คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 2 จูบ
ตอนที่ 2 จูบ
ผมเดินออกจากห้องเรียน ไปพบอาจารย์เรื่องหัวข้อโปรเจค และใช้เวลาอธิบายแนวความคิดของผมที่คาดว่าจะเป็นที่พอใจของอาจารย์ นานและซ้ำไปซ้ำมาจนผมเริ่มหงุดหงิด ผมพยายามเก็บอารมณ์ และพยายามอย่างมากที่จะไม่ชักสีหน้าจนดูเสียมารยาท
“โอเค คุณทำเรื่องนี้ได้”
ในที่สุดเวลาของผมในห้องสี่เหลี่ยมอันน่าอึดอัดก็จบลง ผมเดินออกมาพร้อมกับความไม่เข้าใจ คนความรู้เยอะคงมีระดับความคิดที่ต่างจากนักศึกษาที่เพียงแค่ต้องการจบตามเวลาอย่างพวกผม ผมพูดอยู่ตั้งนาน เพียงเพื่อให้ท่านศาสตราจารย์บอกว่า... ให้ทำต่อไปได้...
ผมก้มมองนาฬิกาที่ข้อมือ ยิ่งทำให้ผมนึกโมโห นี่มันเลยเวลาที่ผมนัดคิมเอาไว้แล้ว ผมรีบเดินลงบันไดเพื่อไปหาเธอที่ม้านั่งหน้าตึกซึ่งเธอบอกจะรอผมตรงนั้น ผมก้าวเท้าลงบันไดพลางนึกถึงสีหน้าหงุดหงิดของคิม สายตาค้อนที่เธอมักส่งให้ผมเวลาไม่พอใจ แต่รอยยิ้มเอาใจ... ที่ผมอยากเห็นนี้แหละ ที่ทำให้ผมต้องง้อเธอทุกครั้ง
คิมเรียนที่นี่ อยู่ปีเดียวกับผม แต่คนละคณะ และเพราะคณะและสาขาที่คิมเลือกเรียนนั้น ทำให้เธอต้องสวยเฉียบอยู่เสมอ ผมจีบเธอเพราะความสวยโดดเด่น มีเสน่ห์ดึงดูดใจ อย่างที่บอกว่าผมจีบเธอ และเธอก็ยังไม่ตกลงเป็นแฟนกับผม วันนี้ผมให้เธอรอ... ซึ่งนั่นมันไม่เป็นผลดีกับผมเลย
ผมเดินลงมาถึงชั้นล่างสุด จะถึงทางเลี้ยวอยู่แล้ว แต่การเคลื่อนไหวของใครคนหนึ่ง ที่เดินเร็วๆ ผ่านหน้าผมไป มือเขาถือโทรศัพท์ ท่าทางเร่งรีบ แต่สีหน้าเขาที่แม้ผมจะเห็นแค่ครึ่งเดียวก็รู้ว่านั่นคือความตื่นเต้นยินดี... ลีฮยอกแจ... อะไรที่ทำให้เขาแสดงอารมณ์และความรู้สึกได้ขนาดนั้น
ผมก้าวเดินตามเขาไปห่างๆ ทั้งที่กังวลถึงหญิงสาวที่คงรอผมจนหน้าหงิก รึไม่เธอคงทนไม่ไหวจนไปก่อนแล้ว ทั้งที่ผมคิดไว้ว่าจะขอโทษเธอ และพาเธอไปกินข้าวเพื่อไถ่โทษ แต่ขาผมกลับก้าวตามลีฮยอกแจไป... เขาจะไปไหน ทำไมถึงดูตื่นเต้น นั่นคือสิ่งที่ผมอยากรู้
และคำตอบที่ผมต้องการก็อยู่ข้างหน้าผมนั่นเอง ลีฮยอกแจวิ่งเข้าไปกระโจนกอดชายหนุ่มคนหนึ่ง ซึ่งอ้าแขนรอรับเขาอยู่แล้ว ‘คงจะไม่ได้เจอกันมาเป็นเป็นชาติ’.. ผมคิดในใจ ผู้ชายคนนั้นดึงลีฮยอกแจออกจากอ้อมกอด ถ้อยคำทุกคำที่ผมเห็นเขาขยับปากพูด มันเจือด้วยรอยยิ้ม ส่วนสูงที่ไม่ธรรมดาของเขา ทำให้เขาต้องก้มมองอีกคน ซึ่งกำลังแหงนมองเขาเช่นกัน ผมซึ่งมองอยู่ห่างๆ เห็นแล้วรู้สึกกระอักกระอวน ไม่อยากมองให้เสียลูกตา เลยผมหันกลับทางเดิม
“ใครวะ!..... หน้าบานเชียวนะลีฮยอกแจ” ผมพึมพำเบาๆ พลางคิดต่อว่าเขาสองคนคงมีความสัมพันธ์อะไรบางอย่าง ไม่แน่กอดกันกลมขนาดนั้น คงเป็นคนรักที่พลัดพรากกันมานาน... ผมหัวเราะในลำคอให้กับความคิดของตัวเอง และเหมือนผมกำลังหัวเราะเยาะภาพผู้ชายกอดกันที่เห็นเมื่อครู่ด้วย แต่ผมหุบรอยยิ้มขำๆ ของตัวเองทันที เมื่อเงยหน้าขึ้นมาเห็นคิมยืนจ้องผม ห่างไปไม่กี่ก้าว
“ทีหลังถ้าจะให้ฉันรอนานแบบนี้ ไม่ต้องนัดแล้วนะ”
เธอพูดแค่นั้นก็สะบัดหน้าเดินจากไปอย่างฉุนเฉียว พอผมนึกได้แล้วจะวิ่งตามไป ดันซวยไปชนนักศึกษาหญิงคนหนึ่งซึ่งถือน้ำหวานแก้วใหญ่มา และบังเอิญว่าผมโชคร้ายมาก ที่ทั้งแก้วนั้นหกใส่หน้าอกผมเต็มๆ
“ซวยจริงๆ” ผมพูดพลางกวักน้ำจากอ่างล้างหน้าขึ้นมาเช็ดสีแดงออกจากเสื้อ ผมกำลังหงุดหงิด อารมณ์เสีย และเพราะน้ำหวานเหนียวๆ บนอกเสื้อที่ล้างเท่าไหร่ก็ยังเห็นสีแดงชัดเจน ทำให้ผมหมดปัญญา เลยปิดน้ำแล้วทิ้งแผ่นหลังพิงกับผนัง ถอนหายใจมองพื้นกระเบื้องสีสะอาดตาของห้องน้ำที่ตอนนี้มีเพียงผมยืนอยู่ แต่ความเงียบอยู่กับผมไม่นาน เสียงฝีเท้าใครคนหนึ่งเดินเข้ามาในห้องน้ำ เขาเดินผ่านผมเข้าไปยืนหน้าอ่างล้างมือที่อยู่ในสุด ทำไมล่ะ... เดินผ่านไปทำไมตั้งไกล... คิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้ นอกจากเขาไม่อยากยืนใกล้ผม ผมชักอยากรู้ขึ้นมาว่าเขาเกลียดผมงั้นเหรอ.... ลีฮยอกแจ ก็ไม่ชอบขี้หน้าผม เหมือนที่ผมไม่ปลื้มท่าทางเฉยเมยของเขาเหมือนกันงั้นเหรอ
ผมจ้องมองมือเขาที่คงเปื้อนอะไรสักอย่างสีดำๆ เต็มไปหมด ผมคิดว่าคงเป็นช็อคโกเลตหรืออะไรทำนองนั้น เขาถูมือเบาๆ ในอ่างที่กำลังเปิดน้ำไหลผ่าน ผมเงยหน้าขี้นมองใบหน้าซีกขวาของลีฮยอกแจภายใต้ความเงียบของเราสองคน ซึ่งได้ยินเพียงเสียงน้ำไหล
“ไง”
ผมพูดขึ้น จะเป็นไรไป ถ้าผมจะพูดกับเขาก่อน ถึงแม้ความรู้สึกผมตอนนี้จะไม่ใช่ว่าอยากทำความรู้จักก็เถอะ แต่การเอ่ยปากออกไปของผมครั้งนี้ ทำให้ผมเกิดความคิดบางอย่างขึ้นมา
“..............” แน่นอนเขาไม่ขานตอบ แต่ดูเขาชะงักไปนิดนึงในตอนที่ผมพูด
“หวานใจมาหาถึงที่เลยเหรอ” และแน่นอนว่าประโยคนี้ผมตั้งใจที่จะพูดมาก ดูสิว่าเขาจะโกรธรึเปล่า
“ไม่ปฏิเสธด้วยแฮะ ไม่ยักกะรู้ว่านายมีรสนิยมแบบนี้”
ผมยังพูดต่อ และเขายังเงียบถูไถมือไม่หยุด ทำให้ผมได้ใจมากกับความรู้สึกเป็นต่อจากคำพูดที่หวังให้กระทบกระแทกใจเขา
เขาปิดก๊อก สลัดน้ำออกจากมือแล้วหันหน้าเพื่อจะเดินออกไป ในเวลาแค่แว๊บเดียวที่เขามองผม สายตาที่ส่งความไม่พอใจมาให้ผมนั้นกระตุ้นให้ผมอยากเห็นเขาโกรธมากขึ้นอีก ผมยิ้มให้เขา... ยิ้มที่ปราศจากความจริงใจใดๆ อย่างชัดเจน ยิ้มเยาะ... นั่นแหละคือคำที่เหมาะสมที่สุด
ในระหว่างที่เขาก้าวเดินออกมาทางประตู ผมมองผ่านประตูออกไปเท่าที่ผมสามารถมองเห็นได้ ... ไอ้อ้วนที่คอยตามเขาไม่ได้อยู่แถวนี้... ผมคิดอย่างนั้น และแม้จะมีความคิดแทรกขึ้นมาบอกว่าอาจจะอยู่ข้างนอกแต่ผมมองไม่เห็น เพราะผมเองก็ยืนพิงผนังอยู่ เห็นได้แค่ช่วงแคบๆ ถึงจะคิดอย่างนั้น แต่ในนาทีที่เขาเดินผ่านหน้าผม ผมก็คว้าเอวเขาไว้ได้ทัน ก่อนที่เขาจะก้าวผ่านประตูออกไป
ผมดึงเขาเข้ามาหา และพลิกตัวดันเขาให้พิงกับผนังแทน อีกมือล็อคข้อมือของเขาไว้กับผนัง ดูท่าทางเขาตกใจ แต่ยังไม่พูดอะไรซักคำ
“ฉันพูดกับนายไม่ได้ยินรึไง” ผมพูดเบาๆ
“ได้ยิน แต่ไม่อยากตอบ” เขาจ้องตาผมด้วยความถือดี แต่แทนที่ผมจะโกรธ กลับพอใจที่ได้ยินเสียงเขา... เสียงเขาที่พูดกับผมเป็นครั้งแรก
“ฮึ ไม่อยากตอบก็ไม่ต้องตอบ ไม่ได้บังคับ” ผมยิ้มยียวนเขา
“งั้นก็ปล่อย” เขาเริ่มขยับตัว ออกแรงดึงข้อมือตัวเองออกจากมือของผม
“จะรีบไปหาแฟนเหรอ ให้รอนิดหน่อยคงไม่เป็นไรหรอกน่า” ผมตั้งใจกวนโมโหเขา เขาเริ่มเม้มริมฝีปาก ... คงโกรธแล้วสิ
“ฉันอยากรู้นัก เวลานายอยู่กับผู้ชายคนนั้น พวกนายทำอะไรกัน” ผมยื่นหน้าเข้าไปกระซิบที่ข้างหูเขา
“ต่ำ” เขาพูดคงเพราะเหลืออด นัยน์ตาสีดำสนิทของเขาสั่นไหวและขอบตาเริ่มแดง... เขาอ่อนแอกว่าที่ผมคิด และเพราะผมเผลอมองดวงตาของเขา เผลอมองปากแดงที่เม้มสนิท เผลอคิดว่าเขากับหมอนั่นทำอะไรกัน เขาก็ได้โอกาสผลักผมออกมา แรงชกจากกำปั้นของเขา กระทบเข้าที่มุมปากผมอย่างไม่เต็มแรงเท่าไหร่ คงเพราะเขายังไม่ทันได้ตั้งหลัก แต่มันก็ทำผมให้รู้สึกชาไปครู่นึง ผมหันกลับมาเห็นเขาสะบัดกำปั้นอยู่ในอากาศ เพราะคงเจ็บมือ และพอผมจะขยับก้าวเข้าไปหาอีก เขาก็ทำท่าจะวิ่งออกไป และอีกครั้งที่ผมคว้าเขาไว้ทัน
ผมผลักเขาเข้าหาผนังด้วยแรงที่มากกว่าครั้งแรก การกระทำต่อจากนั้นของผม อยู่เหนือความคิด ผมบดริมฝีปากลงบนปากแดงๆ ของเขา ความวูบไหวในหัวใจทำให้ผมไม่อยากรุนแรง แต่มันก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ เมื่อเขาไม่ยินยอม และทางเอาชนะแรงต้านนั้น ก็คือการใช้กำลัง
การจูบที่ไร้ความเสน่หา... ผมให้คำจำกัดความจูบครั้งนี้ในใจ แต่พอผมผละริมฝีปากออกมา ผมกลับอยากสัมผัสอีกครั้ง เขาดูช็อคกับสิ่งที่เกิดขึ้น และเหมือนกำลังจะพูดอะไรสักอย่าง แต่คำพูดอะไรก็แล้วแต่นั้นไม่ได้หลุดออกมา... ผมประทับจูบกับริมฝีปากเขาอีกครั้ง และครั้งนี้ง่ายกว่า เพราะเขาไม่ได้ดิ้นรนต่อต้านเหมือนครั้งแรก คงเพราะเขายังช็อคอยู่
เขาผลักหน้าอกผมออกแรงๆ มองผมเหมือนไม่อยากเชื่อกับสิ่งที่เกิดขึ้น
“นายจูบฉันทำไม!”
ผมไม่ตอบ เพราะผมก็ไม่รู้
“ไอ้เลว...แกจูบฉันทำไม!” เขาพูดเสียงดังขึ้น ขอบตาแดงกว่าเดิม และเริ่มเห็นน้ำตาปริ่มที่ขอบตา
“จูบเหรอ แค่ปากสัมผัสกันนายเรียกว่าจูบเหรอ ถ้าอยากได้จูบก็ออกไปเอากับแฟนนายโน้น” ผมพูดเสียงดังกลับบ้าง แล้วเดินออกมาจากห้องน้ำ รู้สึกโมโหที่เขาทำท่าทางโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ แถมยังเหมือนจะร้องไห้อีก... ถ้ารู้อย่างนี้ผมไม่เสียเวลาทำอะไรบ้าๆ แบบนั้นหรอก เพราะผมยิ่งหงุดหงิดอารมณ์เสียยิ่งกว่าเดิมอีก
-------------------------------------------------------------------
ความคิดเห็น