คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ตอนที่ 4
ตอนที่ 4
“กระหม่อมจะจัดยาให้ท่านหญิงนะพะย่ะค่ะ”
“อืม อี้ฮวงส่งท่านหมอด้วย”
“เพคะ เชิญท่านหมอ”
“กระหม่อมทูลลา”
ฮองเฮานั่งลงข้างเตียงแทนที่ท่านหมอ ในมือมีผ้าขาวสะอาดซับตามใบหน้าเล็กที่หลับตาพริ้มหลังจากที่กินยาชุดแรกไป โชคดีเหลือเกินที่นางไม่ได้เป็นอะไรมากเพียงแค่กินข้าวผิดเวลาเท่านั้นเอง พระนางมองจื่อหลินครู่เดียวก่อนจะลุกออกจากห้องไปให้นางได้นอนพักผ่อน
แต่ใครจะรู้ว่านางไม่ได้ดื่มยาที่นางกำนัลเอามาให้เลย เสียงปิดประตูดังขึ้นเป็นจังหวะเดียวกันกับที่ดวงตาหวานเปิดออก จื่อหลินกวาดสายตามองไปรอบห้องเล็ก เมื่อแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่ในห้องนางจึงลุกขึ้นนั่งพลางถอยหายใจโล่งอกเหมือนได้ยกภูเขาออกไปได้
“หวังว่าจะรอดถึงคืนพรุ่งนี้นะ ฟู่!”
จื่อหลินใช้มือเล็กตบอกเบาๆ วันนี้รอดไปได้ทีนึงพรุ่งนี้นางจะต้องหาวิธีไหนเอาตัวรอดอีกนะเนี่ย เป็นเพราะเด็กหนุ่มที่ชื่อฉิ๋นหมิ่นซื่อคนนั้นแท้ๆเลย เอาของของนางไปแล้วยังจะสร้างเรื่องให้นางต้องโกหกเสด็จแม่ ไหนจะนางกำนัลที่มีหูมีตาเต็มไปหมด มันน่านัก!
ร่างสูงของเด็กหนุ่มในชุดผ้าแพรตัดเย็บสวยงามยืนอยู่ริมหน้าต่าง ดวงตาสดใสมองทิวทัศน์สวยงามภายนอก ใบหน้าเล็กสะอาดหมดจด คำพูดเจี้ยวจ้าวของเด็กน้อยพลันปรากฏแจ่มชัดในโสตประสาท เพียงแค่นึกถึงก็ทำให้เขาเผลอหลุดหัวเราะออกมาลำพังราวกับคนบ้าก็ไม่ปาน ไม่รู้แม้กระทั่งว่าตอนนี้เป่าหมิงคนสนิทของตนเดินเข้ามาห้องมาด้วยซ้ำ
“องค์ชาย….”
“อ้าว เจ้าเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ ช่างเถอะๆ มีเรื่องอะไรหรือ”
“ทูลองค์ชาย หลั่วเจาอี๋มีรับสั่งให้พระองค์รีบกลับวังด่วนพะย่ะค่ะ”
เมื่อได้ยินข่าวจากปากเป่าหมิงเด็กหนุ่มหุบยิ้มแทบจะทันที เขาไม่ชอบการใช้ชีวิตอยู่ในวังที่มีกฏเกณฑ์มากมาย ไหนจะการแก่งแย่งชิงอำนาจพวกนั้นอีก เขาเบื่อเสียเหลือเกินที่จะต้องกลายเป็นเครื่องมือแสวงหาอำนาจให้กับผู้อื่น สู้ใช้ชีวิตสามัญชนคนทั่วไปยังจะมีความสุขมากกว่าอีก
“ไม่ ข้าไม่กลับ!”
“แต่องค์ชาย....”
“องค์ชายอะไรกัน ที่นี่ไม่มีใครเป็นองค์ชายทั้งนั้นหากเจ้าต้องการองค์ชายก็จงไปหาในวังหาใช่ที่นี่ไม่!”
“เดี๋ยวสิพะย่ะค่ะ! องค์ชาย! องค์ชาย!....”
เด็กชายเดินออกจากห้องไม่สนเสียงเรียกของเป่าหมิงแม้แต่น้อย กว่าจะหนีออกจากรั้ววังอันแสนวุ่นวายมาได้ช่างยากเย็นเสียเหลือเกินเรื่องอะไรที่เขาจะยอมกลับวังง่ายๆกันเล่า!
“โธ่ องค์ชาย นี่เป็นรับสั่งจากพระสนม หากกระหม่อมกลับไปทูลว่าองค์ชายไม่ยอมกลับวัง กระหม่อมต้องโดนลงโทษแน่ๆ”
เป่าหมิงรีบเดินตามหลัง ‘หมิงหลี่ซื่อ’ เกรงว่าหากช้ากว่านี้ เด็กหนุ่มตรงหน้าจะหนีออกไปเที่ยวข้างนอกอีก
“ข้าบอกแล้วไง ที่นี่ไม่มีองค์ชายมีแต่ฉิ๋นหมิ่นซื่อ หากเจ้าอยากเจอองค์ชายนักก็กลับวังไปซะ!”
“องค์ชาย!….”
เด็กหนุ่มเดินหนีคนสนิทอีกครั้ง ฉิ๋นหมิ่นซื่อเป็นเพียงชื่อปลอมที่เขามักจะใช้เมื่อยามออกมาเที่ยวเล่นข้างนอก แม้วันจะฟังดูแปลกหูแต่เขาก็ชอบมากกว่าชื่อหมิงหลี่ซื่อที่ใครต่อใครจะเรียกมันด้วยคำนำหน้าว่า ‘องค์ชาย’
ตั้งแต่เกิดมา รอบตัวหลี่ซื่อมีพร้อมหมดทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นยศศักดิ์ เงินทองหรือแม้แต่อำนาจ บ้านของเขาคือที่ที่ใครหลายคนอยากจะเข้าไปสักครั้งแต่หารู้ไม่ว่าที่แห่งนั้นไม่ต่างอะไรจากคุกที่กักขังไม่ให้มีอิสระเลยต่างหาก แม้จะมีทุกอย่างทั้งพ่อแม่ คนคอยรับใช้ปรนนิบัติแต่สิ่งหนึ่งที่เขาไม่เคยมีเลย นั่นก็คือความสุข….
“องค์ชาย พระองค์ออกมาเที่ยวเล่นอย่างนี้นานแล้วนะพะย่ะค่ะ พระสนมทรงเป็นห่วงพระองค์มาก จนกินไม่ได้นอนไม่หลับ องค์ชายจะปล่อยให้พระนางเป็นเช่นนี้ได้หรือพะย่ะค่ะ”
สองเท้าที่กำลังจะก้าวเดินไปตามทางในสวนหยุดชะงักทันที หลี่ซื่อหันขวับกลับไปมองเป่าหมิง คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันอย่างหงุดหงิด แล้วทำไมไม่บอกเรื่องนี้กับเขาตั้งแต่แรกเล่า!
“เจ้าพูดว่าอะไรนะ”
“พระองค์ได้ยินไม่ผิดหรอกพะย่ะค่ะ พระสนมทรงเป็นห่วงพระองค์มาก นับตั้งแต่ที่พระองค์หนีออกจากวังมา ไม่ยอมส่งข่าวคราวใดๆกลับไป พระนางจึงล้มป่วยกินไม่ได้นอนไม่หลับ พอรู้ว่าองค์ชายประทับอยู่ที่นี่จึงมีรับสั่งให้พระองค์กลับวังโดยด่วนอย่างไรล่ะพะย่ะค่ะ”
ดวงตาคมสั่นไหวระริกเพียงชั่วครู่ก่อนจะกลับมาขุ่นมัวอีกครั้ง พระนางประชวรแล้วอย่างไรเล่า ในวังมีนางกำนัลคอยดูแล มีหมอหลวงเก่งๆมากมายไม่มีอะไรต้องน่าเป็นห่วงหรอก
“หมอหลวงมีมากมายไม่จำเป็นที่จะต้องให้ข้ากลับไปหรอก ข้าไม่ใช่หมอ ไหนเลยจะทำให้เสด็จแม่ดีขึ้นได้”
“ป่วยทางกายหมอหลวงคนไหนก็รักษาได้ แต่ป่วยทางใจต่อให้เป็นเทพเซียนมารักษาก็ไม่หายหรอกพะย่ะค่ะ”
“แต่ข้าไม่อยากกลับวัง! ที่นี่มีแต่คนหลอกลวง ต่อหน้าแสร้งทำเป็นภักดีแต่ลับหลังพร้อมที่จะฆ่าข้าได้ทุกเมื่อ ยิ่งเป็นรับสั่งของเสด็จแม่ด้วยแล้วคงไม่พ้นให้ข้าสู้รบปรบมือกับองค์ชาย 7 ช่วงชิงตำแหน่งองค์รัชทายาทมาครองหรอก!”
“ลูกมักจะเป็นความหวังของพ่อแม่ดั่งโบราณกล่าวเอาไว้ แม้พระองค์จะไม่ทรงอยากเป็นองค์รัชทายาทแต่พระองค์จะไม่กลับไปทำหน้าที่ลูกได้หรือพะย่ะค่ะ”
ใช่! หลี่ซื่อไม่อยากเป็นองค์รัชทายาทแม้แต่น้อย เป็นแล้วได้อะไรเล่า ต้องคอยแก้ปัญหาบ้านเมืองที่มีเหล่าขุนนางคอยหลอกตา ปิดบังความจริง คอยแต่จะแก่งแย่งอำนาจกันไปมา ไหนจะเรื่องของเหล่าสนมที่คอยแต่จะขึ้นสู่ที่สูง อยากจะเป็นใหญ่ในวังหลังพวกนั้นอีก หลี่ซื่อไม่ต้องการชีวิตที่แสนจะวุ่นวายเช่นนั้น ขอเพียงได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขไม่ต้องคิดเรื่องใดให้มากความอย่างตอนนี้ก็พอ แต่ถึงอย่างไร หลั่วเจาอี๋ก็คือพระมารดาแท้ๆที่อุ้มท้องเขามา จะไม่เหลียวแลเลยได้อย่างไรเล่า เมื่อคิดมาถึงตรงนี้หลี่ซื่อถอนหายใจออกมา ไม่ว่าอย่างไรแล้วเขาก็ไม่สามารถเป็นลูกที่อกตัญญูต่อพ่อแม่ได้จริงๆ
“ก็ได้ๆ ขอเวลาข้าหน่อยก็แล้วกัน”
“ทำไมต้องรออีกพะย่ะค่ะ พระองค์ควรรีบเสด็จกลับตอนนี้จะดีกว่านะพะย่ะค่ะ”
“ข้ามีเรื่องที่ต้องสะสางของข้า ไม่เกี่ยวกับเจ้า”
หลี่ซื่อพูดยิ้มๆ สร้างความงุนงงให้กับเป่าหมิงเป็นอย่างมาก แต่เรื่องที่ว่านั้นคงจะไม่พ้นเรื่องเจ้าของผ้าผืนบางที่เขาเห็นหลี่ซื่อหยิบออกมาดูครั้งแล้วครั้งเล่ากระมัง
“ฉิ๋นหมิ่นซื่อ! คิดว่าตัวเองเป็นใคร ข้าอุตส่าห์ช่วย ทำดีแล้วไม่ได้ดียังจะมาขโมยของข้าอีก คิดแล้วมันน่าโมโหจริงๆ!”
ร่างเล็กบ่นพลางค้นหาเสื้อผ้าเด็กผู้ชายในหีบที่เต็มไปด้วยเสื้อผ้าสวยงามมากมาย หลังจากที่นางแกล้งหลับไปรอให้นางกำนัลออกจากห้องไปหมดก่อนจะกระเด้งตัวลุกขึ้นมาด้วยความหงุดหงิด จะให้ถึงคืนพรุ่งนี้เห็นคงจะไม่รอด ฮองเฮาเป็นฉลาดท่าทางรู้ทันคนอย่างนั้นจื่อหลินไม่ขอเสี่ยงดีกว่า
“ข้าไม่รอให้ถึงคืนพรุ่งนี้หรอก คืนนี้ข้าจะเอาของของข้าคืนให้ได้”
จื่อหลินพูดกับตัวเองอย่างมั่นใจ มือเล็กค่อยๆผลักประตูเปิดอย่างเบามือที่สุด ดวงตาหวานกวาดมองไปรอบๆอย่างระมัดระวัง เมื่อแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่แถวนั้น จื่อหลินจึงรีบเดินออกจากที่แห่งนั้นจนกระทั่งออกมานอกวัดได้
“ขอประทานอภัยเพคะเสด็จแม่ ของสิ่งนั้นมันสำคัญกับหม่อมฉันจริงๆ”
จื่อหลินเอ่ยกับกำแพงวัดที่เงียบเชียบราวกับไร้คน ร่างเล็กเดินไปตามทางมุ่งหน้าสู่ตลาดในตัวเมือง หากจะหาฉิ๋นหมิ่นซื่อให้เจอละก็ที่แรกคงจะเป็นร้านนั้นกระมัง
ความคิดเห็น