ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    MY PUPPY BOY [ CINTEUK ] PART 1 THE END

    ลำดับตอนที่ #18 : MY PUPPY BOY 18 ::: แก้แค้นแทน...ลูกหมาน้อย

    • อัปเดตล่าสุด 11 พ.ค. 52


    ตลอดเวลาที่นั่งรถกลับบ้าน อีทึกภาวนาขอให้กลับถึงบ้านเร็ว เค้ากลัว เค้ากลัวฮีชอล
     
    “นี่ เป็นอะไร” ฮีชอลหันมาถามร่างเล็กที่นั่งเหงื่อเต็มหน้า 
     
    “ปะ…ป่าวฮะ” อีทึกบีบมือตัวเองแน่น เค้ากลัวจริงๆ “ขึ้นไปนอนก่อนนะ” 
     
    อีทึกรีบเดินหนีขึ้นห้องไป
     
    ปิดประตูล็อคกลอน  น้ำตาไหลออกมาอีกครั้ง อีทึกเช็ดมันออก 
     
    เสียงคังอิน ที่กรีดร้องขึ้นมา มันดังขึ้นมาไม่มีใครรู้ว่าฮีชอลทำอะไรคังอิน แต่เค้ากลัว กลัวฮีชอลจับใจ ครั้งแรกที่เค้ากลัว เค้ากลัวที่ร่างกายเค้าจะไม่ใช่ฮีชอลคนเดียวที่เป็นเจ้าของ แต่ตอนนี้ฮีชอลน่ากลัวยิ่งกว่า …ปีศาจซะอีก 
     
    อีทึกเข้าไปอาบน้ำให้สบายตัวขึ้น แต่ทุกครั้ง เสียงคังอินก็ลอดเข้ามาในหู 
     
    อีทึกสะดุ้งครั้งแล้วครั้งเล่า เค้าไม่กล้า ไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้า…ฮีชอล
     
     
     
    รุ่งเช้า 
     
    ฮีชอลเดินเข้ามาในห้อเรียนด้วยอารมณืหงุดหงิด ตวัดสายตาไปมองร่างเล็กที่มาโรงเรียนก่อนโดยไม่บอก
     
    อีทึกก้มลง หลบสายตาร่างสูง ใจเค้าสั่นไม่เป็นท่า น้ำตากำลังจะเอ่อล้นออกมาอีกครั้ง 
     
    ขอร้องเถอะ… ผมกลัวเค้าจริงๆ 
     
     
     
    “นี่อีทึก” ซองมินหยิบกระดาษในนึงขึ้นมาวางบนโต๊ะ “จะมีแสดงละครเวทีกันแหละ”
     
    ซองมินยิ้มแป้น 
     
    “อ่าฮะ แล้วเค้าว่าไง” อีทึกชะเง้กมองกระดาษในมือซองมิน 
     
    “เค้าเลือกการแสดง กำหนดหัวข้อมาให้แหละ แต่นักแสดงก็ตามชมรม แต่เค้าจะให้ลองเปลี่ยนบ้าง อย่าเช่นไอ้ฮยอกแจปกติ ไม่ใช่คน ให้มันลองเป็นคนดูบ้างอะไรเงี้ย ” ซองมิน ดึงขนมในมือฮยอกแจมากิน ฮยอกแจค้อนซองมินครั้งแล้วครั้งเล่า
     
    “อีทึก นายคงอยู่ดนตรีกับซีวอนแหละ ฉันชอบที่นายเล่นเปียโนแล้วซีวอนร้องเพลง อ๊า โรแมนติกสุดๆ” ฮยอกแจทำหน้าเพ้อฝัน ซองมินผลักหัวออกอย่างหมั่นไส้ 
     
    “อืม” อีทึกพยักหน้าอย่างเข้าใจ
     
     
     
    พอตกเย็น อีทึกก็รีบกลับบ้านทันที แล้วขึ้นห้องปิดล็อคห้องเหมือนเดิม เค้ายังคงทำใจไม่ได้ เพราะเสียงของคังอินมันยังดังวนเวียนอยู่ในความคิดเค้าตลอดเวลา กี่ครั้งแล้ว ถึงแม้จะเป็นแค่คืนเดียว เค้าก็ต้องสะดุ้งขึ้นมา เพราะเสียงคังอินที่ยังติดอยู่ในสมอง 
     
    อีทึกเป็นแบบนี้อยู่ประมาณอาทิตย์กว่า ที่ฮีชอลกับอีทึกแทบจะไม่เจอกัน แล้วก็ไม่ได้คุยกัน แม้แค่คำเดียวก็ไม่มี 
     
    ฮีชอลยืนรออีทึกอยู่ที่บ้าน ฮีชอลมองเวลา ก็น่าจะเลิกเรียนได้ ครึ่งชั่วโมงแล้ว อีทึกก็น่าจะกลับถึงบ้าน
     
    ฮีชอลเดินไปนั่งที่โซฟาสักพัก อีทึกก็กลับมาจริงๆ
     
    อีทึกผงะไปเมื่อเห็นฮีชอล เดินก็ก้มหน้าแล้วจะเดินขึ้นไปที่ห้อง ฮีชอลรีบไปคว้าข้อมือเล็กไว้
     
    “นายเป็นอะไร” ฮีชอลถามเสียงแข็ง
     
    “ปะ…ป่าวฮะ” อีทึกพยายามจะไม่มองหน้าฮีชอล ใจเต้นขึ้นเรื่อยๆ 
     
    “นายหลบหน้าฉันทำไม” ฮีชอลบีบแขนเล็กแน่น ทำให้อีทึกยิ่งกลัวเค้าขึ้นไปอีก
     
    “ปะ…ป่าวนะฮะ” อีทึกหันหน้าหลบฮีชอล “ก็แค่ชะ…ช่วงนี้ มีงานแสดง…กะ…ก็เลยยุ่ง” 
     
    ฮีชอลดึงกระดาษในมืออีทึกมาดู ปรากฎว่าเป็นอย่างที่อีทึกบอกจริงๆ ฮีชอลปล่อยมือเล็กออก อีทึกรีบเดินหนีขึ้นไป  
     
     
     
     
    “อีทึกไปเร็ว” ซองมินวิ่งมาดึงมืออีทึกไป “เดี๋ยวไปซ้อมไม่ทันโดนเค้าว่านะ อีทึกจำบทได้ยัง” 
     
    ซองมินถามขณะวิ่งไปด้วย ก่อนจะมาหยุดหน้าห้องใหญ่ ซองมินดันประตูเข้าไป 
     
    ทุกคนที่อยู่บนเวที กำลังซ้อมการแสดงอยู่หันมามอง รวมถึงตามมุมห้องก็มีชมรมดนตรี กับการเต้น อยู่คนละมุม 
     
    สรุปบทที่เค้าได้ก็คือการแสดง แล้วเค้าก็ไม่ถนัดมันด้วยสิ
     
    “นั่นคือ อีทึกใช่มั๊ย” ยุนอาที่ยืนอยู่บนเวที พูดขึ้น
     
    “ใช่ฮะ” อีทึกตอบกลับไป ซองมินดึงมืออีทึกไปแถวเวที  ก่อนจะเดินไปหาซีวอนที่กำลังซ้อมร้องเพลงอยู่
     
    “นี่ วันแรกยังมาช้าเลย จะทำงานด้วยกันได้มั๊ยเนี่ย” ยุนอามองอีทึก ด้วยสายตาไม่พอใจ
     
     
    “เริ่ม”  ซูยองสั่ง  ยุนอายืนอยู่กลางเวที รออีทึกเดินไปหาเวที 
     
    “หยุด หยุดอยู่ตรงนั้นเลย” อีทึกเดินออกได้ไม่กี่ก้าว ยุนอาก็ทักขึ้นมา   “อ่านบทมั๊ยเนี่ย เดินตอนไหน” ยุนอาปาบทที่ถืออยู่ใส่หน้าอีทึก 
     
    อีทึกค่อยๆหยิบมันขึ้นมา   “ขอโทษฮะ” 
     
    “มาก็ช้ายังจะ ทำตัวมีปัญหาอีก” ยุนอาต่อว่าเข้าให้ 
     
    อีทึกได้แต่ก้มหน้ารับผิดก็เค้าผิดจริงๆหนิ ที่เค้าจำได้ไม่ค่อย 
     
    หลังจากซ้อมอีกหลายรอบ อีทึก็โดนยุนอาต่อว่าหลายครั้ง
     
    จบกระทั่งรอบสุดท้าย
     
    “อ่ะ โอเค อีทึกเก่งมาก จำตรงนี้ไว้ให้ได้นะ แล้วพรุ่งนี้เราเปลี่ยนฉากกัน” ซูยองที่คอยนั่งดูอยู่พูดขึ้น  ส่งยิ้มให้อีทึก 
     
    “ขอบคุณฮะ” อีทึกยิ้มกลับ
     
    “เก่งบ้าเก่งบออะไร โง่หล่ะสิไม่ว่า” ยุนอาจงใจพูดให้อีทึกได้ยิน ก่อนจะปาขวดน้ำในมือที่หมดแล้วใส่หน้าอีทึก
     
    “เอ่อ อีทึกไม่เป็นไรใช่มั๊ย” ซูยองรีบเดินไปดู
     
    “ครับ” อีทึกยังคงยิ้ม อีทึกเดินไปหยิบกระเป๋าตัวเองแล้วเดินออกไป 
     
     
    อีทึกกลับมาถึง ไม่เห็นรถอีอชลจอดอยู่ก็โล่งใจไป แต่ก็แอบใจหาย
     
    ถึงเค้าจะกลัวฮีชอลแค่ไหน แค่ขอให้รู้ว่าฮีชอลไม่เป็นไรก็พอ
     
     
    อีทึกเดินเข้าไปในห้อง ไม่ทันสังเกตว่าร่างสูงแอบยืนดูอยู่ 
     
    ฮีชอลมองร่างเล็ก จนเข้าห้องไป ก่อนจะเดินเข้าห้องตัวเองไปบ้าง ฮีชอลเดินออกไปที่ระเบียง อัดบุหรี่เข้าปอดม้วนแล้วม้วนเล่า เค้าจะสูบก็ต่อเมื่อ เครียดจริงๆ แล้วตอนนี้ไม่เครียดหรือไง อยู่ดีอีทึกก็ทำตัวห่างเหิน 
     
    ฮีชอลยืนสูบบุหรี่อยู่สักพัก ก่อนเห็นอีทึกเดินออกมา แต่พออีทึกหันมามองหน้าเค้าแค่นั้น แค่แปปเดียวอีทึกก็เดินกลับเข้าห้องไปทันที 
     
    ฮีชอลหยิบบุหรี่อีกม้วนขึ้นมาสูบ ก่อนที่เสียงโทรศัพท์เครื่องหรูจะดังขึ้น
     
    “ฮัลโหล”
     
    “(ฮีชอล ไปดริ๊งค์กันหน่อยม่ะ)” เสียงปลายสายดังขึ้น
     
    “เออก็ดี” แค่นั้นฮีชอลก็วางสาย มองที่ห้องอีทึกอีกครั้ง แล้วหยิบเสื้อคลุม ก่อนจะเดินออกไป 
     
     
    อีทึกเดินออกมาจากห้อง เห็นฮีชอลเดินออกมาจากห้องทันที อีทึกยืนก้มหน้าอยู่กับที่ไม่ไปไหน เหมือนกับฮีชอลที่จ้องหน้าอีทึก ทั้งสองยืนอยู่ด้วยกันสักพัก แต่ไม่มีบทสนทาของเค้าทั้งสอง จนกระทั่ง
     
    “ฮะ…ฮีชอล…จะออกไปหา…แทยอนหรอ” อีทึกพูดทำลายความเงียบขึ้นมา
     
    “ป่าว” ฮีชอลตอบแค่นั้น แล้วเดินออกไป
     
    อีทึกได้แต่มองตาม แต่ก็ไม่กล้าเข้าใกล้ร่างสูงมากกว่านี้ 
     
     
     
    “ทงแฮ!!!” เสียงเจื้อยแจ้วของซองมินดังขึ้นข้างหู
     
    “อะไร ไอ้บ้านี่ตะโกนทำไม” ทงแฮเอาหนังสือเล่มหนามาตีหัวซองมิน
     
    “ไปดูอีทึกซ้อมละครกัน” ซองมินดึงมือทงแฮ
     
    “เดี๋ยว อีทึกเนี่ยนะแสดงละคร บ้าหน่า” ทงแฮสายหน้า
     
    “เออ จริงเมื่อวานโดนยัยยุนอาด่าเละเลย อีทึกถนัดซะที่ไหนหล่ะ” ซองมินเบ้เมื่อพูดถึงมัน เค้าจะขึ้นไปด่าก็ไม่ได้ เพราะอีทึกเล่นผิดจริง 
     
    “เออ ไปก็ไป” ทงแฮหยิบหนังสือแล้วเดินตามซองมินไป 
     
     
    เพี้ยะ!
     
    มือบางของยุนอาปะทะเข้ากับหน้าอีทึก ทงแฮลุกพรวด แต่ก็ถูก รยออุคดึงให้นั่งลง เพราะรยออุคต้องมานั่งทุกวัน เค้าเป็นฝ่ายพยาบาลเกิดมีปัญหาขึ้นมาเค้าจะได้ช่วยได้ทัน
     
    “ยุนอา เธอเล่นแรงไปนะ” ซูยองบอกขึ้นมา
     
    “แล้วไง ก็ต้องเล่นให้สมจริงหน่อยสิ” ยุนอาพูดเหมือนคนเอาแต่ใจ
     
    “อืม แต่ให้เบากว่านี้แล้วกัน อีกรอบนะ” ซูยองบอก  “อีทึกไปทายาก่อนมั๊ย”
     
    “โอ๊ย เป็นผู้ชายภาษาอะไร โดนตบแค่นี้ สำออย” ยุนอาว่าขึ้น ซูยองส่งสายตาดุๆไปให้ แต่ยุนอาก็ยังทำเป็นเฉยๆ
     
    “ซ้อมต่อเถอะฮะ” อีทึกยิ้มเจื่อนๆ
     
     
    เพี้ยะ!!!
     
    มือบางปะทะเข้ากับหน้าอีทึกอีกครั้ง แต่รู้สึกว่าแรงกว่าเดิม
     
    “เฮ้ย พอแล้ว อีทึกลงมานี่” ทงแฮเรียกอีทึกลงมา 
     
    “ทำไมหล่ะ” อีทึกจับหน้าตัวเองถาม ทงแฮอย่าง งงๆ
     
    “ทำไมหล่ะ คนอย่างนี้ดีแต่หน้า แต่ไม่รู้เอาใจเขามาใส่ใจเรา ถ้าฉันต่อยเธอแรงๆบ้างหล่ะ จะเจ็บมั๊ย” ทงแฮตอกกลับ เดินขึ้นไปดึงแขนอีทึกลงมา 
     
     
    “ทงแฮจะทำอะไรหน่ะ เค้าบังคับให้ฉันต้องแสดงอันนี้นะ” คนตัวเล็กท้วงขึ้น
     
    “ไม่ต้อง ฉันจัดการเอง นายเต้นก็เก่งหนิ” ทงแฮว่าดึงอีทึกไปหาฮยอกแจ
     
    “อีทึก นายจะมาเต้นหรอ มาๆ” ฮยอกแจยิ้ม
     
    “ป่าวสักหน่อย ฉันต้องไปแสดง” อีทึกหน้ามุ่ย
     
    “โอ๊ย ไม่ต้องไปเครียดกับมันหรอก เค้าบังคับแต่ เราก็มีสิทธิเลือกนะ มาเต้นกับฉันดีกว่า” ฮยอกแจดึงอีทึกเข้ามา 
     
     
    “หนึ่งและสอง สามและสี่” ฮโยยอนหยุดนับแล้วมองหน้าอีทึก “บอกให้เริ่มจังหวะที่สี่ไม่ใช่หรอ”
     
    “อะไร เธออย่ามามั่วนะฮโยยอน เองเป็นคนบอกเอง ว่าเริ่มจังหวะที่สาม ฉันยังเริ่มจังหวะที่สามเลย ทำไมเธอว่าอีทึกคนเดียว” ได้ทีฮยอกแจก็ด่าใหญ่ เค้าก็รู้อยู่ว่าฮโยยอนกับยุนอาจะแกล้งอีทึก 
     
    “ทำไม ก็นายหน่ะ เต้นเป็นอยู่แล้ว แต่อีทึกเพิ่งเข้ามาใหม่ มันก็ต้องแนะนำกันหน่อย” ฮโยยอนยกยิ้มร้าย
     
    “หรอ แต่รู้ว่าอีทึกก็เต้นเก่งพอๆกับเธอนะ”ฮยอกแจเบ้หน้าไม่พอใจคนตรงหน้า 
     
    “แล้วไง ถ้าเก่งมาก ก็เอาไปซ้อมกันเองเลยไป” ฮโยยอนพูดอย่างคนเอาแต่ใจไม่ต่างจากยุนอา เธอปาผ้าเช็ดหน้า ใส่อีทึกแล้วเดินออกไป 
     
    “อีทึก ไม่เป็นไรนะ” ฮยอกแจเดินมาหาคนตัวเล็กที่ยืนเงียบ
     
    “อืม ไม่เป็นไร” อีทึกโบกมือประมาณว่าไม่เป็นอะไร ก่อนจะเดินหยิบกระเป๋าแล้วกลับบ้านไป
     
     
    อีทึกปาดน้ำตาทิ้ง แผลที่แก้มก็แสบขึ้น อีทึกแตะมันเบาๆ ก่อนจะมองเข้าไปที่จอดรถ มันไม่มีรถฮีชอลอีกแล้ว
     
    เค้าผลักประตูเข้าไป อีทึกผงะไปเล็กน้อย เมื่อเห็นฮีชอลนั่งอยู่
     
     
    ที่จริงแล้ววันนี้ที่ฮีชอลเค้าอยากจะมาคุยกับอีทึกให้รู้เรื่อง 
    แต่พอหันมาเจอสภาพคนตัวเล็กแล้วถึงกับพูดไม่ออก อีทึกโดนแกล้งอีกแล้วหรอ
     
    “หน้าไปโดนอะไรมา” ฮีชอลจับหน้าอีทึกหัน ฮีชอลมองรอยแผล
     
    “ปะ…ป่าว” อีทึกดึงมือฮีชอลออก “ขอขึ้นไปนอนก่อนนะ” ว่าแล้วอีทึกก็เดินขึ้นไป 
     
    ฮีชอลมองอีทึกอย่างหงุดหงิด แล้วเมื่อไรจะคุยกับรู้เรื่องว่ะ 
     
     
     
    วันนี้ฮีชอลไม่กลับบ้าน แอบมานั่งดูอีทึกซ้อมการแสดง อยู่คนเดียวหลังจากไปส่งแทยอนมาแล้ว
     
    ที่เมื่อวานเค้าไม่พูดอะไรไม่ใช่ว่าเค้าไม่รู้ว่าใครทำอะไรอีทึก เค้ารู้ แต่แค่ไม่พูดออกมาแค่นั้นเอง
     
     
    ผัวะ!!
     
    ฮโยยอน แกล้งเหวี่ยงแขนมาโดนอีทึก
     
    อีทึกจับตรงที่โดนเบา ก่อนจะไปซ้อมต่อ 
     
    พลั่ก!!
     
    ฮโยยอน แกล้งเดินผิดบล็อกมาชนอีทึก 
     
    “ขอโทษ” ฮโยยอนกระชากเสียง ก่อนจะยิ้ม 
     
    อีทึกก็หันไปซ้อมต่อ 
     
    ผวัะ!! พลั่ก!!
     
    “เฮ้ย !!!” ฮีชอลที่นั่งอยู่ ลุกพรวด เค้าทนไม่ไหวแล้ว 
     
    “ฮะ…ฮีชอล ไม่ได้อยู่กับแทยอนหรอ” ฮโยยอนบ่นออกมา
     
    “เออ กูอยู่นี่แหละ ไม่ได้ไปไหน” ฮีชอลเดินเข้ามาประชิดตัว “เมื่อกี้เธอทำอะไร” 
     
    ฮโยยอนมองหน้าฮีชอล สั่นระริก 
     
    “ฉันถามว่าเธอทำอะไร!!!” ฮีชอลคว้าข้อมือฮโยยอนขึ้นมา บีบมันตามอารมณ์โกรธของเค้า 
     
    “เจ็บ”
     
    “ฉันถาม!!!” ฮีชอลขึ้นเสียงอีกครั้ง
     
    แววตาฮโยยอนสั่นระเริก เมื่อเห็นท่าทางของร่างสุงที่ดูเปลี่ยนไปเป็นคนละคน
     
    “ยุนอา” 
     
    “ห๊ะ” ยุนอาสะดุ้งเมื่อได้ยินชื่อตัวเองออกมาจากปากร่างสุง
     
    “แก้แค้นแทนฉันหน่อยสิ ฉันไม่อยากรังแกผู้หญิง” ฮีชอลพูดยกยิ้มร้าย 
     
    ยุนอาเดินมาหาฮีชอล “อะ…อะไร”
     
    “ตบฮโยยอน” 
     
    “ห๊ะ…มะ…ไม่” ยุนอาส่ายหน้า
     
    “ฉันบอกให้เธอทำ!!!” ฮีชอลตวัดสายตาไปมอง “หรือเธออยากให้ฉันตบเธอก่อน”
     
    มือยุนอาสั่นระเริก ตบไปที่หน้าฮโยยอนเบาๆ
     
    “ตบให้เหมือนวันที่เธอตบอีทึกเมื่อวานสิ” ทงแฮพูดขึ้น ก่อนจะหันไปยิ้มให้ฮีชอล
     
    ทงแฮนี่แหละ ถึงเค้าจะทำอะไรไม่ได้ แต่อย่างน้อยก็มีฮีชอลนี่แหละว่ะที่ทำแทนเค้าได้ เค้าเลยโทรฯไปบอกฮีชอล
     
     
    เพี้ยะ
     
    ยุนอาตบฮโยยอน
     
    “แรงกว่านี้สิ” ทงแฮยิ้มเจ้าเล่ห์ขึ้นมา 
     
    เพี้ยะ!
     
    “เธอจะตบดีๆหรือจะให้ฉันตบเธอก่อน” ฮีชอลเริ่มหมดความอดทนต่อคนตรงหน้า
     
    “ฉันก็ตบแล้ว นายจะทำเอาอะไรอีก” ยุนอาตอบอย่างหงุดหงิด
     
    “หรอ เธอให้ฉันตบเธอเป็นตัวอย่างก่อนดีกว่า” ฮีชอลยกมือขึ้น
     
    “โอเค” ยุนอาโพล่งขึ้น
     
    เพี้ยะ!!!
     
    “หึ” ฮีชอลกระตุกยิ้มหลังจากมองแววตาฮโยยอนที่เปลี่ยนไป เป็นแข็งกร้าวขึ้น “ฮโยยอน เธอโกรธมั๊ยหล่ะ ถ้าโกรธ…ก็ตบกลับสิ ฉันอนุญาติ” ฮีชอลพูดแค่นั้นก่อนจะดึงมืออีทึกมา 
     
    ปล่อยให้ทั้งสองคนทะเลาะกัน 
     
    “แม่ง ร้ายจริงๆว่ะ” ซองมินพูดกับซีวอน “น่ากลัวชะมัด” 
     
    “กลัวหรอ” อยู่ดีๆก็มีเสียงดังขึ้นจากด้านหลัง
     
    “ไอ้เด็กบ้า ตกใจหมด” ซองมินวิ่งไล่ตามชายนิรนาม “กลับมาเดี๋ยวนี้นะ ไอ้คยูฮยอน”
     
    “ถ้าพี่เรียกผมกลับไปจูบ ผมจะวิ่งเข้าไปเดี๋ยวนี้” คยูฮยอน ยักคิ้วเจ้าเล่ห์
     
     
     
    ฮีชอลผลักอีทึกขึ้นไปในรถ สปอร์ตคันใหม่ที่เค้าเพิ่งถอยมาไม่นานนี้ แต่คนแรกที่ได้นั่งก็คือีทึกเนี่ยแหละ
     
    “ดะ…เดี๋ยวสิ” อีทึกเอามือมากั้นไว้ ไม่ให้ฮีชอลปิดประตูรถ
     
    “อะไรอีก” ฮีชอลมองคนตัวเล็ก  
     
    “ฮีชอลขึ้นผิดคันรึป่าว” อีทึกมองร่างสูง
     
    “ไม่ผิด นั่งนิ่งๆได้มั๊ย แล้วไม่ต้องยื่นมือออกมาแล้วนะ” ฮีชอลปิดประตู แล้วเดินอ้อมไปที่นั่งคนขับ ก่อนจะขับออกไปอย่างเร็ว 
     
     
    ไม่นานอีทึกก็หลับคาเบาะ อาจเป็นเพราะเหนื่อย
     
    ฮีชอลจอดไฟแดง หันไปมองคนตัวเล็ก แล้วลุบผมนิ่มเบาๆ ฮีชอลก้มไปจูบหน้าผากมน เค้านั่งมองตอนอีทึกหลับไปเรื่อยๆ
     
    ปริ๊น!!! 
     
    เสียงแตรรถข้างหลังดังขึ้น ฮีชอลรีบหันไปมองข้างหน้า ปรากฎว่าเป็นไฟเขียวแล้ว ฮีชอลรีบออกรถทันที  
     
     
     
    อีทึกลืมตาขึ้นมาเพราะได้กลิ่นบุหรี่ลอยมา อีทึกลืมตาขึ้น มองที่คนขับไม่มีฮีชอลนั่งอยู่ แต่พอมองไปอีกข้าง เห็นฮีชอลกำลังนั่งสูบบุหรี่ ที่เค้าได้กลิ่นเพราะฮีชอลเปิดกระจกรถไว้
     
    “ลงมานี่สิ” ฮีชอลทิ้งม้วนบุหรี่ในมือลง
     
    อีทึกเปิดประตูรถลงมา 
     
    “กลัวฉันหรอไง” อีทึกก้มหน้าลงแต่ก็เดินไปหาฮีชอล ก่อนจะนั่งลงข้างๆ 
     
    ฮีชอลรวบอีทึกเข้ามากอด 
     
    “กลัวฉันใช่มั๊ย ที่ฉันทำคังอินวันนั้น …ใช่มั๊ย” ฮีชอลจูบที่ขมับเล็ก
     
    อีทึกไม่ตอบ แต่แอบร้องไห้ออกมาเบาๆ
     
    “ร้องไห้อีกแล้ว ฉันทำเพื่อนายนะ แล้วทำไมถึงกลัวฉันหล่ะ”
     
    อีทึกไม่ตอบแต่ผละออกมาจากร่างสูง
     
    “ทำไมเวลาโดนใครแกล้งถึงไม่ยอมบอกฉันฮะ” 
     
    “ฉะ…ฉันกลัวฮีชอลรำคาญ” อีทึกตอบ ฮีชอลใช้นิ้วเกลี่ยตาใสออก 
     
    “รำคาญที่ไหนหล่ะ ใครกล้าทำให้ลูกหมาฉันร้องไห้นะ จะเอาคืนให้หมดเลย ดีมั๊ย…จะได้ไม่ต้องมีใครแกล้งลูกหมาของฉันอีก” ฮีชอลยิ้มให้อีทึก
     
    อีทึกยิ้มออกมา ลักยิ้มข้างแก้มบู๋มเข้าไป   ก่อนจะโผเข้ากอดร่างสูง
     
    “อย่ากอดแน่นสิ” ฮีชอลบอกแต่มือหนาก็ยังโอบร่างเล็กไว้ในอ้อมกอด
     
    “ฮีชอลรังเกียจหรอ” อีทึกผละออก สายตาหมองลงอย่างเห็นได้ชัด
     
    “ป่าวแค่จะบอกว่า...” ฮีชอลก้มลงไปกระซิบ “ฉันจูบนายไม่ถนัด”
     
    ทำเอาร่างเล็กหน้าแดงไปถึงไหนต่อไหน 
     
    “เร็วๆ หันหน้ามาสิ อยากจูบนายใจจะขาดแล้วเนี่ย” ฮีชอลเร่งเมื่อร่างเล็กไม่ยอมหันมา
     
    “ไม่เอา” แก้มป่องพองออก อย่างเขินๆ
     
    “เอาอะไร เลือกได้ด้วยหรอ” ฮีชอลดึงอีทึกเข้ามาใกล้ ใบหน้าห่างกันไม่ถึงคืบ “นายเป็นลูกหมา เฉพาะฉะนั้น ทำตามคำสั่งฉันซะดีๆ” ฮีชอลยิ้มกว้าง
     
    ก่อนจะประกบริมฝีปากอิ่มลงไป 
     
    ถึงแม้ว่าจะไม่ลึกซึ้งอะไร แต่ก็ทำให้ร่างเล็กขาดอากาศได้เหมือนกัน  
     
    อีทึกค่อยๆผละออกจาร่างสูงใบหน้าแดงก่ำ
     
    “เขินหรอไง” ฮีชอลใช้นิ้วเขี่ยแก้มนิ่มเบาๆ
     
    “ป่าวสักหน่อย” อีทึกหันหน้าหนีร่างสูง ใบหน้าแดงก่ำขึ้นเรื่อยๆ
     
    “ไม่เขินหรอ งั้นมาให้จูบอีกทีสิ” ฮีชอลยิ้มเจ้าเล่ห์
     
    “มะ…ไม่เอา” 
     
    “ฮะๆๆ เรากลับบ้านกันเถอะนะ” ฮีชอลดึงมือเล็กขึ้นไปที่รถ
     
     
     
    “ฮีชอลมองทางสิ” คนตัวเล็กหันมาบอก ก็ฮีชอลเล่นนั่งมองหน้าเค้าไม่ยอมมองทางเลย
     
    “ทำไมหล่ะ มองหน้านายไม่ได้หรอไง ไอ้ลูกหมา”  ฮีชอลหันกลับไปมองทาง แต่ก็ไม่วายหันมามองคนตัวเล็กอีก
     
    “ไม่รู้…แต่ฮีชอลมองทางสิ” อีทึกตอบหน้าแดงขึ้นอีกครั้ง 
     
    “เออๆ ก็ได้ว่ะ มองทางก็มองทาง” ฮีชอลยอมหันกลับไปมองทาง 

    ส่วนอีทึกก็หันไปมองนอกหน้าต่าง ใบหน้าซับสีขึ้นเรื่อยๆ อยู่ดีๆใจก็เต้นเอง 


    --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    ตอนนี้ไม่ค่อยสนุก TT^TT  

    แงๆๆๆๆๆๆ
    คุยกับตัวเองไม่ค่อยรู้เรื่อง   [=[]=;;;]


    ขอเม้นถึง 275 นะคะ

    ^U^ 

    ตอนหน้ามีข่าวร้ายกับข่าวดีมาบอก  

    (กวนตีนจริงๆ -*- )
     
    ขอบคุณคอมเม้นมากมายค่า  

    รักรีดเดอร์ค่า  ^U^


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×