(Sf โน่ริท) วันโคตรของความฟิน 1/9/2555 - (Sf โน่ริท) วันโคตรของความฟิน 1/9/2555 นิยาย (Sf โน่ริท) วันโคตรของความฟิน 1/9/2555 : Dek-D.com - Writer

    (Sf โน่ริท) วันโคตรของความฟิน 1/9/2555

    วันนี้ริทร้องเพลงนิยายของพี่โน่แล้วหนำซ้ำยังบอกอีกว่าไปเอาซีดีเพลงที่ห้อง -..-

    ผู้เข้าชมรวม

    693

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    693

    ความคิดเห็น


    8

    คนติดตาม


    7
    หมวด :  นิยายวาย
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  10 พ.ย. 55 / 22:57 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ





       

                      [ริท]
       

                   วันนี้ผมมีถ่ายรายการสดไฟว์ไลฟืตอนเที่ยงคืน40คู่กับพี่โน่ ซึ่งผู้บริหารนี่ก็มีเพียบ ผมเลือกที่จะนั่งไฟลท์บินช่วงดึกๆเย็นเพื่อจะได้ใช้เวลาช่วงที่เหลือในการเตรียมตัว พอไปถึงจะได้ไม่ต้องเตรียมอะไรมากรอเข้าสัมภาษณ์ได้เลย วันนี้ผมก็มีเรียนแต่ว่าโชคดีที่เลิกบ่าย3บ่าย4เลยมีเวลากลับบ้านมาเปลี่ยนเสื้อผ้า

                     
                 ‘ตึ้งตึ้งเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นในเวลาที่ผมกำลังจัดกระเป๋า ผมเพ่งมองไปยังโทรศัพท์ก็พบว่ามีข้อความเข้ามา1ข้อความ ผมมองไปที่ชื่อผู้ส่งแล้วก้อดยิ้มไม่ได้

       

                      ลมหายใจเข้าคิดคำนึง หายใจออกคิดถึงมากกว่าใคร

      รอเธอคนนี้ไม่ได้รอคนไหน รักริทสุดใจไม่ใช่ใครโน่นั่นเอง
       

                  ผมอ่านเสร็จก้ยิ้มแก้มแตกออกมา ส่งอะไรมาก็ไม่รู้ ผมกดปุ่มตอบกลับแล้วพิมพ์ลงไป

                      แมลงปอปีกบางเจ้ากางปีกสวย ฝากบอกเธอด้วย ..ว่าฉันคิดถึง ผมกดปุ่มเอนเทอร์ในแป้นพิมพ์บีบีแล้วยิ้มเบิกบานก่อนจะหันหน้ามาจัดกระเป่าต่อ
       

                   ระยะเวลาผ่านไปนานจนตอนนี้ผมอ่านหนังสือทบทวนบทเรียนไว้เรียบร้อยจนความรู้อัดแน่นเข้าไปแล้ว ตอนนี้เสื้อผ้าต่างๆของผมจัดลงในกระเป๋าเมืองไทยที่ผมใช้ประจำ น้ำก็อาบแล้ว ผมเหลือบมองนาฬิกาก็พบว่าเป็นเวลา 6 โมงเย็น ถ้ารอนานกว่านี้อาจตกเครื่องได้ผมยืนเซ็ตตัวเองหน้ากระจกในเสื้อลายทางดำเทาและเดฟสีดำของผมก่อนจะปิดไฟปิดน้ำปิดสวิทซ์ให้เรียบร้อยแล้วออกจากบ้านไปยังสนามบิน ..

       
       

                         ให้ความรัก มันเติมโตใน ..จ ติ้ดเสียงโทรศัพท์ของผมดังขึ้นในขณะที่ผมอยู่ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ผมมองชื่อก่อนจะรับสาย สวัสดีครับพี่ปอ

                    “อยู่ไหนแล้วริท พี่ปออยู่สนามบินแล้วนะ
       

                    “กำลังเดินไปแล้วครับเพิ่งออกมาจากเครื่อง แหะๆ
       

                    “โอเคจ่ะริท เดี๋ยวพี่ปอรออยู่ตรงทางเข้าลานจอดรถนะ
       

                    “ครับๆ อ้อๆ ริทเห็นพี่ปอแล้วๆ แค่นี้นะครับเดี๋ยวริทเดินไปผมวางสายแล้วรับของจากแฟนคลับที่มารับผม กล่าวขอบคุณและสวัสดี แล้วเดินดิ่งไปยังพี่ปอ ผู้จัดการส่วนตัวของพี่โน่ ที่เวลาผมมากรุงเทพ บางทีพี่แนนไม่ว่างพี่ปอก็มาดูแล หรือบางทีงานไหนที่เป็นงานคู่ผมกับพี่โน่ พี่ปอก็จะมารับผม บางครั้งงานไหนพี่ปอไม่ว่าง พี่แนนก็ไปดูพี่โน่ หรือไม่งานคู่เราก็ไปทั้งพี่ปอพี่แนนเลย เหมือนกับใช้คนดูแลคนเดียวกันก็ว่าได้
       

                      สวัสดีครับพี่ปอผมยกมือไหว้แล้วยิ้มๆ พี่ปอมองนาฬิกาแล้วบอกผมก่อนจะพานำไปยังรถของเขาเอง

                  “ต้องรีบไปแล้วเดี๋ยวไปรับโตโน่ที่คอนโดอีก
       

       
       

                      [โตโน่]
       

                       แล้วเจอกันนะครับ เดี๋ยวผมมา ผมไปอาบน้ำแต่งตัวก่อน ใส่ชุดนี้ออกรายการเดี่ยวเขาไม่ให้ออก ฮ่าๆ

                   “หือไม่ทุเรศโอเคเจอกันน้าพี่โน่
       

                   “โน่ริทรักพี่โน่น้า
       

                   “จ้าผมตอบรับเสียงทุกเสียงของแฟนคลับที่มาหาผมที่ตึกพร้อมรับขนมเล็กๆน้อยๆแล้วเดินออกไปจากตึกเพื่อมุ่งหน้าไปยังคอนโดที่ไม่ไกลจากตึกมากเท่าไหร่หวังอาบน้ำแต่งตัวแล้วมาที่ตึกนี่อีกรอบเพราะตอนนี้เหนียวตัวมาก

                      เมื่อตอนกลางวันผมยิ้มแก้มแทบปริเนื่องจากไอริทมันส่งข้อความเลี่ยนๆมาให้ผม ...
       

                      ซึ่งผมส่งไปให้มันก่อน - -“

                     

                      อืดดดด อืดดดเสียงไอโฟนคู่ใจสั่นระรัวในกระเป๋ากางเกง ผมหยิบมันขึ้นมาก็พบว่าพี่ปอโทรมา ผมกดรับแล้วกรอกเสียงลงไป

                      ว่าไงพี่ปอ
       

                  “พี่กับริทกำลังจะออกจากสนามบินแล้วนะรีบๆอาบน้ำแต่งตัวละ
       

                  “โอเคครับผม!” สิ้นเสียงคำสั่งของพี่ปอผมก็กดวางสาย ไม่นานก็ถึงคอนโดพอดี วันนี้รถไม่ติดเท่าไหร่เลยทำให้การเดินทางสะดวกมากขึ้น
       

                      กุญแจคุ้นตาถูกหยิบออกจากกระเป๋ากางเกง ผมไขลงไปก่อนจะเปิดประตูแล้วรีบอาบน้ำอย่างรวดเร็ว แบบเดิมคือผมต้องใส่เสื้อที่ทีมงานเตรียมไว้คือเสื้อแกรมมี่วอนเดอรแลนด์ แต่.. ผมลืมไว้ที่หลังรถของพี่ปอเลยจะใส่เสื้อยืดธรรมดาลงไปกับแจ๊คเก็ตตัวโปรดของผม
       

                      ไม่นานนักผมก็จัดการธุระของตัวเองเสร็จ ใส่กางเกงยีนส์เรียบร้อยก็กำลังจะปิดไฟปิดสวิทซ์ห้องนอน พอดีกับเสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้น
       

                      ลงมาเลยนะพี่กับริทอยู่ข้างล่างแล้ว
       

                  “โอเคๆ อยู่ตรงไหนอะข้างหน้าประตูเลยไหมครับ
       

                  “ใช่ๆ เร็วๆเลย เดี๋ยวผู้ใหญ่เขารอนานพี่ปอตัดสายไป ผมจัดการปิดล๊อคห้องแล้วลงบันไดไปเพราะถ้ารอลิฟช้าแน่ๆ..
       

                      .. ความจริงผมไม่ต้องรีบขนาดนี้ก้ได้ แต่ที่ผมทำเพราะผมต้องการเห็นหน้า ใครบางคน

                      ผมเดินออกมาจากตัวคอนโดแล้วมุ่งหน้าไปยังรถของพี่ปอคุ้นตา จิตใจผมเต้นแรงและเร็วมากเพราะอีกไม่กี่นาทีเท่านั้นที่ผมจะได้เจอริท และแล้ว ..ก็ไม่ถึงวิที่ผมจะได้เจอ
       

                      พี่โน่เปิดหลังรถหยิบเสื้อแกรมมี่มาให้หน่อย 2ตัวนะของพี่กับของริท
       

                  “เอ้ายังไม่เปลี่ยนอีกหรอ ...ดีใจ
       

                  “พี่ปอลืมริทก็ลืม ฮ่าๆผมยิ้มๆแล้วเดินไปหยิบมา2ตัวแล้วปิดหลังรถให้
       

                      โน่นั่งหลังกับริทนะ ข้างหน้าพี่ไว้ของเยอะ ขี้เกียจรื้อ
       

                  “โอเคครับพี่
       

                  “รถติดอะ เมื่อกี๊ยังไม่ติดขนาดนี้เลย
       

                  “ยิ่งดึกก็ยิ่งติดธรรมดาน่ะพี่ปอริท
       

                  “กลัวทางผู้ใหญ่เขาจะรอนี่แหละ
       

                  “เราก็บอกเขาไปว่าริทตดผม

                  “ห้ะริท
       

                      รถติด ก้ากกกกกกพี่ปอมองผมหัวเราะผ่านกระจกแล้วยิ้มตาม ผิดกับหน้าริทที่กำลังบูดบึ้งมองค้อนมาที่ผมแล้วตีแขนผมเบาๆเป็นเชิงหมั่นไส้ นี่แนะ!”
       

                  “โอ้ย เจ็บนะเว่ย!”
       

                  “ดี สมน้ำหน้า แล้วนี่อาบน้ำหรือเปล่านะ สุวรรณภูมิกับคอนโดพี่ใช้เวลาเดินทางใกล้นะ อาบเร็วจัง
       

                  “กูอาบน่าริท ไม่เชื่อดมมะผมยื่นหน้าเข้าไปใกล้มัน ซึ่งตามสัญชาติญาณคือมันต้องถดคอหนี ซึ่งมันก็พ่นลมหายใจเบาๆแล้วผลักหน้าเรา
       

                      รีบเปลี่ยนเสื้อเร็ว ไม่นานก็จะถึงแล้วพี่ปอ
       

                      ป.. เปลี่ยนในนี้เลยหรอครับ ?ริท

                  “ใช่แล้วเพราะลงจากรถปุ้ปก้ไปบรีฟก่อนเข้าอัดสดแล้วเตรียมนู้นเตรียมนี้จะไม่มีเวลาเปลี่ยน
       

                  “อ๋อ ..ครับ
       

                  “กลัวไรวะริทเปลี่ยนๆไปเถอะเห็นๆกันมาหมดแล้ว
       

                  “แหมริทไม่ได้ขี้โชว์เหมือนพี่ซักหน่อยริทหันหลังให้ผม โชคดีที่รถพี่ปอติดฟิล์มดำที่คนข้างนอกมองไม่เห็นแน่นอนไม่งั้นตอนนี้คนคงได้เห็นส่วนวับๆแวมๆของริทแน่ๆ
       

                      ริทค่อยยกเสื้อขึ้นตอนนี้ครึ่งหลังแล้ว ทำให้เห็นเอวเล็กบางๆขาวๆ อยู่ๆใจผมก้เต้นแรงมาดื้อๆ แล้วริทก็ถอดเสื้อออกหมดทำให้เห็นแผ่นหลังขาวเนียน ใบหน้าผมร้อนผ่าวก่อนจะหันหลังให้ริทแล้วจัดการเปลี่ยนของตัวเองก่อนที่สติจะคุมไม่อยู่ซะก่อน ... บ้าจริงๆ

       
       

                      ผมและริทเดินเข้ามาในสตูดิโอ ไว้ผู้ใหญ่เสร็จสรรพเขาก็บอกคิวบอกระยะเวลาหรือไม่ก็แจกจ่ายน้ำ พุดคุยเล่นๆกันสบายๆ ทางแอ๊กแซกเองก็มาบอกให้เรา2คนคือผมกับริททำท่าทางต่างๆถ่ายรูป รูปแรกคือไอริทกันหลังแล้วเอี้ยวคอมาทางผม รูปสองคือริทเท้าเอวแล้วผมก็เอามือไปวางไว้บนไหล่มัน รูปสามคือให้เราหันหน้าเข้าหากันจ้องตากันริทเองก็ขำๆจนผมเองก็อดขำตามไม่ได้  ถ่ายรูปพูดคุยเล่นๆไปเรื่อยๆ แสตนบายเสร็จอะไรเสร็จก็ไม่ถึง 10 นาทีที่พวกเราหลายคนจะต้องไปทำเทปแล้ว ริบนี้ผมกับริทนั่งแถวบนสุดริทซ้ายด้วยกันสองคน
       

                      เอาละนะทุกคน พร้อมไหม รายการไฟว์ไลฟ์ถ่ายทอดสด 3 4 !” เสียงคนถือกล้องกำชับเรียบร้อย ดรตรีของรายการเริ่มขึ้นบอกให้รู้ว่ารายการอัดแล้ว เสียงเฮมาพร้อม การถ่ายทำดำเนินไปด้วยความสนุกของบทสนทนาที่เป็นธรรมชาติและรอยยิ้มของคนข้างๆผม มือของผมเอื้อมไปโอบรอบเอวของไอเตี้ยอย่างเนียนๆซึ่งมันเองก็เอามือมาวางไว้ที่ตักของผมเหมือนกัน

       
       

                      [ริท]

                  รายการจบลงไปแล้วในเวลาราวๆตีหนึ่ง ผมลาและสวัสดีผู้ใหญ่ทุกคน ล่ำลาคุณพ่อใหญ่ของบ้านด้วยซึ่งคือคุณบอยนั่นเอง
       

                      สวัสดีครับคุณพ่อบอยผมว่ายิ้มๆ
       

                      เออริท โชคดีนะ ตั้งใจเรียนรู้ไหม วันที่7เจอกันๆ
       

                   “สวัสดีครับพี่บอยพี่โน่
       

                      เออสวัสดีแก่ขึ้นเยอะเลยนะ ฮ่าๆเขาว่าพลางหัวเราะ พี่โน่เองก็ไม่ต่างอะไร คุยกันสนุกสนานแล้วก็ร่ำราแยกย้ายกันกลับ
       

                      ผมหยิบบีบีขึ้นมามองนาฬิกาในโทรศัพทืก็พบว่าเป็นเวลาตีหนึ่งกว่าๆแล้ว เลยจับแขนพี่โน่บอกว่ากลับยังง่วงแล้ว ซึ่งพี่โน่เองก็บอก เดี๋ยวรอพี่ปอก่อน เราก็นั่งรอกันตรงหน้าประตูลานจอดรถ จนพี่ปอออกมา เห้ย!

                      พี่โน่! แล้วซีดีเพลงนิยายอะความคิดเรื่องนี้ก็ผุดขึ้นมาในหัวผมทั้งๆที่ทั้งวันผมไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรเลย ในขณะที่ผมกับพี่โน่และพี่ปอเดินไปที่ลานจอดรถผมก็โพล่งถามออกไป ร่างสูงทำหน้าตาครุ้นคิดก่อนจะหันมายิ้มแหยๆให้ผมแล้วให้คำตอบ

                      ลืมวะครับ นั่นคือคำตอบ = =
       

                      เห้ย! ลืมได้ไงวะก็บอกให้เอามา ฮึ่ยพี่โน่นี่แก่แล้วขี้ลืมวะ

       

                      โป้ก

       

      เดี๊ยะๆไอเตี้ยเดี๋ยวนี้ว่าพี่หรอมะเหงกลูกใหญ่โขกลงมาที่หัวผมเต็มๆ ผมเอามือกำหัวป้อยๆแล้วมองพี่โน่หน้าบูด
       

      หรือว่าไม่จริงโทรย้ำแล้วว่าให้เอามาก็ไม่เอามา
       

      ไปเอาที่ห้องกูก็จบละ
       

      เรื่องอะไรที่ริทจะต้องไปห้องพี่เล่าผมพูดแล้วยืนกอดอกมองหน้าเขา พี่ปอเดินไปสตาร์ทรถยนต์ส่วนผมกับพี่โน่ก็ยืนรอ
       

      ทำไมกลัวออะไร จะไม่เอาใช่ไหมเพลงน่ะ
       

      ..เออ ก็ได้ผมพูดแล้วเดินไปขึ้นรถส่วนเขาเองก็ตามมาติดๆ
       

      รถยนต์หรูทยานสู่เบื้องหน้า รถติดขนาดหนักซึ่งไม่รู้ว่าจุดหมายนั้นมันจะถึงเมื่อไหร่ แต่คนอีกซักพัก ..ใหญ่ๆของใหญ่ๆ หัวของพี่โน่ซบลงมาที่ไหล่ของผมผมเอียงหัวไปมองก็ยังเห็นขนตาขยับอยู่แสดงว่าเขาซบผมเฉยๆ นิ้วของเขาสอดประสานเข้ามาในมือของผม แสงจากหลอดไฟข้างทางกระทบมาที่หน้าเราทั้ง2ไม่ได้มองหน้ากันแต่กระแสมือก็ส่งความอบอุ่นถึงกันได้จนรับรู้สัมผัสของกันและกัน..

       
       

      ชั่วโมงครั้งกว่าที่เราจะแบกสังขาลเหนื่อยและเพลียของเรามาถึงคอนโดของพี่โน่ แต่ว่าก่อนขึ้นมาพี่ปอก็จอดรถส่งเราที่ร้านก๊วยเตี๋ยวแถวคอนโดแล้วเราก็เดินขึ้นมากันเอง เมื่อเข้ามาถึงก็วางก๊วยเตี๋ยวลงกับโต๊ะแล้วถาม

      หิวปะ
       

      นิดหน่อยอะ
       

      คืนนี้ดึกแล้วก็นอนที่บ้านกูนะ เดินทางกลับไปมันอันตราย ซีดีเดี๋ยวพรุ่งนี้กูให้มึงเองนอนนี่นะนะนะ
       

      ยังไงก็ต้องนอนอยู่ดีนั่นแหละผมพูดแล้วขมุบขมิบปากส่ายหัวไปมาเหมือนล้อเขา แอปเปิ้ลโชว์ถูกโยนเข้ามาใส่หัวผม ผมหันไปมองแล้วหันหน้าเข้ามามองทีวีทิ้งตัวนั่งโซฟา ถ้าให้ผมปฏิเสธว่าไม่นอนก็ไม่ได้เพราะยังไม่ผมปฏิเสะก็ไม่สำเร็จซักที ...อันที่จริงผมก็อยากนอนอยู่หรอก คิดถึงนี่หว่า ไม่นานนักกลิ่นอะไรไม่รู้หอมๆก็ลอยมาเตะจมูกขอผม ผมหันไปมองก็เห็นว่าเขากำลังเวฟก๊วยเตี๋ยวที่ซื้อมาอยู่
       

       “มาแล้วว โอ้ยร้อนๆๆๆ
       

      น่ากินวะพี่โน่!” ผมพูดแล้วถือตะเกียบจะชามอย่างตาลุกวาว เขิยบก้นมานั่งพื้นกับเขาแล้วซู้ดเส้นกันอย่างเอร็ดอร่อย เขามาขโมยเส้นของผมบ้าง ผมขโมยของเขาบ้าง ล่าสุดลูกชิ้นเด้งๆของผมอันสุดท้ายก็ถุกเขากลืนกินไปอย่างน่าเสียดาย - -

       
       

      เวลาตี2กว่าๆ ผมและเขาต่างอาบน้ำเรียบร้อย ผมเดินไปนั่งลงที่เตียงรอเจ้าของห้องเขาปิดไปด้านนอก และแล้วเขาก็เดินเข้ามาในห้อง ผมอยู่ในชุดสีขาวกับกางเกงขาสั่นสีน้ำเงินนอนอยู่ฝั่งซ้าย ส่วนตัวเขาเองก็เหมือนกันแต่เขาแค่ใส่กางเกงสก๊อตสีน้ำเงินแล้วก็เสื้อขาวบางๆ นอนฝั่งขวา
       

      พรุ่งนี้จะไปกี่โมงเขาปิดไปนีออนแล้วเปิดโคมไฟที่หัวเตียงแทน นอนลงแล้วนอนเอาแขนข้างซ้ายยกมาเป็นเหมือนหมอนอิงพิงหัวตัวเองแล้วมองหน้าผมพร้อมถาม
       

      ออกจากที่นี่คงจะเกือบเที่ยงแหละมั้ง ไม่รู้สิผมหันหน้าเข้าหาเขาใช้นิ้วจิ้มที่นอนเขี่ยไปมาเล่นแก้อาการเขิน แสงไฟสีส้มสลัวๆยิ่งทำให้ผมเขินเข้าไปใหญ่
       

      พรุ่งนี้ร้องเพลงกูน่ะร้องดีๆนะเว่ย
       

      แหมรู้หรอกน่าไม่ต้องบอกเรื่องแค่นี้หมูๆ
       

      หรอจ้ะหรอจ้ะ
       

      ...
       

      “…”
       

      ..คิดถึงผมตัดสินใจพูดความรู้สึกตัวเองไปแล้วเงยหน้ามองหนาของเขา ก่อนจะเปลี่ยนท่านอนมาเป็นนอนคว่ำแล้วใช่แขนทั้ง2ข้างชันตัวเองขึ้นมา

      อะไรนะ
       

      ค คิดถึง
       

      ฮึ ? ไม่ได้ยิน พูดดังๆสิ
       

      รู้หรอกว่าได้ยิน
       

      ไม่ได้ยินจริงๆ เมื่อกี๊ว่าไรนะ?
       

      แก่แล้วหูตึง! แถมยังขี้ลืมอีก!”
       

      อ่าวๆ เดี๋ยวก่อนๆ
       

      ฮ่าๆผมหัวเราะแล้วทิ้งตัวลงนอนเหมือนเดิม เขาใช้แขนซ้ายสอดเข้าที่ท้ายทอยของผม แอร์เย็นๆเหมือนมันถูกปรับอากาศลงให้อบอุ่นกว่าเดิม
       

      ออกช้าๆนะ อยากอยู่กับมึงนานๆ
       

      อื้ม
       

      คิดถึงจริงๆหรอ พูดอีกรอบซิ
       

      คิดถึง
       

      เบาไปขอดังๆ
       

      คิดถึง
       

      ดังอีก ขอข้างหูเกิดอาการหมั่นไส้เล็กน้อยเลยตั้งใจจะไปตะโกนใส่หู แต่ทว่า..
       

      คิด!!...

      ฟอดดดจมูกและปากของพี่โน่กดลงมาที่แก้มของผมจนผมไม่ทันตั้งตัว เลยจ้อมตาเขม็งใส่เขาแล้วทิ้งตัวนอนอีกครั้ง คิดถึงเหมือนกัน
       

      ไม่ได้เจอแปปเดียวทำไมคิดถึงมึงมากมายขนาดนี้ก็ไม่รู้ผม

      เดี๋ยวนี้หัดพูดอ้อนหรอ เดี๋ยวก็เจอดีหรอก
       

      อย่า! หยุดความคิดไว้ตรงนั้นแหละผมชี้นิ้วไปที่หน้าเขา และเอาไปจิ้มแก้มเขาเบาๆมือข้างขวาของร่างสูงโอบรัดรอบเอวของผมให้ร่างกายเรากระชับยิ่งขึ้น ลมหายใจของเขารวยรินบริเวณรอบคอของผม มือขวาผมเลื้อยไปจับที่เอวของเขาเหมือนกัน
       

      ง่วงยังเขา

      นิดนึง
       

      หลับไปเลยเดี๋ยวก็เป็นหมีแพนด้าหรอก
       

      แล้วพี่โน่ไม่หลับละ
       

      รอมึงหลับอยู่นี่แหละขาของเขาเอามาก่ายไว้กับตัวผม ผมเลยเอาไปก่ายไว้บ้าง มือที่ว่าเคยกอดเอาผมกลับเอามาจี้เอวผมแทน ขาเราก็ขยับยุกยิกไปมา โอ้ยพี่โน่ ฮ่าๆ อย่าจี้เอว ไม่เอา!!” ผมพูดออกไปจะขำหรือร้องไห้ดีผมเองก็ไม่เข้าใจ ความรู้สึกคันๆรอบเอวมันก่อตัวขึ้น ยิ่งเขายิ้มสะใจก็ยิ่งเหมือนตัวเองแพ้ ไม่ได้การละ!
       

      ไม่รอดแน่!” ผมลุกขึ้นสุดกำลังแล้วทิ้งตัวลงไปทับเขาแรงๆ

       

      อ่อก

       

      ฮ่าๆ โอ้ยย พี่โน่ หมดสภาพ ฮ่าๆๆ ฮ่าๆ ก้ากกกกผมชี้หน้าแล้วขำพร้อมๆกัน ตัวเขานอนคว่ำลงแล้วทำหน้าตาเจ็บปวดเป็นอะไรที่ผมถือว่าสะใจสุดๆ แพ้แล้ว แพ้ริทแล้ว แบร่!”

      กูยอมมึงวันนึงก็ได้ริท อ่อน
       

      ใครอ่อนพี่โน่นั้นแหละ
       

      มึงแหละถ้ากูไม่ออมแรงไว้มึงไม่รอดแน่คืนนี้
       

      ในหัวก็มีแต่เรื่องใต้สะดือ ลามก!”
       

      อะไรกูพูดอะไรยังเขาเลิ่กคิ้วถามผมเชิงล้อเลียน นั่นน่ะสิ ..ผมไม่พูดแต่กลับเมินหน้าหันหลังให้เขา แขนหนาโอบเข้ามาที่เอวผมอีกครั้ง จมูกของเขาซุกไซร้ไปมาบรเวณรอบคอ ปากหยักกดลงมาขมเม้นเบาๆทำให้เรารู้สึกจั้กจี้
       

      อือออ ผมครางแระท้วงซึ่งเขาเองก็น่าจะรู้แล้วว่าพรุ่งนี้ผมมีงานเขาเลยหยุดการกระทำไว้ได้แต่ฝากรอบแดงเล็กๆที่คอของผม

      จะนอนยัง
       

      นอนแล้ว
       

      ฝันดีมีกูนอนกอด
       

      ทะลึ่งและผมยิ้มขำๆแล้วหันหน้าเข้าหาตัวเขาก่อนจะใช้แขนโอบเอวเขา พี่โน่กระชับระยะห่างให้เราใกล้กันมากขึ้น ทุกอณูของเราบดเบียดกัน อบอุ่นจนไม่ต้องใช้ผ้าห่มก็ได้ ภายในห้องเงียบมีแต่เพียงเสียงเครื่องปรับอากาศทำงาน  แต่สิ่งที่ผมได้ยินซึ่งเขาเองก็คงได้ยินคือเสียงหัวใจของเราที่กำลังเต้นดังโครมครามไม่เป็นจังหวะ

       

       

      ก่อนเราจะเข้าสู่ห้วงนิทราแห่งความสุขไปพร้อมกัน....


      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×