ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    MY PUPPY BOY [ CINTEUK ] PART 1 THE END

    ลำดับตอนที่ #2 : MY PUPPY BOY 2 ::: คำสัญญา

    • อัปเดตล่าสุด 10 เม.ย. 52


    …ลูกหมา ก็คงยังเป็นลูกหมาวันยังค่ำนั่นแหละ…
     
     
     
    นาฬิกาปลุกดังตอนตี 5
     
    ผมรีบตื่นขึ้นมา อาบน้ำแต่งตัว
     
    วันนี้ไปโรงเรียนวันแรกเลยนะ   แถมฮีชอลยังย้ายมาอยู่โรงเรียนเดียวกับผมด้วย
     
     
     
     
    ผมมีหน้าที่ปลุกฮีชอลทุกเช้าที่ไปโรงเรียน
     
     
    -ก๊อก ก๊อก ก๊อก- ผมเคาะประตูสองสามที แต่ก็ไม่มีเสียงลอดออกมา
     
     
    ผมเลยถือวิสาสะ เปิดประตูเข้าไป
     
     
    ฮีชอลยังคงหลับอยู่ที่เตียง ผมมักจะลอบมองฮีชอลเวลาหลับบ่อยๆ
     
     
     
     
    “ฮีชอล ตื่นได้แล้ว” ผมเดินเข้าไปข้างเตียง
    “อื้อ” ฮีชอลขยับตัวหนี
     
     
    “ฮีชอล เดี๋ยวไปโรงเรียนสายนะ”
     
     
    “ขออีก 5 นาทีนะ” ฮีชอลพลิกตัวหนีก่อนจะดึงมาผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัว
     
     
     
    “งั้น… ฉันไปทำอาหารมาให้ฮีชอลแล้วกันนะ” ผมเดินลงไปข้างล่าง รีบทำอาหาร
     
     
    แล้วก็จัดโต๊ะอาหารให้เสร็จจนเรียบร้อย แล้วเดินขึ้นมาปลุกฮีชอลอีกครั้ง
     
     
     
     
    “ฮีชอลๆ” ผมเรียกฮีชอลที่กำลังหลับไม่รู้เรื่อง
     
     
    “อืมๆ ตื่นแล้วๆ” ฮีชอลตอบ แต่ก็ยังไม่ยอมลืมตา
     
     
    มือฮีชอลคว้าตัวผมขึ้นไปกอด แล้วหอมแก้มผมฟอดใหญ่
     
     
    “อ๊า ลูกหมาน้อยของฉัน” ฮีชอลฝังจูบที่แก้มผมอีกรอบ
     
     
    “ตื่นได้แล้วฮีชอล”
     
     
    “ตื่นแล้วไง” ฮีชอลยังกอดผมไม่ปล่อย
     
     
    “ลุกไปอาบน้ำเร็ว” ผมจะยันตัวขึ้นแต่ฮีชอลก็ยังไม่ยอมปล่อย “เดี๋ยวอาหารเย็นหมดนะ”
     
     
    “อืมๆ รู้แล้วๆ ลูกหมา ขี้บ่นจัง” ฮีชอลยอมลุกขึ้นแล้วขึ้นไปอาบน้ำ
     
     
     
     
    20 นาทีผ่านไป
     
    ฮีชอลเดินลงบันไดมา ใส่แบบฟอร์มโรงเรียนผมเรียบร้อย
     
    - ฮีชอลยังคงดูดี จริงๆนั้นแหละ -
     
     
     
    “กินข้าวกัน” ผมบอก ก่อนจะยิ้มให้อย่างเคย
     
     
    “ข้าวผัดหรอ” ฮีชอลมองจานข้าวบนโต๊ะ
     
     
    “อืม ก็เห็นเมื่อวานฮีชอลบอกอยากกิน” ผมยิ้มแป้น ก่อนจะเดินมายืนข้างฮีชอล
     
     
    “อืม แต่วันนี้ไม่ค่อยหิวน่ะ ขอแค่กาแฟแล้วกัน” ฮีชอลบอก ผมต้องจำใจรินกาแฟให้ แล้วส่งให้ฮีชอล
     
     
    มือผมสั่นเทาไปหมดไม่อยากจะยอมรับว่า…เสียความรู้สึกต่อคนข้างหน้ามากเท่าไหร่
     
     
     
     
    “อีทึกไม่กินข้าวหรอ” ฮีชอลวางแก้วกาแฟลง
     
     
    “ฉะ... ฉัน… ฉันกินแล้วหล่ะ ฮีชอลอิ่มหรอ” ผมบอก
     
     
     
     
    -ที่จริงแล้ว ผมโกหกต่างหาก มัวแต่ตื่นเต้น ที่จะทำอาหารให้ฮีชอลกิน แม้แต่ของตัวเอง ก็ไม่ได้ทำ–
     
     
    “อืม ฉันอิ่มแล้วหล่ะ งั้นเรารีบไปกันเถอะ เดี๋ยวจะสายนะ”
     
     
    ฮีชอลเดินถือกระเป๋าออกไป ส่วนผมไปแต่เดินตามหลังฮีชอล ..แค่นั้น…
     
     
     
     
    …รู้สึกไม่ดีจริงๆ…
     
     
     
     
     
    “อีทึก !!!” เสียงแปดหลอดของเยซองดังขึ้น ก่อนที่ผมจะเห็นเจ้าตัวซะอีก
     
    แต่เสียงของเยซองดังมากนะ ทำเอาผมกับฮีชอลที่กำลังเดินเข้าห้อง ถึงกับชะงัก
     
    เยซองกระโดดกอดคอผม   ทำเอาผมเซไปด้านหลัง ถ้าฮีชอลไม่คว้าตัวผมไว้ หัวผมคงฟาดพื้นแล้วหล่ะ
     
     
    “คิดถึงจังเลย อีทึกนานหายไปเลย” เยซองดึงท้ายทอยผมเข้ามา แล้วหอมแก้มอย่างเคย
     
    แต่ วันนี้ไม่ปกติน่ะสิ
     
     
     
    ฮีชอลใช้มือดัน หน้าเยซองออก
     
    “ทำอะไรของนาย” ฮีชอลถามเสียงเครียด
     
    “ฉันสิ ต้องถามนาย นายทำอะไรนี่มันเพื่อนฉัน” เยซองดึงผมเข้าไปกอด
     
     
    แต่ไม่ทันไร ผมก็ถูกแรงกระชากจากฮีชอล ดึงตัวผมเข้าไป ฮีชอลกอดผมแน่น
     
    “เพื่อนนาย แต่นี่ของ ของฉัน” ฮีชอลยกยิ้มที่มุมปากขึ้น
     
    ผมมองหน้าฮีชอลอย่าง งงๆ
     
    “กะ…แก พูดอะไรว่ะ”   เยซองพูด “อะไรของแก นี่เพื่อนฉัน ฉันก็หวงของฉัน” 
     
    เยซองจะดึงผมเข้ามา แต่ฮีชอลกลับเอาตัวขวางไว้
     
     
    “นี่เพื่อนของแก แต่นี่ของ ของฉัน ฉันก็  ’ รัก ’  ของ ของฉันจะทำไม” ฮีชอลถามเยซอง
     
    -รักหรอ ทำเอาผมใจเต้นไม่เป็นจังหวะ ฮีชอลบอกว่ารักผมหรอ เป็นไปไม่ได้มั้ง-
     
     
     
    “เอ่อ… หะ ห้อง…. ขะเข้า…ห้อง ห้อง กันเถอะ…นะ” เพราะฮีชอลคนเดียว ทำเอาผมพูดไม่เป็นประโยค
     
    “พูดอะไรของนาย ฟังไม่รู้เรื่องเลย” 
     
    ฮีชอลบ่นอุบ แล้วโอบเอวผมเข้าไปในห้อง…
     
     
     
    “ฮีชอล ฉันต้องนั่งตรงนี้อ่ะ” ผมบอกพร้อมวางกระเป๋า
     
    “ทำไมหล่ะ เราไม่ได้นั่งด้วยกันหรอ” ฮีชอลทำหน้าบึ้ง
     
    “ฉันต้องนั่งเหมือนเทอมที่แล้วหน่ะ ฮีชอลต้องไปนั่งตรงนู่น” ผมชี้ไปที่ที่ว่าง
     
    “ง่ะ ฉันอยากนั่งกับลูกหมาหนิ” เวลาฮีชอลทำหน้าอ้อนๆ แล้วน่ารักแฮะ
     
    “งั้น ใครนั่งข้างฮีชอลหล่ะ”
     
    “ฉันจะไปรู้ได้ไง” ฮีชอลเบ้หน้า
     
    “งั้น เดี๋ยวเรารู้เมื่อไหร่ ว่าใครนั่งข้างฮีชอล เดี๋ยวตอนพักเที่ยงเราไปเปลี่ยนนะ เราจะได้นั่งด้วยกัน”
     
    ผมยิ้มให้ฮีชอลอย่างเคย
     
    “สัญญานะ” 
     
    “อืม สัญญาสิ” ผมยิ้มให้ฮีชอล
     
    ฮีชอลดึงแก้มผมเบา ก่อนจะเดินไปนั่ง
     
    “ลูกหมา” อยู่ดีๆฮีชอลก็พูดขึ้นมา ทำเอาผมแอบอมยิ้มไม่ได้
     
     
     
    ตลอดคาบ ฮีชอลฟุบหน้าลงกับโต๊ะ อย่างเบื่อๆ แต่ก็มองคนตัวเล็กไม่วางตา
     
    -ชิ จะหัวเราะอะไรกันนักกันหนา มีความสุขมากนักหรอไง –
     
     
    “อะ..เอ่อ ฮีชอลใช่มั๊ย” เสียงของผู้หญิงที่นั่งข้างๆดังขึ้น เด็กใหม่เหมือนเค้า …คิมแทยอน…
     
    “อืม มีอะไร” ฮีชอลตอบอย่างเบื่อๆ แต่ตายังมองคนตัวเล็กไม่วาง
     
    “คือ ฉันยืมสมุดหน่อยได้มั๊ย ฉันจดไม่ทันหน่ะ” คิมแทยอนตอบอย่างเก้กังๆ
     
    ฮีชอลโยนสมุดไปให้   แต่ก็คงช่วยอะไรไม่ได้   เพราะเค้าจดที่ไหนหล่ะ  
     
    สติกระเจงหมดแล้ว หงุดหงิดไอ้หน้ากลมด้วย
     
     
    “ โอ๊ย “ แทยอนร้องออกมา กุมท้องแน่น
    “เป็นอะไร” ฮีชอล รีบประคองแทยอนขึ้น
     
    “ปะ…ปวดท้อง” ใบหน้าซีดเซียวของหญิงสาว 
     
    ฮีชอลหันไปมองหน้า ครูผู้สอน แวบเดียว
     
    ครูก็พยักหน้า อนุญาติ   ฮีชอลรีบช้อนตัวแทยอนขึ้นแล้วเดินออกไป
     
     
    - แววตาแบบนั้น แววตาที่ดูเป็นห่วงเป็นใย ทำไมฉันยังไม่เคยเห็นสักครั้งเลยหล่ะ ฮีชอล ขอฉันเห็นได้มั๊ย สักครั้งเดียว   ครั้งเดียวก็ยังดี - 
     
    อีทึกสีหน้าหมองลงไปจน เยซองสังเกตเห็นได้  
     
    รอยยิ้มที่ถูกแต่งแต้มเมื่อกี้ กลับถูกลบออกไปจากใบหน้าหวานจนหมด 
     
    เหลือเพียงแววตาเศร้าๆ ที่พยายามยิ้มกลบเกลื่อนเท่าไหร่ ? ก็ยังไม่มิด
     
     
     
    “ฮีชอล จะสลับที่มั๊ย” พักกลางวัน ฮีชอลพาแทยอนกลลับมานั่งที่เดิม อีทึกเลยเดินเข้าไปหา
     
    “ไม่แล้วหล่ะ” ฮีชอลตอบแบบไม่ใส่ใจ ก่อนจะฟุบหน้าลง
     
    “อ๋อ อืม” คนตัวเล้กยิ้มให้ ก่อนจะหันหลังให้ฮีชอล ไม่อยากให้ฮีชอลเห็นน้ำตา มันเศร้า ซะจนปิดไม่มิด
     
     
     
    - ฮีชอลเป็นคนขอคำสัญญาเองนะ - คนตัวเล็กคิดอย่างน้อยใจ 
     
    ฮีชอลไม่ทันสังเกต หลังที่สั่นเทาของคนตัวเล็ก
     
    อีทึกกัดปากแน่น พยายามเช็ดน้ำตาออก   แต่ทว่า… ยิ่งเช็ดเท่าไหร่ มันกลับยิ่งไหลออกมา


    ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


    สงสารทึกกี้  

    ฮึกๆ  T^T

    เย้ๆ  ครบ ห้าสักที  

    สงกรานต์ไปไหนกันเอ่ย
    ??

    วันนี้คงมาอัพครั้งสุดท้ายแล้วหล่ะ

    กระซิกๆๆ



    มาอัพอีกทีก็หลังสงการนต์เนอะ

    เที่ยงให้สนุกนะคะ
    อย่าลืมฟิคเราด้วยหล่ะ

    ^U^

    ขอบคุณคนอ่านค่า
    คอมเม้นด้วยเนอะ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×