คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : Chapter8 บัลลังก์สวรรค์(50%)
Chapter8 บัลลังก์สวรรค์
ดวงตะวันยามเช้าทอประกายเจิดจ้า ทำให้เมฆหนาๆดูสดใสขึ้นมาทันตา ลมร้อนพัดผ่านเป็นธรรมดาของประเทศที่อยู่ใกล้เส้นศูนย์สูตร อย่างเมืองไทย ต้นไม้บางต้นแห้เกรียมราวกับเหนื่อยหน่ายกับอากาศเช่นนี้เต็มทน และแม้เวลาจะล่วงเลยเข้าสู่ช่วงแห่งการนั่งทำงานในออฟฟิศของใครๆหลายคนแล้ว แต่สองข้างถนนก็ยังจอแจไปด้วยนักท่องเที่ยว และผู้ที่คร้านการทำงาน ผิดกับหญิงสาวร่างบางทว่าสูงในชุดเสื้อผ้าที่เป็นแนวเปรี้ยวจัดด้วยสีสัน แต่ดูเรียบร้อยอย่างผู้หญิงไทยสมัยใหม่
รองเท้าส้นสูงเขย่งไปมาอย่างไม่คุ้นชิน ใบหน้าสวยนั้นขมวดมุ่นอย่างหงุดหงิด ในมือมีกระดาษแผ่นใหญ่ที่มองเผินๆก็นู้ว่าเป็นแบบแปลนอาคาร ดินสอแหลมถูกเหน็บไว้ข้างหู อากาศที่ร้อนอบอ้าวบวกกับรองเท้าคู่ใหม่ที่สูงเกินไปทำให้เธอนึกอยากจะโยนทุกอย่างทิ้งและวิ่งไปแช่ตัวในอ่างอาบน้ำเสียให้รู้แล้วรู้รอด แต่นั่นก็เป็นเพียงจินตนาการ ความเป็นจริงก็คือเธอกำลังยืนอยู่ต่อหน้าหุ้นส่วนทุกคนของอาคารแฝดที่ยังไม่ได้รับการตกแต่งและเธอต้องการจะเอาชนะคู่แข่งจากอีกบริษัทให้ได้ด้วยการได้งานนี้ ซึ่งจะทำให้เธอมีหน้ามากขึ้นในวงการในฐานะที่เป็น "เด็กเพิ่งจบ"
ดิฉันรับรองได้ค่ะ ว่างานของดิฉันจะไม่ทำให้คุณผิดหวัง" รอยยิ้มดึงดูดความมั่นใจจากผู้พบเห็นของเธอทำให้เธอมีชัยไปเกินหน้าคู่แข่งที่แอบว่าเธอลับหลังว่าเป็นเด๋กเมือนวานซืน
หุ้นส่วนทั้งหลายพากันพยักหน้าเป็นนัยว่าพอใจ
"แล้วเราจะประกาศผลการตัดสินใจของเราภายในวันศุกร์หน้าทางอีเมลล์.. สำหรับวันนี้ ขอบคุณมากนะครับ" หนึ่งในบรรดาคณะกรรมการพูด จากนั้นเธอก็แยกย้ายจากตรงนั้นมาขึ้นรถพร้อมลูกน้อง และทันทที่ก้าวขึ้นรถเธอก็สลัดรองเท้าคู่งามทิ้งทันที
"อู้หูย.. พี่รุ้งนี่สุดยอดจริงๆเลยค่ะ เราต้องได้งานนี้แน่ๆเลยค่ะ" เด็กฝึกงานที่มาด้วยกันยิ้มแป้นพลางพูดชมเธอต่างๆนานา ตัวรุ้งเองก็ภูมิใจไม่แพ้กัน ถ้าเธอทำได้ นี่จะเป็นงานที่ใหญ่ที่สุดในชีวิตการทำงานของเธอ
รถสีดำคันใหญ่เลี้ยวออกจากบริเวณอาคารแฝดสูงที่ยังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง พัดมองตามรถคันนั้นไปอย่างสุดสายตา ต่อให้ไม่มีเธอ คนอื่นๆก็ยังคงต้องใช้ชีวิตอยู่ต่อไป พัดดีใจที่ใครๆเสียใจให้เธอไม่นานนัก เธออยากเห็นพวกเขาสดใส และเป็นกำลังใจให้กันอยู่ห่างๆอย่างนี้ตลอดไป
ลมอะไรบางอย่างหอบให้เท้าทั้งสองพาเธอมาหยุดลงที่หน้าห้องภาพสุดหรู..
สถานที่ที่เธอไม่มีวันลืม
"ให้ตายเถอะมะลิ คุณดูแลที่นี่เองไม่ได้เรอะ คุณก็รู้ว่าผมไม่อยากมาที่นี่อีกแล้ว ไม่อยากจะมาเลยนับตั้งแต่วันนั้น คุณคิดว่าคุณทำตัวเป็นแม่ผมได้รึไงกัน ที่นี่เนี่ย ถ้าผมปิดแล้วขายให้คนอื่นได้ ผมทำไปแล้ว" เสียงโวยวายดังลั่นมาจากรถสปอร์ตสีขาวคันหนึ่งที่จอดอยู่ใกล้ๆ พัดเหลียวมองเสียงที่คุ้นหูในแทบจะทันที
"คุณก็ปิดแล้วขายไปเลยซี่ ทิ้งๆขว้างๆแบบนี้ พนักงานจะรู้สึกยังไง คุณรู้รึเปล่าภพ ..ว่าเราขายภาพไม่ได้เลยสักภาพเดียว นับตั้งแต่คุณไม่ยอมมาที่นี่ เราต้องแสดงรำไทยให้ฝรั่งดูแค่ 3 คน! 3คนเท่านั้น! จากที่เมื่อก่อนรอบละเป็นร้อย" เสียงแหลมเล็กดังจากผู้หยิงคนเดิมที่พัดเคยเจอ คนที่เป็นเลขานุการ
ประตูข้างคนขับเปิดออกอย่างรวดเร็ว ภพถลาลงมาจากรถแล้วรีบวิ่งเข้าประตูไป พัดมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างสนอกสนใจ โดยลืมไปเสียสนิทว่า ที่ที่เธอยืนอยู่นั้นเคยสร้างความทรมานให้กับตัวเองอย่างแสนสาหัส
เลขานุการสาวล็อกรถด้วยใบหน้าเช่นเดิมก่อนจะตามเข้าไปในอาคารสามชั้นสีขาวนั้น
ไม่อยากจะมาเลยนับแต่วันนั้น
คำพูดนั้นหมายความว่าอย่างไร ตั้งแต่วันที่เธอจากไป เขาไม่ได้กลับมาบริหารบริษัทนี้อย่างเคยแล้วเหรอ .. เขาไม่ได้กลับมาเหยียบที่นี่อีกเลยเหรอ?
พัดเดินตามสองคนนั้นไปติดๆ ตอนนี้เธอเริ่มสนุกไปกับการเป็นสายลับโดยไม่มีใครเห็น และการได้เห็นภพหัวเสียก็ดูจะเป็นความสุขอย่างหนึ่งสำหรับเธอ
พนักงานในร้านดูจะตื่นตกใจกับการกลับมาด้วยท่าทีที่แปลกประหลาดของเจ้านายที่หายตัวไปเป็นเดือน ส้นเท้าหนักๆกระแทกลงไปตามขั้นบัยไดไม้เพ้นท์ลวดลายฉูดฉาด ประตูไม้ขาวดำถูกผลักออกด้วยแรงโมโห แต่แล้วภพกลับชะงักกึกอยู่เพียงเท่านั้น และอารมณ์ที่ร้อนระอุไม่ต่างไปจากกาน้ำที่ตั้งอยู่บนเตารอเวลาแผดเสียงให้โลกได้รับรู้ว่ามันเดือดแล้วก็ลดอุณหภูมิลงอย่างรวดเร็วจนน่ากลัว เมื่อบนโต๊ะทำงานตรงกลางห้องนั้นกลายเป็นที่ตั้งของรูปภาพในกรอบไม้เรียบๆ รูปภาพที่เขาเคยเห็นแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งมันก็ยังคงปรากฏอย่างแจ่มชัดในทุกๆครั้งที่หลับตา
ดิฉันเรียกมันว่า Murder with love ภาพตรงกลางนั่นเป็นสัญลักษณ์ของความโกรธเกลียด ซึ่งเป็นที่มาของความทุรนทุราย
เสียงเล็กๆนั่นก้องกลับไปกลับมาอยู่ในโสตประสาทของชายหนุ่ม รูปภาพที่ตั้งตระหง่านอยู่บนโต๊ะนั้นคือภาพที่พัดนำมาเสนอขายเขาในวันที่เธอจากไป และภาพนี้ก็หายไปพร้อมๆกับเธอ ..หากแต่วันนี้มันปรากฏขึ้นอีกครั้งในห้องทำงานของเขา
มัลลิกาที่เพิ่งตามมาถึงเห็นภพยืนนิ่งอยู่หน้าประตูก็โวยวายเสียงดัง
"ใคร .. ใครเอาภาพนี้มาไว้ที่นี่!" เสียงเข้มและหนักแน่นสนั่นไปทั่วบริเวณทำเอาเลขาตัวแสบเงียบกริบในพริบตา สีหน้าท่าทางขิงเขามิได้แสดงออกถึงความน่าเกรงขาม แต่เป็นความราบเรียบแบบที่หาเจอได้ยากจากตัวหนุ่มเจ้าสำราญคนนี้
พัดยืนมองเหตุการณ์นั้นอยู่เงียบๆ เธอรู้สึกได้ถึงความสะเทือนใจของภพที่แทรกซึมอยู่ในน้ำเสียง แต่ก็แทบจะในทันทีที่เธอคิดสมน้ำหน้า และเทความผิดทั้งหมดไว้ที่เขา
ภาพที่เธอภูมิใจนักหนา สิ่งที่เธอเรียกมันว่า ผลงานชิ้นโบว์แดง ผลงานที่ไม่มีใครเห็นคุณค่า และอีกครั้งที่เธอยกมือขึ้นปาดน้ำตาที่ไม่ต่างไปจากอากาศ ถ้าเป็นไปได้ เธออยากจะเก็บมันเอาไว้กับตัวเอง ไม่อยากจะให้มันกลายเป็นสิ่งไร้ค่าสำหรับคนอื่น
"เคลียร์ภาพที่อยู่หน้ากระจกทุกภาพออก .. แล้วเอาภาพนี้ไปวางแทน ถ้าใครจะซื้อก็บอกไปว่าไม่ขาย" น้ำเสียงที่เรียบเสียยิ่งกว่าสีหน้าทำให้เลขาจอมโวยขนลุกตั้งชันโดยไม่รู้ตัว พนักงานสองคนถูกเรียกมายกภาพนั้นไป มัลลิกาเหมือนจะรู้ว่านี่ไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมหากจะกวนใจภพ เธอจึงเลือกที่จะกลับไปประจำที่ตามเดิม
ภพทิ้งตัวลงบนโซฟาตรงมุมห้อง เขาไม่เคยรรู้มาก่อนว่าตัวเองอารมณ์อ่อนไหวเช่นนี้ แม้เหตุการณ์จะผ่านไปนานนับเดือนแล้ว แต่ทำไมบางครั้งภาพกลับชัดเจนราวกับเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน อีกทั้งผู้หญิงที่ชื่อภัทรากับเขาก็เพิ่งเคยพบกันเพียงครั้งเดียว แต่การจากไปของเธอนั้นราวกับจะพรากชีวิตชีวาทั้งหมดในโลกของเขาไปด้วย
พัดนั่งลงบนโซฟาตัวถัดไป เธอแน่ใจว่าเขาคงไม่เห็นและไม่ได้ยินเสียงของเธอ จึงถอนหายใจออกมาดังๆ ดวงตาของชายหนุ่มหลับลงอย่างเหนื่อยอ่อน เขาต้องต่อสู้กับมัลลิกาตั้งแต่เธอปลุกเขาขึ้นจากเตียงและบังคับให้เขามาในที่ที่ไม่ต้องการจะเห็น แถมยังมีเรื่องสะเทือนใจมาให้คิดอีก เธอมองดวงหน้าของเขาอย่างใคร่รู้ เขาจะรู้สึกสำนึกผิดบ้างไหมหากรู้ว่าตอนนี้เธอนั่งอยู่ตรงข้ามเขาในสภาพที่ไร้ตัวตน และอยู่ในโลกอีกใบที่ซ้อนทับกันเช่นนี้
+:+----+:+
ความคิดเห็น