(Sf โน่ริท) วันโคตรของความฟิน 1/9/2555
วันนี้ริทร้องเพลงนิยายของพี่โน่แล้วหนำซ้ำยังบอกอีกว่าไปเอาซีดีเพลงที่ห้อง -..-
ผู้เข้าชมรวม
693
ผู้เข้าชมเดือนนี้
1
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
[ริท]
วันนี้ผมมีถ่ายรายการสดไฟว์ไลฟืตอนเที่ยงคืน40คู่กับพี่โน่ ซึ่งผู้บริหารนี่ก็มีเพียบ ผมเลือกที่จะนั่งไฟลท์บินช่วงดึกๆเย็นเพื่อจะได้ใช้เวลาช่วงที่เหลือในการเตรียมตัว พอไปถึงจะได้ไม่ต้องเตรียมอะไรมากรอเข้าสัมภาษณ์ได้เลย วันนี้ผมก็มีเรียนแต่ว่าโชคดีที่เลิกบ่าย3บ่าย4เลยมีเวลากลับบ้านมาเปลี่ยนเสื้อผ้า
‘ตึ้งตึ้ง’ เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นในเวลาที่ผมกำลังจัดกระเป๋า ผมเพ่งมองไปยังโทรศัพท์ก็พบว่ามีข้อความเข้ามา1ข้อความ ผมมองไปที่ชื่อผู้ส่งแล้วก้อดยิ้มไม่ได้
‘ลมหายใจเข้าคิดคำนึง หายใจออกคิดถึงมากกว่าใคร
รอเธอคนนี้ไม่ได้รอคนไหน รักริทสุดใจไม่ใช่ใครโน่นั่นเอง’
ผมอ่านเสร็จก้ยิ้มแก้มแตกออกมา ส่งอะไรมาก็ไม่รู้ ผมกดปุ่มตอบกลับแล้วพิมพ์ลงไป
‘แมลงปอปีกบางเจ้ากางปีกสวย ฝากบอกเธอด้วย ..ว่าฉันคิดถึง’ ผมกดปุ่มเอนเทอร์ในแป้นพิมพ์บีบีแล้วยิ้มเบิกบานก่อนจะหันหน้ามาจัดกระเป่าต่อ
ระยะเวลาผ่านไปนานจนตอนนี้ผมอ่านหนังสือทบทวนบทเรียนไว้เรียบร้อยจนความรู้อัดแน่นเข้าไปแล้ว ตอนนี้เสื้อผ้าต่างๆของผมจัดลงในกระเป๋าเมืองไทยที่ผมใช้ประจำ น้ำก็อาบแล้ว ผมเหลือบมองนาฬิกาก็พบว่าเป็นเวลา 6 โมงเย็น ถ้ารอนานกว่านี้อาจตกเครื่องได้ผมยืนเซ็ตตัวเองหน้ากระจกในเสื้อลายทางดำเทาและเดฟสีดำของผมก่อนจะปิดไฟปิดน้ำปิดสวิทซ์ให้เรียบร้อยแล้วออกจากบ้านไปยังสนามบิน ..
‘ให้ความรัก มันเติมโตใน ..จ ติ้ด’ เสียงโทรศัพท์ของผมดังขึ้นในขณะที่ผมอยู่ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ผมมองชื่อก่อนจะรับสาย “สวัสดีครับพี่ปอ”
“อยู่ไหนแล้วริท พี่ปออยู่สนามบินแล้วนะ”
“กำลังเดินไปแล้วครับเพิ่งออกมาจากเครื่อง แหะๆ”
“โอเคจ่ะริท เดี๋ยวพี่ปอรออยู่ตรงทางเข้าลานจอดรถนะ”
“ครับๆ อ้อๆ ริทเห็นพี่ปอแล้วๆ แค่นี้นะครับเดี๋ยวริทเดินไป” ผมวางสายแล้วรับของจากแฟนคลับที่มารับผม กล่าวขอบคุณและสวัสดี แล้วเดินดิ่งไปยังพี่ปอ ผู้จัดการส่วนตัวของพี่โน่ ที่เวลาผมมากรุงเทพ บางทีพี่แนนไม่ว่างพี่ปอก็มาดูแล หรือบางทีงานไหนที่เป็นงานคู่ผมกับพี่โน่ พี่ปอก็จะมารับผม บางครั้งงานไหนพี่ปอไม่ว่าง พี่แนนก็ไปดูพี่โน่ หรือไม่งานคู่เราก็ไปทั้งพี่ปอพี่แนนเลย เหมือนกับใช้คนดูแลคนเดียวกันก็ว่าได้
“สวัสดีครับพี่ปอ” ผมยกมือไหว้แล้วยิ้มๆ พี่ปอมองนาฬิกาแล้วบอกผมก่อนจะพานำไปยังรถของเขาเอง
“ต้องรีบไปแล้วเดี๋ยวไปรับโตโน่ที่คอนโดอีก”
[โตโน่]
“แล้วเจอกันนะครับ เดี๋ยวผมมา ผมไปอาบน้ำแต่งตัวก่อน ใส่ชุดนี้ออกรายการเดี่ยวเขาไม่ให้ออก ฮ่าๆ”
“หือไม่ทุเรศโอเคเจอกันน้าพี่โน่”
“โน่ริทรักพี่โน่น้า”
“จ้า” ผมตอบรับเสียงทุกเสียงของแฟนคลับที่มาหาผมที่ตึกพร้อมรับขนมเล็กๆน้อยๆแล้วเดินออกไปจากตึกเพื่อมุ่งหน้าไปยังคอนโดที่ไม่ไกลจากตึกมากเท่าไหร่หวังอาบน้ำแต่งตัวแล้วมาที่ตึกนี่อีกรอบเพราะตอนนี้เหนียวตัวมาก
เมื่อตอนกลางวันผมยิ้มแก้มแทบปริเนื่องจากไอริทมันส่งข้อความเลี่ยนๆมาให้ผม ...
ซึ่งผมส่งไปให้มันก่อน - -“
‘อืดดดด อืดดด’ เสียงไอโฟนคู่ใจสั่นระรัวในกระเป๋ากางเกง ผมหยิบมันขึ้นมาก็พบว่าพี่ปอโทรมา ผมกดรับแล้วกรอกเสียงลงไป
“ว่าไงพี่ปอ”
“พี่กับริทกำลังจะออกจากสนามบินแล้วนะรีบๆอาบน้ำแต่งตัวละ”
“โอเคครับผม!” สิ้นเสียงคำสั่งของพี่ปอผมก็กดวางสาย ไม่นานก็ถึงคอนโดพอดี วันนี้รถไม่ติดเท่าไหร่เลยทำให้การเดินทางสะดวกมากขึ้น
กุญแจคุ้นตาถูกหยิบออกจากกระเป๋ากางเกง ผมไขลงไปก่อนจะเปิดประตูแล้วรีบอาบน้ำอย่างรวดเร็ว แบบเดิมคือผมต้องใส่เสื้อที่ทีมงานเตรียมไว้คือเสื้อแกรมมี่วอนเดอรแลนด์ แต่.. ผมลืมไว้ที่หลังรถของพี่ปอเลยจะใส่เสื้อยืดธรรมดาลงไปกับแจ๊คเก็ตตัวโปรดของผม
ไม่นานนักผมก็จัดการธุระของตัวเองเสร็จ ใส่กางเกงยีนส์เรียบร้อยก็กำลังจะปิดไฟปิดสวิทซ์ห้องนอน พอดีกับเสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้น
“ลงมาเลยนะพี่กับริทอยู่ข้างล่างแล้ว”
“โอเคๆ อยู่ตรงไหนอะข้างหน้าประตูเลยไหมครับ”
“ใช่ๆ เร็วๆเลย เดี๋ยวผู้ใหญ่เขารอนาน” พี่ปอตัดสายไป ผมจัดการปิดล๊อคห้องแล้วลงบันไดไปเพราะถ้ารอลิฟช้าแน่ๆ..
.. ความจริงผมไม่ต้องรีบขนาดนี้ก้ได้ แต่ที่ผมทำเพราะผมต้องการเห็นหน้า ใครบางคน
ผมเดินออกมาจากตัวคอนโดแล้วมุ่งหน้าไปยังรถของพี่ปอคุ้นตา จิตใจผมเต้นแรงและเร็วมากเพราะอีกไม่กี่นาทีเท่านั้นที่ผมจะได้เจอริท และแล้ว ..ก็ไม่ถึงวิที่ผมจะได้เจอ
“พี่โน่เปิดหลังรถหยิบเสื้อแกรมมี่มาให้หน่อย 2ตัวนะของพี่กับของริท”
“เอ้ายังไม่เปลี่ยนอีกหรอ” ...ดีใจ
“พี่ปอลืมริทก็ลืม ฮ่าๆ” ผมยิ้มๆแล้วเดินไปหยิบมา2ตัวแล้วปิดหลังรถให้
“โน่นั่งหลังกับริทนะ ข้างหน้าพี่ไว้ของเยอะ ขี้เกียจรื้อ”
“โอเคครับพี่”
“รถติดอะ เมื่อกี๊ยังไม่ติดขนาดนี้เลย”
“ยิ่งดึกก็ยิ่งติดธรรมดาน่ะพี่ปอ” ริท
“กลัวทางผู้ใหญ่เขาจะรอนี่แหละ”
“เราก็บอกเขาไปว่าริทตด” ผม
“ห้ะ” ริท
“รถติด ก้ากกกกกก” พี่ปอมองผมหัวเราะผ่านกระจกแล้วยิ้มตาม ผิดกับหน้าริทที่กำลังบูดบึ้งมองค้อนมาที่ผมแล้วตีแขนผมเบาๆเป็นเชิงหมั่นไส้ “นี่แนะ!”
“โอ้ย เจ็บนะเว่ย!”
“ดี สมน้ำหน้า แล้วนี่อาบน้ำหรือเปล่านะ สุวรรณภูมิกับคอนโดพี่ใช้เวลาเดินทางใกล้นะ อาบเร็วจัง”
“กูอาบน่าริท ไม่เชื่อดมมะ” ผมยื่นหน้าเข้าไปใกล้มัน ซึ่งตามสัญชาติญาณคือมันต้องถดคอหนี ซึ่งมันก็พ่นลมหายใจเบาๆแล้วผลักหน้าเรา
“รีบเปลี่ยนเสื้อเร็ว ไม่นานก็จะถึงแล้ว” พี่ปอ
“ป.. เปลี่ยนในนี้เลยหรอครับ ?” ริท
“ใช่แล้วเพราะลงจากรถปุ้ปก้ไปบรีฟก่อนเข้าอัดสดแล้วเตรียมนู้นเตรียมนี้จะไม่มีเวลาเปลี่ยน”
“อ๋อ ..ครับ”
“กลัวไรวะริทเปลี่ยนๆไปเถอะเห็นๆกันมาหมดแล้ว”
“แหมริทไม่ได้ขี้โชว์เหมือนพี่ซักหน่อย” ริทหันหลังให้ผม โชคดีที่รถพี่ปอติดฟิล์มดำที่คนข้างนอกมองไม่เห็นแน่นอนไม่งั้นตอนนี้คนคงได้เห็นส่วนวับๆแวมๆของริทแน่ๆ
ริทค่อยยกเสื้อขึ้นตอนนี้ครึ่งหลังแล้ว ทำให้เห็นเอวเล็กบางๆขาวๆ อยู่ๆใจผมก้เต้นแรงมาดื้อๆ แล้วริทก็ถอดเสื้อออกหมดทำให้เห็นแผ่นหลังขาวเนียน ใบหน้าผมร้อนผ่าวก่อนจะหันหลังให้ริทแล้วจัดการเปลี่ยนของตัวเองก่อนที่สติจะคุมไม่อยู่ซะก่อน ... บ้าจริงๆ
ผมและริทเดินเข้ามาในสตูดิโอ ไว้ผู้ใหญ่เสร็จสรรพเขาก็บอกคิวบอกระยะเวลาหรือไม่ก็แจกจ่ายน้ำ พุดคุยเล่นๆกันสบายๆ ทางแอ๊กแซกเองก็มาบอกให้เรา2คนคือผมกับริททำท่าทางต่างๆถ่ายรูป รูปแรกคือไอริทกันหลังแล้วเอี้ยวคอมาทางผม รูปสองคือริทเท้าเอวแล้วผมก็เอามือไปวางไว้บนไหล่มัน รูปสามคือให้เราหันหน้าเข้าหากันจ้องตากันริทเองก็ขำๆจนผมเองก็อดขำตามไม่ได้ ถ่ายรูปพูดคุยเล่นๆไปเรื่อยๆ แสตนบายเสร็จอะไรเสร็จก็ไม่ถึง 10 นาทีที่พวกเราหลายคนจะต้องไปทำเทปแล้ว ริบนี้ผมกับริทนั่งแถวบนสุดริทซ้ายด้วยกันสองคน
“เอาละนะทุกคน พร้อมไหม รายการไฟว์ไลฟ์ถ่ายทอดสด 3 4 !” เสียงคนถือกล้องกำชับเรียบร้อย ดรตรีของรายการเริ่มขึ้นบอกให้รู้ว่ารายการอัดแล้ว เสียงเฮมาพร้อม การถ่ายทำดำเนินไปด้วยความสนุกของบทสนทนาที่เป็นธรรมชาติและรอยยิ้มของคนข้างๆผม มือของผมเอื้อมไปโอบรอบเอวของไอเตี้ยอย่างเนียนๆซึ่งมันเองก็เอามือมาวางไว้ที่ตักของผมเหมือนกัน
[ริท]
รายการจบลงไปแล้วในเวลาราวๆตีหนึ่ง ผมลาและสวัสดีผู้ใหญ่ทุกคน ล่ำลาคุณพ่อใหญ่ของบ้านด้วยซึ่งคือคุณบอยนั่นเอง
“สวัสดีครับคุณพ่อบอย” ผมว่ายิ้มๆ
“เออริท โชคดีนะ ตั้งใจเรียนรู้ไหม วันที่7เจอกันๆ”
“สวัสดีครับพี่บอย” พี่โน่
“เออสวัสดีแก่ขึ้นเยอะเลยนะ ฮ่าๆ” เขาว่าพลางหัวเราะ พี่โน่เองก็ไม่ต่างอะไร คุยกันสนุกสนานแล้วก็ร่ำราแยกย้ายกันกลับ
ผมหยิบบีบีขึ้นมามองนาฬิกาในโทรศัพทืก็พบว่าเป็นเวลาตีหนึ่งกว่าๆแล้ว เลยจับแขนพี่โน่บอกว่ากลับยังง่วงแล้ว ซึ่งพี่โน่เองก็บอก เดี๋ยวรอพี่ปอก่อน เราก็นั่งรอกันตรงหน้าประตูลานจอดรถ จนพี่ปอออกมา เห้ย!
“พี่โน่! แล้วซีดีเพลงนิยายอะ” ความคิดเรื่องนี้ก็ผุดขึ้นมาในหัวผมทั้งๆที่ทั้งวันผมไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรเลย ในขณะที่ผมกับพี่โน่และพี่ปอเดินไปที่ลานจอดรถผมก็โพล่งถามออกไป ร่างสูงทำหน้าตาครุ้นคิดก่อนจะหันมายิ้มแหยๆให้ผมแล้วให้คำตอบ
“ลืมวะ” ครับ นั่นคือคำตอบ = =
“เห้ย! ลืมได้ไงวะก็บอกให้เอามา ฮึ่ยพี่โน่นี่แก่แล้วขี้ลืมวะ”
‘โป้ก’
“เดี๊ยะๆไอเตี้ยเดี๋ยวนี้ว่าพี่หรอ” มะเหงกลูกใหญ่โขกลงมาที่หัวผมเต็มๆ ผมเอามือกำหัวป้อยๆแล้วมองพี่โน่หน้าบูด
“หรือว่าไม่จริงโทรย้ำแล้วว่าให้เอามาก็ไม่เอามา”
“ไปเอาที่ห้องกูก็จบละ”
“เรื่องอะไรที่ริทจะต้องไปห้องพี่เล่า” ผมพูดแล้วยืนกอดอกมองหน้าเขา พี่ปอเดินไปสตาร์ทรถยนต์ส่วนผมกับพี่โน่ก็ยืนรอ
“ทำไมกลัวออะไร จะไม่เอาใช่ไหมเพลงน่ะ”
“..เออ ก็ได้” ผมพูดแล้วเดินไปขึ้นรถส่วนเขาเองก็ตามมาติดๆ
รถยนต์หรูทยานสู่เบื้องหน้า รถติดขนาดหนักซึ่งไม่รู้ว่าจุดหมายนั้นมันจะถึงเมื่อไหร่ แต่คนอีกซักพัก ..ใหญ่ๆของใหญ่ๆ หัวของพี่โน่ซบลงมาที่ไหล่ของผมผมเอียงหัวไปมองก็ยังเห็นขนตาขยับอยู่แสดงว่าเขาซบผมเฉยๆ นิ้วของเขาสอดประสานเข้ามาในมือของผม แสงจากหลอดไฟข้างทางกระทบมาที่หน้าเราทั้ง2ไม่ได้มองหน้ากันแต่กระแสมือก็ส่งความอบอุ่นถึงกันได้จนรับรู้สัมผัสของกันและกัน..
ชั่วโมงครั้งกว่าที่เราจะแบกสังขาลเหนื่อยและเพลียของเรามาถึงคอนโดของพี่โน่ แต่ว่าก่อนขึ้นมาพี่ปอก็จอดรถส่งเราที่ร้านก๊วยเตี๋ยวแถวคอนโดแล้วเราก็เดินขึ้นมากันเอง เมื่อเข้ามาถึงก็วางก๊วยเตี๋ยวลงกับโต๊ะแล้วถาม
“หิวปะ”
“นิดหน่อยอะ”
“คืนนี้ดึกแล้วก็นอนที่บ้านกูนะ เดินทางกลับไปมันอันตราย ซีดีเดี๋ยวพรุ่งนี้กูให้มึงเองนอนนี่นะนะนะ”
“ยังไงก็ต้องนอนอยู่ดีนั่นแหละ” ผมพูดแล้วขมุบขมิบปากส่ายหัวไปมาเหมือนล้อเขา แอปเปิ้ลโชว์ถูกโยนเข้ามาใส่หัวผม ผมหันไปมองแล้วหันหน้าเข้ามามองทีวีทิ้งตัวนั่งโซฟา ถ้าให้ผมปฏิเสธว่าไม่นอนก็ไม่ได้เพราะยังไม่ผมปฏิเสะก็ไม่สำเร็จซักที ...อันที่จริงผมก็อยากนอนอยู่หรอก คิดถึงนี่หว่า ไม่นานนักกลิ่นอะไรไม่รู้หอมๆก็ลอยมาเตะจมูกขอผม ผมหันไปมองก็เห็นว่าเขากำลังเวฟก๊วยเตี๋ยวที่ซื้อมาอยู่
“มาแล้วว โอ้ยร้อนๆๆๆ”
“น่ากินวะพี่โน่!” ผมพูดแล้วถือตะเกียบจะชามอย่างตาลุกวาว เขิยบก้นมานั่งพื้นกับเขาแล้วซู้ดเส้นกันอย่างเอร็ดอร่อย เขามาขโมยเส้นของผมบ้าง ผมขโมยของเขาบ้าง ล่าสุดลูกชิ้นเด้งๆของผมอันสุดท้ายก็ถุกเขากลืนกินไปอย่างน่าเสียดาย - -
เวลาตี2กว่าๆ ผมและเขาต่างอาบน้ำเรียบร้อย ผมเดินไปนั่งลงที่เตียงรอเจ้าของห้องเขาปิดไปด้านนอก และแล้วเขาก็เดินเข้ามาในห้อง ผมอยู่ในชุดสีขาวกับกางเกงขาสั่นสีน้ำเงินนอนอยู่ฝั่งซ้าย ส่วนตัวเขาเองก็เหมือนกันแต่เขาแค่ใส่กางเกงสก๊อตสีน้ำเงินแล้วก็เสื้อขาวบางๆ นอนฝั่งขวา
“พรุ่งนี้จะไปกี่โมง” เขาปิดไปนีออนแล้วเปิดโคมไฟที่หัวเตียงแทน นอนลงแล้วนอนเอาแขนข้างซ้ายยกมาเป็นเหมือนหมอนอิงพิงหัวตัวเองแล้วมองหน้าผมพร้อมถาม
“ออกจากที่นี่คงจะเกือบเที่ยงแหละมั้ง ไม่รู้สิ” ผมหันหน้าเข้าหาเขาใช้นิ้วจิ้มที่นอนเขี่ยไปมาเล่นแก้อาการเขิน แสงไฟสีส้มสลัวๆยิ่งทำให้ผมเขินเข้าไปใหญ่
“พรุ่งนี้ร้องเพลงกูน่ะร้องดีๆนะเว่ย”
“แหมรู้หรอกน่าไม่ต้องบอกเรื่องแค่นี้หมูๆ”
“หรอจ้ะหรอจ้ะ”
“...”
“…”
“..คิดถึง” ผมตัดสินใจพูดความรู้สึกตัวเองไปแล้วเงยหน้ามองหนาของเขา ก่อนจะเปลี่ยนท่านอนมาเป็นนอนคว่ำแล้วใช่แขนทั้ง2ข้างชันตัวเองขึ้นมา
“อะไรนะ”
“ค คิดถึง”
“ฮึ ? ไม่ได้ยิน พูดดังๆสิ”
“รู้หรอกว่าได้ยิน”
“ไม่ได้ยินจริงๆ เมื่อกี๊ว่าไรนะ?”
“แก่แล้วหูตึง! แถมยังขี้ลืมอีก!”
“อ่าวๆ เดี๋ยวก่อนๆ”
“ฮ่าๆ” ผมหัวเราะแล้วทิ้งตัวลงนอนเหมือนเดิม เขาใช้แขนซ้ายสอดเข้าที่ท้ายทอยของผม แอร์เย็นๆเหมือนมันถูกปรับอากาศลงให้อบอุ่นกว่าเดิม
“ออกช้าๆนะ อยากอยู่กับมึงนานๆ”
“อื้ม”
“คิดถึงจริงๆหรอ พูดอีกรอบซิ”
“คิดถึง”
“เบาไปขอดังๆ”
“คิดถึง”
“ดังอีก ขอข้างหู” เกิดอาการหมั่นไส้เล็กน้อยเลยตั้งใจจะไปตะโกนใส่หู แต่ทว่า..
“คิด!!...”
‘ฟอดดด’จมูกและปากของพี่โน่กดลงมาที่แก้มของผมจนผมไม่ทันตั้งตัว เลยจ้อมตาเขม็งใส่เขาแล้วทิ้งตัวนอนอีกครั้ง “คิดถึงเหมือนกัน”
“ไม่ได้เจอแปปเดียวทำไมคิดถึงมึงมากมายขนาดนี้ก็ไม่รู้” ผม
“เดี๋ยวนี้หัดพูดอ้อนหรอ เดี๋ยวก็เจอดีหรอก”
“อย่า! หยุดความคิดไว้ตรงนั้นแหละ” ผมชี้นิ้วไปที่หน้าเขา และเอาไปจิ้มแก้มเขาเบาๆมือข้างขวาของร่างสูงโอบรัดรอบเอวของผมให้ร่างกายเรากระชับยิ่งขึ้น ลมหายใจของเขารวยรินบริเวณรอบคอของผม มือขวาผมเลื้อยไปจับที่เอวของเขาเหมือนกัน
“ง่วงยัง” เขา
“นิดนึง”
“หลับไปเลยเดี๋ยวก็เป็นหมีแพนด้าหรอก”
“แล้วพี่โน่ไม่หลับละ”
“รอมึงหลับอยู่นี่แหละ” ขาของเขาเอามาก่ายไว้กับตัวผม ผมเลยเอาไปก่ายไว้บ้าง มือที่ว่าเคยกอดเอาผมกลับเอามาจี้เอวผมแทน ขาเราก็ขยับยุกยิกไปมา “โอ้ยพี่โน่ ฮ่าๆ อย่าจี้เอว ไม่เอา!!” ผมพูดออกไปจะขำหรือร้องไห้ดีผมเองก็ไม่เข้าใจ ความรู้สึกคันๆรอบเอวมันก่อตัวขึ้น ยิ่งเขายิ้มสะใจก็ยิ่งเหมือนตัวเองแพ้ ไม่ได้การละ!
“ไม่รอดแน่!” ผมลุกขึ้นสุดกำลังแล้วทิ้งตัวลงไปทับเขาแรงๆ
‘อ่อก’
“ฮ่าๆ โอ้ยย พี่โน่ หมดสภาพ ฮ่าๆๆ ฮ่าๆ ก้ากกกก” ผมชี้หน้าแล้วขำพร้อมๆกัน ตัวเขานอนคว่ำลงแล้วทำหน้าตาเจ็บปวดเป็นอะไรที่ผมถือว่าสะใจสุดๆ “แพ้แล้ว แพ้ริทแล้ว แบร่!”
“กูยอมมึงวันนึงก็ได้ริท อ่อน”
“ใครอ่อนพี่โน่นั้นแหละ”
“มึงแหละถ้ากูไม่ออมแรงไว้มึงไม่รอดแน่คืนนี้”
“ในหัวก็มีแต่เรื่องใต้สะดือ ลามก!”
”อะไรกูพูดอะไรยัง” เขาเลิ่กคิ้วถามผมเชิงล้อเลียน นั่นน่ะสิ ..ผมไม่พูดแต่กลับเมินหน้าหันหลังให้เขา แขนหนาโอบเข้ามาที่เอวผมอีกครั้ง จมูกของเขาซุกไซร้ไปมาบรเวณรอบคอ ปากหยักกดลงมาขมเม้นเบาๆทำให้เรารู้สึกจั้กจี้
“อือออ” ผมครางแระท้วงซึ่งเขาเองก็น่าจะรู้แล้วว่าพรุ่งนี้ผมมีงานเขาเลยหยุดการกระทำไว้ได้แต่ฝากรอบแดงเล็กๆที่คอของผม
“จะนอนยัง”
“นอนแล้ว”
“ฝันดีมีกูนอนกอด”
“ทะลึ่งและ” ผมยิ้มขำๆแล้วหันหน้าเข้าหาตัวเขาก่อนจะใช้แขนโอบเอวเขา พี่โน่กระชับระยะห่างให้เราใกล้กันมากขึ้น ทุกอณูของเราบดเบียดกัน อบอุ่นจนไม่ต้องใช้ผ้าห่มก็ได้ ภายในห้องเงียบมีแต่เพียงเสียงเครื่องปรับอากาศทำงาน แต่สิ่งที่ผมได้ยินซึ่งเขาเองก็คงได้ยินคือเสียงหัวใจของเราที่กำลังเต้นดังโครมครามไม่เป็นจังหวะ
ก่อนเราจะเข้าสู่ห้วงนิทราแห่งความสุขไปพร้อมกัน....
ผลงานอื่นๆ ของ โน่แต่งกับริทแล้ว ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ โน่แต่งกับริทแล้ว
ความคิดเห็น