ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    MY PUPPY BOY [ CINTEUK ] PART 1 THE END

    ลำดับตอนที่ #1 : MY PUPPY BOY 1 ::: ฐานะของลูกหมา

    • อัปเดตล่าสุด 7 เม.ย. 52


    “เฮ้ย ระวัง” เสียงทุ้มดังขึ้น จนแทบกลายเป็นเสียงตะโกน
     
    ผมยืนอยู้กลางถนน แทบจะไม่รู้สึกตั มองไปด้านข้างอย่างตกใจ
     
    แสงไฟสาดสูง เต็มเข้าตา ผมหลับตาปี๋ ด้วยความกลัว
    มันเป็นความรู้สึกเดียวให้ตอนนั้นของผม 
     
     
    ผมกำลังถูกรถชน!!!
     
     
    อยากจะก้าวขาหนี แต่ขากลับนิ่งไม่ขยับ
     
    ดวงตาคมเบิกกว้าง มองไปยังเด็กชาย ที่ตกใจจนยืนนิ่ง
    ร่างสูงรีบพุ่งตัวเข้าไปอุ้มเด็กชายเข้ามา ก่อนจะถูกชน
     
     
    โครม !!!!
     
     
    รถเลี้ยงกะทันหัน  รถหันเลี้ยวไปชนเสาไฟฟ้าอย่างจัง
    คนตัวเล็กที่ถูกอุ้มมา ปล่อยโฮอย่างตกใจ
     
     
     
    - เป็นอะไรรึป่าว - เสียงทุ้มถามขึ้นอย่าอบอุ่น   ผมเงยหน้ามอง
    - ผมกลัว - ผมโผเข้ากอด ใครก็ไม่รู้ ที่ช่วยชีวิตผม
     
     
     
    - ไม่เป็นไรแล้วหล่ะ – ใบหน้าหล่อยิ้มให้ผม  - ชื่ออะไรหล่ะ-
    - ชื่อปาร์คจองซู เรียกอีทึกก็ได้ –  ผมยิ้มตอบกลับไป  แต่ใบหน้ายังคงเปื้อนน้ำตา
     
     
     
    - ฉันคิมฮีชอล - ร่างสูงเอื้อมมือมากอดผมไว้
    - ขอบคุณนะฮะ ที่ช่วยผม – ผมโอบฮีชอลกลับ
     
     
    - ไม่เป็นไร พ่อแม่นายหล่ะ – ฮีชอลถาม  แล้วพ่อแม่ผมหล่ะ ??
     
     
    - ผมไม่มีหรอกฮะ – ผมตอบพยายามกลั้นน้ำตา
    - อ่าวนายต้องมีซิ – ฮีชอลยังงงๆ
    -คุณครูบอกว่า ผมไม่มีพ่อแม่ ฮืออ – แล้วผมก็ปล่อยโฮออกมาอย่างห้ามไม่ได้
     
     
     
    - ฮีชอล -  เสียงหวานของผู้หญิง คนหนึ่ดังขึ้น ทำให้ผมกับฮีชอลหันไปมอง
    - แม่ฮะ -   ฮีชอลโผเข้ากอดคนที่เค้าเรียกว่าแม่ แต่ผมคงไม่มีโอกาสอย่างฮีชอล
    - ฮีชอล นี่คุยอยู่กับใครอยู่ –
     
     
     
    - คุยกับอีทึกฮะ เมื่อกี้ผมช่วยอีทึกด้วยนะ - ฮีชอลยิ้มออกมา ผมก็ยิ้มออกมาด้วย
    - เก่งจ้ะเก่ง – คนที่ฮีชอลเรียกว่าแม่ ยิ้มอย่างอบอุ่น ผมอยากได้รอยยิ้มแบบนั้นบ้างจัง แล้วเค้าก็หันมามองผม – หนูอายุเท่าไหร่ –
    - 9 ขวบฮะ –
    - เท่าฮีชอลเลยหนิ – ผู้หญิงคนนั้นยิ้มให้ผม
     
     
     
    - แม่ฮะ ให้อีทึกไปอยู่กับผมนะ – ฮีชอลเกาะแขนผู้หญิงคนนั้น
     
     
    - ไม่ได้หรอก ฮีชอล เค้าต้องอยู่กับพ่อแม่เค้าสิ – แม่ของฮีชอลมองฮีชอลอย่างตำหนิ
    - ผมไม่มีพ่อแม่หรอกฮะ – ผมตอบ น้ำตาจะไหลออกมาอีกแล้ว ผมอยากเจอพ่อกับแม่จัง
     
     
     
    - ทำไมหล่ะ  เอาอย่างนั้นตามฮีชอลบอกก็ได้ เราไปอยู่ด้วยกันนะ – แม่งของฮีชอลดึงผมเข้าไปกอด
    มันอบอุ่น ซะผมไม่อยากจะผละออก ผมไม่เคยได้รับความอบอุ่นแบบนี้ด้วยซ้ำ
     
     
     
    - ผมไปอยู่ได้หรอครับ – ผมยิ้มอย่างดีใจ ผมอยากมีบ้านใหม่
    - ได้สิ ต่อไปนี้ เรียกฉันว่าแม่นะ ไหนลองเรียกสิ่ –
     
     
     
    - แม่ฮะ – ผมโผเข้ากอด คนที่ผมเรียกว่าแม่
    ฮีชอลก็ดินเข้ามากอดผมด้วย
     
     
     
     
    - นี่ๆ อีทึกนายดูนี่สิ – ฮีชอลหยิบหุ่นยนต์ตัวหนึ่ง ที่วางอยู่ที่เบาะให้ผม
    - มันคืออะไร – ผมถามพร้อมรับมันมา
     
     
    - หุ่นยนต์ –
    - อันนี้รู้แล้ว แต่มันคือตัวอะไร – ผมยังงงๆ กับไอ้หุ่นยนต์ตัวนี้
    -หุ่นยนต์ไง – ฮีชอลทำหน้าดุใส่ผม
     
     
     
    - อ่า มันคือหุ่นยนต์ - ผมเลี่ยงมี่จะไม่เถียงต่อ
    ฮีชอลดึงผมเข้าไปกอด
     
     
    -พ่อฮะ แม่ฮะ ดูสิน่ารักมั๊ย – ฮีชอลหยิกแก้มไปมา
    - เจ็บนะ – ผมบ่นเบาๆ
    - ฮีชอล อีทึกเจ็บนะ – แม่หันมาดุฮีชอลเบาๆ แต่ฮีชอลก็หันมาหอมแก้มผม
    - ทะเล้นจริงๆ ลูกคนนี้ – เค้าให้ผมเรียกว่าพ่อฮะ ตอนนี้ผมมีทั้งพ่อทั้งแม่แล้วนะฮะ
     
     
     
    - อีทึกนายน่ารัก ตัวนิดเดียวเอง มาเป็นลูกหมาของฉันมั๊ย – ฮีชอลเอียงหน้าถาม
    ลูกหมาหรอ ผมเห็นมันตัวเล็กๆก็น่ารักดีนะ
    - ก็ได้ฮะ – ผมยิ้มกลับไป
     
    จากนั้นมา ผมก็อยุ่กับฮีชอลในฐานะ ที่ฮีชอลที่เรียกว่า   - ลูกหมา -   มาตลอด
    ผมเป็นหนี้ฮีชอล จนทดแทนยังไงก็ยังรู้สึกว่ามันไม่หมดสักที
    ผมยอมฮีชอลทุกอย่าง เพราะผมรักฮีชอลไง แต่ผมก็ไม่รู้นะว่า ผมรักฮีชอลในฐานะไหน
     
     
     
    รักฮีชอลในฐานะที่….          เค้าช่วยชีวิตผม
     
    หรือรักฮีชอลในฐานะ…..      พี่ชายคนนึง
     
    หรือว่ารักฮีชอล ในฐานะ..    ในฐานะคนรัก
     
     
     
    “อีทึก” เสียงของฮีชอลดังขึ้น ผมรีบเข้าเดินไปหา
    ทันทีที่ผมเดินถึงเตียง ฮีชอลก็ดึงผมขึ้นไปกอด
     
     
    ฮีชอลมักจะทำแบบนี้ ประจำแล้วพูดว่า   ผมเป็นลูกหมาของเค้าคนเดียวเท่านั้น
     
    “ฮีชอลหิวรึป่าว เดี๋ยวไปทำอาหารมาให้นะ อยากกินอะไรอ่ะ” ผมถามอย่างเคย
    เพราะต้องเอาใจฮีชอลเป็นธรรมดา ….
     
     
     
    “อยากกินอะไรก็ได้ ทำให้กินหน่อย”
    “งั้นรอแปปนะ เดี๋ยวทำขึ้นมาให้” ฮีชอลปล่อยผมให้เป็นอิสระ
    ผมรีบวิ่งไปจัดแจงทำอาหารขึ้นมาให้ฮีชอล
     
     
    “มาแล้ว มาแล้ว” ผมร้องออกมา ถือชามข้าวต้มอย่างระมัดระวัง
     
    “ข้าวต้มอีกแล้วหรอ” อีชอลมองอาหารที่ผมเอามาวาง ก่นอจะเบ้หน้าหนี
    “ฮีชอล ไม่อยากกินข้าวต้มหรอ” ร็สึกแป๊วไงชอบกล
     
     
    “อืม เบื่ออ่ะ” ฮีชอลเอนตัวนอนต่อ
    “งั้นเดี๋ยวฉันไปทำมาใหม่ ให้แล้วกัน” ผมบอกเสียงอ่อย 
    ถือชามข้าวต้ม ที่คนกินยังไม่ทันแตะถูกช้อนด้วยซ้ำ….
     
     
    “ฮีชอล มาแล้วว” ผมถือถาดอาหารขึ้นมา เป็นอาหรอย่างง่ายๆ
    “ง่า ไม่อยากกินอ่าเลียน” ฮีชอลเบ้หน้าอีกครั้ง
     
     
    “หรอ แล้วฮีชอลอยากกินอะไรอ่ะ” ผมถามเสียงอ่อย 
    ยอมรับ ว่าผิดหวังเล็กๆ
     
    “อยากกินข้าวผัด” ฮีชอลยิ้มให้ผม ผมก็เผลอยิ้มตามไปด้วย
     
     
    ผมถือถาดอาหารลงไป แล้วก็จัดแจง ทำอาหารมาให้ฮีชอลมาใหม่
    “เสร็จแล้ว หิวรึยัง” ผมถือถาดอาหารเข้าไป เห็นฮีชอล ยืนแต่งตัวอยู่
     
    “ขอบใจมากนะ”   ฮีชอลยังง่วนอยู่กับการแต่งตัว
    “แต่ฮีชอลจะไปไหนหรอ”
    “ไปข้างนอกน่ะ นัดเพื่อนไว้” ฮีชอลหยิกุญแจรถ กำลังจะเดินออกไป
     
     
    “เดี๋ยวฮีชอลไม่กินข้าวหรอ” ผมถาม
    “ไม่อ่ะ ขอบใจมากนะ เดี๋ยวฉันไปกินข้างนอก”
     
    พูดจบฮีชอลก็เดินออกไปทันที
     
     
    ทิ้งผมไว้กับจานข้าวผัด ที่ผมทำขึ้นมาเพราะฮีชอลอยากกิน 
     
     
    ผมน้ำตาคลอ ก่นอจะสะบัดหัวไล่ความคิดโง่ออกไป
    น้อยใจทำไมหล่ะ…. ก็ในเมื่อฐานะของผมเป็นแค่ลูกหมาเอง
     
    ตอนนี้ผมคงเป็นลูกหมาตกกระป๋อง ใช่มั๊ยฮะ
    ลูกหมาก็ต้องรับใช้เจ้านายอย่างซื่อสัตย์ ถึงตอนนี้ลูกหมาก็ต้องเฝ้าบ้านให้เจ้านาย
     
     
    ….ไม่ถูกหรอ….
     
     
    ตอนเย็น
    ผมรีบทำอาหาร จัดโต๊ะให้เรียบร้อย รอฮีชอลกลับมา จะได้กินพร้อมกัน
     
     
    18.30 น.   ฮีชอลยังไม่กลับมา ผมเลยนั่งรอที่โต๊ะอาหาร
     
    19.00 น.    ฮีชอลก็ยังไม่กลับมา ผมเดินไปนั่งดูโทรทัศน์ที่โซฟา
     
    20.00 น.    ผมเอนตัวลงนอน ท้องเริ่มหิว ผมลุกขึ้นอาบน้ำ แล้วลงมารอฮีชอลใหม่
     
    20.20 น.     ผมเอากับข้าวไปเก็บก่อน รอฮีชอลกลับมา แล้วค่อยมาอุ่นใหม่
     
    21.00 น.     ผมเปลี่ยนทีวีดูทุกช่อง ท้องก็หิวมากแล้ว เมื่อเช้าก็กินไปนิดเดียว กลางวันก็ไม่ได้กิน
     
    22.30 น.     ผมเอนตัวลงนอนไม่รู้ว่าหลับไปตอนไหน
     
     
     
    “อีทึก “ เสียงของฮีชอลดังขึ้น ผมรีบลุกขึ้นมา “ทำไมมานอนตรงนี้หลาะฮะ ลูกหมา” 
    ฮีชอลนั่งลงข้างๆ ผมอย่างอารมณ์ดี
     
     
    “กินข้าวมารึยัง”
    “กินมาแล้ว อีทึกกินข้าวรึยัง” ฮีชอลโอบผมไว้หลวมๆ
     
     
    “ยังเลย” ผมส่ายหน้า
    “ทำไมไม่กินฮะ ไอ้ลูกหมา ไดเอ็ทรึไง” 
    ฮีชอลยิ้มขำๆ   ผมเลยคลี่ยิ้มออกมาด้วย
     
     
    “ป่าว สักหน่อย   รอฮีชอล”
    “รอทำไม วันหลังไม่ต้องรอนะ รีบไปกินข้าวซะ ฉันไปนอนแล้ว”
    ว่าแล้วฮีชอลก็หันมาหอมแก้มผมทีนึง แล้วเดินขึ้นห้องไป 
     
     
    แต่ผมก็ไม่มีอารมณ์กินแล้วหล่ะ
    ผมเหลือบไปมองนาฬิกา 
     
    - ตี 2 -
     
    แต่ก็ว่าไม่ได้ เมื่อกี้ตัวฮีชอลมีกลิ่นเหล้ากับบุหรี่ด้วย
     
     
     
    กับฮีชอลแล้วผมไม่ดีจริงๆ ทั้งๆที่เราอายูเท่ากัน แต่ผมต้องคอยขอความช่วยเหลือ
    จากฮีชอลแทบทุกเรื่อง ฮีชอลเก่งกว่าผมมาก ในขณะที่ผมยังทำอะไรไม่เป็น
     
    เพราะงั้นฮีชอลก็เหมือน ….ฮีโร่ของผมคนนึง….
     
     
    ผมขึ้นไปนอน โดยปล่อยให้ท้องหิว ผมไม่อยากกินมันด้วยซ้ำ ผมเอนตัวลงนอน
    อย่างเหนื่อยล้า ถึงผมจะรักฮีชอลแค่ไหน ผมก็ยังอยู่แค่ ในฐานะ
     
    …ลูกหมาเท่านั้น….


    ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


    บอกด้วยๆ
    สนุกรึป่าว  เวลาอัพแล้วมันไม่มั่นใจ

    5555

    กลัวไม่ชอบ


    ขอคอมเม้นด้วยนะคะ
    ^U^

    5 พอแล้วค่ะ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×