คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : QUARTERBACK ϟ CHAPTER 01
THEME BY G MINOR!
QUARTERBACK
「 G O T S E V E N F A N F I C T I O N ϟ YUGBAM & JACKMARK
GENRE: VIOLENCE DARK LIFE EROTIC [NC17/R]
♦
I be everywhere, everybody know me
Super, super fresh, what a dope styling
ถ้าคุณมีเงินก็ไม่มีมนุษย์คนไหนที่จะไม่รู้จักคุณ นั่นคือนิยามของแจ็คสันหวัง ผู้ชายที่ใช้ชีวิตอยู่ในคาสิโนมากกว่า18ชั่วโมงต่อวัน ผู้ชายที่เชื่อว่ามนุษย์บนโลกมีคนอยู่แค่สองประเภท คือคนที่มีโชคและคนที่อับโชค และมันก็สนุกเสียด้วยกับการเหยียดหยามคนอื่นเมื่อเรามีโชคมากกว่าใคร
ขวดแชมเปญอยู่ในมือพร้อมกับผู้หญิงอีกสักสามสี่คน แค่นี้ไม่ได้ทำให้เขาตาย ถึงจะไม่ได้ชนะทุกครั้งหรือจะต้องเสียเงินไปกี่ล้านนั้นก็ไม่ได้ทำให้เขาต้องรู้สึกร้อนรน บางทีเขาอาจจะใช้เวลาทั้งวันนั่งอยู่ในที่แห่งนี้ หากไม่ติดว่าเพื่อนสนิทขี้เหล้าของเขาเดินมาถามหาถึงที่แล้วล่ะก็...
"แจ็คสัน"
นั่นหมายความว่าเขาต้องบอกลากองชิปและตลับไพ่ในคาสิโนไปอีกหลายวัน
และแจ็คสันทำเหมือนกันกับที่ทำอย่างทุกครั้ง
ก่อนที่เขาจะลุกออกไป ไพ่ในมือถูกเหวี่ยงลงบนโต๊ะ
Royal Straight Flush
♦
เหมือนกับการเวลาในที่แห่งนี้นั้นหยุดหมุนเดิน จังหวะเพลงที่เล่นวนซ้ำกับการเคลื่อนไหวร่างกายของผู้คนนับร้อยอย่างไม่มีท่าทีที่จะหยุด เหมือนถูกอัดโปรแกรมใส่ลงบนหัวสมองว่าสิ่งที่เราต้องทำคือการขยับตัวไปตามจังหวะเพลง ยกขวดเหล้าสักยี่ห้อขึ้นดื่ม จูบกับใครสักคนที่เรารู้สึกพอใจ หรือยื่นผงขาวให้ใครสักคนแล้วถามเขาว่า
Wanna hook up?
นี่คือการใช้ชีวิตอีกหนึ่งตัวเลือก เราไม่มีเรื่องให้ต้องกังวลเช่นเดียวกันกับไม่มีเรื่องของอนาคตให้ต้องคิดถึง จ้องมองเพื่อนสนิททั้งสองของตนที่เดินเข้ามาใหม่ แค่นั้นผู้คนรอบข้างก็พร้อมที่จะหยุดมอง อาจจะเป็นเพราะแบรนด์เสื้อผ้าที่อยู่บนร่างกาย หรืออาจจะเป็นรูปลักษณ์ภายนอกที่ดึงดูด
"มีอะไรวะ"
"เจบีไม่ได้บอกมึงเหรอ"ยูคยอมหันมองเพื่อนสนิทอีกคนที่แทบจะไม่สนใจสิ่งใดนอกจากขวดเหล้าที่ตั้งเรียงอยู่ตรงหน้า เจบีหรืออิมแจบอมนั้นเป็นแบบนี้อยู่เสมอ ถ้าไม่มีเรื่องจำเป็นที่จะต้องพูดก็อย่าหวังว่าเขาจะเปิดปาก สิ่งเดียวในชีวิตที่หมอนั่นคิดว่ามีค่าที่สุดนั้นนอกจากเหล้าแล้วก็คิดอย่างอื่นไม่ออกแล้วจริงๆ
หรือบางทีตอนที่เขาโทรไป มันคงฟังแต่เรื่องอย่างเช่นว่าจะเลี้ยงเหล้าหรือกัญชา ส่วนเนื้อหาสำคัญก็คงตัดออกหมด แจ็คสันยักไหล่แทนการตอบ เป็นอันว่าเจบีไม่ได้บอกเรื่องสำคัญ หรือบางทีหมอนั่นอาจจะแค่เดินเข้าไปในคาสิโนแล้วบอกแค่ว่า 'แจ็คสัน' ก็ได้
"นั่นน่ะ..."เอ่ยพร้อมกันกับชี้ไปที่นั่งหน้าเคาน์เตอร์บาร์"ใคร"แจ็คสันหันมองตาม ไม่จำเป็นต้องใช้สายตาเพ่งมองด้วยเพราะความสว่างจากดวงไฟในบริเวณนั้นมีมากที่สุด และคนอย่างคิมยูคยอมจะใช้คำถามนี้กับคนแปลกหน้าอยู่แค่สองกรณีเท่านั้น
1.ไม่ชอบหน้า
2.ถูกชะตา
และพนันได้เลยว่าถ้าหากกลุ่มคนที่ยูคยอมชี้นั้นมันน่าหมั่นไส้จนน่ายิงทิ้งแล้วล่ะก็ ไม่มีทางเลยที่คิมยูคยอมจะมานั่งยิ้มหรือทำตัวใจดีเลี้ยงเหล้าพวกเขาแบบนี้
"จูเนียร์น่ะเหรอ มึงชอบพวกฉลาดแกมโกงรึไง"ในทั้งหมดนั้นคนที่โดดเด่นที่สุดคงเป็นจูเนียร์ ก็ใครบ้างล่ะที่แจ็คสันจะไม่รู้จัก เขาเองก็เคยคุยด้วยอยู่สองสามครั้งตอนที่หมอนี่เป็นดีลเลอร์เมื่อสักสามสี่เดือนก่อน หมอนี่หาเงินได้เป็นถังกับการจัดสนามแข่งเพียงแค่สองสามอาทิตย์ และบอกตรงๆว่ายังคิดไม่ออกเลยจริงๆว่าจูเนียร์มีอะไรที่ดึงดูดเพื่อนสนิทของเขาอย่างคิมยูคยอม
ไม่ใช่ไทป์ที่ยูคยอมจะชอบได้เลยสักนิด
"คนที่ตัวเล็กที่สุดในนั้นน่ะเหรอ"คราวนี้เป็นเจบีที่วางขวดเหล้าลงและหันไปมอง ตอนที่หางตาเหลือบเห็นว่าเป็นกลุ่มของใครเขาก็ไม่ได้มีทีท่าว่าจะใส่ใจคนพวกนั้นเท่าไหร่นัก ถึงพอจะรู้เรื่องอยู่บ้างแต่ก็ไม่ได้มีอะไรน่าสนใจ อาจเพราะถึงอยู่ในสังคมเดียวกันแต่ก็ค่อนข้างไปกันคนละสายทาง แต่ถ้าหากเป็นคนที่ตัวเล็กๆแล้วล่ะก็...
"ที่มาจากไทย ไอ้หมอนั่นมันชื่ออะไรนะ..."สะกิดความทรงจำของแจ็คสัน เขาจำได้แค่ว่าเด็กผู้ชายคนนั้นมาจากไทย อายุน้อยกว่าพวกเขาอยู่หลายปี หน้าใหม่ที่จูเนียร์พาเข้ามาเมื่อไม่กี่เดือนก่อน และสาเหตุที่ทำให้เขารู้จักนั้นก็ลืมไปพร้อมกันกับชื่อของเจ้าตัว
"แบมแบม หมอนี่มันอายุเท่าไหร่วะ 17หรือเปล่า?"อย่างที่เห็น ใครบ้างที่แจ็คสันจะไม่รู้จัก แต่กับเด็กผู้ชายคนนี้เขาเองก็มีข้อมูลไม่มากเท่าไหร่นัก คงเป็นเพราะหน้าใหม่ ไม่ได้เล่นการพนัน และยิ่งเกาะกลุ่มกับจูเนียร์แล้ว ไม่มีทางได้เกิด ไอ้หน้าลิงนั่นแย่งซีนหมดอยู่แล้วทุกคน
"หมอนั่นทำอะไร"และถ้าหากยูคยอมต้องการรู้จักใคร นั่นหมายความว่าเขาต้องได้รู้มันทั้งหมด เจบีโบ้ยปากไปให้แจ็คสัน บอกว่าหมอนี่มันเคยดีลกับจูเนียร์อยู่บ่อยๆ ไม่มากก็น้อยยังไงก็ต้องรู้บ้างล่ะ
"เคลียร์ทาง ของรางวัล ทำไมไม่ลองไปดูเองล่ะ"เขาเองก็ไม่ได้อยากจะตอบแบบนี้ แต่แบมแบมเป็นเด็กหน้าใหม่ จูเนียร์คงให้หมอนี่ลองทำทุกอย่างตั้งแต่คอยเคลียร์ถนนไปจนถึงเป็นของเดิมพัน จะคาดหวังอะไรกันกับสังคมแบบนี้ แย่มากแย่น้อยก็ว่าไปตามเม็ดเงินมันก็เท่านั้น
"ประเทศนี้กลายเป็นแหล่งให้พวกประเทศที่สามมาขุดหาเงินรึไง คุณโสเยอะไปหน่อยนะช่วงนี้"บางทีเจบีอาจจะมีปากไว้เหมาะแก่การกรอกเหล้าอย่างเดียว"พูดอะไรผิดรึไง?"เอ่ยถามเมื่อถูกเพื่อนสนิทอีกสองคนจ้องหน้า ถ้ามีปัญหา ก็ช่วยบอกด้วยแล้วกันว่าตรงไหนที่เขาพูดผิด
"รับรองว่าถ้านายไปดีลกับจูเนียร์ อะไรที่นายอยากได้มันก็ต้องได้"แจ็คสันตบไหล่ยูคยอม ข้อมูลทั้งหมดถูกบอก ไม่มีเรื่องจำเป็นที่จะต้องคุยต่อ หลังจากนี้คือช่วงเวลาส่วนตัว ขึ้นอยู่กับยูคยอมว่าสนใจเด็กผู้ชายคนนั้นมากน้อยแค่ไหน และในความหมายของการดีลกับจูเนียร์...
คือการใช้เงินหกหลักลงเดิมพันและรถอีกหนึ่งคันก็เท่านั้น
♦
ไม่มีสิ่งใดน่าสนใจไปกว่าการคุยกันถึงเรื่องผลประโยชน์ จูเนียร์เป็นแบบนี้เสมอ หัวสมองคิดถึงแต่เรื่องการทำเงิน จัดดีลแข่งรถ รับหาของผิดกฎหมายที่รับมาจากพวกคนในตลาดมืด หรือกระทั่งการหาใครสักคนมาเป็นของเดิมพัน โดยเฉพาะระยะหลังที่พวกเด็กผู้ชายค่อนข้างเป็นที่ต้องการตัวในการดีลแข่งรถ
และเชื่อเถอะ ว่าเซนส์ของจูเนียร์ไม่เคยพลาด
"นายว่ามาร์คเป็นไง"
หันถามน้องชายหน้าใหม่ที่เพิ่งจะได้สนิทกันช่วงไม่กี่เดือนก่อน ความคิดเห็นเกี่ยวกับว่าถ้าจะใช้เพื่อนสนิทของตนอย่างมาร์คเป็นของเดิมพัน น้ำหนักของปึกเงินจะเพิ่มมากขึ้นเท่าไหร่ หรือประมาณว่าเอาเพื่อนสนิทของตนไปแลกนั้นจะได้เงินคุ้มแค่ไหน
"ยาก ให้พี่มาร์คขายตัว ผมว่าเขาคงฆ่าพี่ทิ้ง"
พูดถึงผู้ชายผมสีแดงชา ย้ายมาจากแคลิฟอร์เนียร์เมื่อสองปีก่อน จูเนียร์จัดให้มาร์คเป็นคนประเภทมาโซคิสต์ที่มีความสุขกับการหาเรื่องให้เจ็บตัว เวลาเครียดหรือไม่สบายใจหมอนี่ชอบใช้ก้นบุหรี่จี้ที่ข้อมือของตัวเองเสมอ และแย่กับภาพลักษณ์ของคนในกลุ่ม(ที่แทบจะไม่มีเหลืออยู่)จูเนียร์สั่งให้มาร์คใส่นาฬิกาปิดทับรอยแผลเป็นอยู่ตลอด
"มันใหม่ในสายตาคนอื่น ใครๆก็อยากเป็นคนแรกทั้งนั้น"พูดถึงการดีลที่เกิดขึ้นเมื่อหนึ่งเดือนก่อน ใครจะคิดว่าจะมีไอ้หน้าโง่กล้าเบี้ยวของเดิมพัน ต้องลากตัวกลับมาให้ได้ภายในครึ่งชั่วโมงไม่งั้นคงเป็นสมองของเขาที่แตกกระจายแทนไอ้หน้าใหม่ ถึงจะเฉียดเวลาไปอยู่สามนาทีแต่มาร์คก็ทำเวลาได้ทัน
รักเลยล่ะ
"พี่จะขายเพื่อน? ตลกหน่า เขาไม่ใช่คนแบบผมนะ"
คำถามของแบมแบมไม่ได้ถูกตอบ บางทีอาจเป็นแค่เรื่องล้อเล่น มาร์คไม่ใช่ผู้ชายที่จะยอมได้กับการถูกหักหลัง ไม่ใช่คนที่คิดว่าการอยู่คนเดียวนั้นจะหาเงินใช้เองไม่ได้(เห็นได้ชัดจาการที่ปฏิเสธแทบทุกนัดของคนในกลุ่ม) จูเนียร์อาจเลือกที่จะไม่เสี่ยง หรือบางทีจูเนียร์อาจจะทำอย่างที่แบมแบมว่า หมอนี่ไม่สนใจคนอื่นนอกจากตัวเองอยู่แล้ว
แต่ใครล่ะจะรู้ว่าจูเนียร์คิดอะไร?
"เดี๋ยวมา"
เดินผละออกมาจากผู้คนคุ้นเคย เขาสังเกตเห็นมาได้สักพักแล้วว่ากลุ่มของแจ็คสันคนดังจ้องมาที่เขา ใครบ้างจะไม่รู้จักคนพวกนี้ ลูกนักการเมือง เบื้องหน้าเพื่อประเทศชาติในขณะที่เบื้องหลังนำเข้ายาเสพย์ติดและขายอาวุธในกองคลัง ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมทุกครั้งที่เกิดการจับกุม กลุ่มคนพวกนั้นมักจะรอดพ้นอยู่เสมอ
และด้วยเหตุผลที่รู้กันดี คิดว่าในเร็วๆนี้เขาคงได้เงินก้อนใหญ่
"พรุ่งนี้ที่ถนนไหน?"
"นายจะมางั้นเหรอ"
"ความจริงคงเพื่อนฉันมากกว่า"พยักเพยิดไปทางคิมยูคยอม"หมอนั่นมีข้อเสนอดีๆ"ก่อนจะชี้ไปทางเด็กใหม่อย่างแบมแบม เป็นอันรู้กันว่าอะไรคือสิ่งที่แจ็คสันพูดถึงและอะไรคือสิ่งที่ยูคยอมต้องการให้เป็นของเดิมพัน
"อา... แบมแบมราคาดีนะ ถ้าฉันให้เพื่อนนายฟรีๆก็แย่น่ะสิ"ไม่ได้จงใจที่จะต่อรองหรือยั่วโมโหคนตรงหน้า แต่เขาเองก็ไม่อยากจะทำให้แบมแบมเสียราคาก่อนเวลาอันควรเท่าไหร่นัก(แม้เด็กนั่นอาจจะดีใจจนสำลักก้อนเงินของคิมยูคยอมตาย) เพราะขืนยกให้คิมยูคยอมตั้งแต่ช่วงที่ราคากำลังดีแบบนี้แล้วหมอนั่นมันเกิดไม่ยอมปล่อยเด็กเขาขึ้นมา...
ไม่เสียกำไรแย่เลยรึไง?
แจ็คสันหัวเราะ เขาสนิทกับผู้ชายคนนี้ไม่ได้เพราะรู้สึกเหม็นเรื่องผลประโยชน์ทุกครั้งที่ได้คุย เหมือนกำลังสนทนากับพวกหุ่นยนต์ที่มีแต่ระบบคิดคำนวณเงินอัตโนมัติ ให้ตายเถอะ คิดดีแล้วจริงๆที่เขามาคุยเรื่องนี้ก่อนที่ยูคยอมจะมาจัดการเอง
"ไม่ได้บังคับว่าต้องยกให้ ยังไงเราก็เพื่อนกัน..."
"...."
"แต่นายไม่ใช่เพื่อนยูคยอมนะจูเนียร์"
"...."
"หมอนั่นไม่ลังเลที่จะยิงคนแปลกหน้าทิ้งหรอก :)"พูดคุยราวกับว่ามันเป็นประโยคพื้นฐานที่คนปกติทั่วไปมักใช้ทักทาย มือหนาตบไหล่คนตรงหน้าราวกับกำลังตอกย้ำว่าสิ่งที่เขาพูดไปไม่ใช่แค่การยกขู่ และแน่นอนว่าตัวจูเนียร์เองก็ไม่คิดว่าแจ็คสันจะโกหก มีหรือไงที่เขาจะไม่รู้ว่าคิมยูคยอมเป็นยังไง เรื่องที่มีผู้หญิงโดนยิงตายเมื่อไม่กี่วันก่อนเขาเองก็รู้ว่าใครเป็นคนทำ
พูดแบบนี้... มันก็ไม่ต่างอะไรให้เลือกว่าจะอยู่หรือตายเลยไม่ใช่รึไง
"I'll wait for your call :)"
♦
ความสั้นยาวแล้วแต่เนื้อเรื่องในแต่ละตอนค่ะ ความจริงนี่แอบเขียนยืดฉากมาก แต่เพราะอยาก
ให้มีรายละเอียดในฟิคมากกว่าที่เคยเขียนปกติหน่อยเลยพยายามใส่อะไรสักอย่างเพิ่มลงไป
อีกอย่างนี่เขียนฟิคแบบสเต็ปบายสเต็ปเลย (ความจริงคืออยากให้ในฟิคนี้มีเพลงนี้เป็นการส่วนตัว)
ต้องรีบใช้ค่ะก่อนหมดโอกาสได้ใช้เพลงจังหวะสนุกๆ o<-< อีกอย่างคือตัวเราเองก็ยังตัดความ
ไบแอสในตัวละครได้ไม่ทั้งหมด บวกกับยังมีความเกรงใจในตัวละครอยู่ด้วย(ยังมีอยู่มากจริงๆ T-T)
ซึ่งเราไม่อยากทำแบบนั้น เอาเป็นว่าในพาร์ทต่อๆไปเราจะตัดมันทิ้งให้ได้ แต่ด้วยความสัตย์จริง
เราเขียนเพราะเบื่อสังคมมนุษย์เฉยๆ ยังไงก็ฝากสกรีม #ควอเตอแบค ด้วยนะคะ ><
ความคิดเห็น