คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : (beast) คนข้างบ้าน [junhyung x hyunseung]
Title: คนข้างบ้าน
เห็นอีกครั้งก็คิดว่า ก็น่ารักดีนะ จัดการรีไรท์ซะใหม่ ให้ออกมาเป็นเรื่องนี้ 5555
จริงๆ แต่งไว้นานมากแล้ว จบไปนานมากแล้ว แต่ลืมที่นี่ไปนานเหมือนกันเพราะวุ่นๆกับการเรียน
วันนี้่ว่างๆมาเปิดดู เลยถือโอกาสขุดๆฟิคที่ค้างๆไว้มาลง
ขอบคุณที่ติดตามค่ะ
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
ครั้งแรกที่มองเห็นคุณ...ราวกับว่าผมนั้นได้ตกอยู่ในมนต์สะกดนั้นจริงๆ
ยงจุนฮยอง ถึง คนข้างบ้าน
นี่เป็นอีกวันที่..ยงจุนฮยอง... อยู่คนเดียวในบ้านอันใหญ่โตหลังนี้
ให้ตายสิ น่าเบื่อชะมัด น่าเบื่อที่สุดเลย
ร่างหนาจิ๊ปากอย่างเบื่อหน่ายก่อนจะถือสมุดบันทึกเล่มหนากับไอพอดคู่ใจ เดินมาที่สวนข้างบ้านของตัวเอง ขาเรียวยาวค่อยๆย่อตัวลงนั่งหันหลังเข้ากับกำแพงสีขาวของบ้านอีกหลังหนึ่งซึ่งมีข่าว ว่าเพิ่งมีคนย้ายเข้ามาอยู่เมื่อวานนี้
"ฮยอนซึงลูก อย่าเพิ่งเล่นได้มั้ย มาช่วยน้องทำการบ้านก่อน เป็นพี่ซะเปล่านะเราอ่ะ" มือที่กำลังจะดันหูฟังเข้าประจำที่ ลดลงมาก่อนจะยันตัวเองให้ลุกขึ้นอีกครั้งเพื่อดูหน้า 'คนแปลกหน้าข้างบ้าน' ในเมื่ออาจจะต้องมีคราวช่วยเหลือกัน ดูหน้าหน่อยก็ไม่เสียหายไม่ใช่หรือไง?
ตุ๋ม
"เฮ้ย..ไอ้ปลาบ้าอย่ามาสาดน้ำตรงนี้นะ"
ดวงตาที่ช้อนขึ้นมองเหนือกำแพงดันไปเห็นดวงหน้าหวานที่ถูกล้อมรอบด้วยผมสีน้ำตาลช๊อค
โกแลต ดูมีเสน่ห์ กำลังเดินท้าทายแรงโน้มถ่วงของโลกโดยขึ้นไปยืนบนขอบของบ่อปลา
"นั่นมันผู้หญิงหรือผู้ชายวะ" คนแอบมองขมวดคิ้ว ถึงร่างกายจะบางเหมือนผู้หญิง แต่แต่งตัวแบบผู้ชายเด๊ะขนาดนี้ น่าจะเป็นผู้ชายนะ
"เฮ้ยยยยยยยยยยยย"
ตุ้ม
สุดท้ายคนหรือจะสู้แรงโน้มถ่วงของโลก คนที่มีใบหน้าหวานคนนั้นก็ต้องลงไปในบ่อปลาอย่างไม่ต้องสงสัย แต่แทนที่จะโมโหและหงุดหงิดเหมือนผู้หญิงปกติที่เขาเคยเจอ ชุดเปื้อนก็วิ๊ดว๊าย เกาะแข้งเกาะขาเขาราวกับปลิง ผู้ชายข้างบ้านคนนี้กลับมีแต่รอยยิ้ม แถมยังว่ายน้ำกับปลาราวกับรอเวลานี้มานาน
"ตายแล้ว! คุณหนูฮยอนซึงไปทำอะไรอยู่ในนั้นคะเนี่ย ขึ้นมาค่ะ เดี๋ยวไม่สบายแล้วคุณนายจะดุทั้งคุณหนูทั้งป้านะคะ"
"ก็ได้ครับป้า เพราะผมไม่อยากให้ป้าถูกดุเพราะผมหรอกนะ" คำตอบที่แสนถูกใจของเขา ออกมาจากปากร่างบางตรงหน้า จะมีซักกี่คนที่ยอมทิ้งอะไรสนุกๆ เพื่อไม่อยากให้คนอื่นโดนดุไปด้วย เขาว่าท่าทางเขาจะหลงเสน่ห์คนคนนี้เข้าไปเต็มๆ
โฮ่ง!
"ชู่... มิกกี้เงียบๆสิ เดี๋ยวเขาก็รู้กันพอดีว่าเราแอบดูลูกชายบ้านเขาอยู่" มิกกี้เป็นหมาพันธุ์ไซบีเรียนฮาสกี้สีน้ำตาลอ่อนตัวใหญ่
ที่เขาเพิ่งได้มาไม่นานมานี้ แต่ว่าคุยกันถูกคอเลยทีเดียว (?)
เมื่อหันกลับไปอีกรอบ เจ้าของรอยยิ้มก็หายไปแล้ว...แต่ยังไงเราคงมีเวลาทำความรู้จักกันอีกนานเลยล่ะ
วันนี้ยงจุนฮยองก็มานั่งที่เดิม พร้อมสมุดบันทึกและไอพอดเหมือนเดิม เพียงแต่ที่หูไม่ได้เสียบไอพอดไว้
สองมือกลางสมุดบันทึกที่ส่วนใหญ่เขาจะแต่งเพลงเอาไว้รวมทั้งแรงบันดาลใจต่างๆอีกด้วย
มือที่ถือปากกาเคาะลงไปบนปลายสมุดสองทีอย่างครุ่นคิด ก่อนจะเขียนลงไป
' เพราะเธอนั้นคือคนที่ฉัน แต่งตั้งให้เป็นแรงบันดาลใจ รอยยิ้มที่สดใส ไม่เหมือนใคร ก็จริงใจในแบบที่เธอเป็น '
"니가 제일 좋아 ~"
เสียงร้องเพลงใสๆดังขึ้นมาหลังจากที่เขาเขียนตัวสุดท้ายจบพอดีเขายันตัวลุกขึ้น ตั้งใจจะหันไปมองอย่างแอบๆ
แต่ดูท่าทาง มิกกี้มันจะไม่ได้ใจเย็นเหมือนเขาเนี่ยสิ
โฮ่ง!
"เฮ้ย" ร่างบางตกลงมาจากกำแพงที่ตนนั่งอยู่เมื่อกี้นี้ลงในอ้อมกอดของเขาพอดีเป๊ะ ดีนะเนี่ยที่หันมารับทันพอดี ไม่งั้นละก็ จากความประทับใจที่บ้านได้ไปประทับที่โรงพยาบาลแน่
"เป็นไรมั้ย?"
"เอ่อ..."คนในอ้อมกอดเช็คร่างกายตัวเองอย่างละเอียดจับนู่นจับที่ไปมาจนผมสะบัดละใบหน้าเ
ขาหลายครั้ง...หอมจัง
"ไม่ปะ... ยงจุนฮยอง !"
"รู้จักผมด้วยหรอ?"
"ถามว่าใครไม่รู้จัก นักร้องชื่อดัง ที่แต่งเพลงเองทุกอัลบั้ม อัดเองโปรดิวซ์เอง ยังจะนับหัวได้มากกว่า ผมเอง.. ก็เป็นแฟนเพลงของคุณเหมือนกัน"
ยงจุนฮยองมองหน้าคนในอ้อมแขนที่หน้าแดงขึ้นเล็กน้อย จริงๆไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่ที่รู้จักเขาอยู่แล้วในฐานะนักร้อง เพราะที่เขามาอยู่บ้านชานเมืองขนาดนี้ก็เพราะอยากจะหนีความวุ่นวาย อยากจะเลิกแล้ว..ไอ้อาชีพที่ไม่มีความสงบนั่นน่ะ มาแต่งเพลงเฉยๆสนุกกว่าตั้งเยอะ
"คุณฮะ ... เอ่อ ปล่อยผมลงก่อนดีกว่า"
"นาย ...?"
"อ้อ ผมฮยอนซึงฮะ จางฮยอนซึง" ชื่อน่ารักดีแฮะ เข้ากับใบหน้าน่ารักนั่น และผมหอมๆนั่นด้วย
"จริงๆแล้ว ฉันเบื่อน่ะฮยอนซึง เบื่อที่จะต้องไปเจอคนมากมายในวงการ ที่บางคนก็นิสัยดีแต่บางคนกลับใส่แต่หน้ากากเข้าหากัน มันไม่น่าสนุกเท่าไหร่ ฉันเลยมาอยู่บ้านที่นี่แล้วก็กะแต่งเพลงให้ต้นสังกัด เขาก็โอเค" ฮยอนซึงมองหน้า กระพริบตาปริบๆ ...
อย่างงี้ก็มีด้วย แบบนี้เขาคงเรียกรักสันโดษอย่างแท้จริงสินะ อา...เท่จัง
"แล้วคุณจุน ..."
"ไม่ต้องสุภาพขนาดนั้นก็ได้ พูดธรรมดาเถอะ เราเป็นเพื่อนกันแล้วหนิ" คำพูดที่เป็นกันเองอย่างเหลือเชื่อเล่นเอาฮยอนซึงแทบกรี๊ด
เป็นเพื่อนกันแล้ว ...
ถึงแม้จะแอบมึนนิดหน่อยก็เถอะว่าเป็นเพื่อนกันตอนไหน แต่ว่าได้เป็นเพื่อนกับนักร้องคนที่ชอบ มันเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่สุดเลย
"ฮะ คือผมมีอัลบั้มของจุนฮยองอยู่ เซ็นลายเซ็นให้ได้มั้ยฮะ"
"ได้สิ ถ่ายรูปด้วยก็ได้นะ"เขามองฮยอนซึงที่ตาวาว รีบกระโดดข้ามกำแพงไปอย่างรวดเร็ว
อย่างน้อยตอนนี้เขาก็ได้รู้จักกับแรงบันดาลใจของเขาอย่างเป็นทางการแล้วสินะ
หลังจากวันนั้นความสัมพันธ์ก็ค่อยๆสนิทกันมากขึ้นไปอีกจนแทบจะเรียกได้ว่า ...
"มิกกี้ ~ คิดถึงจังเลย มาให้เค้ากอดหน่อยเร็ว"
"เพิ่งเจอกันเมื่อวานไม่ใช่หรอ คิดถึงอะไรมัน?"
"เจ้าของไม่ต้องยุ่ง จะคิดถึงหมา มีไรปะ" เขามองฮยอนซึงที่เขาไปกอดไปนัวเนียกับมิกกี้อย่างหมั่นไส้(หมา) แบบนี้มันน่างอนมั้ยล่ะ เขาพาไปกินข้าว พาไปเที่ยว ถึงแม้ฮยอนซึงจะพยายามขอไม่ไปก็ตามที แต่ก็นั่นแหละ เขาอุตส่าห์ดูแลอย่างดี ทำไมคนแถวนี้ถึงเห็นหมาดีกว่าเจ้าของไปได้
"อะไร...งอนอ่อห้อย" นิ้วเรียวจิ้มไปที่แขนของเขา เปล่าไม่ได้งอน แค่ต้องการความเห็นใจจากคนแถวนี้ก็เท่านั้น
"เปล่า"
"ทำตัวขี้งอนไปได้"
โฮ่ง !
มิกกี้เห่าใส่พ่อแม่ที่ยืนเถียงกันอยู่ข้างหน้า ก่อนจะวิ่งพุ่งเข้าใส่ฮยอนซึง ส่งผลให้คนไร้แรงโน้มถ่วง (อีกแล้ว) แล้วเนื่องจากฮยอนซึง ยืนหันหน้าเข้าหาจุนฮยองเลยทำให้เขาต้องล้มตามไปด้วย
"จะ...จุนฮยอง" ระยะห่างจากที่น้อยอยู่แล้ว ถูกเขาปิดแสงที่ลอดผ่านนั่น ริมฝีปากที่สัมผัสกันทำให้รู้สึกถึงความเย็นของอากาศที่เริ่มจะหนาวขึ้นไม่กี่วันมานี้ แขนคนข้างล่างโอบรอบเอวบางไว้ ฮยอนซึงสะดุ้งก่อนจะผละหน้าออกแล้วลุกขึ้นยืน
"ห้อย! ทำอะไร"
"ทำตามใจ" ริมฝีปากบางที่เปลี่ยนจากสีชมพูเป็นสีแดงเพราะแรงจูบเมื่อกี้เม้มแน่น กับใบหน้าหวานที่มีสีแดงฝาดขึ้นมา ทำไม ทำอะไรก็น่ารักนะ
"นี่มันสนามหญ้านะ"
"งั้นแปลว่าที่อื่นทำได้หรอ?"
"บ้า! ไปเลยจะกลับบ้านแล้ว-////-" ...แต่ดูเหมือนมือไม้ขาแข้งจะอ่อนลงเอาดื้อๆ จากที่ปกติปีนกลับไปได้เองวันนี้กลับไม่มีแรงผลักตัวเองขึ้นไปเลย
ทำไมไม่ขึ้นนะ เขินจะบ้าอยู่แล้ว ถ้าอยู่ต่ออีกคงระเบิดแน่ๆ
"อ้ะ" จุนฮยองแตะเบาๆที่ข้างเอว 2ข้าง ทำให้ฮยอนซึงร้องออกมาอย่างตกใจ
"นับหนึ่งสองสามแล้วกระโดดนะ จะได้ข้ามไปได้ซักที"
1...2...3
"ฮึบ" เขายกฮยอนซึงตัวลอยขึ้นจากพื้น แล้วฮยอนซึงก็ลงไปสู้พื้นบ้านของตัวเองอย่างสวัสดิภาพ แต่ก่อนที่ฮยอนซึงจะเดินไป เขาก็จับเสื้อเอาไว้ แล้วกระโดดข้ามกำแพงอย่างรวดเร็ว
"ฮยอนซึง"
"หือ?"
"อีกรอบได้มั้ย"
"..."
"อีกรอบนะ"เขามองคนที่เขินหน้าแดงก้มลงมองปลาบเท้าอย่างรู้ทัน...ก็ไม่อยากพูดยอมรับออกมาตรงๆ แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธคำขอนั่น มือของเขาจับใบหน้าอีกคนให้เงยขึ้นมารับจูบ ส่วนมือของอีกคนที่ตอนแรกกำกันแน่น ก็เปลี่ยนมีกำปลายเสื้อเขาแทน
"อื้อ.."
เสียงร้องอื้ออึงตอนใกล้หมดอากาศ...
ริมฝีปากนิ่ม น่าสัมผัส...
อร่อยเหมือนได้กินผลไม้รสโอชะ...
กลิ่นหอมจากผมที่ลอยเข้ามาเพิ่มบรรยากาศ...
กับมือที่กำเสื้อของเขาบ่งบอกว่าแพ้จูบเขามากแค่ไหน...
ทั้งหมดเนี่ย...จะไม่ให้เขาหลงรักจนโงหัวไม่ขึ้นได้ยังไง รู้สึกคิดไม่ผิดจริงๆที่หลบหลีกจะโลกแห่งการใส่หน้ากากออกมาพัก เขาเลยได้เจอคนคนนี้ แถมยังมีเนื้อเพลงใหม่ส่งไปให้รุ่นน้องในบริษัทได้ร้องอีกต่างหาก
' เพราะเธอนั้นคือคนที่ฉัน แต่งตั้งให้เป็นแรงบันดาลใจ รอยยิ้มที่สดใส ไม่เหมือนใคร
ก็จริงใจในแบบที่เธอเป็น
ไม่ใช่เพียงคำพูดที่แสนหวานที่ฉันจะมอบให้ใครก็ได้ ไม่ใช่เพียงการกระทำที่ฉันจะทำให้ใครก็ได้
แต่เพราะเป็นเธอ ที่ฟ้าส่งมาให้ฉันได้เจอ เพราะเป็นเธอคือคนคนนี้ที่เฝ้าคอยตามหา และไม่ว่าจะเจออะไรต่อจากนี้
จะขอรักเธอตั้งแต่นาทีนี้ จนถึงวันสุดท้าย เธอจะเป็นแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตของฉัน จะบันดาลความรักให้แก่ฉัน
และจะทำให้โลกใบนี้มีแค่ฉัน กับเธอ '
"โห! อัลบั้มใหม่ของวง ××× วงรุ่นน้องจุนฮยองนี่นา...อ๊ะ เพลงแต่งโดยยงจุนฮยอง เขียนตอนท้ายไว้ว่า ให้ฮยอ...เฮ้ย"คนที่ดูซีดีอยู่ถึงกับตกใจ
ก็มันเขียนว่าแต่งเพลงให้เขานี่นา.. มีคนแต่งเพลงให้เขาเชียวนะ ไม่ใช่เรื่องเล็ก! ต้องซื้อเก็บซะแล้ว
ติ๊ด ติ๊ด
"ฮัลโหลห้อย ว่าไง"
[ไปไหนไม่บอกกันเลยนะ]
"เรื่องไรต้องบอก เดี๋ยวก็กลับแล้ว ฝากบอกมิกกี้ด้วย" เขาหนีบโทรศัพท์ไว้ที่หู ก่อนจะก้มหัวขอบคุณเจ้าของร้านที่ยื่นซีดีใส่ถุงให้เขาแล้วยิ้ม เดินทางกลับบ้านได้
[ห่วงแต่หมา คนนั่งหงอยรอกินข้าวอยู่เนี่ยไม่รู้บ้างหรือไง]
"จะไม่ให้กินข้าวกับพ่อแม่บ้างเลยใช่ปะ จองตัวทุกวันเลยเนี่ย"
[ใครบอกไม่ให้กิน นั่งรออยู่ที่บ้านแล้วเนี่ย พ่อแม่นายดิ๊ด๊าอยากเลี้ยงข้าว....'แฟน' เต็มที่มากๆ]ไปสนิทกับพ่อแม่เขาตอนไหนเนี่ย ถึงได้ไปนั่งหน้าสลอนอยู่ในบ้านเขาอีก ไม่ธรรมดาเกินไปแล้วนะยงจุนฮยอง
"พ่อแม่เขายอมให้อีเลี่ยนเข้าบ้านด้วยเรอะ!"
[กลับมาโดนปากเอเลี่ยนดูดแน่ฮยอนซึง พูดจาวอนโดนกินนะ]
"นายก็พูดจาวอนโดนฆ่านะยงจุนฮยอง"
[กลัวตายล่ะ อยากจะรู้ว่าสุดท้าย ใครจะอยู่ 'ใต้' ใครกันแน่]ให้ตายเถอะ เขาอยากจะกลับไปล๊อคคอจุนฮยองแล้วฆ่าหมกป่าซะ ก็ปากแบบนี้ทำเอาเขาไม่มีสมาธิจะทำอะไร หน้าร้อนแทบไหม้ทุกครั้ง
"เงียบซะ .... ถึงแล้ว มาเปิดประตูให้ด้วย" เขากดวางสายก่อนจะลงมาจากจักรยานตัวเก่งที่เขาเอาไว้ขี่ไปไหนมาไหนใกล้ๆบ้าน
"คุณแม่ครับ ฮยอนซึงกลับมาแล้วผมเปิดประตูให้เขานะครับ"เสียงที่ตะโกนดังออกมาจากในบ้านทำเอาเขาแทบไหม้อีกครั้ง 'คุณแม่'หรอ สรรพนามนี้ แม่ไม่ให้ใครเรียกง่ายๆนี่นา จุนฮยองไปเล่นแง่อะไรปะเนี่ย
"ไปซื้อไรมาเนี่ย"
"ซีดี"
"ว่าจะเอาให้พร้อมลายเซ็นซักหน่อย"
"อันนี้ซื้อซัพพอร์ตคนแต่งเพลง ส่วนอันของฟรีเป็นของขวัญจากแฟนไง" เขาพูดหน้านิ่งแต่คนฟังไม่นิ่งด้วย ใจออกมากระโดดโลดเต้นเพราะได้ยินคำว่าแฟนออกจากปากของอีกคน ฮยอนซึงน่ะ ปากแข็งจะตาย ยิ่งยากเลยถ้าจะให้พูดอะไรแบบนี้ต่อหน้าเขาปกติกัดอย่างเดียว
"พูดแบบนี้พร้อมโดนเอเลี่ยนดูดปากหรือยัง?"
"น่ากะ.."ยังพูดไม่ทันจบประโยคเอเลี่ยนตัวร้ายก็เข้ามายึดครองอาณาจักร หวาน เหมือนเดิมเลย
"นี่! สองคนนั้นน่ะ ทำอะไรเกรงใจแม่บ้างนะยะ" ยงจุนฮยองลอบยิ้มมุมปาก ว้า...โดนขัดซะงั้น แต่ว่าไม่เป็นไร ยังไงหลังจากนี้
คงมีเวลายึดครองอาณาจักรอีกนานเลย
Talk : ตามชื่อเรื่อง เรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะนั่งอยู่ข้างๆบ้านจริงๆ
(เพียงแต่ไม่ได้มีผู้ชายข้างบ้านแบบจุนฮยอง แง)
เนื้อเพลงที่จุนฮยองแต่งนั้นไม่มีจริง เค้าเขียนออกมามั่วๆเรียบเรียงให้มัน เหมือนจะดูดี
ก็เลยออกมางงๆแบบที่เห็น 55555
ขอบคุณค่ะ ที่ติดตาม
ความคิดเห็น