ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    MY PUPPY BOY [ CINTEUK ] PART 1 THE END

    ลำดับตอนที่ #6 : MY PUPPY BOY 6 ::: NC + goodnight kiss >//

    • อัปเดตล่าสุด 21 เม.ย. 52


    ฮีชอลดึงกางเกงตัวเล็กออกมา เผยให้เห็นแก่นกายที่กำลังชูชัน “ไหนว่าพอแล้วไง”
     
    “ฮึก” ฮีชอลจับคนตัวเล็กพลิกหัน ปลดซิบกางเกงลงมา คนตัวเล็กสะอื้นหนักขึ้นไปอีก
     
    แก่นกายถูกกระแทกเข้าไปช่องทางเล็กอย่างรวดเร็ว สะโพกหนา ถูกขยับตามความต้องการของร่างสูง คนตัวเล็กสะดุ้งเฮือก ริมฝีปากสั่นอย่างทรมาน ความรุนแรงที่ได้รับทำให้ช่องทางคับแคบฉีกขาดจนเลือดออก
     
    “ฮืออ ฮีชอล ผมเจ็บ” มือเล็กจิกผ้าปูเตียงแน่น ร้องด้วยความเจ็บปวดยังเบื้องล่าง น้ำตาไหลพรากจนใบหน้าหวานชื้นไปด้วยคราบน้ำตา สองมือเรียวจิกเกร็งระบายความเจ็บและเสียวซ่านจนเล็บจิกฝ่ามือนุ่มเป็นรอยแดง กายบางสั่นโยนไปตามแรงขยับจากร่างสูง
     
    “อื้อ…อ๊ะ” เสียงทุ้มคราง อย่างพึงพอใจ สะโพกหนายังขยับไม่หยุด
     
    “อ๊า… อ๊ะ …. ฮึก อ๊ะ….อื้อ ” เสียงครางสลับกับเสียงสะอื้น “เจ็บ…อ๊ะ” เบื้องล่างถูกกระแทกกระทั้นอย่างหนักหน่วง ซ้ำมือหนายังกอบกุมส่วนอ่อนไหว ขยับขึ้นตามแรงกระแทก
     
    คนตัวเล็กหลั่งของเหลวขุ่นออกมาเปื้อนหน้าท้อง ช่องทางแคบบีบตอดรัดแก่นกายร่างสูงเป็นจังหวะ ทำเอาร่างสูงต้องหลับตาแน่น ด้วยความพึงพอใจ 
     
    “อ๊ะ...อื้อ” เสียงครางออกมาพอ ใจกับแรงบีบรัด ทำให้ต้องขยับแก่นกายถี่รัวขึ้น
     
    “พอ… พอสักที ฮึก…” คนตัวเล็กสะอื้นไม่หยุด ทั้งกรีดร้องให้ร่างสูงแต่ก็ไม่ทีท่า ยิ่งตัวเองไม่ยอมมากเท่าไหร่ ดูเหมือนร่างสูงจะพอใจมากเท่านั้น
     
    ไม่นานสะโพกหนาก็พ้ายแพ้ต่อช่องทางเล็ก ฮีชอลกระตุกเกร็งอย่างก่อนจะปล่อยของเหลวสีขุ่นออกมาเต็มช่องท้อง
     
    คนตัวเล็กล้มพับลงไปนอนกับเตียง แทบจะหมดสติ เจ็บช่วงที่ถูกกระทำ
     
    “ฮึก ฮีชอล”
     
    “เรียกอยู่ได้ วันหลังถ้าฉันไม่ได้เรียก ก็ไม่ต้องมาเรียกชื่อฉันนะ” ฮีชอลผลักอีทึกออกไป สวมเสื้อให้เรียบร้อย แล้วเดินออกจากห้องไป 
     
     
    อีทึกค่อยๆ แกะเชือกที่ผูกติดไว้ออก ใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อย แล้วถึงจะเดินกลับไปที่ห้องตัวเอง   ล็อคประตู ใส่กลอนจนเรียบร้อย รวมถึงหน้าต่าง ระเบียง ก็จัดการปิดม่านจนหมด ไปนั่งร้องไห้ที่มุมห้องเงียบๆคนเดียว
     
     
     
    “อีทึก นี่แม่นะ เปิดประตูให้แม่หน่อย” หญิงสาวเคาะประตูห้องคนตัวเล็ก เพราะกลับมา ก็ว่าจะแวะขึ้นมาดูหน่อย แต่เสียงสะอื้นกลับดังลอดออกมา
     
    อีทึกรีบปาดน้ำตาออก ก่นอจะเดินออกมา
     
    “เป็นอะไรลูก” หญิงสาวดูตกใจกับสภาพคนตัวเล็ก “คอไปโดนอะไรมา โดนแกล้งหรอ แล้วฮีชอลรู้รึยัง” หญิงสาวดูอีทึกอย่างเป็นห่วง
     
    “ฮีชอลรู้รึยัง” ถามอีกรอบเพราะคนตัวเล็กเงียบไป
     
    อีทึกน้ำตาคลอเบ้าก่อนจะส่ายหน้า 
     
    “ฮีชอลยังไม่รู้หรอ งั้นไปกินข้าวก่อนแล้วกัน” หญิงสาวจูงคนตัวเล็กลงไป
     
     
     
    “อีทึก ไม่หิวรึไง” ผู้ที่อีทึกเรียกว่าพ่อถามขึ้น เพราะคนตัวเล็กเอาแต่เขี่ยข้าว
     
    อีทึกส่ายหน้า น้ำตาคลอเบ้า
     
    “ฮีชอล ไปไหนนะ” หญิงสาวบ่นชะเง้กมองหาร่างสูง “นั่นกลับมาแล้ว”
     
    หญิงสาวพูดขึ้นหลังได้ยินเสียงรถ แล้วเจ้าตัวก็เดินเข้ามา
     
    “พ่อ   แม่กลับมาตั้งแต่เมื่อไร” ฮีชอลเดินเข้าไปกอดผู้เป็นแม่
     
    “กลับมาก่อนที่เราจะกลับมาหน่ะแหละ”
     
    “อันนั้นผมรู้ฮะ” ฮีชอลตอบยิ้มๆ แต่สายตาก็เหลือบไปเจอร่างเล็กที่กำลังมองตนน้ำตาคลอเต็มดวงตาคู่สวย ฮีชอลก็ถึงกับหุบยิ้ม
     
    “นี่ฮีชอล ลูกหน่ะ ไปอยู่โรงเรียนเดียวกันกับอีทึกใช่มั๊ย ดูแลอีทึกหน่อยสิ วันนี้เค้าโดนรังแกมานะ ร้องไห้ใหญ่เลยแม่ถามอะไรก็ไม่ยอมตอบ ฮีชอลลองๆคุยกับอีทึกหน่อยสิลูก” ผู้เป็นแม่กระซิบฮีชอล
     
    “ไม่ต้องหรอกฮะ อีทึกหน่ะ คนรักเค้าเยอะจะตาย” ฮีชอลกระแทกเสียงจงใจให้คนตัวเล็กได้ยิน
     
    “แม่ฮะ ผมอิ่มแล้ว” อีทึกรวบช้อนแล้วลุกขึ้น
     
    “อ่าว อิ่มแล้วหรอ อีทึกยังไม่ทันกินเลยนะ” ผู้เป็นแม่ท้วงขึ้น
     
    “ผมไม่หิวน่ะครับ” อีทึกยิ้มบางๆให้ผู้เป็นแม่ แต่เดินยังไม่ทันถึงบันไดก็ถูกฮีชอลดึงกลับมา
     
    “คิดจะหลบหน้าฉันหรอไง” ฮีชอลบีบแขนเล็กแน่น
     
    “ปะ…ป่าว” อีทึกก้มหน้า
     
    “เหอะ เสียใจมากนักหรอไง อย่าลืมสิ นายก็แค่ลูกหมา” ฮีชอลบีบแขนเล็กแน่น
     
    อีทึกก้มหน้านิ่ง “ผมรู้แล้ว ผมรู้แล้ว ผมรู้แล้วว่าเป็นลูกหมา ฮึก ผมรู้แล้ว”
     
    ฮีชอลบีบแก้มนิ่มแน่น “นายเป็นลูกหมาใช่มั๊ย งั้นทำตัวให้เหมาะสมกับลูกหมาหน่อย ดีมั๊ย”
     
    ฮีชอลยกยิ้มร้าย 
     
    “ฮึก ไม่เอาแล้ว ผมกลัว ฮึกไม่แล้ว ไม่อยากเป็นลูกหมาแล้ว” มือเล็กจิกเนื้อแน่น
     
    “นายแน่ใจ ว่าไม่อยากเป็นลูกหมาแล้วหน่ะ” แววตาฉายแววเจ้าเล่ห์
     
    คนตัวเล็กไม่ตอบ ทำเอาฮีชอลบีบข้อมือเล็กแน่นขึ้นไปอีก ฮีชอลดึงคนตัวเล็กขึ้นไปบนห้องอีกครั้ง
     
     
    “ไม่อยากเป็นลูกหมาใช่มั๊ย งั้นเป็นอย่างอื่นแล้วกันดีมั๊ย” ฮีชอลผลักคนตัวเล็กลงกับเตียง แล้วขึ้นคร่อม
     
    “ไม่เอา” คนตัวเล็กส่ายหน้า หวาดกลัวคนตรงหน้ามากยิ่งขึ้น
     
    “ทำไมหล่ะ ไม่ต้องเป็นลูกหมาแล้วไง” ว่าแล้วฮีชอลก็ถอดเสื้อตัวบางออกมาอีกครั้ง มือเล็กพยายามดันอกสูง
     
    “ไม่เอาแล้ว ผมจะเป็นลูกหมา ฮึก ไม่เอาอย่างนี้” อีทึกพยายามปัดป้องสัมผัสจากร่างสูง
     
    “นี่ ตัดสินใจเร็วไปมั๊ย ยังไม่ทันได้ลองเลยนะ อีกเจ็ดวันค่อยมาบอกฉันแล้วกัน ว่านายชอบแบบไหนมากกว่า”
     
    ฮีชอลจับสัมผัสแก้มนิ่ม “ฉันเคยบอกนายแล้วว่าหวง แต่นาย ก็ยังไปยุ่งกับมัน”
     
    ฮีชอลจับมือเล็กตรึงกับเตียง   “ผมขอโทษ ไม่เอาแบบนี้” คนตัวเล็กหันหนีหนี ร่างสูงที่กำลังโลมเลียตั้งแต่ซอกคอถึงใบหู
     
    “ทำไมฉันโง่แบบนี้หล่ะ เพิ่งรู้ว่านายอร่อยขนาดนี้” ฮีชอลยกยิ้ม
     
    “ไม่เอาแล้ว ฮึก เจ็บ” คนตัวเล็กเค้นเสียงออกมา แทบจะไม่มีแรงอยู่แล้ว จะเอาอะไรไปสู้แรงฮีชอล
     
    “คิดว่าฉันจะปล่อยนายไปง่ายๆหรอไง” ฮีชอลบีบแก้มนิ่ม ก่อนจะปล่อย แล้วไล้ตามอกบางและหน้าท้อง
     
    มือหนาปลดซิบกางเกงคนตัวเล็กออก กางเกงถูกถอดผ่านขาเรียว กายบางหดร่างหนีด้วยความกลัว ตัวสั่นระริก 
     
    “นี่ ยังกลัวอยู่อีกหรอไง” ฮีชอลจูบที่ขมับเล็กเบาๆ ซุกไซร้ซอกคอขาว ไล้ลงมาจนถึงท้องบาง “หวานนะ”
     
    “ฮึก ไม่เอา ปล่อยผมไปเถอะนะ ผมยอมแล้ว ยอมเป็นลูกหมา ยอมแล้ว ฮือ” มือเล็ก จิกเสื้อร่างสูงแน่น 
     
    “โว้ย อยู่นิ่งๆได้มั๊ย” ฮีชอลกระชากมือเล็กออกจากเสื้อตัวเอง
     
    “ผมขอร้อง ไม่เอาแล้วนะ ผมขอโทษ ฮึก ฮีชอล ผมขอโทษ ฮีชอลอย่าโกรธผมนะ ผมไม่ทำอีกแล้ว ฮึก” อีทึกโผเข้ากอดร่างสูงแน่น  ซุกหน้าลงกับอกกว้าง
     
    ฮีชอลชะงักไป มือหนาโอบร่างเล็กกลับ ความโกรธที่ถูกสะสมมา ถูกพัดพาจนหายหมดสิ้น
     
    “ฮีชอล ขอโทษ ฮีชอลอย่าโกรธผมเลยนะ” มือเล็กจิกเสื้อร่างสูงแน่น
     
    “เลิกเรียกตัวเองบ้าๆอย่างนี้สักที” ฮีชอลบอกเบาๆ จูบที่ไรผมนิ่ม
     
    “ฮึก ฮีชอลอย่าโกรธนะ ขอโทษแล้ว” ฮีชอลกระชับวงแขนแน่นขึ้น
     
    “อืมไม่โกรธแล้ว” ฮีชอลผละคนตัวเล็กออก อุ้มคนตัวเล็กไปอาบน้ำ แล้วจัดแจงใส่เส้อผ้าให้เรียบร้อย
     
     
     
    “ฮีชอล ขอโทษนะ” อีทึกพูดอีกครั้ง มองร่างสูงที่กำลังจัดผ้าปูเตียง
     
    “เลิกพูดขอโทษสักทีเถอะ เอ้านอนดีๆ” ฮีชอลอุ้มคนตัวเล็กขึ้นไปนอน ฮีชอลเดินไปที่ตู้ยา หยิบยามา
     
     
    “ถอดกางเกง” ฮีชอลพูดสั้นๆ
     
    “ห๊ะ ไม่เอาแล้ว ฮีชอล มะ….ไม่ เอา” คนตัวเล็กพูดเสียงสั่น
     
    “นี่ ไอ้ลูกหมาโง่ ฉันจะทายาให้ ถอดกางเกงมา” ฮีชอลยืนมองคนตัวเล็ก ที่เอาผ้าห่มมาปิดหน้าเหลือแต่ตา
     
    “มะ…ไม่เอา ดะ…เดี๋ยวทาเองได้” อีทึกส่ายหน้าไม่ยอมท่าเดียว
     
    “นี่ อยากโดนอีกรอบหรอไง ฉันพูดดีดีนะ “ ฮีชอลขมวดคิ้ว
     
    อีทึกมองร่างสูงก่อนจะดึงผ้าห่มออก   ค่อยๆถอดกางเกงออกอย่างเคอะเขิน
     
    “เร็วๆหน่อยได้มั๊ย” ฮีชอลเร่ง
     
    “ฮือ ก็ฉันอายหนิ” อีทึกบ่น ไม่อยากถอดกางเกงออก
     
    “มานี่ ไอ้ลูกหมา” ฮีชอลดึงกางเกงอีทึกรวดเดียวก็มากองที่พื้น
     
    “ฮืออ ฮีชอลอ่า” อีทึกร้องออกมาอย่างเขินอาย ก็ฮีชอลเล่นจ้องไม่วางตา
     
    “เพิ่งได้เห็นเต็มๆตานะเนี่ย ขาวชิบ” ฮีชอลจะเอื้อมมือไปจับ แต่อีทึกถอยหนี
     
    “อ่า ฮือ ฮีชอลอ่า” อีทึกใบหน้าแดงก่ำ
     
    “ทำหน้าแบบนี้ หมายความว่าไง ยั่วฉันหรอไง” ฮีชอลดึงคนตังเล็กกลับมา  “ฉันโง่มาได้ตั้งกี่ปีว่ะเนี่ย” ฮีชอลสถบเบาๆ แต่คนตัวเล็กก็ไม่ได้หูหนวกนี่หน่า
     
    “ฉันขอโทษ” อีทึกก้มหน้า
     
    “นี่ ไอ้ลูกหมาโง่ นายจะขอโทษไปจนตายเลยหรอไง” ฮีชอลกอดคนตัวเล็กไว้แน่น
     
     
    “เอ้า นอนดีๆ จะทายา” ฮีชอลจับอีทึกนอนคว่ำ มือหนาบีบยาใส่นิ้ว ก่อนจะแตะไปที่ช่องทางเล็ก
     
    “อ๊ะ ฮีชอล” อีทึกกัดหมอนแน่น แค่ฮีชอลสัมผัสเพียงปลายนิ้ว คนตัวเล็กก็สะดุ้งด้วยความเจ็บ
     
    “เจ็บหรอ” ฮีชอลหันไปถาม คนตัวเล็กพยักหน้า น้ำตาไหลซึมทางหางตา
     
    ฮีชอลแตะเข้าไปอีกครั้ง คลึงทางช่องทางเล็กจนรอบ
     
    “แค่เนี่ยเสร็จแล้ว” ฮีชอลยิ้มออกมา ดึงคนตัวเล็กขึ้นมาปลอบ “เอามือมาดูสิ”
     
    อีทึกเอามือไขว้ไว้ทางด้านหลัง
     
    “ทำไมดื้อ อย่างนี้ เอามือมานี่” ฮีชอลดึงแขนอีทึกมา
     
    มือที่ข้อมือขาว ที่ตอนนี้กลายเป็นรอยบีบแดงช้ำไปรอบข้อมือ เป็นรอยนิ้วที่ร่างสูงบีบ ฮีชอลถอดเสื้ออีทึกออก ดูรอยช้ำอีกที่ ตรงบริเวณต้นแขน
     
    แต่แทนที่ ฮีชอลจะทายาที่แผล กลับไล้บนตัวของร่างเล็กอย่างอดใจไม่อยู่
     
    “ฮีชอลจะทำอะไร” คนตัวเล็กพยายามจะถอยหนี แต่ร่างสูงก็ยังดึงไว้
     
    “ทายาไง” ฮีชอลเผยยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา
     
    “อ๊ะ…” คนตัวเล็กร้องลั่น เมื่อร่างสูง ซุกไซ้อยู่แถวซอกคอ “ไหนฮีชอลว่าทายาไง”
     
    “เดี๋ยวค่อยทาทีเดียวก็ได้” ฮีชอลโอบร่างเล็กเข้ามาใกล้อีก
     
    “ไม่เอานะฮีชอล” มือเล็กพยายามดันร่างสูงออก
     
    “นายขี้กลัวจังเลย” ฮีชอลผละออก ก่อนจะยิ้มกว้าง บีบยาใส่มืออีกครั้ง ค่อยๆบรรจงทายาเข้าไปตามรอยช้ำที่ตัว ที่สังกตได้ง่าย
     
     
    “กินข้าวรึยัง” ฮีชอลมองหน้าคนตัวเล็ก 
     
    อีทึกเลือกที่จะเงียบไม่ตอบ
     
    “ฉันถามทำไมไม่ตอบ” ฮีชอลขมวดคิ้ว
     
    “ยัง” อีทึกส่ายหน้า แต่ก็รีบพูดขึ้นมาก่อน “เดี๋ยวฉันไปกินเอง ฮีชอลรีบไปนอนเถอะนะ เดี๋ยวฮีชอลจะนอนไม่พอ”
     
    -ก็เป็นห่วงฮีชอลหนิหน่า ตัวเองไม่เป็นไรเท่าไหร่หรอก-
     
    “ทำไม นายไม่รู้จักเป็นห่วงตัวเองบ้างฮะ” ฮีชอลท้าวเอวถาม เริ่มหงุดหงิดขึ้นมาอีกรอบ 
     
    “อยากตายรึไง” ฮีชอลจับใบหน้าสวยไว้
     
    “ป่าวสักหน่อย ฉันกลัวฮีชอลไม่สบาย ฉันเป็นห่วงฮีชอล” คนตัวเล็กดึงเสื้อร่างสูงเบาๆ
     
    “ฉันไม่เป็นอะไรหรอก จะบ้ารึป่าว ตัวนายเองยังเอาไม่รอดเลย”
     
    “แต่… ฉันเป็นห่วงฮีชอลหนิ” คนตัวเล็กเงยหน้ามองร่างสูง
     
    “นี่เอาตัวนายเองให้รอดก่อนดีมั๊ยย แล้วค่อยมาเป็นห่วงฉัน” ฮีชอลหยิกแก้มนิ่มเบาๆ “ไปๆลุกๆ ไปกินข้าว” ฮีชอลดึงคนตัวเล็กขึ้น
     
    “ไม่เอาอ่ะ ฉันไม่หิว” คนตัวเล็กจะไม่ยอมท่าเดียว
     
    “อยากทำอย่างอื่นหรอไง ลุกขึ้นมานะ” ฮีชอลดึงแก้มนิ่มอีกครั้ง แล้วฉุดแขนเล็กให้ลุกตาม
     
    ฮีชอลนั่งมองคนตัวเล็กกิน ยิ่งเวลาเคี้ยวแก้มป่องๆก็จะพองขึ้น
     
    “มีอะไรรึป่าว” อีทึกเงยหน้าถาม เพราะร่างสูงจ้องไม่เลิกสักที
     
    “ป่าว รีบๆกินสิฉันง่วงแล้ว” ฮีชอลเร่ง
     
    “งั้นฮีชอลขึ้นไปนอนก่อนเลย”
     
    “อยากตายหรอไง รีบกินเลย เร็วๆ” ฮีชอลเร่ง อีทึกรีบวางช้อนลง
     
    “เสร็จแล้ว”
     
    “นี่ กวนประสาทฉันหรอไง กินให้มันหมดๆสิ” ฮีชอลท้วงขึ้นมาอีก
     
    “ก็อิ่มแล้วอ่ะ” อีทึกกินน้ำเข้าไป
     
    “เออ งั้นก็ลุกเร็ว” 
     
    พออีทึกลุกเท่านั้นหล่ะ ฮีชอลก็วิ่งมาอุ้มร่างเล็กขึ้นไปบนห้อง
     
    “อ๊า ฮีชอลทำอะไรอ่ะ” มือเล็กๆดันอกกว้าง
     
    “นอนไง” ฮีชอลนอนลงข้างๆกอดคนตัวเล็กไว้แน่น
     
    “ฮีชอลก็ไปนอนห้องตัวเองสิ” อีทึกตอบหน้าแดงก่ำ ก็ฮีชอลเล่นเอาหน้าเข้ามาใกล้ซะขนาดนี้
     
    “กล้าไล่ฉันหรอไง นอนซะเจ้าลูกหมา” ฮีชอลจูบหน้าผากอีทึกทีหนึ่ง ก่อนจะดึงคนตัวเล็กเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด แล้วผล็อยหลับไป
     
    “กู๊ดไนท์นะ ฮีชอล” หลังจากที่ร่างสูงหลับแล้ว คนตัวเล็กก็พูดขึ้น ก่อนจะจุ๊บที่ริมฝีปากอิ่มเบาๆทีหนึ่ง 
     
    “กู๊ดไนท์ คิสฮะ”


    ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    อ๊า  มาแล้วค่า
    ^U^

    เม้นมาไวจริงๆ 

    ฮะๆๆ  ขอบคุณมากๆนะคะ
     
    อันนี้ขอถึงประมาณ (ถึงกับต้องประมาณกันเลยทีเดีย เพราะเม้นน้อยมาก) 
    45-47 เม้นนะคะ

    ขอบคุณคนอ่านมากๆนะคะ 

    คนเม้นด้วยๆๆ

    **  เอ้อๆ  ถ้าคำตรงไหนผิดอะไรยังไง ก็บอกได้นะคะ

    รักคนอ่านค่า
    =^U^=
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×