ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : การเดินทางเเละการเรียนรู้
              วันเวลาได้ผ่านไป ณ โรงเตี๊ยมเเห่งหนึ่งในเมืองตงหยง  ซึ่งบุตรมังกรได้มาอยู่ที่นั่นนานเเล้ว ตอนนี้เขาไม่ใช่เด็กอายุ 6 ขวบอีกต่อไปเเล้ว  มีเเต่ชายหนุ่มอายุ 17 คนหนึ่งซึ่งกำลังง่วนอยู่กับการเช็ดกระบี่ที่เปื้อนเลือดอยู่  ซึ่งเขาคนนั้นก็คือบุตรมังกรนั่นเอง เเละเขาได้ผ่านศึกสงครามมาหลายครั้งจนสามารถตะลุยยุทธภพได้ด้วยทวนเพียงเล่มเดียว เเละตอนนี้บุตรมังกรก็ละมือจากกระบี่เปื้อนเลือดเล่มนั้นเเละล้มตัวลงนอน
    “ผ่านไป 11 ปีเเล้วสินะ ยังไม่ได้ข่าวเจ้านั่นเลย” บุตรมังกรรำพึงพลางคลำไปที่ผ้าที่ผูกที่คอ
    การเดินทางครั้งยิ่งใหญ่ครั้งนี้เขาจะมุ่งไปเมืองซินเอี๋ยเพื่อเขาจะได้ไปพึ่งใบบุญของพระเจ้าอาเล่า ซึ่งตอนนี้เขาเดินทางได้เกือบถึงเมืองซินเอี๋ยเเล้ว ก่อนออกจากเสียงสานมา อาเจียงได้รับปากว่าจะสืบเรื่องพ่อของเขาให้  รุ่งขึ้นเขาได้ออกจากโรงเตี๊ยมเเห่งนั้น ขึ้นม้าขาวคู่ใจขี่มุ่งไปทางเมืองซินเอี๋ย เเละขณะนั้นกองกำลังของหวังโฮ้วหู่ก็เข้าตีเมืองตงหยง เสียงตะโกนของชาวบ้านเเละทหารรักษาการทำให้บุตรมังกรหยุดม้าอยู่ ณ เนินเขาลูกหนึ่งซึ่งสามารถมองเห็นเมืองได้ทั่วเเละคอยฟังสัญญาณกลองรบ
    “มาเเล้วสินะ ..กองกำลังของหวังโฮ้วหู่น่ะ” บุตรมังกรพูดพลางจ้องไปที่ผู้นำกองทัพนั้นซึ่งก็คือหวังโฮ้วหู่นั่นเอง
    หน่วยโฮ้วป่าของหวังโฮ้วหู่ฆ่าทหารรักษาการไปมาก กองกำลังเสริมของพระเจ้าอาได้เข้ามาทางประตูทิศใต้ เเละตอนนี้บุตรมังกรได้มองเห็นพระเจ้าอาเเล้ว
    “นะ นั่น พระเจ้าอานี่ เราต้องไปช่วยเเล้ว” บุตรมังกรอุทานอย่างตกใจเเล้วคว้าทวนที่วางพิงต้นไม้เอาไว้ กระโดดขึ้นม้าควบลงจากเนินเขาไป
    “เราต้องไม่ให้พระเจ้าอาเป็นอะไรเป็นอันขาด” บุตรมังกรคิดพลางควบม้าฝ่ากองทัพพระเจ้าอาไปทางประตูเหนือ
    “เฮ้ย!! เจ้า ”  พระเจ้าอาพูดอย่างตกใจเมื่อเห็นบุตรมังกรควบม้าฝ่ากลางกองทัพไป
    “ผู้ใดคือหวังโฮ้วหู่!!!” บุตรมังกรตะโกนเมื่อเห็นกองทัพใหญ่
    “มันเป็นใครกัน?”  หวังโฮ้วหู่ถามสมุนมือขวาของเขา
    “ไม่รู้ ฆ่ามันเลยดีมั้ย นายท่าน”  สมุนตอบ
    “ดี”  หวังโฮ้วหู่ว่า
    “ข้าคือหวังโฮ้วหู่ ข้าจะรับคำท้าของเจ้า”  หวังโฮ้วหู่ตอบเเล้วชักม้าออกไป ทั้งสองปะทะกันด้วยเพลงทวนอันรวดเร็วจนเกิดประกายไฟทุกครั้งที่ทวนปะทะกัน พระเจ้าอามองทั้งสองอย่างพิศวงงงงวย
    “ยอดสมิงเเท้ๆ”  พระเจ้าอาเผลออุทานออกมา
    ฝ่ายบุตรมังกรที่กำลังต่อสู้กับหวังโฮ้วหู่อย่างดุเดือด ซึ่งบัดนี้ท้องฟ้าก็เริ่มมืดเเล้ว การรบล่วงเข้าเพลงที่ 125 หวังโฮ้วหู่เเละบุตรมังกรได้พักเปลี่ยนม้า ซึ่งพระเจ้าอาได้เห็นบุตรมังกรชัดๆเเละพระเจ้าอาก็ต้องพิศวงอีกครั้งเมื่อได้เห็นหน้าอันหนุ่มอ่อนของบุตรมังกร เเต่เมื่อมองเข้าไปในตาของเขาเเววตานั้นช่างกล้าหาญเด็ดเดี่ยวเหมือนกับว่าจะเคยเห็นที่ไหนมาก่อน พระเจ้าอาจะเอ่ยปากถามชื่อของเขา เเต่ว่าบุตรมังกรรีบเเต่งตัวให้ทะมัดทะแมงตามเดิมเเล้วควบม้าไปทางหน้าค่าย  พระเจ้าอาจึงรีบตามเขาไป
    “เจ้าจะไปไหน”  พระเจ้าอาถาม
    “อะไรเป็นสิ่งที่รบกวนใจท่านหรือ?” บุตรมังกรถามต่อ
    “ข้าอยากรู้ว่าเจ้าเป็นใคร”  พระเจ้าอาถามอีก
    “ข้าไม่ใช่ใครที่ไหนหรอก เเค่ทหารปลายเเถวเท่านั้น” บุตรมังกรตอบอย่างถ่อมตัว
    “ข้าไม่เชื่อหรอก เจ้าเก่งออกอย่างนั้น”  พระเจ้าอาเเย้ง
    “ข้าก็ไม่เชื่อเหมือนกันว่าท่านรบไม่เป็น” บุตรมังกรว่า
    “นั่นสิ เจ้ามันคนฉลาดนี่”  พระเจ้าอาพูด เเล้วทั้งสองก็หัวเราะขึ้นพร้อมกัน
    “นี่เจ้าหนุ่ม เจ้าจะเข้าประชุมเเม่ทัพด้วยหรือไม่”  พระเจ้าอาถาม
    “ถ้าท่านอนุญาต ข้าก็ไปได้” บุตรมังกรตอบ
    ณ ที่ประชุมเเม่ทัพวันนั้น เหล่าเเม่ทัพของพระเจ้าอาต่างพูดคุยกันถึงฝีมือของหวังโฮ้วหู่เเละความเก่งของเด็กหนุ่มคนนั้นซึ่งก็คือบุตรมังกร พอพระเจ้าอาเเละบุตรมังกรเข้ามา ทุกสายตาต่างจ้องมาที่บุตรมังกร
    “เจ้า! ”  เเม่ทัพคนหนึ่งอุทานขึ้น
    “ใช่เเล้วล่ะ เด็กหนุ่มคนนี้คือคนที่ต่อสู้กับหวังโฮ้วหู่เมื่อตอนเช้าไงล่ะ”  พระเจ้าอาว่า
    “คนนี้น่ะหรือ”  เเม่ทัพอีกคนว่า
    “โอ้ ไม่น่าเชื่อ”  เเม่ทัพอีกคนหนึ่งพูด
    “พวกเจ้าไม่เชื่อกันหรือ!”  พระเจ้าอาถาม
    “ใช่สิ!!!ข้าหมงไม่มีวันเชื่ออย่างเเน่นอนว่าเด็กเเค่นี้จะสู้กับหวังโฮ้วหู่ได้”  เเม่ทัพที่ชื่อหมงว่าเเล้วชักดาบออกมาปะทะกับบุตรมังกร 
    “หยุดนะ!หมง!!!”  พระเจ้าอาตะโกนอย่างตกใจ
    “เจ้าหมงมันสติเเตกไปเเล้ว!”  เเม่ทัพคนหนึ่งว่า
    “หลบเร็วเจ้าหนุ่ม”  เเม่ทัพอีกคนเตือนบุตรมังกร
    เเต่บุตรมังกรไม่ได้หลบหรือขอความช่วยเหลือจากใครทั้งสิ้น เขาเบี่ยงตัวหลบดาบที่แทงเข้ามาแล้วทุ่ม        เเม่ทัพหมงลงกับพื้น
    “โอ้ ..เจ้าหมงเเพ้ราบคาบเลย”  เเม่ทัพคนหนึ่งพูด
    “มันต้องอย่างนี้สิ เจ้าหมงคงเข็ดไปอีกนาน”  อีกคนหนึ่งสนับสนุน
    “เจ้าชื่ออะไรเจ้าหนุ่ม”  พระเจ้าอาถาม
    บุตรมังกรทำความเคารพแล้วตอบว่า
    “ข้ามีนามว่า .บุตรมังกร .”
หมายเหตุ
  นิยายเรื่องนี้เเต่งเพื่อความบันเทิง ไม่เกี่ยวข้องกับ บุคคล สถานที่ หรือประวัติศาสตร์จีนที่มีอยู่จริงเเต่อย่างใด
    “ผ่านไป 11 ปีเเล้วสินะ ยังไม่ได้ข่าวเจ้านั่นเลย” บุตรมังกรรำพึงพลางคลำไปที่ผ้าที่ผูกที่คอ
    การเดินทางครั้งยิ่งใหญ่ครั้งนี้เขาจะมุ่งไปเมืองซินเอี๋ยเพื่อเขาจะได้ไปพึ่งใบบุญของพระเจ้าอาเล่า ซึ่งตอนนี้เขาเดินทางได้เกือบถึงเมืองซินเอี๋ยเเล้ว ก่อนออกจากเสียงสานมา อาเจียงได้รับปากว่าจะสืบเรื่องพ่อของเขาให้  รุ่งขึ้นเขาได้ออกจากโรงเตี๊ยมเเห่งนั้น ขึ้นม้าขาวคู่ใจขี่มุ่งไปทางเมืองซินเอี๋ย เเละขณะนั้นกองกำลังของหวังโฮ้วหู่ก็เข้าตีเมืองตงหยง เสียงตะโกนของชาวบ้านเเละทหารรักษาการทำให้บุตรมังกรหยุดม้าอยู่ ณ เนินเขาลูกหนึ่งซึ่งสามารถมองเห็นเมืองได้ทั่วเเละคอยฟังสัญญาณกลองรบ
    “มาเเล้วสินะ ..กองกำลังของหวังโฮ้วหู่น่ะ” บุตรมังกรพูดพลางจ้องไปที่ผู้นำกองทัพนั้นซึ่งก็คือหวังโฮ้วหู่นั่นเอง
    หน่วยโฮ้วป่าของหวังโฮ้วหู่ฆ่าทหารรักษาการไปมาก กองกำลังเสริมของพระเจ้าอาได้เข้ามาทางประตูทิศใต้ เเละตอนนี้บุตรมังกรได้มองเห็นพระเจ้าอาเเล้ว
    “นะ นั่น พระเจ้าอานี่ เราต้องไปช่วยเเล้ว” บุตรมังกรอุทานอย่างตกใจเเล้วคว้าทวนที่วางพิงต้นไม้เอาไว้ กระโดดขึ้นม้าควบลงจากเนินเขาไป
    “เราต้องไม่ให้พระเจ้าอาเป็นอะไรเป็นอันขาด” บุตรมังกรคิดพลางควบม้าฝ่ากองทัพพระเจ้าอาไปทางประตูเหนือ
    “เฮ้ย!! เจ้า ”  พระเจ้าอาพูดอย่างตกใจเมื่อเห็นบุตรมังกรควบม้าฝ่ากลางกองทัพไป
    “ผู้ใดคือหวังโฮ้วหู่!!!” บุตรมังกรตะโกนเมื่อเห็นกองทัพใหญ่
    “มันเป็นใครกัน?”  หวังโฮ้วหู่ถามสมุนมือขวาของเขา
    “ไม่รู้ ฆ่ามันเลยดีมั้ย นายท่าน”  สมุนตอบ
    “ดี”  หวังโฮ้วหู่ว่า
    “ข้าคือหวังโฮ้วหู่ ข้าจะรับคำท้าของเจ้า”  หวังโฮ้วหู่ตอบเเล้วชักม้าออกไป ทั้งสองปะทะกันด้วยเพลงทวนอันรวดเร็วจนเกิดประกายไฟทุกครั้งที่ทวนปะทะกัน พระเจ้าอามองทั้งสองอย่างพิศวงงงงวย
    “ยอดสมิงเเท้ๆ”  พระเจ้าอาเผลออุทานออกมา
    ฝ่ายบุตรมังกรที่กำลังต่อสู้กับหวังโฮ้วหู่อย่างดุเดือด ซึ่งบัดนี้ท้องฟ้าก็เริ่มมืดเเล้ว การรบล่วงเข้าเพลงที่ 125 หวังโฮ้วหู่เเละบุตรมังกรได้พักเปลี่ยนม้า ซึ่งพระเจ้าอาได้เห็นบุตรมังกรชัดๆเเละพระเจ้าอาก็ต้องพิศวงอีกครั้งเมื่อได้เห็นหน้าอันหนุ่มอ่อนของบุตรมังกร เเต่เมื่อมองเข้าไปในตาของเขาเเววตานั้นช่างกล้าหาญเด็ดเดี่ยวเหมือนกับว่าจะเคยเห็นที่ไหนมาก่อน พระเจ้าอาจะเอ่ยปากถามชื่อของเขา เเต่ว่าบุตรมังกรรีบเเต่งตัวให้ทะมัดทะแมงตามเดิมเเล้วควบม้าไปทางหน้าค่าย  พระเจ้าอาจึงรีบตามเขาไป
    “เจ้าจะไปไหน”  พระเจ้าอาถาม
    “อะไรเป็นสิ่งที่รบกวนใจท่านหรือ?” บุตรมังกรถามต่อ
    “ข้าอยากรู้ว่าเจ้าเป็นใคร”  พระเจ้าอาถามอีก
    “ข้าไม่ใช่ใครที่ไหนหรอก เเค่ทหารปลายเเถวเท่านั้น” บุตรมังกรตอบอย่างถ่อมตัว
    “ข้าไม่เชื่อหรอก เจ้าเก่งออกอย่างนั้น”  พระเจ้าอาเเย้ง
    “ข้าก็ไม่เชื่อเหมือนกันว่าท่านรบไม่เป็น” บุตรมังกรว่า
    “นั่นสิ เจ้ามันคนฉลาดนี่”  พระเจ้าอาพูด เเล้วทั้งสองก็หัวเราะขึ้นพร้อมกัน
    “นี่เจ้าหนุ่ม เจ้าจะเข้าประชุมเเม่ทัพด้วยหรือไม่”  พระเจ้าอาถาม
    “ถ้าท่านอนุญาต ข้าก็ไปได้” บุตรมังกรตอบ
    ณ ที่ประชุมเเม่ทัพวันนั้น เหล่าเเม่ทัพของพระเจ้าอาต่างพูดคุยกันถึงฝีมือของหวังโฮ้วหู่เเละความเก่งของเด็กหนุ่มคนนั้นซึ่งก็คือบุตรมังกร พอพระเจ้าอาเเละบุตรมังกรเข้ามา ทุกสายตาต่างจ้องมาที่บุตรมังกร
    “เจ้า! ”  เเม่ทัพคนหนึ่งอุทานขึ้น
    “ใช่เเล้วล่ะ เด็กหนุ่มคนนี้คือคนที่ต่อสู้กับหวังโฮ้วหู่เมื่อตอนเช้าไงล่ะ”  พระเจ้าอาว่า
    “คนนี้น่ะหรือ”  เเม่ทัพอีกคนว่า
    “โอ้ ไม่น่าเชื่อ”  เเม่ทัพอีกคนหนึ่งพูด
    “พวกเจ้าไม่เชื่อกันหรือ!”  พระเจ้าอาถาม
    “ใช่สิ!!!ข้าหมงไม่มีวันเชื่ออย่างเเน่นอนว่าเด็กเเค่นี้จะสู้กับหวังโฮ้วหู่ได้”  เเม่ทัพที่ชื่อหมงว่าเเล้วชักดาบออกมาปะทะกับบุตรมังกร 
    “หยุดนะ!หมง!!!”  พระเจ้าอาตะโกนอย่างตกใจ
    “เจ้าหมงมันสติเเตกไปเเล้ว!”  เเม่ทัพคนหนึ่งว่า
    “หลบเร็วเจ้าหนุ่ม”  เเม่ทัพอีกคนเตือนบุตรมังกร
    เเต่บุตรมังกรไม่ได้หลบหรือขอความช่วยเหลือจากใครทั้งสิ้น เขาเบี่ยงตัวหลบดาบที่แทงเข้ามาแล้วทุ่ม        เเม่ทัพหมงลงกับพื้น
    “โอ้ ..เจ้าหมงเเพ้ราบคาบเลย”  เเม่ทัพคนหนึ่งพูด
    “มันต้องอย่างนี้สิ เจ้าหมงคงเข็ดไปอีกนาน”  อีกคนหนึ่งสนับสนุน
    “เจ้าชื่ออะไรเจ้าหนุ่ม”  พระเจ้าอาถาม
    บุตรมังกรทำความเคารพแล้วตอบว่า
    “ข้ามีนามว่า .บุตรมังกร .”
หมายเหตุ
  นิยายเรื่องนี้เเต่งเพื่อความบันเทิง ไม่เกี่ยวข้องกับ บุคคล สถานที่ หรือประวัติศาสตร์จีนที่มีอยู่จริงเเต่อย่างใด
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น