ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 3
เพื่อเพิ่มอารมณ์ในการอ่านให้ฟังเพลง (อย่าปล่อยให้คนๆนึ่งคืดถึงเธอ ของ เต้น)
'ให้กลับไปเป็นเพื่อนกันไม่ได้อีกแล้ว ฉันหนีความจริงเท่าไรก็ตาม.......'
เสียงเพลงรอสายของใครคนหนึ่ง ทำให้คนที่โทรไปแทบจะกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่
'ฉันก็ไม่อยากเป็นแค่เพื่อนของเธออีกแล้ว แต่มันก็สายเกินไป'
"ว่าไงสิก้า"
"ฮัลโหล...ฟานี่..มาหาสิก้าหน่อยได้มั้ย" เจสสิก้าพยายามไม่ร้องไห้
"เออ" น้ำเสียงของทิฟฟานี่ที่แสดงถึงความหนักใจที่จะมาหาเธอ
"นะ..ฟานี่...สิก้าเหงา..มาอยู่เป็นเพื่อนสิก้าหน่อยนะ" เมื่อเจอน้ำเสียงที่แสดงถึงความหนักใจของทิฟฟานี่
เจสสิก้าถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ร้องไห้เพื่อขอให้ทิฟฟานี่มาหาเธอ
"อย่าเลยสิก้า...ฟานี่ยังไม่พร้อมที่จะเจอสิก้าตอนนี้...ขอโทษนะ" ทิฟฟานี่ปฎิเศษทั้งๆที่ในใจของเธอก็อยากเจอเจสสิก้า
'ฟานี่อยากไปหาสิก้านะ...แต่ตอนนี้ฟานี่ยังไม่พร้อม..ฟานี่ขอโทษนะ'
"อึก..ไม่เป็นไรฟานี่..สิก้าเข้าใจ"
"สิก้าไม่เป็นไรนะ" ทิฟฟานี่ถามด้วยความเป็นห่วง
"อืม..ไม่เป็นไร...คิดถึงนะ..ขอโทษนะที่รบกวน" ทันทีที่เจสสิก้าพูดจบก็ตัดสายทันที
"ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด"
"ฟานี่ก็คิดถึงสิก้านะ..คิดถึงมากๆ" ถ้าเจสสิก้าได้ยินเธอคงจะดีใจไม่น้อย
'ใครบอกว่าไม่เป็นไรละฟานี่..สิก้าคิดถึงฟานี่นะ...คิดถึงมากๆเลย
สิก้าไม่อยากอยู่คนเดียว สิก้าเหงา...สิก้าเหงาจังเลยฟานี่'
รู้ว่าขอบ่อย บ่อยจนเกินเข้าใจ
อยู่นานนานได้ไหม มาหากันบ้างสิ ฮืม…
ทั้งที่รู้อยู่ ว่ามันดูไม่ดี แต่ความเหงาชนะทุกที
อยากให้เธอเข้าใจ
หลังจากที่วางสายจากทิฟฟานี่เธอก็นั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยระหว่างเธอกับทิฟฟานี่
'ทำไมนะ..พอฉันรู้ตัวว่าฉันรักเธอ ทำไมฉันถึงกลัวไปทุกๆอย่าง
กลัว ที่จะบอกเธอว่าฉันรักเธอ กลัว เรื่องระหว่างเธอกับเค้ามันจะเป็นความจริง
ถึงแม้ตอนนั้นฉันจะเห็นเธอยิ้มเค้า..รอยยิ้มที่เคยเป็นของฉัน
แต่ฉันก็ยังคิดหวัง หวังว่าเธอกับเค้าไม่ได้รักกัน ถึงแม้มันจะเป็นความหวังเพียงน้อยนิดก็ตาม
แต่มันก็ยังดีกว่าไม่มีหวังเลย...จริงมั้ย....แล้วถ้าฉันจะยังหวังต่อไป
มันคงไม่ผิดใช่มั้ย'
กลัวทุกอย่าง หวาด ระแวงมันไปทุกอย่าง
เธอยิ่งห่าง… ยิ่งโหดร้าย
'จะส่งไปดีมั้ยนะ' ทิฟฟานี่คิดในมือเธอก็ถือโทรศัพท์มือถือไว้
หลังจากที่เธอลังเลอยู่นาน ในที่สุดเธอก็ตัดสินใจส่งไป
เพราะว่าเธอรู้ เธอรู้ดีว่าเจสสิก้าไม่ชอบทานอาหารคนเดียว
เจสสิก้าขี้กลัว เกลียดความมึด และไม่ชอบการอยู่คนเดียว
"ติ๊ด ติ๊ด"
คุณมีหนึ่งข้อความใหม่
เสียงข้อความเข้าทำให้เจสสิก้าหลุดออกจากผะวัง
เจสสิก้าคิดอะไรไปเรื่อยเปือยจนไม่รู้ว่าตอนนี้ฟ้าเริ่มมึดแล้ว
เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่ออ่านข้อความ
"ขอโทษนะที่ไม่ได้ไปหา อย่าลืมทานข้าวด้วยละ ฟานี่"
เพราะว่าทิฟฟานี่รู้จักเธอดี จึงส่งข้อความมาให้
เธอจึงเข้าครัวเพื่อหาอะไรกิน ทั้งๆที่เธอก็ไม่ได้หิวอะไรมากมาย
ถึงเธอหิวเธอก็ไม่อยากกิน เธอไม่ชอบการที่ต้องทานอาหารคนเดียว
มีเหตุผลเดียวที่ตอนนี้ทำให้เธอยอมทนทานอาหารเพียงคนเดียว
เพราะข้อความของทิฟฟานี่
หลังจากที่เจสสิก้าทานอาหารเสร็จเธอจึงเดินออกมาตรงระเบียง
เพื่อมองดูดาว แต่วันนี้ท้องฟ้ากลับปิด
'ทำไมวันนี้ท้องฟ้าถึงได้มึดมนแบบนี้นะ คงเหมือนกับใจของฉันตอนนี้
ไม่ว่าจะมองไปทางไหน ฉันก็ไม่สามารถหาทางออกได้'
เจสสิก้าคิดพร้อมกับมองไปยังท้องฟ้าอย่างเลื่อนรอย
แต่แล้วเจสสิก้ากลับยิ้มออกมาเมื่อมองไปเห็นดาวดวงหนึ่งที่เปล่งแสงริบหรี่
ถึงมันจะเป็นเพียงแค่แสงที่ริบหรี่ แต่มันก็ยังดีกว่าไม่มีแสงไม่ใช่หรอ
ท่ามกลางความมึดมนของท้องฟ้า....ยังมีแสงสว่างจากดวงดาว
ท่ามกลางความหวังอันเลือนราง...ก็ยังมีความหวังเหลืออยู่...จริงมั้ย
จริงสินะ..ถึงแม้ท้องฟ้าจะมึดมนขนาดไหน..ก็ยังมีโอกาสที่จะมองเห็นแสงของดวงดาว
แม้ว่าแสงนั้นจะริบหรี่เพียงใด...ยังไงมันก็คือแสงสว่าง
มันก็คงเหมือนฉันกับเธอ
ถึงแม้ว่าตอนนี้ฉันจะมองไม่เห็นความหวังที่เราจะได้รักกัน
ถึงแม้ว่าภาพของเธอกับเค้าจะคอยตอกย้ำฉันเท่าไร่
ถึงแม้ว่าโอกาสที่เธอจะกลับมาหาฉันแทบมองไม่เห็น
ถึงแม้สิ่งเหล่านั้นมันจะฟ้องว่าเธอไม่รักกัน
แต่ฉันก็ยังคงหวัง
หวังให้เธอกลับมาหาฉันอีกครั้ง
หวังให้เธอรักฉัน
หวังให้เธอมีแค่ฉัน
ถึงแม้มันจะเป็นความหวังที่ไม่มีทางเป็นไปได้ฉันก็จะหวัง
แสงที่ริบหรี่...ยังไงก็คือแสง
ความหวังที่ริบหรี่...ยังไงก็คือความหวัง....จริงมั้ย
อย่าปล่อยให้คนคนนึงคิดถึงเธอ
รอคอยจนเพ้อจนเหนื่อยจะขาดใจ ฮา…
อยู่กับคำว่าเหงา ฮา…
ฉันกลัวเงาแห่งความหวั่นไหว ได้ยินแต่เสียงหัวใจ
มันตะโกนใส่ร้ายว่าเธอ… ไม่รักกัน
.......................................................
ตอนนี้สั้นไปหน่อยไม่ว่ากันน่ะ
'ให้กลับไปเป็นเพื่อนกันไม่ได้อีกแล้ว ฉันหนีความจริงเท่าไรก็ตาม.......'
เสียงเพลงรอสายของใครคนหนึ่ง ทำให้คนที่โทรไปแทบจะกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่
'ฉันก็ไม่อยากเป็นแค่เพื่อนของเธออีกแล้ว แต่มันก็สายเกินไป'
"ว่าไงสิก้า"
"ฮัลโหล...ฟานี่..มาหาสิก้าหน่อยได้มั้ย" เจสสิก้าพยายามไม่ร้องไห้
"เออ" น้ำเสียงของทิฟฟานี่ที่แสดงถึงความหนักใจที่จะมาหาเธอ
"นะ..ฟานี่...สิก้าเหงา..มาอยู่เป็นเพื่อนสิก้าหน่อยนะ" เมื่อเจอน้ำเสียงที่แสดงถึงความหนักใจของทิฟฟานี่
เจสสิก้าถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ร้องไห้เพื่อขอให้ทิฟฟานี่มาหาเธอ
"อย่าเลยสิก้า...ฟานี่ยังไม่พร้อมที่จะเจอสิก้าตอนนี้...ขอโทษนะ" ทิฟฟานี่ปฎิเศษทั้งๆที่ในใจของเธอก็อยากเจอเจสสิก้า
'ฟานี่อยากไปหาสิก้านะ...แต่ตอนนี้ฟานี่ยังไม่พร้อม..ฟานี่ขอโทษนะ'
"อึก..ไม่เป็นไรฟานี่..สิก้าเข้าใจ"
"สิก้าไม่เป็นไรนะ" ทิฟฟานี่ถามด้วยความเป็นห่วง
"อืม..ไม่เป็นไร...คิดถึงนะ..ขอโทษนะที่รบกวน" ทันทีที่เจสสิก้าพูดจบก็ตัดสายทันที
"ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด"
"ฟานี่ก็คิดถึงสิก้านะ..คิดถึงมากๆ" ถ้าเจสสิก้าได้ยินเธอคงจะดีใจไม่น้อย
'ใครบอกว่าไม่เป็นไรละฟานี่..สิก้าคิดถึงฟานี่นะ...คิดถึงมากๆเลย
สิก้าไม่อยากอยู่คนเดียว สิก้าเหงา...สิก้าเหงาจังเลยฟานี่'
รู้ว่าขอบ่อย บ่อยจนเกินเข้าใจ
อยู่นานนานได้ไหม มาหากันบ้างสิ ฮืม…
ทั้งที่รู้อยู่ ว่ามันดูไม่ดี แต่ความเหงาชนะทุกที
อยากให้เธอเข้าใจ
หลังจากที่วางสายจากทิฟฟานี่เธอก็นั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยระหว่างเธอกับทิฟฟานี่
'ทำไมนะ..พอฉันรู้ตัวว่าฉันรักเธอ ทำไมฉันถึงกลัวไปทุกๆอย่าง
กลัว ที่จะบอกเธอว่าฉันรักเธอ กลัว เรื่องระหว่างเธอกับเค้ามันจะเป็นความจริง
ถึงแม้ตอนนั้นฉันจะเห็นเธอยิ้มเค้า..รอยยิ้มที่เคยเป็นของฉัน
แต่ฉันก็ยังคิดหวัง หวังว่าเธอกับเค้าไม่ได้รักกัน ถึงแม้มันจะเป็นความหวังเพียงน้อยนิดก็ตาม
แต่มันก็ยังดีกว่าไม่มีหวังเลย...จริงมั้ย....แล้วถ้าฉันจะยังหวังต่อไป
มันคงไม่ผิดใช่มั้ย'
กลัวทุกอย่าง หวาด ระแวงมันไปทุกอย่าง
เธอยิ่งห่าง… ยิ่งโหดร้าย
'จะส่งไปดีมั้ยนะ' ทิฟฟานี่คิดในมือเธอก็ถือโทรศัพท์มือถือไว้
หลังจากที่เธอลังเลอยู่นาน ในที่สุดเธอก็ตัดสินใจส่งไป
เพราะว่าเธอรู้ เธอรู้ดีว่าเจสสิก้าไม่ชอบทานอาหารคนเดียว
เจสสิก้าขี้กลัว เกลียดความมึด และไม่ชอบการอยู่คนเดียว
"ติ๊ด ติ๊ด"
คุณมีหนึ่งข้อความใหม่
เสียงข้อความเข้าทำให้เจสสิก้าหลุดออกจากผะวัง
เจสสิก้าคิดอะไรไปเรื่อยเปือยจนไม่รู้ว่าตอนนี้ฟ้าเริ่มมึดแล้ว
เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่ออ่านข้อความ
"ขอโทษนะที่ไม่ได้ไปหา อย่าลืมทานข้าวด้วยละ ฟานี่"
เพราะว่าทิฟฟานี่รู้จักเธอดี จึงส่งข้อความมาให้
เธอจึงเข้าครัวเพื่อหาอะไรกิน ทั้งๆที่เธอก็ไม่ได้หิวอะไรมากมาย
ถึงเธอหิวเธอก็ไม่อยากกิน เธอไม่ชอบการที่ต้องทานอาหารคนเดียว
มีเหตุผลเดียวที่ตอนนี้ทำให้เธอยอมทนทานอาหารเพียงคนเดียว
เพราะข้อความของทิฟฟานี่
หลังจากที่เจสสิก้าทานอาหารเสร็จเธอจึงเดินออกมาตรงระเบียง
เพื่อมองดูดาว แต่วันนี้ท้องฟ้ากลับปิด
'ทำไมวันนี้ท้องฟ้าถึงได้มึดมนแบบนี้นะ คงเหมือนกับใจของฉันตอนนี้
ไม่ว่าจะมองไปทางไหน ฉันก็ไม่สามารถหาทางออกได้'
เจสสิก้าคิดพร้อมกับมองไปยังท้องฟ้าอย่างเลื่อนรอย
แต่แล้วเจสสิก้ากลับยิ้มออกมาเมื่อมองไปเห็นดาวดวงหนึ่งที่เปล่งแสงริบหรี่
ถึงมันจะเป็นเพียงแค่แสงที่ริบหรี่ แต่มันก็ยังดีกว่าไม่มีแสงไม่ใช่หรอ
ท่ามกลางความมึดมนของท้องฟ้า....ยังมีแสงสว่างจากดวงดาว
ท่ามกลางความหวังอันเลือนราง...ก็ยังมีความหวังเหลืออยู่...จริงมั้ย
จริงสินะ..ถึงแม้ท้องฟ้าจะมึดมนขนาดไหน..ก็ยังมีโอกาสที่จะมองเห็นแสงของดวงดาว
แม้ว่าแสงนั้นจะริบหรี่เพียงใด...ยังไงมันก็คือแสงสว่าง
มันก็คงเหมือนฉันกับเธอ
ถึงแม้ว่าตอนนี้ฉันจะมองไม่เห็นความหวังที่เราจะได้รักกัน
ถึงแม้ว่าภาพของเธอกับเค้าจะคอยตอกย้ำฉันเท่าไร่
ถึงแม้ว่าโอกาสที่เธอจะกลับมาหาฉันแทบมองไม่เห็น
ถึงแม้สิ่งเหล่านั้นมันจะฟ้องว่าเธอไม่รักกัน
แต่ฉันก็ยังคงหวัง
หวังให้เธอกลับมาหาฉันอีกครั้ง
หวังให้เธอรักฉัน
หวังให้เธอมีแค่ฉัน
ถึงแม้มันจะเป็นความหวังที่ไม่มีทางเป็นไปได้ฉันก็จะหวัง
แสงที่ริบหรี่...ยังไงก็คือแสง
ความหวังที่ริบหรี่...ยังไงก็คือความหวัง....จริงมั้ย
อย่าปล่อยให้คนคนนึงคิดถึงเธอ
รอคอยจนเพ้อจนเหนื่อยจะขาดใจ ฮา…
อยู่กับคำว่าเหงา ฮา…
ฉันกลัวเงาแห่งความหวั่นไหว ได้ยินแต่เสียงหัวใจ
มันตะโกนใส่ร้ายว่าเธอ… ไม่รักกัน
.......................................................
ตอนนี้สั้นไปหน่อยไม่ว่ากันน่ะ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น