คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : บทที่ 5 : การเริ่มต้นเดินทาง
ณ บ้านไม้ของชิออน
“คุณชิออนจะไปไหนต่อหรอ?” ซูฮาลถาม
“ไปฆ่าท่านเจ้าเมือง…” ชิออนตอบหน้าตาเฉย
“ฆ่าเขาทำไมละ” ซูฮาลถามด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“เพราะมันฆ่าน้องสาวและครอบครัวฉันนะสิ !” ชิออนกำมือแน่อน
“ใช่แน่หรอ” ซูฮาลใช้มือปั่นร่มตัวเองไปมา เสียงกระดิ่งที่ติดอยู่บนหัวร่มจึงส่งเสียง กริ้ง กริ้ง
“ก็ใช่แน่สิ ! ถ้าท่านเจ้าเมืองไม่คิดดอกเบี้ยเงินแพงขนาดนั้นนายคิดว่าครอบครัวของฉันจะเป็นแบบนี้หรอ ! ทำงานร้อยใช้หนี้เก้าสิบ มันถึงทำให้ครอบครัวฉันและคนอื่นๆต้องลำบากไงละ ! ในเมื่อกฎหมายเอามันไม่อยู่ก็ต้องล้างกันด้วยเลือด !” ชิออนหันมาตะคอกใส่ซูฮาล
กริ้ง เสียงกระดิ่งดังเป็นครั้งสุดท้ายก่อนซูฮาลจะหยุดปั่นร่มเล่นและกางร่มออกและเดินออกจากบ้านของชิออนไป
“นายจะไปไหนซูฮาล” ชิออนถาม
“ก็ไปจากนายนะสิ” ซูฮาลหันหลังกลับมาบอกกับชิออน ซึ่งตอนนี้ชิออนกำลังทำหน้างงกับพฤติกรรมที่เย็นชาของซูฮาล … เมื่อซูฮาลเห็นหน้าสงสัยของชิออนจึงพูดต่อ
“ผมเคยคิดว่านายจะต่างจากคนอื่นนะ แต่แล้วนายก็ไม่ต่างไปจากคนเหล่านั้นเลย นายคิดเพียงแค่ว่า ถ้านายไปล้างแค้นแล้วทุกอย่างจะยุติงั้นหรอ? นายคิดอย่างนั้นจริงๆหรอ? ถ้านายฆ่าท่านเจ้าเมืองแล้วยังไงต่อ? ครอบครัวของนายจะฟื้นกลับคืนมา? หรือนายจะมีชีวิตที่ดีขึ้น? นายลืมอะไรไปหรือเปล่าชิออน คิดทบทวนให้ดีๆนะ ผมจะไม่ห้ามการกระทำของนาย แต่มีหนึ่งอย่างที่นายควรจะจดจำเอาไว้ ถึงแม้ว่าโลกใบนี้จะมีกฎหมายหากแต่เมื่อกฏหมายทำอะไรคนเหล่านั้นไม่ได้ สุดท้ายวันหนึ่งสิ่งที่เรียกว่า ซาคิ (กรรม) จะตามมาเอาคืนคนพวกนั้นเอง” แล้วซูฮานก็เดินออกจากบ้านของชิออนไป ชิออนยืนนิ่งงันและตอบคำถามทุกข้อของซูฮาลในใจแต่เพียงผู้เดียวตามลำพัง แต่แล้วเขาก็ได้ยินเสียงซีนาดังขึ้นมาในหัว
“หนูขอให้พี่มีความสุขกับโลกนี้ต่อไปนะคะ” ชิออนขว้าถุงผ้าและวิ่งตามซูฮานออกไป
กริ้ง กริ้ง เสียงกระดิ่งของซูฮานไม่ได้ทำให้จิตใจเขาสงบลงได้เลย
“เฮ้อ ! สงสัยเราจะพูดแรงเกินไป และดันทำตัวเป็นพระเอกเดินมาดแมนเปิดประตูออกจากบ้านมาโดยทิ้งคำพูดจ้าบๆไว้ อุตส่าห์นึกภาพความเท่ของตัวเองเอาไว้ซะอย่างสวยงาม…แต่ถ้าต้องมาเดินทางแล้วไม่มีใครหาอะไรให้กินแบบนี้ … มันรู้สึกน่าเศร้าเยี่ยงงงงง…” ซูฮาลบ่นคอตกแต่ยังไม่ทันได้พูดคำสุดท้ายออกไปเขาก็ได้ยินเสียงเรียกของใครบางคนที่ฟังแล้วคุ้นๆหูชอบกล
“ซูฮาล !”
“นัก … ฮะ?! นั่นมันเสียงคุณชิออนนี่หว่า ” ซูฮาลพูดกับตัวเองเบาๆ
ตึก ตึก ! เสียงวิ่งของชิออนมาใกล้ๆเขาและหยุดลง
“ซูฮาล”
แฮ่ก แฮ่ก เสียงหอบเหนื่อยของชิออนบวกกับเสียงเรียกของเขาทำให้ซูฮาลหยุดเดิน
“เอ่อ ฉันขอโทษที่ลืมคำพูดของซีนาไป” ซูฮาลยิ้มกริ่มในใจก่อนจะหันไปหาชิออนที่ตอนนี้เขายืนเหนื่อยจนตัวหอบโยน (จะไม่เหนื่อยได้ไงก็ชิออนเล่นวิ่งมาซะตลอดระยะทาง และอีกอย่างซูฮาลเป็นคนเดินเท้าเร็วมาก)
แปะ ! ซูฮาลเอามือไปทาบกับหัวของชิออนและตบเบาๆ
“ไม่เป็นไร ผมรู้ว่านายต้องไม่ทำอย่างนั้น” ซูฮาลยิ้ม เอาละเจ้าชิออนเอ๋ย หลงคารมข้าซะเถอะ โฮะๆ ความจริงแล้วเขาก็ไม่ได้เป็นคนที่จะมาสงสารหรือเห็นใจใครหรอก แค่ลำพังนี่ก็จะไม่รอดอยู่แล้ว …แต่สำหรับชิออนเป็นข้อยกเว้นไว้สำหรับกรณีพิเศษเพราะเจ้านี่ไม่เหมือนใคร
“อืม ! ขอบคุณนะ ! แล้วนายจะไปไหนต่อหรอ” ชิออนยิ้มขอบคุณให้ซูฮาลอย่างจริงใจ ก่อนจะถามถึงเส้นทางที่ซูฮาลกำลังจะไปต่อ
“ผมจะกลับศูนย์กลางของโลกนะ อ่อ หมายถึงมหานาครซาจิเนียร์ ส่วนเรื่องอื่นๆค่อยว่ากันอีกที” ทันทีชิออนได้ยินว่าซูฮาลเคยมาจากซาจิเนียร์ ซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางของโลก หรือเรียกได้ว่าเป็นเมืองหลวงของชนเผ่ามนุษย์ เทพ และปีศาจเลยก็ว่าได้ เพราะที่นั่นเป็นที่แห่งเดียวที่รวมทั้งสามชนเผ่าไว้ด้วยกันได้โดยไม่มีปัญหา ยิ่งรู้ว่าซูฮาลมาจากที่นั่นเขาก็ยิ่งตื่นเต้นกับการเดินทางของซูฮาลเข้าไปใหญ่
“นายจะไปซาจิเนียร์หรอ” ชิออนถามด้วยใบหน้าตื่นเต้น
“อืม ใช่แล้วววว” ซูฮาลทำเสียงสูงก่อนจะหมุนร่มกระดาษสาไปมา เพราะเป็นพฤติกรรมที่ติดเป็นนิสัย
“ผมถามอะไรหน่อยสิ” ชิออนถามซูฮาลด้วยใบหน้าจริงจัง
“คร้าบ ถามมาได้หมดเลย” ซูฮาลส่งยิ้มให้ชิออน
“นายเป็นใครกันแน่” ที่ชิออนถามเช่นนี้เพราะเขาสงสัยมาตั้งแต่แรกแล้วว่าซูฮาลไม่ใช่แค่นักเดินทางธรรมดาแน่ๆ และที่สำคัญชุดของซูฮาลไม่ใช่แบบของนักเดินทางเลย
“ผมเป็นนักเดินทาง” ซูฮาลบอกชิออน แต่ใบหน้าของชิออนก็แสดงออกมาว่า “อย่ามาเนียน เพราะเอ็งไม่เหมือนนักเดินทางสักติ้ด!”
“และเป็นนักบวช …และก็เป็นลูกครึ่งเทพกับมนุษย์ (มั้ง)” ซูฮาลบอกออกไปตามตรงยกเว้นคำว่ามั้งเอาไว้ ไอ้ที่ว่าเขาเป็นนักเดินทางมันก็ถูก เป็นนักบวชมันก็ใช่ ส่วนเป็นลูกครึ่งเทพมนุษย์เขาไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่ เพราะได้ยินจากคนอื่นมา … แปลกไหมละชาติกำเนิดของตัวเองแท้ๆกลับได้ยินจากคนอื่น ส่วนเรื่องอื่นๆเขาจำไม่ได้เลย อันไหนที่เขารู้เกี่ยวกับตัวเองเขาก็พร้อมบอกชิออนโดยไม่ปิดบังแน่นอน
ชิออนที่ฟังน้ำเสียงของซูฮาลเขาก็เชื่อว่าคนตรงหน้าไม่โกหกเขาแน่ ถึงแม้ว่าคนตรงหน้าเขาจะไม่ได้หันหน้ามาคุยกลับเขาก็เถอะแต่ความรู้สึกเขาเชื่อมั่นแบบนั้น
“งั้นผมขอถามมั่งสิ นายเป็นใครกันแน่งั้นหรอ?” ส่วนเรื่องของชิออน ซูฮาลเองก็สงสัยไม่น้อยไม่เหมือนกัน เด็กหนุ่มธรรมดาคงไม่มีทางรู้ถึงการสัญญาเปลี่ยนพลังเวทย์กับปีศาจแน่ๆรวมถึงการเรียกดาบให้ออกมาจากมิตินั่นอีก
“นายสงสัยผม เรื่องที่ผมใช้ดาบ hollow blade ใช่ไหม?” ซูฮาลพยักหน้า ก่อนจะเดินมายืนข้างชิออน ซึ่งนั่นก็ทำให้ชิออนรู้ว่าเด็กหนุ่มข้างๆ สูงเพียงแค่หน้าอกเขาเอง…
' เตี้ยจริงแหะ ' ชิออนคิดในใจ
“อืม คนปกติไม่มีทางเรียกดาบออกมาจากมิติได้หรอก” ซูฮาลบอกข้อสงสัยให้กับชิออน
“อ่อ ผมไม่ได้เรียกออกมาจากมิติหรอก แต่เรียกออกมาจากสร้อยนี่ต่างหากละ” ชิออนถอดสร้อยที่คอของตัวเองก่อนจะส่งให้ซูฮาล ซูฮาลที่ได้รับสร้อยมาเขาก็พิจารณาดู สร้อยเส้นเล็กกับจี้รูปดาบที่ดูเหมือนจะทำมาจากแร่หายากอันดับสองของโลก แร่จากชนเผ่าปีศาจ ดาร์กเกอร์สโตน ซูฮาลหมุนจี้รูปดาบไปรอบๆก่อนจะจะเห็นคำว่า Hollow Blade สลักอยู่
“นายเห็นชื่อที่จี้นั่นใช่ไหม ตอนผมลองเปล่งเสียงเรียกชื่อนั้นออกมา เจ้าดาบสีดำนั่นมันก็โผล่มาที่มือของผม...แบบบังเอิญนะ ”
“แล้วเรื่องทำพันธสัญญากับปีศาจละ” ซูฮาลคืนสร้อยให้กับชิออนไป
“หืม? ทำพันธสัญญากับปีศาจ? นายกำลังพูดเรื่องอะไรงั้นหรอ?” ชิออนถามด้วยความสงสัย … ซูฮาลที่เห็นปฏิกริยาของชิออนแล้วจึงรู้ว่า เขาไม่ได้แสร้งทำเป็นไม่รู้แน่ๆ …
‘สงสัยตอนนั้นพลังความมืดที่ไหลออกมาจากเจ้าปีศาจดาร์กโตเกอร์มันเข้ามาควบคุมจิตใจละมั้ง’ ซูฮาลวิเคราะห์ในใจก่อนจะส่ายหน้า
“อ่อ ผมมึนๆนะสงสัยหิวแล้วละมั้ง เลยถามอะไรเพ้อเจ้อออกไป แหะๆ” ไอ้เรื่องมึนๆนะ ซูฮาลโกหกแต่ไอ้เรื่องหิวนั่นนะของจริง
“อะนี่ ซีนาทำขนมปังอบเก็บไว้…” ชิออนมองดูขนมปังที่ซีนาอบทิ้งไว้ให้เขาเป็นมื้อสุดท้ายและเขาก็ตัดสินใจยื่นขนมปังนั้นให้ซูฮาล ...
“ขอบคุณครับ” ซูฮาลขว้าขนมปังของชิออนมาหน้าตาเฉยก่อนจะกินมันเข้าไป
ง่ำ ! ง่ำ ! เสียงกินขนมปังของซูฮาลทำให้ชิออนหลุดขำออกมา เพราะยังไงซะคนตรงหน้าเขาก็คือเด็กอยู่ดีนั่นละ ถึงจะมีลักษณะที่ไม่ค่อยจะเหมือนเด็กเท่าไรก็เถอะ
เอิ้กกกกก เสียงเรอซูฮาน
พับ พับ ! ซูฮานตบไปที่ท้องของตัวเองเบาๆ ก่อนจะหันไปยิ้มให้ชิออน ทันใดนั้นก็เกิดวงแหวนเวทย์สีขาวใต้ขาของทั้งสอง จากนั้นทั้งซูฮาลและชิออนจึงหายตัวไปจากป่าของหมู่บ้านฟิงเกอร์ ทิ้งไว้เพียงรอยเท้าของทั้งสอง … ที่เคยเดินผ่านมา
ความคิดเห็น