คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Chapter4 Someone comes from HEAVEN! (100%)
Chapter4 Someone comes from HEAVEN!
ชายหนุ่มนั่งบนโซฟาตัวยาวในห้องนั่งเล่นของคอนโดหรูใจกลางมหานครแห่งความวุ่นวายที่ชื่อว่า กรุงเทพฯ
ใบหน้าหล่อเหลาที่บัดนี้อิดโรย ดวงตาที่แฝงความเจ้าเล่ห์และขี้เล่นอยู่เสมอก็หายไปมีแต่ประกายแห่งความเศร้าหมองเข้ามาแทนที่ เสื้อผ้าที่มักจะเรียบร้อยกลับเต็มไปด้วยคราบเลือด แขนเสื้อถูกตลบขึ้นอย่างไม่ตั้งใจ
เขาเป็นต้นเหตุ ..ให้เธอต้องตาย ... ถ้าเพียงแต่เขาไม่ทำให้เธอโกรธ เหตุการณ์นี้ก็คงจะไม่เกิดขึ้น เขาเสียน้ำตาให้กับความผิดทั้งหมดของเขา ..
ความผิดที่เขาจะไม่มีวันให้อภัยตัวเอง
>>--:+:~:+:--<<
ณ บ้านเมฆาวลัยเสถียร
"พัดไม่อยู่แล้วครับแม่
พัดกำลังเดินทางไปหาแม่ครับ" นอกจากเสียงพึมพำของพี่ชายผู้ซึ่งสูญเสียน้องสาวคนเดียวที่เขารักไปแล้ว ก็ไม่มีเสียงอื่นใดอีก บ้านทั้งหลังตกอยู่ในความเงียบของราตรีกาล นานๆครั้งจะมีเสียงร่ำไห้แว่วมาจากเรือนเล็กของคนรับใช้ให้ได้ยิน
เพื่อนสาวที่สนิทที่สุดของผู้จากไปดวงตาแดงก่ำเป็นสีเลือดอยู่บนเตียงในห้องนอนที่เธอและเพื่อนรักเล่นด้วยกันบ่อยๆ
"ความจริงตอนนี้แกต้องไปนั่งกินข้าวกับฉันที่ร้านประจำของเราไม่ใช่เหรอ ยัยเบื๊อก ..แกผิดนัดฉันได้ไง แกก็รู้ว่าฉันไม่ชอบรอเก้อ" รุ้งนภาร้องไห้ปานจะขาดใจ ปากก็พร่ำเพ้อถึงเพื่อนสาว "จำได้หรือเปล่าว่า
ฉันชื่อรุ้ง แต่แกจะเรียกฉันว่า เรนโบว์ และถึงฉันจะรู้ว่า ท .. ทำไมแกแกถึงเรียกฉันอย่างนั้น แต่ฉันก็จะถามแกเสมอ ว่าทำไมแกต้องตั้งชื่อใหม่ให้ฉันด้วย
แล้วแกก็จะตอบฉันด้วยคำพูดเดิมๆทุกครั้ง 'ก็เพราะเรนโบว์มันอินเตอร์กว่า โบว์ 7 สีที่ผูกหลังฝนตก ฟ้าหลังฝนสดใสขึ้นก็เพราะสายรุ้ง และเมื่อไหร่ที่ฉันเครียด พอนึกถึงแก แกก็จะเป็นเรนโบว์ฟ้าหลังฝนที่ทำให้ฉันรู้สึกดีไงเล่า' "
"แม่ครับ.. พ่อครับ.. ผมดูแลน้องให้ไม่ได้.."
เสียงลมพัดหวีดหวิวสะท้อนก้องไปทั่วบริเวณเสียดแทงเข้าไปในใจของคนช้ำราวกับเป็นเสียงครางโหยหวนอย่างอาลัยอาวรณ์ของธรรมชาติที่มอบให้เธอที่จากไป ดาวทั้งหลายพากันหยุดส่องแสง คงเหลือแต่พระจันทร์เต็มดวงท่ามกลางเมฆบางๆที่พร้อมทำหน้าที่นำทาบให้กับคนอื่นที่ยังต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป
>>--:+:~:+:--<<
วิญญาณพัดเดินตามชายชุดดำที่เป็นยมทูตจากสวรรค์ เขาได้รับภาระหน้าที่ในการนำตัวเธอขึ้นไปฟังคำพิพากษา
"คำพิพากษา.." วิญญาณพัดทวนคำเบาๆ
"อื้ม อย่างคุณก็คงได้อยู่บนสวรรค์นั่นแหละ ชอบทำบุญใช่ไหมล่ะ" ยมทูตหนุ่มพูดอย่างรู้ทัน
"เราเดินมาตั้งแต่เที่ยงแล้วนะ นี่ก็มืดแล้ว เมื่อไหร่จะถึงสักที
" เธอหยุดเพื่อออกกำลังกายขานิดหน่อยด้วยความเคยชินทั้งที่ไม่มีประโยชน์ เพราะความเมื่อยล้าได้จากไปพร้อมกับร่างแล้ว
"ระยะทางระหว่างสองโลก จะใกล้กันแค่พริบตาหรือไกลเป็นปีแสง.. มันขึ้นอยู่กับความเชื่อ.." เขาทิ้งปริศนาไว้ให้เธอขบคิดเหมือนอย่างที่เขาทำบ่อยๆ
ตั้งแต่เจอนายยมทูตหน้าแปลกคนนี้มาก็พูดแต่อะไรที่เป็นปริศนา .. ใครจะไปรู้เรื่อง เธอคิด
"เชื่อเรื่องอะไรล่ะ ถ้าคุณไม่บอก เราก็คงต้องเดินไกลกันเป็นปีแสงอย่างที่คุณว่าแน่ๆ"
"ไม่ใช่เรื่องยากเย็นที่คุณจะเชื่อ .. แต่อาจเป็นเรื่องที่ทรมาน"
"บอกมาไวๆเถอะ คุณเองก็คงเบื่อเหมือนกันนี่ที่ต้องเดินน่ะ"
"แค่เชื่อว่าคุณน่ะ .. แยกออกมาจากร่างแล้วจริงๆ"
"ให้เชื่อว่าฉันตายแล้ว .. ฉันก็เชื่อแล้วไงไม่งั้นฉันจะเห็นคุณได้ไง
ช่ายยยย ฉันตายแล้ว ฉันรู้" เธอลากเสียงยาวอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์นัก
"ภัทรา.. คุณต้องเชื่อด้วยใจ
ถ้าคุณไม่เชื่อว่าคุณจะไม่สามารถกลับไปหาคนที่คุณรักได้อีกแล้ว คุณก็จะไม่ได้กลับไปหา .. แต่เมื่อไหร่ที่คุณหลับตานิ่งๆแล้วนึก .. นึกว่าคุณตายแล้ว และควรจะอยู่ในที่ที่สมควรจะอยู่ .. ถ้าเพียงแต่คุณเชื่อด้วยใจ"
หญิงสาวไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่ง.. จากที่เธอคิดว่าเรื่องทั้งหมดนี่เป็นเพียงเรื่องล้อเล่น เธอกลับพบว่า เธอไม่ใช่คนๆเดิม ที่จะทำอะไรตามใจชอบได้อีกแล้ว แค่เพียงอยากจะกลับไปอยู่ที่บ้านตามเดิม ยังทำไม่ได้ ทั้งหมด ไม่ใช่เรื่องตลก แต่มันเกิดขึ้นแล้วจริงๆ และเธอก็ไม่มีสิทธิ์ใดๆไปเปลี่ยนแปลงมัน
"หลับตา.."
"ฉันน่ะตายไปแล้ว และตอนนี้ฉันก็เป็นวิญญาณ หรืออาจจะเป็นผี.."
"ฉันเชื่อ.."
.............................
................
...........
เหมือนมีหลุมดำขนาดใหญ่มหึมาปรากฏขึ้นใต้เท้าของเขาทั้งสอง แรงดึงดูดของอะไรบางอย่างทำให้ทั้งคู่ร่วงไปตามแรงนั้น แสงสีต่างๆบนโลกมนุษย์ห่างออกไปเรื่อยๆ ทุกอย่างรอบท่อดำตรงดิ่งนั้นเหมือนจะหมุนวนด้วยความเร็วสูง ความรู้สึกชาๆเหมือนโดนไฟดูดแล่นไปทั่วร่าง พัดหลับตาปี๋ด้วยความกลัว ตรงกันข้ามกับยมทูตหนุ่มที่ปล่อยตัวตามสบายเหมือนชินกับเหตุการณ์อย่างนี้เสียเต็มประดา
ในที่สุดทั้งคู่ก็กระแทกลงกับพื้นนุ่มๆที่ไม่ก่อให้เกิดความเจ็บแม้แต่น้อย ท่อดำใหญ่ๆนั้นก็อันตรธานหายไปแล้วเมื่อพัดลืมตา เธอยืนขึ้นเงียบๆแล้ววิ่งตามชายชุดดำที่ออกเดินนำหน้าเธอไปอีกครั้ง
รอนิดรอหน่อยมันจะตายหรือไงนะ.. เธอคิดอย่างมีอารมณ์
"คุณๆ ไอ้ความรู้สึกเหมือนโดนไฟดูดนั่นมันอะไร ฉันเป็นคนเดียวหรือว่าใครๆเขาก็เป็นกัน"
"เป็นทุกคน" เขาตอบสั้นๆ
อ๋อ..นี่เองเหรอ ที่ว่าเชื่อแล้วจะใกล้แค่ปลายขนตา .. พัดคิดในใจ
เธอสำรวจสิ่งแวดล้อมรอบกาย .. พื้นสีขาวที่ดูเหมือนจะเป็นเบาะมากกว่าพื้นแข็งๆ ท้องฟ้าสีเข้มที่เธอเดาว่าคงเป็นฟ้าเดียวกันกับบนโลกมนุษย์ถูกประดับประดาด้วยดวงดาวและบริวารหนึ่งเดียวของโลก แต่อาศัยเพียงวัตถุท้องฟ้าเหล่านั้นเพียงอย่างเดียวคงไม่สว่างมากพอที่จะทำให้เห็นหนทางมืดมิดภายหน้าพื้นสีสะอาดตานั้นจึงเหมือนถูกเสกมนตร์ไว้ให้เปล่งประกายตลอดเวลา
ไหนบอกใกล้ไง .. ยังต้องเดินอยู่ดี..
"ไม่เดินจะถึงได้ไง" ชายหนุ่มพูโขึ้นอย่างรู้ทัน เธอแอบหันไปค้อนเขาอย่างไม่รู้ตัว
พัดเพ่งมองดวงตากลมโตดำสนิทภายใต้ขนตาเป็นแพยาวอย่างที่ผู้ชายน้อยคนจะมี ภายในดวงตานั้นซ่อนความลับอะไรไว้บ้าง เธอก็ไม่อาจรู้ได้
รู้แต่เพียง หนึ่งในนั้น ก็คงเป็นความทรงจำอันเจ็บปวดที่ต้องลาจากบุคคลอันแป้นที่รักมา .. เหมือนๆกับเธอ
ความเงียบเชียบและเย็นยะเยือกเริ่มทะยานเข้าครอบงำบรรยากาศอย่างไม่อาจหลุดพ้น พื้นที่กว้างไกลสุดลูกหูลูกตานั้นหามีใครไม่ นอกจากพวกเขาทั้งสอง ความเศร้าโศกมาเยือนพัดเป็นครั้งแรกนับแต่มาอยู่ในโลกใบใหม่
กลับไปไม่ได้แล้วสินะ
นาทีนั้นหน้าพี่ชายคนเดียวของเธอแวบเข้ามาในสมอง ฉันทิ้งพี่พงศ์ให้อยู่คนเดียวได้ยังไงกัน แล้วป่านนี้ที่บ้านจะเป็นยังไง..
ทุกภาพในอดีตเรียงกันเป็นฉากๆราวกับภาพยนตร์ม้วนเก่าที่ถูกนำมาฉายใหม่
พัดยกนิ้วขึ้นปาดน้ำตาอย่างเคยชิน.. หากแต่ไม่มีน้ำใสใดๆไหลลงมา
ไม่มีน้ำตาด้วยเหรอเนี่ย.. เฮ้อ..
พัดเงยหน้าขึ้นตามเสียงเรียกของชายคนเดิมที่อยู่ห่างไปไม่กี่ก้าว
"คุณเป็นกามเทพ.." เขาเอ่ยเรียบๆ ในมือมีหนังสือปกขาวเล่มหนา
"อะไรนะ.."
"คุณเป็นกามเทพ..."
------------------------------------------
อัพแว้วๆๆ ดีใจจังเลย
ชอบไม่ชอบก็เม้นกันเอาไว้นะคะ
โพสคะแนนด้วยก็ดี แหะๆ
ร้ากกคนอ่านค่ะ
ความคิดเห็น