ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ||| เส้นทางสู่ Admission ของเด็กแอดปี 52 |||

    ลำดับตอนที่ #2 : ผมจาเข้าเตรียมอุดมคร๊าบบบ.. ( สมัยสอบเข้า ม.4 )

    • อัปเดตล่าสุด 6 พ.ย. 50


    ผมจาเข้าเตรียมอุดมคร๊าบบบ.. ( สมัยสอบเข้า ม.4 )
    ครับ แน่นอนเลยว่าความใฝ่ฝันอันหนึ่งของเด็กเอกชนอย่างพวกผมในสมัย ม.ต้นก็คือการสอบเข้าม.4 ในโรงเรียนรัฐต่างๆ แผนการเรียนที่ผมกะจะเข้าคือวิทย์-คณิตเนี่ยแหล่ะครับ ผมพยายามถามใครต่อใครหลายคนแต่ก็ไม่มีใครตอบผมได้เพราะผมไม่ได้เรียนดีเป็นพิเศษสักวิชา กลับได้คะแนนพอๆกันทุกวิชา ถ้าผมบอกว่า"ผมชอบภาษา แต่อยากเรียนวิทย์" -*- นั่นแหล่ะ ทำให้ผมอยากเข้าเตรียมเพราะมานมีสายวิทย์-ภาษาด้วย T_T สำหรับผมก็มีอยู่ไม่กี่ที่ที่เป็นที่ใฝ่ฝันของผมครับ


               1.
    โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา TUนั่งเองสมัยผมถ้าติดไปนี่รุ่น 69 ด้วยเลขสวยมากมาย T_T เดี๋ยวเล่า

               2.
    โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์เป็นโรงเรียนตัวเต็งของเด็กวิทย์อย่างเราๆเลยล่ะครับ มีทุนรอรับอย่างดีได้นอนหอร่วมกับเพื่อนๆ อู้ยย ความฝันของผม T_T แต่แล้วผมก็ถูกหมดหวังไปเพียงเพราะเกรดแค่ไม่กี่จุด -*-ข้อแม้ของที่นี่คือ วิชาวิทย์ และคณิตและเกรดรวมจะต้องได้ 3 ขึ้นไป (น่าจะนะครับ)ถึงจะมีสิทธิ์สอบเข้าซึ่งผมมาเสียแค่เพียงเทอมเดียวในตอน ม.2 เท่านั้นเทอมเดียวที่เราไม่ตั้งใจเรียน ไม่ส่งงาน วันๆไปโรงเรียนก็นอนๆรอเวลาเลิกอย่างเดียว มีเที่ยวเตร่ดึกๆดื่นๆอีก -*- นับเป็นความซวยขั้นแรกเลยครับผมจึงไม่มีสิทธิ์ไปสอบที่นี่

               3. 
    โรงเรียนบดินทร์ 1 ในปีนั้น พ.ศ.2548 (วู้ยยย เริ่มแก่แล้วเนี่ยพูดเรื่องความหลัง 55+) มันดันสอบตรงกับ เตรียมอุดม ทำให้ผมต้องเลือกและผมก็เลือกที่จะไปสอบเตรียมอุดม ทั้งๆที่บ้านอยุแถวลาดพร้าว -*-กะติดไว้ก่อนที่เหลือค่อยว่ากัน

               4. 
    โรงเรียนเดิม (เดี๋ยวจะบอกว่าโรงเรียนอะไร) ถ้าเกิดไปไหนไม่ได้แต่ในการต่อโรงเรียนเดิมของผมก็จำเป้นต้อแข่งกันอีก เพราะต้องคัดเด็กออก จาก .ต้น 4 ห้อง 160 คน ต้องคัดเหลือ 3 ห้อง 120 คน ต้องออกไป 40 คน 3 ห้องที่มีก็จะมีสายวิทย์-คณิต ศิลป์-คำนวณ ศิลป์-ภาษา ซึ่งเกณฑ์ในการคัดเลือกของโรงเรียนก็โหดพอดูอย่างแรกเลยเค้าก็ดูที่พฤติกรรมก่อนจะเก่งมาจากไหนแต่ถ้าทำตัวย่ำแย่เค้าก็ไม่เอาอย่างที่ 2 คือเรื่องเกรดแต่บางคนถ้าเกรดไม่ค่อยดีแต่ความประพฤติดีมากโรงเรียนก็จะช่วย ^^ โรงเรียนมีศีลธรรมมั้ยล่ะ 55+ โชคดีที่ผมเกรดพอใช่ ส่วนพฤติกรรมนี่โชคดีที่เราไปเลวร้ายเอานอกโรงเรียน เหอะๆ 55+ ล้อเล่นครับ ก็ดีๆเลวๆปะปนไปนั่นแหล่ะ 55+
               
    และเรื่องที่เซงคือการจะเข้าแผนวิทย์ต้องมีเกรด 3.5 ขึ้นที่เหลือเป้นตัวสำรอง ซึ่งผมที่คะแนนตกไปตอน ม.2 ต้องมาตั้งใจเรียนอย่างหนักหลังจากที่เหลวเป๋วมานาน ก็กระตุ้นเกรดจบม.ต้นได้ที่ 3.15 -*- ครับ และตอนนี้ผมก็ได้เป็นตัวสำรองสายวิทย์แบบโคลงเคลงๆจะได้อยู่รึเปล่าก็ไม่รู้ 


               
    อ่าถึงไคลแมกและผมเป็นเด็กที่ไม่เคยเรียนพิเศษที่ไหนเลยนอกจากที่โรงเรียนจัดให้ -*-ในตอนนั้นเค้าว่ากันว่าใครที่จะเข้าเตรียมต้องไปเรียน GSC ,The brain แล้วก็อะไรอีกต่างๆนานา แต่ผมก็ไม่ได้ไปเหตุเพราะตังไม่ค่อยจะมีด้วยแหล่ะไม่งั้นคงไป 
               
    ดังนั้นหลังจากตั้งน่าตั้งตาจะสอบแล้วผมก็เที่ยวไปซื้อหนังสือเตรียมสอบต่างๆนานา ผมอ่านเน้นพิเศษโดยเฉพาะวิทย์คณิต อังกฤษ เพราะสอบเยอะสุดส่วนไทยกะสังคมรู้สึกจะสอบอย่างละครึ่ง 
              
               
    ผมเริ่มอ่านจริงๆจังๆเมื่อไหร่น่ะหรอ....???   1 อาทิตย์ ก่อนสอบครับในขณะนั้นเพื่อๆผมก็ออกไปเรียน GSC กันที่สยามตั้งแต่เช้า กว่าจะกลับบ้านกันก็มืดค่ำในขณะที่ผมไม่ได้เรียนพิเศษแบบเค้าเลยต้องขยันเป็นพิเศษคิดไว้ว่าเราต้องขยันมากกว่าเค้าเท่าตัวเลยอ่านแบบบ้าคลั่งเลยทีเดียวช่วงนั้นปิดเทอมแล้วถ้าจำไม่ผิด 

               
    ผมอ่านทั้งวันทั้งคืนโดยจะเริ่มที่กินข้าวเย็นเสร็จ แล้วอ่านตั้งแต่ 6 โมงเย็น ไปจนถึงประมาน 9 โมงเช้าของวันรุ่งขึ้นและนอนมาตื่นเอา 5 โมง กินข้าวอาบน้ำแล้วก็มาอ่านแบบเดิมๆซ้ำไปซ้ำมาผมก็ไม่เชื่อตัวเองเหมือนกันว่าจะทำได้ กินข้าวและอาบน้ำวันล่ะครั้งพอง่วงผมก็เอายาหม่องทาใต้ตา (ไม่ดีอย่าลอกเลียนแบบ 55+)ผมรื้อฟื้นอ่านใหม่หมดตั้งแต่ ม.1- ม.3 และทำ short note ใส่สมุดของเตรียมอุดม ที่รุ่นพี่ที่นั้นเอามาให้ 55+ เพื่อปลุกขวัญกำลังใจและก็ฝึกทำโจทย์คำนวณ ทุกแบบ ทั้งวิทย์และคณิต ต้องขอบคุณพี่ที่เตรียมพี่เค้าน่ารักมาก พอรู้ว่าผมจะเข้าก็หอบหนังสือตั้งใหญ่มาให้เลย ^^ แล้วก็ช่วยติวๆให้ด้วย ต้องขอบคุณพี่ล้งเล้งมากๆ 55+ ^^
              
    อ่าพออ่านแบบนี้มาได้ไม่นานเข้าสู่วันที่ 4 ผมก็ป่วยแบบแทบลุกจากที่นอนไม่ไหวคงเป็นเพระนอนน้อยและก็กินข้าวน้อย มันเป็นอะไรที่เลวร้ายมาก เพราะสิ่งที่สำคัญมากๆกำลังจะเกิดขึ้นกับเราในอีก 2 วันข้างหน้าเท่านั้น เรากับป่วย ซึ่งไม่รู้จะหายทันมั้ย หนังสืออยู่ข้างๆก็อ่านไม่ไหวอ่านไปก็ไม่รู้เรื่องทั้งๆที่มีสติเห็นอนาคตอยู่ข้างหน้าแต่ผมกลับทำอะไรไม่ได้เลย -*-ตอนนี้โมโหตัวเองมากว่าทำไมต้องมาป่วยเอาตอนนี้ผมเลยตัดสินใจนอนมันไปเลย 24 ชั่วโมง อัดยาเต็มที่ พอตื่นมาก็พอมีแรงไหวเหลือเวลาอีกแค่วันเดียวผมก็ทำการสรุปสูตรเลขและวิทย์ทั้งหมด ใส่สมุดด้านหลัง และอ่านหลักภาษาของไทยและ short note ที่สำคัญไปในหลังสมุดเหมือนกันส่วนวิเคราะห์บทความผมก็จดเทคนิคหลักการดูไปนิดหน่อยแล้วไปมั่วเอา 55+  สุดท้ายผมอ่านสังคมแบบผ่านๆ กะว่าไปมั่วๆเอาได้เช่นกัน


    มาถึงแล้วววันสอบบ........ 
              
    เชื่อหรือไม่แม้จะเป็นคืนก่อนสอบผมก็อ่านหนังสือถึงตี 1 เลย ทั้งๆที่ต้องตื่น 6 โมงเช้า แบบนี้ไม่ดีนะครับอย่าเอาอย่าง 55+เพราะไปสอบไกลถึงเตรียมอุดมแถวสามย่าน วันนั้นผมตื่นแต่เช้าไปนั่งเรือที่ท่าเรือเดอะมอล์ (น่าเศร้าไปคนเดียว)ไปลงที่ประตูน้ำระหว่างการเดินทางผมก็ดูนั่งดูตัวอย่างการคำนวณไปตลอดทางพอไปถึงเตรียมอุดมผมก็เปลี่ยนมาท่องมันแต่สูตรอย่างเดียวผมเองก็ไปไม่ค่อยจะถูกเท่าไหร่ต้องขอบคุณพี่ที่เตรียมอกแล้วที่อุส่ามาพาไปห้องสอบแต่เช้า ^^ ขอบคุณพี่มุกมากๆ 55+ 

    *** ข้อควรระวัง
    ในสูตรที่ท่องทั้งหมดมีเรื่องนึงที่ผมไม่ค่อยชอบคือเรื่องการคำนวณหาปริมานความร้อน นอกนั้นผมจำได้หมดผมเลยคิดเข้าข้างตัวเองไปว่ามันคงไม่ออกหรอก เชื่อมั้ยครับ พอเข้าไปมันออกด้วยยย!!! ฮึ่ยๆๆๆ โมโหมากก 1 คะแนนเนี่ยทำให้ลำดับเราเปลี่ยนไปได้มากๆนะครับ  -*- เพราะงั้น เป็นบทเรียนนะครับอ่านให้ครบอย่าคิดเข้าข้างตัวเองว่าเรื่องที่เราไม่ชอบเค้าจะไม่ออก 55+ 

    เชื่อมั้ยว่าเค้าให้เวลาวิชาเลข 2 ชั่วโมงมั้งงคนข้างๆผมคนนึง ไม่ถึงครึ่งชั่วเลยหลับแล้ววว -*- ทำให้ผมใจชื้นมาหน่อยว่าเอออย่างน้อยเราก็ยังคิดได้คำตอบ ถูกหรือผิดค่อยว่ากันอีกที 55+

    และแล้วการสอบก็ผ่านพ้นไปป......

    เมื่อวันประกาศผลใกล้มาถึง
              
    ก่อนหน้าวันประกาศผลผ่าน sms และ internet 1 วันเค้าจะติดประกาศที่โรงเรียนวันนั้นผมตัดสินใจไปกับเพื่อน 2 คน นั่งรถเมล์ไป ลงตรงประตูน้ำแล้ววิ่งๆๆๆๆๆๆๆไปแบบหน้าบ้านว่ากุพยายามขนาดนี้ต้องติดชัววพอไปถึงดูรายชื่อไม่มีตัวเองเปิ๊บบ ผมนี่แบบเสียใจแทบร้องไห้เลยทำอะไรไม่ถูกไม่รุ้จะพูดอะไร ไม่รุ้จะทำอะไรต่อเหมือนมาถึงเตรียมอุดมเพื่อมาดูว่าตัวเองไม่ติดเต็มที่ เหอะๆ เป็นครั้งแรกที่ผมเอาจริงเอาจังกับมันมากๆ ถึงขั้นไม่สบายแต่ผลตอบแทนจากความพยายามของผมคือ ...........  ความผิดหวัง 

              
    แต่นั่นเป็นเพระผมเตรียมตัวน้อยเองแหล่ะครับ และที่สำคัญที่สุด ถ้าผมตั้งใจเรียนกับครูตั้งแต่ ม.1-3 ก็คงจะดีกว่าต้องมาเสียเวลาอธิบายให้ตัวเองฟังอย่างนี้ก่อนไปสอบผมบอกคนแทบทั้งโรงเรียน 55+ ว่าผมจาเป็นเด็กเตรียมแล้วว - -" เห้อออ..!!!หน้าแตกเลยล่ะเรา แต่ถึงยังไงก็ได้ที่ประมาณเกือบ 2000 จากคนสอบ 5000 กว่าคนมั้งเค้ารับ 700 คน แค่นี้พี่ก็ดีใจแล้วนะเพราะเราก็พยายามด้วยตัวเราเองไม่ได้ไปเสียตังเรียนพิเศษที่ไหนเลย

              
    น้องๆที่กำลังจะสอบเข้าก็ลองเอาเรื่องที่พี่เจอไปคิดดูนะครับน่าจะช่วยน้องในการเตรียมตัวเข้า ม.4 ได้ไม่มากก็น้อยล่ะถ้าติดนะเป้นอะไรที่มีความสุขมาก เพราะพอดูประกาศเปิ๊บจะมีพี่ๆเค้ามาบูมๆๆๆต้อนรับน้องๆที่ติด -*- ส่วนพวกพี่ที่ไม่ติดอย่าเสียใจล่ะเป็นบทเรียนให้เราไม่ประมาทในการเรียน พอตั้งแต่นั้นขึ้น ม.ปลายมาพี่ก็ตั้งใจเรียนเก็บเกรดแมร่งทุกวิชาพยายามไม่ปล่อยให้เกรด 4 พลาดไปไหนแต่ไม่ได้จริงๆก็ไม่เป็นไรเพราะเราพยายามเต็มที่และ

           
       อ่าเกือบลืมบอกไป สรุปแล้วผมก็อยู่โรงเรียนเดิมของผมสายวิทย์คณิตล่ะ   ได้ไม่ได้ไม่รู้แต่ซัมเม่อผมก็ย้ายตัวเองไปเรียนห้องวิทย์เลยทั้งๆที่ชื่ออยู่ศิลป์-ภาษา 55+ แล้วก็เรียนมาจนถึงปัจจุบัน
             
    บางคนสงสัยว่าผมอยู่โรงเรียนอะไรผมอยู่โรงเรียนแถวนวมินทร์ เดอะมอล์บางกะปิ เนี่ยครับ คงไม่มีใครรู้จักแต่ตอนนี้ผมก็ไม่เสียใจเลยทีได้อยู่โรงเรียนนี้ 55+ อยู่มา 13 ปีได้ตั้งแต่ อ.1 และก็จะอยุ่ต่อไปจนจบ 55+ รัก MN โคดๆ 55+ ไว้คราวหน้าจะมาเล่าให้ฟัง

    เหนื่อยและวันนี้ไปล่ะน้องๆคนไหนอยากถามเรื่องเตรียมตัวสอบเข้า ม.4 ก็ถามๆมาได้ จะพยายามหาคำตอบมาให้ ^^

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×