ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 2 เคราะห์ซ้ำกรรมซัด
ตอนที่ 2 เคราะห์ซ้ำกรรมซัด
“ปิดเทอมนี้ไปไหนมาวะไอ้กร”
ผมเงยหน้าขึ้นจากโต๊ะอันเป็นแหล่งพักพิง เห็นไอ้เพื่อนตัวดีกำลังยิ้มหน้าแป้น อันที่จริงผลมองแค่หู ไม่ต้องมองหน้ามันก็รู้ครับว่าใคร ไอ้คนที่เจาะหูเรียงเป็นสิบนี่มีอยู่คนเดียวในชั้นนี้ นายพีรพล คู่ดูโอของผมเอง
ผมขมวดคิ้วจนหน้าผากยับย่น เพ่งมองเสื้อที่ปลดกระดุมออกเสียครึ่งอกของมันอย่างหมั่นไส้ “มาอ่อยฉันแบบนี้ แกเปลี่ยนรสนิยมตั้งแต่เมื่อ
ไหร่ ไอ้วิปริต”
“เฮ้ย ยังไม่ทันตอบแกก็ด่าฉันแล้วเหรอวะ มันร้อนตังหากเล่าโว้ย” พีพูดก่อนจะลากเก้าอี้มานั่ง “แต่ถ้าแกเป็นผู้หญิงมันก็ไม่แน่ หน้าอย่างแกฉันรับได้ว่ะ” พีส่งยิ้มทะเล้น
ไอ้เวรนี่ -*- มึงเป็นเกย์ก็บอกมา
เออ ผมลืมบอกไป ผมจะโทษไอ้พีมันก็ยังผิดไปหน่อย ถ้าจะโทษก็ต้องโทษผอ.ของเราน่ะครับ โรงเรียนที่ผมอยู่เป็นโรงเรียนเอกชนเปิดใหม่ ผอ.ของเราก็เป็นสาวเซี้ยวเปรี้ยวจี๊ดขนาดที่ว่าสาวๆสมัยนี้ต้องอายกันเลยทีเดียว เห็นว่าผอ.ของเราแกเก็บกดมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม พอแกเรียนจบมาเลยมาทำโรงเรียน แล้วปฏิรูปโรงเรียนเสียใหม่
ชุดนักเรียนของโรงเรียนเราเป็นแบบฝรั่งเต็มยศเลยครับ เสื้อเชิร์ตสีขาว มีเสื้อนอกสำหรับใช้ในวันที่มีพิธีการสำคัญ กางเกงลายสก๊อตสีน้ำเงิน เช่นเดียวกับลายเนคไท ส่วนผู้หญิงก็คล้ายๆกันเพียงแต่เปลี่ยนจากกางเกงเป็นกระโปรง กฎระเบียบของเราก็ไม่เคร่งครัดมาก ตราบใดที่ไม่ก่อเรื่องเดือดร้อนให้คนอื่น เล่นเป็นเล่น เรียนเป็นเรียน คุณก็สามารถอยู่ห่างจากฝ่ายปกครองได้อย่างสบายๆ
“เป็นไรวะ นั่งทำหน้าเครียด” เจ้าเพื่อนยากของผมเอ่ยถาม
“พักนี้ดวงไม่ค่อยดี -*- ” ผมตอบหน้าบูด ก่อนจะเริ่มสาธยายช่วงชีวิตในวันเปิดเทอมวันแรกให้ไอ้เพื่อนเกลอฟัง อาฮ้า คุณไม่ต้องทำหน้า
เสียดายขนาดนั้นเพราะผมก็จะบ่นให้คุณฟังด้วยแน่นอน - -+
ตื่นเช้ามามันก็ได้เรื่องเลยครับ วันนี้วันจันทร์ เวรผมทำอาหารเช้า ผมก็อาบน้ำแต่งตัวมาทอดไช่ดาว ปิ้งขนมปังตามปกติ แต่ไม่รู้ว่าไอ้ที่ปิ้งขนมปังมันเกิดเป็นอะไรขึ้นมา มันไม่ยอมกระเด้งขึ้น ไอ้ผมก็ไม่รู้ เพราะไปจัดโต๊ะอยู่ จนกระทั่งได้กลิ่นไหม้
นั่นแหล่ะครับ ขนมปังเพลิงมาเลย ต้องรีบเอาน้ำสาดโครม ลืมไปอีกว่าไอ้ที่ปิ้งมันยังเสียบปลั๊กอยู่ ดีน้ำไม่ไหลมาโดนผม ไม่งั้นผมคงม่องไปแล้ว = = ไม่ได้มาเล่าเรื่องราวของผมให้คุณผู้อ่านทั้งหลายฟังแบบนี้หรอก
ผมต้องเดินไปสับคัตเอาท์ ดึงปลั๊กออก ก่อนจะรีบเอามันใส่ถุงขยะซ่อนไว้อย่างดี ก่อนที่พี่ชายของผม... เอ๊ะ! คุณรู้หรือยังนะว่านอกจากมันจะโหดเหี้ยมแล้วเจ้าพี่ชายคนนี้ก็ยังเป็นพวกงกจัดจนทำนาเหลือขายได้ ถ้ามาเห็นว่าผมทำที่ปิ้งขนมปังพังผมคงถูกทำโทษจนตาย T^T
พอออกมาจากบ้านก็ได้เรื่องอีกรอบเลยครั้ง บ้านไหนไม่รู้ปล่อยไอ้เจ้าโดเวอร์แมน ไอ้หมานักฆ่าออกมาเดินเล่น มันวิ่งไล่ผมจนผมต้องวิ่งหนีหัวซุกหัวซุน พอพ้นจากการถูกล่าสังหารแล้วก็ดันก้าวตกท่อ ต้องเดินกลับมาเปลี่ยนกางเกงที่บ้าน กว่าจะมาถึงโรงเรียนก็เล่นเอาสาย โดนอาจารย์ฝ่ายปกครองสั่งให้วิ่งรอบสนามเสียอีก TT^TT
“ควรไปสะเดาะเคราะห์” ไอ้พีพยักหน้าหงึกหงักเห็นด้วย ก่อนจะนิ่งไป หลับตา ทำท่าขึงขัง เหมือนกำลังเป็นแม่หมอ แต่ผมกลับเห็นว่าท่าทางแบบนั้น มือสั่นพับๆเหมือนคนกำลังเป็นโรคชักกระตุกเสียมากกว่า - - แต่ช่างเถอะครับ ปล่อยให้มันเล่นไป ผมไม่อยากทำร้ายจิตใจดวงน้อยๆของเจ้าเพื่อนไม่เต็มเต็ง
“ข้ามองเห็น โอ้...” เสียงแหบต่ำสั่นสะท้านไม่แพ้ มือมันเลย “เห็นแล้ว... เงามืด... เงามืดกำลังวนเวียนอยู่รอบตัว... โอ....เจ้ากำลังถูกวิญญาณจองล้างจองผลาญ.... โอ..โอ..โอ้!!!”
เสียงเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆจนคนทั้งห้องหันมามองกันเป็นตาเดียว ผมส่งมะเหงกใส่หัวพ่อหมอไข้จับสั่นของเรา โทษฐานที่มันบ้าคนเดียวไม่พอแต่ดันลากผมเข้าไปด้วย -*- เสียสถาบันชายงามหมด
“ไอ้วิปริต -*- “
“เฮ้ย แกบังอาจมาก ฉันสืบเชื้อสายมาจากคนทรงเจ้าเชียวนะโว้ย!” มันลุกขึ้น ทุบโต๊ะ ทำเสียงเอะอะเหมือนโดนคนสบประมาท ผมเลยลุกขึ้นส่งผัวะเข้าที่หัวของมันไปเสียหนึ่งที คนยิ่งอารมณ์ไม่ดีอยู่ -*-
“แล้วแกจะรู้สึก T^T”
“เออ - -“ ผมตอบอย่างไร้อารมณ์ ตั้งท่าจะล้มตัวลงนั่ง กลับไปนอนฟุบโต๊ะเหมือนอย่างเก่า ถ้าเสียงใสๆดุจนางฟ้านางสวรรค์นั่นไม่เรียกผมไว้เสียก่อนนะครับ
“กร”
“มาย...”
ผู้หญิงร่างสูงหุ่นนางแบบตรงนั้นล่ะครับที่ชื่อมาย คุณมองไม่ผิดหรอก ถ้ามันมีตำแหน่งดาวโรงเรียนแล้วละทั้งโรงเรียนคงจะเทคะแนนให้เธอ เพราะเลือดอเมริกันครึ่งหนึ่งของเธอนั้นทำให้ดวงตาของเธอมีสีฟ้าอ่อน ผมของเธอของเธอก็เหยียดตรงเงางาม เธอคือมาย... มายเลิร์ฟ มาย
ฮาร์ท มายเดียร์ มายฮันนี่ ของผมเอง! >w<
เราเป็นคู่ที่เหมาะสมกันจริงไหมครับท่านผู้ชม -///-
“กรว่างมั้ย?” เธอถาม ด้วยเสียงไพเราะเสนาะหู >_<
“ว่างจ้ะ ว่าง ^o^” ผมตอบ เห็นไอ้พีกำลังบีบคอตัวเองทำท่าเหมือนถ้าได้ยินผมพูดมากกว่านี้อีกนิดจะขาดใจตาย -*-
“โอ้ย!”
เท้าข้างหนึ่งของผมเหยียบเท้าเพื่อนรักเสียจมดิน ก่อนจะเดินตามคนงามของผมไป
สายลมพัดผ่านเส้นผมของเธอปลิวไสว ใบหน้าของเธอหมองเศร้าภายใต้เงาไม้ ดวงตาคู่กลมนั้นจ้องมาที่ผม ดอกชมพูพันทิพย์ร่วงหล่นลงมาไม่ขาดสาย
“กร...” เสียงเธอเอ่ยแผ่วเบา หยาดน้ำใสที่คลอหน่วยเริ่มไหลรินสองข้างแก้ม “มายทนไม่ไหวแล้วนะ”
“มาย...” ผมงุนงง พยายามจะเดินเข้าไปหาเพื่อซับหยาดน้ำตาให้เธอ แต่เธอกลับร้องห้าม
“ไม่... ไม่ต้องเข้ามาใกล้มาย มายไม่อยากถูกคนเจ้าชู้อย่างกรหลอกอีกแล้ว กรคิดว่ามายไม่รู้เหรอ เรื่องของกรกับแม่นั่น!” เธอสะอื้นไห้
“แม่นั่น?” ผมทวนงงๆ
เธอตวัดสายตาฉับ “ไงล่ะ เยอะมากจนจำไม่ได้เลยใช่มั้ย ยัยคนที่ชื่อพลอย คนที่ส่งจดหมายรักให้กรเมื่อเช้านั่นไง”
ผมนึกตาม แล้วก็ครางเบาๆ เมื่อหญิงสาวนางนั้นที่มายว่าคือพลอย หัวหน้าห้องผม แล้วไอ้จดหมายที่พลอยว่ามันก็ไม่ใช่จดหมายรักเสียด้วย แต่เป็นจดหมายเรียนผู้ปกครองต่างหากเล่า ทุกๆคนในโรงเรียนก็ต้องได้เหมือนกันหมด แต่มายดันมาคิดว่าเป็นจดหมายรักเสียนี่ แม่เจ้าพระคุณทูนหัวของผม = =“
“มาย มันไม่ใช่อย่างที่มายคิดนะ” ผมหัวเราะ ส่งยิ้มให้เธอ แล้วจึงเดินเข้าไปหา
“ไม่! มายไม่เชื่อ พอทีกับรอยยิ้มหลอกลวง!!!”
แล้วเธอสะบัดตัว หันหลังขวับ วิ่งจากไปซะอย่างนั้น ทิ้งให้ผมยืนอึ้งอยู่คนเดียว มีดอกไม้สีชมพูโปรยปราย คุณคงจะคิดว่านี่เป็นละครน้ำเน่ายามค่ำล่ะสิใช่มั้ย ถ้าเป็นได้ก็ดีสิครับ นี่หมายความว่า... นี่หมายความว่าผมอกหักแล้วใช่มั้ย... T-T
TTTT^TTTT หลอกให้รัก แล้วหักอกดังเป๊าะ...
โอย... หัวใจผมเจ็บช้ำ มายคนที่ผมคิดว่าเป็นคู่ที่ฟ้าประทานมา เหมือนอดัมกับเอวา เหมือนมนุษย์คู่แรกที่ถูกปั้นมาคู่กันมา เหมือนกิ่งทองกับใบหยก เหมือนดอกฟ้ากับผึ้งสวรรค์... ผมอุตส่าห์คิดจะเป็นคนดีของสังคม จะเลิกแล้วความเจ้าชู้ แล้วดูสิครับ ดูสิ เธอมาหักอกคนหล่ออย่างผมเสียได้ ToT
เสียงระฆังบอกเวลาเรียน แต่ไม่ครับ ผมไม่สนใจ ในใจของผมตอนนี้รวดร้าว ผมคงต้องไปห้องพยาบาล หายารักษาใจซะแล้วสิ TT-TT
ผมนอนกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่ในห้องพยาบาลตั้งแต่เช้ายันเย็น ต้องเดินกลับบ้านพร้อมหัวใจที่แตกเป็นผุยผงของผม มีพระอาทิตย์สีส้มอมชมพูเป็นฉากหลัง แล้ว...
“นายรัชนิกร...” น้ำเสียงเย็นเยียบดังขึ้นพร้อมกับมือเย็นๆที่คว้าไหล่ผมไว้ น้ำเสียงคุ้นหูนั้นทำให้ผมรู้สึกลำคอแห้งผาก เห็นแค่ประกายจากแว่นตานั้นก็รู้แล้วครับว่าใคร เสื้อทำแล็บนั่นอีก ผมเสร็จแน่... ผมเสร็จแน่!
“แกบังอาจขาดคาบเรียนวิชาฉันตั้งแต่วันแรก แกโดนทำโทษ!”
ม่ายยยย!!! 
“แกจะต้องทำความสะอาดห้องแล็บตั้งแต่เย็นวันนี้เป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์ เข้าใจใช่มั้ย!!!”
อ้ากกกกกกก!!!
.................................................
“ปิดเทอมนี้ไปไหนมาวะไอ้กร”
ผมเงยหน้าขึ้นจากโต๊ะอันเป็นแหล่งพักพิง เห็นไอ้เพื่อนตัวดีกำลังยิ้มหน้าแป้น อันที่จริงผลมองแค่หู ไม่ต้องมองหน้ามันก็รู้ครับว่าใคร ไอ้คนที่เจาะหูเรียงเป็นสิบนี่มีอยู่คนเดียวในชั้นนี้ นายพีรพล คู่ดูโอของผมเอง
ผมขมวดคิ้วจนหน้าผากยับย่น เพ่งมองเสื้อที่ปลดกระดุมออกเสียครึ่งอกของมันอย่างหมั่นไส้ “มาอ่อยฉันแบบนี้ แกเปลี่ยนรสนิยมตั้งแต่เมื่อ
ไหร่ ไอ้วิปริต”
“เฮ้ย ยังไม่ทันตอบแกก็ด่าฉันแล้วเหรอวะ มันร้อนตังหากเล่าโว้ย” พีพูดก่อนจะลากเก้าอี้มานั่ง “แต่ถ้าแกเป็นผู้หญิงมันก็ไม่แน่ หน้าอย่างแกฉันรับได้ว่ะ” พีส่งยิ้มทะเล้น
ไอ้เวรนี่ -*- มึงเป็นเกย์ก็บอกมา
เออ ผมลืมบอกไป ผมจะโทษไอ้พีมันก็ยังผิดไปหน่อย ถ้าจะโทษก็ต้องโทษผอ.ของเราน่ะครับ โรงเรียนที่ผมอยู่เป็นโรงเรียนเอกชนเปิดใหม่ ผอ.ของเราก็เป็นสาวเซี้ยวเปรี้ยวจี๊ดขนาดที่ว่าสาวๆสมัยนี้ต้องอายกันเลยทีเดียว เห็นว่าผอ.ของเราแกเก็บกดมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม พอแกเรียนจบมาเลยมาทำโรงเรียน แล้วปฏิรูปโรงเรียนเสียใหม่
ชุดนักเรียนของโรงเรียนเราเป็นแบบฝรั่งเต็มยศเลยครับ เสื้อเชิร์ตสีขาว มีเสื้อนอกสำหรับใช้ในวันที่มีพิธีการสำคัญ กางเกงลายสก๊อตสีน้ำเงิน เช่นเดียวกับลายเนคไท ส่วนผู้หญิงก็คล้ายๆกันเพียงแต่เปลี่ยนจากกางเกงเป็นกระโปรง กฎระเบียบของเราก็ไม่เคร่งครัดมาก ตราบใดที่ไม่ก่อเรื่องเดือดร้อนให้คนอื่น เล่นเป็นเล่น เรียนเป็นเรียน คุณก็สามารถอยู่ห่างจากฝ่ายปกครองได้อย่างสบายๆ
“เป็นไรวะ นั่งทำหน้าเครียด” เจ้าเพื่อนยากของผมเอ่ยถาม
“พักนี้ดวงไม่ค่อยดี -*- ” ผมตอบหน้าบูด ก่อนจะเริ่มสาธยายช่วงชีวิตในวันเปิดเทอมวันแรกให้ไอ้เพื่อนเกลอฟัง อาฮ้า คุณไม่ต้องทำหน้า
เสียดายขนาดนั้นเพราะผมก็จะบ่นให้คุณฟังด้วยแน่นอน - -+
ตื่นเช้ามามันก็ได้เรื่องเลยครับ วันนี้วันจันทร์ เวรผมทำอาหารเช้า ผมก็อาบน้ำแต่งตัวมาทอดไช่ดาว ปิ้งขนมปังตามปกติ แต่ไม่รู้ว่าไอ้ที่ปิ้งขนมปังมันเกิดเป็นอะไรขึ้นมา มันไม่ยอมกระเด้งขึ้น ไอ้ผมก็ไม่รู้ เพราะไปจัดโต๊ะอยู่ จนกระทั่งได้กลิ่นไหม้
นั่นแหล่ะครับ ขนมปังเพลิงมาเลย ต้องรีบเอาน้ำสาดโครม ลืมไปอีกว่าไอ้ที่ปิ้งมันยังเสียบปลั๊กอยู่ ดีน้ำไม่ไหลมาโดนผม ไม่งั้นผมคงม่องไปแล้ว = = ไม่ได้มาเล่าเรื่องราวของผมให้คุณผู้อ่านทั้งหลายฟังแบบนี้หรอก
ผมต้องเดินไปสับคัตเอาท์ ดึงปลั๊กออก ก่อนจะรีบเอามันใส่ถุงขยะซ่อนไว้อย่างดี ก่อนที่พี่ชายของผม... เอ๊ะ! คุณรู้หรือยังนะว่านอกจากมันจะโหดเหี้ยมแล้วเจ้าพี่ชายคนนี้ก็ยังเป็นพวกงกจัดจนทำนาเหลือขายได้ ถ้ามาเห็นว่าผมทำที่ปิ้งขนมปังพังผมคงถูกทำโทษจนตาย T^T
พอออกมาจากบ้านก็ได้เรื่องอีกรอบเลยครั้ง บ้านไหนไม่รู้ปล่อยไอ้เจ้าโดเวอร์แมน ไอ้หมานักฆ่าออกมาเดินเล่น มันวิ่งไล่ผมจนผมต้องวิ่งหนีหัวซุกหัวซุน พอพ้นจากการถูกล่าสังหารแล้วก็ดันก้าวตกท่อ ต้องเดินกลับมาเปลี่ยนกางเกงที่บ้าน กว่าจะมาถึงโรงเรียนก็เล่นเอาสาย โดนอาจารย์ฝ่ายปกครองสั่งให้วิ่งรอบสนามเสียอีก TT^TT
“ควรไปสะเดาะเคราะห์” ไอ้พีพยักหน้าหงึกหงักเห็นด้วย ก่อนจะนิ่งไป หลับตา ทำท่าขึงขัง เหมือนกำลังเป็นแม่หมอ แต่ผมกลับเห็นว่าท่าทางแบบนั้น มือสั่นพับๆเหมือนคนกำลังเป็นโรคชักกระตุกเสียมากกว่า - - แต่ช่างเถอะครับ ปล่อยให้มันเล่นไป ผมไม่อยากทำร้ายจิตใจดวงน้อยๆของเจ้าเพื่อนไม่เต็มเต็ง
“ข้ามองเห็น โอ้...” เสียงแหบต่ำสั่นสะท้านไม่แพ้ มือมันเลย “เห็นแล้ว... เงามืด... เงามืดกำลังวนเวียนอยู่รอบตัว... โอ....เจ้ากำลังถูกวิญญาณจองล้างจองผลาญ.... โอ..โอ..โอ้!!!”
เสียงเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆจนคนทั้งห้องหันมามองกันเป็นตาเดียว ผมส่งมะเหงกใส่หัวพ่อหมอไข้จับสั่นของเรา โทษฐานที่มันบ้าคนเดียวไม่พอแต่ดันลากผมเข้าไปด้วย -*- เสียสถาบันชายงามหมด
“ไอ้วิปริต -*- “
“เฮ้ย แกบังอาจมาก ฉันสืบเชื้อสายมาจากคนทรงเจ้าเชียวนะโว้ย!” มันลุกขึ้น ทุบโต๊ะ ทำเสียงเอะอะเหมือนโดนคนสบประมาท ผมเลยลุกขึ้นส่งผัวะเข้าที่หัวของมันไปเสียหนึ่งที คนยิ่งอารมณ์ไม่ดีอยู่ -*-
“แล้วแกจะรู้สึก T^T”
“เออ - -“ ผมตอบอย่างไร้อารมณ์ ตั้งท่าจะล้มตัวลงนั่ง กลับไปนอนฟุบโต๊ะเหมือนอย่างเก่า ถ้าเสียงใสๆดุจนางฟ้านางสวรรค์นั่นไม่เรียกผมไว้เสียก่อนนะครับ
“กร”
“มาย...”
ผู้หญิงร่างสูงหุ่นนางแบบตรงนั้นล่ะครับที่ชื่อมาย คุณมองไม่ผิดหรอก ถ้ามันมีตำแหน่งดาวโรงเรียนแล้วละทั้งโรงเรียนคงจะเทคะแนนให้เธอ เพราะเลือดอเมริกันครึ่งหนึ่งของเธอนั้นทำให้ดวงตาของเธอมีสีฟ้าอ่อน ผมของเธอของเธอก็เหยียดตรงเงางาม เธอคือมาย... มายเลิร์ฟ มาย
ฮาร์ท มายเดียร์ มายฮันนี่ ของผมเอง! >w<
เราเป็นคู่ที่เหมาะสมกันจริงไหมครับท่านผู้ชม -///-
“กรว่างมั้ย?” เธอถาม ด้วยเสียงไพเราะเสนาะหู >_<
“ว่างจ้ะ ว่าง ^o^” ผมตอบ เห็นไอ้พีกำลังบีบคอตัวเองทำท่าเหมือนถ้าได้ยินผมพูดมากกว่านี้อีกนิดจะขาดใจตาย -*-
“โอ้ย!”
เท้าข้างหนึ่งของผมเหยียบเท้าเพื่อนรักเสียจมดิน ก่อนจะเดินตามคนงามของผมไป
สายลมพัดผ่านเส้นผมของเธอปลิวไสว ใบหน้าของเธอหมองเศร้าภายใต้เงาไม้ ดวงตาคู่กลมนั้นจ้องมาที่ผม ดอกชมพูพันทิพย์ร่วงหล่นลงมาไม่ขาดสาย
“กร...” เสียงเธอเอ่ยแผ่วเบา หยาดน้ำใสที่คลอหน่วยเริ่มไหลรินสองข้างแก้ม “มายทนไม่ไหวแล้วนะ”
“มาย...” ผมงุนงง พยายามจะเดินเข้าไปหาเพื่อซับหยาดน้ำตาให้เธอ แต่เธอกลับร้องห้าม
“ไม่... ไม่ต้องเข้ามาใกล้มาย มายไม่อยากถูกคนเจ้าชู้อย่างกรหลอกอีกแล้ว กรคิดว่ามายไม่รู้เหรอ เรื่องของกรกับแม่นั่น!” เธอสะอื้นไห้
“แม่นั่น?” ผมทวนงงๆ
เธอตวัดสายตาฉับ “ไงล่ะ เยอะมากจนจำไม่ได้เลยใช่มั้ย ยัยคนที่ชื่อพลอย คนที่ส่งจดหมายรักให้กรเมื่อเช้านั่นไง”
ผมนึกตาม แล้วก็ครางเบาๆ เมื่อหญิงสาวนางนั้นที่มายว่าคือพลอย หัวหน้าห้องผม แล้วไอ้จดหมายที่พลอยว่ามันก็ไม่ใช่จดหมายรักเสียด้วย แต่เป็นจดหมายเรียนผู้ปกครองต่างหากเล่า ทุกๆคนในโรงเรียนก็ต้องได้เหมือนกันหมด แต่มายดันมาคิดว่าเป็นจดหมายรักเสียนี่ แม่เจ้าพระคุณทูนหัวของผม = =“
“มาย มันไม่ใช่อย่างที่มายคิดนะ” ผมหัวเราะ ส่งยิ้มให้เธอ แล้วจึงเดินเข้าไปหา
“ไม่! มายไม่เชื่อ พอทีกับรอยยิ้มหลอกลวง!!!”
แล้วเธอสะบัดตัว หันหลังขวับ วิ่งจากไปซะอย่างนั้น ทิ้งให้ผมยืนอึ้งอยู่คนเดียว มีดอกไม้สีชมพูโปรยปราย คุณคงจะคิดว่านี่เป็นละครน้ำเน่ายามค่ำล่ะสิใช่มั้ย ถ้าเป็นได้ก็ดีสิครับ นี่หมายความว่า... นี่หมายความว่าผมอกหักแล้วใช่มั้ย... T-T
TTTT^TTTT หลอกให้รัก แล้วหักอกดังเป๊าะ...
โอย... หัวใจผมเจ็บช้ำ มายคนที่ผมคิดว่าเป็นคู่ที่ฟ้าประทานมา เหมือนอดัมกับเอวา เหมือนมนุษย์คู่แรกที่ถูกปั้นมาคู่กันมา เหมือนกิ่งทองกับใบหยก เหมือนดอกฟ้ากับผึ้งสวรรค์... ผมอุตส่าห์คิดจะเป็นคนดีของสังคม จะเลิกแล้วความเจ้าชู้ แล้วดูสิครับ ดูสิ เธอมาหักอกคนหล่ออย่างผมเสียได้ ToT
เสียงระฆังบอกเวลาเรียน แต่ไม่ครับ ผมไม่สนใจ ในใจของผมตอนนี้รวดร้าว ผมคงต้องไปห้องพยาบาล หายารักษาใจซะแล้วสิ TT-TT
ผมนอนกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่ในห้องพยาบาลตั้งแต่เช้ายันเย็น ต้องเดินกลับบ้านพร้อมหัวใจที่แตกเป็นผุยผงของผม มีพระอาทิตย์สีส้มอมชมพูเป็นฉากหลัง แล้ว...
“นายรัชนิกร...” น้ำเสียงเย็นเยียบดังขึ้นพร้อมกับมือเย็นๆที่คว้าไหล่ผมไว้ น้ำเสียงคุ้นหูนั้นทำให้ผมรู้สึกลำคอแห้งผาก เห็นแค่ประกายจากแว่นตานั้นก็รู้แล้วครับว่าใคร เสื้อทำแล็บนั่นอีก ผมเสร็จแน่... ผมเสร็จแน่!
“แกบังอาจขาดคาบเรียนวิชาฉันตั้งแต่วันแรก แกโดนทำโทษ!”
ม่ายยยย!!! 
“แกจะต้องทำความสะอาดห้องแล็บตั้งแต่เย็นวันนี้เป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์ เข้าใจใช่มั้ย!!!”
อ้ากกกกกกก!!!
.................................................
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น