ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ||| เส้นทางสู่ Admission ของเด็กแอดปี 52 |||

    ลำดับตอนที่ #4 : จากนักเรียน...สู่นักกิจกรรม ขึ้น ม.5 แล้วค๊าบบ!!!

    • อัปเดตล่าสุด 6 พ.ย. 50


    จากนักเรียน...สู่นักกิจกรรม ขึ้น ม.5 แล้วค๊าบบ!!!

    เวลาผ่านไปเร็วจริงๆครับ นี่ก็ปี 2550 และ วู้วว ขึ้น ม.5 แล้ว อีก 2 ปีเท่านั้นสู้รั้วมหาวิทยาลัย 55 ปีนี้น้องๆก็จะได้พบกับ..


    1. การเรียนด้วยเลือด จากที่เราว่า ม.4 ยากแล้ว ปีนี้ล่ะ จะได้เจอของจริง เพระว่ากันว่า ม.5 เนี่ยแหล่ะจะเป็นช่วงนี้ยากที่สุดใน ม.ปลายเลย เพราะบางที่ครูก็จะเร่งเอาเนื้อหา ม.6 มาใส่ในม. 5 อีกด้วย เผื่อไม่ทัน 

              
    ตัวแทนฟิสิกส์ เปิดตัวมาด้วยเรื่องคลื่น แค่คำๆเดียวนี่แหล่ะครับ ที่มันจะทำให้พวกเรา"เมาคลื่น" ไปตามๆกันเพราะเพียงเรื่องเดียวมันจะแตกออกมาอีกเป็นสิบๆเรื่อง  พร้อมกับสูตรคำนวณอีกมากมายให้เราได้ท่องจำกัน 

             
      ตัวแทนเคมี ก็ไม่น้อยน่าไม่ว่าจะเป็นเรื่องปริมาณสารสัมพันธ์1,2 ที่มีสูตรเยอะมากมายพอๆกับฟิสิกส์ บางครั้งก็สับสนกันไปหมด ไม่เพียงเท่านั้นยังมีเรื่องกรด-เบสอีกด้วย -*- เห้อ...!!! เหนื่อยจริงๆ

             
      ตัวแทนชีวะ เรื่องระบบที่ว่ายากนั้นก้ยังตามมาหลอกหลอนเราอยุ่ไม่เลิกรา 55+ แถมมันยังอัเพเกรดตัวเองให้ยากขึ้นอีก นี่ยังไม่รวมเรื่องอาณาจักรที่เราจะมานั่งท่องไฟลัม คลาส แปลกๆเป็นภาษาต่างดาวกัน 55+ "เพอริเฟอรา คอร์ดาตา แอนเนลิเดา มอลลัสา..." ที่โรงเรียนนผมในอาณาจักรสัตว์เรียนแค่ 9 ไฟลัมพื้นฐาน แต่บางที่ที่ฟิตๆนี่เค้าสอนกันมากกว่านี้อีกนะครับ  
               นอกจากนี้วิชาอื่นๆก็ไม่น้อยหน้าพัฒนาความยากไปตามๆกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิชาเลขเสริม ที่คงความหฤโหดได้ต่อเนื่องตลอดมา -*- สอบทีไรนี่จะตายเอา แห่กๆๆๆๆ



    2. กิจกรรมดีๆ พาชีวีดับสลาย ในปีนี้หลังจากเราได้เป็นเฟรชชี่ ม. ปลายมา 1 เราก็จะได้พบกับงานกิจกรรมต่างๆมากมาย ไม่ว่าจะเป็น 

    - การเลือกตั้ง เกมการเมืองเล็กๆในโรงเรียน ซึ่งเราจะได้ออกมาตั้งพรรค วางนโยบายหาเสียงกัน 5+5 ผมเองก็ได้ตั้งพรรคเป็นหัวหน้าพรรคกับเค้าด้วย 55+ แต่ได้ที่ 2 -*- ตอนหาเสียงก็มันส์ดี พอว่างเปิ๊บเราก็ไปทำป้ายประกาศหาเสียงกัน ขึ้นไปพูดหาเสียงหน้าเสาธง แล้วก็ไปเต้นหาเสียงรอบโรงเรียนอีก 55+ ฮาสุดๆ ลองทำดูครับมันส์ๆ

    - สภานักเรียน หลังจากเลือกตั้งเสร็จเค้าก็จะเอาพรรคทั้งหมดมารวมกันอยู่ดีแหล่ะครับ ส่วนนโยบายอะไรที่ใช้หาเสียงกันไปก็เท่านั้นแหล่ะครับ ขออนุมัติจริงๆไม่เห็นจะได้ เหอะๆ เซง - -" เพราะงั้นอย่าไปว่าเค้าเลยว่าสภานักเรียนไม่ทำไรเลย 55+ คงเจอปัญหาเดียวกัน อ่าแต่งานของสภานักเรียนก็มี ที่เค้าเตรียมไว้ให้อยุ่แล้ว เริ่มต้นด้วยงานไหว้ครู งานแบกเทียนเข้าพรรษา ฯลฯ อีกมากมายเลย งานสภานักเรียเนี่ยเป็นอะไรที่เสียการเรียนสุดๆ เพราะมันเป็นความรับผิดชอบระยะยาวเลยที่เราต้องทำ 1 ปีเต็มๆ เค้าเรียกเมื่อไหร่เราก็ต้องไป ถึงแม้จะในคาบเรียนก็เหอะ เห้ออ.. ไม่น่าหาเรื่องให้ตัวเองเลยกุ 55+ 

    - กีฬาสี เป็นกิจกรรมหลักที่ทุกคนให้ความสำคัญกันมากที่สุด เค้าว่ากันว่า ม.4 อย่าเพิ่งเลยเรียนรู้งานไปก่อน ม.6 ก็ปล่อยเค้าเตรียมเอนท์เถ๊อะ เพราะงั้นภาระงานนนี้จึงตกมาอยู่ในมือของพวกเรา ม.5 -*- ผมเองก็ได้เป็นประธานสีกับเค้าเหมือนกัน ชนะด้วย แต่ก็เป็นงานที่เหนื่อยมากๆ แปปเดียวล่ะ  ช่วงที่ทำนี่ก็เสียเวลาเรียนออกไปเยอะมาก งานค้างเพียบ อย่าคิดว่าแค่มาตามลอกแล้วจะทันนะครับ เพราะมันทันแค่ในสมุด แต่หัวเรามันไม่ทันไปด้วยหรอก แล้วเข้ามาเรียนอีกทีมันก็ทำให้เราไม่เข้าใจไปด้วย เพราะว่าเรื่องเรียนมันมักจะต่อเนื่องกัน ไม่เข้าใจเรื่องนึงก็จะไม่เข้าใจอีกเรื่องนึงด้วย และที่สำคัญพอเราไม่เข้าใจแล้วก็จะทำให้เราไม่อยากเรียนและหลับในที่สุด 55+ ที่ควรทำก็คือพยายามออกมาทำงานกีฬาสีในเวลาเรียนให้น้อยที่สุด แต่ถ้าจำเป็นจริงๆก็พยายามเลือกไปในวิชาที่เราคิดว่าเราถนัดและพอจะทำความเข้าใจเองได้จะดีที่สุด 




          
          ประโยชน์จากการทำกิจกรรม

    1.
    ใช่ใส่แฟ้มประวัติส่วนตัว เวลาที่ไปสอบสัมภาษณ์เข้ามหาวิทยาลัยเค้าจะเรียกดูผลงานของเรา เดี๋ยวนี้ ระหว่างคนเกรด4 แต่ไม่เคยทำกิจกรรมเลย กับ คนที่เกรดค่อนข้างดี 3 กว่า และร่วมเสียสละทำกิจกรรมของโรงเรียนแล้ว เค้าเลือกคนที่มีผลงานทางด้านกิจกรรมด้วยแน่นอนนะครับ


    2.
    เป็นการฝึกการทำงานของเรานะครับ เมื่อเข้าไปในมหาวิทยาลัยเวลาต้องทำงานพวกนี้เราจะได้ทำได้ เพราะในมหาวิทยาลัยจะมีกิจกรรมเยอะแยะกว่าโรงเรียนอีกหลายเท่า สิ่งที่เราได้เรียนรู้จากกิจกรรมในโรงเรียนมีมากมาย ไม่ว่าเป็นเรื่องการแก้ไขปัญหาต่างๆระหว่างการทำงาน ด้านการมีมนุษยสัมพันธ์ต่อผู้อื่น ทำให้เราเข้ากับคนได้ง่าย การเป็นผู้นำผู้ตามที่ดี ความรับผิดชอบ และอีกเยอะแยะมากมายเลยทีเดียว



             
       เคล็ดลับการทำกิจกรรมให้ได้ดี

    1.
    จะต้องมีความรับผิดชอบ
    -
    ต่อตนเอง (เรื่องเรียน) ถ้าเราทำกิจกรรมแล้วเสียการเรียนก็อย่าไปทำมันเลยครับ เพราะผลเสียมันจะเกิดขึ้นกับเราเองทั้งน้านนน....!! ทำให้เรา เกรดตก เรียนไม่รู้เรื่อง และเอนท์ไม่ติดในที่สุด
    - ต่อผู้อื่น ขึ้นต้นด้วยคำว่ากิจกรรมต้องทำงานร่วมกับคนอื่นทั้งนั้น เพราะงั้นผลกระทบมันจะไม่ตกอยู่แค่เราเท่านั้นแต่มันตกไปถึงคนอื่นอีกด้วย เช่น ถ้าเราทำงานกีลาสีแล้วสีอื่นเค้าทำกันสวยงามอลังการแต่สีเราไม่มีอะไรเลยอย่างเงี้ย คนที่สงสารไม่ใช่สงสารเราที่งานเยอะไม่มีเวลามาทำนะครับ ต้องสงสารน้องๆอีกเป็น ร้อยๆคน ที่ซวยมาอยู่สีแย่ๆของเรา เพราะงั้นถ้าจะทำก็ขอให้ทำให้ดีนะครับ

    2. เสียสละให้พอดี
    การเสียสละของเราทำได้หลายทางนะครับ ไม่ว่าจะเป็นแรงกำลัง เงิน หรือแม้แต่เวลาเรียน แต่เราก็ควรเสียสละให้พอดีด้วย เพราะการเสียสละเวลาเรียนไปทำกิจกรรมเนี่ยเป็นสิ่งที่ดี แต่ในขณะเดียวกันก็เปนการเสียสละความรู้ไปด้วย เพราะงั้นเราควรเลือกเวลาไปทำกิจกรรมให้เหมาะสมไม่มากหรือน้อยจนเกินไป  เอาแบบพอดีนะครับ เรื่องเงินก็เหมือนกันผมเห็นบ้างคนนี่โคดทุ่มเทเลย งานนี้กุชอบจ่ายเอา ผมว่าเป็นเรื่องที่ดีแต่บางครั้งมันกมากเกินความสามารถที่เราควรจ่ายนะครับ ทุกบาทที่จ่ายไปแลกกับเหงื่อของพ่อแม่เราที่ทำงานมาให้เรานะครับ 555+ แอบซึ้ง เอิ้กๆๆ อ่า ก็ผมก็แนะนำว่าเราควรขอบิลทุกครั้งแล้วเอาไปเบิกโรงเรียนเค้าอย่าเช่นเวลากีฬาสีเค้าก็จะมีงบมาให้อ่ะครับ ที่จริงเค้าให้มาเท่าไหร่เราก็ควรใช้เท่านั้นนะครับ ไม่ต้องไปเพิ่มให้เค้าหรอก ของผมเองใช้เหลือเยอะแยะ ยังชนะได้เลย 55+ เงินที่เหลือก็เอาไปซื้อของกินกันดีกว่า กรั๊กๆๆๆๆๆ

    3. ทำให้เต็มที่ อย่าให้ใครมาว่าเราได้ และอย่าไปเป็นภาระใคร
    การทำงานกับคนมากๆ แน่นอนว่าต้องมีดีไม่ดีปะปนไปอยู่แล้ว เวลาเห็นเค้าอู้ก็อย่าไปคิดว่า "ทีมันยังไม่ทำบ้างเลย อย่างงี้กุก็เสียเปรียบดิ" เพราะถ้าทำอย่างงี้กันหมด งานก็คงไม่เสร็จแน่นอน ให้เราทำต่อไปเถอะครับ ทำส่วนของเราให้ดีที่สุด อย่าให้ใครมาว่าเราได้ ให้งานส่วนที่เรารับผิดชอบออกมาให้ดีที่สุดก็พอ แบ่งงาน 9 คน เพียงแค่คนเดียวทำไม่เสร็จ ก็ทำให้งานไม่เสร็จได้ และถ้าเราทำไม่เสร็จคนอื่นก็ต้องมาเป็นภาระช่วยทำงานให้อีก และไม่ต้องให้ใครมานั่งตามให้เรามาทำงานด้วยล่ะ

    4.
    ตรงต่อเวลา
    ถ้ามีกิจกรรมอะไรที่มีกำหนดการ แล้วเราทำเสียกำหนดการเค้าเพียงอย่างเดียว ก็จะทำให้งานอื่นๆ ที่ต่อกำหนดการเราเสียไปด้วย และถ้ากำหนดวันจัดงานแล้ว เรายังทำไม่เสร็จเมื่อถึงวันนั้น ก็อาจจะทำให้งานนนั้นล้มเหลวไปเลยก็ได้ รวมทั้งผู้ร่วมกิจกรรมก็จะเสียความรู้สึกไปด้วย

    5. มีมนุษยสัมพันธ์และวางตัวให้ดี
    ทางด้านอายุ การทำงานนนี้ไม่ได้มีเพียงแค่เรากับเพื่อน บางครั้งต้องทำร่วมกัน รุ่นน้อง รุ่นพี่ รวมไปถึงครูอาจารย์เลยด้วย ควรปฎิบัติตัวให้เหมาสม อย่าทำกร่าง ส่วนทางด้านตำแหน่ง เราก็ควรวางตัวให้ดีด้วย หากเป็นผู้นำก็ต้องรับฟังความเห็นคนอื่น แล้วก็ยุติธรรมหน่อย จะให้ดีเวลาจะตัดสินใจอะไรกับคนมากๆเนี่ย ปกติที่ผมใช้ ผมจะให้โหวตไปเลย จะได้ไม่มีปัญหา และถ้างานนนั้นออกมาไม่ใช่ที่เราเสนอไปก็ไม่ใช่เราจะทิ้งงานเลย เราก็ควรจะช่วยเค้าทำตามมติของเสียงข้างมากไปอย่างเต็มที่ต่อไปนะค๊าบบบ การวางตัวได้ดีน้นคนอื่นๆก็จะมาช่วยเหลืองานเราอย่างเต็มใจนะครับ ยิ่งในฐานะครูกับนักเรียนต้องตีซี้ไว้ เค้าจะช่วยเราได้มากเลย

    6.
    เรียนรู้ข้อผิดพลาดจากการทำงาน
    ในการทำงานจะเกิดปัญหาและข้อผิดพลาดต่างๆ เราอนุญาตเกิดปัญหาข้อผิดพลาดได้ทุกครั้ง แต่ว่าปัญหาข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นก็ไม่ควรจะเป็นปัญหาหรือข้อผิดพลาดเดิมๆ ซ้ำๆซากๆ พอแก้แล้วก็ลืม ควรเรียนรู้จากมันด้วย และนำมาป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก  


    ครับผม หวังว่านี่จะเป็นแนวทางให้ทุกคนได้บ้างนะครับ เขียนเองล้วนๆไม่ได้ก๊อปใครมาเลย กลั่นมาจากประสบการณ์จริง แหะๆ ^^

    ตอนต่อไปคอยติดตามกันนะครับ อ่านแล้วเป็นยังไงอย่าลืมคอมเม้นนะครับบ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×