ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Love of Paradise... ไอ้คุณชายกับยัยคุณหนู [CinTeuk&WonHyuk]

    ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 2 : You & Me!! (คิมฮีชอล!! VS ปาร์คจองซู!!).......100%!!!

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.24K
      3
      28 ธ.ค. 52

    Love of  Paradise

     

    Couple ::: CinTeuk X WonHyuk

     

     

    ………………………………………

     

    Chapter 2

     

    You & Me!!  :  คิมฮีชอล! VS ปาร์คจองซู!

     

     

    “ปาร์คจองซู!!” ฮีชอลรีบคว้าข้อมืออีทึกไว้ ก่อนที่คนตัวเล็กจะวิ่งหนีหายไป

     

    “อะไรของนาย  ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะเว้ย” อีทึกพยายาม บิดข้อมือตัวเองออกมาจากมือฮีชอล

     

    “นายทำอะไรลงไปรู้ตัวมั๊ย!!” ฮีชอลจ้องอีทึกเขม่ง   จนอีทึกเริ่มทำหน้าจะร้องไห้ เพราะถูกฮีชอลตวาดใส่หน้า 

     

    ู้  ละ…แล้วทำไมต้อง…ต้องตวาดใส่หน้า   กันด้วยหล่ะ”  เมื่อน้ำตาใสๆมาคลอที่เบ้าตา  ฮีชอลก็มีท่าทีที่อ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด  “บีบข้อมือก็เจ็บด้วย” 

     

    ฮีชอลยอมปล่อยข้อมืออีทึกออก

     

    “ไม่เห็นต้องร้องเลย”  ฮีชอลพูดอย่างอ่อนโยน  “ฉันไม่เอาคืนแล้วก็ได้”

     

    “จะ…จริงหรอ” 

     

    “อืม  จริงสิ ฉันยกโทษให้นาย”  ฮีชอลบอก 

     

    “จริงๆนะ”

     

    “อื้อ”

     

    “เย้”  ว่าแล้วอีทึกก็พยายามเขย่งเพื่อตบบ่าฮีชอล  “ขอบใจนายมากนะ  ที่จะไม่เอาคืนแล้ว  ที่แท้  นายก็แพ้น้ำตาตอแหลนี่เอง” 

     

    อีทึกยืนฉีกยิ้มหวาน  ก่อนจะยักคิ้วให้อย่างยียวน  แล้วรีบวิ่งหายออกไป

     

    “ยัยคุณหนูตัวแสบเอ้ยย!! กลับมาเดี๋ยวนี้นะเว้ยยย!!!!” 

     

    ฮีชอลบ้าไปแล้ว ?

     

    เกิดมาไม่เคยมีใครทำให้เค้าต้องเสียหน้า ท่ามกลางคนมากมายและประสาทเสียมากถึงขนาดนี้

     

    ปาร์คจองซู  สามเดือนนายอยู่ไม่สงบแน่!!

     

     

     

     

    ฮยอกแจที่มองอีทึกยืนทะเลาะกับฮีชอลอย่าง งงๆ  เมื่อกี้ก้นึกว่าอีทึกจะก๊อกแตกขึ้นมาจริงๆซะอีก

     

    “นี่!!”  ซีวอนแกล้งตะโกนใส่หูฮยอกแจดังๆ  จนคนตัวเล็กสะดุ้ง แล้วหันไปมองตาขวาง 

     

    “เล่นอะไรของนาย ถ้าฉันหัวใจวายตายขึ้นมาใครจะรับผิดชอบ” ฮยอกแจว่าเสียงเขียว  ก่อนจะบ่นพึมพำเบาๆกับคนตัวเอง แล้วรีบเดินออกไปห่างๆ…ซีวอน

     

    “ฉันไง  ฉันรับผิดชอบเอง”  ซีวอนรีบเดินไปขวางหน้าฮยอกแจ  แต่ว่า  ฮยอกแจหันมามองก่อนจะเดินต่ออย่างไม่สนใจ

     

     

    “ไม่เชื่อใจฉันหรอไง  แล้วก็อีกอย่างนะ  ทริปนี้ฉันดูแลนายเอง  ตามที่สัญญาไว้กับพ่อนาย เป๊ะๆ”

     

    “ขอบใจ  แต่วันหลังไม่ต้อง ฉันโตแล้ว ดูแลตัวเองได้แล้วด้วย  นายไม่ต้องมายุ่ง”  ฮยอกแจพยายามเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น  เพื่อให้ออกห่างจากซีวอนให้มากที่สุด

     

    “นี่คุณ  รอผมด้วยสิ”  ซีวอน  เดินด้วยท่าทีสบายๆ  เดินไปข้างๆฮยอกแจอย่างไม่เร่งรีบนัก  แต่ก็เดินทันร่างเล็ก

     

    จนฮยอกแจต้องจิ๊ปากอย่างไม่พอใจ

     

    “เลิกตามฉันสักทีได้มั๊ย!!”   ฮยอกแจหันไปตวาด

     

    “ไม่ได้หล่ะ  ฉันต้องทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับพ่อนาย  คือดูแลนายอย่างภรรยาตัวเอง”

     

    “นายพูดคำนั้นหรอ”  ฮยอกแจหันไปมอง

     

    “ฉันพูดอยู่นี่ไง” ซีวอน ชี้หน้าตัวเอง

     

    ฮยอกแจจิ๊ปากอีกครั้ง  ก่อนจะเดินหนีออกไปอีกครั้ง

     

    “คุณรอผมด้วยสิ!!” 

     

     

    ………………

     

     

     

       “เฮอะๆ  คิดจะมาแก้แค้นฉันหรอไง  ฉันปาร์คจองซูนะเว้ย  ไม่มีทางซะหรอก  แบร่ๆ”  อีทึกเดินไปเรื่อย  พร้อมหัวเราะไปเรื่อย  มองเผินๆเหมือนคนสติไม่ค่อยเต็ม

     

    “ไอ้บ้าเอ้ย  เลิกตามฉันสักทีเถอะ”  ฮยอกแจเดินดุ่มๆแบบไม่มองทาง

     

    “ฮยอกแจ”  อีทึกเรียกเพื่อนที่เดินจะตกสระน้ำอยู่มะรอมมะร่อ  “ตามควายที่บ้านหรอ เดินซะเร็วเลย”

     

    “ป่าวสักหน่อย”  ฮยอกแจตอบ หันไปมองด้านหลังอย่างระแวง

     

    “หาใครอยู่หรอ”  อีทึกชะเง้อไปมองบ้าง

     

    “หนีมาต่างหากหล่ะ”  ฮยอกแจแก้

     

    “หนีใคร?”  อีทึกดึงมือฮยอกแจเข้าไปที่บาร์เครื่องดื่มในร่ม

     

    “คนโรคจิต”   

     

    “ว่าใครโรคจิตฮะ”  ซีวอนชะเง้อหน้าเข้าไปใกล้ฮยอกแจ  จนร่างเล็กตกใจแทบจะตกเก้าอี้ ดีที่อีทึกมือไวคว้าไว้ทัน

     

    “นี่  ฉันหล่อถึงขนาดนายอึ้งจนเกือบตกเก้าอี้เลยหรอไง”

     

    “ไอ้หลงตัวเองเอ้ย” เสียงของอีทึกดังขึ้น ทำเอาซีวอนหันขวับ  “อะไร๊  มองอะไรกัน ไม่เคยเห็นคนกินน้ำหรอ”  ว่าแล้วเจ้าตัวก็แสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง  ก่อนจะดูดน้ำเสียงดัง

     

    “ชิ  เสียงนายนี่มันนรกแตกชัดๆ”  ซีวอนพึมพำ 

     

    “นายบ่นอะไร”  อีทึกหันไปผลักซีวอน  แต่กลับยืนนิ่งไม่ขยับ 

     

    “ฉันเลิกยุ่งกะนายดีกว่า”  ซีวอนก็หันไปต่อร้อต่อเถียงกับฮยอกแจต่อ 

     

    อีทึกลุกขึ้นหยิบแบงค์พันวอนวางไว้ แล้วเดินออกไปจากตรงนั้น

     

     

     

     

     

     

    อีทึกเดินออกมาจากบาร์เครื่องดื่ม  ในมือก็ดื่มเครื่องดื่มรสหวานพร้อมฮัมเพลงในลำคออย่างสบายอารมณ์  แต่พอเจอคนที่สวนมาใบหน้าอารมณ์ดีก็เปลี่ยนเป็นบูดบึ้งทันที

     

    มองหน้าฉันมีปัญหามากหรอไง มาถึงอีทึกก็เปิดปากด่าดดยไม่ต้องมีใครเกริ่น

     

    มี  มีมาด้วย  ฉันยังไม่ได้เอาคืนเรื่องเมื่อกลางวันนี้เลยนะ  ฮีชอลพูดอย่างเครียดแค้นคนตรงหน้า

     

    แล้วไง นายน่ะหรอ  เฮอะตลกดีจัง อีทึกยกแก้วน้ำขึ้นมาดูด  ก่อนจะจ้องหน้ากวนประสาทร่างสูงเล่นๆ

     

    ไม่น่าเชื่อ นายเอาหมาเข้ามาเลี้ยงด้วยหรอเนี่ย  ที่นี่เค้าห้ามนำสัตว์เลี้ยงเข้ามาไม่ใช่หรอ  ฮีชอลถามหน้าตาย

     

    ไหนหมา 

     

    นายจะเห็นได้ยังไงหล่ะ  มันอยู่ในปากนาย  ฮีชอลชี้แทบจะทะลุถึงคอหอยอยู่แล้ว 

     

    นายกล้าว่าฉันหรอไง  ฮีชอล  อีทึกค่อยๆเดินถอยหลังเมื่อฮีชอลเริ่มก้าวเข้ามา

     

    ถ้าฉันไม่กล้า  แล้วันจะพูดอยู่อย่างนี้หรอ  ฮีชอลหยุดลงเมื่ออีทึกยืนอยู่ติดขอบสระ  ขอแก้แค้นเมื่อกลางวันหน่อยเถอะนะ  ปาร์คจองซู!”  ฮีชอลดึงแก้วในมืออีทึกมาถือไว้ ก่อนจะผลักแค่เบาๆ อีทึกก็เสียการทรงแล้วหล่นไปอยู่ในสระน้ำ อย่างที่เห็น 

     

    อ๊าก  ช่วยด้วย!!”  เสียงอีทึกโวยวายพร้อมตะเกียดตะกาย 

     

    แต่ฮีชอลก็ยังยืนหัวเราะอย่างชอบอกชอบใจ  

     

    อ๊า  ช่วยด้วย! ใครก็ได้ช่วยที!”  อีทึกตะเกียดตะกาย  พร้อมร้องให้คนช่วย

     

    นี่  ยัยคุณหนู  เลิกโวยวายแล้วมองดูก่อนนะว่าน้ำมันลึกแค่ไหน  ฮีชอลพูดเตือนสติ

     

    อีทึกลองหยุดยืน ปรากฏว่าน้ำสูงเพียงแค่ระดับเอวเท่าน้ำ  อีทึกไอชุดใหญ่เพราะลำสักน้ำ  ก่อนจะทำได้แค่เก็บความแค้นไว้ในใจเพราะร่างสุงเดินหายไปแล้ว 

     

    คิมฮีชอล!! ฝากไว้ก่อนเถอะ!! ไอ้ชั่ว!!!!!!~”    อีทึกตะโกนไล่หลังไป  ได้ยินเพียงเสียงหัวเราะเยาะ  ทำให้อีทึกยิ่งโกรธหนักเข้าไปอีก

     

     

     

     

    อีทึกยืนกระฟัดกระเฟียด อยู่สักพัก ก่อนจะเดินขึ้นสระมา  เจอฮยอกแจที่เดินหน้าบูดเข้ามา ตามหลังมาด้วยซีวอน ทำให้อีทึกเดาได้ไม่ยาก

     

    “อ้าว  อีทึก”  ฮยอกแจมองสภาพอีทึกที่ยืนเป็นูกหมาตกน้ำอยู่  “ร้อนหรอ” 

     

    “จะบ้าหรอไง  ใครเค้าอยากเล่นน้ำทั้งชุดนี้กันหล่ะ” อีทึกหันไปค้อนซีวอนดดยไม่มีสาเหตุ

     

    “นี่ๆ แม่คุณค้อนอะไรฉัน” ซีวอนท้วงขึ้น

     

    “ใคร๊ ใครมองนาย  สำคัญตัวผิดไปแล้วยะ  ฉันมองควายต่างหาก”  อีทึกตอบกลับอย่างจนแสบ  จนซีวอนขออยู่เงียบๆดีกว่า 

     

    -เค้าบอกหมาเห่าอย่าเห่าตอบ!!-

     

    “อีทึก  เราขึ้นห้องกันเถอะ  เดี๋ยวนายจะไม่สบายเอานะ” ฮยอกแจเดินไปหาผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่มาให้อีทึกที่อยู่ตัวสั่น 

     

     

     

     

    “นี่  ฉันถามจริงเถอะ  ทำไมอยู่ดีถึงอยากลงไปเล่นน้ำฮะ”  ฮยอกแจถามขณะเช็ดผมให้อีทึกอยู่

     

    “นายคิดว่าคนประสาทดีที่ไหนอยากลงไปเล่นน้ำด้วยชุดนี้ฮะ”  อีทึกไม่ตอบแต่ถามกลับ

     

    “นายอาจจะประสาทกลับก็ได้”  ฮยอกแจหัวเราะขำๆ

     

    “ท่าทางนายจะไม่อยากกลับไปเจอพ่อนายอีกแล้ว”  อีทึกมองค้นอฮยอกแจ

     

    “โธ่  ล้อเล่นหน่า  เล่ามาสิ”  ฮยอกแจหยิบไดร์เป่าผมมาเป่าผมให้อีทึก

     

    อีทึกเริ่มเล่าตั้งแต่ตอนที่เจอฮีชอล  ทำเอาฮยอกแจหัวเราะขำกลิ้งจนต้องเอามือกุมท้อง

     

    “ถามจริงเหอะ  พวกนายอายุเท่าไหร่กันแล้ว  ทะเลาะกันเหมือนเด็กๆเลย ฮีชอลก็ชอบแกล้งเนอะ ฮะๆๆ” 

     

    “ฮยอกแจนายเคยหัวเราะอยู่แล้วฟันร่วงหมดปากมั๊ย”  อีทึกมองค้อนฮยอกแจเต็มที่

     

    “ยังไม่เคยอ่ะ ฮ่าๆๆ”

     

    “แล้วจะเคยวันนี้แหละ”  อีทึกลุกขึ้นมา ก่อนจะทำท่าบีบคอฮยอกแจ

     

    “อ๊า  อีทึกอ่า  ปล่อยนะ”  ฮยอกแจตีมืออีทึกแต่ก็ยังหยุดหัวเราะไมได้ แล้วทำท่าบีบคออีทึกบ้างหล่ะ  เล่นกันไปเล่นกันมา สุดท้ายอีทึกก็ต้องขอยอมแพ้  เพราะเริ่มจะมีอาการพิษไข้ด้วยหล่ะ 

     

    “ปวดหัวจัง”  อีทึกยกมือทาบหน้าผากตัวเอง

     

    “ย๊า  อีทึกพรุ่งนี้มีประชุมนะ  ฉันเพิ่งไปดูตารางงานมา”  ฮยอกแจมองนาฬิกา  เค้ามาอยู่ห้องอีทึกได้สองชั่วโมงกว่าแล้ว  นี่ก็จะปาไปสามทุ่มแล้ว 

     

    “จริงหรอ  พรุ่งนี้คงหายมั้ง”  อีทึกตอบเนือย พร้อมเริ่มดึงหมอนเข้าใกล้ตัว

     

    “ทานยาก่อนแล้วกัน  พรุ่งนี้เช้าฉันจะเข้ามาหานายอีกรอบ”  ฮยอกแตตอบพร้อมยื่นยาให้อีทึก  แต่อีทึกกลับส่ายหน้า

     

    “ไม่เอา  ฉันไม่ชอบยา”  อีทึกส่ายหน้าเหมือนเด็กๆ

     

    “ทานยาเลยนะ เดี๋ยวนายจะแย่กว่านี้”  ฮยอกแจพยายามยัดยาลงในมืออีทึก

     

    “ไม่เอาอ่ะ ฮยอกแจ นอนพักผ่อนให้พอเดียวก็หาย”  อีทึกดันยาออก

     

    “อีทึกทานยาซะ ไม่งั้นฉันโกรธนายจริงด้วย” เมื่อฮยอกแจเริ่มมีท่าทีจะงอน  อีทึกจึงทำหน้าหงอแล้วไปรับยามาอย่างไม่ค่อยเต็มใจ

     

    “ฉันจะทานยาแล้วนะ  นายอย่างอนนะ”  อีทึกมองฮยอกแจที่ไม่ยอมหันหน้ามามองเค้าสักที

     

    อีทึกค่อยๆ กลืนยาเม็ดโตลงไปอย่างยาลำบาก  ชีวิตเค้าอยู่กับยามาทั้งชีวิต ไม่ชอบเอาซะเลย

     

    “ฉันทานยาสร็จแล้วนะ  เลิกงอนได้แล้ว”  อีทึกตาฮยอกแจตาแป๋วเหมือนเด็กๆ  ฮยอกแจหันมามองจึงอดหลุดขำกับท่าทางน่ารักของอีทึกไม่ได้

     

    “โอเค  ราตรีสวัสดิ์  ฉันไปนอนแล้ว”  ฮยอกแจจะลุกจากที่นอนอีทึก แต่ก็ถูกอีทึกคว้าข้อมือไว้ “อะไร?”

     

     

     

    “หอมแก้มก่อนนอนหน่อยสิ”  อีทึกทำหน้าอ้อนวอน  “ถ้าฉันไม่ทำแบบนี้ ฉันก็นอนไม่หลับนะอยอกแจ”

     

    อีทึกมองสายตาอ้อนวอน ฮยอกแจหลุดยิ้มออกมาอีกครั้ง  ก่อนจะค่อยก้มหน้า  อีทึกก็ยื่นริมฝีปากมาจุ๊บแก้มใสของฮยอกแจเร็วๆ  ส่วนฮยอกแจก็ก้มลงจรดปลายจมูกลงกับแก้มเนียนใสเช่นกัน

     

    “ราตรีสวัสด์น้า”  อีทึกเอ่ยเสียงใส  ฮยอกแจเดินลงจากเตียงไปโดยไม่ลืมที่จะดึงผ้าห่มมาห่มให้และปิดไฟให้เรียบร้อย

     

     

    ………..              

     

     

    ถึงตาตัวเองบ้างหล่ะ  พอออกจากห้องอีทึกมา ก็เจอบุคคลที่ฮยอกแจไม่อยากเจอหน้ามากที่สุด ยืนยิ้มแฉ่งอยู่หน้าประตูห้อง

     

    “ญาติเสียหรอไง ยืนยิ้มอยู่ได้”  คำพูดของฮยอกแจทำซีวอนหุบยิ้มทันที 

     

    “นี่  เข้าไปแปปเดียวติดโรคยัยปีศาจนั้นมาแล้วหรอ” ซีวอนดึงแก้มฮยอกแจอย่างหมั่นเขี้ยว  มือบางฟาดลงมือหนาทันที

     

    “สกปรก”

     

    “อะไรอ้ะ  เค้าอาบน้ำแล้วน้า  หอมด้วยไม่เชื่อก็ลองดมดูดิ” ซีวอนจะคว้าฮยอกแจเข้ามาใกล้  แต่ฮยอกแจไวกว่า  รีบรอดใต้แขนเดินเปิดประตูทันที

     

    “จะนอนแล้วหรอ”  ซีวอนทำหน้ายู่

     

    “มันเวลาคนนอน  ส่วนนายใช้แรงงานไม่นอนเก็บแรงหรอ”  ฮยอกแจตอบกลับ

     

    “ไม่หล่ะ  ฉันนอนกลางวัน เก็บแรงตอนกลางคืนไว้ทำอย่างอื่น”  ซีวอนจ้องหน้าฮยอกแจอย่างมีเลศนัย

     

    “ไอ้บ้า  ไอ้ลามก”  ฮยอกแจสถบคำด่าออกมา


    “เค้าว่าผู้หญิงว่า  ผู้หญิงรัก” 

     

    “ฉันไม่ใช่ผู้หญิง”  ฮยอกแจทำท่าจะปิดประตู  แต่ซีวอนก็เอามือมาขวางไว้ก่อน

     

    “ไม่ใช่ผู้หญิงแล้วเป็นภรรยาฉันไม่ได้หรอไง” 

     

    “ใครภรรยานาย”  ฮยอกแจจะปิดประตูหนีอีกครั้ง  แต่ซีวอนก็จับประตูไม่ยอมปล่อย

     

    “เอ  ใครน้า” ซีวอนเดินเข้าไปใกล้ฮยอกแจ  ก่อนจะรีบทาบจมูกลงกับแก้มเนียนเร็วทีหนึ่งก่อนจะวิ่งหนีออกไป

     

    “ไอ้บ้าซีวอน!! ไอ้ลามก!! ไอ้ทะลึ่งกลับมาเดี๋ยวนี้นะเว้ย!!” ฮยอกแจยืนว่าซีวอนเหมือนคนบ้า ก่อนจะได้ยินเสียงแว่วๆ ตอบกลับมา  ทำให้เค้ายิ่งทั้ง หน้าแดงทั้งโกรธ  แล้วก็ชอบใจ ?

     

    “หอมเหมือนเดิมนะ”

     

     

    ………………………………………………………………………………………………………. [50%] 

     

    รุ่งเช้า 

     

    ฮยอกแจเดินเข้ามาดูอีทึกที่นอนอยู่ในห้อง  มือบางวางบนหน้าผากของเพื่อนเบาๆ แต่ก็ต้องรีบชักมืออกเพราะอุณหภูมิสูงจนน่าตกใจ 

     

    ฮยอกแจรีบไปจัดหาผ้าเช็ดตัวมา ก่อนจะจัดแจงเช็ดตัวให้อีทึก  โดยไม่มีท่าทีว่าอีทึกจะตื่นขึ้นมาแต่น้อย  เพราะวันนี้มีประชุม  ฮยอกแจไม่อยากจะปลุกอีทึกจึงได้แค่เขียนสั่งให้กินข้าวกับกินยาไว้ 

     

     

     

     

     

    ฮยอกแจเดินเปิดประตูเข้าไป  ซีวอนกับฮีชอลนั่งรออยู่ก่อนแล้ว  แล้วก็มีคนที่นั่งตรงนหัวหน้าการปรกลาง  ท่าทางจะเปะชุมครั้งนี้

     

    “ขอโทษครับที่ผมมาช้า”  ฮยอกแจโค้งตัวก่อนจะเดินไปนั่งเก้าอี้ที่มีชื่อตัวเองติดไว้  ก็คือตรงข้ามฮีชอล

     

    “ทำไมนายไปนั่งนู่นหล่ะ”ซีวอนมอง

     

    “ก็ชื่อฉันมันติดอยู่เก้าอี้ตัวนี่  จะให้ฉันไปนั่งตัวไหนหล่ะ”  ฮยอกแจบ่น

     

    “นี่ ฮยอกแจ  แล้วยัยคุณหนูเพื่อนนาย ยังไม่โผล่หัวมาจากห้องหรอไง จะเริ่มประชุมกันอยู่แล้วนะ” ฮีชอลถามแบบแอบกัดอีทึกไปที

     

    “ป่าว  เริ่มประชุมกันไปเลย  อีทึกไม่สบาย”  ฮยอกแจตอบให้

     

    “อีทึก ?”  ฮีชอลทวนคำกับสรรพนามที่ฮยอกแจให้เรียก

     

    “อื้ม  อีทึก  ทำไมหรอ” ฮยอกแจมองหน้าฮีชอล

     

    “ยัยคุณหนูนั่นชื่อ จองซูไม่ใช่หรอ”  ฮีชอลมองหน้าฮยอกแจอย่างสงสัย

     

    “อ้อ อีทึกเป็นชื่อเล่นของจองซูนั่นแหละ”  ฮยอกแจเลื่อนเก้าอี้ให้นั่งถนัดขึ้น  “เริ่มประชุมกันได้ยังครับ”

     

    ฮยอกแจเริ่มเปิดแฟ้มงานของตัวเอง

     

    “ยัยนั่นจะหาเรื่องอู้น่ะสิไม่ว่า”   ฮีชอลแอบบ่นเบาๆ  ก่อนทีการประชุมจะเริ่มขึ้น

     

     

     

     

    “ฉันได้รับเลือกให้การดูแลพวกนายตลอดสามเดือนนี้ ฉันชื่อชินดงฮี  เรียกฉันชินดงดีว่านะ”  ชิงดงอธิบาย

     

    “ครับ  พี่ดงฮี”  ซีวอนทำท่าตะบ๊ะใส่ชินดง

     

    “ไอ้นี่สมองกลับหรอวะ”  ฮยอกแจพึมพำก่อนจะดั้บสายตาลวมลามจากซีวอน 

     

    ชินดงได้อธิบายการใช้ชีวิตอยู่อย่างคร่าวๆ  แต่ว่ามันก้ไม่ได้เรียบง่ายอย่างที่ชินดงคิดเอาไว้  เพราะนี่ขนาดมาไม่ครบนะมันยังวุ่นวายขนาดนี้ แล้วถามอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตามันจะวุ่นวายขนาดไหน ??

     

    “ฮีชอล  ฉันฝาก แฟ้มตารางงานนี่ให้ปาร์คจองซูด้วยนะ”  ชินดงยื่นแฟ้มงานให้

     

    “ทำไมต้องเป็นผม”  ฮีชอลถามทวนอีกครั้ง

     

    “เพราะต้องเป้นนายไงหล่ะ”  ว่าแล้วชินดงก็เก็บสัมภาระตัวเอง

     

    “ฉันเอาไปให้อีทึกเองดีกว่า”  ฮยอกแจอาสา

     

    “ขอบใจมาก  ฝากด้วยนะฮยอกแจ”  ฮีชอลยื่นแฟ้มงานของอีทึกให้ฮยอกแจ

     

    “อ้อ  ฉันลืมบอกฝากดูแลอีทึกด้วยนะแล้วก็ ห้ามใครขัดคำสั่งฉัน   เด็ดขาด”  ชินดงทิ้งท้ายก่อนจะเดินออกไป  ปล่อยให้ฮีชอลยืนช็อค 

     

    -เวรกรรมแล้วไง  แล้วทำไมต้องเป็นเค้า  แต่ที่สำคัญกว่า  ทำไมต้องเป็นยัยนั่นด้วย- ฮีชอลเดินกระฟัดกระเฟียดออกไปจากห้อง  ในห้องก็เหลือเพียงซีวอนกับฮยอกแจ

     

    ฮยอกแจรีบเก็บข้าวของ  กำลังจะเดินออกไป

     

    “ไปทานขนมด้วยกันมั๊ย” 

     

     

     

    ประโยคคำถามที่ไม่น่าออกมาจากปากผู้ชายที่ชื่อว่าซีวอนแต่ได้

     

    “ฉันลืมเอากระเป๋าเงินลงมา”  ประโยคถัดมานี่แหละ  ซีวอนคนเก่า  “ฉันอยากกินอ่า  แต่ลืมเอากระเป๋าเงินลงมา”

     

    “นั่นมันเรื่องของนาย” ฮยอกแจค้อนซีวอนทีหนึ่ง

     

    “โธ่  งั้นเอางี้ถ้าไปห้องอาหารฉันจะทานขนม  แต่ถ้าไปบนห้องฉันจะ…”ซีวอนดึงฮยอกแจเข้ามาใกล้  จนใบหน้าห่างกันไม่ถึงคืบ

     

    “ทานนาย”

     

     

     

    ขาเรียวยกสูงยันร่างสูงให้ออกห่างจากตัวอย่างรวดเร็ว

     

    “นายถีบฉันทำไมเนี่ย  ฮยอกแจ”  ซีวอนเอามือยันแทนใช้หน้ากระแทกกับเสา 

     

    -เกือบหมดหล่อแล้วมั๊ยหล่ะ-

     

    “ช่วยไม่ได้  อยากมาชีกอกลับฉันเอง”  ฮยอกแจยิ้มเหยาะแล้วเดินออกไป

     

     

     

     

    ฮีชอลกลับจากที่ปฏิเสธงานไม่ได้จึงจำเป็นต้องทำ  ร่างสูงเดินลงมาที่ล็อบบี้ชั้นล่าง  เพื่อขอกุญแจห้องพักของอีทึก 

     

    หลังจากนั้นก็เดินกลับขึ้น  พร้อมไม่ลืมหยิบแฟ้นเอกสารสำคัญที่จะต้องเอาไปให้ด้วย

     

     

     

    ร่างสูงค่อยๆไขกุญแจห้องเข้าไป  ห้องกว้างโทนชมพูอ่อน ซึ่งตรงข้ามกับห้องของเค้าอย่างสิ้นเชิง  แต่ก็ทำให้รู้สึกสดใสอย่างแปลกประหลาด  วอลเปอร์ถูกแต่งแต้มด้วยดอกไม้สีชมพูอ่อนปะปนกับสีขาว  มันยิ่งทำให้ดูเหมาะสมกับเจ้าของห้องมากเท่านั้น 

     

    ฮีชอลเคาะห้องนอนสองสามที  ก็มีเสียงตอบรับอนุญาติให้เข้าไป  แสดงว่าเจ้าตัวยังคงไม่หลับเพราะพิษไข้

     

     

     

     

    อีทึกนั่งอยู่ที่เตียงเพราะเพิ่มตื่นได้ไม่นาน เมื่อเสียงเคาะประตูดังขึ้น  คน ตัวเล็กสะดุ้งนิดหน่อย

     

    “เข้ามา”  อีทึกเอ่ยอนุญาติ  แต่ทว่าบุคคลที่เดินเข้าทำเอา อีทึกมองตาแข็ง

     

    “ฮีชอล  นายเข้ามาทำไม” อีทึกจ้องร่างสูงที่เดินเข้ามาอย่างไม่สะทกสะท้าน

     

    “นายอนุญาติ”  ฮีชอลวางแฟ้นงานลงบนโต๊ะเครื่องแป้ง

     

    “งั้นฉันเปลี่ยนใจ  ออกไปซะ  เพราะนายทำให้ฉันต้องมานอนซมอยู่ที่นี่”  อีทึกโยนความผิดไปให้ร่างสูง

     

    “นี่ๆ  พูดจาให้มันดีๆหน่อยนะแม่คุณ  ใครกันแน่ถ้านายไม่สำออยนายก็ไม่ป่วยหรอก” ฮีชอลใช้นิ้วดันหน้าผากมน  จนอีทึกเกือบจะหงายหลังดีที่คว้าขอบเตียงไว้ ฮีชอลเดินไปคว้านิตยสารมานั่งอ่านที่โซฟา  โดยมีดวงตาสวยมองค้อนร่างสูงครั้งแล้วครั้งเล่า 

     

    -คิมฮีชอล!!!- 

     

    “ฮีชอล  ฉันอยากเช็ดตัวอ่ะ มันเหนียวตัวยังไงไม่รู้”  อีทึกเอ่ยน้ำเสียงออดอ้อน

     

    หรอ  บอกฉันทำไม”  ฮีชอลยังคงก้มหน้าก้มตาอ่านนิตยสารในมือ  ปล่อยให้อีทึกนั่งค้อนจนลูกตาแทบจะหลุดออกจากเบ้าตา

     

    “ทำให้ฉันหน่อยสิ” 

     

    เกี่ยวกับฉันด้วยหรอ ฮีชอลเงยหน้ามองทีหนึ่งแล้วเลิกสนใจหันไปสนใจนิตยสารในมือต่อ

     

    เกี่ยวสิ  ไม่เกี่ยวได้ยังไง  น้าๆ  ฮีชอลฉันป่วยอยู่น้า”  อีทึกตื้อไม่อยู่จนสุดท้ายร่างสูงก็ต้องยอมจนได้

     

    “เออๆ  นั่งนี่แหละ ฉันจะไปเตรียมน้ำมาให้” ฮีชอลวางนิตยสารลงก่อนจะเดินไปหยิบกะละมังพร้อมผ้าชุบมา

     

     

    -นายตายแน่  ฮีชอล- 

     

    อีทึกยิ้มเหยาะอยู่ในใจ

     

     

     

    ไม่นานฮีชอลก็เดนออกมาพร้อมกะละมังชมพูอ่อนใบขนาดกะทัดรัด พร้อมผ้าผืนขนาดพอเหมาะสีชมพูอ่อนเช่นกัน

     

    ฮีชอลค่อยๆวางกะละมังลงที่ตัวเตียง 

     

     

     

     

    อีทึกนั่งรออยู่ที่เตียง  ขาเรียวสวยข้างนึง  ถูกยกมาทับกับขาอีกข้างนึง  เผยให้เห็นขาขาวเรียวสวย  ฮีชอลเกือบทำน้ำหก  เพราะเอาแต่จ้องเรียวขาของอีทึก

     

    “เช็ดตัวให้หน่อยสิ”  ใบหน้าสวยเชิดขึ้น  พวงแก้มเริ่มแดงเพราะพิษไข้  ริมฝีปากเผยอขึ้นราวกับต้องการยั่วคนตรงหน้าให้สติแตกขึ้นไปอีก

     

    ฮีชอลเอาผ้าชุบน้ำ  ก่อนจะมาสนใจกับเชิ้ตตัวขาว  แค่มองผ่านเสื้อก็รู้แล้วว่าเรือนร่างของอีทึกขาวแค่ไหน 

     

    มือหนาค่อยๆปลดกระดุมเสื้ออีทึกทีละเม็ด  มือไม้สั่นอย่างควบคุมไม่ค่อยได้ 

     

    “เร็วหน่อยสิ  ฮีชอล  ฉันร้อน”  เสียงหวานเอ่ยน้ำเสียงแหบพร่า

     

    -โดนยาปลุกมารึไงวะ-  ฮีชอลคิดในใจ  แต่ก็ยังคงปลดกระดุมออก  ยิ่งกระดุมถูกปลดออกมาเท่าไหร่ก็ยิ่งเผยให้เห็นผิวสวยมากยิ่งขึ้น 

     

    มือเล็กคว้าหมับเข้าที่มือฮีชอล  “เร็วหน่อยสิ”

     

    มือเล็กอุ่นร้อนจนฮีชอลสัมผัสได้  แล้วยิ่งแววตาที่หยาดเยิ้มเพราะพิษทำเอาฮีชอลตะเลิดเปิดเปิงไปถึงไหนต่อไหน

     

     

     

    ฮีชอลดึงเชิ้ตตัวบางออก  ก่อนจะหันไปหยิบผ้าแล้วค่อยๆทาบลงบนตัวอีทึก เรียกเสียงครางได้เป็นอย่างดี(??)

     

    “อ๊า  ฮีชอล”  มือเล็กจิกมือฮีชอลแน่น  เพราะผ้ามันเย็นหรือตัวเค้าร้อนกันแน่มันถึงทำให้เค้ารู้สึกวาบขึ้นมาทั้งตัว

     

    “อยู่นิ่งๆสิ  จองซู”  ฮีชอลบ่น  เพราะเค้าก็ไม่รู้จะทนได้นานเท่าไหร่ 

     

    ฮีชอลค่อยๆใช้ผ้าไล้ไปตามตัวทั้งแขนเรียวหน้าอก หรือแม้แต่หน้าท้องเนียน จนเค้ายากที่จะห้ามไม่ให้แอบสัมผัส 

     

    “หนาวจัง”  อีทึกกระเถิบตัวเข้าใกล้ฮีชอล

     

    “ท่าทางนายจะไข้ขึ้นอีกแล้วนะ”  ฮีชอลบอกพร้อมจ้องริมฝีปากแดงที่ดูเอิบอิ่มขึ้น  จนเค้าอยากจะเข้าไปสัมผัสจังๆสักครั้ง

     

    มือเล็กค่อยๆปลดกางเกงตัวเล็กออก  แต่ฮีชอลก็รีบคว้าไว้

     

    “ทำอะไรหน่ะ”

     

    “ถอดกางเกงไง  ไม่เช็ดให้เสร็จหรอ”  อีทึกตอบ

     

    ทำฮีชอลหน้าแดงครั้งแล้วครั้งเล่า  มือหนาช่วยดึงกางเกงตัวเล็กออกมา  เผยช่วงขาเรียวสวย  จนเค้าเองก็อยากจะเป็นเจ้าของคนตรงหน้าเหลือเกิน

     

    ฮีชอค่อยๆใช้ผ้าเช็ดลงไป  จ้องผิวขาวสวยไม่เลิก 

     

    -จะหมดความอดทนแล้วนะเว้ย-

     

    “ฮะ…ฮีชอล” แขนเรียวตวัดรอบคอฮีชอลก่อนจะดึงลงมาใกล้ๆ  “หนาวแล้วหล่ะ…  กอดฉันหน่อยสิ”  

     

    อีทึกกระซิบข้างหู  ทำฮีชอลวาบไปทั้งตัว 

     

    -ยัยคุณหนูนี่นะ  มันตั้งใจยั่วกันหนิหว่า-

     

    อีทึกกระเถิบตัวขึ้นไปนั่งบนตักฮีชอล  ทั้งๆที่ทั้งเรือนร่างมีเพียงชั้นในตัวเดียว

     

    “นั่งดีๆสิ  ฉันจะรีบเช็ดตัวให้  นายจะได้กินยาแล้วตายๆไปซะ” 

     

    “ใจร้ายจังนะ”  อีทึกยื่นหน้าเข้าไปใกล้จนเกือบจะชนริมฝีปากฮีชอลอยู่แล้ว  “จะให้จูบสักหน่อย” 

     

    ฮีชอลรู้สึกเสียดายตะหงิดๆ  แต่ก็ยังคงเก็บอาการและปากหมาได้คงเส้นคงวาเช่นเดิม

     

    “ปากนายหน่ะนะน่าจูบ จูบกับโถส้วมยังดีใจกว่าซะอีก” 

     

    -ใช่-  อยากจะตบปากตัวเองแรงๆสักสองสามที 

     

    อีทึกเปลี่ยนเป็นใบหน้าบูดบึ้งทันที  “งั้นก็เชิญจูบกับโถส้วมตามใจนายเลยแล้วกัน”

     

    อีทึกลุกขึ้นไปใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อย

     

    แค่ทำให้ฮีชอลหน้าแดงมือไม้สั่นทำอะไรไม่ถุกก็ถือว่าแก้แค้นสำเร็จไปขั้นหนึ่งแล้วน่า

     

    “ฉันจะไปเอาอาหารมาแล้วกัน”  ฮีชอลยกกะละมังออกไป  แล้วกลับเข้ามาพร้อมถาดอาหาร

     

     

     

    “เอ้ากินซะ แล้วกินยารีบๆไปนอนไป  หลับไม่ต้องตื่นได้ยิ่งดี”  ฮีชอลดันหน้าผากมน

     

    “มาหลับพร้อมกันม่ะ  ใครตื่นก่อนแพ้” 

     

    “ทานไปเถอะน่าอย่าพูดมาก”  ฮีชอลดันชามข้ามต้มให้  ก่อนจะยืนกอดอกมองอีทึกกินข้าว

     

    อีทึกตักเข้าปากสองสามคำก็วางช้อน 

     

    “อิ่มแล้วหรอไง”  ฮีชอลเลิกคิ้วถาม

     

    “ฉันเพลีย อยากนอน”  อีทึกดันชามข้าวต้มออก

     

    “กินอย่างจะดม  แล้วมันจะไปโตอะไร”  ฮีชอลคว้าชามข้าวต้มมาถือก่อนจะนั่งลงข้างๆ  ค่อยๆตักข้าวจ่อที่ริมฝีปากอีทึก

     

    “ไม่กิน”  อีทึกเบือนหน้าหนี

     

    “อยากตายก่อนหายป่วยใช่มั๊ย”  ฮีชอลจ้องอีทึกเขม็ง

     

    “เออๆ  ทานก็ทานวะ” อีทึกยอมอ้าปากทานแต่โดยดี  โดยมีฮีชอลนั่งป้อนอยู่ข้างๆ  จะเอามาทานเองก็ไม่ยอมอ้างว่า เดี๋ยวไม่ยอมทานอีก

     

    “พอแล้ว  ฉันอิ่ม”  อีทึกดันชามออก  ฮีชอลมองก็หมดไปเกือบครึ่งถ้วม  ฮีชอลวางชามข้าวลงก่อนจะยื่นน้ำกับยาให้

     

    อีทึกส่ายหน้าตั้งท่าจะนอน  แต่ฮีชอลก็คว้าแขนไว้

     

    “นายยังไม่ได้ทานยา” 

     

    “ฉันไม่ชอบ”  อีทึกตอบสั้นๆ  กำลังจะนอน แต่ฮีชอลไม่ยอมปล่อย

     

    “นายอยากมีเรื่องกับฉันก่อนใช่มั๊ย”  ฮีชอลดึงอีทึกขึ้นมานั่ง

     

    “จะหายแล้ว  อย่าให้ฉันกินยาเลย”  อีทึกพยายามเบือนหน้าหนี

     

    “นายอย่าดื้อได้มั๊ย  ฉันเริ่มเหนื่อยแล้วนะ”  ฮีชอลพยายามจะป้อนยาให้อีทึก  แต่อีทึกก็หันหนี

     

    “ฉันไม่ทาน !  เอาออกไปนะ!!”  อีทึกปัดเม็ดยาตกไปที่พื้น

     

    “ทำไมนายดื้ออย่างนี้ฮะ  จองซู!!!  ฉันเริ่มรำคาญนายจริงๆแล้วนะ!!!” ฮีชอลเผลอตวาดใส่อีทึก

     

    “ก็ฉันไม่อยากทานยาหนิ!!”  อีทึกเถียงกลับอย่างไม่ยอมแพ้

     

    “ตามใจนาย  งั้นก็รีบตายๆไปซะตรงนี้เลย  ฉันรำคาญ!!”  ฮีชอลผลักอีทึกให้นอนราบกับเตียง

     

    น้ำตาเริ่มไหลมาคลอกันอยู่ที่ดวงตาคู่สวย

     

    “ทำไมหล่ะ  แค่ฉันไม่อยากกินยา  นายต้องทำถึงขนาดนี้เลยหรอไง”  อีทึกสะอื้น

     

    ฮีชอลเลยยืนหันหลังให้

     

    “เพราะฉัน  ร่างกายไม่ดีมาตั้งแต่เด็ก  ฉันป่วยง่ายฉันเลยต้องอยู่กับยามาตลอด  ให้ฉันเลิกทานมันบ้างไม่ได้หรอไง  กะอีแค่นี้ต้องมาตวาดใส่ฉันด้วย”   อีทึกปล่อยโฮ  จนฮีชอลตกใจ  รีบเดินเข้าไปดู 

     

    “เป็นอะไร”  น้ำเสียงอ่อนโยนผิดกับเมื่อครู่

     

    “ทำไมทุกคนต้องว่า  เวลาฉันไม่ทานยา  ทำไมฮยอกแจต้องจะโกรธฉันด้วยหล่ะ” อีทึกสะอื้นไม่หยุดจนฮีชอลต้องดึงมากอด 

     

    “ไม่ทานก็ไม่ทาน  ไม่ต้องร้องไห้แล้วนะ”  มือหนาลูบผมนิ่มเวลา กอ่นจะโยนตัวเหมือนกำลังปลอบเด็กขี้แงร้องไห้

     

    “นายก็อีกคน  กะอีแค่ฉันไม่ทานทำไมต้องตวาดฉันด้วยหล่ะ  ฉันกลัวนะ”

     

    “ไม่ตวาดแล้ว  ใครจะไปรู้ว่านานไม่อยากทานยา”

     

    “ก็บอกอยู่นี่ไง  ไม่รู้จักฟัง”  มือเล็กทุบอกฮีชอลเบาๆ

     

    “สรุปไม่ทานยาแล้วใช่มั๊ย”  ฮีชอลถามย้ำเพื่อความแน่ใจอีกรอบ

     

    “อื้ม  ไม่ทานแล้ว”  อีทึกพยักหน้า

     

    “งั้นนายไปนอนเถอะ”  ฮีชอลอุ้มอีทึกนอนลงกับเตียง 

     

    ฮีชอลจะลุกออกไป  เพราะฮีชอลน้อยตื่นตัวตั้งแต่ยัยคุณหนูนี่อ่อยแล้ว 

     

    “ดะ…เดี๋ยวสิ”  อีทึกคว้ามือฮีชอลไว้

     

    “มีอะไรอีก” 

     

    “ช่วยจุ๊ฟแก้มฉันหน่อยสิ  ไม่งั้นฉันนอนไม่หลับ”  อีทึกตอบเขินๆ  ส่วนฮีชอลก็งงเป็นไก่ตาแตก 

     

    -บ้าไปแล้วหรอไงวะ-

     

    “นะ  ฮีชอล”  สายตาอ้อนวอนส่งมา  ทำฮีชอลใจอ่อน 

     

    ที่จริงเค้าก็ไม่ได้ใจอ่อนหรอกนะ  แต่ว่ากลัวข่มขืนยัยคุณหนูนี่ขึ้นมาจริงๆแล้วกลัวเป็นเรื่อง

     

     

    ฮีชอลค่อยก้มลงไป  จนใบหน้าอยู่ห่างกันไม่ถึงจนทั้งคู่หายใจรดกัน  ใบหน้าอีทึกซับสีเลือดขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ

     

    จุ๊ฟ 

     

    ฮีชอลประทับที่แก้มอีทึกเบาๆ   

     

    “พอใจรึยัง”  ฮีชอลถามแต่ใบหน้าก็ยังห่างกันไม่เท่าไหร่ 

     

    “ยัง” 

     

    “อะไรของนายอีก” 

     

    อีทึกยันตัวขึ้นมาแล้วประทับที่แก้มฮีชอลเบาๆ

     

    “ขอบคุณนะ”  อีทึกยิ้มกว้าง 

     

    ฮีชอลถึงกลับค้างไปพักใหญ่

     

    “ฝันดีนะ”    ยังไม่หายงงฮีชอลก็เดินออกไปแล้ว

     

    ท่าทางคืนนี้เค้าก็คงต้องช่วยตัวเองอีกหล่ะ เพราะยัยคุณหนูนั่นแท้ๆ  น้องชายเค้าตื่นแบบกู่ไม่กลับอีกซะด้วย

     

    ฮีชอลเครียดเว้ยยยยยยยยยย!!!!!!!!!!!!!!!!!

     

        ………………………………..

     

    Story by ::: viOlin viOla

    J


    T^T

    เสียใจแล้วอ่ะ

     

     

    เม้นไม่มีเลย  (มีน้อยมาก) 

    ฮืออ  ไม่อัพแล้ว

     

    (ล้อเล่น)

     

    ไม่ขอเม้นแล้วดีกว่า  พอใจคอยอัพ  (เริ่มชั่ว)

     

    จะปีใหม่แล้วนะคะ  อยากอ่านฟิคสั้นวอนฮยอกกันมั๊ย ??

    อยากอ่านเม้นเยอะๆ  ถ้าอยากอ่านซินทึกก็เม้นซินทึกเยอะๆ  โอเค๊ ??

     

    วอนฮยอกเราจะอัพสเปฯในนี้  แต่ซินทึกจะอัพใน Puppy Boy นะคะ

    โอเคๆ 

     

    ^U^

     

    คอยติดตามด้วยนะคะ

     

    ขอบคุณคอมเม้นค่า

    รักรีดเดอร์จุ๊ฟๆ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×