจ้ ผมบอกนศพ.รุ่นน้องตัวเตี้ย(?)กว่าผม แล้วฟันไปฟุบหน้าลงกับโต๊ะต่อ ใครจะโทรมา ผมไม่สนทั้งนั้นแหละครับ ง่วง - -

     

    พี่ริท แต่พี่แกโทรมาหลายสายแล้วนะพี่เสียงไอ้พ็อตที่นั่งอยู่อีกฝั่งของผม เอออ เค้ามีเงินก็ปล่อยให้เค้าโทรไปเถอะน่า ฮ่วย!

     

    ช่างเค้า ผมบอกสั้นๆแล้วเปลี่ยนท่านอน แอบเห็นไอ้สองคนนั้นมองหน้ากันเลิกลั่ก อะไรกันนักกันหน้าวะเฮ้ยยยยยย

     

    ผมค่อยๆปิดตาลงช้าๆ เมื่อคืนกว่าจะขับรถกลับจากร้อยเอ็ดมาถึงหอก็ตีสาม กว่าจะอาบน้ำ กว่าจะได้นอน พอจะนอนในห้องก้มีคนโทรมากวน

    คนหล่อล่ะเซ็ง = =

     

    ----------------------------------------------------------------------------------

     

    มนุษย์อุลตร้าแมนนนนนนนนนนนนไม่ใช่อุลตร้าแมนบุกโลกหรอกครับ เสียงแฟนคลับไอ้พ็อตไอ้โจ้ที่เป็นแฟนคลับของผมเอง ผมเจอจนชินแล้วครับกลุ่มนี้ น้องๆเค้าน่ารักดี หิ้วของฝากมาฝากผมและเดอะแก็งค์เป็นประจำ จริงๆผมก้เหงานะครับ จากที่เคยเจอแฟนคลับหอบหิ้วของมาให้ทุกวัน ก็ต้องเปลี่ยนมาเจอเพื่อนๆนักศึกษา หอบหิ้วหนังสือเรียนคนละสี่ห้าเล่มแทน ดีหน่อยมีน้องกลุ่มนี้คอยหอบหิ้วข้อความไม่ก็ของฝากจากแฟนคลับคนอื่นมาให้ได้หายเหนื่อยบ้าง มาเล่านู่นนี่ให้ฟังบ้าง หายเหงาไปเยอะเลย

     

    พี่ริทททท เอฟซีอีสานรักพี่ริทน้า

     

    จ้า รักเหมือนกัน แล้วนี่ไม่มีเรียนหรอเนี่ยผมถามแล้วหันไปค้นหาบีบีในกระเป๋า หายไปไหนล่ะ -0-

     

    เรียนเสร็จแล้วค่า พอดีจะเข้าไปเรียนในคอมเพล็กซ์ต่อ เลยแวะเข้ามาทักทาย ฮ่าๆ น้องเค้าตอบอย่างอารมณ์ดี ผมพยักหน้าแล้วหันไปรื้อกระเป๋าต่อ อย่าบอกนะว่าหาย - -

     

    เอ้อพี่ริท พี่ทำโทรศัพท์ตกไว้ในห้องพื้นเอียงเมื่อกี๊อ่ะ อ่ะ ผมเก็บมาให้ พ็อตพูดแล้วยื่นโทรศีพท์ให้ผม ตกใจหมด นึกว่าหาย

     

    -142 miscalled ‘P’Tono’-

     

    เวรแล้วไง !!!!! =[]=

     

    ผมรีบกดโทรกลับหาเจ้าของร้อยกว่ามิสคอลนั่นทันที แงงงง ก็คนมันง่วงอ่ะเลยไม่ทันได้สงสัยว่าใครโทรมา เจอเซอร์ไพร์ซเลยมั้ยล่ะผม -0-  น้องๆแฟนคลับที่คุยอยู่กับไอ้โจ้หันมามองผมแล้วหัวเราะ ใชเซ่! เด็กพวกนี้นอกใจผม -^-

     

    มันใช่เวลามาหวงแฟนคลับมั้ยฮะริทเดอะสตาร์ !!!

     

    ตู๊ด...ตู๊ด...ตู๊ด...

     

    ไม่รับสาย..

     

    ตู๊ด...ตู๊ด...ตู๊ด...

     

    ยังคงไม่รับ..

     

    ตู๊ด...ตู๊ด...ตู๊ด..

     

    ฮัลโหล..

     

    เอ่อพี่โตโน่ คืองี้นะ คืองี้..

     

    ‘…………..’

    ริทง่วงอ่า เลยหลับในห้องแล้วลืมรับสายพี่โตโน่อ่า..

     

    ‘…………………….’

     

    อย่าเงียบเด้ ! T_T

     

    แล้วเมื่อกี๊โทรศัพท์ริทตก ริทไม่รู้ ดีนะไอ้พ็อตเก็บไว้ให้อยู่

     

    ‘……………………..’

     

    เห็นมิสคอลแล้วตกใจเลย แหะๆ

     

    จบยัง?’

     

    เอ่อ...คือ...

     

    กูถามว่ามึงพูดจบยังเสียงห้วนๆพร้องสรพพนามที่คุ้นเคยถามผมมา ผมหันซ้ายหันขวาก็เห็นแต่น้องเอฟซีอีสานห้าหกคนยืนหน้าเหลอหลาปนเพ้ออยู่ข้างๆไอ้โจ้ที่ทำหน้าตาไม่ได้ต่างกันเท่าไหร่ เห็นไอ้พ็อตที่ยืนมองหนย้าไอ้โจ้แล้วยิ้ม.. เสียงใบไม้ปลิวไหว เสียงนกร้องจิ๊บๆอยู่ภายใต้โรงจอดรถอาคารเรียนนวมแห่งนี้ TT

     

    จะ..จบแล้วๆ

     

    ถ้าจบแล้วก็หันหน้ามา

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    TONO PART

     

    ถ้าจบแล้วก็หันหน้ามาผมกรอกเสียงลงในโทรศัพท์ที่เริ่มจะร้อนเพราะใช้งานอย่างหนักตลอดเวลาเกือบ 5  ชั่วโมงที่ผ่านมา

    คนตัวเล็กที่อยู่ในชุดนักศึกษาแพทย์หันซ้านหันขวาด้วยใบหน้างุนงง ก่อนจะทำหน้าตกใจเมื่อเห็นผมยืนอยู่หน้าไม้กั้นรถเข้าคณะ ต้องขอบคุณไอ้พ็อตเตอร์ที่ช่วยส่งข่าวบอกผมว่าไอ้เตี้ยขี้เซานี่อยู่ไหน

     

    คุณรู้มั้ย? ว่าผมเป็นห่วงมันแค่ไหน คิดว่าไอ้เตี้ยตรงหน้ามันจะเป็นอะไร เมื่อวานมันมีไข้ แต่ดันซ่าอยากขับรถกลับจากร้อยเอ็ดมาขอนแก่นคนเดียว ก่อนออกจากบ้านมัน ผมก็โทรย้ำนักย้ำหนา ฝากพี่ชายน้องชายมันเตือนก็แล้ว เตือนมันด้วยตัวเองก็แล้ว ว่าถ้าถึงหอแล้วให้โทรกลับหาผมด้วย ผมจะได้วางใจว่ามันกลับถึงหออย่างปลอดภัย ไม่ไปไข้ขึ้นกลางทาง มันก็รับปากผมอย่างดี ไอ้ผมที่ถ่ายละครอยู่กองก็ไม่เป็นอันทำอะไร นั่งรอสายเรียกเข้าจากมันอยู่อย่างเดียว ท่องบทผิดๆถูกๆเป็นว่าเล่น พอโทรไปอีกทีกลับโทรไม่ติด มาติดอีกทีก็ตอนเช้า ไอ้หมอเตี้ยนี่ก็ไม่รับโทรศัพท์ผมอีก คนที่เป็นห่วงจนจะบ้าอย่างผมเลยต้องรีบเคลียร์คิวให้เร็วที่สุดแล้วนั่งเครื่องมาหามันที่ขอนแก่น

     

    ปรากฏว่าที่มันไม่รับโทรศัพท์ผมเพราะว่ามันหลับในห้องเรียน..

     

    มันน่าโมโหมั้ยล่ะครับ?

     

    เฮ้ย! พี่โตโน่ มาได้ไงอ่ะ

     

    “………….”

     

    ตกใจหมด อ้ะ!”

     

    ไม่ต้องรอให้มันพูดจบ ผมก็เดินไปคว้ามันมากอดทันที เมื่อเล็กๆนั่นทุบผมก่อนจะเปลี่ยนเป็นกอดกลับเบาๆ

     

    เป็นห่วงแค่ไหนรู้มั้ย..

     

    “……….”

     

    ไข้ก็มี แล้วทำไมยังดื้อขับรถกลับหอเองคนเดียว

     

    “………”

     

    ทำไมไม่ให้ใครมาส่ง ทำไมไม่ให้พี่หรือน้องมึงมาส่ง

     

    “……….”

     

    ให้ไอ้พ็อตไปรับก็ได้

     

    “……….”

     

    ทำไมไม่รับสายกู

     

    “……….”

     

    ทำไมวะริท..ผมพูดเสียงน้อยใจ ก่อนที่มือน้อยๆนั่นจะทุบหลับผมอีกรอบ

     

    ริทขอโทษ

     

    “……….”

     

    ที่กลับเองเพราะไม่อยากให้ใครลำบากมาส่ง น้ำมันเดี๋ยวนี้มันแพงรู้รึเปล่า จะเติมแก๊สก็ต้องรอคิวเป็นชาติ ไอ้พ็อตก็ทะเลาะกับไอ้โจ้เลยอยู่เคลียร์กันก่อน ริทไม่อยากรบกวนน้อง อีกอย่าง ริทก็ไม่ได้เป็นอะไรมากด้วย ขับกลับเองได้สบายอยู่แล้ว

     

    “……….”

    ไม่เจอกันไม่กี่เดือน กลายเป็นตาแก่ขี้งอนไปแล้วหรอพ่อกุ๊ย ฮ่าๆ

     

    “……….”

     

    แล้วก็ปล่อยริทได้แล้ว เดี๋ยวใครมาเห็นเข้ามันจะไม่ได้นะพ่อซุปตาร์

     

    “……….”

     

    อ้าวนั่น ทำมาเป็นเงียบ เป็นเอ๋อเหรอไปแล้วหรอฮะพี่โน่

     

    ผมจ้องหน้าแป้นแล้นของมันที่เอาแต่ล้อเรา ก่อนจะฉีกยิ้มบางๆให้ ชอบทำให้คนเป็นห่วงอยู่เรื่อย คิดว่าตัวเองเป็นซุปเปอร์แมนหรือไงนะที่ทำอะไรก็ไหว ชอบเกรงใจชาวบ้านชาวช่องเค้าไปทั่ว

     

    นี่สินะไอ้เตี้ยของผม

     

    แล้วนี่มาได้ไงเนี่ย?”

     

    เหาะมามั้งยักคิ้วกวนๆให้มันไปที คนตรงหน้าเบะปากแล้วดันหลังเราให้เดินไปหาที่นั่งคุยกันดีๆ

     

    กวนตลอดเลยพี่โน่เนี่ย ไปๆ ไปหาที่นั่งคุยกันดีๆดีกว่า ตรงนี้มันร้อนผมพยักหน้ารับแล้วเดินไปพร้อมๆกับมัน ตาเหลือบไปเห็นเด็กๆกลุ่มนึงที่ยืนเกาะไหล่เกาะแขนกันเองด้วยหน้าตาจิตหลุด คงจะเป็นน้องๆแฟนคลับที่ริทเคยเล่าให้ฟังบ่อยๆว่าชอบมาเล่นด้วยคลายเหงา

    เอ่อ...เฮีย...น้องคนนึงเรียกผมเบาๆ ผมยิ้มแล้วเดินเข้าไปหา

     

    จ๋า มาทำอะไรกันเนี่ย ไม่มีเรียนหรอ?”

     

    ถามคำถามเดียวกันอีกมึงงงงงงงงงงง >.<”  เด็กผู้หญิงสิงคนข้างหลังกระซิบกัน แต่ผมเป็นพวกหูไวครับ ได้ยินแม้เสียงลมพัด(?) จับใจความได้ว่าน้องแกกำลังฟินแน่นอน หน้าตานี่ไปหมดแล้ว ฮ่าๆ

     

    อ๋ออ กะ..กำลังจะไปเรียนพิเศษค่ะ เอ่อ.. เฮียมาได้ไงอ่ะ?”

     

    อ๋อออ มาตามไอ้เตี้ยขี้เซาที่ไม่ยอมรับโทรศัพท์น่ะ หึหึ..ตอบกวนๆแล้วหันไปยักคิ้วให้ไอ้เตี้ยหนึ่งที มันเบะปากหมั่นใส้มาให้พอให้เราได้หัวเราะ

     

    อ๋อออออ ค่ะๆ เฮียยย เอฟซีอีสานรักโน่ริทนะ ^^”

     

    จ้า ตั้งใจเรียนกันด้วยนะ ขอบคุณที่รักผมกับน้องชายนะครับ

     

                    “รักอยู่แล้วววววว

     

                    “อ้อ แล้วเรื่องที่ผมมาขอนแก่นวันนี้..

     

                    “คะ ?”

     

                    ไอ้เตี้ยยินมาอยู่ข้างงๆผมแล้วหันมามองหน้าเป็นนัยๆ ผมไว้ใจแฟนคลับผมและแฟนคลับไอ้เตี้ยอยู่แล้ว แลละผมก็เชื่อว่าริทมันก็รู้สึกอย่างนั้น เรื่องที่ผมมาวันนี้ ถ้ารู้กันหมดทั้งทวิตเตอร์มีหวังกล่องเมนชั่นผกับเตี้ยคงถล่มทลายเป็นแถบๆแน่ๆ แล้วที่สำคัญ ผมอาจจะฆ่าแฟนคลับตายโดนไม่รู้ตัว เลยหันไปบอกน้องๆแฟนคลับพร้อมกันด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

     

                    เรารู้กันนะ J

     

                   

                   

     

     

     

     

     

     

                   

     

     

                    “เอ่ออ เฮียคะ พี่ริทททท 

     

                    หือ?”

     

                    “เคลียร์กันสองต่อสองเนี่ย โรงอาหารคณะคงไม่ดีเท่าไหร่มั้งง พวกเค้าคิดว่า ร้านเค้กจ๊อบฝั่งกัง เวลานี้คงกำลังจะเงียบๆอยู่ ^^”

     

                    “หึหึ..

     

                    “แล้วก็..พี่พ็อตพี่โจ้วววววววววว

     

                    “หือ?” 

     

                    มานี่ๆ เค้าว่าเราไปกินก๋วยเตี๋ยวเจ้มุกกันดีกว่านะพี่นะพูดพร้อมเด็กสาวสี่คนที่วิ่งเข้ามาลากแขนทั้งสองไปทางโรงอาหารคณะ ทิ้งให้ภาคินและเรืองฤทธิ์ยืนอมยิ้มกันสองคนอยู่ใต้โรงจอดรถคณะแห่งนั้น..

     

                    เรื่องเนี้ย ปล่อยเค้าเค้ารู้กันแค่สองคนจะดีกว่านะ J

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×